จาก parkorn
อังคารที่ , 25/8/2552
เวลา : 10:44
อ่าน = 2621
124.120.191.35
|
สายน้ำแห่งมังกร เมืองแปดริ้ว
จังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ห่างจากรุงเทพฯ เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เป็นจังหวัดหนึ่งที่หลายคนมองว่าเป็น เมืองเล็กๆ อยู่ชานเมืองหลวง แต่หลายคนนั้นก็ต้องเดินทางมาที่จังหวัดนี้ เพื่อนมัสการพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมือง หลวงพ่อพุทธโสธร ณ. วัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา
ด้วยจังหวัดนี้มีแม่น้ำสายหลักหล่อเลี้ยงชีวิตมาแต่ดั้งเดิม ในอดีตการดำเนินชีวิตตลอดสองฟากฝั่งลำน้ำทั้งการค้าขาย การเกษตรกรรม การประมงมีให้เห็นเป็นระยะๆ อยู่ตลอดลำน้ำ แม่น้ำบางปะกง คือชื่อเรียกของสายน้ำแห่งนี้ ซึ่งเล่ากันสืบต่อมาว่าเป็นแหล่งชุกชุมของปลาอีกง จึงเรียกขานกันว่า บางปลาอีกง และที่สุดก็เพี้ยนเสียง มาเป็น บางปะกง จวบจนปัจจุบัน
ต้นกำเนิดของแม่น้ำบางปะกง เริ่มต้นจากการรวมตัวของแม่น้ำ 2 สาย คือแม่น้ำปราจีนบุรี และแม่น้ำนครนายก ที่ ตำบลบางแตน จังหวัดปราจีนบุรี รวมระยะทางตามสายน้ำราว 122 กิโลเมตร จนถึงปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
เหตุใดแม่น้ำสายนี้จึงมีชื่อว่า สายน้ำแห่งมังกร ของ เมืองแปดริ้ว นั่นก็คงเป็นชื่อเรียกขานตามการสันนิษฐานที่เกิดขึ้น เนื่องด้วยหลายๆ เหตุผล แต่ด้วยลักษณะทางกายภาพของสายน้ำแห่งนี้ที่มีความคดโค้งไปมาดุจดั่ง พญามังกร พาดผ่านเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งพืชพันธุ์ ธัญญาหาร ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ
กอปรกับการวางตำแหน่งตามหลักฮวงจุ้ยของคณาจารย์จีนวังส์สมาธิวัตร (สกเห็ง) ปฐมบูรพาจารย์ผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่นับถือของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นอย่างมาก ท่านได้พระราชทานที่ดินให้สร้างวัดจีนแห่งหนึ่งขึ้นบริเวณเยาวราช ซึ่งก็คือ วัดเล่งเน่ยยี่ หรือ วัดมังกรกมลาวาส ในปัจจุบัน และตำแหน่งนี้เปรียบได้เป็น ตำแหน่งหัวมังกร โดยกำหนด ตำแหน่งท้องมังกร ไว้ที่ วัดเล่งฮกยี่ จังหวัดฉะเชิงเทรา (พ.ศ. 2450 พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาส แล้วได้พระราชทานนามว่า วัดจีนประชาสโมสร ) สำหรับ ตำแหน่งหางมังกร อยู่ที่ วัดเล่งฮัวยี่ หรือ วัดมังกรบุปผาราม จังหวัดจันทบุรี หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าตำแหน่งต่างๆ ที่พระอาจารย์สกเห็งท่านได้วางไว้นั้น เป็นตำแหน่งของความอุดมสมบูรณ์ทั้ง ทรัพย์สิน เงินทอง การค้าขาย และความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในบริเวณนั้นอย่างมีความสุข ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการผสมผสานความเชื่อ ตำนาน เรื่องเล่า และประวัติศาสตร์ของสถานที่สำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำบางปะกง ด้วยความสอดคล้องกันอย่างมีเหตุผล
สายน้ำแห่งมังกร จึงเกิดเป็นชื่อเรียกขานที่บ่งบอกถึงความเชื่อของความศักดิ์สิทธิ์แห่งสายน้ำนี้โดยมี มังกรตัวเล็ก พาดอยู่ตามลำน้ำบางปะกง ตำแหน่งหัวมังกร อยู่บริเวณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อพุทธโสธร อันศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพ นับถือของชาวไทย ทั่วประเทศ
ตำแหน่งท้องมังกร อยู่ตำแหน่งเดิมที่ วัดเล่งฮกยี่ (วัดจีนประชาสโมสร) ซึ่งภายในวัดนั้นมีสิ่งน่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย องค์พระประธาน และ 18 อรหันต์ ที่เป็นประติมากรรมโบราณ ทำจากกระดาษ อายุกว่า 100 ปี (ลักษณะเปเปอร์ - มาเช่) ภูมิปัญญาชาวจีนจากเมืองเซี่ยงไฮ้ เทพเจ้าไฉ้เซ่งเอี้ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) , ระฆังศักดิ์สิทธิ์ใบใหญ่ หนึ่งในสามใบในโลก และ พระสำเร็จ ร่างสังขารเจ้าอาวาสที่มรณภาพแล้วไม่เน่าเปื่อย
ตำแหน่งหางมังกร คือตำแหน่งที่พระเจ้าตากสินได้เดินทัพผ่านสู่เมืองจันทบุรี เพื่อระดมไพร่พลในการกู้กรุงศรีอยุธยา และเมื่อเดินทัพถึงบริเวณปากน้ำโจ้โล้ จึงได้เจอทัพพม่าซุ่มโจมตี และสู้รบกันจนได้รับชัยชนะ จึงได้สั่งให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นบริเวณแห่งนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ และพักทัพ ณ บริเวณวัดโพธิ์ บางคล้า (สถานที่ชมค้างคาวแม่ไก่)
บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบ พระราชพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำน้ำไปใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งแม่น้ำบางปะกงเป็นหนึ่งใน เบญจสุทธคงคา (คือแม่น้ำสายสำคัญ 5 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำราชบุรี แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำบางปะกง เปรียบเสมือน ปัญจมหานที ของประเทศอินเดีย คือ คงคา ยมนา เนรัญชรา สินธุ และพรหมบุตร) ที่ได้ตักน้ำไปทำพิธีเสกเป็น น้ำอภิเษก จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของที่มาแห่งสายน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้
การเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางสายน้ำแห่งมังกร จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสัมผัสธรรมชาติ สืบสานวัฒนธรรมในเส้นทาง สายน้ำแห่งชีวิต สายน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรม

|