คำตอบที่ 37
       สวยทุกรูป แบบพี่ปู่ว่า กระทู้แห่งปีจริงๆ น้อยคนที่จะได้ไปในที่แบบนี้ ถ่ายภาพมางามมากๆเลยครับ

 แก้ไขเมื่อ : 9/3/2555 8:31:35

ขอบคุณมากครับ จาก : karinjin(karinjin) 9/3/2555 14:30:08 [125.25.200.89]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 38
       ภาพนี้คือมองให้เห็นความเป็นจุดเด่นของดอยนี้ครับ เราตั้งใจจากจุดนี้เพื่อไปขึ้นให้ทันชมพระอาทิตย์ตกบนยอดดอยหนอก แต่ประทานโทษครับ จากจุดนี้เหมือนจะไกล้ มันไกลมากมาย เราเดินไปถึงตีนดอยหนอก เกือบเย็น ฝนก็ตกอีก ฟ้าปิดอีก ด้วยคำแนะนำของคนนำทางบอกว่า ถ้าจะขึ้นก็ขึ้นวันนี้เลยถึงแม้จะมืดแล้วก็ตาม แต่ถ้าขึ้นพรุ่งนี้คงหมดสิทธ์ เพราะคืนนี้ฝนคงตกหนักแล้วทางเดินที่เราต้องไต่หินขึ้นไปจะลื่นมากๆ ขอบอกเลยว่าทางขึ้นดอยหนอกอันตรายกว่าเขาช้างเผือกครับ รู้ถึงความเสียวเลยครับ แต่ผมไม่มีปัญญาถ่ายภาพมามันทั้งลม หมอก ฝน ไกล้มืด ผมเอามือ 2 ข้างไปเกาะหินและก่อหญ้าดีกว่าครับ นาทีนั้น แต่พอขึ้นมาด้านบนเป็นจริงครับ มีพระพุทธรูป ศาลา ระฆัง ที่ชาวบ้านมีแรงศัทธามาสร้างไว้ พอเราถึงด้านบนหมอกปิด ฟ้าปิด มืดสนิท เราอยู่ด้านบนได้ไม่นาน เราก็ต้องรีบลงมาด้านล่างเพราะมืดแล้ว เราต้องส่องไฟฉายลงมา จนมาถึงแคมป์ด้านล่างมืดสนิทมาก ฝนก็ตกแรงมาก แต่โชคดีที่ว่า ที่พักแรมของเราคืนนี้เป็นศาลาที่ชาวบ้านมาสร้างไว้ตรงตีนดอยหนอก เราเลยไม่ได้นอนตากฝนกัน แต่รอบข้างเราเป็นป่าทึบหมด ต้นหญ้าสูงท่วมหัว ดูแล้วน่ากลัวจริงๆ ค่ำคืนนั้นหนาวอีกแล้วครับ กับความเพลียไม่เคยเดินโหดขนาดนี้เลย เหมือนจะเก่งแต่แทบสลบ พลันนึกในใจทำไปได้ไง
ทริปนี้สิ้นหวังหลายอย่าง ได้กลับมาแค่ว่าเราเคยมาที่นี่แค่นั้นเอง วิวทะเลหมอกไม่เจอ พระอาทิตย์ตกดินก็ไม่เจอ ดีแล้วที่ตัดสินใจขึ้นตอนเย็นเมื่อวานเพราะตอนเช้าเราตื่นขึ้นมาแทบไม่เจอแสงแดดเลย ฝนตกตั้งแต่เช้า สายแล้วก็ยังไม่หยุด ทำยังไงได้ เราต้องลงจาดดอยนี้แล้ว เราทานอาหารเช้า เตรียมน้ำดื่ม แต่ไม่มีอาหารมื้อกลางวัน เพราะคนนำทางต้องพาเราลงอีกฝั่ง ระยะเวลาที่เขากะอย่างช้าก็ 5 ชั่วโมง เราเลยไม่มีอาหารกลางวัน แต่เราก็ยังพอมีขนมขบเขี้ยวระหว่างทาง เราออกเดินทางลงจากดอย 9 โมงเช้าทั้งที่ฝนยังตกอยู่ ทางลงพอๆกับภูเมี่ยงเลยครับ แทบเอาตูดไถลลงมากันเลย เวลาผ่านไปเราพักแค่จุดเดียวตรงน้ำตก จากนั้นก็เดินเลาะตามน้ำตกจนเวลาผ่านไป 5 ชั่วโมงจริงๆเราก็มาถึงตีนเขา ที่เต็มไปด้วยท้องนา ทุ่งนา เจอชาวบ้านกำลังเกี่ยวข้าวกันพอดี แต่พอเดินมาไม่ถึง 200 เมตร ผมหันหลังกลับไปมองบนยอดดอยที่ผมลงมากัน พลันนึกว่ากรูไปทำไรวะ กรูไปได้ไงวะ วันนี้เราโชคไม่ดีจริงๆ คงไม่ได้กลับมาอีกแล้วละ แต่ก็พูดได้ว่าเราไปพิชิตมาแล้ว ยิ่งมองยิ่งแค้นใจเพราะด้านบนฟ้าเปิดสว่างมากมาย แทบไม่มีหมอกปกคลุมเหมือนตอนเช้าเลย แต่อย่างว่าครับบางครั้งก็ต้องเสี่ยง บางครั้งก็ต้องลอง พอลองดูแล้วก็จะได้คำตอบกลับมาเอง
เข็ดไปเลยกับที่นี่ แต่ก็ได้ความศัทธา ความเชื่อมั่น ความแกร่ง ความอดทน ความพยายาม ความอยากรู้ ประสบการณ์กลับมาอีกเยอะ

ไม่ธรรมดาจริงๆ ดอยหลวงพะเยา คงไม่ได้กลับไปหาคุณอีกนะ แต่วันใดที่เราไปนั่งริมกว๊านพะเยาอีกครั้ง เราจะมองไปทางคุณ ว่ามีครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ด้วยกัน..............ดอยหนอก แห่ง ขุนเขาดอยหลวงพะเยา............

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 39
       จัดไปทุกภาพ ล่วงหน้าถึงที่ยังไม่ได้ลงด้วยครับ แค่กดมันอาจจะเบาไปขอกระทืบเลยนะครับจารย์ ฮ่าฮ่าฮ่า

5555555 ขอบคุณมากครับ จาก : karinjin(karinjin) 9/3/2555 15:24:00 [125.25.200.89]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 40
       อันดับที่ 7 ที่สุดแห่งทุ่งดอกไม้ ที่สุดแห่งลานสน ที่สุดแห่งป่าสน ที่สุดแห่งแดนขุนเขาอลังการและสวยงาม ที่สุดลานหงอนนาค ภูสอยดาว

ภูสอยดาว ชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จักจริงๆ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นอีกที่ที่นักผจญภัยอยากจะไป เป็นอีกที่ที่ผู้คนอยากจะขึ้นไปชื่นชม เป็นอีกที่ที่คนที่ไปมาแล้วเกิดความประทับใจ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องลานสนสวยงาม อันนี้จริง ที่นี่เวลาดอกไม้ออกดอกมันจะบานเต็มดอยเลย อันนี้จริง เวลาคุณขึ้นไปแล้วเหมือนคุณเดินอยู่บนสวรรค์เลย อันนี้ก็อาจจะจริง ที่นี่จะมีดอกหงอนนาค ที่ขึ้นชื่อและเป็นดงที่ไหญ่ที่สุดในไทยอันนี้ก็จริง หลายคนอาจจะมองว่าลานสนภูกระดึงนั้นสวยงามอันนี้ก็จริง ลานสนทุ่งแสลงหลวงมันตื่นตาตื่นใจมาก อันนี้ก็จริง ลานสนวัดจันทร์ ลานสนบ่อแก้วงามสุดเติ้ง อันนั้นก็จริงๆ แต่สำหรับผมลานสนภูสอยดาว มันไม่ได้สวยอย่างเดียวแต่มันน่าหลงไหล น่าชวนชม เปรียบง่ายๆเหมือนคุณจีบแฟนคุณแรกๆนั้นแหละครับ ถ้าคุณรักเขาแล้วอยู่กับเขาดูแลเขา เหมือนเราหลงใหลในตัวเขา คุณจะไม่มีวันทิ้งเขาไปไหน ก็เหมือนกับที่นี่แหละครับ ผมมาที่นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วสำหรับดอยนี้

หลงรักที่นี่แท้ๆเลย ถ้าคุณได้เดินบนทุ่งดอกไม้ ทั้งสีเหลือง และสีม่วงแซมๆกันไป มีต้นสนสูงสง่าเรียงราย ท่ามกลางไอหมอกลอยมากระทบต้นไม้ และมาสัมผัสผิวหน้าเราเบาๆ คุณก็จะรู้สึกเหมือนกับเรา

............นี่แหละมนต์เสน่ห์แห่ง ลานสนดอกไม้ .....ภูสอยดาว..................

ว่าจะ ก็หลายครั้งก็ยังซักทีคราวที่แล้วก็มีเหตุเรื่องน้ำป่าฝนตกหนัก จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 9/3/2555 16:45:36 [210.213.59.188] อีก 3 ภูจะเป็นอะไรหว่า จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 9/3/2555 17:23:36 [210.213.59.188]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 41
       เป็นรางวัลชิวิตที่งดงามมากครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 42
       การมาภูสอยดาวของเราหนแรกนั้นก็แสนจะประทับใจ มาครั้งที่ 2 ก็ยังประทับใจ ภูสอยดาวไม่จำเป็นต้องบรรยายสรรพคุณมาก ไม่มีใครย่อมไม่รู้จัก การที่เรามาที่นี่ 2 คืน กับ อีก 3 วัน ขอบอกว่ามันช่างสุดวิเศษเลยมากมาย มาที่นี่ควรมาให้ถูกวันและเวลาครับ บางท่านมาช่วงธันวาคม เพื่อจะมาสัมผัสอากาศที่หนาวและลานสนสวยๆ แต่ท่านจะไม่เจอดอกไม้เต็มดอยครับ ดอกไม้ที่นี่จะเริ่มออกปลายเดือนกันยายน ถึงปลายตุลาคมครับ นอกนั้นถ้ามาอาจจะเจอกระหย่อมกระแหยม ไม่ค่อยเยอะ ขอแนะนำถ้าจะเหนื่อยแล้ว ก้เหนื่อยให้มันคุ้มครับ ที่นี่จุดเด่นก็คงมีเท่านี้ แต่การมาครั้งที่ 2 ของเรานอกจากดอกไม้แล้ว ก็คงหนีไม่พ้น เมฆๆ หมอกๆ ตามเคย อยากจะรู้จังคราวนี้มันจะมีหรือเปล่า เพราะที่เห็นในภาพในเวปก็มีแต่ต้นสน และดอกไม้เราเลยอยากจะมาถ่ายวิวโดยรอบๆบ้าง
นี่แหละครับวิวโดยรอบๆของภูสอยดาว มันก็สวยงามไปอีกแบบครับ ก็แหงละครับ สูงตั้ง 1700 กว่าเมตร จะไม่มีอะไรดีก็กระไรอยู่ละครับ

ภูสอยดาว

บ๊ะสีชุดนอนจ๊าบจริงๆ เว้ย จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 9/3/2555 22:10:38 [171.7.187.126]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 43
       สุดยอดครับพี่คาริน ผมเองติดตามผลการถ่ายภาพของพี่และทุกๆคนในวีคเอนมาโดยตลอดพยายามเรียนรู้ รวบรวม ลอกเลียน กลเม็ดเคล็ดลับต่างๆที่บรรดาผู้รู้ผู้ชำนาญทุกท่านถ่ายทอดไว้ เพื่อว่าวันนึงผมคงจะได้มีโอกาสดูรูปที่ตัวเองถ่ายแล้วอมยิ้มแบบพี่คารินบ้างครับ

ขอบคุณมากครับ และดีใจครับที่จะมีความสุขในการถ่ายภาพแบบผมครับ จาก : karinjin(karinjin) 10/3/2555 2:36:20 [125.25.200.241]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 44
       ภูสอยดาวถ้าเราจะมาพิชิตไม่ต้องรอดวง ไม่ต้องเสี่ยงโชคให้มากครับ เพราะอย่างที่บอกไป ภูสอยดาวจุดเด่นคือลานสนและดอกไม้ ส่วนทะเลหมอกพระอาทิตย์ตกและขึ้นอันนั้นคือโบนัสครับ การไปแต่ละที่ควรจะรู้ว่าอะไรเด่น และอะไรลอง ตามหาจุดเด่นให้เจอก่อนแล้วค่อยไปตามหาลอง ผมว่าน่าจะถูกต้องหรือผมคิดไปเองไม่รู้นะ แต่ทุกที่ที่ผมไปถ่ายมาก็จะประมาณนี้แหละครับ
ภาพนี้ไม่มีอะไรมาก อาจจะองค์ประกอบแบบเดิมๆ ธรรมดา แต่ด้วยบรรยากาศแวดล้อมที่มันสวยงามอยู่แล้ว มันเลยทำให้รู้สึกว่าอารมร์ของการไปเที่ยวที่นี่มันช่างสุนทรีเหลือเกินครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 45
       แต่สิ่งที่เราคาดไม่ถึงในการมาภูสอยดาวครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุ่น เหลือบ เห็บ แมลงมีพิษค่อนข้างเยอะมาก ผมโดนซะขาแขนบวมไปทั้งตัวเลย อารมณ์ในการถ่ายภาพและสมาธิหายไปกับการกำจัดแมลงพวกนี้เป็นส่วนใหญ่ ใครจะมาที่นี่คราวต่อไปต้องเตรียมตัวมาให้ดีนะครับ เพราะคุณจะไม่มีอารมณ์ในการถ่ายภาพเท่าไหร่ เมื่อมาเจอแมลง ทุกวันนี้แผลของผมผ่านมา 5 เดือนแล้วยังไม่หายเลย ฉะนั้นอย่าได้ประมาทเลยเชียวสำหรับภูสอยดาว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 46
       การเดินทางนั้นมันไม่มีสิ่งใดง่ายเลย แต่ความยากอาจจะแตกต่างกัน ภูสอยดาวก็เป็นอีกที่ ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย คงจะบอกไม่ได้ว่าจะมาอีกครั้งมั้ย แต่ความประทับใจนั้นได้เก็บมาแทบจะหมดสิ้นจริงๆ วันข้างหน้าจะมีแรงไม่มาก ก็คงจะได้อมยิ้มนั่งชมภาพตัวเอง และชมภาพจากคนอื่นกับสิ่งที่เราเคยไปสัมผัสละกัน
ความงามบนยอดภูสอยดาว เป็นอะไรที่สัมผัสได้โดยไม่มีการปรุงแต่ง เป็นอีกที่ที่ผมมองว่า สักครั้งสำหรับท่านที่ชอบการเดินทางและถ่ายรูป สำหรับที่นี่ไม่น่าผิดหวังครับ ไม่เสียใจจริงๆที่ได้มาที่นี่อีกครั้ง
ท่านลองนึกภาพตาม ถ้าเรานั่งระหว่างเต้นท์ แงแดดกำลังจะโผล่ตอนสาย แต่หมอกดันมาบดบังแสงเพื่อไม่ให้เปิด เรานั่งห่มผ้าหนาวสุดๆนอกเต้นท์ มองไปยังดงสนและทุ่งหญ้าดอกไม้ เพียงเท่านี้เราหรือจะพลาดเก็บเอาบรรยากาศแบบนี้มาบอกกล่าวและให้ชม ภาพอาจจะไม่สวยงามมาก แต่เชื่อได้เลยท่านจะมองเห็นภาพไปตามผมหากท่านได้อ่าน แล้วจะไม่มีวันลืมจริงๆ ...........ภูสอยดาว.................

 แก้ไขเมื่อ : 10/3/2555 12:24:49

อิจฉายิ้มแป้นมากมาย มุมนี้คงมีความสุขน่าดู ...เห็นแล้วอยากไปซะวันนี้เล้ย จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 11/3/2555 10:11:50 [171.7.187.126]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 47
       อันดับที่ 8 ที่สุดแห่งดอกไม้หายาก ที่สุดแห่งเขาสูงเสียดฟ้า ที่สุดแห่งการเดินทาง ที่สุดแห่งเขาสามพี่น้อง ที่สุดแห่งความอลังการ ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาวก็เป็นอีกที่ ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก หลายคนหลายกลุ่มได้แวะมาเยี่ยมเยือน ณ ขุนเขาแห่งนี้รวมถึงเราที่ได้มาสัมผัสดอยแห่งนี้เช่นกัน ดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่าอยู่ อ เชียงดาว จ เชียงใหม่ เป็นยอดดอยที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศไทย ถ้าท่านเคยเดินทางเส้นเชียงไหม่ไป อ ฝาง ไปอ่างอ่าง แม่อาย ท่านจะเจอภูเขาลูกนี้ทางด้านซ้ายมือแบบไม่ต้องสังเกตหรอกครับ ประมาณว่ามาเชียงดาวยังไงก็เห็น นั้นแหละครับดอยหลวงเชียงดาว
ทุกทีที่ไปดอยต่างๆ อ่างขาง แม่ตะมาน ดอยผ้าห่มปก ยอดขุนแม่ยะ ห้วยน้ำดัง จุดใดหลายๆที่เชื่อมั้ย ท่านก็จะเห็นดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่าอยู่เบื้องหน้าจริงๆ เพราะรูปร่าง รูปทรงของขุนเขาลูกนี้จะเป็นเอกลักษณ์มาก ยามมองไกลๆ มองยังไงก็รู้ว่าเป็นดอยหลวง
จุดเด่นและคำล่ำลือของดอยนี้ก็คือ จะมีสัตว์ที่หายากในประเทศไทยชนิดนึงอาศัยอยู่คือ ม้าเทวดาหรือกวางผา แต่ผมไม่เห็นหรอกครับ สัตว์พวกนี้จะชอบอาศัยอยู่ตามหน้าผาและโขดหิน นั้นแหละครับจุดเด่นของดอยนี้ จะมีหน้าผาและหินเยอะมาก การเดินทางมาดอยนี้สำหรับเรานั้นใช้เวลาเดิน 2 คืน 3 วัน เป็นอะไรที่หนักเอาการพอควรสำหรับที่นี่ แต่พอได้มาสัมผัสจริงๆ เรานั้นมิอาจจะลืมที่นี่ไปได้เลย

ดอยหลวงเชียงดาว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 48
       การเดินทางมาดอยหลวงเชียงดาวของเราถือว่าค่อนข้างเตรียมพร้อมเลยทีเดียว ทั้งอาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ เรียกได้ว่าพกกันไปแบบเต็มพิกัด เพราะจากข้อมูลที่ได้มาที่นี่เดินขึ้นได้ 3 ทาง อีกทางนึงชันมาก อีกทางไกลแต่เดินง่าย อีกทางนึงยากแต่ไม่มากแต่เดินไกล้ โอ้ยยเลือกไม่ถูก เราขับรถกันเล่นๆ เพลินๆ โดยรู้ข้อมูลแค่นั้นแหละครับ กะเอาว่าจะไปหาลูกหาบเอาข้างหน้าว่างั้น โดยที่ไม่รู้กฏเกณฑ์ของที่นี่กันเลย แต่ก็รู้ว่าคร่าวๆว่าที่นี่ต้องจองล่วงหน้า ถึงจะได้ขึ้น ด้วยความที่เป็นผมวะด้วยจะจองทำไม ก็เมื่อดอยหลวงเชียงดาวก็คงจะเหมือนภูกระดึงละมั้ง มาเมื่อไหร่ยังไงก็มีลูกหาบ เพราะเป็นที่นิยม แล้วตอนที่ผมมาเขาก็เพิ่งจะเปิดให้ขึ้นใหม่ๆรับรอง มีลูกหาบบริการเพียบ เราเดินทางโดยรถยนต์มาถึง อุทยาน เที่ยงวันพอดีครับ

สวัสดีครับ....นั้นคือสิ่งที่ผมทักทายเจ้าหน้าที่ที่เดินมาต้อนรับด้วยความยิ้มแย้ม
มาเที่ยวหรือครับ....นั้นคือเสียงที่เจ้าหน้าที่เอ่ยทักมา
ครับ มาเที่ยวและจะมาเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ....ผมเอ่ยออกไป
ได้จองไว้หรือเปล่าครับ.......เจ้าหน้าที่เอ่ยถาม
แค่นั้นแหละงานเข้าเลยครับ ต้องจองล่วงหน้าจริงๆด้วย เราไม่ได้จองอะไรมาเลย ลูกหาบก็ไม่มี แต่ด้วยการพูดคุยแบบภาษาสุภาพ กันเอง สนุกสนานเจ้าหน้าที่เลยรำคาญเรามาก ก็เลยตัดสินใจไปหาลูกหาบและคนนำทางให้ และก็ได้จริงๆ เรานั้งรอลูกหาบ 2 ชั่วโมงเพราะลูกหาบพอไม่มีคิว ก็ต้องไปทำงานในไร่ในป่าในเขา เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปตามหามา และกว่าเราจะเริ่มเดินได้ก็ เกือบบ่าย 3 ครับ เราเลือกทางที่ไกล้แต่ไม่ยากมากในการเดินขึ้นครั้งนี้
วันแรกเราเดินกันไปถึงแคมป์แรกมืดพอดีครับ นอนกันในป่ากลางทางกันเลย พออีกวันก็ไต่ระห่ำขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งดอยหลวงเชียงดาวอีกวัน
วันเวลาของเราอาจจะไม่โชคดีเสมอไป คราวนี้น่าจะเป็นครั้งแรกๆในการเริ่มหัดเดินของผม ไม่มีประสบการณ์มากมาย คาดเดาสถานการณ์ไม่ค่อยเก่ง เลยรู้สึกทุกอย่างไม่ค่อยราบรื่นและลุล่วงไปด้วยดีเท่าไหร่ ฟ้าก็ไม่เปิดให้เลย แต่เราก็มีความสุขไปอีกแบบครับ กับดอยหลวงเชียงดาว กับวันฟ้ามืดคลึม

ดอยนี้ที่สองรองจากโมโกจูเลยนะที่นักเดินต้องไม่ควรพลาด ..ไม่งั้นไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้นักเดิน จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 11/3/2555 10:13:21 [171.7.187.126]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 49
       ดอยหลวงเชียงดาวเป็นอีกที่ ที่ต้องบอกว่าอากาศหนาวสุดๆ แบบที่ไม่เคยหนาวแบบไหนมาก่อนเลย จากจุดพักแรมไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาอีกลูกนึงประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ เราเริ่มออกเดินทางกันอีกที่ ตี 4 เพื่อไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ตอนเดินอาจจะร้อมมาก แต่พอไปถึงยอดดอยขอบอก พอหายเหนื่อยเท่านั้นแหละ เหมือนนั่งอยู่ไกล้กับโรงน้ำแข่งเลย เราผ่านนาทีนั้นมาด้วยดี โดยให้คนนำทางเดินลงไปรอตรงจุดที่พักก่อน เราเสพสุขกับบรรยากาศด้านบนกันนานพอควร กับที่นี่ยอดกิ่วลมที่เขาเรียกกัน แห่งดอยหลวงเชียงดาว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 50
       ผมไปมาหลายที่ หลายแห่ง หลายภู ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ทุ่งดอกไม้ ไปทุกฤดู ตามสถานที่ต่างๆ แต่ขอบอกเลยว่าที่ดอยหลวงเชียงดาวมี และมีไม่เหมือนใคร และเป็นจุดเด่นอีกอย่าง และไม่เคยเห็นที่ไหนมีเลย นั้นคือ ดอกไม้ประจำถิ่นอีกอย่าง ที่น่าตะลึ่งยิ่งนักสำหรับเรา มองยังไงก็ประหลาดแต่สวย

............ดอกเทียนนกแก้ว...............

อืมแปลกแต่สวยจริงๆ จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 11/3/2555 10:14:08 [171.7.187.126]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 51
       เรามองดูว่าแต่ละที่เราอาจจะไม่มีวันได้กลับไปอีก แต่ถ้าจะกลับไปอีกครั้ง คงเป็นที่นี่แหละครับที่คิดว่าจะได้กลับไปอีก เพราะดูแล้วอยากจะกลับไปซ้ำรอยอะไรหลายๆอย่าง ถ้ามีโอกาศนะครับ ถึงแม้ว่าที่นี่ภาพออกมาอาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าที่ควร แต่ความประทับใจนั้น สมบูรณ์แบบและแทบจะล้นจนเกินสุขเลยแหละครับ กับ ดอยหลวงเชียงดาว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 52
       อันดับที่ 9 ที่สุดดินแดนแห่งม้าเทวดา ที่สุดแห่งแนวสันเขาที่ทอดยาว ที่สุดแห่งความสวยที่มิอาจลืม ดินแดนที่น่าจดจำ ที่อยู่ของม้าเทวดา ดอยม่อนจอง

ดอยม่อนจอง อยู่ในอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางต้องเดินสถานเดียว แต่ที่นี่ใช้เวลาในการเดินทางไม่มาก 4-5 ชั่วโมงก็พิชิตได้สำเร็จ ที่นี่จุดเด่นในเรื่องของแนวภูเขาที่สวยงามและแปลก และเป็นแหล่งอาศัยของม้าเทวดาหรือกวางผา ด้วยความอัศจรรย์ ความแปลกและสวยงามจึงทำให้ผู้คนต่างหลงใหลในการมาเยือนที่นี่มิขาดหาย ผมรู้จักดอยนี้มานานมาก นานพอๆกับการรู้จักภูสอยดาว ดอยหลวงเชียงดาวเลยแหละ แต่หาโอกาศที่จะมาที่นี่ยากพอควร การได้มาที่นี่ถือว่าตื่นเต้นพอควรสำหรับเรา แล้วฝันเราก็เป็นไปดั่งใจ เราได้มายืน ณ จุดนี้แล้ว

.............ดอยม่อนจอง.............

 แก้ไขเมื่อ : 10/3/2555 22:29:00

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 53
       การเดินทางมาดอยม่อนจองของเรานั้น ก็แสนจะลำบากเหลือเกินเพราะที่แห่งนี้ค่อยข้าง กฎระเบียบก็เยอะพอควร ในเรื่องของการเดินทางเพราะเมื่อท่านมาถึงและต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า และปัญหาของเราอีกอย่างคือเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะการจะเดินไปสู่ดอยม่อนจองนั้น ต้องเช่าเหมารถออฟโรดไปส่ง ณ จุดเริ่มเดิน ซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงน่าดู เราเลยเสี่ยงแบบว่าเน้นวันที่เป็นวันหยุด วันที่คิดว่าวันนี้จะมีคนขึ้น แล้วมายืนทำหน้าโง่ๆ ซื่อๆ แบบประมาณว่าเรามีกันแค่ 2 คน ถ้ามีกลุ่มไหนจะขึ้นดอยม่อนจอง เราของแชร์ค่ารถออฟโรดได้มั้ยประมาณนั้น และเมื่อเรามาถึงอุทยานตอนเช้าตรู เราก็ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเราจะเดินขึ้น และแผนเราก็ได้ผล มีอีกกลุ่มก็จะขึ้นเหมือนกัน เมื่อนับดูจำนวนแล้วเราสามารถร่วมอาศัยรถขึ้นไปได้ และนั้นแหละคือความโชคดีของเราอีกอย่าง

จากหลายๆดอยที่ไปเดินมา ดอยม่อนจองถือว่าเดินสบายมากๆ เราเดินแบบเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปตลอดทาง จุดเด่นของดอยนี้หรือจุดสูงสุดคือดอยผาหัวสิงห์ ที่ห่างจากที่พักไปอีก 1 กม เราทำเวลากันได้ดีพอควร ในการเดินทริปนี้ จุดสุดท้ายก่อนเห็นสันเขาดอยม่อนจองคุณจะต้องไต่เนินชันเอามากๆ แต่พอพ้นเนินมาเท่านั้นแหละท่านจะพบกับดินแดนที่มหัศจรรย์จริงๆครับ เรียกว่าหายเหนื่อเลยแหละ
นี่แหละครับดอยม่อนจอง ที่เราไปเจอมา วันนี้อากาศดีมาก ตอนเย็นหนาวสุดขั้วแทบนอนกันไม่ลง แต่เราก็ต้องทน เพราะแสงยามเช้าของดอยแห่งนี้กำลังมีอะไรให้เราได้เห็นยามเช้าๆนั้นเอง

ที่นี่พวกก๊วนเฟืองจำปีก็ไป เดินมา ผมก็พลาดไป พวกบอกว่าสวย และอยากไปซ้ำกันอีก จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 11/3/2555 10:15:31 [171.7.187.126]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 54
       ภาพนี้ถ้ามองไกลๆเราจะเห็นปลายทางนั้นคือ ผาหัวสิงห์นั้นคือจุดสูงสุดของดอยม่อนจอง ถ้าเราขึ้นไปบนนั้นแล้วหันหลังกลับมา ท่านจะเห็นแนวเขาที่ทอดยาวมหึมาอลังการมาก ก็ไม่น่าเชื่อแหละครับว่าธรรมชาติ ช่างสร้างอะไรได้งดงามขนาดนี้ ดอยแห่งนี้ ไม่ได้เปิดให้เดินทางหน้าแล้งเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าจะเกิดไฟป่า เลยต้องปิดไม่ไห้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม แต่มานึกอีกอย่างใครจะมาละครับหน้าแล้ง คงร้อนตับแตกแน่ๆ เรามาสัมผัสที่นี่ในช่วงหน้าหนาวดีกว่าครับ เกือบจะลืมไปจุดเด่นของที่นี่อีกอย่างคือ ดงดอกกุหลาบพันปีที่นี่จะเยอะมากๆเลยครับ เรียกได้ว่าน่าจะเยอะที่สุดในประเทศไทยแล้วละ แต่เรามาครั้งนี้เขาออกดอกให้เราเห็นน้อยไปหน่อย เพราะยังไม่ถึงช่วงที่เขาต้องออกมายลโฉม แต่สำหรับเราแค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ
ภาพนี้เราเดินลงมาจากจุดสูงสุดแล้วครับ มาพักกลางทาง นั่งเล่น นั่งชมวิว นักพักผ่อน รอตะวันลับลาจากขอบฟ้า เลยทำให้เราได้ภาพนี้มาแบบไม่บังเอิญและไม่ต้องพึ่งโชคชะตา แต่พึ่งความสามารถและอดทนของตัวเองครับ

ดอยม่อนจอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 55
       ทุกที่ที่เราไป ทุกที่ที่เดินทาง ทุกที่ที่ลำบาก เขาคนนั้นที่ยืนอยู่ในภาพไม่เคยย่อท้อเช่นเดียวกับผมเลย แต่ทุกที่ ที่เดินทางกลับมีแต่ความสุขเสมอเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นมาได้ เคยคิดว่าทุกที่มันยาก แต่เราค่อยไปเรื่อยๆ ค่อยพิสูจน์ตัวเอง มันจะผ่านมาได้แบบเราแทบจะไม่รู้ตัว เราคิดเสมอว่ามันยากในจิตใต้สำนึก แต่มันไม่เคยยากเลยเมื่อเราเริ่มก้าวเดิน นี่แหละครับจึงได้มาซึ้งราลวัลในความสำเร็จจริงๆ
ภาพนี้เรานั่งรอพระอาทิตย์ตก แต่ดันมีไอหมอกมาปกปิดเพื่อไม่ให้ฟ้าเปิดกว้าง แต่ไม่เป็นไร นานๆจะเจอแบบนี้ที มันก็แปลกและได้อารมณ์ไปอีกอย่างครับ

งามจริงๆ จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 11/3/2555 10:16:00 [171.7.187.126]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 56
       ก่อนจะมาถึงม่อนจองเจออีกลุ่มเดินสวนลงไปบอกว่ามานอนที่นี่ 2 คืนไม่เจอทะเลหมอกเลย ไอ้เราก็เริ่มเอาอีกแหละจะมาเสียเที่ยวเชียวหรือ

เราตื่นตั้งแต่ตี 5 เลย มารอบนจุดด้านบนของดอยตั้งแต่มืดอยู่เลย ไม่มีผิดหวังครับมาครบหมดทั้งหมอก ทั้งแสง ทั้งความเย็น ทั้งลม เพลินกันอยู่ 2 คน พอสายๆแต่ไม่มาก ยังไม่หกโมงครึ่งเลย ทุกอย่างฟ้าปิดหมดเลย ปิดแบบไม่เห็นภูเขาเลย ตามสูตรที่เคยได้มาจากน้ำตกปิ๊ตรุโกร ที่กะเหรี่ยงบอกว่าฟ้าจะเปิดเช้าตรู ถ้าสายจะปิด ฮ่าๆๆๆๆ ขอบใจมากครับชาวกะเหรี่ยงที่ช่วยชี้แนะ อีกกลุ่มเดินขึ้นมาถามเราว่าขึ้นมานานรึยัง เราตอบว่าขึ้นมาตั้งแต่ตีห้าแล้วครับ เขากลับตอบว่าโหมาเร็วไปหรือเปล่าครับ นี่แสดงว่ายืนทรมานรอฟ้าเปิดอยู่นานเลยซิวันนี้ท่าทางคงไม่เปิดแล้วละครับ แต่ผมนั้นไม่กล้าตอบครับว่าฟ้าอะเปิดจนปิดไปแล้วครับ เพราะผมอะจัดเต็มตั้งแต่ท่านพี่ยังห่มผ้าห่มในเต้นท์อยู่เลยมั้งครับ แต่ไม่กล้าตอบแบบนั้นหรอกครับกลัวเขายันตกเขาเอา เพราะเขามากันเยอะ
นี่คือบททดสอบความพยายามและคาดเดาอีกครั้งกับ ไอหมอก แสงอุ่นที่ลอยกระทบกับเงาภูเขา และทำไห้เราได้ภาพนี้มาแบบไม่เสียเที่ยว

ฟ้าช่างงามจริงๆ จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 11/3/2555 10:16:44 [171.7.187.126] สวยจริงๆครับ จาก : KAKAKUP(KAKAKUP) 27/3/2555 16:59:15 [125.24.247.27]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 57
       อันดับที่ 10 ที่สุดแห่งความขุนเขาสุโขทัย ที่สุดแห่งขุนเขาที่ไม่ธรรมดา ที่สุดแห่งขุนเขาประวัติศาสตร์ ที่สุดแห่งยอดเขานารายณ์ เขาหลวงสุโขทัย

ยอดเขาหลวงอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย จุดสูงสุดของเขาหลวงอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร เขาหลวงนี้ประกอบด้วยยอดเขาถึง 4 ยอดด้วยกัน คือยอดเขานารายณ์ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,160 เมตร ยอดเขาพระแม่ย่า สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ยอดเขาภูกาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร และยอดเขาพระเจดีย์สูงจากระดับน้ำทะเล 1,185 เมตร การเดินพิชิตเขาหลวงเมื่อท่านไปถึง เมื่อท่านมองจากยอดเขา เหล่านี้ลงไปจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองสุโขทัย จะเห็นทำนบกั้นน้ำที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยที่เรียกกันว่า "สรีดภงค์" และตัวจังหวัดสุโขทัยได้อย่างชัดเจน
ไม่ใช่ธรรมดาเลยสำหรับที่นี่ ระยะทางเดินจากตีนดอยสู่ด้านบนไม่ไกลมาก 3.5 กม แต่ขอโทษ เล่นเอานั่งในห้องน้ำไม่ได้หลายวันเลย สุดยอดมากเลยครับที่นี่ อย่าประมาทเชียว เพราะเราประมาทกันมาแล้วเดี้ยงทุกราย สลบไปหลายที ได้ฉายากันมาแทบทุกคน กับที่นี่

เขาหลวง สุโขทัย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 58
       จุดเด่นของยอดดอยแห่งนี้สำหรับผม คงจะทั่วไปที่จะได้เห็นวิวสวยงาม ยามพระอาทิตย์ขึ้นและลง แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่แปลกบนนี้คือ หน้าผาที่มีรูปคล้ายกับหน้าคน ท่านลองมองภาพและจินตนาการตามนะครับว่าเหมือนหรือเปล่า เรียกได้ว่าผมต้องเดินไปอีกฟากนึงของภูเขา ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ส่วนแบบที่เห็นในภาพตัวเล็กกระจิ๋วเดียว เมื่อมองมาไกลๆ เรียกว่ามองจากภาพแล้วเสียวน่าดูตรงจุดนั้น เพราะผมเองไม่คิดที่จะไปตรงนั้นเลย ขอเดินเลี่ยงแล้วไปถ่ายดีฟ่า นาทีนั้นเน้นภาพสวยไม่เน้นเสียวครับ นี่แหละจุดเด่นอีกอย่างของเขาหลวง มองภาพแล้วลองจินตนาการตามแล้วกันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 59
       และนั้นก็คือ ภาพสถานที่ที่เรานั้นคิดว่ามันมีความทรงจำที่ดี ที่สวยงาม มีความหมาย จากเรื่องราวที่ได้ผ่านพบมา ที่ไม่รู้ว่าเราจะได้กลับไปหามันได้อีกหรือเปล่า ต่อจากนี้คงได้แต่นั่งชมนั่งดูผลงานของตัวเองที่ได้ไปเก็บเกี่ยวมา เพราะมันคงเป็นที่ที่ยากที่สุดของเราที่จะได้ไปถ่ายและไปชม ต่อไปนี้เราคงได้แต่นั่งมองดูรูปถ่ายจากฝีมือตัวเองอย่างมีความสุขตลอดไป
ขอขอบคุณทุกท่านทุกคนที่ผ่านเข้ามาชมและติเตือน ในผลงานการถ่ายทอดเรื่องราวของเรา ถ้ามีโอกาศก็จะนำเรื่องราวดีๆมาเล่าและให้ได้ชมกันอีก
ถ้ามีแรงและพลังที่ยังเหลือ ก็คงจะต้องไปชมหรือไปถ่ายด้วยตัวเองเหมือนเดิมถ้ามีโอกาศ .........เพราะ Thailand ก็ยังมีอะไรสวยงามที่เรายังไม่เจอ

เรามีความสุขในการได้แบ่งปัน โดยไม่หวังสิ่งใดๆ ขอบคุณครับ

.................คาริน&ยิ้มแป้น.......................

แจ๊คกะโร้ด.. จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 11/3/2555 10:17:57 [171.7.187.126]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 60
       The end

แสดงความคิดเห็นย่อย