WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


กระทู้แจม ครั้งที่31 "บางสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเรา เมื่อใช้ชีวิตกลางแจ้ง"
คชไพร
จาก คชไพร
IP:58.9.49.87

ศุกร์ที่ , 2/9/2554
เวลา : 09:39

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       สวัสดีครับ กระทู้แจมหายไปนานเลย
งั้นผมขออาสาขุด เปิดกระทู้แจมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง “สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ”แล้วกันครับ คราวนี้ตั้งกระทู้ไว้ซักเดือน หรือจนกว่าจะมีหัวข้อใหม่ละกัน

ก่อนอื่นขอออกตัวว่า"เรื่องจิต" ที่จะกล่าวถึงทั้งหมดเป็นความเข้าใจของกระผมเอง หากจะชีชัดลงลึกเกี่ยวกับเรื่อง"จิต"คงต้องอาศัยผู้ที่ศึกษาและฝึกจิตมาโดยตรงเป็นอย่างดีครับ
ผมกล้าที่จะบอกว่าคนเราส่วนใหญ่ "จิต" หรือที่ส่วนใหญ่เรียก "ใจ" มักไม่แน่วแน่ ไม่ราบรื่น มีฝันแปรไปได้ตามสภาพอารมณ์และสิ่งแวดล้อมที่มากระทบ ก่อให้เกิดอารมณ์และอาการต่างๆกับตัวเรา ไม่ว่ารื่นเริง รื่นรมย์ คลื้นเคลงอารมณ์ดี หรือ โมโห โกรธ แม้กระทั่งเศร้า โศกเสียใจ.

แต่ที่จะนำมากล่าวถึงในวาระนี้ คืออาการของจิตใจ ที่มักเกิดขึ้นกับเราๆและหมู่คณะเราบ่อยๆ คืออาการของจิต ที่หวาดระแวง ประหวั่นพรั่นพรึง จนนำพาปสู่อารมณ์กลัว นั่นคือเมื่อเราได้นำพาตนเองไปสู่สถานที่ เงียบ วิเวกวังเวง ซึ่งที่ๆเรามักชอบไปกัน นั่นคืออุทยานแห่งชาติ หรือไป "ป่า"นั่นเอง
ยิ่งเป็นป่าในเวลาที่มืดมิด เงียบสนิท และหากต้องอยู่เพียงลำพังแต่เพียงคนเดียวในความมืดในป่า เชื่อได้ว่า น้อยคนนักที่จะไม่เกิดอาการกลัว อาจะกลัวความมืด ความเงียบ กลัวผีสางนางไม้ แม้กระทั่งสัตว์ป่าฯลฯ

เมื่อกล่าวมาถึงตอนนี้ แล้วอะไรเล่าคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเราไว้ไม่ให้เตลิดเปิดเปิง หรือเรียกง่ายๆว่า "จิตตก" จน "สติแตก" ที่เคยเห็นเพื่อนๆส่วนใหญ่ ก็มักมีพระเครื่อง หรือเครื่องรางของขลังติดตัว แต่บางคนก็ไม่คล้องพระหรือของขลังเลย แต่มักใช้น้ำสีอำพันมาข่มจิตให้หมดกลัว

งั้นเรามาแจมแลกเปลี่ยนเรื่องราวทำนองนี้กันดีกว่า ว่าแต่ละท่านคล้อง แขวน พระเครื่องหรือพกเครื่องรางของขลัง(ว่าง่ายๆมีของดี)อะไรกันบ้าง หรือแม้แต่เรื่องราวที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงที่ประสพและตราตรึงใจ นำมาแจมกันครับ







รุ่นเดียวกันเลยครับ แขวนอยู่ประจำ แต่ไม่กล้าแขวนไปลุยด้วยกลัวหาย ^_^
จาก : sarapol(sarapol) 14/9/2554 13:49:51 [58.8.59.140]
เยี่ยมเลยครับ
จาก : คชไพร(คชไพร) 29/9/2554 11:38:09 [58.9.105.164]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       ..โห.. ยากอยู่..

.............. มีแต่..ที่ คุณพี่ให้ มา ติดตัว...

มเหศวร..แอบจิ๊ก กระทิง มาใส่ เวลา..เผลอ... กะ... ไพรีพินาศ.. ที่ติดตัวตล๊อด ๆๆ

..(( ว่าแต่ อยากดูพระ จริง หง่ะ.. สายสร้อย..นู๋ ยาววววววววววววววววว นา...))





ในรูปน่าจะเป็นรุ่น นารีพิฆาต ซะมากกว่านะ
จาก : บลูเรงนอง(บลูเรงนอง) 2/9/2554 19:53:55 [203.144.139.232]
หุ หุ
จาก : หนุ่มพเนจร(rk06538) 20/9/2554 8:22:41 [58.137.73.80]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bjaiting จาก พังพลาย 202.94.100.195 ศุกร์, 2/9/2554 เวลา : 10:02  IP : 202.94.100.195   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 56666

คำตอบที่ 2
       ขออนุญาติครับ...แบบนี้พอได้ไหมครับ...





โอววว งามครับ
จาก : คชไพร(คชไพร) 2/9/2554 11:30:32 [58.9.49.87]
ขอบคุณ..ครับ น้า..คชไพร..
จาก : Disco_Tang(Disco_Tang) 2/9/2554 22:53:13 [115.87.83.26]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Disco_Tang จาก Disco Tang 115.87.83.26 ศุกร์, 2/9/2554 เวลา : 11:04  IP : 115.87.83.26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 56680

คำตอบที่ 3
      





จุๆๆๆ นี่ยิ่งงดงาม
จาก : คชไพร(คชไพร) 2/9/2554 11:31:42 [58.9.49.87]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Disco_Tang จาก Disco Tang 115.87.83.26 ศุกร์, 2/9/2554 เวลา : 11:07  IP : 115.87.83.26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 56681

คำตอบที่ 4
       ..ของขลังครับ พกใส่กระเป๋าสะพายเวลาออกทริปเสมอ..
ข้าางบนเบี้ยแก้ ถัดมาเป็นชายจีวรของพระเถระ และล่างสุดเป็นตระกรุดครับผม





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

คชไพร จาก คชไพร 58.9.49.87 ศุกร์, 2/9/2554 เวลา : 14:04  IP : 58.9.49.87   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 56729

คำตอบที่ 5
      
โจทย์ยากนะ....ไว้กลับมาจาก 7คดก่อน ค่อยค้น โกดัง มาแจม



ครับลุงนิด โจทย์ยากเอาการ หุๆๆ
จาก : คชไพร(คชไพร) 4/9/2554 13:44:00 [125.27.215.28]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

lungnid จาก ลุงนิดใจดี 113.53.191.181 ศุกร์, 2/9/2554 เวลา : 18:07  IP : 113.53.191.181   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 56774

คำตอบที่ 6
       ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลยครับน้า ไม่เคยแขวนพระซะด้วย ไม่รู้จะแจมอย่างไร

ปกตินอนป่าทุกครั้งผมก็จะอาศัยยากล่อมปราสาทน้ำสีเหลืองอำพันนั่นแหละ ชะงักนัก



หุๆๆ สงสัยส่วนใหญ่ จะอาศัยน้ำอำพันข่มจิตกันเป็นส่วนใหญ่จริงๆ อิอิอิ
จาก : คชไพร(คชไพร) 4/9/2554 13:37:42 [125.27.215.28]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

บลูเรงนอง จาก บลูเรงนอง 203.144.139.232 ศุกร์, 2/9/2554 เวลา : 20:19  IP : 203.144.139.232   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 56780

คำตอบที่ 7
       ของผมก็มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ที่หน้ารถเหมือนกันครับ..สาธุ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

qap จาก tt02 58.9.156.119 พุธ, 14/9/2554 เวลา : 10:03  IP : 58.9.156.119   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 60150

คำตอบที่ 8
       ส่วนนี้เป็นส่วนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตอนขับรถครับ...ใจเย็นๆ..ลูกๆหลับอยู่ด้านหลัง..อิอิ





จริงครับ เมื่อเห็นคนที่เรารักนั่งอยู่ข้างๆ เราก็มักตั้งสติได้ ถอนคันเร่งหน่อยนึง ..
จาก : คชไพร(คชไพร) 15/9/2554 13:54:10 [58.11.20.36]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

qap จาก tt02 58.9.156.119 พุธ, 14/9/2554 เวลา : 10:07  IP : 58.9.156.119   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 60152

คำตอบที่ 9
       ไม่มีความรู้ด้านนี้เลยครับ
ดูไม่เป็นเลยครับ ของเก่าปู่ และ พ่อตกทอดมา เป็นกระบะเลย
อยู่บนหิ้งอย่างเดียว บูชากราบไหว้ อย่างเดียวครับ
ใครมีหน้ารถองค์ไหนนำมาอวดกันครับผม






ชาวแคมป์ เดินทางกันเป็นนิจ คล้องพระติดตัวกันหน่อยก็ดีน๊ะครับ
จาก : คชไพร(คชไพร) 16/9/2554 9:57:34 [58.9.98.235]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tiksantana จาก Santana 49.49.115.169 ศุกร์, 16/9/2554 เวลา : 00:54  IP : 49.49.115.169   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 60585

คำตอบที่ 10
       ไปไหน ๆ ก็อยู่บนแผ่นดินของพ่อครับ





รักพ่อ
จาก : tiksantana(tiksantana) 17/9/2554 10:58:08 [101.108.195.180]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pudam1 จาก กระต่ายขี้เมา 58.11.111.245 เสาร์, 17/9/2554 เวลา : 08:31  IP : 58.11.111.245   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 60928

คำตอบที่ 11
       อีกองค์เทพที่เคารพครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tiksantana จาก Santana 101.108.195.180 เสาร์, 17/9/2554 เวลา : 12:55  IP : 101.108.195.180   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 60991

คำตอบที่ 12
       ท่านท้าวเวสสุวรรณก็เป็นอีกองค์เคารพ แต่ยังไม่มีไว้บูชาครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tiksantana จาก Santana 101.108.195.180 เสาร์, 17/9/2554 เวลา : 13:04  IP : 101.108.195.180   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61001

คำตอบที่ 13
       ผมมีเรื่องราวน่าประหวั่นพรั่นพรึ่ง ซึ่งเกิดจากจิตใจที่หวาดหวั่น ในยามอยู่กลางแจ้งในป่า
ถ่ายทอดมาจากนักเดินป่ากลุ่มหนึ่ง ผมจึงนำมาเล่าสู่กันฟัง
ถือซะว่าเป็นการแจมกระทู้อีกแนวละกันครับ คือบรรยายอย่างเดียว
อ่านไหวก็ลองอ่านกันดูอ่านกันเล่นๆ
อ่านไปก็คิดเสียว่าผมนั่งโม้ให้ฟังก็แระกัน แต่ย้ำว่าเนื้อเรื่องหลักๆนั้นเกิดขึ้นจริงครับ...เรื่องราวก็มีอยู่ว่า

ในตอนสายๆวันหนึ่ง ในช่วงวันหยุดติดต่อสามวัน มีนักนิยมไพรชายหญิงกลุ่มหนึ่ง กำลังเดินตัดแนวป่าพร้อมเป้ใบใหญ่บนหลังทุกคน
เดินมุ่งหน้าสู่น้ำตกแห่งหนึ่งในกลางป่า หวังใจที่จะได้พบกับความงามของสายน้ำ
ที่ไหลตกจากหน้าผาสูงกลางป่าใหญ่ยามน้ำหลากในหน้าฝน
ทุกคนเดินมุ่งหน้าไปด้วยความสดชื่น อิ่มเอม และสุขใจ
ตลอดริมทางเดิน ใบไม้ใบหญ้าแตกกอ ชูช่อเขียวชอุ่ม มีเห็ดผุดขึ้นมาระเกะระกะ ขาวบ้าง แดงบ้าง ดูแล้วสวยงามตาดี
ทุกอย่างรอบตัวดูสดใส ชุ่มฉ่ำ แต่ป่าบางช่วงก็ต้องไต่ ต้องปีนขึ้นเขา ที่ทั้งลื้นและชัน
มีลื่นหกล้มก้นจ้ำเบ้ากันหลายหน เนื้อตัวก็เปียกปอน แม้จะมีเสื้อกันฝนบางๆคลุมก็ตามที
เพราะฝนนั้นตกพรำเป็นช่วงๆ ตกๆหยุดๆตลอดทาง

เดินกันมาพอสมควร ระยะทางน่าจะเกือบๆครึ่งทาง มาถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ที่มีใบทึบพอจะกันเม็ดฝนที่ตกปรอยๆอยู่ได้
ก็สมควรแก่เวลาที่จะหยุดพักสำรวจตัวเองกันซักที ปลดเป้ลงจากหลังนั่งพักเอาแรง ดื่มน้ำซะหน่อย บางคนหิวก็แก้หิวง่ายๆด้วยขนมปัง..
เมื่อหยุดเดิน แต่ละคนก็ถอดรองเท้าเคาะเอาเศษหินเศษดินออก พอปลิ้นตะเข็บถุงกันทากที่รัดขาไว้ออกก็ต้องตกใจ
เพราะทากหลายสิบตัวไปกระจุกอยู่ที่ขอบถุงกันทาก และในขอบรองเท้าเป็นกระจุก

จากเมื่อครู่ที่เดินไต่ความชันขึ้นมาพอดู ตอนนี้กลับกลายเป็นช่วงเดินลงเนินที่ดินลื่นปรืด
หลายหนที่ทางลื้นมากๆ ยากที่จะทรงตัวได้ เป้หลังก็ถ่วง สาวๆตัดใจนั่งและใช้ก้นไถลทางลงไปดื่อๆ
เปาะดินโคลนเต็มขาเต็มก้นเต็มหลัง

ผ่านเนินชันมาได้อีกสองสามเนิน ก็เริ่มเป็นทางราบ ป่าเริ่มโปร่ง เริ่มได้ยินเสียงน้ำมาแต่ไกลๆ
แต่ละคนเริ่มยิ้มร่า เพราะคิดว่าคงใกล้ถึงจุดหมาย แต่เมื่อเดินใกล้เขาไป ก็กับกลายเป็นธารน้ำที่ไหลเชี่ยวขวางหน้า
หาใช่น้ำตกที่เป็นจุดหมาย
“น้อย”เจ้าหน้าที่ผู้นำทางหันมาบอกว่า รออยู่ฝั่งนี้ก่อน เดี๋ยวผมจะเอาเชือกลุยน้ำไปมัดที่ฝั่งโน้น
น้ำแรงอย่างนี้เดินตัวเปล่าๆไม่ไหวเสี่ยงเกิน หากล้มลงไปมีหวังลอยไปไกลแน่
น้อยนำเอาเชือกขดใหญ่ออกมาจากเป้ ปลายหนึ่งมัดไว้ที่โคนไม้ และอีกปลายผูกเอวไว้
ปรับสายสะพายปืนเฉวียงปลายกระบอกขึ้นชี้ฟ้า มือหนึ่งถือเชือกค่อยๆเดินลงน้ำไปช้าๆด้วยความระมัดระวัง
แม้จะเคยเดินลาดตระเวนอยู่บ่อยๆ แต่ก็จะประมาทกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดไม่ได้
ระหว่างข้ามน้ำหลายหนที่ต้องลื้นแทบหกล้ม แต่ ก็ดึงเชือกที่หนุ่มๆช่วยดึงต๋งอีกปลายไว้กับต้นไม้ที่ฝั่งก็พอประครองตัว จนผ่านข้ามฝั่งไปได้
น้อยปลดเป้และปืนลง แกะเชือกที่เอวไปผูกกับโคนไม้และดึงจนตึง
คราวนี้ ถึงคราวสาวๆเกาะเชือกค่อยๆเดินข้ามไป แต่ละคนพอลงน้ำ น้ำก็พัดผ่านกางเกงพาเอาดินโคลนที่ติดอยู่หลุดไหลตามน้ำเป็นทาง
เนื้อตัวที่มอมแมมกลับมาสะอาดอีกครั้ง เมื่อข้ามน้ำมาได้ครบทั้งหมด บางคนก็ถอดรองเท้าเทน้ำออกโดยเฉพาะของน้อยเจ้าหน้าที่นำทางของเรา
ที่เป็นรองเท้าคอมแบท..บางคนก็เบื่อจะถอดแล้ว ขอเดินไปทั้งน้ำเต็มๆแบบนั้น
เพราะเท้าด้านในมันพองจนแตกไปแล้ว แสบๆคันๆเดี๋ยวไปถึงที่ค่อยผึ่งให้แห้งทีเดียว C/F 1



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

คชไพร จาก คชไพร 58.11.59.165 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 10:06  IP : 58.11.59.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61258

คำตอบที่ 14
       ฺB/F 1

จากจุดที่ข้ามธารน้ำมา เจ้าหน้าที่พาเดินลัดเลาะคู่ธารน้ำสวนทางขึ้นไป ยิ่งเดินใกล้เข้าไปเรื่อยๆก็จะได้ยินเสียงของน้ำตก ดังขึ้นๆ
เดินไปๆเหลือบมองสายน้ำก็จะกว้างขึ้น กว้างกว่าจุดที่ข้ามน้ำมามาก เดินลัดเลาะจนโผล่ผ่านชะง่อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งที่มีทิวไม้ใหญ่ขวางหน้า
เลี้ยวเลาะพ้นผ่านหินก้อนใหญ่นั้นขึ้นมา ภาพของน้ำตกก็ตระหง่านอยู่เบื้อหน้าเห็นแล้วอลังการ เบิกบานใจหายเหนื่อย จริงๆ
น้ำตกไหลหล่นลงจากชะงอนเหว ตกกระทบหินและผืนน้ำด้านล่างแตกซ่าเป็นละอองปลิวตามกระแสลม ฟุ้งไปทั่วบริเวณ
บางจังหวะของละอองน้ำที่โดนแรงลมกรรโชกพัดปลิวเป็นฝอย ลอยเข้าหาปะทะตัวเราแสนเย็นสดชื่นซะจริงๆ
ทุกคนค่อยๆเดินอ้อมไปทางด้านข้างของน้ำตก ป่ายปีนตามขอบหิน กระโดดไป กระโดดมาอยู่ครู่หนึ่งพอได้เหนื่อย
ก็ขึ้นมาจนถึงด้านบนของน้ำตก เมื่อเดินย้อนทวนน้ำ จากผาที่น้ำไหลตกลงด้านล่างขึ้นไปซักหน่อย จะแลเห็นเป็นลานหินใหญ่
ด้านซ้ายเป็นแอ่งน้ำที่ค่อยๆไหลรินเอื่อยๆ สามารถลงอาบน้ำได้ เลยโขดหินที่บังอยู่จะเป็นธารน้ำที่แรงลงไปสู่ผาน้ำตก
ด้านขวาเป็นทางด่านแคบๆ มีไม้ใหญ่ยืนต้นหลายต้น ที่โดดเด่นสุดคือยางต้นใหญ่ มีรอยของเศษเถาว์ไม้และกิ่งไม้ติดอยู่โคนต้น
แสดงให้เห็นว่าเป็นทางน้ำไหลผ่านเวลาน้ำหลากหนักๆ เลยต้นยางใหญ่ ขึ้นไปเป็นช่องทางด่านแคบๆเท่าแมวเดิน
เหมือนทางด่านที่สัตว์เล็กๆใช้เดินลงมากินน้ำ น้อยตะโกนบอกว่า

“ เอาเป็นว่าเรานอนกันตรงนี้ดีกว่าน๊ะ มีต้นไม้ให้ผูกเปลได้หลายต้น ลานหินก็พออาศัยนั่งเล่นอาบน้ำได้
เดี๋ยวเราไปก่อกองไฟตรงทางด่านด้านบน เลยต้นยางใหญ่ไปหน่อยละกัน”
“กร”หนุ่มใหญ่ อวุโสสุดในทริปค้านว่า “ เฮ๊ย!พี่จะเอาตรงนี้จริงหรือ “


พลันในใจก็นึกว่า ตรงที่น้อยจะก่อกองไฟ เลยต้นยางใหญ่ไปนั้น เป็นทางด่าน ไปก่อกองไฟขวางทางเดินจะดีหรือ
ยางใหญ่ที่มีรอยเศษเถาวัลย์ กอไม้และกิ่งไม้ติดอยู่นั้นก็เหมือนกัน ยามน้ำหลากมากๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่าจะมีสารพัดสิ่งในป่าที่ไม่คาดคิด
ลอยมาติดอยู่บ่อยๆหรือไม่

“เอออ ตรงนี้หละสะดวกดี น้ำก็เป็นแอ่งไหลไม่แรง ถ้วยจานก็ล้างง่าย” น้อยตอบ


กรเห็นน้อยพูดเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก็คิดว่าน้อยคงเคยมาพักตรงนี้แล้ว จึงไม่ได้คิดติดใจอะไรรีบปลดเป้หยิบเอาฟลายชีตมากาง
ผูกกับไม้บนชายตลิ่งเลยต้นยางใหญ่ค่อนไปในแนวป่า แต่ละคนก็ปลดเป้ลง เริ่มหาทำเลเพื่อพักผ่อนกันในคืนนี้...........
C/F2



รอติดตามต่อนะครับ
จาก : wichai(wichai) 19/9/2554 13:16:01 [203.144.204.156]
ตามด้วยครับ
จาก : กระต่ายขี้เมา(pudam1) 19/9/2554 19:22:53 [58.8.166.13]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

คชไพร จาก คชไพร 58.11.59.165 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 10:18  IP : 58.11.59.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61262

คำตอบที่ 15
       คลิ๊กหลายทีละ ขายยานานนะครับ พี่คชไพร ระหว่างรอเรื่องราวจาก พงไพร ขอแจม ของที่ผมนำติดตัวไปทุกที่ชิ้นแรกละกันครับผม..

ฟันของพ่อครับ พ่อให้มาเกือบยี่สิบปีแล้ว จำได้ว่า ฟันซี่นี้เคยใช้เคี้ยวอาหารป้อนผม ตอนเด็กๆด้วยครับ.

ตามชมต่อครับผม

 แก้ไขเมื่อ : 19/9/2554 14:05:27





โอว พี่หมู เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เรารักและเคารพที่สุดครับ เยี่ยมเลยครับ อุ่นใจเลยครับแบบนี้
จาก : คชไพร(คชไพร) 19/9/2554 14:29:30 [58.11.59.165]
สุดยอดเลยครับน้าหมู..วัตถุมงคลจากพระองค์แรกของชีวิตเลยครับ
จาก : tt02(qap) 19/9/2554 16:00:57 [58.9.200.229]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

hmu จาก hmu 118.172.243.80 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 13:15  IP : 118.172.243.80   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61282

คำตอบที่ 16
       B/F 2

“ฟ้ากับอุ๋ย” สองสาวที่ชอบป่า ผูกเปลอยู่คู่กัน ติดก่อไม้ชายป่า
“น้อย” ที่เป็นเจ้าหน้าที่ ผูกเปลถัดออกไปแต่ติดๆชายตลิ่ง
“กร” กางเต้นท์ริมๆทางด่านถัดจากฟลายชีตผืนใหญ่ที่กางไว้เมื่อครู่ใกล้ๆต้นยาง
“ราตรี”ผูกเปลอีกใบถัดเข้ามาด้านต้นยางใหญ่ข้างๆเต้นท์กร แฟนของเธอ
น้อยเดินไปหาฟืนมาหลายท่อน เริ่มสุมไฟ ควันโขมงเพราะไม้ยังชื้นอยู่...
สาวๆเริ่มหยิบหม้อสนามและข้าวสารมาตวงใส่ เตาสนามและแก๊สกระป๋องถูกรื้อออกมาจากเป้
ทุกคนช่วยๆกันแบ่งงานทำ ไม่นานแคมป์กลางป่าก็เริ่มจะสมบูรณ์ กองไฟเริ่มลุกติดโชนดี
น้อย ปักไม้ง่ามสองข้างของกองไฟ เอาลำไผ่พาดห้อยหม้อสนามเป็นราว ไม่นานก็เดือดพลักๆส่งกลิ่นหอมโชยคลุ้ง
กร ออกเดินขึ้นไปตามทางด่านเล็กนั้นรวบรวมไม้ฟืนที่แห้งๆมาไว้ได้พอสมควรแก่การสุมในหนึ่งคืน

อุ๋ย เอากุนเชียงที่เตรียมมา เสียบกิ่งไผ่อังย่างกับกองไฟ พอร้อนได้ที่มันหยดลงไฟแต่ละทีดังฉ่าๆๆ
ฟ้า เจียวไข่กลิ่มหอมฉุยไปทั่ว กลิ่นเหล่านี้มันไปกระตุ่นต่อมหิว ทำให้ทุกคนท้องร้องโครกคราก เพราะแต่ละคนก็เดินมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยทั้งวัน..

ผ้าพลาสติกถูกปูไว้ใต้ฟลายชีต อาหารทั้งหมดพร้อม ข้าวระอุอยู่ในหม้อสนาม แต่ละคนเผลอแวปเดียวก็ลงไปลอยคลออยู่ในน้ำกันหมด
จะมีแต่น้อย ที่เปลี่ยนผ้าข้าวม้านั่งเฝ้าอยู่บนตลิ่ง
เหมือนโชคเข้าข้าง ฝนที่พรำมาทั้งวันตอนนี้กลับขาดเม็ดตั่งแต่มาถึง ฟ้าเปิด ตะวันทอแสงสีแดงๆอมส้มเริ่มท้อแสงผ่านกิ่งไม้ส่องลงมาเป็นช่องๆ
จังหวะดีที่ตั้งแคมป์ใกล้ที่กว้างริมน้ำตก แสงจึงยังพอมีให้สว่างอยู่ หากลึกเข้าไปในแนวป่า ป่านนี้ก็เริ่มมืดครึ้มไปแล้ว

ไม่ต้องเรียกไม่ต้องเตือน ไม่นานทุกคนอาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมากันหมด คงเพราะความหิวกระมัง
น้อยรีบลงไปอาบน้ำมั่งเป็นคนสุดท้าย เอี่ยมอ่องทุกคนแล้ว
ก็เปลี่ยนชุดลำลองแห้งๆ ประแป้งกันหน้าขาว....

ตะเกียงแก๊ส ถูกจุดวางไว้กลางวงข้าว ความมืดเข้าปกคลุมทันทีหลังจากแสงสุดท้ายลับแนวเขา
วงข้าวกลางป่าเริ่มขึ้น ทุกอย่างดูน่าอร่อยยิ่งนัก น้ำพริกตาแดงถูกแกะถุงวางไว้กลางวง แตงกวาสี่ห้าลูก ไข่เจียว และกุนเชียงย่าง
มีปลาเส้นทาโร่แกะอยู่อีกหนึ่งห่อ
ทุกคนเงียบสนิทแทบไม่คุยกัน ตักข้าวใส่ปากเคียวกันตุ้ยๆเพราะความหิว..............
เผลอแปรบเดียว ทุกอย่างยกเว้นน้ำพริก ก็อันตนทาน หายไปอยู่ในท้องทุกคน

“รัดถุงน้ำพริกเก็บดีๆน๊ะ......... ฟ้ากะอุ๋ยเอาจานไปล้างด้วยหละเดี๋ยวมดจะแห่มา”

น้อยพูดจบ ก็ขยับเอาเป้มาเก็บไว้ในฟลายชีต เอาปืนไปพิงไว้กับต้นไม้ข้างๆเปลที่ผูก
สาวๆลงเอาจานไปล้าง และนั่งเล่นกันที่ลานหิน เงยหน้ามองขึ้นไป มีเมฆลอยปลิวเป็นระยะ พอเมฆลอยพ้นฟ้าเปิดที ก็มองเห็นดาวระยิยระยับ
ลมโชยอ้อยอิ่ง อากาศเย็นกำลังดี ไม่นานจากนั่งกันอยู่ก็กลายเป็นเอน และก็นอนเอกเขนกในที่สุด....


“กรๆ น่ายกเอาเต้นท์มานอนตรงนี้เนาะ” ราตรีว่า
“อาว นอนตรงนั้น ถ้าน้ำมาตอนหลับๆอยู่ ละก็ รู้สึกตัวอีกทีก็ลอยไปตกอยู่ข้างล่างน้ำตกละซิ ขึ้มมาเถาะจะสองทุ่มแล้ว มาปิ้งรองเท้าซะ”

ไม่นานวงสนทนารอบกองไฟ พร้อมปิ้งรองเท้าและถุงกันทากก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย...
มีกร คนเดียวที่ตอนนี้ไปนอนเล่นอยู่ในเปลของน้อย อาจจะเพราะด้วยความเหนื่อย “กร”เผลอม่อยหลับไปนิดหนึง
ท่ามกลางเสียงของสาวๆและน้อยที่นั่งคุยกันอยู่ที่รอบๆกองไฟ กรมิได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ป่าแลดูปรกติดีเสียงหรีดหริ่งเรไรร้อง
ดัง จีดๆว๊อดๆแวดๆไปตามประสา ประสานกับเสียงคุย
เสียงลมพัดทิวไม้ไหว กำลังนอนหลับตาฟังเสียงป่าเพลินๆ จู่ๆกรก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาว
ใจยังไม่ทันคิดอะไรเพราะคิดว่าเป็นเสียงของราตรี ฟ้า และอุ๋ย แต่พอตั้งใจฟัง
เอ๊ะ!!! เสียงมันดังมาคนละฟากกันนิ แต่ดังบ้างเงียบบ้าง เกิดความสงสัยว่ามีสาวๆในกลุ่มเราเดินเล่นย้อนไปทางต้นน้ำรึเปล่า
จึงผงกหัวขึ้น มองไปที่กองไฟ แต่ว่า ทุกคนก็ยังนั่งล้อมวงคุยกันอยู่ครบ ...น้อยหันมามองด้วยความสงสัย
กรเอง ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คงเพราะความอ่อนล้า หรือเสียงของป่าที่ทำให้เราแว่วไป จึงลงนอนต่อในเปล........

“ฮิๆๆ คริกๆๆ หุๆๆๆ “ เอ๊ะ! เสียงมันแว่วมาอีกแล้ว คราวนี้ชัดว่าไม่ได้ดังมาจากกลุ่มเราแน่ แต่แว่วลอยลมมาจากทางต้นน้ำ !!!!
กร เอะใจ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ถูกสั่งสอนและสะสมมา เวลาเข้าป่ามิให้ทักเมื่อได้ยินเสียงหรือได้กลิ่นอะไรแปลกๆ
จึงลุกขึ้นลงจากเปลเพื่อไปดูด้วยความสงสัย

“กร จะไปไหนหนะ” น้อยถาม

“ไปยิงกระต่ายหน่อยหวะ “ กรยังไม่บอกใคร เดินตามต้นทางของเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ ซึ่งตอนนี้เงียบไปแล้ว
เดินส่องไฟไปไกลประมาณว่าถึงที่มาของเสียง ส่องไฟไปทั่ว ในใจก็คิดว่า หรือจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นมานอนเหนือน้ำขึ้นไปรึเปล่า
แต่ทว่า ส่องไฟไปรอบตัวจนทั่วแล้ว ก็ไม่พบสิ่งใดๆ มีแต่ความมืดของราวป่า..กรหันหลังจะเดินกลับ ก็เห็นน้อยเดินตามมาสมทบ

“เฮ๊ย ไหงเดินมาเยี่ยวไกลจังฟระ มีอะไรหรือ “ ...น้อยถามด้วยความแปลกใจ

“อืมม ไม่มีไรหรอกหวะ เดินเล่นเลาะริมตลิ่งมาเรื่อยๆน๊ะ” กร ยิ้มแล้วเดินกลับไปแคมป์
C/F 3




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

คชไพร จาก คชไพร 58.11.59.165 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 14:42  IP : 58.11.59.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61306

คำตอบที่ 17
       B/F 3

เหลือบมองนาฬิกา เวลาเดินไปจนเกือบสี่ทุ่ม.. ฟ้านั่งหาวปากกว้าง อุ๋ยเอนนอนอยู่หน้าประตูเต้นท์

“ไปนอนเถาะสาวๆ ดึกแล้วเพลียมาทั้งวัน” น้อยว่า
แต่ละคนก็แยกย้ายกันไป อุ๋ยขยับฟลายชีตที่กางไว้เหนือเปลของตัวเองกับเปลของฟ้าให้ตึง
ราตรีเข้านอนในเต้นท์ เหลือกร กับน้อยที่นั่งจุดบุหรี่สูบอยู่ข้างกองไฟ..
เมื่อสิ้นเสียงคนคุยกัน เสียงของป่าก็ชัดเจนขึ้น เสียงน้ำตกกระทบหินด้านล่าง ดังซ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยู่ข้างหลัง
เสียงหรีดหริ่ง ร้อง กรีดๆๆๆๆๆ อยู่รอบๆและลึกไปในแนวป่า เสียงลมกระโชกใบไม้เป็นครั้งคราวดังซ่าๆๆๆ ทุกอย่างแลดูปรกติดี

กรคุยกับน้อย ว่าวันรุ่งขึ้นเราจะเดินตัดออกทางไหนดี น้อยดีดก้นบุหรี่ทิ้งลงกองไฟ เสียงสาวๆเงียบไป คงหลับกันหมดแล้ว
ขยับเอาฟืนท่อนใหญ่วางขวางกลางกองไฟ ขณะที่นั่งคุยกันเพลินๆ ชายหมุ่มทั้งสองคนก็พลันต้องหยุดคุย
แล้วหันหน้ามองกันด้วยอาการ ฉงนและแปลกใจ

“ฮิๆๆๆๆ คริๆๆๆๆๆๆ เอิ๊กอ๊าก..” ....เสียงชัดมากเลยทีเดียวคราวนี้ น้อยมองหน้ากร ด้วยแววตาที่คงจะเข้าใจว่าเมื่อครู่ กรเดินไปทำอะไรมา...
ทั้งคู่ไม่พูดอะไรต่อ นั่งฟังเสียงนั้นลอยมาตามลม เสียงหญิงสาว หัวเราะกันคริกๆ ประมาณหนึ่งกำลังลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน..!!!!!????

เมื่อเขี่ยฟืนจนไฟลุกโชนดี น้อยพยักหน้า “ไป เข้านอนดีกว่าเว้ยกร อย่าไปสนใจอะไรมัน “
กรพยักหน้า แล้วมุดเต้นท์ตามราตรีเข้าไป น้อยคว้าถุงนอน ปีนลงเปลไป
สาวๆทั้งสามคนหลับสนิทไม่รู้สึกรู้สาอะไร คงเพราะด้วยความอ่อนเพลีย......กร รูดซิปปิดเต้นท์เฉพาะมุ้ง
แต่เปิดประตูเต้นท์ทิ้งไว้ มองลอดออกไปก็จะเห็นกองไฟอยู่ตรงหน้า ลุกโชนอยู่ตรงกลางทางด่านเล็กๆที่ลึกหายไปในแนวป่า
ทางด้านซ้ายของเต้นท์เลยขึ้นไปทางต้นน้ำเป็นเปลของน้อย ทางด้านขวาเป็นเปลของฟ้าและอุ๋ยถัดจากเปลทั้งคู่ไป
เป็นแนวไม้หนามหนาทึบยากที่ตัวอะไรจะลอดเข้ามาได้ หัวนอนเต้นท์เป็นต้นยางใหญ่ และติดกับเต้นท์คือเปลอีกใบที่ราตรีผูกไว้นอนเล่น

เสียงปริศนาในป่าลึกยามดึก แม้จะรวบรวมสติไม่ปล่อยให้จิตใจตกอยู่ใต้ความหวาดกลัวก็ตาม
แต่ เศษเสี่ยวของความรู้สึกย่อมอดที่จะหวาดหวั่นเสียขวัญไม่ได้ ก่อนนอนกรจึงรวบรวมสมาธิ สวดมนต์บอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าท่าเจ้าทุ่ง
ขอให้คุ้มครองให้ปลอดภัยจากพยันอันตรายต่างๆ
กร ก้มลงกราบ และล้มตัวลงนอน เคลิ้มๆจะหลับๆหูก็แว่วได้ยินเสียง หัวเราะ คริกคักแว่วมาจากต้นน้ำอีกแล้ว
พยายามทำใจไม่สนกับเสียงเหล่านั้น นอนฟังจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ด้วยเพราะความอ่อนล้า....
ความ รู้สึกของกร เหมือนทีวีโดนถอดปลั๊ก ทุกอย่าง..ดับ....เงียบสนิทไป.................และ............จู่ๆกร ก็สะ ดุ่งโหยง!!!ตื่นขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงพรึบพรับๆ มาจากเปลนอนของน้อย ลุกขึ้นมองลอดออกไป เห็นน้อยส่องไฟวูปวาปไปรอบๆเปลนอนอยู่พักแล้วก็ดับไฟ
เมื่อเห็นน้อยเงียบไปในใจก็นึกว่าคงไม่มีอะไร จึงจะล้มตัวนอนอีกหน ยังไม่ทันจะหลับก็พลันก็สะดุ่งโหยงอีกเมื่อ น้อยลุกพรวดพราด
ส่องไฟวูปวาปอีก ส่องไปรอบๆเปลนอน..แต่ครั้งนี้ น้อยไม่นอนต่อแล้ว ลงจากเปล มานั่งใส่ฟืน จุดบุหรี่สูบอยู่ใกล้ๆกองไฟ....
กร เหลือบมองนาฬิกา เป็นเวลาเกือบๆใกล้จะตี4 จึงเปิดเต้นท์ออกไปถามน้อยว่า “มีอะไรหรือน้อย ”
น้อยหันกลับมามองตาด้วยสีหน้า งงๆ
“ไม่มีอะไรหรอก เราสะดุ่งตื่นก็เลยลงมาใส่ฟืนเพิ่มน๊ะ นายนอนต่อเถอะ”

พอดีกับจังหวะที่ราตรีก็ตื่นขึ้นมาพอดี กับอาการงัวเงียๆ
“ กร มีอะไรเหรอ ......อูยยส์ เจ็บหลังจังอะ พื้นมันไม่เรียบ ไม่เอาไม่นอนพื้นแล้ว เดี๋ยวเค้าไปนอนต่อในเปลดีกว่า ”
พูดจบราตรีก็ออกไปลงนอนในเปลอีกใบข้างๆเต้นท์......น้อยหันมาบอกว่า
“ ไปกร ไปนอนต่อๆเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงเดิน เราก็จะไปนอนต่อเหมือนกัน “
ขณะเดียวกับอุ๋ยก็รูดซิปมุ้งเปลโผล่หัวออกมา
“ อาวว !!!ตื่นกันแล้วเหรอ???? “
น้อยว่า “นอนต่อเถอะน้องสาว อีกนานกว่าจะเช้า”
ทุกคน กลับลงนอนต่อในที่ของตนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ กร รู้สึกแปลกๆกับป่า เสียงทุกๆสิ่งพลันเงียบงัน
หรีดหริ่งเรไรที่เคยร้อง ก็เงียบหาย ลมสงบ ทุกอย่างนิ่งสนิท เมื่อราตรีออกไปนอนในเปลแล้ว กรก็นอนในเต้นคนเดียว
จึงเปลี่ยนทิศหัวนอน เป็นนอนขวางเต้นท์เอาหัวไปทางธารน้ำ เพื่อที่จะได้นอนมองออกไปเห็นด้านนอกได้เด่นชัด
ทุกสิ่งยังเงียบ มองออกไปเห็นแสงวูปวาปจากกองไฟตกกระทบ ต้นไม้ วูปไปมา
มองไปทางปลายเท้าเห็น เปลอุ๋ยแกว่งไปมา อุ๋ยที่เพิ่งตื่นเมื่อครู่ คงนอนเต็มอิ่มยังไม่หลับต่อ นอนชันเข่า โยกขาไปมาตามประสา...

กรนอน มองสิ่งต่างๆเพลินๆ ท่ามกลางความเงียบ จู่ๆหูก็ได้ยินเสียง ซวบๆ ดังมาจากทางหัวนอนที่เป็นแอ่งน้ำถัดจากลานหินที่สาวๆไปนอนเล่นเมื่อตอนหัวค่ำ

C/F 4




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

คชไพร จาก คชไพร 58.11.59.165 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 14:55  IP : 58.11.59.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61309

คำตอบที่ 18
       B/F 4

เสียงดังเหมือนมีฝีเท้าย้ำลงและลากผ่านน้ำ ย่ำดัง จ๊อม จ๊อม เหมือนคนเดินย่ำน้ำข้ามมาจากฝั่งโน้นดังไปตามฝีก้าวของเท้าเดิน..
ในใจนึกไป ใครฟ๊ะกำลังเดินข้ามน้ำใกล้เข้ามา หรือเป็นพวกพรานเถื่อนแอบมายิงสัตว์หรือเปล่า?????

ตกใจกับการมาของเสียงปริศนาจากลำธารที่ใกล้เข้ามาจนแทบมาถึงที่ข้างเต้นท์!!!
ความเป็นห่วงคนที่นอนอยู่ในเปลด้านนอก พลันกรจะลุกขึ้นเพื่อเรียกน้อย ที่มีปืนอยู่ใกล้ตัว

แต่ทว่า!!! เฮ้ย!!!มันกลับลุกและขยับตัวไม่ได้เลย????เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ตะคริวก็ไม่ได้เป็นซะหน่อย

กร ตกใจมาก พยายามที่จะร้องเรียกน้อยและราตรีที่นอนอยู่ใกล้ๆ แต่กลับกลายว่าไม่สามารถจะตะโกนออกไปได้
ทุกอย่างตอนนั้นมันตกใจกลัวมาก มันทรมานจริงๆกระดิกกระเดียวตัวก็ไม่ได้แม้แต่น้อยพูดก็พูดไม่ออกพูดไม่ได้
ได้แต่กรอกตามองออกไปนอกเต้นท์ ยังเห็น อุ๋ยนอนชันเข่าขยับขาอยู่ในเปลเหมือนเมื่อครู่....
เหลือบมองไปที่น้อย ก็นอนอยู่ในเปลปรกติดี ..พลันเสียวหนึ่งของความคิดนึกขึ้นได้ว่า รึนี่เราคงโดน “ ผีอำ “

ทุกขณะ....พยายามที่จะดิ้นและขยับตัว แต่ก็ไม่สามารถกระดุกกระดิกใดๆได้
เมื่อเหลือบตากลับมามองไปบนหลังคาเต้นท์ ก็ต้องตกใจแทบช๊อก!!!!
เพราะกร เห็นควันสีดำ เป็นรูปร่างคนตัวสูงใหญ่ ยืนเอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนหน้าอกของกร
จิตใต้สำนึกของกรตอนนั้น สรุปได้ทันทีว่า นี่หละคือที่มาของเสียงเดินเมื่อครู่

สับสน กลัว และตกใจ เพิ่งรู้ว่า ผีอำ มันช่างน่ากลัวจริงๆ รวบรวมสติได้ จึงหลับตาและเริ่มสวดมนต์
นะโมตัสสะฯ...ก็แล้ว อิติปิโสฯ ก็แล้ว บทไหนๆที่ท่องได้.... ทุกบทสวดได้ถูกนำมาสวดจนหมด
ในใจก็วิงวอนร้องขอ สิ่ง ที่ยืนเหยียบหน้าอกตนอยู่นั้น ให้ปล่อยเสียทีเถิด กลับไปจะทำบุญไปให้.......

ทำทุกวิถีทางทั้งวิงวอน ทั้งขอร้องก็แล้ว ร่างสีดำนั้นก็หาที่จะเลิกราไม่ มันเป็นช่วงที่ทรมานสุดๆของกร
เหลือบตากลับไปมองด้านนอก กองไฟยังคงรุกโชน ทุกคนปรกติดี อุ๋ยยังนอนขยับขาไปมาอยู่อย่างเมื่อครู่...

กร ยังดิ้นรนขัดขืน สวดมนต์ ขอร้อง ทำหลายๆอย่างที่จะนึกได้แต่อย่างก็ไม่เป็นผล ยังขยับเขยื่อนตัวไม่ได้อยู่ดี
จากความกลัว ก็เปลี่ยนเป็นความโมโห เป็นไงก็เป็นกัน กรนึกในใจ เพราะพูดออกมาไม่ได้

“ ไอ้(จุดๆๆๆ)... ไอ้ผีเวร กูขอร้องเมิงดีๆแล้วน๊ะ เมิงก็ยังไม่เลิกรากับกูอีก ทีนี้หละ ถ้าเมิงยังไม่เลิกเหยียบกูไว้
กูจะแช่งเมิง จะขอแช่งให้เมิงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ไอ้.(จุดๆๆๆ)..... เมิงจะปล่อยกูไหม”

เท่านั้นเอง ควันสีดำทมึน ที่เป็นรูปร่างคนซึ่งยืนเหยียบอกกรอยู่ ก็แตกออกเป็นควันฟุ้งกระจาย แล้วจางหายไปต่อหน้าต่อตา
ทันทีกร ขยับตัวได้ ไม่รอช้ารีบผุดพรวดออกมาจากเต้นท์ทันที..นั่งหอบหน้าซีด.ทุกคนตกใจ ลุกขึ้นพรวดพลาดออกมาจากเปล

“กรเป็นอะไร” น้อยถามขณะที่ทุกๆคนนั่งล้อมกรที่กำลังหอบ เหงื่อไหลนองเต็มตัว
“ ผีอำ ว๊ะ “

ราตรีรินน้ำมาให้กรกิน กรเรื่มหายเหนื่อยและหายตกใจ...มาจนถึงขั้นนี้ คงจะปิดบังไม่ได้แล้ว แม้จะกลัวน้องๆหวาดกลัวก็ตาม

“ เมื่อหัวค่ำ ได้ยินเสียงคนเล่นน้ำ ตอนที่สาวๆนอนแล้ว พี่กับน้อยก็ได้ยินอีก
และเมื่อกี๋นี้ตอนเข้าไปนอนได้ยินเสียงคนเดินย่ำน้ำข้ามมา แล้วก็โดนมันเหยียบอกเอาไว้ กระดุกกระดิกไม่ได้เลย
พยายามจะตะโกนเรียกแต่ก็ร้องไม่ออก ยืนยัยน๊ะ ว่าไม่ได้ฝันไปแน่ เพราะที่แยกกับน้อยเข้าเต้นท์ไป ยังไม่ทันหลับแน่
ยังนอนมองอุ๋ยนอนเขย่าขาอยู่ในเปลเลย ”

สาวๆมองไปรอบๆตัว แล้วหันมามองหน้ากัน..แบบหวาดๆและ ตื่นตระหนก......น้อยว่า
“ใจเย็นๆอย่าตระหนกใจกลัวไปเลย เรามานั่งรวมกันตรงนี้หละ ใกล้จะสว่างแล้ว
ไอ้ตอนที่กรเห็นเราส่องไฟไปรอบๆเต้นท์แล้วลงมานั่งสูบบุหรี่....นั่นหละ มันมาเดินอยู่รอบๆเปลเรา
ทีแรกนอนๆอยู่ได้ยินเสียงฝีเท้าคนก็ตกใจ ลุกขึ้นมาส่องไฟดูก็ไม่มีอะไร พอลงนอนต่อมันก็เอาอีก ได้ยินเสียงเดินรอบๆเปลเรา
นอนฟังอยู่นานจึงลุกขึ้นมาส่องไฟอีกหน แต่ก็ไม่มีอะไร มันกวนกันแบบนี้นอนไม่ไหว ก็เลยลงมาสูบบุหรี่นี่หละ
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนไปเล่นงานกรแทน...เออ!!! ทางใครก็ทางมันซิ จะมารบกวนกันทำไมน้อ..”
กร พอคลายจากอาการเหนื่อยและตกใจ ตั้งสติได้ก็หยิบหม้อสนามมาต้มน้ำ
“ เฮออ!!..ต้มกาแฟกินกันดีกว่า .เขาไปแล้วก็อย่างที่น้อยว่า ทางใครทางมัน น๊ะ
...แต่นี่ เราอาจไปขวางทางเขาเขาโดยไม่ได้ตั้งใจดูกองไฟเราซิ จุดก่ออยู่กลางทางเชียว จะใช่หรือไม่จะด้วยเหตุใดก็ตามที
ที่เขามารบกวน เราก็ไม่อาจรู้เหตุผลได้ ก็ยังดีที่เขาไม่ไปกวนน้องๆเข้า ”

พูดจบกรก็ยกมือพนม
“ หากการกระทำสิ่งใดๆ ที่กระผมและทุกคนทำนั้น เป็นการไปล่วงเกินท่าน ก็คงจะเกิดขึ้นด้วยความไม่ได้ตั้งใจ
มิได้มีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่นแต่อย่างใด ขอได้โปรด อโหสิกรรมให้แก่กันด้วยเถิด กลับไปพวกเราจะทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลมาให้ ”
ทุกๆคนก็ยกมือไหว้ท่วมหัว แล้วว่า “สาธุ”

ไม่นาน เสียงนกก็เริ่มร้องมาจากยอดไม้ เสียงชะนีร้องมาแต่ไกลๆ ป่ามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
แสงแห่งวันใหม่เริ่มจับสว่างใสที่ขอบฟ้าไกลๆ ทุกคน มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่ไม่มีใครเคยคาดคิดถึงมาก่อน
เกิดขึ้นแบบไม่น่าจะเป็นไปได้ ผ่านไปเหมือนเป็นเพียงความฝัน
แต่ที่แน่ๆ มันคือความจริง ความจริงที่ใครฟังเข้าก็คงไม่เชื่อ
คงหาว่าเราเหนื่อยอ่อน จนหูแว่ว นอนฝัน นอนละเมอไปเอง....................
ก็สุดแท้แต่ว่า ใครจะเชื่อหรือไม่ ..........อย่างไร


หรือจนกว่าซักวัน คุณ อาจเป็นอีกคนก็ได้ ที่จะเจอประสบการณ์ลีลับแบบนี้ด้วยตนเอง...



บรื้อออออออส์ // ในทริปเคยเจอแต่เค้ามาดีครับ
จาก : กระต่ายขี้เมา(pudam1) 19/9/2554 19:26:43 [58.8.166.13]
.. จึ๋ย... นู๋กลายเป็น ..แม่ ราตรี..ไปตั้งกะ เมื่อไหร่ ฟร่ะ เนี่ย ..55
จาก : พังพลาย(bjaiting) 19/9/2554 23:41:15 [202.94.100.195]
ว๊าว ตื่นเต้นๆค่ะ แต่ป้าแอ๋วเสียวทากเป็นกระจุกน่ะค่ะ
จาก : sumalee k.(sumalee k.) 20/9/2554 0:06:09 [27.130.139.67]
ตื่นเต้นจัง เล่าได้เยี่ยมมากครับ บรือออออส์..
จาก : hmu(hmu) 20/9/2554 5:07:11 [118.172.240.138]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

คชไพร จาก คชไพร 58.11.59.165 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 15:58  IP : 58.11.59.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61326

คำตอบที่ 19
       คิดดี พูดดี ทำดี เสียอย่าง ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ครับ
เรื่องเล่านี้ ถือเป็น เรื่องเขย่าขวัญสนุกๆ นะครับ
ท่านอื่นๆ ที่ชอบแค้มปิ้งไม่ต้องหวั่นกลัวอะไร
ผมนอนอุทยานเต๊นท์เดียวมาแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ
ฟ้าใส นอนนับดาว สวยออกครับ
ออกมาเที่ยวกันนะครับ ฝนจะหมดแล้ว อากาศจะดีเรื่อยๆ ครับผม



ถูกต้องคร๊าบบ
จาก : กระต่ายขี้เมา(pudam1) 19/9/2554 19:27:14 [58.8.166.13]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tiksantana จาก Santana 115.87.106.227 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 19:17  IP : 115.87.106.227   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61421

คำตอบที่ 20
       ผมก็เคย..โดดเดี่ยวครับ..น้าติ๊ก..





เหงาเลย
จาก : กระต่ายขี้เมา(pudam1) 20/9/2554 5:37:18 [58.8.2.223]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Disco_Tang จาก Disco Tang 124.120.122.180 จันทร์, 19/9/2554 เวลา : 23:01  IP : 124.120.122.180   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61446

คำตอบที่ 21
       เล่าเรื่องได้ดีมาก อ่านตามได้อารมณ์ ขนลุกตลอดเลย น้องจีนฟังไปจินตนาการไป สนุกเชียว นอนกลางคืนกลัวต้องมานอนกับพ่อเลยอะ น้าคชไพรตั้งใจบรรยายมาก เขียนหนังสือได้เลยนะเนี้ย สุดยอดครับ ไม่ธรรดา มีอย่างนี้เอาอีกนะครับ

เรื่องเจ้าที่เจ้าทาง จ้าวป่าจ้าวเขา เนี้ยเป็นของที่เราต้องให้ความเคารพ เมื่อไปเยือนหรือไปขออาศัยนอนกัน ไหว้สักนิดก่อนนอน และดูให้ดีเรื่องที่ ทางที่เราจะนอน เราอาจไปรบกวนท่านรุขเทวดาที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนั้นได้ ในสมัยพุทธกาลองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้ให้คาถา "กรณียเมตตาสูตร" กับพระภิกษุสงฆ์ เมื่อต้องออกไปอยู่กลางป่า ที่ไปปักกรดใต้ต้นไม้ เทวดาท่านอยู่บนต้นไม้ พระถือศีลมากกว่า ทำให้เทวดาอยู่ไม่ได้ต้องลงมาแกล้งหรือทำให้พระองค์นั้นต้องย้ายไปปักกรดที่อื่นแทน แนะนำให้ทุกท่านสวดหรือหามาไว้ติดตัวนะครับ เป็นมงคลคาถาที่เทวดาท่านชอบมากๆ เมื่อผู้ใดสวดหรือภาวนา จะมาฟังกันและร่วมอนุโมทนาบุญด้วย (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาน)

 แก้ไขเมื่อ : 20/9/2554 7:55:51



คุณจังโก้ มีความเชื่อคล้ายๆผมครับ หุๆๆ
จาก : คชไพร(คชไพร) 20/9/2554 10:23:06 [58.9.235.200]
ยังไงก็ขออภัยด้วยครับ หากเรื่องที่เล่าไปก่อให้เกิดความกลัวนะครับ
จาก : คชไพร(คชไพร) 20/9/2554 10:31:25 [58.9.235.200]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จังโก้ป่า3 จาก จังโก้ป่า3 110.169.252.10 อังคาร, 20/9/2554 เวลา : 07:53  IP : 110.169.252.10   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61504

คำตอบที่ 22
       จริงครับอย่างที่ท่านจังโก้บอก...เราต้องให้ความเคารพสถานที่และบอกกล่าวขอขมาเจ้าที่เจ้าทางครับ
เรื่องที่ท่านคชไพรเล่ามานั้นผมเชื่อครับ...แต่คงเพราะไปตั้งแคมป์ขวางทางเขาเต็มๆเขาเลยมาทักทายแบบเบาๆ
นี้ขนาดมีการบอกกล่าวแล้วนะครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

qap จาก tt02 58.9.200.229 อังคาร, 20/9/2554 เวลา : 08:08  IP : 58.9.200.229   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61508

คำตอบที่ 23
       ผมนอนเต๊นเดียวประจำตามอุทยานใหม่ๆหรือไม่ใช่หน้าเทศกาล ใจจริงก็ใจหวั่นๆเหมือนกัน แต่ต้องไม่แสดงอาการให้แฟนเห็น เดี๋ยวจะไม่ได้นอนกันทั้งคืน หุ หุ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rk06538 จาก หนุ่มพเนจร 61.47.113.80 อังคาร, 20/9/2554 เวลา : 08:30  IP : 61.47.113.80   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61512

คำตอบที่ 24
       สำหรับครอบครัวป้าแอ๋วเรามี"หลวงปู่ทวด"ไปกับเราทุกที่ค่ะทั้งในรถและแขวนคอ เพราะลูกหลานที่พกหลวงปู่ติดตัวติดรถไม่เคยมีใครเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุค่ะ ก่อนขับรถสู่โลกกว้างก็จะมีท่องคาถาสวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนค่ะ...คงจะเป็นอุบายของพระพุทธศาสนาที่ให้เรามีสติทุกเมื่อ แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยผ่านไปด้วยดี....





เห็นกระดาษที่แปะหน้าพวงมาลัยมั้ยคะ?นั่นเป็นคาถาก่อนขับรถค่ะ อิอิ
จาก : sumalee k.(sumalee k.) 20/9/2554 9:26:32 [27.130.151.183]
จริงครับตามคำบอกเล่า หากมีหลวงปู่ทวดพกไว้ จะไม่มีการสูญเสียตามที่คุณแอ๋วกล่าวไว้ครับ
จาก : คชไพร(คชไพร) 20/9/2554 10:34:54 [58.9.235.200]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sumalee k. จาก แอ๋ว 27.130.151.183 อังคาร, 20/9/2554 เวลา : 09:25  IP : 27.130.151.183   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61520

คำตอบที่ 25
       สิ่งนี้ที่ผมแขวน..ติดตัวตลอด..





โอโห ตะกรุดใช่ไหมครับ คู่เลยครับ
จาก : คชไพร(คชไพร) 21/9/2554 8:16:58 [58.11.17.159]
ใช่แล้วครับ..น้า
จาก : Disco_Tang(Disco_Tang) 21/9/2554 11:05:53 [110.168.126.47]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Disco_Tang จาก Disco Tang 110.168.126.47 พุธ, 21/9/2554 เวลา : 00:28  IP : 110.168.126.47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61844

คำตอบที่ 26
       อีกองค์เทพที่แขวน..ติดตัวตลอดครับผม..





ผมเกิด มิถุนายน เคารพองค์ พิฆเนศวร์ครับผม
จาก : tiksantana(tiksantana) 28/9/2554 0:30:37 [223.206.199.49]
งาหรือหินอ่อนครับ สวยมากครับ
จาก : tiksantana(tiksantana) 28/9/2554 0:31:14 [223.206.199.49]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Disco_Tang จาก Disco Tang 110.168.126.47 พุธ, 21/9/2554 เวลา : 00:34  IP : 110.168.126.47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61847

คำตอบที่ 27
       ก่อนนอนยกมือไหว้นิดหนึ่ง นอนรวมกันเข้าไว้ อบอุ่น ไม่แสดงอาการให้คนอื่นรู้.....ความคิดส่วนตัวค่ะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noobanlaem จาก ปลาไส้ตัน 58.9.212.82 พุธ, 21/9/2554 เวลา : 08:57  IP : 58.9.212.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61988

คำตอบที่ 28
       .........ผมขอแจมมั่ง เรื่องไปแค๊มป์ แล้วเจอเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้ ผมก็เคยมีประสพการณ์ตรงเหมือนกัน อ่านเรื่องราวของท่าน คชไพรแล้ว
......ผมเองก็ขนลุกซู่เลย ผมเชื่อครับเรื่องแบบนี้ อย่าลบหรู่ นะครับ เจอกันมานักต่อนัก ..... ผมเองที่เจอมา ไม่ได้เจอในป่าลึก
......หรือดงดิบที่ไหน เจอในที่ท่องเที่ยว ยอดนิยมของชาวแค็มป์นี่แหละ ผมเชื่อว่า หลายท่าน คงเคยไปสถานที่แห่งนี้มาแล้ว
...... ถ้าผมบอกไปหลายท่าน ต้องร้อง .. เฮ้ย !! ที่นี่มี...... ด้วยเหรอ จริงครับ ผมเชื่อว่ามีจริง
...... สถานที่แค็มป์ปิ่งยอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่ผมไปเจอประสพการณ์ อันชวนชนหัวลุกนี้ คือ .... ."แก่งกระจาน"
...... ท่านอยากจะฟังต่อป่าวครับ ถ้าอยากฟัง ผมต้องขออนุญาติ ท่น คชไพร ด้วย กลัวผิดประเด็น เดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้ ขนหัวลุกไปซะฉิบ



ฟังครับ รออย่างตั้งใจ
จาก : กระต่ายขี้เมา(pudam1) 21/9/2554 11:12:08 [115.31.140.105]
รอมาจะ 24 ชม. แล้วนะครับ แง ๆ
จาก : ปูดำ / กระต่ายขี้เมา(pudam1) 22/9/2554 7:19:45 [58.8.100.143]
หุๆๆ จัดเลยพี่
จาก : คชไพร(คชไพร) 22/9/2554 8:52:21 [58.9.153.117]
รอด้วยครับ..
จาก : tt02(qap) 22/9/2554 9:02:46 [61.90.86.5]
จัดเลยน้าจันผา คอยฟังครับ เอ้า เหล้ามา..โซดาพร้อม อิอิ..
จาก : hmu(hmu) 22/9/2554 9:44:51 [118.172.242.53]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จันผา จาก จันผา 182.53.65.90 พุธ, 21/9/2554 เวลา : 10:48  IP : 182.53.65.90   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 61998

คำตอบที่ 29
       ผมก็มีองค์นี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวเหมือนกันครับ.....ไม่ได้กวนนะครับ.....





โอ้วแจ่มเล่นองค์ใหญ่เลยนะครับ ฮาๆๆๆ
จาก : จังโก้ป่า3(จังโก้ป่า3) 21/9/2554 22:26:08 [124.122.108.73]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

k.bangmod จาก k.บางมด 61.90.67.244 พุธ, 21/9/2554 เวลา : 20:10  IP : 61.90.67.244   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 62070

คำตอบที่ 30
       สิ่งยึดเหี่ยวจิตใจแต่ละท่าน น่าเลื่อใสจริงๆครับ บางอย่างผมก็เพิ่งทราบและรับรู้คราวนี้เอง เช่นของพี่หมูน่าศรัทธามาก
พระองค์แรกของชีวิตเราจริงๆครับ..และก็ของทุกๆท่านที่ร่วมแจมด้วย ขอบคุณมากครับที่มาร่วมแชร์โลกทัศน์ในเรื่องเหล่านี้ให้กว้างขึ้น

ส่วนเรื่องราวที่กระผมเล่านั้น ไม่ได้มุ่งหวังแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกกัน แต่มันคือประสพการณ์จริงของน้องๆที่มีตัวตนจริงอยู่ในห้องนี้หละครับ
เรื่องราวที่เล่า มิได้มีเจตนาจะเล่าแล้วทำให้เกิดความกลัว จนมิกล้าออกไปท่องเที่ยวในโลกกว้างแต่อย่างใด
แต่เจตนาคือ เล่าเพื่อให้"เรา"ในฐานะ"ผู้ไปเยือน"ได้ปฎิบัติตนให้ถูกทางเหมือนดังที่พี่จังโก้ป่าได้กล่าวไว้ใน คต.ที่21
เพราะนักท่องเที่ยว ที่เริ่มแคมป์ เริ่มออกสู่โลกกว้างที่ยังเป็นหน้าใหม่ อายุยังน้อยประสพการณ์ยังไม่มาก จะได้รับรู้แนวๆว่า
บางสิ่งหากเราปฎิบัติดี ทำตัวถูก ทำตามวัฒณธรรมของชาวพุทธที่สืบทอดกันมา ผมว่าก็ไม่เสียหายอะไร และก็เที่ยวได้อย่างสนุกและมั่นใจสบายใจ
สำหรับผมเรื่องพรรนี้ ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะหยิบยกนำมาเป็นหัวข้อพูดคุยครับ ผมจึงขออาสาเอง ด้วยเหตุผลง่ายๆที่อาจจะถูกมองว่า"งมงาย"
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนตัวของแต่ละบุคคลครับ

พี่จันผาครับ จัดเลยครับพี่ หวังว่าคงไม่เจอบริเวณเดียวกัน แบบเดียวกันน๊ะพี่



ไม่งมงายหรอกครับ เป็นอีกมุมนึง // รอเรื่องราวต่อไปครับ
จาก : ปูดำ / กระต่ายขี้เมา(pudam1) 22/9/2554 9:09:39 [58.8.100.143]
เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอไม่รู้ แต่ผมเชื่อ 99% เลยครับ
จาก : โก๋ 56(KONI) 23/9/2554 19:40:17 [58.11.36.135]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

คชไพร จาก คชไพร 58.9.153.117 พฤหัสบดี, 22/9/2554 เวลา : 08:50  IP : 58.9.153.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 62183

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,18 เมษายน 2567 (Online 2502 คน)