อังคาร,19 มีนาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

มิตรภาพไร้พรมแดน
ตอน.แล่นเรือโต้คลื่น
วันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2543 ช่องแสมสาร

เรือOcean One Ranong

ผู้ร่วมทริบ ยุทธ เสือปลาขี้เมา พี่หมู อ่อนนุช นายคันดี นายเข้ม ตั้ม นายแต๋ง และ ผมชนบท   ง

 

แล่นเรือโต้คลื่นกับไต๋ยอช์ท
ข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งมาว่า ชายฝั่งทะเลตะวันออก จะโดนผลกระทบจากลมมรสุมทางภาคใต้ ทำให้มีคลื่นลมแรง และจะมีฝนตก ในบางพื้นที่ความเร็วลม อยู่ที่ 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูงของคลื่น 2-4 เมตร เรือเล็กไม่ควรออก หาปลา พอเราได้ฟังแค่นี้หัวใจก็หล่นตุ๊บ....แผนการที่วางกันไว้ มาเป็นแรมเดือนจะมาพังทลายลงแล้ว รึไง ! เย็น วันที่ 25 พย.43 แต๋ง มารอที่บ้านผม ตั้งแต่เวลา 18.30 น. ก่อนเวลาที่ได้นัดหมาย กับกลุ่มพี่เสือปลา เป็นชั่วโมง "หาอะไรมาทำฆ่าเวลาดีกว่า" ว่าแล้วก็ไปซื้อเบียร์ มานั่งดื่มกิน รอเวลา รอคณะของพี่เสือปลาเบียร์ Leo 6 ขวดดื่มกันไปได้ 2 ขวด เสียง โทรศัพท์ จากพี่เสือปลา โทรมาบอกว่าได้ขับรถเลยบ้านผมไปไกลแล้ว จากกำหนดการเดิมพี่เสือปลาจะมา รอพบกับผมที่ สายบายพาสตรงแยก เข้าแหลมฉบัง แล้วถึงออกไปพัทยาพร้อมๆ กันแต่เมื่อ ท่านพี่เสือปลา ขับรถเลยจุดนัดพบ เราจึงเปลี่ยนไปเจอกันที่บ้านนายคันดีเลยแล้วกัน 

เราเดินทางออกจากศรีราชาไปพบกลุ่ม ของพี่เสือปลาขี้เมาที่พัทยา ราชาข้าวต้มผักบุ้งลอยฟ้า เป็นจุดหมายแรก พวกเรานั่ง กินเหล้า เพื่อรอเวลาจะ ไปขึ้นเรือ ไต๋ยอช์ท ที่แสมสาร เราให้ไต๋ยอช์ท ออกเรือไปหาเหยื่อหมึกไว้ให้ก่อนแล้วมารับพวกเราที่ท่าเรือ เวลา เที่ยงคืน เวลาต่างๆ ที่เราได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้าดูมัน จะคาดเคลื่อนไปซะหมด เมื่อ นายตั้ม น้องใน กลุ่ม BP ที่อาสา ออกไป หาเหยื่อกับ ไต๋ยอช์ท พร้อมกับ เจ้าแมว โทรมาบอกว่า ครอบหมึกได้น้อยมาก เหยื่อ ได้น้อยต้องหาเหยื่อเพิ่ม ขอเลื่อนเวลาออกไปถึง ตี 2 เอาไงดีหว่า เหลือเวลาอีกตั้ง 4 ชั่วโมง กว่าจะถึงเวลาตี 2 มหกรรมท่องราตรี พัทยาก็ได้อุบัติ ขึ้น ณ. ทันใดนั้นเอง พวกเราตกลงกันว่าไปหาที่ กินเหล้า แทงสนุ๊กเกอร์ และนวดแผนโบราณ กันดีกว่า พัทยา โบว์ นั้นไง มีพร้อมทุกอย่างตามต้องการ เราเล่นสนุกเกอร์ไปจนถึง เที่ยง คืนครึ่ง ก็เดินทางออกจากพัทยา มุ่งหน้าไปแสมสาร บนถนนสุขุมวิท ถ้าใครได้มาขับรถในช่วงเวลา ตี1 - ตี4  จะต้องใช่ความระมัดระวัง เป็นพิเศษ เพราะเวลาดังกล่าว เป็นช่วง ที่บรรดา ขี้เมา ต่างได้ที่ ขับรถ ไม่กลัว ยมบาลเรียกหา ไม่เกรงใจ พวกมูลนิธิ ที่ต้องตามมาเก็บ รถของพี่เสือปลาก็เกือบจะถูก รถกะบะที่ตีตราโล่เงิน ชนเข้าเลย เมื่อพี่เสือจะแซงซ้ายขึ้นหน้า แต่รถตำรวจเปิดไฟเลี้ยวขวาไว้แล้วดันเลี้ยวซ้าย เสียฉิบ ..หักหลบแทบ ไม่ทัน คันของผมตามข้างหลังยังเสียววูบ .... ไปทั้งสันหลัง... พี่ตำรวจ คันนั้นขับคร่อมเลนท์กลางถนน ส่าย ไปมา ยังกับ งู ว่ายน้ำเลยละ....

พอรถเลี้ยวผ่านเข้าหมู่บ้านแสมสาร....เท่าผมก็เห็นสองฝั่งถนนเต็มไปด้วยร้านคาราโอเกะเต็ม พรึบไปหมด ทำไม ถึงได้มีร้านคาราโอเกะ มากมาย ขนาดนี้ ..... บรรดาสาวๆ เด็กๆ ต่างนั่ง รอ เชื้อเชิญแขกกันตาสะล่อน คงจะรอหนุ่มตังเก กลัดมัน เป็นแน่แท้ พวกเรามาถึง แสมสาร ก็ประมาณ ตี 1 เศษ เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ พี่เสือของเรา ก็ชวนไปร้องเพลง คาราโอเกะ ที่อยู่ข้างๆ ซอยเข้าท่าเรือร้านนี้มีแขกนั่งดื่ม กินกันอยู่แล้ว 1 โต๊ะ เป็นเด็กหนุ่มอายุประมาณ 17-19 ปี แต่โทษเถอะ เพลงที่เด็กกลุ่ม นั้นร้องนั้น ผมไม่รู้จักเลย มันไม่ใช่ภาษาไทยแน่นอนบนหน้าจอ ทีวี มันก็โชว์ ภาษา ต่างประเทศ ผมเข้าใจว่าคงเป็นภาษาพม่า ใช่เลย พม่าชัวร์ 100 เปอร์เซนต์ พวกเราเหมือนอยู่ในดินแดน ต่างประเทศ ยังไงยังงัน เพราะ บรรดาผู้ที่เดินสัญจรไปมานั้น ล้วนแล้วจะเป็นชายชาวพม่า เสียเป็นส่วนใหญ่  หนุ่มพม่าบางคน ร้องเพลงไทยได้เหมือนมาก นาฬิกาเดินเลยมาถึง ตี 2 กว่าๆ นายตั้มกับแมว ก็เดินมาตามพวกเรา ที่ร้านคาราโอเกะ บอกว่าเรือได้เข้ามารับพวกเราแล้ว เด็กเรือ มาช่วยขนข้าวของ ขึ้นเรือ....                                  

การเดินทางผจญภัยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว..... เมื่อเรือเคลื่อนตัว ออกจากสะพานเทียบเรือ มุ่งหน้า สู่ท้องทะเลอันกว้างไกล เรามาจอกตกปลา ที่หมายแรกเกาะจวง เวลาประมาณ ตี 4 คลื่น แรงมาก เล่นโยน เรือของพวกเราโคลงไป เครงมา ผมต้องหนี ไปซุก หัวนอนบนชั้น 2 แต่ก็ ไม่วาย กลิ้ง ขรุ ขรุ เป็นลูกขนุ่น ตามแรงเหวี่ยง ของคลื่นที่กระแทกกับลำเรือ หมายนี้ นายแต๋ง ได้ ปลาสาก มา 2 ตัว นายตั้ม ได้ ไอ้เปีย อีก 2 ตัว พอฟ้าสาง เรือแล่นเข้าสู่ ยุ่งเกลือ และ หินลูกโยน ปลาตัวแรกของเช้าวันใหม่ เข้าฉวย คันของนายคันดี ไต๋ใหญ่ แห่งพัทยา หลังจากสู้กันได้ สักพัก ปลาก็โบก มือลา บ่าย บาย รอก Daiwa Sealine " เบรกกระเด้า วะ" แต่เท่าที่เห็นนายคันดีอัดปลา นั้นคาดว่ามันคงเป็นไอ้โฉมงาม  ขนาดใหญ่แน่ เพราะเพื่อนเราคนนี้ ไม่มีสิทธิ์ ได้กรอสายเอ็นเลย ปลามันวิ่งออกอย่างเดียว แล้วมันก็ ขาดไป ....ฮ่า ฮา  

ไต๋คันดีของเราเสียฟอร์ม ละครับ งานนี้ ไต๋ยอช์ท ตะโกนบอกให้พวกเราเช็คเหยื่อ ดู ปรากฏ ว่าเหยื่อ ได้หายไป หลาย สาย แบบนี้คงต้องมีหัวขโมยมาแอบกินแน่ แล้ว มันจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ปักเป้า หรือ สายันต์ ของใครบางคน ที่ชอบเรียกมันว่าสายันต์ สายหน้าดินทุกเส้น จะโดน ปลาเล็ก กวนหมด สักพักนายตั้ม ก็เปลี่ยนมาเล่น สายลอย โดยใช้  ขวดน้ำเปล่าผูกหนังยางทำทุน เพียงชั่ว ไม่กี่อึดใจ รอก Penn 980 Mag power ก็ส่งสัญญาณ บอกแก่ พวกเราว่า " มีตัวอะไรไม่รู้ มาดึงปลายสายเล่นแล้ว" นายตั้ม คว้า คันได้ ก็วัด ไป 2 จึ๊ก ปลา สละตัวงาม กระโดด ลอยโชว์ตัวอวด  จุดข้างลำตัวให้พวกเราได้เห็น เพียงไม่นาน สละ ตัวนั้น ก็มาว่ายน้ำเล่นอยู่ที่ท้ายเรือรอให้ไต๋ยอช์ท เอาตะขอเกี่ยวขึ้นมา  แต่กว่าที่ไต๋ยอช์ท จะเอาตะขอสับลงปลาได้ ก็คว้า ว่าวไปหลายครั้งหลายครา ไม่ต่ำกว่า 5 จึก แน่ .....สับไม่โดน สักกะที  เฮอะ......ลุ้นกันแทบขาดใจ กว่าจะเอาตะขอเกี่ยวปลาขึ้นมาบนเรือได้ แล้วก็ โดน ไม้หวดเข้าที่หัว ไปซะ 3 โป๊ก จนปลา มันตาย นั้นแหละ ถึงปลดเบ็ด ออกจากปากมันได้  หลังจากนั้น เราก็ เงียบ มาตลอด เสียง ไต๋ยอช์ท คุย วิทยุ กับไต๋ทาน และ ไต๋คนอื่น ถึงเรื่อง หมายไหน ดี พอจะมีปลาให้ตกบ้าง เสียงทางโน้น ต่างตอบเป็นเสียง เดียวกัน ว่า "เขาก็แย่เหมือนกัน ไม่รู้ทำไม ไม่มีปลา เลย" ไต๋ทาน ได้ ไอ้โฉมใหญ่เพียง ตัวเดียว เรือทุกลำ  ต่างก็ได้ปลากันลำละ ตัว 2 ตัว เท่านั้น รึว่า ปลามันหมดไปจากแสมสาร ... จนเวลาบ่าย 3 โมง เราได้ย้าย หมายมาที่ สะพานจุฬา ไต๋ยอช์ท น่าจะบอกพวกเราก่อนนะว่า จะพาเรามาเล่นเรือไวกิ้งค์ กันที่นี้ ถ้าบอกก่อน  ผมจะได้ ว่ายน้ำกลับเข้า ฝั่งเอง ไม่ไปเล่นเรือไวกิ้งค์ ด้วยแน่ ฮ่า....คลื่นแต่ละลูก โยนเรือ เล่น ยังกับเราขึ้นไปเล่นเรือไวกิ้งค์  ที่แดนเนรมิต ยังไงยังงัน แต่ที่นี้ เราเล่นฟรี เล่นได้ยาว ไม่มีใครมาไล่เราลง เมื่อมันหมดรอบ แค่นึกถึงเวลานั้น ยังสยิวส์ หัวไม่หาย  เหล้าไม่ต้องกินก็เมาได้ ...ครับ แต่ที่น่าสงสารมากที่สุดในทริป นี้ก็คือ น้องแมว ของเรา ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอามาเป็นตากล้อง  แต่ก็มาเมาเสียก่อน ยังดีที่ได้นายเข้ม สมาชิกจาก UTCMTB มาเป็นตากล้องให้ ที่หมายนี้เราก็ไม่ได้ปลา เลยสักตัว

ที่หมายนี้เรามีเพื่อนมาร่วมตกปลา นำเรือมาจอดตกเป็นเพื่อนเรา ตั้ง 6 ลำ แต่ทุกลำ เงียบสนิด เหมือนกันหมด เมื่อสะพานจุฬาปลาไม่กิน ไต๋ยอช์ท  ก็ย้ายกลับไปยัง หมายหินโยน อีกครั้ง แต่เราก็พบแต่ความว่างเปล่า เราเดินทางกลับด้วย สภาพร่างกายที่อิดโรย.... ยอมรับชะตากรรม ขากลับเรามองเห็น เรือประมงต่างจอดเรียงรายกันเป็นแถว 30-40 ลำ ที่ท่าเรือ แต่ละลำนั้น ลำใหญ่ๆ ทั้งนั้นงานนี้ ฟ้าดินไม่เป็นใจให้กับเรา หวังว่า ในวันข้างหน้าคงเป็นทีของเราบ้างนะ...แล้วเราจะกลับมาอย่างผู้ชนะ....คอยดูฮึ่ม!!!!!

[กลับสู่หน้าเมนูหลัก]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster