WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ภาพเก่าๆ หลากหลายสถานที่
sriwit
จาก ลุงแมว
IP:115.67.181.93

พฤหัสบดีที่ , 17/3/2554
เวลา : 21:01

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ยีราฟ หน้าร้านกาแฟสด ปี 2551 ปั๊ม ปตท พังงา






น่ารักจังน่าฟัดขอยืมไปฟัดซะ 3 วันได้มั๊ย
จาก : Pumy(Pumy) 18/3/2554 8:52:43 [183.89.14.204]
รออยู่ตั้ง 10 วันแล้วยังไม่มีใครแย่งคงต้องยกให้ป้าปูมี้ 3 วันตามที่ขอแล้วหละ 555
จาก : sriwit(sriwit) 27/3/2554 22:36:18 [1.47.145.228]
ขอบคุณค่ะพามานอนกับพี่หวายซะ 3 วัน ตกลง OK
จาก : lungnid(lungnid) 28/3/2554 21:59:55 [125.27.43.219]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  

คำตอบที่ 121
       ผมชอบไปที่นี่





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.79.210 จันทร์, 16/5/2554 เวลา : 18:25  IP : 180.180.79.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30901

คำตอบที่ 122
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.79.210 จันทร์, 16/5/2554 เวลา : 18:26  IP : 180.180.79.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30902

คำตอบที่ 123
       มุมที่ชอบที่สุดคือ ตรงนี้ครับ ชอบมานั่ดูคนเก่งๆเขาเล่นกันเคยดูนานที่สุดร่วมๆ 6 ชั่วโมง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.79.210 จันทร์, 16/5/2554 เวลา : 18:29  IP : 180.180.79.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30930

คำตอบที่ 124
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.79.210 จันทร์, 16/5/2554 เวลา : 18:40  IP : 180.180.79.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30931

คำตอบที่ 125
      





ขอบคุณเจ้าของรูปครับ
จาก : sriwit(sriwit) 16/5/2554 18:44:47 [180.180.79.210]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.79.210 จันทร์, 16/5/2554 เวลา : 18:40  IP : 180.180.79.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30932

คำตอบที่ 126
       เทือกเขาหลวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช





ว๊าววว จริงหรือเนี่ย...
จาก : sumalee k.(sumalee k.) 17/5/2554 23:49:53 [124.121.168.3]
คงต้องไปพิสูจน์เองครับ
จาก : sriwit(sriwit) 19/5/2554 7:01:22 [118.173.68.230]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.79.210 จันทร์, 16/5/2554 เวลา : 18:48  IP : 180.180.79.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30934

คำตอบที่ 127
       โรงพยาบาลธรรมชาติ หัวจรดเท้ารักษาเองได้ก่อนไปหาหมอ
๑. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
๒. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้
๓. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกิน กระเทียม หอม พริกให้มากเข้าไว้
๔. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี)
๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
๖.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน
๘.ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง
๙. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)
๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ
๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น
๑๒.โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก
๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย
๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้
๑๕.หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า
๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมมาก) มะม่วงจิ้มกะปิ และ สับปะรด ซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มาก( แมงกานีส)
๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด
๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย
๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย
๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น
๒๓.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และ กินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 118.173.68.230 พฤหัสบดี, 19/5/2554 เวลา : 07:03  IP : 118.173.68.230   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31415

คำตอบที่ 128
       รวม 8 โรคฮิต! ที่ 'คุณพ่อนักบริหาร' ต้องรู้เท่าทัน



คงจะปฏิเสธได้ยากว่า หนึ่งในอาชีพจุดอ่อนที่ถูกโรคร้ายคุกคามได้ง่าย คงหนีไม่พ้นนักธุรกิจ นักบริหาร รวมไปถึงครอบครัวที่มีธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากต้องเผชิญกับความเครียด และความเสี่ยงไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งส่วนใหญ่ ผู้ชายจะเป็นมากกว่าผู้หญิง นั่นหมายความว่า บุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ถูกรุมรังแกจากโรคมากที่สุดในบ้าน เห็นทีจะหนีไม่พ้นคุณพ่อ เส้นเลือดใหญ่ที่ต้องแบกความรับผิดชอบ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวให้อยู่ดีมีสุข จนละเลยสุขภาพของตัวเอง

กับประเด็นดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องสำคัญ ที่ทางโรงพยาบาลกรุงเทพเห็นว่า อาชีพกลุ่มเสี่ยงนี้ จะต้องรู้เท่านั้น และบริหารชีวิตไม่ให้เครียดจนเกินไป ดังนั้นจึงได้รวบรวมข้อมูลอันดับโรคที่มักคุณพ่อนักธุรกิจ หรือนักบริหารเป็นมากที่สุด ซึ่งโดยหลักๆ แล้วมีด้วยกัน 8 โรค ซึ่งแต่ละโรคมีรายละเอียด และสัญญาณของอาการเตือนภัย ดังนี้

1. ความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูง ถือเป็นโรคมาแรงในกลุ่มผู้บริหาร เพราะต้องเผชิญต่อความกดดัน และความเครียดอยู่บ่อยครั้ง ทั้งลูกน้อง หรือคนใกล้ตัว ที่สำคัญโรคนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือหัวใจล้มเหลว

สำหรับสัญญาณเตือนของโรคดังกล่าวนี้ จะมีเสียงดังหวิวๆ หรือหึ่งๆ ในหู หรือได้ยินเสียงชีพจรในศีรษะของตัวเอง เวียนศีรษะ โดยเฉพาะตอนเปลี่ยนอิริยาบถ นอกจากนี้ยังรู้สึกได้ว่าใจสั่นบ่อย หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ขาบวม หงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ เหนื่อย และเพลียผิดปกติ ขอแนะนำให้พาตัวเองมาตรวจสุขภาพทันที

2. โรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะมีการอุดตันของเส้นเลือดที่นำอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองส่วนต่างๆ ส่งผลให้เนื้อสมองเสียหาย อยู่ในภาวะที่ทำงานไม่ได้ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ โรคสมองขาดเลือด เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และโรคเลือดออกในสมอง เกิดจากหลอดเลือดสมองแตก จากสถิติของประเทศไทยพบว่าอัตราการตายซึ่งมีสาเหตุมาจากสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 พบเป็นร้อยละ 6 (ข้อมูลจาก World Health Organization, 2002)




3. หลอดเลือดหัวใจตีบตัน

สำหรับโรคที่สาม คือ หลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคหัวใจขาดเลือด โรคนี้เป็นสาเหตุการตายสำคัญอันดับหนึ่งของไทย เกิดจากการตีบ หรืออุดตันของเส้นเลือดจากการสะสมไขมัน คอเลสเตอรอล ทำให้เส้นเลือดแดงไม่สามารถนำเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ตามปกติ

ดังนั้นใครที่มีอาการเจ็บหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับ หรือจุกแน่นลึกๆ บริเวณใต้กระดูกหน้าอก หรือหน้าอกด้านซ้าย มักเจ็บตอนที่เดินเร็ว ยกของหนัก หรือวิ่ง หรือเมื่อรู้สึกเครียดที่ต้องทำงานเร่งรีบ ประกอบกับความเครียด ต้องทานอาหารฟาสต์ฟูด ทำให้อ้วน ขาดการออกกำลังกาย เหล่านี้ล้วนแต่นำมาสู่ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

ส่วนใหญ่มักมีอาการเฉียบพลัน ทำให้ ตาพร่ามัว ปวดศีรษะ เฉียบพบันแบบไม่ทราบสาเหตุ แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก วิงเวียน หรือวูบแบบฉียบพลัน หากถึงมือแพทย์ช้า อาจเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตตลอดชีวิต

4. โรคกระเพาะอาหาร

ตามมาด้วย โรคกระเพาะอาหาร เป็นโรคระบบทางเดินอาหารขัดข้อง เนื่องจากกระบวนการที่อาหารผ่านไปนั้นทำงานผิดปกติ โรคนี้ถือเป็นโรคยอดฮิตในหมู่ผู้บริหาร เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มักจะต้องทำงานแข่งกับเวลา และเคร่งเครียดอยู่กับงานจนลืมที่จะรับประทานอาหาร หรือเกิดจากการดื่มสุรา สูบบุหรี่อย่างหนัก

พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารได้ทั้งสิ้น ส่วนใหญ่เมื่อกินอาหารเข้าไปประมาณ 30 นาทีถึง 3 ชั่วโมง ก็จะมีอาการปวดท้อง บางครั้งเมื่อรับประทานข้าวเสร็จก็ปวดท้องขึ้นมาในทันทีทันใด หรือปวดท้องก่อนรับประทานก็ได้ หรืออาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อยร่วมด้วย

5. โรคมะเร็งตับ

โรคมะเร็งตับ ถือเป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะเพศชายซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้มีอัตราเสี่ยงสูง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบ โรคพยาธิใบไม้ในตับ อะฟลาท็อกซินไนโตรซามีน ที่พบอยู่ในตัวยากันบูด ปลาร้า เนื้อแห้งโดยเฉพาะอาหารที่ใส่ดินประสิว ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือกรรมพันธุ์ เป็นต้น

อาการเริ่มแรกของโรคมะเร็งตับค่อนข้างคลุมเครือ บางรายอาจจะไม่เกิดอาการอะไร เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ทำงานไม่ค่อยไหว จุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืดอาหารไม่ย่อย บางรายเจ็บบริเวณชายโครงข้างขวา และอาจปวดร้าวไปที่ไหล่ข้างขวาหรือบริเวณลำตัวข้างขวาทั้งหมด ในระยะสุดท้ายจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง บางรายอาจมีน้ำในช่องท้อง ท้องมาน บวมที่ข้อเท้า


6. โรคเบาหวาน

ส่วนใหญ่ โรคเบาหวานมักเกิดได้ง่ายกับคนอ้วนหรือผู้ที่รับประทานอาหารประเภทแป้งมากเกินไป กรรมพันธุ์ รวมทั้งผู้ที่มีความเครียดอยู่ตลอดเวลาอย่างกลุ่มนักบริหาร เนื่องจากเมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนบางอย่างออกมาทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและจะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ในที่สุด โรคเบาหวานมักพบจากการตรวจร่างกายประจำปี โดยไม่มีอาการผิดปกติให้สังเกตเห็น

นอกจากอาการอ่อนเพลีย สมองมึนงง และถ้าตรวจว่าเป็นโรคเบาหวานแล้ว ต้องดูแลรักษากันตลอดชีวิตเพราะโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หาย แต่ถ้าปล่อยปละละเลยอาการของโรคจะกำเริบมากขึ้น อาการระยะเฉียบพลัน เช่นเกิดภาวะน้ำตาลต่ำกว่าปกติ หน้ามืด เหงื่อแตก ใจสั่น

ขณะที่ระยะเรื้อรัง จะพบอาการปัสสาวะบ่อย คอแห้งกระหายน้ำ ตาพร่ามัว สมรรถภาพทางเพศลดลง ความต้านทานโรคต่ำ ป่วยง่าย และมีโรคแทรกซ้อนในแบบอื่นๆเช่น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และระยะสุดท้าย จะพบเบาหวานลงไตอาจสูญเสียอวัยวะ เช่นเป็นแผลเรื้อรังที่เท้าจะต้องตัดทิ้ง


7. โรคถุงลมโป่งพอง

โรคถุงลมโป่งพองที่เกิดกับกลุ่มนักบริหาร มักจะเกิดกับผู้ที่สูบบุหรี่จัดเป็นเวลานานๆ หรืออยู่ในบริเวณที่มีควันบุหรี่เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน ส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป สัญญาณเตือนภัยของผู้ที่เป็นโรคถุงลมโป่งพอง จะมีอาการไอ เริ่มจากไอแห้งๆและมักไอมากตอนกลางคืนเวลาอากาศเย็นและตอนเช้าหลังตื่นนอน มีอาการเหนื่อยเวลาออกกำลังกาย เป็นหวัด หลอดลมอักเสบบ่อยๆหรือมีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง


8. โรคกระดูกพรุน

กระดูกพรุน คือ ภาวะที่มีเนื้อกระดูกบางตัวลง เนื่องจากมีการสร้างกระดูกน้อยกว่าการทำลายกระดูก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการหัก หรือยุบตัวได้โดยง่าย มักเกิดขึ้นกับกลุ่มนักบริหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่สภาพร่างกายกำลังเสื่อมสมรรถภาพ และมักไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทำงานแข่งขันกับเวลา เครียด สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลล์ และกาแฟเป็นประจำ รวมทั้งมองข้ามอาการผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงร่วมด้วยเช่น เคยมีประวัติกระดูกหักในครอบครัวจากภาวะกระดูกพรุน หรือรับประทานยา Steroid เป็นประจำ ควรเริ่มตรวจความหนาแน่นกระดูกเมื่ออายุ 40 ปี

โดยในระยะแรกมักไม่มีอาการ เมื่อเริ่มมีอาการ แสดงว่าเป็นโรคมากแล้ว อาการสำคัญของโรค ได้แก่ ปวดตามกระดูกส่วนกลางที่รับน้ำหนัก เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก และอาจมีอาการปวดข้อร่วมด้วย ต่อมาความสูงของลำตัวจะค่อยๆ ลดลง หลังจะโก่งค่อมหากหลังโก่งค่อมมากๆ จะ ทำให้ปวดหลังมากเสียบุคลิก เคลื่อนไหวลำบากระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารถูกรบกวน เมื่อเป็นโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจ จะหายยาก ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ท้องอืดเฟ้อ และท้องผูกเป็นประจำ

ทั้ง 8 โรคที่กล่าวมานี้ สิ่งที่จะช่วยให้คุณพ่อนักบริหาร สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กับสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ นั่นคือ การแบ่งเวลาให้กับตัวเอง โดยการใช้เวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์พักผ่อนกับครอบครัวอย่างเต็มที่ รวมถึงหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายจะทำให้หัวใจและปอด มีสมรรถภาพดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความอ้วนทำให้ไขมันใต้ผิวหนังหมดไป อีกทั้งยังเป็นการลดน้ำตาลในเส้นเลือดได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ถ้าทำได้ ควรฝึกนิสัยในการเลือกบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารเพียงพอให้ครบทุกมื้อ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก สิ่งเสพติด เครื่องดื่มมึนเมา และหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายทุกปี เพียงเท่านี้ก็จะเป็นคุณพ่อนักบริหารที่มีประสิทธิภาพ นำพาองค์กร และครอบครับไปสู่ความสำเร็จโดยไม่เป็นเหยื่อของ 8 โรคดังกล่าวนี้




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 118.173.68.230 พฤหัสบดี, 19/5/2554 เวลา : 07:11  IP : 118.173.68.230   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31416

คำตอบที่ 129
       ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สุขได้ด้วยการให้ 108 วิธี



แม้วันแม่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเพียงหนึ่งวัน แต่เชื่อว่าหลายๆครอบครัวพร้อมที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆหรือทำอะไรดีๆต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้แม่และทุกคนในครอบครัวมีความสุข และหากทุกคนมีความสุขแล้ว รู้จักการให้แก่คนในบ้านมาพอสมควร วันนี้ลองมาปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อเป็นผู้ให้แก่คนอื่นบ้างก็คงจะดีไม่น้อย

ทั้งนี้วิธีมอบน้ำใจให้แก่ผู้อื่น เราสามารถเริ่มต้นด้วยการมองและยิ้ม ต่อจากนั้นก็ใช้การทักทาย ฟัง และพูด น้ำใจสามารถส่งถึงกันได้ด้วยการเขียน และการกระทำ ทั้งต่อคนที่รู้จักกันแล้ว และที่ยังไม่รู้จักกัน ไม่ว่าเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ สามารถมอบน้ำใจให้แก่กันได้ทั้งสิ้น

วันนี้ทางทีมงาน Life and Family จึงขอเสนอ วิธีการ 108 วิธีเพื่อมอบน้ำใจให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งมันจะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า เป็นที่รัก และชื่นชมสำหรับบุคคลอื่นเพิ่มขึ้น และโลกนี้จะน่าอยู่ น่าชื่นอยู่ขึ้นอีกมากทีเดียว

มองและยิ้ม

1.มองทุกคนที่พบกันด้วยสายตาที่เป็นมิตร อย่าคิดว่าคนอื่นจะประสงค์ร้ายต่อเราทั้งหมด แต่ก็ต้องระวังคนหลอกลวงไว้บ้าง

2.ยิ้มให้ทุกคนที่พบกัน ยิ้มด้วยสายตา ยิ้มด้วยใบหน้า ยิ้มด้วยจิตใจ อย่าทำหน้าบึ้งหน้างอ ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี ลองมองดูหน้าตนเองในกระจกเงาบ้าง

3.ทำความรู้จักกับคนที่ไม่รู้จัก โดยพยายามยิ้มให้และกล่าวคำทักทาย

4.โบกมือส่งยิ้มให้เด็กๆ ในรถนักเรียนที่แล่นผ่านไป ยิ้มให้เด็กๆในรถข้างๆ หรือเด็กที่มองตาของท่านผ่านกระจกหลังของรถคันหน้าที่ติดไฟแดง

5.มองคนในแง่ดี มองคนในแง่บวก พิจารณาว่า เขาทำอะไรด้วยความหวังดีอย่างไรบ้าง อย่ามองคนในแง่ร้าย หรือมองในแง่ลบ อย่าเพิ่งคิดว่าเขาจะทำความชั่ว ความเลวเสียทั้งหมด น่าจะมีความดีอยู่บ้าง หรือเขาอาจทำไปเพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิดก็ได้

6.มองว่าคนเราสามารถเป็นมิตรกันได้ แม้ว่าจะมีความคิดเห็นต่างกัน หรือมีความเชื่อต่างกัน มองว่าการกระทำบางอย่างอาจทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นว่ามีวิธีหนึ่งที่ถูกต้องแล้ว อีกวิธีหนึ่งจะผิด


ทักทาย

7.ทักทายกับคนอื่น เมื่อได้พบกัน ด้วยการกล่าวคำสวัสดี ยกมือไหว้ ยิ้ม หรือก้มหัว ตามความเหมาะสม พยายามเรียกชื่อของเขา เพราะทุกคนมีความภูมิใจในชื่อของตน ระวังอย่าเรียกชื่อผิดคน

8.สนทนาทักทายกับเพื่อนร่วมงาน ถามไถ่ทุกข์สุข คุยเรื่องที่เขาสนใจ อย่านั่งใกล้กับใครโดยไม่พูดกัน

ฟัง

9.ตั้งใจฟังคนอื่นพูด ให้เวลาเขาพูด อย่าเพิ่งขัดคอ ขัดใจ อย่าพูดสอดแทรกขัดจังหวะ อย่าทักท้วงให้เขาเสียหน้า ต่อคนหมู่มาก

10.รับฟังสิ่งที่เขากำลังทำ หรือที่เขากำลังสนใจ แล้วหาทางสนับสนุนสิ่งที่ดี รับฟังความทุกข์ของเขา แล้วหาทางช่วยแก้ปัญหา บรรเทาความทุกข์ รับฟังความสำเร็จและความสุขของเขา แล้วร่วมยินดีด้วย

พูด

11.ใช้คำพูดสี่คำให้ติดปาก คือ ขอบคุณ ขอโทษ ดี ช่วย กล่าวคำขอบคุณ เมื่อมีใครทำดีต่อตน ขอโทษเมื่อทำให้ผู้อื่นไม่พอใจ ดี เมื่อผู้อื่นทำความดี และช่วย เมื่อต้องการให้ผู้อื่นช่วยเหลือ

12.พูดด้วยคำสุภาพ ไพเราะ อ่อนหวานมีคำลงท้าย ครับ หรือ ค่ะ ตามความเหมาะสม ไม่ใช้คำหยาบคาย ดุด่าเสียดสี ขู่ตะคอก หรือพูดเหน็บแนม อย่าจี้จุดอ่อนให้ช้ำใจ หาเรื่องที่สนุกสนาน ตลกขบขันมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ถ้าพูดตลกไม่เป็น ให้พยายามจดจำมุขตลกที่คนอื่นเล่าแล้วนำไปเล่าต่อ

13.พูดชมเชยบุคคลอื่นเป็นประจำ เพื่อสร้างกำลังใจ อย่าเอาแต่ตำหนิต่อว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบุตร ภรรยา สามี และผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น ชมว่ามีความพยายามสูงมาก ทำงานได้ดี เอาใจใส่บ้านดี ทำงานรอบคอบดีมาก อย่าพูดแต่เรื่องของตนฝ่ายเดียว เพราะคู่สนทนาจะเบื่อหน่าย

14.พูดถึงคนอื่น และหัวหน้าผู้บังคับบัญชาในด้านดีกับคนที่เขารู้จัก อย่านินทาว่าร้ายผู้บังคับบัญชากับผู้อื่น เพราะอาจจะมีคนเก็บไปรายงานให้ท่านฟังภายหลัง

15.รู้จักขัดแย้งโดยไม่ให้เขาเสียน้ำใจ โดยใช้เทคนิค "ใช่...แต่..." เช่น "ที่คุณว่ามานั้นก็ถูกต้อง แต่อาจจะมีอีกวิธีหนึ่ง..." หรือ "ที่คุณคิดนั้นก็ใช่ แต่คนอื่นเขาอาจคิดอีกอย่างหนึ่งก็ได้กระมัง" หรือ "ของบางอย่างอาจจะมิใช่มีสีดำหรือสีขาว แต่อาจเป็นสีเทาที่จะว่าขาวก็ได้ ดำก็ได้" หรือ "วิธีที่ถูกต้องอาจะมีมากกว่าหนึ่งวิธีก็ได้" หรือ "ร้านก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยอาจมีมากกวาหนึ่งร้านก็ได้"

16.หาเรื่องพูดคุยกับคนที่ขาดเพื่อน คุยกับคนที่เข้ากับคนอื่นไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนที่น่าสงสาร และต้องการความช่วยเหลือ

17.พูดด้วยเสียงดังพอสมควร ไม่พูดแผ่วเบา หรือ ตะโกนให้ดังเกินไป การพูดด้วยการขึ้นเสียง ก่อให้เกิดความโมโห และนำสู่การทะเลาะวิวาท

18.พูดคุยในสิ่งที่เขาสนใจ เช่น เรื่องเกี่ยวกับลูกของเขา หรือสิ่งที่เขามีความเชี่ยวชาญ เช่น เรื่องฟุตบอล กอล์ฟ ละครโทรทัศน์ หรือ หัวข้อข่าวที่เขาสนใจ ระวังไม่คุยคุ้ยเขี่ยสิ่งที่เขาอับอาย หรือต้องการปกปิดไม่ให้ใครรู้

19.หาข่าวเรื่องดีๆ หรือ เรื่องคนที่กระทำความดีมาคุยกันบ้าง เพื่อให้จิตใจเบิกบานอย่าคุยแต่ข่าวร้าย ข่าวลือ หลอกลวง หรือข่าวที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง

20.ไม่พูดหาเรื่องจับผิดคนอื่น ถ้าจะพูดถึงความดีของตนก็ว่าไป แต่ไม่ควรนินทาว่าร้ายคนอื่น หรือคุยว่าคนอื่นสู้ตนเองไม่ได้

21.หาทางพูดคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักพูดคุยด้วย โดยการแนะนำตัวเอง หรือ หาผู้อื่นแนะนำ

22.โทรศัพท์หรือเขียนจดหมายไปหาเพื่อน หรือคนรู้จักที่ไม่ได้ติดต่อนานเกินหนึ่งปี รวมทั้งเมื่อได้รับข่าวที่น่ายินดี หรือข่าวที่น่าเสียใจ

23.ละเว้นการพูดคำที่ไม่ดี และไม่โกรธ โมโห อย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์ เช่น วันจันทร์ หรือวันศุกร์

24.เขียนจดหมาย หรือไปเยี่ยมคนที่กำลังกลุ้มใจเสียใจ หรือประสบปัญหาชีวิต

25.เขียนจดหมายหรือส่งบัตรแสดงความขอบคุณผู้ที่มีน้ำใจไมตรี ผู้ที่ทำคุณกับเรา

26.เขียนจดหมาย หรือส่งบัตรแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิด หรือเมื่อมีคนที่รู้จักได้ข่าวดี เช่น ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้รับการยกย่องรางวัล

27.เขียนจดหมาย หรือส่งบัตรแสดงความเสียใจ เมื่อคนรู้จักได้รับความเสียใจ เช่น เมื่อเจ็บป่วย หรือญาติมิตรเสียชีวิต

28.เขียนคำชมเชยหรือมอบรางวัล แก่คนที่ให้บริการดีเป็นพิเศษ พนักงานบริการ แม่ครัว หรือยาม โดยอาจส่งผ่านไปทางผู้จัดการ เพื่อเขาจะได้นำไปประกาศชมเชย หรือให้รางวัลต่อ

29.เขียนจดหมายชมเชยการกระทำความดีเป็นพิเศษที่ได้พบเห็นในที่สาธารณะ ผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อเป็นตัวอย่างของบุคคลอื่น แล้วส่งไปลงข่าวหนังสือพิมพ์หรือวิทยุ (เช่น วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน หรือ จส. 100)

30.เขียนป้ายเตือนอันตรายติดไว้ในที่เหมาะสม เพื่อมิให้ผู้อื่นเป็นอันตราย เช่น ระวังพื้นลื่น ระวังผึ้งต่อย ระวังหมาดุ ระวังไฟดูด ระวังคนล้วง-กรีดกระเป๋า

31.ดูชื่อเพื่อนเก่าในหนังสือรุ่น หรือรูปญาติในรูปเก่าๆ แล้วเขียนจดหมาย ต่อโทรศัพท์ถึง หรือส่งบัตรอวยพรปีใหม่ ถ้าไม่ทราบที่อยู่ สามารถหาที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ได้จากคนที่รู้วิธีค้นหาจากอินเตอร์เนต (http://phonebook.tot.co.th/) หรือโทรศัพท์ถามจากองค์การโทรศัพท์ หมายเลข 1133 (กทม) หรือ 183 (ต่างจังวัด)
ปิด

32.ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ไม่ควรพูดโทรศัพท์ เช่น อยู่ในห้องประชุม รับแขก อยู่กับผู้ใหญ่ อยู่ในพิธีการ หรืองานศพ

33.ปิดหรือหรี่ เสียงดัง จากวิทยุโทรทัศน์ ที่อาจไปรบกวนเพื่อนบ้านข้างเคียง เขาอาจไม่ชอบเพลงชนิดที่เราชอบฟังก็ได้

ทำ

34.เลื่อนจานอาหารไปให้คนอื่นที่เอื้อมไม่ถึง โดยไม่ต้องรอให้เขาขอร้อง

35.หาทางปลอบใจคนที่กำลังมีความทุกข์ เช่น มีคนในครอบครัวเสียชีวิต ใช้วิธีปลอบว่า พระพุทธเจ้ายังมีปรินิพาน มนุษย์ก็ต้องมีความตายเป็นธรรมดา

36.ทำความประหลาดใจให้แก่บางคน ด้วยการใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการหาสิ่งของที่เขาต้องการมาก แต่เขาไม่สามารถหาได้ ด้วยวิธีปกติธรรมดา แล้วจัดส่งไปให้ เช่น ผลไม้นอกฤดูกาล ของที่ต้องการอย่างรีบด่วน ของที่ต้องสั่งทำพิเศษ หรือของที่หายาก ไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด

37.พยายามทำศัตรูให้กลายเป็นมิตร ด้วยการให้ของขวัญ การพูดคุย การเป็นเพื่อน การเห็นอกเห็นใจ การไม่เอาเปรียบ และการยอมลดราวาศอกกันบ้าง

38.ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทำให้ผู้รับบริการเกิดความพอใจด้วยความเต็มใจ

39.ทำความประทับใจด้วยบริการที่เป็นพิเศษกว่าธรรมดา เช่นที่โรงแรมโอเรียลเต็ล กรุงเทพฯ นั้น พนักงานโรงแรมจะสร้างความประทับใจโดยการทักทายเรียกชื่อแขกที่มาพักทุกคนได้ และหาข้อมูลว่าลูกค้าชอบอะไรจากการสังเกตสิ่งที่เขากิน เขาใช้ในวันแรก
ช่วยเหลือคนที่รู้จัก

40.สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเล่นกับลูก ช่วยน้อง หรือลูกทำการบ้าน พยายามลดงานประจำวันในวันหยุด เพื่อจะได้มีเวลาสำหรับสร้างความอบอุ่นในครอบครัว พาลูกหลานครอบครัวไปเที่ยวด้วยกันอย่างน้อยปีละครั้ง

41.ช่วยรับคนที่รู้จักกันขึ้นรถ เมื่อจะไปทางเดียวกัน หรือจะกลับบ้านทางเดียวกัน ชวนคนข้างบ้านที่ไม่มีรถ นั่งรถไปซื้อของที่ตลาดพร้อมกัน

42.ทักทาย แนะนำตัวทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่ย้ายมาใหม่ เช่นแนะนำเรื่องรถขยะ เรื่องการเก็บค่าไฟฟ้า ประปา

43.ส่งอาหารหรือผลไม้ไปให้เพื่อนบ้าน เป็นครั้งคราว

44.ให้คนสวนกวาดใบไม้หน้าบ้านของเพื่อนบ้านด้วย

45.ชวนเพื่อนบ้านและลูกของเพื่อนบ้านไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุด

46.รับฝากดูแลเด็กเล็กข้างบ้าน เมื่อพ่อแม่ของเด็กไม่อยู่ ชวนลูกเพื่อนบ้านที่พ่อแม่กลับบ้านดึก มาดูแลก่อนพ่อแม่กลับ ชวนมาเล่นที่บ้านเล่านิทาน ให้อ่านหนังสือการ์ตูน ทำการบ้าน (ระวังแจ้งพ่อแม่เด็กให้ทราบเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด)

47.ให้ความสนใจกลุ่มเยาวชนในหมู่บ้าน ถ้าขาดกิจกรรมที่เล่นที่พักผ่อน ควรรวมกลุ่มชาวบ้านหารือกันกันเพื่อช่วยเหลือ ถ้าทำเองไม่ได้ควร ติดต่อกลุ่มที่สามารถช่วยได้ หรือจะเขียนจดหมายถึงอำเภอ/หนังสือพิมพ์/โทรทัศน์ หาผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือ ช่วยป้องกันยาเสพติดในหมู่บ้าน

48.ไปเยี่ยมคนแก่ที่อยู่ใกล้บ้านเดือนละครั้ง

49.จ่ายเงินค่าอาหารหรือเครื่องดื่มให้เพื่อนร่วมงานเป็นครั้งคราว อย่าให้เขาเลี้ยงฝ่ายเดียว

50.ช่วยคนขาดแคลน ถ้ารู้ว่าคนรู้จักคนหนึ่งขาดแคลนเงินมาก ลองใส่ธนบัตรใบละร้อย หรือห้าร้อย ส่งทางไปรษณีย์ไปให้เขา โดยไม่ต้องบอกว่าส่งมาจากใคร

51.ตัดหนังสือพิมพ์ส่งไปให้คนรู้จัก เพราะว่ามีข่าวของเขา หรือมีเรื่องที่เขาน่าจะสนใจ

52.ส่งอาหารเครื่องดื่ม หรือขนมไปให้เจ้าหน้าที่บริการประชาชน เช่น ตำรวจสายตรวจที่มาหน้าบ้าน พนักงานดับเพลิง บุรุษไปรษณีย์ ยามหมู่บ้าน หรือพนักงานขยะ

53.ซื้อตั๋วดูภาพยนตร์/ดนตรี/กีฬา หรือหนังสือการ์ตูนให้เด็กข้างบ้าน

54.เมื่อเห็นว่าของบางอย่างเหมาะสมสำหรับบางคนที่รู้จัก ควรซื้อ หรือหาไปฝากเขา

55.ส่งหนังสือวารสารที่อ่านแล้วไปให้คนที่เราคิดว่าเขาต้องการ หรือบริจาคให้ห้องสมุดกรมการศึกษานอกโรงเรียน เพราะดีกว่าชั่งกิโลขาย

56.จ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกวารสารที่เหมาะสมส่งไปให้โรงเรียนเก่า
57.หาของฝากหรือของขวัญปีใหม่ไปให้คนที่ติดต่อประจำ เช่น แม่ค้าขายผลไม้ แม่ครัวร้านอาหาร ช่างตัดผม คนขับรถ หรือภารโรง

58.หาของขวัญของฝากให้ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงาน เช่น บัตรกินอาหารฟรี บัตรลดราคา บัตรเติมน้ำมันฟรี บัตรดูละครการแสดง หรือตั๋วทัศนาจร แจกเงินหรือขนมให้ลูกของเพื่อนร่วมงานที่มารอพ่อแม่ที่ที่ทำงานหลังเลิกเรียน

59.มอบจักรยาน ลูกฟุตบอล หรือขลุ่ย แทนพวงหรีดในงานศพ เพื่อเจ้าภาพจะได้นำไปมอบให้เด็กบ้านไกลโรงเรียนในชนบท หรือมอบผ้าไตรแทนพวงหรีดในงานศพ เพื่อเจ้าภาพจะได้นำไปถวายพระ หรือใช้ในการอุปสมบทพระใหม่

60.ชดใช้หนี้ให้ลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงานที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือให้ยืมเงินไม่เสียดอกเบี้ย โดยหวังจะให้เขามีกำลังใจในการสู้ชีวิต และทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อไป (ระวังอย่าเป็นนายประกัน)
ช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จัก

61.ช่วยทุกคนที่ประสบความยากลำบาก มีปัญหา มีความทุกข์ เช่นคนหลงทาง คนกำลังหิว คนที่กระหายน้ำ คนกำลังประสบอุบัติเหตุ

62.ส่งเงินและสิ่งของไปช่วยคนที่ประสบสาธารณะภัย เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้

63.บอกเตือนสิ่งผิดปกติของคนอื่น เช่น ยางรถแบน ซิปกางเกงไม่ได้รูด (เขียนใส่กระดาษไปบอก)

64.ช่วยจับประตูที่เปิดเดินออกไปแล้ว เพื่อไม่ให้ตีคนที่กำลังตามมาข้างหลัง

65.ช่วยชี้ทาง นำทาง ให้คนต่างถิ่นมาถามทาง หากอยู่ใกล้ๆ พอนำไปส่งได้จะวิเศษมาก

66.ช่วยคนที่กำลังหาของที่หาย หาไม่พบ หรือเมื่อเก็บของได้ส่งคืนเจ้าของ

67.ช่วยถือของให้คนที่หอบของพะรุงพะรัง (แต่ควรระวังอย่าถือของให้คนไม่รู้จักที่นำมาฝาก เพราะอาจมีของที่ขโมยมา หรือยาเสพติดอยู่ในถุงนั้น ทำให้ต้องตกเป็นผู้ต้องหาได้ ไม่ควรรับฝากของใครไปต่างประเทศ)

68.ช่วยคนที่กำลังจะเอื้อมหยิบของบนชั้นสูงไม่ถึง (ระวังของตกใส่หัว หรือของหนักเกินกำลัง เวลายกของต้องใช้กำลังขา อย่างอหลัง มิฉะนั้นจะปวดหลังไปนาน เพราะกระดูกสันหลังอาจเคลื่อน หรืออักเสบ)

69.ช่วยเข็นรถยนต์ของคนอื่นที่เครื่องเสีย ต้องหลบเข้าข้างทาง (ระวังถูกรถที่ผ่านไปมาชนเอา)

70.หาดอกไม้หรือของไปฝากคนป่วยไม่รู้จัก ที่ไม่ค่อยมีคนเยี่ยม เมื่อไปที่โรงพยาบาล มอบกระดาษเขียนจดหมาย ปากกา และซอง พร้อมแสตมป์ให้ผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลนานๆ เพื่อเขียนจดหมายถึงญาติมิตร (ผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลนานๆ มักมีคนมาเยี่ยมน้อย)

71.ช่วยนำคนเจ็บหรือผู้ประสบอุบัติเหตุส่งโรงพยาบาล (ระวังต้องยกตัวในท่าที่ถูกต้อง มิฉะนั้น อาจทำให้เป็นอัมพาต และควรหาพยานที่จะยืนยันว่าท่านมิใช่ต้นเหตุของอุบัติเหตุไว้ด้วย)

72.ช่วยผายปอดคนตกน้ำ (ระวังไม่ควรลงไปช่วยคนตกน้ำในน้ำ หากไม่เก่งจริง เพราะอาจถูกดึงให้จมไปด้วยกัน ควรโยนเชือกหรือวัตถุลอยน้ำให้)

73.ช่วยแนะนำหางานให้ตกงาน (ระวังไม่ควรลงนามรับประกันความเสียหาย หรือประกันเงินกู้ให้ผู้อื่น เพราะถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ นายประกันอาจต้องตามไปชดใช้หนี้ภายหลัง)

74.แนะนำวิธีประกอบอาชีพ หรือฝึกอาชีพให้คนที่ต้องการอาชีพ โดยอาจจัดอบรม นำวิธีทำมาหากินส่งไปให้

75.จัดงานเชิญเด็ก คนชรา คนพิการ มาสนุกสนาน หรือไปเที่ยวในวันสำคัญ เช่น วันสงกรานต์ วันเฉลิมพระชนมพรรษา หรือวันสถาปนาหน่วยงาน เดินทางไปเยี่ยมบ้านคนชราบ้านเด็กกำพร้า หรือเด็กพิการ เพื่อเลี้ยงอาหาร และนำของไปเยี่ยม เน้นผู้ที่ไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยม ไปอ่านหนังสือให้คนแก่ฟัง เล่นดนตรี หรือเล่านิทานให้เด็กฟัง

76.ไปเยี่ยมบ้านแรกรับเด็กอ่อน บ้านราชวิถี บ้านกรุณา บ้านมุทิตา บ้านอุเบกขา เพื่อเยี่ยมเด็กที่ขาดผู้อุปการะ หรือ เด็กที่เคยกระทำความผิดซึ่งไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยม เพราะอีกไม่นานเขาจะได้ออกไปอยู่ร่วมกับสังคม ถ้าเขาได้น้ำใจไมตรีที่ดี อาจกลับตัวเป็นคนดีได้ (หากจะไปเยี่ยมนักโทษภายในเรือนจำ ต้องระวังถูกจับเป็นตัวประกัน)

77.ช่วยป้องกัน หรือห้ามปราม คนที่กำลังจะทะเลาะวิวาทโกรธเคืองกัน หรือจะทำร้ายกัน แต่ต้องระวังลูกหลง (พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญคนที่ช่วยให้คนที่ทะเลาะกันกลับคืนดีได้ เหมือนที่ทรงห้ามพระญาติไม่ให้ทะเลาะกันคราวแย่งน้ำแม่น้ำโรหิณี)

78.สนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานที่สร้างประโยชน์ต่อสังคม เช่นกาชาด วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน มูลนิธิร่วมกตัญญู ลูกเสือชาวบ้าน โรตารี่ ไลออนส์ เป็นต้น

79.จัดกลุ่มอาสาสมัครช่วยทำงานส่วนรวมนอกเหนือหน้าที่ปกติ เช่นกลุ่มฮักเมืองน่าน กองลูกเสือนอกโรงเรียนวชิรชัย ชมรมอาชีวะบำเพ็ญประโยชน์ แล้วหากิจกรรมไปทำ เช่น ไปทาสีลบรอยขีดเขียนตามกำแพง (ที่เขียนว่าใครเป็นบิดาใคร ฯลฯ) เก็บเศษแก้วของมีคมตามหาดทรายชายทะเล เพื่อป้องกันคนอื่นมาเหยียบเท้าทำให้บาดเจ็บ

80.สนับสนุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เช่น บริจาคเงินหรือเวลาช่วยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลอาสากาชาด โรงเรียนสอนคนตาบอด โรงเรียนสอนคนพิการ บ้านราชวิถี บ้านแรกรับเด็กอ่อน บ้านเมตตา กรุณา หรือรับคนตาบอดมาเป็นพนักงานโทรศัพท์

ยอม/เสียสละ/ให้

81.เมื่อเข้าห้องน้ำ ควรหยิบกระดาษเช็ดอ่างน้ำ หรือเช็ดที่นั่งส้วมให้สะอาดก่อนออกไป เพื่อให้คนที่มาใช้ทีหลังจะได้เข้าห้องน้ำสะอาด

82.เมื่อเข้าคิวกดเงินจากเอทีเอ็ม จ่ายเงินตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือที่โรงพยาบาล ถ้าไม่รีบร้อนนัก เชิญให้คนที่รอข้างหลังที่รีบเร่งกว่าได้ใช้บริการก่อน

83.เมื่อขับรถติดอยู่แต่ไม่รีบเร่งมากนัก โบกมือยอมให้คันหลังที่รีบเร่งกว่าแทรกเข้าหน้าไปได้ก่อน

84.เมื่อเข้าคิวส้วม ยอมให้คนข้างหลังที่ปวดมากกว่าได้เข้าส้วมไปก่อน

85.ออกเงินซื้ออาหาร เช่นข้าวหน้าเป็ดให้ขอทานที่หิวโซ

86.ออกเงินให้คนที่ไม่มีเงินหยอดโทรศัพท์สาธารณะ หรือเข้าส้วมสาธารณะที่ต้องจ่ายเงิน โดยทิ้งเหรียญบาทที่เหลือไว้ในช่องทอนเงิน

87.หาของขวัญปีใหม่ หรือของขวัญวันเกิดให้คนที่ไม่เคยได้รับอะไรเลยเมื่อปีก่อน

88.ส่งของขวัญให้คนที่เห็นแก่ตัวไม่คิดคนอื่น โดยไม่ให้รู้ว่าใครส่งมา

89.ให้ความเห็นใจ ปลอบใจ คนที่กำลังมีความทุกข์ กลุ้มใจหาทางออกไม่ได้

90.บริจาคโลหิต ดวงตา อวัยวะหรือเงิน ให้สภากาชาดไทย หรือโรงพยาบาลต่างๆ และชวนให้คนอื่นบริจาคด้วย

มีความเกรงใจ

91.เมื่อโทรศัพท์ไปถึงใคร ควรถามว่าเขากำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า ถ้าเขากำลังมีธุระควรถามว่า จะให้โทรกลับอีกเมื่อไหร่

92.เมื่อมีคนโทรศัพท์มาถึงและฝากหมายเลขไว้ ควรรีบโทรกลับทันทีเมื่อสะดวก

93.ไม่ขอหรือยืมเงิน ของรักของหวงของเพื่อน หรือ ของที่อาจทำให้เพื่อนลำบากใจ เช่น รถยนต์ หรือปืน

94.เมื่อยืมของจากผู้ใด ต้องรีบคืนทันทีเมื่อเสร็จงาน ไม่ต้องรอให้ทวง

น้ำใจของเด็กเล็ก

เด็กๆ สามารถมอบน้ำใจไมตรีให้ผู้อื่นได้เหมือนกับผู้ใหญ่ได้ ตัวอย่าง เช่น

95.ยิ้มหวาน และพูดเพราะกับทุกคน

96.ทักทาย ไหว้ สวัสดี ผู้ใหญ่อย่างเหมาะสม

97.เก็บเสื้อผ้า และของเล่นในห้องตนให้เรียบร้อย ไม่ต้องให้คนอื่นมาตามเก็บให้ทำเตียงตนเอง กวาดห้องตนเอง

98.รักษาความสะอาดห้องน้ำ ทิ้งขยะลงถัง ไม่ทิ้งสิ่งสกปรกลงพื้น ถนน หรือแม่น้ำลำคอลง

99.ช่วยทำงานบ้าน เช่น ช่วยแม่ล้างจานกวาดบ้าน เช็ดสิ่งสกปรกที่พื้น ไม่ทำบ้านรก

100.มอบน้ำใจให้ทุกคนในบ้าน เช่น ยกน้ำเย็นไปให้พ่อ แบ่งขนมให้น้อง เล่นกับน้อง ช่วยสอนน้องทำการบ้าน สอนน้องอ่านหนังสือ ช่วยน้องผูกเชือกรองเท้า ติดกระดุมเสื้อ และหวีผมให้น้อง

101.ยอมให้พ่อดูข่าวโทรทัศน์ขณะที่ตนอยากดูการ์ตูน

102.ร้องเพลงให้คุณย่าฟัง อ่านหนังสือพิมพ์ นวดขาให้คุณยาย

103.เขียนจดหมายพร้อมส่งรูปถ่ายไปให้ญาติผู้ใหญ่

104.ช่วยปลอบเพื่อนที่ร้องไห้ หรืออยู่ในภาวะเสียใจ

105.พาเพื่อนที่ไม่สบายไปห้องพยาบาล

106.แบ่งขนมให้เพื่อน เพื่อกินด้วยกัน ไม่กินคนเดียว

107.ช่วยครูยกสมุดการบ้านไปห้องพักครู

108.ตั้งใจทำตัวเป็นเด็กดีที่มีน้ำใจ




ดีมากๆ ขอบคุณมากค่ะ
จาก : sumalee k.(sumalee k.) 19/5/2554 9:58:05 [124.122.211.42]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 118.173.68.230 พฤหัสบดี, 19/5/2554 เวลา : 07:08  IP : 118.173.68.230   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31431

คำตอบที่ 130
      
เยี่ยมเลยครับลุงแมว เดี๋ยวปริ้นแปะฝาบ้านเลยดีกว่า...



ดีใจครับ ที่มีประโยชน์กับผู้อื่นได้ครับพี่ปู่ ผมก็ลอกเขามาเหมือนกันครับ
จาก : sriwit(sriwit) 19/5/2554 20:39:46 [180.180.66.52]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ปู่เฟืองจำปีคนเดิม จาก ปู่เฟืองจำปี 210.213.59.188 พฤหัสบดี, 19/5/2554 เวลา : 10:37  IP : 210.213.59.188   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31462

คำตอบที่ 131
       ลุงแมวเก่งมากค่า...มีประโยชน์มากๆค่ะ



ดีใจครับ ที่มีประโยชน์กับผู้อื่นได้ครับป้าแอ๋ว
จาก : sriwit(sriwit) 19/5/2554 20:38:22 [180.180.66.52]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sumalee k. จาก แอ๋ว 124.122.211.42 พฤหัสบดี, 19/5/2554 เวลา : 09:59  IP : 124.122.211.42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31489

คำตอบที่ 132
       ด้านหลังศาลากลาง จ พังงา มีภูเขาสูงชันมาก





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:47  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31581

คำตอบที่ 133
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:49  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31582

คำตอบที่ 134
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 06:04  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31583

คำตอบที่ 135
       พระใหญ่ ที่เขานาคเกิด ภูเก็ต





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:18  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31622

คำตอบที่ 136
       หน้าห้องน้ำบริเวณวัด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:21  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31623

คำตอบที่ 137
       หน้าห้องน้ำ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:22  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31624

คำตอบที่ 138
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:51  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31639

คำตอบที่ 139
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:54  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31640

คำตอบที่ 140
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:57  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31642

คำตอบที่ 141
      
แม่ลูก ร่าเริง สดใส ทุกใบ เป็นยาอายุวัฒนะอย่างเยี่ยม.... ดีจังเลยครับลุงแมว...



ขอบคุณครับลุง
จาก : sriwit(sriwit) 20/5/2554 6:01:07 [180.180.66.52]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

lungnid จาก ลุงนิดใจดี 113.53.43.96 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:59  IP : 113.53.43.96   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31643

คำตอบที่ 142
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:23  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31740

คำตอบที่ 143
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:24  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31741

คำตอบที่ 144
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:25  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31742

คำตอบที่ 145
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:26  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31743

คำตอบที่ 146
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:27  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31744

คำตอบที่ 147
       อีกมุมหนึ่งบริเวณทางขึ้นไปวัด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:30  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31745

คำตอบที่ 148
      





หลานลุงปู่เกือบเท่าแม่แว๊ว ....ระวังอย่ากินมากนะ เดี๋ยวโตมาไม่สวยนะนะจ๊ะ
จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 20/5/2554 7:19:30 [210.213.59.188]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:30  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31746

คำตอบที่ 149
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:32  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31747

คำตอบที่ 150
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sriwit จาก ลุงแมว 180.180.66.52 ศุกร์, 20/5/2554 เวลา : 05:33  IP : 180.180.66.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31748

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,23 เมษายน 2567 (Online 2189 คน)