WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ห้องเงียบๆอ่านนิยายกันดีกว่า "ทหารรับจ้างเดนตาย"
phumjai
จาก PhumJai
IP:171.6.106.138

จันทร์ที่ , 17/6/2556
เวลา : 18:33

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ทหารรับจ้างเดนตาย เรื่องของทหารรับจ้างชาวไทย ในสมรภูมิลาว งานเขียนของสยุมภู ทศพล

ที่มา : THAIAIRSOFTGUN






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 4 จาก >>> 1  2  3  4  

คำตอบที่ 91
       เรื่องดับรามสูร นวนิยายยอดฮิต จาก ไทยรัฐ โดย สยุมภู ทศพล

ขอขอบคุณและขออนุญาติเผยแพร่หนังสือดีๆไม่ให้หายสาปสูญไป ขอขอบคุณ คุณ สยุมภู ทศพล

ผมขอขอบคุณร้าน สุหนังสือเก่า http://www.su-usedbook.com/ ที่ให้ยืมหนังสือเรื่องนี้ด้วยนะครับ

ดับรามสูร เล่มที่ 1 ตอนที่ 22

ร่างของ " เต๋า-โบว์ลิ่ง" โดนหามกระร่องกระแร่งลงจากรถ แล้วถูกโยนโครมลงไปบนรถเข็นชนิดสามล้อ ที่จอดอยู่หน้าโรงเก็บรถนั่นเอง

ต่อจากนั้นสองคนในกลุ่มก็ผละเดินมุ่งหน้าเข้าไปยังเรือนพักคนงาน ซึ่งมองเห็นทะมึนอยู่เกือบจะชิดขอบรั้วด้านในสุดของโกดังข้าวสาร "ย่งเส็ง" ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลนั้น

ส่วนอีกคนเข็นรถอ้อมไปอีกด้านหนึ่ง...ชั่วอึดใจใหญ่ ๆ ต่อมาก็หายลับเข้าไปในช่องประตูโกดังข้าวสารที่เปิดหราอยู่นั้น

โกดังข้าวสารถูกสร้างขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬาร พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของโกดังแน่นเอียดไปด้วยกระสอบข้าวสารนับพัน ๆ กระสอบ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งถูกแบ่งออกเป็นห้องหับเรียงรายเหมือนกับสำนักงานธุรกิจไม่มีผิด

ยามรักษาการณ์สองคนที่ยืนอยู่ด้านในของประตูชะโงกหน้าลงไปมองดูร่างไอ้เต๋า แล้วไม่พูดอะไรนอกจากพยักหน้า เหมือนกับจะเป็นสัญญาณให้ผ่านเข้าไปได้...

ร่างของไอ้เต๋าถูกเข็นผ่านกองกระสอบข้าวสารไปยังห้องด้านในสุด แล้วถูกโยนโครมเข้าไปนอนฟุบอยู่กลางห้องนั้น...

ไอ้เต๋าเริ่มได้สติ มันสลัดศีรษะด้วยความมึนงงอยู่ครู่งหนึ่งก็เอื้อมมือไปจับท้ายทอย แล้วค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นมานั่งอย่างลำบากยากเย็น

" - โดนอะไรมา...เพื่อน "

สำเนียงพูดแปร่ง ๆ เหมือนกับแขกพูดไทย ดังอยู่ที่มุมห้อง ไอ้เต๋าเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นบังหมุด ครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่กับผนังห้อง...ข้อมือและข้อเท้าโดนมัดติดกันใบหน้าและริมฝีปากบวมเจ่อ บางส่วนแตกปริมีเลือดซึมออกมามองเห็นถนัดตา

ไอ้เต๋ายังไม่ทันจะพูด ประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง...

พร้อม ๆ กับมีใบหน้าของยามรักษาการณ์คงนีงโผล่เข้ามาดู เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ มันก็กระแทกประตูห้องปิดดังโครมใหญ่ แล้วมีเสียงลั่นกุญแจดังกริ๊ก

" - พรรคพวกของลื้อถามหาตัวลื้อให้ควั่กไปหมดมันเรื่องอะไรกันนักหนาวะไอ้บัง "

ไอ้เต๋าพูดพลางขยับเข้าไปใกล้ ๆ มือทั้งสองเอื้อมไปที่ข้อเท้าทำกริยาเสมือนหนึ่งจะช่วยแก้เชือกให้

บังหมุดขยับเท้าหนี สายตาจ้องหน้าไอ้เต๋าเขม็งแล้วค่อยเอ่ยถามห้วน ๆ

" - ลื้อยังไม่ได้ตอบอั๊ว...ลื้อเป็นใคร ทำไมถึงโดนจับมาที่นี่ "

" - อั๊วเป็นเพื่อนของไอ้โล้น และไอ้แสบ อั๊วถูกดึงเข้าไปร่วมมือในการสืบหาลื้อ...บังหมุด...ก่อนอั๊วจะถูกซิวมานี่เกิดเรื่องยิงกันเกือบตาย ที่หน้าร้านไอ้ "อ้วน-ราม่า" ...ไอ้ห่ เสียที่ผู้หญิงด๊าย "

ประโยคสุดท้าย ไอ้เต๋าบ่นพึมพำเหมือนกับจะพูดกับตัวเอง...

ต่อจากนั้น ไอ้เต๋าก็อธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง จนกระทั่งบังหมุดหายเคลือบแคลงใจ

" - เต๋า...ลื้อพอจะเดาออกมั้ยว่า ห้องที่ขังเราอยู่นี่ตั้งอยู่บริเวณไหนของเมืองโคราช "

บังหมุดเอ่ยถามขึ้นมาอีก

" - จนปัญญาว่ะ อีตอนเข้ามานี่อั๊วโดนแพ่นกบาลจนสลบ มาฟื้นอีกที่ก็ห้องนี่แหละ แล้วก็ห้องทึบ ๆ ไม่มีหน้าต่าง พอที่จะอาศัยดูภูมิประเทศด้านนอกแบบนี้ อั๊วเดาไม่ออกจริง ๆ เฮ้ย พวกไหนวะที่จับเรามา "

ประโยคสุดท้าย ไอ้เต๋าลดเสียงกระซิบถามเบา ๆ

" - ญวนทั้งนั้น...เดี๋ยวอั๊วขอถามอีกนิด อีตอนลื้อขึ้นไปบนโรงแรม ลื้อถอดรองเท้าเอาไว้นอกห้องหรือว่าในห้อง "

บังหมุดย้อนถามกลับมาอีก

" - คราวแรกอั๊วถอดวางเอาไว้ในห้อง แต่ไอ้โล้นหิ้วรองเท้าอั๊วโยนออกไปข้างนอก ลื้อถามทำไมวะ "

บังหมุดไม่ตอบ แต่ประกายดวงตาฉายแสงแห่งความหวังขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่ก็เป็นชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นชั่วอึดใจต่อมา บังหมุดก็สงบกริยาท่าทีนั่งนิ่งซึมกระทือเหมือนเดิม แต่ทว่าสายตาชำเลืองไปที่รองเท้าของไอ้เต๋าพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความเคลือบแคลงใจ

มีเสียงกุญแจถูกไขดังกริ๊ก...ไอ้เต๋าคลานเร็วจี๋กลับไปนอนอยู่กลางห้อง ณ ตำแหน่งเดิม พอประตูเปิดไอ้เต๋าก็หรี่ตามอง เห็นสาวลูกผสมเดินนำหน้าสมุนเข้ามา 3 คน และคนที่เดินอยู่รั้งท้ายก็คือ ยามรักษาการณ์ที่โผล่หน้าเข้ามาดูตอนแรกนั่นเอง

" - ปลุกมันให้ฟื้นขึ้นมา..."

สาวลูกผสมเอ่ยขึ้นอย่างห้วน ๆ

" - มันฟื้นแล้วครับ...นาย...เมื่อตอนแรกผมเข้ามาดูเห็นมันสองคนที่นั่งคุยกันอยู่...ไอ้หอกนี่ลูกไม้จัดนัก...ผมจัดการเอง"

ยามรักษาการณ์พูดพลางปราดเข้ามาหาไอ้เต๋าอย่างรวดเร็ว...

ไอ้เต๋าเหมือนกับนกรู้ มันกระโจนพรวดเดียวลุกขึ้นมานั่งตาแป๋ว แถมพนมมือยกขึ้นไหว้สาวลูกผสม พร้อมกับพูดอ่อย ๆ

" - ปล่อยผมไปเถอะครับ...ผมไม่รู้เรื่องอะไรจริง ๆ...ผม...ผม...หิว...หิว..."

ยังไม่ทันจะจบประโยคสุดท้าย ไอ้เต๋าก็ม้วนตัวลงกับพื้น...มือทั้งคู่เกร็งแน่น กระเสือกกระสนไถลร่างร้องครวญครางขึ้นมาในบัดดล

สาวลูกผสมใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบท้องของไอ้เต๋า...ปากก็สำทับอย่างเฉียบขาด

" - กูรู้ว่ามึงกำลังจะลงแดงตาย...ถ้ามึงตอบในสิ่งที่กูอยากรู้...กูจะให้มึงสูบอย่างชนิดเต็มอิ่ม...ตอบ...ไอ้เต๋า...มึงเอาฟิล์มไปซ่อนไว้ที่ไหน? "

ไอ้เต๋ากัดกรามสั่นระริก ร่างกายสั่นกระตุกคล้ายกับเป็นอัมพาต เหงื่อผุดออกมาท่วมตัว มันค่อย ๆ อ้าปากตอบสาวลูกผสมด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น

" - ผม...ผม...ผม ไม่รู้เรื่องจริง ๆ ครับ ฟิล์มอะไร ผมไม่รู้เรื่อง อยู่ดี ๆ ก็จับผมมาแบบนี้...ขอ...ขอ...ให้ผมสูบก่อนเถอะครับ "

สาวลูกผสมถอนเท้าออกจากอกของไอ้เต๋า ถอยหลังออกมานิดนึงแล้วเตะเปรี้ยงเข้าไปที่ชายโครงเต็มแรง

" - ไอ้สัตว์ พวกกูรู้ทิศทางของมึงดีไอ้เต๋า...ถ้าแผนของพวกกูไม่แตกเสียงก่อน พวกมึงกลายเป็นผีเฝ้าโรงโบว์ลิ่งไปหมดแล้ว...ลากมันขึ้นมานั่ง"

ประโยคสุดท้าย สาวลูกผสมหันไปออกคำสั่งกับสมุนที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ

สองคนในกลุ่มปราดเข้ามาที่ร่างของไอ้เต๋า แล้วจับแขนพยุงขึ้น ส่วนอีกคนฉากแวบเข้ามายืนคุมอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทางระมัดระวัง

เหมือนกับปาฏิหาริย์ ร่างของไอ้เต๋าซึ่งกำลังถูกประคับประคองขึ้นมายืน เด้งผึงขึ้นทั้งตัว เด้งขึ้นมาโดยที่แขนทั้งสองถูกล็อคเอาไว้แน่น...เท้าที่ลอยวี้ดขึ้นกลางอากาศถูกดีดขึ้นเป็นแนวเส้นตรง...เป้าหมายก็คือใบหน้าของยามรักษาการณ์ที่ยืนขวางทางอยู่นั้น

" พล็อค "

รองเท้าหนังส้นสูงแบบหัวแข็ง จับพลัดจับผลูหวดเข้าไปที่ปลายคางของยามรักษาการณ์สุดแรงเกิด...ร่างอันเล็กแกรนของยามผู้เคราะห์ร้ายผงะถอยหลังไปนิดนึงแล้วเอียงล้มตะแครงลงกับพื้นหมดสติสมัปชัญญะไปในบัดดล

ไอ้เต๋าเหวี่ยงเท้ากลับเต็มเหนี่ยว เป้าหมายก็คือหน้าแข้งของชายฉกรรจ์ทั้งสองที่ขนาบข้างมันอยู่นั้น

เส้นรองเท้าแข็งปั๋งเหมือนกับเหล็ก กระแทกตูมเข้าไปที่หน้าแข้งของคนทั้งสองเต็มแรง...ผลที่ปรากฏในเวลาต่อมาก็คือ...ชายฉกรรจ์ทั้งสองร้องจ๊ากขึ้นมาสุดเสียง

พร้อม ๆ กับงอตัวลงไปนั่งกุมหน้าแข้ง หน้าตาบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

ไอ้เต๋า ถอยหลังออกมานิดหนึ่ง แล้วเตะตูมเข้าไปที่กกหูของคนทางขวามือเต็มแรง

" พล็อค "

หน้าแข้งสัมผัสกับทัดดอกไม้สุดแรงเกิด ร่างที่นั่งยอง ๆ อยู่เบื้องหน้า เอียงล้มคล่ำลงกับพื้นเหมือนกับต้นไม้โดนโค่นไม่มีผิด

" หยุด...ขืนขยับกูยิงจริง ๆ ไอ้เต๋า "

สาวลูกผสมสำทับด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดพร้อมกับวาดปืนสวมท่อเก็บเสียงเข้าหาร่างของไอ้เต๋า หน้าตาที่สวยผุดผาด บึ้งตึงเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ไอ้เต๋า ขยับตัวสาวลูกสาวผสมวาดปืนลงพื้นเหนี่ยวไกสองนัดซ้อน ๆ

" ปุ๊...ปุ๊ "

กระสุนจากท่อเก็บเสียง ฉีกแผ่นกระดานห่างจากรองเท้าของไอ้เต๋าไม่ถึงคืบ ไอ้เต๋าชะงักยืนนิ่งกรามสั่นระริก

" ไอ้เต๋า ถ้ามึงขืนก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว กูฆ่ามึงจริง ๆ ไอ้สิงห์ จับมันมัดเดี๋ยวนี้ "

ประโยคสุดท้ายสาวลูกผสมหันไปออกคำสั่งกับลูกน้อง คนที่โดนไอ้เต๋าใช้ซ่นเท้ากระแทกหน้าแข้งด้วยท่าทางฉุนเฉียว

ชั่วอึดใจ ร่างของไอ้เต๋าก็ถูกมัด นอนงอก่องอขิง อยู่ที่พื้น ต่อจากนั้นสมุนของสาวลูกผสมที่ฟื้นจากสลบก็ช่วยกันลากไอ้เต๋าขึ้นมานั่งคอพับคออ่อนอยู่บนเก้าอี้

" ม้วนฟิล์มที่มึงขโมยเอาไปอยู่ที่ไหน ?"

สาวลูกผสมพูดพลางแหย่ท่อเก็บเสียงเข้าไปที่คอหอยของไอ้เต๋า

" ขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่กู ถ้ามึงยิงกู มึงก็ไม่รู้ที่ซ่อนเอาซิวะ กูอยากตายเต็มทีแล้ว อยู่ไปวันหนึ่ง ๆ ก็เซ็งเหลือที่จะแดก...อยู่แล้ว เอ้า...ยิงเล้ย...แม่คุณ "

ไอ้เต๋าตะโกนท้าทายอย่างชนิดที่อ่านไต๋ของสาวลูกผสมออกว่า ตัวของมันมีประโยชน์เพียงพอที่ฝ่ายนั้นจะต้องสงวนชีวิตของมัน เพื่อหวังผลในผลงานในอันอับต่อไป

สาวลูกผสม ยกปืนออกจากคอหอยของไอ้เต๋าแล้วหันไปออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

"ถอดเสื้อผ้าของมันออกให้หมด ไอ้สิงห์ไปเอาเชือกข้างนอกมาด้วย "

ชั่วอึดใจ ไอ้เต๋าก็ถูกสมุนของสาวลูกผสมถอดเสื้อผ้าออกหมด จนกระทั่งเหลือกางเกงลิงสีแดงแจ๊ดอยู่เพียงตัวเดียว

" มัดข้อเท้าโยงมันขึ้นไปบนขื่อนั่น ลูกเล่นแยะนักประเดี๋ยวเถอะมึง...ไอ้เต๋า "

สาวลูกผสมคำรามออกมาด้วยท่าทางโกรธจัด

ร่างของไอ้เต๋าถูกโยงขึ้นไปบนขื่อด้วยเชือกไนล่อนขนาดใหญ่ ในลักษณะเอาหัวลง สาวลูกผสมขยับตัวเข้าไปชิดแผ่นหลังของไอ้เต๋าแล้วถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

"ฟิล์มอยู่ที่ไหน...ไอ้เต๋า "

ไอ้เต๋าจิ๊กโก๋ระดับชาติกัดกรามแน่น ส่ายหน้าเป็นเชิงปฏเสธ

สาวลูกผสมเปิดกระเป๋าเสื้อ หยิบ " ไลเตอร์ รอนสัน " ชนิดใช้แก๊สออกมากดปุ่มดังแชะ

ประกายไฟสีเขียวปนส้มสุกใส พวยพุ่งออกมาจากไฟแช็กเป็นสาย สาวลูกผสมชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก็จ่อเปลวไฟเข้าไปที่บริเวณแผ่นหลังของไอ้เต๋าทันที

ไอ้เต๋าสะดุ้งเฮือก ร้องจ๊ากออกมาสุดเสียง ร่างกายสั่นดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแสนสาหัส

" ฟิล์มอยู่ที่ไหน ไอ้เต๋า ถ้ามึงไม่บอกคราวนี้กูลนไข่มึงแน่ ๆ "

สาวลูกผสมพูดพลางเอื้อมือข้างที่ว่างดึงกางเกงลิงของไอ้เต๋ารูดขึ้นไปข้างบนอย่างช้า ๆ

" โอ้ย...บอก...บอกแล้วครับ ฟิล์มอยู่ที่เลนโบว์ลิ่ง เลนซ้ายมือสุด ผมเอาเข้าไปซ่อนไว้ในห้องเครื่องที่เก็บพิน อย่าทำผมเลยครับ ผมยอมแล้ว "

ไอ้เต๋า ละล่ำละลัก พร้อมกับดิ้นไปมาอย่างน่าเวทนา

" โกหก..."

สาวลูกผสมพูด พลางจ่อไฟเข้าไปที่แผ่นหลังของไอ้เต๋าอีกครั้ง

เสียงผิวหนังไหม้ไฟดัง "ฉ่า" กลิ่นเหม็นเขียวตลบอบอวลไปทั่วห้อง ไอ้เต๋าแหกปากร้องแทบไม่เป็นภาษาคน

" - ผมยอมแล้ว ผมเอาฟิล์มใส่ถุงกระดาษซ่อนเอาไว้ในห้องเครื่องเก็บพินปลายเลนซ้ายมือสุด...พอ...พอ...เถอะครับ"

" - เอามันลงมา...แล้วก็ใส่เสื้อผ้าให้มันด้วย ว่ายังไง...จัน...เรียบร้อย"

ประโยคสุดท้าย สาวลูกผสมหันไปพูดกับ "จัน" คนที่กระโดดรถลงที่ทางข้ามรถไฟ เพื่อดักยิงรถที่แกะรอยมาซึ่งเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี...

จันสั่นหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ พร้อมพูดออกมา

" - รถของมันติดไฟเสียก่อน...ผมซุ่มดูอยู่ฝั่งตรงกันข้าม พวกมันสองคน คนนึงเป็นผู้หญิงใช้รถแท๊กซี่มีเสาวิทยุสูงที่ผมคาดว่า จะต้องมีเครื่องส่งวิทยุอยู่ภายในอย่างแน่นอน...พอขบวนรถไฟผ่าน รถของมันก็วิ่งย้อนกลับเข้าตลาดเมืองโคราช"

สาวลูกผสมพยักหน้า แล้วเดินผละออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว...ลูกสมุนที่เหลืออยู่ต่างก็ช่วยกันใส่เสื้อผ้าให้ไอ้เต๋าจนเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงเดินตามกันออกไป

" - เป็นยังไง...พรรคพวก"

บังหมุด ซึ่งนั่งพิงผนังห้องเงียบอยู่ตลอดระยะเวลาที่ไอ้เต๋าโดนทรมาน เอ่ยปากถามขึ้นเป็นครั้งแรก

" - ฉิบ...ไม่ น่าถาม...เอาไฟแช็กเผาหลังกูยังพอทน...อีหอกเสือกจะเอาไฟลนไข่กู ใครจะทนได้วะ"

ไอ้เต๋าบ่นพึมพำ พร้อมกับสูดปากด้วยความปวดแสบปวดร้อน

" - บทบาทติดยาของลื้อเด็ดดวงเหลือเกินว่ะเต๋า...คราวแรกอั๊วนึกว่าลื้อ "เซียน" ยาจริง ๆ ซะอีก"

" - ก็เคยติดจริง ๆ นี่หว่า อั๊วเคยติดผงขาวขนาดหนัก...หนีไปอยู่ประจวบเกือบ 8 เดือนเต็ม ๆ เพื่อนไปตามมารักษาตัวที่โคราช...ไม่ยากหรอกเพื่อน...พอ "เซียน" ขึ้นมาก็เข้าห้องปิดประตูให้เพื่อนล็อคกุญแจข้างนอก ทนทรมานเอาวันสองวันก็เลิกได้ ลื้อโดนแบบอั๊วหรือเปล่าวะ บัง"

ประโยคสุดท้าย ไอ้เต๋าหันไปถามเพื่อนร่วมห้องขังด้วยท่าทางเป็นห่วง...

"โดน...แล้วก็หนักกว่าลื้อด้วย อั๊วโดนมันเอาสูบรถจักรยานดับจารบีอัดทวาร อั๊วก็เลยสารภาพมันไปเหมือนลื้อนั่นแหละ...ไอ้ห่ ใครจะไปทนได้วะ...มันไม่ใช่ในหนังนี่หว่า...เฮ้ย...เต๋าช่วยหยิบรองเท้าของลื้อมาหน่อยซิวะ"

เต๋า-โบว์ลิ่ง กลิ้งตัวไปหยิบรองเท้ามาให้บังหมุดอย่างลำบากยากเย็น

" - พลิกรองเท้าขึ้น...เต๋า"

บังหมุดสั่งห้วน ๆ ไอ้เต๋าพลิกรองเท้าทั้งสองข้างขึ้นอย่างงง ๆ

" - เอามือจับดูที่ซ่นรองเท้าด้านใน อย่าแกะวัตถุที่ติดอยู่เป็นอันขาด...มีอะไรหรือเปล่าวะ"

ประโยคสุดท้าย บังหมุดถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นไอ้เต๋าเอามือลูบซ่อนรองเท้าด้านในอย่างระมัดระวัง

" - เจอะแล้วโว้ย...ไอ้ห่ ใครเอาอะไรมาติดซ่นรองเท้าของกูวะ ทั้งสองข้างเลยนี่ มึงดูซะบังหมุด"

ไอ้เต๋าพูดพลางยื่นรองเท้าทั้งสองข้างให้นักเล่นกลระดับชาติดูด้วยท่าทางตื่นเต้นสุดระงับ

" - เอารองเท้าวางเอาไว้ที่เก่า"

" - ทางที่ดีลื้อควรจะสวมมันเดี๋ยวนี้...ไอ้เต๋า อั๊วจะอธิบายให้ลื้อฟังง่าย ๆ ขณะนี้ลื้อกำลังทำงานชิ้นหนึ่งให้กับรัฐบาลไทย...ลื้อเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งชาติที่กำลังจะห้ำหั่นกับผู้ที่คิดจะทำลายระบบการปกครองแบบเสรีประชาติปไตย ลื้อจะต้องเลือกเอาหนทางหนึ่งระหว่างคอมมิวนิสต์กับเสรีประชาธิปไตย ชีวิตที่มีอิสรภาพคือชีวิตที่มนุษย์ทุกคนใฝ่หา...ถ้าลื้อเลือกคอมมิวนิสต์ ชีวิตของลื้อก็ก้าวเข้าไปในคุกเกือบค่อนตัวเข้าไปแล้ว...จงภูมิใจเถอะเพื่อน...ที่มนุษย์เดนคนหยั่งเราทั้งสองคน มีโอกาสร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับบุคคลระดับบริหารของประเทศเข้าฟาดฟันอริราชศัตรู ไอ้เต๋าขณะนี้พวกของเรารู้แล้ว่า ลื้อถูกขังอยู่ที่ไหน"

ประโยคสุดท้าย บังหมุดลดเสียงลงจนเกือบเป็นกระซิบ และเมื่อเห็นไอ้เต๋านั่งจ้องตาเขม็งอยู่ ก็กระซิบต่อไปอีก

" - เจ้านายของเราแอบเอาวิทยุชนิดพิเศษติดซ่นรองเท้าลื้อตั้งแต่บนโรงแรมโน่นแล้ว ลื้อถูกประกบตัวอย่างชนิดไม่มีทางกระดิก ตั้งแต่ลงจากโรงแรมนั่นที่เดียว...แผนของ ซี.ไอ.เอ. ได้วางอย่างรอบคอบ ขณะนี้ฟิล์มที่ลื้อฉกเอาไปจากหน้าโรงโบว์ลิ่ง ก็ถูกคนของ ซี.ไอ.เอ. เอาไปเรียบร้อยแล้ว เชื่อขนมกินได้ อีกไม่ถึงชั่วโมงเจ้านายของเราก็จะบุกตะลุยเข้ามาภายในห้องนี้เพื่อช่วยพวกเราออกไปอย่างแน่นอน...พักผ่อนเอาแรงก่อนวะ...เพื่อนฝูง "

พอพูดประโยคสุดท้ายเสร็จ บังหมุดค่อย ๆ เลื่อนตัวลงกับพื้นแล้วตะแครงหันข้างให้ไอ้เต๋า ทำกริยาเสมือนหนึ่งจะตัดบทการสนทนาอยู่ในที

ไอ้เต๋าเหยียดขาออกไปจนสุด แล้วชำเลืองดูรองเท้าด้วยวท่าทางไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าใดนัก ชั่วครู่หนึ่งมันก็ยกมือขึ้นปิดปากหาว แล้วล้มตัวลงนอนเงียบไป

รถแท๊กซี่ป้ายเหลืองติดเสาอากาศสูง ที่ท้ายรถวิ่งปิดไฟหน้าเข้าไปจอดในสนามบินพาณิชย์อันกว้างใหญ่ไพศาล ผู้กองอังคารและหมอดาหลาซึ่งนั่งอยู่ตอนหน้าของรถส่งสายตาชำเลืองไปยังโกดังข้าวสาร "ย่งเส็ง" ที่มองเห็นทะมึ่น ๆ อยู่ห่างออกไปเกือบร้อยเมตร

กระเป๋าเจมส์บอนด์ถูกเปิดฝาออก เครื่องวิทยุประหลาดที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าส่งสัญญาณไฟสีแดงกระพริบไม่ขาดระยะ

จากแสงไฟกระพริบ ทำให้มองเห็นแผนที่แสดงอาณาบริเวณของเมืองโคราชอย่างถนัดชัดเจน...และตำแหน่งสุดท้ายที่ไฟกระพริบก็คือ ที่ตั้งของโกดังข้าวสาร "ย่งเส็ง" ในปัจจุบันนั่นเอง

มันเป็นวิทยุแบบล่าสุดที่หน่อยข่าวกรองของ ซี.ไอ.เอ. ได้ประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างสด ๆ ร้อน ๆ หน้าปัดเป็นกร๊าฟแผนที่ ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้ กระแสคลื่นจากเครื่องส่งที่อยู่ห่างออกไปไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร จะกระตุ้นให้เครื่องรับทำงาน และสามารถที่จะชี้ทิศทางของตำแหน่งเครื่องส่งในปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ

" - ตำแหน่งสุดท้ายของเต๋าอยู่ที่นั่น...ถ้าเครื่องวิทยุของเราไม่ผิดพลาด ประเดี๋ยวคงจะยิงกันยับไปข้างนึง...หมอเอา "เอ็ม. 16" เก็บเสียงมาด้วยหรือเปล่าครับ"

ผู้กองอังคารพูดพลางไขกระจกด้านข้างลงจนสุดพร้อมกับใช้กล้องสนามแรงสูงส่องตรวจตราอาณาบริเวณของโกดังข้าวสาร "ย่งเส็ง" ด้วยความพินิจพิจารณา

" - เรียบร้อยค่ะ...หัวหน้านอร์แมน ยังให้ปืนกล เอ็ม. 60 มาอีกกระบอก...โล้นกับแสบมารับเอาไปเมื่อตอนจับสัญญาณของเต๋าได้...ลองติดต่อดูซิคะ ดิฉันคิดว่าป่านนี้พวกเค้าคงจะมากันแล้ว"

หมอดาหลาพูดพลางดึงปากพูดหูฟังที่แขวนอยู่ใต้พวงมาลัยยื่นส่งให้ผู้กองอังคาร

ผู้กองอังคารส่งกล้องสนามให้หมอดาหลา แล้วกรอกคำพูดลงไปห้วน ๆ

" - เอ๊กซเรย์ จาย ซีบร้า...แจ้งตำแหน่งปัจจุบันด่วนเปลี่ยน"

ชั่วอึดใจก็มีเสียงตอบอู้อี้เข้ามาในหูฟัง

" ผมนั่งอยู่บนสามล้อ...ไอ้แสบเป็นโชเฟอร์ผ่านรังของมันไปเที่ยวหนึ่งแล้ว...รั้วโกดังของมันแข็งแรงเหลือเกิน...แต่พอจะมีทาง...ลูกพี่อยู่ที่ไหนเวลานี้"

" - อยู่ที่รันเวย์...ประเดี๋ยวลื้อย้อนกลับเข้ามาสมทบกับอั๊วที่นี่...เลิกกัน "

" - โน่นคะ...อังคาร ลูกน้องตัวดีของคุณนั่งสามล้อมาโน่น "

หมอดาหลาพูดพลางส่งกล้องสนามให้ผู้กองอังคาร

ภาพจากโฟกัสของกล้องสนามแรงสูงที่มองเห็นสลัว ๆ อยู่ในความมืดนั้น เห็นไอ้แสบซึ่งอยู่ในชุดกรรมกรสามล้อ ขี่รถเอื่อย ๆ มาตามถนนลูกรัง บนเบาะนั่งด้านหลังไอ้โล้นสวมหมวกแขกนั่งห่อไหล่ด้วยความหนาวเหน็บของอากาศตอนใกล้รุ่ง...

รถสามล้อไปหยุดอยู่ที่หน้าโกดังข้าวสาร "ย่งเส็ง" ไอ้แสบลงจากอาน แล้วฉากแว่บเข้าไปยืนฉี่อยู่ที่หน้าประตูอย่างหน้าตาเฉย

ไอ้แสบยืนฉี่รดหน้าประตูโกดังอยู่ครู่หนึ่งก็เดินส่ายงอกแงก ๆ เข้ามาหาไอ้โล้นพลางกระซิบ

" - พวกมันมีสองคคน...ไอ้โล้น "

ไอ้โล้นยกมือขึ้นป้องปากไอแครก ๆ สองสามครั้งแล้วกระซิบถามด้วยน้ำเสียงพอ ๆ กัน

" - อาวุธ...ไอ้แสบ...พวกมันใช้อาวุธอะไรวะ"

" - กูเห็น เอ็ม. สิบหกวางอยู่บนเตียงผ้าใบกระบอกนึง...จะเอายังไงดีวะ...กูว่าลุยแม่มันเข้าไป วัดดวงกับพวกมันเลย รึยังไง...ไอ้โล้น "

ประโยคสุดท้าย ไอ้แสบคำรามออกมาเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงกระหายเลือด

" ใจเย็น...เพื่อนฝูง...ประเดี๋ยวมึงกลับเข้าไปฉี่รดประตูมันอีกครั้ง...พยายามยั่วโทสะพวกมันให้เปิดประตูออกมาให้ได้...อย่าเสือกไปมีเรื่องกับพวกมันเข้าล่ะ...เสียแผนหมดนะมึง"

ไอ้โล้น กำชับเพื่อนคู่หู ซึ่งอยู่ในคราบของสามล้อด้วยความเป็นห่วง

ไอ้แสบไม่ตอบ มันหันหลังกลับเดินส่ายงอกแงก ๆ เหมือนกับงูเลื้อยเข้าไปที่หน้าประตู พร้อมกับแหกปากร้องเพลงแหล่ที่พร ภิรมย์ เจ้าของเพลงแทบจำเนื้อเพลงเดิมไม่ได้

" - คนธรรพ์พลันยั้งหยุด เดือดปุด ๆ ตอนฟ้าสาง...อิงแอบแนบน้องนาง ก่อนสว่างจึงล้างหน้าได้..คนธรรพ์พลันขึ้นห้อง...ไปเจอะนวลน้อง...ชะเป็นยองใย"

พอจบเพลงแหล่ ไอ้แสบก็รูดซิบกางเกง ยืนฉี่ราดหน้าประตู ซึ่งมีแผ่นสังกะสีทับอยู่บนแผ่นกระดานอีกชั้นหนึ่งอย่างหน้าตาเฉย แถมแหกปากร้องเพลงลูกกรุงแถมท้ายอีก ด้วยน้ำเสียงที่ตัวมันเองคิดว่าเพราะพริ้งเสียเต็มประดา...

" - โธ่เราป่วยอีกแล้วหรือนี่...ยังงี้ทุกที เมื่อคราวริเที่ยวผู้หญิง"

พอร้องเสร็จ ไอ้แสบก็เอาศีรษะโขลกกับบานประตูค่อนข้างแรง กัดกรามร้องออกมาดัง ๆ

" - โอ๊ย...ปวด...กูฉี่ไม่ออก...ทำไมมันปวดหยั่งนี้โว้ย"

ได้ผล...ยามรักษาการณ์คนนึงเปิดช่องประตูบานเล็กออกมาดูไอ้แสบนิดนึง แล้วกระแทกปิดด้วยความโมโหต่อจากนั้นชั่วอึดใจก็ถอดกลอนผลักบานประตูเปิดออกเต็มแรง พร้อม ๆ กับถลาออกมาด้วยท่าทางโกรธจัด

" - ไอ้สัตว์ ที่เยี่ยวไม่มีรึยังไงวะ"

ยามคนที่ตัวสูงกว่าเพื่อนสบถออกมาพร้อมกับตะปบมือลงไปที่คอปกเสื้อของไอ้แสบ แล้วกระชากเต็มแรง

" - คาย...คายขวางทางเยี่ยวกูวะ"

พูดไม่พูดเปล่า...ไอ้แสบดันฉี่รดยามรักษากการณ์ที่พรวดพราดออกมาจากหน้าประตูเข้าอย่างเต็มเปา...

"เฮ้ย"

ยามรักษาการณ์คนที่รับเคราะห์ โดนฉี่ของไอ้แสบร้องอุทานออกมาสุดเสียง พร้อมกับดีดเท้าข้างหนึ่งหวดชายโครงไอ้แสบเต็มแรง

" พรั่บ "

เสียงหน้าแข้งสัมผัสกับชายโครงดังสนั่นหวั่นไหวร่างของไอ้แสบเอียงกระเท่เร่ ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นยามรักษาการณ์ยกเท้าข้างหนึ่งทำท่าเหมือนกับจะกระทืบลงไปบนร่างของไอ้แสบ ไอ้โล้นซึ่งนั่งสำรวมดูเหตุการณ์อยู่บนเบาะสามล้อ ร้องตะโกนห้ามเสียงหลง

" - พอครับ...เจ้านาย...ไอ้หมอนั่นมันเมามาก...ผมขอเถอะครับ"

ไอ้โล้น พูดพลางค่อย ๆ ก้าวเท้าลงจากเบาะรถ ยามรักษาการณ์คนที่ยกเท้าทำท่าจะกระทืบไอ้แสบ หันขวับกลับมามองดูไอ้โล้นด้วยความเคลือบแคลงใจอยู่ครู่หนึ่ง ก็กระตุกปืนพกจากซองกางเกงด้านหลัง ซึ่งมีเสื้อฮาวายคลุมอยู่อย่างมิดชิดขึ้นมากระชับอยู่ในอุ้งมือ พร้อมกับคำรามออกมาอย่างเฉียบขาด

"หยุด...อย่าเสือกก้าวเข้ามาหาอั๊วเป็นอันขาด...เฮ้ย...พวกลื้อเป็นใครกันวะ"

"ฮีโธ่...เฮียก็...จำผมไม่ได้หรือยังไงครัย ก็ผมขับรถเมล์สายแปดที่จอดอยู่หน้าบ้านเฮียนี่ยังไง...ไอ้ห่าจิกที่โดนเฮียหวดลงไปนอนหมอบอยู่โน่นก็เป็นช่างฟิต มันฟัดสาโทมากไปหน่อย ก็เลยแอบขโมยรถสามล้อข้าง ๆ บ้านมาส่งผม คนกันเองแท้ ๆ ...ไม่น่าเลย"

ไอ้โล้นเปิดฉากอำอย่างสมจังสมจริง พร้อม ๆ กับตีหน้าตายเดินเข้าไปอุ้มไอ้แสบขึ้นมา วางบนเบาะสามล้อปากก็พึมพำต่อไปอีกไม่ขาดระยะ

" - ทั้งสาโท-เหล้าเถื่อนฟัดกันไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรมันก็เละแบบนี้ละวะ...ไอ้ห่ากูต้องปั่นรถกลับไปส่งมึงอีกจนได้ ผมไปละครับ...เจ้านาย"

ประโยคสุดท้าย ไอ้โล้นหันไปพูดกับยามรักษาการณ์ทั้งสองคน ที่กำลังพาตัวเองหายลับเข้าไปในช่องประตู ด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ...

ไอ้โล้นพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนอาน แล้วขี่เอื่อย ๆ ไปตามถนนลูกรัง พอถึงทางแยกก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปในสนามบินพาณิชย์โดยเร็ว...

" - ฟื้นซะที...ไอ้แสบ ไอ้ห่าโดนเข้าไปนิดเดียวเสือกทำแกล้งสลบประเดี๋ยวพ่อโยนมึงทิ้งให้ยุงแดกซะที่นี่เลยเป็นยังไง"

ไอ้โล้นพูด พรางเบรครถหยุดกิ๊กด้วยท่าทางฉุนเฉียว

" - กูปั่นให้มึงมาเกือบชั่วโมง...เหนื่อยแทบตายชัก หน็อยพอเป็นโชเฟอร์แทนกูนิดเดียวทำเป็นบ่น...โน่นพ่อมึงจอดรถซุ่มอยู่โน่น..เร็ว ๆ เข้าโว้ย"

ประโยคสุดท้าย ไอ้แสบพูดพลางผงกศีรษะขึ้นมาพร้อมกับชี้มือให้ไอ้โล้นมอง ไปยังรถเก๋งที่จอดทะมึนอยู่ในความมืดเบื้องหน้า...

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX จบตอนที่ 22 แล้วครับ XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
พิมพ์ผิดประการใดขออภัยนะที่นี้ด้วยนะครับ จบเล่มที่1เรียบร้อยแล้วนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

phumjai จาก PhumJai 171.4.202.235 เสาร์, 29/6/2556 เวลา : 18:24  IP : 171.4.202.235   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19429

คำตอบที่ 92
       อยากอ่านต่ออีกอ่ะครับ สนุกมากครับ ผมเคยอ่านตอนเด็ก ไม่นึกว่าจะได้อ่านอีก พอจะหาอ่านต่อได้ที่ไหนอย่างไร รบกวนแนะนำด้วยครับ ขอบคุณมากครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baramee007 จาก baramee 58.11.19.116 เสาร์, 11/4/2558 เวลา : 23:48  IP : 58.11.19.116   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 25508

คำตอบที่ 93
       เล่าเเล้ว นึกภาพ มาให้เห็นเลยครับ เยี่ยมครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

boat2513 จาก boat พุธ, 15/4/2558 เวลา : 11:58  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 25519

คำตอบที่ 94
       ยอดเยี่ยมเลยครับ ผมแฟนเก่าสยุมภูครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แลนด์ตาก จาก แลนด์ตาก 182.53.14.55 พฤหัสบดี, 16/4/2558 เวลา : 05:33  IP : 182.53.14.55   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 25520

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 4 จาก >>> 1  2  3  4  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,24 เมษายน 2567 (Online 2564 คน)