WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ทริปนี้เพื่อพ่อ(ย้อนรอยเมื่อ 45 ปีก่อน ที่ภูขี้เถ้า ภูลมโล บ้านหมากแข้ง บ้านร่องกล้า)
rut2518
จาก รุจน์
IP:49.48.132.157

อังคารที่ , 22/1/2556
เวลา : 10:43

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ทริปนี้เพื่อพ่อ






คุณพ่อแข็งแรงจ้า...
จาก : sumalee k.(sumalee k.) 8/12/2556 3:39:22 [223.206.208.19]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  

คำตอบที่ 121
       ปฏิบัติการพลีชีพที่บ้านหมากแข้ง

บันทึกความทรงจำของ พล.ต.ต.เขมณัส(มนัส) สุขเจริญ
อดีต..หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(หน.นปพ.)
กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย(พ.ศ.2514-2516)
อดีต..ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี(พ.ศ.2547-2549)

-1-
“หมากแข้ง” ชื่อนี้เป็นชื่อที่นิยมตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านและตำบลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และบ้านหมากแข้งในความทรงจำของข้าพเจ้านี้ก็เป็นหมู่บ้านหนึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในเขตพื้นที่ ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตข้าพเจ้าใด้เข้าไปผูกพันและเผชิญกับเหตุการณ์วิกฤติถึงขั้นปฏิบัติการพลีชีพเพื่อชาติของตำรวจชุดเล็กๆชุดหนึ่งในสมรภูมิสู้รบภายในประเทศบนความขัดแย้งทางลัทธิอุดมการณ์การปกครองของไทยในอดีต

ปฏิบัติการพลีชีพครั้งนั้นได้บังเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2515 เวลาประมาณ 02.00น. ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์(ผกค.)ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้งหรือแม้วซึ่งซ่องสุมกำลังอยู่บริเวณเทือกเขาภูลมโล ภูขี้เถ้า ภูหินร่องกล้า กำลังประมาณ 200 คนได้เข้าปิดล้อมโจมตีฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นฐานของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.)ของกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ซึ่งมีข้าพเจ้า ร.ต.ท.มนัส สุขเจริญ หน.นปพ.เป็นผบ.ฐานพร้อมกำลังตำรวจนปพ.รวม 15 นายอยู่ปฏิบัติหน้าที่ ผกค.ได้ระดมยิงโจมตีอย่างรุนแรงด้วยระเบิดอาร์พีจีอาวุธปืนอาก้าและระเบิดขว้าง เป็นเหตุให้ตำรวจนปพ.เสียชีวิต 7 นายและได้รับบาดเจ็บสาหัสรวม 8 นาย สำหรับผู้ที่ต้องพลีชีพประกอบด้วย พลฯสุรสีห์ แสนทวีสุข, พลฯศิริเดช ชนะกาญจน์, พลฯเสถียร ไชยโสต, พลฯชัยสิทธิ์ ธนศรีรังกูล, พลฯสุชาติ มาแสนจันทร์, พลฯวีระ ทาแก้ว และพลฯอุเทน ชูทิพย์ ส่วนข้าพเจ้ารอดชีวิตมาได้พร้อมกับผู้ร่วมงานอีก 7 คน คือ ส.ต.ต.สัมภาษณ์ เวียงพล, ส.ต.ต.วิเชียร ไพรสุวรรณ, ส.ต.ท.ทองหลาง ประเสริฐ, พลฯพลเตียง เกตแก้วเกลี้ยง, พลฯมูละ อินพินิจ, พลฯอุไร จันทะฟอง และ พลฯกิตทอง อินทร์พิทักษ์

ข้าพเจ้ากับพวกที่เหลือ รอดชีวิตมาได้อย่างไรในสถานการณ์สู้รบที่รวดเร็วรุนแรงอย่างนั้น จะได้กล่าวถึงในบันทึกความทรงจำบทต่อไป…

-2-
สถานการณ์การสู้รบภายในประเทศในห้วงระยะเวลานั้น นับแต่วันเสียงปืนแตกที่อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ในปีพ.ศ.2508 ประเทศไทยมีความขัดแย้งในอุดมการณ์ลัทธิการปกครอง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)ได้ก่อตั้งขึ้นโดยการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์นอกประเทศ ได้มีการปลุกระดมมวลชนซ่องสุมกำลังเพื่อยึดอำนาจการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยไปสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ โดยกำหนดยุทธศาสตร์การต่อสู้ในแนวทาง ป่าล้อมบ้าน บ้านล้อมเมือง เมืองล้อมนคร เพื่อบรรลุเป้าหมายชัยชนะของเขา ดังนั้นกำลังของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์(ผกค.)ส่วนใหญ่จึงตั้งฐานที่มั่นอยู่ในป่าและเทือกเขาซับซ้อนเป็นรอยต่อเขตการปกครองระหว่างจังหวัด เพื่อยากแก่การเข้าค้นหาปราบปรามของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐบาล

พื้นที่ปฏิบัติการที่สำคัญ จะอยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) เพราะมีลักษณะเกื้อกูลดังกล่าวแล้ว และพื้นที่ปฏิบัติการสู้รบที่มีชื่อเสียงเป็นที่จดจำกล่าวขานจากอดีตจนถึงปัจจุบันก็คือ พื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดเชื่อมโยงภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือจังหวัดเลย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ได้แก่พื้นที่อำเภอด่านซ้าย ภูเรือ และนาแห้วของจังหวัดเลย อำเภอนครไทยของจังหวัดพิษณุโลก อำเภอหล่มสัก หล่มเก่าและเขาค้อของจังหวัดเพชรบูรณ์ พวกเราคงจดจำกันได้ถึงพื้นที่สู้รบที่หลั่งเลือดและฝั่งร่างของพี่น้องคนไทยจำนวนไม่น้อย นับแต่ภูลมโล ภูขี้เถ้า ภูหินร่องกล้า ป่ายาบ ภูทับเบิก ภูแผงม้า ภูสามหมื่น ถ้ำเสา และเขาค้อ ซึ่งในปัจจุบันหลังจากการสู้รบยุติลง ได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงให้ลูกหลานได้ไปเที่ยวชม และเล่าขานถึงตำนานการสู้รบของนักรบวีรชนคนกล้าในอดีตมิรู้ลืม

ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง เริ่มต้นจากการเป็นฐานปฏิบัติการเล็กๆของตำรวจภูธรจังหวัดเลย โดยมี พ.ต.อ.กฤช สังขทรัพย์ ผู้กำกับการในขณะนั้นเป็นผู้จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนภารกิจของฝ่ายทหาร และทำหน้าที่คุ้มครองหมู่บ้านเพื่อมิให้ผกค.เข้ามาแทรกซึมและยึดครอง ซึ่งหน่วยกำลังตำรวจที่ พ.ต.อ.กฤช สังขทรัพย์ ส่งไปปฏิบัติการจะมีหมวด นปพ.ของตำรวจภูธรจังหวัดเลย ซึ่งมีข้าพเจ้าเป็นหัวหน้ามีกำลังตำรวจนปพ. 50 นาย และมีตำรวจหมวดโจมตีของสภ.อ.ด่านซ้ายอีก 1 ชุด หมวดนปพ.จะแบ่งกำลังตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บ้านห้วยมุ่น และบ้านหมากแข้ง หมวดโจมตีตั้งฐานอยู่ที่บ้านน้ำหมัน ซึ่งกำลังตำรวจทั้ง 3 ฐานนี้ สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้ตามสถานการณ์และการปรับเปลี่ยนกำลังพล

พ.ต.อ.กฤช สังขทรัพย์ มีประวัติการสู้รบที่กล้าหาญมาก่อนในสมรภูมิภูขี้เถ้า จนได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญชั้น “รามมาลาเข็มกล้ากลางสมร” และมีสมญานามเรียกขานกันว่า “อัศวินภูขี้เถ้า” ท่านได้อบรมปลูกฝังปลุกเร้าให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติอย่างเต็มที่ ด้วยคำพูดสั้นๆประโยคหนึ่งว่า “สู้ตายนะห้ามทิ้งฐานเด็ดขาด” ข้าพเจ้ายังจำได้จนถึงทุกวันนี้ พ.ต.อ.กฤช สังขทรัพย์ คัดเลือกและเสนอแต่งตั้งข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพราะเห็นว่าจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจซึ่งผ่านการฝึกภาคสนามมาแล้วคงต้องรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของ นรต.อย่างเต็มที่ ภารกิจของข้าพเจ้าและกำลังพลประจำฐานคือการคุ้มครองดูแลราษฎรในหมู่บ้าน การออกลาดตระเวณหาข่าวรอบฐานในรัศมี 1 กิโลเมตรทุกวัน ที่ตั้งฐานหมากแข้งอยู่บนเนินเหนือหมู่บ้าน ทางด้านตะวันออกจะเป็นเทือกเขาภูแผงม้าสูงทะมึน และทางตะวันตกเป็นเนินป่าช้าที่สูงข่มกับฐานพอดี

-3-
นาทีวิกฤต ระทึกขวัญ ระทึกใจ เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00น.ของวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2515 ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัดและหนาวเยือกเย็นของฤดูกาล...ข้าพเจ้านอนหลับอยู่ในเต็นท์ซึ่งขุดเป็นหลุมและมุงหลังคาด้วยหญ้าแฝก รอบฐานสร้างเป็นกำแพงบังเกอร์ด้วยท่อนไม้ 2 แถวใส่ดินตรงกลางมีความสูงเกือบเท่าแนวไหล่ พ.ต.อ.กฤช ท่านสั่งให้ทำโดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันระเบิดอาร์พีจีของฝ่ายผกค. ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นขึ้นมาเองเพราะเสียงวิทยุทรานซิสเตอร์ที่เปิดฟังก่อนนอนแล้วเผลอหลับไปโดยไม่ได้ปิด พอข้าพเจ้าเอื้อมมือไปหมุนสวิตซ์ปิดวิทยุ ทันใดนั้นเองเสียงระเบิดก็ดังตูมขึ้นอย่างรุนแรงมาก ด้วยจิตสำนึกและสัญชาติญาณ ข้าพเจ้ารู้ทันที่ว่าถูกโจมตีแล้วด้วยระเบิดอาร์พีจี ข้าพเจ้าคว้าอาวุธปืนประจำกายและสายซองกระสุนพุ่งตัวออกจากเต็นท์ทันที พอพ้นปากหลุมเสียงระเบิดลูกที่สองก็ดังขึ้นทางด้านซ้ายในขณะที่ข้าพเจ้าหมอบก้มพอดี สะเก็ดระเบิดเข้าที่แขนซ้าย ขาซ้าย หูซ้าย และใต้ตาขวา ตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บเลย ข้าพเจ้ารีบลุกขึ้นวิ่งเข้าประจำบังเกอร์แล้วพาดปืนยิงตอบโต้ ข้าพเจ้าไม่ได้ยินเสียงปืนคาร์บิน เอ็มทู(ปลย.87 บ.2)ที่ข้าพเจ้ายิงออกไปเลยเพราะเสียงปืนอาร์ก้าและระเบิดของผกค.ดังกลบหมด ขณะนั้นข้าพเจ้านึกขึ้นได้ว่าลืมพระเครื่องพวงใหญ่ที่ถอดจากคอไว้ที่หัวนอน พอคิดว่าจะวิ่งกลับเข้าไปเอาเหลียวมองไปที่เต็นท์ปรากฏว่าไฟได้ลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงเพราะหลังคาเป็นหญ้าแฝก และชั่วอึดใจเต็นท์ของข้าพเจ้าก็ระเบิดกระจายขึ้นอย่างรุนแรง เข้าใจว่าเป็นเพราะลังระเบิดสำรองที่ข้าพเจ้าเก็บไว้ในเต็นท์ด้วยและพวกผกค.คงรู้ว่าผบ.ฐานนอนอยู่ตรงไหน ข้าพเจ้าหันกลับไปยิงต่อสู้ขณะที่ไฟได้ไหม้ลุกลามไปติดเต็นท์อื่นๆ จนภายในฐานสว่างไปด้วยแสงไฟแต่ข้างนอกมืดสนิท ข้าพเจ้ายิงตอบโต้ไปทางแสงปืนอาร์ก้าที่ผกค.ยิงเข้ามาเท่านั้นเองโดยไม่เห็นตัวเลย ไม่อยากพูดถึงเลยว่ากระสุนปืนของข้าพเจ้าขัดลำกล้องด้วยต้องงัดลูกปืนออกแล้วกระชากลูกเลื่อนบรรจุกระสุนใหม่ พอยิงหมดแม็กกาซีนยังถอดแม็กเปล่าเก็บใส่กระเป๋าเสื้อไว้เพราะเป็นของหลวงและเผื่อบรรจุใช้ใหม่ ขณะที่ข้าพเจ้ายังคงพาดปืนยิงตอบโต้อยู่นั้น ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคนวิ่งตึกๆมาทางด้านซ้ายเหลียวดูจำได้ว่าเป็นพลฯเสถียร ไชยโสต พลฯเสถียร ได้เข้ามายืนติดกับข้าพเจ้าและพาดปืนกับบังเกอร์ยิงตอบโต้ไปได้ชุดเดียว เขาก็หงายผลึ่งลงไปนอนพาดกับบาร์เบลที่ใช้ยกออกกำลังกาย เงียบสนิท ข้าพเจ้าก้มลงไปดูเขาและคิดในใจต่อมาว่า เหมือนเขามาตายแทนข้าพเจ้าแท้ๆ เพราะข้าพเจ้ายืนยิงอยู่ก่อนและตัวเขาเตี้ยกว่าข้าพเจ้ามากแค่ไหล่ของข้าพเจ้าเท่านั้นเอง เขาเคยเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าก่อนมาอยู่หมวดนปพ.กับข้าพเจ้า เขาออกลาดตระเวณกับชุดปฏิบัติการรุ่นก่อน ถูกผกค.ดักซุ่มโจมตีเขารอดตายมาเพราะกระสุนปืนข้ามศรีษะเขาไปถูกเพื่อนที่เดินตามหลังเสียชีวิต แต่คราวนี้เขาโชคไม่ดีพอ

ข้าพเจ้ายังคงยิงตอบโต้ที่บังเกอร์ที่เดิม ผกค.ระดมยิงและขว้างระเบิดใส่ จากแสงไฟที่ลุกไหม้ลามไปทั่วภายในฐาน ข้าพเจ้ามองเห็นกระทั่งผกค.ที่ชาร์ตเข้ามาประชิดบังเกอร์แล้วเหวี่ยงแขนขว้างระเบิดเข้ามาในฐานเป็นระเบิดขว้างของจีนแบบที่มีด้ามถือ ข้าพเจ้าคิดว่าจะออกไปทางช่องประตูด้านข้างยิงใส่ผกค.ที่เข้ามาประชิดแล้ววิ่งกลับเข้ามา แต่มาระแวงว่าพอวิ่งกลับเข้ามาจะถูกลูกน้องยิงด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นพวกผกค.บุกเข้ามา และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆพอข้าพเจ้าวิ่งไปตรวจดูทางด้านตะวันออกภูแผงม้าที่ไฟยังลามไปไม่ถึง เพื่อดูว่าลูกน้องมีใครเหลืออยู่บ้าง พบ ส.ต.ต.วิเชียร ส.ต.ต.สัมภาษณ์ และพลฯพลเตียง ต่างพูดว่า “ผมเกือบยิงผู้หมวด นึกว่าเป็นพวกมันบุกเข้ามา” ตอนนั้นสารรูปของข้าพเจ้าเต็มไปด้วยฝุ่นดินที่ศรีษะและใบหน้ามีเลือดไหล พลฯพลเตียงเข้ามาพูดระล่ำระลักกับข้าพเจ้าว่า “ผู้หมวดครับ เมื่อกี๊ผมถูกระเบิดกระเด็นเลย ผมไม่เป็นอะไรเลยครับ” เมื่อเห็นผบ.ฐานยังอยู่ ขวัญและความกล้ากลับมาอย่างไรไม่รู้ ข้าพเจ้ากับลูกน้องช่วยกันตะโกนร้องว่า “พวกเราสู้ตาย ยิงหวังผลไว้” ทั้งๆที่ตอนนั้นเห็นกันเพียง 4 คนเอง พลฯพลเตียง ตำรวจหนุ่มนิสัยเรียบร้อยเหมือนผู้หญิงแต่ชอบเล่นคาราเต้เกิดความฮึกเหิม เขากระโดดข้ามบังเกอร์ออกไปนอกฐาน ขว้างระเบิดและยิงใส่ผกค.ที่บุกขึ้นมา แล้วกระโดดข้ามบังเกอร์กลับมาอีกผ้าขนหนูพาดคออยู่ก็ยังไม่หลุด นี่แหละที่เขาว่า “สถานการณ์สร้างวีระบุรุษ” ต่อมาพลเตียงก้าวหน้าได้เป็นนายตำรวจยศถึงพันตำรวจโท เขาเปลี่ยนชื่อเป็น “พชรพล” แต่พวกเราก็ยังคงเรียกเขาว่าพลเตียงเหมือนเดิม

นาทีสำคัญมาถึงเมื่อระเบิดลูกหนึ่งลอยผ่านแสงไฟเข้ามาตกลงใกล้ๆเสียงดัง”ปั้ก” แต่ละคนต่างร้องขึ้นว่า “เฮ้ย หมอบหลบ” ข้าพเจ้ากับพวกต่างพากันหมอบหลบลงคูเหรดที่ขุดไว้เดิมก่อนทำรั้วบังเกอร์ ส.ต.ต.สัมภาษณ์ เอาตัวลงคูเหรดทันแต่ขายังอยู่ข้างบน เขาจึงโดนระเบิดลูกนี้เข้าที่ขาอย่างจัง ข้าพเจ้าถามทุกคนว่า “เฮ้ย เอายังไงว่ะ สู้ตายคาฐานมั้ย” ส.ต.ต.สัมภาษณ์ บอกว่า “ไม่ไหวแล้ว อยู่ก็ตายหมด ถอนตัวเถอะครับผู้หมวด” ข้าพเจ้านึกถึงคำกำชับของผู้กำกับกฤชที่สั่งไว้ แต่ก็ต้องตัดสินใจถอนตัวออกจากฐาน นาทีสำคัญมาถึงอีกแล้ว จะออกไปอย่างไรถึงจะไม่ถูกยิงหรือถูกจับตัว ข้าพเจ้าตัดสินใจออกทางด้านภูแผงม้าซึ่งไม่ได้ยินเสียงแนวยิงของฝ่ายผกค. โชคดีเพราะมันวางกำลังเข้าตีแบบครึ่งวงกลมหรือรูปเกือกม้าทางด้านหมู่บ้านและเนินป่าช้า ข้าพเจ้ากับพวกกระโดดข้ามบังเกอร์แล้วคลานออกไปลอดรั้วลวดหนาม ลวดหนามเกี่ยวขาข้าพเจ้าไม่มีเวลาปลดกระชากอย่างแรงจนกางเกงขาดขาเป็นแผลเหวอะ แต่พอพ้นลวดหนามแค่ 2 วาก็ติดพงหนามไปไม่ได้ ใครคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ผู้หมวดครับ หนีเข้าหมู่บ้านเถอะ” ข้าพเจ้าตอบว่า “ไม่ไป เดี๋ยวไปเจอมันดักที่ทางลงหมู่บ้านแล้วมันจะปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน หมอบอยู่ที่นี่แหละ” ข้าพเจ้ามีความคิดวูบขึ้นมาว่า เราจะหนีแบบวัวพันหลัก โดยศัตรูไม่คาดคิดว่าเราจะอยู่ตรงนี้ เพราะข้าพเจ้ามีประสบการณ์ที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าเป็นผบ.หมวด สภ.อ.เมืองเลย ก่อนที่จะมาเป็นหัวหน้านปพ. มี พ.ต.อ.สำราญ พงษ์สถิตย์ เป็นผู้กำกับการจังหวัด ข้าพเจ้าเป็นนายร้อยเวรสอบสวนคดีที่ผกค.ดักซุ่มยิง พ.ต.อ.สำราญ, นายอำเภอเมืองเลย และพันเอกทหาร ข้าพเจ้าจำชื่อไม่ได้และเป็น รองผอ.รมน.จว.เลย เหตุเกิดที่ทางเข้าหมู่บ้านกอไร่ใหญ่ เขตอำเภอเมืองเลยในตอนหัวค่ำ ปรากฎว่านายอำเภอเมืองถูกยิงตายในที่เกิดเหตุ รองผอ.รมน.กับลูกน้องทหารคนหนึ่งหนีกลับเข้าไปในเมืองได้ แต่ พ.ต.อ.สำราญ หายตัวไปไม่มีใครพบเห็น ต่อมาวันรุ่งขึ้นทางจังหวัดนำกำลังเข้าไปเคลียร์พื้นที่จึงได้พบว่า พ.ต.อ.สำราญ ยังคงนอนหมอบมือกำดินอยู่ข้างทางในที่เกิดเหตุนั้นเอง มีปลอกกระสุนปืนอาร์ก้าตกเกลื่อนเต็มไม่หมด ท่านได้เล่าให้ฟังภายหลังว่า ท่านหมอบมือกำดินพร้อมกับอธิฐานว่า “แม่ธรณี ช่วยลูกด้วย” พวกผกค.เดินเฉียดผ่านท่านไปมาก็มองไม่เห็น ท่านจึงรอดชีวิตมาได้

เป็นอันว่าข้าพเจ้ากับลูกน้องรวม 4 คน หมอบนิ่งอยู่ข้างรั้วฐานนั้นเอง เสียงพวกผกค.เข้ายึดฐานไชโยโห่ร้อง สักพักหนึ่งก็มีแสงไฟฉายฉายกราดไล่มาตามแนวรั้วที่ข้าพเจ้ากับพวกหมอบอยู่ ข้าพเจ้าบอกกับลูกน้องว่าอยู่เฉยๆไม่ต้องยิง เว้นแต่แสงไฟฉายหยุดที่เราหรือฉายย้อนกลับมาแสดงว่ามันเห็นเรา แสงไฟฉายผ่านข้ามศรีษะข้าพเจ้าไปในขณะที่ข้าพเจ้าหมอบตะแคงพร้อมยิง วินาทีนั้นระทึกใจมากกว่าตอนยิงสู้อยู่ในฐานเสียอีก เพราะเราอยู่ในที่อับถ้ามันเห็นเราเราก็จบแน่นอน โชคดีอีกครั้งที่แสงไฟฉายผ่านไปเลยโดยไม่ฉายย้อนกลับมา และมันไม่ได้ยิงกราดเคลียร์พื้นที่แม้แต่นัดเดียว

ข้าพเจ้าคาดการณ์ตามยุทธวิธีของผกค.ว่า เมื่อเข้ายึดฐานมันจะต้องตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหลืออยู่ของฝ่ายเราและฝั่งระเบิดไว้ใต้ศพหรือภายในฐานและจากนั้นจะเข้าปิดล้อมหมู่บ้านตรวจค้นหาฝ่ายเราที่อาจหลบซ่อนอยู่รวมทั้งจับตัวผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่นานผู้ใหญ่บ้านได้นำกำลังตำรวจนปพ.ชุดที่กลับลงไปพัก ซึ่งมี ส.ต.อ.วีระพล ประไชยโย รองผบ.หมวดนปพ.เป็นหัวหน้าบุกไปถึงหน้าถ้ำเสาซึ่งพวกผกค.แม้วแดงปลูกข้าวไร่ไว้กินและยิงพวกที่ออกมาเก็บเกี่ยวข้าวตายไปหลายคน เสร็จแล้วรีบถอนตัวถอยกลับมาที่ฐานรอดจากการไล่ติดตามและดักสกัดจากพวกผกค.อย่างหวุดหวิด สร้างความโกรธแค้นให้กับผกค.อย่างมาก นี่เป็นมูลเหตุหนึ่งที่ผกค.ระดมกำลังเข้าโจมตีฐานหมากแข้งเพื่อแก้แค้นตอบโต้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นฐานแรกที่ถูกผกค.โจมตีในการเปิดยุทธการภูหินร่องกล้าในปี พ.ศ.2515

ข้าพเจ้ากับลูกน้องจึงหมอบนิ่งอยู่ที่เดิมข้างฐานนั้นเองไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหนเลย อย่างน้อยเราก็นึกปลอบใจตัวเองว่า เราสู้เต็มที่แล้วเราไม่ได้ทิ้งฐาน จากเวลาสองนาฬิกาเศษคืนนั้นจนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงวันรุ่งขึ้น มีเสียงเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์บินเข้ามาตรวจสอบฐานซึ่งยังคงมีควันคุกรุ่นอยู่ เราเริ่มดีใจคิดว่าฝ่ายเรามาช่วยแล้ว แต่แล้วก็มีเสียงปืนระดมยิงใส่ ฮ.จนต้องบินหลบกลับไปและไม่บินกลับมาอีกเลย จนเวลาประมาณบ่ายสองโมงมีเสียงชาวบ้านมาตะโกนร้องเรียกถามหาว่ามีเจ้าหน้าที่หลบซ่อนอยู่แถวนี้ไหม ข้าพเจ้าบอกลูกน้องว่าอย่าเพิ่งรีบร้องตอบ ฟังดูให้แน่ใจก่อนว่าชาวบ้านมาค้นหาเองโดยไม่มีผกค.ควบคุมมา เมื่อแน่ใจแล้วจึงร้องขานตอบ พวกชาวบ้านต้องใช้มีดถางป่าเข้ามาหาพวกเราแล้วพาพวกเราเข้าไปในหมู่บ้าน เอาข้าวเหนียวกับน้ำมาให้เรากิน จากการพูดคุยสอบถามเหตุการณ์จึงได้ทราบว่ากำลังผกค.ได้ถอนตัวไปแล้วแต่คาดว่ายังคุมเชิงอยู่ไม่ไกล ในคืนนั้นผกค.ได้เข้าไปในหมู่บ้านเต็มไปหมดค้นหาผู้ใหญ่บ้านหวังจับตัวไปจริงๆ เคราะห์ดีวันนั้นผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ลงไปประชุมที่อำเภอยังไม่ได้กลับขึ้นมาจึงรอดจากการถูกจับตัวไปได้

ข้าพเจ้าตัดสินใจเดินเท้าเพื่อไปแจ้งเหตุที่ฐานห้วยมุ่นหรือฐานน้ำหมันเพราะไม่แน่ใจว่าจะมีกำลังเข้าไปช่วยเหลือเมื่อใด จึงฝากให้ชาวบ้านนำตัว ส.ต.ต.สัมภาษณ์ ซึ่งถูกระเบิดที่ขาเดินไม่ไหว และพลฯมูละ ซึ่งถูกยิงที่ข้อมือบาดเจ็บมากไปซ่อนตัวไว้ก่อน ส่วนข้าพเจ้าพร้อมด้วย ส.ต.ต.วิเชียร พลฯพลเตียง และพลฯกิตทอง พากันเดินลัดเลาะไปตามป่าเขาโดยมีชาวบ้านที่เห็นใจ 2 คนอาสาเดินนำทางไป ต้องเดินหลบเส้นทางหลักที่ไปถึงบ้านห้วยมุ่น หลบทั้งกระสุนปืนใหญ่จากทหารปืนใหญ่ที่ฐานห้วยมุ่นซึ่งยิงเคลียร์พื้นที่ทุกคืน พออ่อนแรงก็หยุดพักนอนที่ซอกหลืบริมห้วยพอมีแรงก็ออกเดินต่อ ข้าพเจ้ากับพวกเดินไปถึงฐานบ้านน้ำหมันเวลาประมาณเที่ยงวันรุ่งขึ้น พ.ต.อ.กฤช ซึ่งขึ้นไปอยู่ที่ฐานห้วยมุ่นแล้วทราบข่าว ได้นำรถไปรับข้าพเจ้ากับพวกไปที่ฐานห้วยมุ่นทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำขึ้นฮ.ไปส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดเลย ฮ.ลำเลียงคนเจ็บคนตายไปส่งลงที่สนามหน้าหน่วย พตท. มีชาวจังหวัดเลยมาคอยรับเต็มไปหมด เป็นที่น่าสงสารภรรยาตำรวจที่มาคอยรับด้วยใจจดจ่อว่า สามีของตนจะบาดเจ็บรอดชีวิตหรือตาย แล้วเธอหลายคนก็ร่ำไห้เมื่อทราบข่าวร้าย

ข้าพเจ้าได้ทราบภายหลังว่า กำลังทหารตำรวจได้ร่วมกันเข้าไปกู้ยึดฐานหมากแข้งคืน พบศพตำรวจเสียชีวิตอยู่ภายในฐานและมีคนหนึ่งถูกยิงตายที่ทางเดินลงหมู่บ้านซึ่งถูกผกค.ที่วางกำลังขวางไว้ยิงเอาจริงตามที่ข้าพเจ้าคาดการณ์ไว้ ฝ่ายทหารได้ใช้เครื่องมือตรวจระเบิดเข้าไปตรวจหาระเบิดที่ผกค.ฝังไว้ภายในฐานเสร็จแล้วร้องบอกว่า ตำรวจเข้าไปเอาศพได้ พลฯมนัส อดทน(ชื่อเดียวกับข้าพเจ้าเลย) ซึ่งไปจากฐานห้วยมุ่นพร้อมกับ ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ศิวิลัย เพื่อนของข้าพเจ้าซึ่งทำหน้าที่ผบ.หมวดโจมตี ได้เดินเข้าไปที่ศพพอจะดึงออกมา ระเบิดก็ดังตูมขึ้นมา พลฯมนัส ทรุดตัวลงเพราะขาขาดเหนือหัวเข่าไปข้างหนึ่ง ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังกระเด็นไปอีกทาง พลฯมนัสมีความอดทนสมกับนามสกุลของเขาจริงๆ เขาบอกกับร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ว่า “ผู้หมวดช่วยเอาขาผมไปดูเป็นที่ระลึกด้วย” เขาร้องเพลงปลอบใจตลอดเวลาขณะที่นอนมาในฮ.นำส่งโรงพยาบาล เขารอดชีวิตมาได้และใส่ขาเทียมทำงานตลอดมา จนมีอาการป่วยและเสียชีวิตที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าลี่เมื่อปี พ.ศ.2549 ในงานศพที่เรียบง่ายของเขา ข้าพเจ้าตอนนั้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจ ภรรยาและบุตรสาวของเขาได้เข้ามากอดข้าพเจ้าและร้องไห้ จบตำนานนักรบตำรวจในอดีตไปอีกคนหนึ่ง ในงานศพวันนั้นข้าพเจ้าได้พบตำรวจเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายคน ต่างดีใจที่ได้พบกันอีก

ในช่วงเวลาที่ข้าพเจ้ายังไม่ปรากฎตัวหลังเหตุการณ์ปะทะนั้น หนังสือพิมพ์รายวันพาดหัวข่าวใหญ่ว่า ผกค.โจมตีฐานปฏิบัติการหมากแข้ง ร.ต.ท.ผบ.ฐานหายตัวไปไม่ทราบชะตากรรม ส่วนมากเข้าใจว่าข้าพเจ้าต้องเสียชีวิตแล้วหรือไม่ก็ถูกผกค.จับตัวไป ส.ต.ท.ทองหลางกับพลฯอุไร ซึ่งขึ้นไปเปลี่ยนยามกันบนหอคอยตอนเวลาตีสอง ถูกระเบิดอาร์พีจีลูกแรกยิงใส่หอคอยทั้งสองคนตกลงมาจากหอคอย ได้เดินไปจนถึงฐานบ้านห้วยมุ่นแจ้งกับร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ว่าข้าพเจ้าคงไม่รอดแล้วเพราะมองเห็นเต็นท์ของข้าพเจ้าระเบิดก่อนเพื่อน ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ถึงกับน้ำตาซึมและรำพึงในใจว่า เพื่อนเราไปเสียแล้ว สำหรับภรรยาของข้าพเจ้านั้นเธออายุยังน้อยพอภรรยาตำรวจวิ่งมาบอกเธอที่บ้านพักตำรวจนปพ.ว่า “คุณนายๆ ฐานหมากแข้งแตกแล้ว” เธอยังย้อนถามว่า “อ้าว ทำไมมันถึงแตกล่ะ” พอได้รับคำอธิบายว่าฐานแตกเพราะถูกผกค.โจมตี เธอจึงรู้สึกตกใจเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว เอาเสื้อผ้าของข้าพเจ้ามากองไว้รอบตัวเต็มไปหมด คุณแม่ของเธอแอบเอาปืนพกของข้าพเจ้าไปซ่อนไว้ กลัวว่าเธอจะฆ่าตัวตายถ้าทราบข่าวว่าข้าพเจ้าตาย แต่ข้าพเจ้าก็ได้รอดชีวิตมาแล้ว แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกสะเก็ดระเบิดและเสียงระเบิดทำให้แก้วหูทะลุ ข้าพเจ้าต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดเลยและโรงพยาบาลตำรวจนานเดือนกว่า เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว ข้าพเจ้ายังคงกลับไปปฏิบัติหน้าที่นปพ.ในพื้นที่เดิมต่อไปอีกจนถึงปลายปี พ.ศ.2516 จึงได้รับแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งที่อื่น และรับราชการวนเวียนอยู่หลายจังหวัดในภาคอีสานจนครบเกษียณอายุราชการในที่สุด

-4-
ข้าพเจ้าเพิ่งจะบันทึกความทรงจำนี้เป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2553 นี้เอง และเขียนเสร็จในวันเดียวเพราะได้ทราบข่าวจากเพื่อนตำรวจนปพ.ที่จังหวัดเลยว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ จะเสด็จไปทรงเปิดอนุสรณ์สถานที่บ้านหมากแข้ง ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 3 ดำเนินการสร้างเสร็จแล้ว และทางทหารต้องการทราบข้อมูลของฝ่ายตำรวจที่อยู่ร่วมปฏิบัติงานกันมา ข้าพเจ้าจึงรีบเขียนบันทึกนี้ส่งไปให้ แม้ว่าเหตุการณ์จะล่วงเลยมานานถึง 38 ปีแล้ว แต่ความทรงจำยังคงตราตรึงบันทึกอยู่ในจิตใจของข้าพเจ้าตลอดมามิรู้ลืม ถึงจะลงมือเขียนในวันใดเวลาใด ก็ยังคงเขียนได้เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน และสิ่งที่สำคัญที่สุดอันเป็นข้อคิด เป็นคติเตือนใจเราตลอดมาก็คือ ความมีสติ รอบคอบใช้ปัญญาในการแก้ไขสถานการณ์ ทำให้เรารอดชีวิตมาได้ สมดังคำพระราชนิพนธ์ “กุมสติต่างโล่ป้อง อาจแกล้วกลางสมร”

ขอไว้อาลัยแด่ดวงวิญญาณของเพื่อนตำรวจทุกคนที่พลีชีพในการปฏิบัติการครั้งนี้ ด้วยจิตคารวะและระลึกถึงตลอดไป.

พล.ต.ต.เขมณัส(มนัส) สุขเจริญ
5 มีนาคม 2553
---------------------------------


 แก้ไขเมื่อ : 27/1/2557 19:03:23

 แก้ไขเมื่อ : 27/1/2557 19:10:21

 แก้ไขเมื่อ : 27/1/2557 20:09:38

 แก้ไขเมื่อ : 30/1/2557 21:31:07

 แก้ไขเมื่อ : 11/2/2557 22:03:57

 แก้ไขเมื่อ : 11/2/2557 22:11:59





อ่านจนจบ และประทับใจอย่างยิ่ง
จาก : karinjin(karinjin) 1/3/2557 11:51:14 [180.183.183.235]
อ่านจนจบ ซึ้งมากครับ
จาก : คนทะเบียน(คนทะเบียน) 13/5/2557 14:18:19 [182.53.76.41]
ขอบคุณนะคะที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคุณตาและเหล่าทหารกล้าให้ภูมิใจส.ต.ต.สัมภาษณ์ เวียงพล
จาก : ่jenza(่jenza) 28/11/2557 14:14:34 [49.49.92.50]
คนไหนส.ต.ต.สัมภาษณ์ เวียงพลค่ะมีไหมค่ะ
จาก : ่jenza(่jenza) 28/11/2557 14:18:54 [49.49.92.50]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

สหภูมิ จาก สหภูมิ 223.206.235.216 จันทร์, 27/1/2557 เวลา : 18:59  IP : 223.206.235.216   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 197084

คำตอบที่ 122
       ขอขอบคุณมากนะครับคุณสหภูมิ สำหรับข้อมูลดีๆ เรื่องราวการสู้รบของตำรวจ ทหาร เมื่อสมัย 40 กว่าปีก่อน ด้วยความที่อาวุธยุทธโธปกรณ์ยังไม่ทันสมัย เครื่องมือสื่อสารก็ยังไม่พัฒนา สะดวก สบาย เหมือนทุกวันนี้ ชีวิตแต่ก่อนลำบากมากจริงๆนะครับ มีเรื่องราวดีๆนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมเรื่องภูขี้เถ้า เมื่อปี พ.ศ.2511 อยู่ครับ ทำมา 1 ปี แล้ว ยังไม่เสร็จ กำลังรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่ร่วมคณะเข้าช่วยเหลือ พ.ต.อ.กฤช สังขทรัพย์ ที่สนามบินภูขี้เถ้า เมื่อเดือน ธันวาคม 2511 อยู่ครับ ขอให้คุณพ่อคุณสหภูมิสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะครับ ขอบคุณครับ

 แก้ไขเมื่อ : 6/2/2557 19:20:00



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ 223.206.250.111 พฤหัสบดี, 6/2/2557 เวลา : 19:18  IP : 223.206.250.111   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 198018

คำตอบที่ 123
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pavira จาก ปาเหนือ 49.231.16.74 ศุกร์, 7/2/2557 เวลา : 09:35  IP : 49.231.16.74   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 198049

คำตอบที่ 124
      
ผมอ่านแล้วอึ้ง ซึ้ง ประทับใจในความกล้าหาญของท่านวีรบุรุษทุกๆ ท่าน ผมอ่านจบน้ำตาซึมมาเองครับ
เรื่องราวดีๆ ของท่านผู้การมนัส สุขเจริญ และขอไว้อาลัยแด่ตำรวจผู้กล้าที่เสียสละชีวิตกลางสนามรบทุก
ท่านครับ ท่านจะเชื่อหรือไม่ผมไม่รู้นะ แต่เหตุการณ์ต่างๆ ที่ท่านเล่ามานี้แหละ ที่เป็นเหตุจูงใจที่ทำให้ผม
สมัครใจเข้ามารับราชการทหาร (เหตุปะทะ ที่ท่านผู้การมนัส เล่า ตอนนั้น ผมอายุ 15 ปี) ทำให้ผมฝังใจ
อยากออกรบกับเขาด้วย ตอนนั้นเหตุการณ์ไม่สงบมีอยู่หลายพื้นที่มาก ไม่ได้สงบเหมือนทุกวันนี้ แต่ด้วย
เหตุที่ผมอาจจะยังไม่ถึงคราว หรือจังหวะวงจรชีวิตไงก็แล้วแต่ ผมกลับไม่ได้ไปอยู่หน่วยรบซะนี่ แต่ถ้าได้
อยู่หน่วยรบจริง ผมอาจไม่ได้มานั่งคอมเม้นท์อย่างนี้ก็ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับเรื่องดีๆ และประ
ทับใจแบบนี้ครับ



ขอบคุณนะครับ พ่อผมได้อ่านคอมเมนท์คุณ arkoy แล้วยิ้มอย่างภูมิใจครับ
จาก : สหภูมิ(สหภูมิ) 11/2/2557 22:18:34 [171.4.104.100]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

arkoy จาก arkoy 203.156.140.163 ศุกร์, 7/2/2557 เวลา : 16:32  IP : 203.156.140.163   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 198058

คำตอบที่ 125
       ขอบคุณ คุณรุจน์และคุณ arkoy ด้วยนะครับที่ให้ความสนใจ
คุณรุจน์ครับสาเหตุที่ทำไมต้องเดินเท้าไปแจ้งเหตุด้วยตัวเองทำไมไม่วิทยุแจ้งเหตุตั้งแต่ตอนถูกโจมตี พ่อบอกว่ามันมีสาเหตุครับ ก็คือว่า"วิทยุสื่อสารเสียครับ"
ปกติที่ฐานหมากแข้งจะมีกำลัง นปพ.ประจำอยู่ 20 นาย เผอิญด้วยเหตุที่วิทยุสื่อสารเสีย กำลังพล 5 นายจึงได้นำวิทยุสื่อสารลงไปซ่อมในตัวอำเภอและยังไม่กลับขึ้นมา ในวันที่ถูกโจมตีเลยเหลือกำลังพลอยู่แค่ 15 นายและไม่มีวิทยุสื่อสารครับ
เรื่องรวบรวมข้อมูลที่คุณรุจน์กำลังทำอยู่ดีมากเลยครับ เพราะผ่านมา 40 กว่าปีแล้วแต่ไม่ค่อยมีคนบันทึกเหตุการณ์โดยละเอียดไว้เลย และเพราะกระทู้คุณรุจน์นี่แหละที่ทำให้ผมได้มีโอกาสนำเรื่องราวความประทับใจความภูมิใจของพ่อในการรับใช้ชาติที่เก็บไว้ในใจกว่า 40 ปี นำมาเผยแพร่ให้คนอื่นใด้รับรู้ ผมเอากระทู้นี้ของคุณรุจน์ให้พ่อดู เห็นมีคอมเมนต์ชื่นชมของคุณ arkoy พ่อก็ยิ้มมีความสุข
ขอบคุณ คุณรุจน์นะครับ และขอให้คุณพ่อคุณรุจน์มีความสุข สุขภาพแข็งแรงเช่นกันนะครับ


 แก้ไขเมื่อ : 11/2/2557 21:40:20

 แก้ไขเมื่อ : 11/2/2557 22:21:08



ส.ต.ต.สัมภาษณ์ เวียงพล ลูกน้องของท่านได้จากโลกนี้ไปด้วยโรคชรา คงเหลือไว้แต่ความดีเหลือ ไว้ให้จดจำค่ะ
จาก : ่jenza(่jenza) 29/11/2557 4:41:51 [49.49.92.50]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

สหภูมิ จาก สหภูมิ 171.4.104.100 อังคาร, 11/2/2557 เวลา : 21:38  IP : 171.4.104.100   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 198350

คำตอบที่ 126
       ยินดีและผมต้องขอขอบคุณๆ สหภูมิ มากกว่าครับที่นำเรื่องราวการปฏิบัติหน้าที่ในสนามรบอันกล้าหาญของคุณพ่อ (ท่าน พล.ต.ต.เขมณัส (มนัส) สุขเจริญ ตลอดจนวีรบุรุษทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ กับท่านผู้การมนัส (ต้องขอขอบคุณ คุณรุจน์ ด้วยนะครับ ที่เป็นผู้เปิดกระทู้ดีๆ นี้ให้กับคุณพ่อ เป็นการจุดประกายให้พวกเราได้รับรู้ถึงเรื่องราวดีๆ ของท่านผู้กล้าทุกๆ ท่าน ผมชอบเรื่องราวแบบนี้อยู่แล้วครับ ชอบมาแต่จำความได้ไม่รู้เป็นไง มันฝังใจ และประทับใจทุกครั้งที่ได้อ่าน ผมว่าที่ผมชอบเพราะนี่มันคือเรื่องจริง ไม่ใช่นิยายที่จะเขียนจะแต่งแต้มให้สวยหรูเลิศลอยยังไงก็ได้ แต่นี่คือเรื่องจริง เจ็บและตายจริง โดยส่วนตัวของผมยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับทางการในบางประเด็นครับ จะเห็นได้ว่าผู้ที่เสียชีวิตกลางสนามรบหรือตายในหน้าที่ ทางการก็ปูนบำเหน็จให้อย่างเต็มที่ทั้งเงิน ยศ เครื่องราชฯ อันนี้ผมเห็นด้วยเต็มๆ ครับ แต่สำหรับท่านที่ได้ทำการสู้รบในสนามรบด้วยความกล้าหาญ และรอดชีวิตมาได้ เช่นคุณพ่อของคุณรุจน์ และท่านผู้การ พล.ต.ต.เขมณัส ฯ จะเห็นว่าท่านผู้การเขมณัส ได้รับยศสูงสุดก่อนเกษียณเพียง พล.ต.ต. ทั้งๆ ที่ท่านผู้การจบมาจาก รร.นายร้อยตำรวจ (ผมไม่แน่ใจว่าท่านเป็น ตชด.หรือเปล่า) แต่ถึงเป็น ตชด. ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเกียรติประวัติการทำงานของท่าน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมทางการถึงไม่จัดประเภท หรือหมวดหมู่ของการพิจารณาเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้ผมว่า อัตราชั้นยศ พล.ต.อ. มีอยู่เยอะทีเดียว ในกรมตำรวจ ทำไมกรมตำรวจถึงไม่ปูนบำเหน็จความดีความชอบให้กับผู้ที่ทำคุณอันเอนกอนันต์ สร้างชื่อเสียงให้กับกรมตำรวจไทย หรือว่าต้องคนที่ตายในหน้าที่เท่านั้นจึงจะได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเขาคือวีรบุรุษ เพียงสถานเดียว หรือว่าท่านผู้การมัวแต่ออกสนามรบ จนลืมไปว่า บ้านเราเมืองเราต่อให้รบให้ตาย ถ้าไม่ได้เป็นคนของใคร เป็นเด็กของใคร ก็อย่าได้หวัง ....แหะ แหะ แหะ ผมก็เขียนไปตามความรู้สึกของผมเท่านั้นนะครับ ไม่รู้ว่าตัวท่านผู้การเขมณัส ฯ หรือท่านอื่นๆ จะเห็นด้วยกับผมหรือปล่าวครับ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับถ้าคอมเม้นท์ของผมบังเอิญไม่ถูกใจใคร หรือว่าไปขวางหูขวางตาใครเข้า ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับผม

 แก้ไขเมื่อ : 12/2/2557 11:31:58

 แก้ไขเมื่อ : 12/2/2557 11:38:54



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

arkoy จาก arkoy 203.156.140.163 พุธ, 12/2/2557 เวลา : 11:17  IP : 203.156.140.163   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 198355

คำตอบที่ 127
       ยศพลตำรวจตรีที่พ่อผมได้รับไม่ธรรมดานะครับคุณ Arkoy สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเสนอแต่งตั้งให้เนื่องจากท่านเป็นบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิสูงสุดคือ เป็นผู้มีความสามารถ มีอาวุโสสูงสุดและได้รับอัตราเงินเดือนเต็มขั้นจนล้น

พ่อผมเป็นคนแรกในรุ่นที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสารวัตรใหญ่เมื่ออายุเพียง 30 ปี ผมเกิดมาจำความได้พ่อก็เป็นสารวัตรใหญ่แล้ว จนผมเรียนอยู่ ม.6 พ่อได้เป็นผู้กำกับการ ผมเรียนจบ ป.ตรีมาแล้ว 7 ปี พ่อได้ยศนายพลตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัด อีก 2 ปี เกษียณอายุราชการ

เป็นความจริงอันขมขื่นของข้าราชการตำรวจส่วนใหญ่ของประเทศ ทำงานเก่งอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตำแหน่งที่ต่ำกว่าผู้กำกับการนอกจากจะต้องทำงานเก่งแล้วยังต้องหาเงินให้นายเก่งด้วยจึงจะได้รับการส่งเสริม พอได้เป็นผู้กำกับการต้องรีบเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เอาไว้เป็นทุนในการขึ้นตำแหน่งผู้บังคับการยศนายพล เพราะตำแหน่งรองผู้บังคับการไม่มีผลประโยชน์ให้เก็บเกี่ยว นอกจากนี้ยังต้องสร้างคอนเนคชั่นกับขั้วการเมือง เพราะการจะได้เป็นนายพลโดยเฉพาะตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัดใหญ่ๆนอกจากจะต้องมีเงินแล้วจะต้องเป็นคนของขั้วการเมืองที่มีอำนาจในขณะนั้นด้วย จะเห็นได้จากพอมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายเอาคนของตัวเองเข้ามายกแผง

ส่วนพ่อผมตลอดอายุราชการไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์และเสนอผลประโยชน์เพื่อให้ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายและไม่รับใช้การเมือง การได้เลื่อนตำแหน่งแต่ละครั้งจึงได้มาด้วยความยากลำบากหรือไม่ก็ต้องรอจนรุ่นน้องที่มีความพร้อมดังกล่าวข้ามหัวไปจนหมดจนกลายเป็นบุคลที่มีอาวุโสสูงสุดในบรรดารายชื่อที่รอขึ้นตำแหน่งจึงจะได้รับการแต่งตั้ง ครั้งนึงพ่อเคยโดนผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแซวว่า "คุณมันนักวิ่งเอธิโอเปียนี่ เข้าใจมั๊ย?" พ่อตอบไปว่า "เข้าใจครับ นักวิ่งตีนเปล่า!"

ข้าราชการตำรวจดีๆส่วนใหญ่ก็เป็นแบบเดียวกันนี่แหละครับ เกษียณอายุราชการที่ยศ พล.ต.ต. ได้ก็ถือว่าเป็นเกียรติประวัติสุงสุดของชีวิตข้าราชการตำรวจแล้วล่ะครับ

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ท่านภูมิใจและเป็นเกียรติสูงสุดก็คือ การที่ท่านได้รับโปรดเกล้าฯให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายตำรวจราชสำนักเวร เคยไปเข้าเวรถวายความปลอดภัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชวังไกลกังวลหัวหินด้วยครับ

 แก้ไขเมื่อ : 13/2/2557 16:20:38

 แก้ไขเมื่อ : 13/2/2557 17:09:59

 แก้ไขเมื่อ : 13/2/2557 17:20:03

 แก้ไขเมื่อ : 13/2/2557 17:33:28



ประทับใจมากครับ
จาก : karinjin(karinjin) 1/3/2557 11:50:38 [180.183.183.235]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

สหภูมิ จาก สหภูมิ 49.49.187.180 พฤหัสบดี, 13/2/2557 เวลา : 16:12  IP : 49.49.187.180   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 198475

คำตอบที่ 128
      
เกียรติประวัติการรับราชการและการทำงานของคุณพ่อคุณสหภูมิไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ จริงๆ แล้วเรื่องที่คุณสหภูมิบอกเล่ามานี้ (เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย) ผมก็เคยได้ยินมาหมดแล้วครับ และบ่อยๆ ด้วยครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจนักว่าในวงการนี้มันมีเรื่องแบบนี้จริงๆ เหรอ เพราะผมเป็นคนนอก ผมยังคิดในแง่ดีอยู่ว่าข้อมูลเหล่านี้มันเป็นการดิสเครดิดองค์กรกันหรือเปล่า ใส่ร้ายป้ายสีองค์กรกันหรือป่าว แต่เมื่อได้รับรู้จากการบอกเล่าของผู้มีประสบการณ์ตรงอย่างคุณสหภูมิ ก็ยิ่งทำให้ข้อมูลเหล่านี้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้นไปอีกครับ น่าเศร้าใจชะมัดยาดเลยนะครับคุณสหภูมิ ที่เรื่องราวของการซื้อตำแหน่งของวงการตำรวจไทยเรามีเรื่องพวกนี้อยู่จริงๆ และมันคงจะต้องเป็นเช่นนี้ไปอีกยาวนานจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันไปแล้ว ต่อให้ใครหน้าไหนเข้ามาคุมกรมนี้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งเรื่องพวกนี้ได้ เมื่อไปทำตัวเป็นจรเข้ขวางคลองไม่ได้ก็เลยหม่ำกันไปตามน้ำจบเรื่องกันไป แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นสิ่งสมมติขึ้นมาทั้งนั้นครับคุณสหภูมิ บังเอิญว่าผมอยู่ในจุดที่ได้รู้ได้เห็นเรื่องราวต่างๆ ของวงการเหล่านี้มาพอสมควร บางคนยศศักดิ์สูงส่งระดับพลเอก (ยกตัวอย่างว่าบางคนนะครับ) แต่ในวันที่ครบเกษียณอายุราชการมีผู้ใต้บังคับบัญชาเอาพริกเอาเกลือมาเผาเพื่อสาบแช่ง เอาน้ำมนต์มาทำพิธีปัดรังควานสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปก็ยังมี คิดดูก็แล้วกันว่าคนประเภทนี้ได้ทำอะไรเอาไว้บ้างในเวลาที่คุณมีอำนาจ มีตำแหน่ง พวกลูกน้องถึงได้จงเกลียดจงชังได้ถึงขนาดนี้ เมื่อครบเกษียณราชการไปแล้วคนเหล่านี้จะเป็นคนแก่ที่น่าเวทนาสงสารมากครับ เพราะเมื่อหมดอำนาจหมดบารมี บริวารที่เคยมีให้ใช้เป็นมือเป็นเท้าก็ต่างพากันหลบลี้หนีหน้า ไม่มีคนคอยตามรับใช้เหมือนเดิม คนพวกนี้น่าสงสารครับ ตอนที่ตัวเองมีอำนาจวาสนาแทนที่จะใช้พระคุณในการปกครองบังคับบัญชาลูกน้อง ใช้ความดีในการผูกมัดซื้อใจลูกน้อง แต่กลับกระทำในสิ่งตรงข้าม ความสุขอยู่ที่ใจครับถ้ามนุษย์เรารู้จักแค่คำว่า "พอ" แค่นั้นเองครับบ้านเมืองของเราก็คงจะไม่ต้องวุ่นวายกันขนาดนี้ครับ คุณสหภูมิเห็นด้วยกับผมมั๊ยครับ โลภมากไปกอบโกยไปก็เท่านั้น ตายไปกระดูกของตัวเองยังเอาไปไม่ได้เลยครับ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ว่างๆ ก็เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันนะครับ...........ขอบคุณครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

arkoy จาก arkoy 203.156.140.163 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 11:24  IP : 203.156.140.163   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 198903

คำตอบที่ 129
       บันทึกเก่าบางส่วนของพ่อ ที่สมรภูมิรบนาแก นครพนมครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:02  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199439

คำตอบที่ 130
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:18  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199440

คำตอบที่ 131
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:18  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199441

คำตอบที่ 132
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:19  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199442

คำตอบที่ 133
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:19  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199443

คำตอบที่ 134
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:20  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199444

คำตอบที่ 135
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:22  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199445

คำตอบที่ 136
       บันทึกเมื่อปี พ.ศ. 15 - 16 บางส่วน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:37  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199446

คำตอบที่ 137
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:38  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199447

คำตอบที่ 138
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:39  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199448

คำตอบที่ 139
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:40  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199449

คำตอบที่ 140
       ภาพถ่ายเก่าเมื่อปี พ.ศ.2515-16 ของพ่อครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:42  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199450

คำตอบที่ 141
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:43  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199451

คำตอบที่ 142
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:44  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199452

คำตอบที่ 143
       อาวุธประจำกายพ่อคือ ปืนยิงลูกระเบิด M79 ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:46  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199453

คำตอบที่ 144
       ถ่ายกับพระธาตุพนมองค์ดั้งเดิมก่อนที่พระธาตุจะพังทลายลงมาในปี พ.ศ.2518 ครับครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 18:51  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199454

คำตอบที่ 145
       กับท่านอดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส พ่อผมเคยร่วมรบกับท่านที่นาแกครับ ถ่ายเมื่อปี พ.ศ.2550





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 19:03  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199455

คำตอบที่ 146
       ท่าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อ่านบันทึกของพ่อ แล้วทำให้คิดถึงเรื่องราวเก่าๆ สมัยที่ท่านเป็นผู้นำพาลูกน้องออกสู้รบครับกับ ผกค.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 19:07  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199456

คำตอบที่ 147
       พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ท่านไม่เคยลืมลูกน้องเก่าครับ





น่าปลื้มใจแทนมากๆ ครับ
จาก : Mr.My(Mr.My) 28/2/2557 11:30:02 [118.151.157.13]
วีรบุรุษนาแกทั้งสองท่านเลยครับ
จาก : สหภูมิ(สหภูมิ) 2/3/2557 0:03:01 [223.206.129.142]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rut2518 จาก รุจน์ พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 19:09  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199457

คำตอบที่ 148
       ชอบกระทู้นี้จัง ....ผมอ่านเรื่องราวจนจบ ประทับใจและปลื้มแทนครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

karinjin จาก คาริน 180.183.183.235 เสาร์, 1/3/2557 เวลา : 11:45  IP : 180.183.183.235   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199467

คำตอบที่ 149
       ชอบกระทู้นี้จัง ....ผมอ่านเรื่องราวจนจบ ประทับใจและปลื้มแทนครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

karinjin จาก คาริน 180.183.183.235 เสาร์, 1/3/2557 เวลา : 11:46  IP : 180.183.183.235   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199468

คำตอบที่ 150
       พระวีรกรรมที่บ้านหมากแข้งปี 2519 http://www.youtube.com/watch?v=VWekF2MxZvg

 แก้ไขเมื่อ : 1/3/2557 23:59:44



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

สหภูมิ จาก สหภูมิ 223.206.129.142 เสาร์, 1/3/2557 เวลา : 23:14  IP : 223.206.129.142   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 199513

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,23 เมษายน 2567 (Online 2445 คน)