คำตอบที่ 61
       ถามท่าน Kalas หน่อยนะครับในฐานะเคยยิงของจริงมาแล้ว ไอ้ปืนกล Browning M2 ลำกล้องคู่ใน คต.ที่ 48 นั่นน่ะ เวลาโยก ซ้าย-ขวา กระดกขึ้น-ลง คนยิงเป็นคนโยกเอง หรือว่าใช้เครื่องทุ่นแรงเช่นไฮโดรลิกช่วยครับ ท่าทางปืนมันน่าจะหนักน่าดู คนยิงจะโยกเองไหวเหรอ?
สมัยสงครามฟอร์คแลนด์ เรือรบอังกฤษไม่ติดปืนต่อสู้อากาศยานแล้ว เพราะมีจรวดนำวิถีไว้ป้องกันเรือ และคิดว่าปืนคงยิงไม่ทันเครื่องบินรบสมัยใหม่
ผลปรากฎว่าเรือรบจมและเสียหายหนักจากการโจมตี โดยทหารประจำเรือรายงานว่า ถ้ามีปืนต่อสู้อากาศยานติดเรือเหมือนเรือสมัยสงครามโลก คงไม่เกิดความเสียหายมากแบบนี้ เพราะเครื่องบินรบเมื่อเข้าโจมตีเรือ ก็บินในระดับต่ำและไม่ใช้ความเร็วมากนัก พอจะยิงได้ทันในระยะประชิด อีกทั้งจรวดนำวิถีในเรือก็ใช้ไม่ได้ในระยะที่ว่านี้
อเมริกาเลยต้องคิดใหม่ และติดปืนประจำเรือเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม กลายเป็นว่ายังไงๆคนก็ยังสำคัญกว่าอุปกรณ์ไฮเทคอยู่ดีนะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 62
       ย้อนมาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 กันบ้าง นี่เป็นปืนกลหนัก Vickers หล่อเย็นลำกล้องด้วยน้ำที่อยู่ในท่อรอบๆลำกล้องนั่นแหละครับ ยิงไปมากๆน้ำระเหยออกหมด บางที่ต้องฉี่ใส่แทนน้ำก็มีไ ม่งั้นลำกล้องขยายตัวมากจนกระสุนหล่นอยู่แค่ 5-6 เมตรแถวปากลำกล้อง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 63
       นี่เป็นปืนกลแขกอินตระเดีย หน้าตาของแม็กกาซีนประหลาดดี เป็นแผ่นๆยื่นออกมาดื้อๆเป็นนี้แหละ ใครจะทำไม?ฉานก็ยิงของฉานได้ก็แล้วกัน ยีห้อ Benet-Mercie Model 1909

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 64
       เคยฝึก รด. เมื่อ ประมาณ ปี 2528 เห็นครูฝึกบอกว่า ปลย.88 พวกผมพากันเรียกว่า ปืนไม้ ครับ ไม่ทราบว่าจะใช่หรือเปล่านะครับ??? แต่ที่ฝึกหมายถึงนำมาฝึกท่าทางเฉยๆ นะครับ ส่วนตอนยิงนั้นได้ยิงตัว เจเกอร์ .22 กับ ตัว HK33 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 65
       คำตอบที่ 61
ถามท่าน Kalas หน่อยนะครับในฐานะเคยยิงของจริงมาแล้ว ไอ้ปืนกล Browning M2 ลำกล้องคู่ใน คต.ที่ 48 นั่นน่ะ เวลาโยก ซ้าย-ขวา กระดกขึ้น-ลง คนยิงเป็นคนโยกเอง หรือว่าใช้เครื่องทุ่นแรงเช่นไฮโดรลิกช่วยครับ ท่าทางปืนมันน่าจะหนักน่าดู คนยิงจะโยกเองไหวเหรอ?
สมัยสงครามฟอร์คแลนด์ เรือรบอังกฤษไม่ติดปืนต่อสู้อากาศยานแล้ว เพราะมีจรวดนำวิถีไว้ป้องกันเรือ และคิดว่าปืนคงยิงไม่ทันเครื่องบินรบสมัยใหม่
ผลปรากฎว่าเรือรบจมและเสียหายหนักจากการโจมตี โดยทหารประจำเรือรายงานว่า ถ้ามีปืนต่อสู้อากาศยานติดเรือเหมือนเรือสมัยสงครามโลก คงไม่เกิดความเสียหายมากแบบนี้ เพราะเครื่องบินรบเมื่อเข้าโจมตีเรือ ก็บินในระดับต่ำและไม่ใช้ความเร็วมากนัก พอจะยิงได้ทันในระยะประชิด อีกทั้งจรวดนำวิถีในเรือก็ใช้ไม่ได้ในระยะที่ว่านี้
อเมริกาเลยต้องคิดใหม่ และติดปืนประจำเรือเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม กลายเป็นว่ายังไงๆคนก็ยังสำคัญกว่าอุปกรณ์ไฮเทคอยู่ดีนะ
------------------
ของสหรัฐฯมันใช้แทนไฮโดรลิกช่วยครับเพราะปืนกล 93 กระบอกเดียวก็น้ำหนักอื้อแล้ว แท่นโฮโดรลิกมีสองระบบคือระบบ Automatic กับ Manual ไว้ใช้ในกรณีที่ระบบออโต้หรือแท่นไฮโดรลิกมีปัญหาครับ ส่วนออโต้เอาไว้เวลาที่ศัตรูมากันเยอะ คนยิงไม่ทันต้องใช้เครื่องทุ่นแรงช่วยเล็งเป้าและยิงครับ แต่วันที่ผมได้ยิงมันให้ยิงแบบ Manual ผลก็คือไอ้ 5-6 นัดแรกยังพอยิงโดนเป้าบ้างพอไอ้นัดๆหลังเสยขึ้นฟ้าหมดเลยครับ แถมส่ายไปส่ายมาแทบไม่โดนเป้าเลย

ส่วนปืนกลติดเรือนี่ พูดจริงๆตอนนั้นเรือรบอังกฤษโดนรุมยิงด้วยจรวดเอ็กโซเซย์ กับโดนยิงสนับสนุนด้วยจรวดจากเครื่องบินมิราจอีก ถ้าไม่โดนสักนัดนี่ถือว่าดวงโครตดีเลยนะผมว่า ให้ติดป.ต.อ.กับจรวดต่อสู้อากาศยานรอบเรือยังไม่รู้ว่าจะรอดเลยหรือเปล่าครับ เพราะเรือยังไงมันก็ช้ากว่าเครื่องบินกับจรวดเยอะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 66
       ลิงค์แสดงการยิงปืนกล Vickers ในคำตอบที่ 62 ของคุณสมีเฒ่านะครับ แต่ดูจากคลิปวิดีโอแล้วผมว่ามันแปลกๆนะ เสียงแหลมกว่าเจ้า ปืนกล M-60 กับ M-249 ขาประจำของผมอีก ไม่รู้ว่าอานุภาพจะแค่ไหน เดี๋ยวขอไปค้นหาประวัติมาเขียนให้อ่านดูกันครับ
http://www.youtube.com/watch?v=BRz80I-GWXs

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 67
       ผมจะเก็บตกฝ่ายเยอรมันบ้างแล้วนะครับ วันนี้ขอเสนอปืนไรเฟิล Bolt Action ชื่อว่า "Mauser Karabiner98k" หรือ "Kar98K" เป็นปืนไรเฟิลคาร์ไบน์ครับ ใช้กระสุนขนาด 7.92x57 mm. หรือ 8 mm. MAUSER นั่นละ ขนาดเดียวกับปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ Gewehr 43 ความจุ 5+1 นัดครับ ใช้คลิปกระสุนในการบรรจุ เป็นปืนไรเฟิลที่กองทัพเยอรมันไว้ใจมากในเรื่องความแม่นยำ และความรุนแรงที่สูงกว่าปืนไรเฟิลของฝ่ายพันธมิตรในเวลานั้น และเป็นที่นิยมมากในการนำมาติดตั้งกล้องเล็งขนาด 4X เพื่อใช้ในภารกิจซุ่มยิง

ลิงค์ประวัติปืน Kar98K ครับ
1. http://en.wikipedia.org/wiki/Kar98k
2. http://world.guns.ru/rifle/rfl02-e.htm

*K ย่อมาจาก Kurz ซึ่งเป็นภาษาเยอรมัน = Short ในภาษาอังกฤษ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 68
       กระบอกต่อมา ปืน FG42 (Fallschirmjägergewehr-42 หรือ Paratrooper's rifle, Model 1942) ครับ ใช้กระสุนขนาด 7.92x57 mm. แบบเดียวกับปืน Kar98K เป็นปืนไรเฟิลอัตโนมัติครับ ความจุ 10/20 นัดต่อแมกกาซีน ปัจจุบันถูกนำมาดัดแปลงพร้อมกับปืนกล MG42 โดยกองทัพสหรัฐอเมริกา กลายเป็นปืนกล M60 ในปัจจุบันครับ

ลิงค์ประวัติปืน FG42 ครับ
1. http://en.wikipedia.org/wiki/FG_42
2. http://world.guns.ru/rifle/rfl11-e.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 69
       คำตอบที่ 64
เคยฝึก รด. เมื่อ ประมาณ ปี 2528 เห็นครูฝึกบอกว่า ปลย.88 พวกผมพากันเรียกว่า ปืนไม้ ครับ ไม่ทราบว่าจะใช่หรือเปล่านะครับ??? แต่ที่ฝึกหมายถึงนำมาฝึกท่าทางเฉยๆ นะครับ ส่วนตอนยิงนั้นได้ยิงตัว เจเกอร์ .22 กับ ตัว HK33 ครับ
---------------------
ปืนไม้นั่นเรียก "ปสบ.87" ครับ ตัวผมได้มีโอกาสได้ยิงทั้ง M1 Garand กับ M1 Carbine แล้วก็ปืน Springfield'03 ด้วย ผมว่านะ M1 Carbine ลงตัวทั้งเรื่องการพกพาทั้งความรุนแรง อานุภาพพอๆกับปืนยาวที่ใช้กระสุน .357 Magnum เผลอๆอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ ตอนอยู่ชายแดนแถวอ.พบพระ จ.ตาก เคยเห็นพวกกะเหรี่ยงเอา M1 Carbine ไปยิงหมูป่าโทน เปรี้ยงเดียวแถวซอกขาหน้าหมูป่าโทนล้มลงตายเลยครับ

จริงๆผมว่านะ ปืน M1 Carbine เนี่ย น่าจะให้ประชาชนมีไว้ในครอบครองได้ ย้ำว่าต้องเป็นรุ่น M1 นะครับไม่ใช่ M2 เพราะ M1 นั้นโดยตัวมันเองเป็นปืนกึ่งอัตโนมัติ การเล็งเป้าก็ไม่ยาก แถมการดูแลรักษาก็ไม่ต้องพิถีพิถันมากนัก ผมว่าลงตัวที่สุดแล้วปืนอันเนี่ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 70
       รุ่นนี้เอามาร่วมปฏิวัติในไทยได้หรือเปล่า......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 71
       ไปดู...ระบบปฏิบัติการ...ของปืนกล....แบบต่าง ๆ ..... โหลดเสร็จอย่าลืมเอาเมาส์ไปคลิกที่ไก...ล่ะครับ

http://science.howstuffworks.com/machine-gun.htm/printable

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 72
       สารวัตรทหารเยอรมันสมันสงครามโลกครั้งที่ 1 ใช้ปืนกลมือรุ่น Bergmann MP. 18 เหน็บแม็กกาซีนทรง"หอยโข่ง" สองอัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 73
       ท่านผู้รู้ครับ อยากทราบครับว่าปืนที่ติดบนรถจิ๊บ ในหนังไทยสมัยก่อนเขาเรียกว่าปืนอะไรครับ ผมพากันเรียกว่า ปืนสเต็น มันถูกไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 74
       ปืนสเต็น http://www.canuck.freehosting.net/sten.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 75
       ปืนเก่าน่าสะสะม

http://www.rememuseum.org.uk/arms/submachg/armsmg1.htm

http://www.rememuseum.org.uk/arms/submachg/armsmg2.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 76
       ทั้งเก่าและใหม่ http://www.rememuseum.org.uk/arms/armindex.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 77
       ยังมีอยู่อีกรุ่นหนึ่งครับที่ที่เคยเห็นในหนังทั้งไทยและเทศ เรียกชื่อไม่ถูก พยายามหารูปก็ยังไม่เจอ ล่าสุดเห็นในละครช่อง7 อังกอร์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 78
       ท่านผู้รู้ครับ อยากทราบครับว่าปืนที่ติดบนรถจิ๊บ ในหนังไทยสมัยก่อนเขาเรียกว่าปืนอะไรครับ ผมพากันเรียกว่า ปืนสเต็น มันถูกไหมครับ
------------------------------------------
หมายถึงปืนกลเบา M60 หรือเปล่าครับ เพราะปืนกลติดรถจี๊ปจะมีสองปืนคือ ปืนกลเบา M60 กับปืนกลหนัก Browning M2HB ใช้สายกระสุนขนาด 7.62 mm. NATO กับ .50 BMG ตามลำดับ เพราะถ้าเก่ากว่านั้นก็มีอีกปืนคือ ปืนกล Browning .30 Caliber M1919A6 ใช้กระสุน .30-06 ขนาดเดียวกับปืน M1 Garand ,BAR แล้วก็ปืน Springfield'03 ใช้สายกระสุนในการทำการยิง เห็นได้บ่อยในหนังที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ

***ข้างล่าง ปืนกลเบา M60 ครับ ใช้กระสุนขนาด 7.62x51 mm. NATO . ใช้ระบบ Gas-operated, open bolt ในการยิง อัตราการยิง 550-600 นัด/นาทีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 79
       ส่วนอันนี้ปืนกลเบา Browning .30 Caliber M1919 ครับ ใชสายกระสุนขนาด .30-06 ในการทำการยิง ใช้ระบบ Recoil-operated ในการทำการยิง โหมดยิงช้ายิงได้ 400/นาที ยิงเร็ว 600/นาที

ลิงค์ประวัติปืนกลเบา M60 และปืนกลเบา Browning .30 Caliber M1919 ครับ
1. http://en.wikipedia.org/wiki/M60_machine_gun
2. http://en.wikipedia.org/wiki/M1919

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 80
       ไหนๆก็ว่ากันด้วยปืนของฝ่ายสัมพันธมิตรแล้วก็ต่อเลย เริ่มที่ปืนกลมือทอมป์สันหรือทอมมี่ กันครับ ในยุคแรกที่กระสุนขนาด .45 ACP ได้ถือกำเนิดขึ้นมา กระสุน .45 เมื่อนำมาจะมีปัญหาเรื่องการเสียรูปทรงของกระสุน ทำให้การบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงมีปัญหามาก จนในที่สุดนาย John T. Thompson ก็ได้แก้ปัญหานี่ได้และออกแบบและประดิษฐ์ปืนกลมือขึ้นมานั่นคือ "ปืนกลมือ Thompson Submachinegun หรือ M1928"

ปืนกลทอมป์สันใช้กระสุนขนาด .45 ACP (11.43x23 mm.) ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Friction lock (รุ่นแรก) และ Blowback-operated (ในรุ่น M1/M1A1) ความจุ 20-30 นัดสำหรับแมกกาซีนธรรมดา และ 50-100 นัดสำหรับแมกกาซีนแบบ Drum ครับ เป็นปืนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากอำนาจการหยุดยั้งที่ไว้ใจได้ของกระสุนขนาด .45 และการถอดล้างที่ทำได้ง่ายด้วย แต่มันก็มีข้อด้อยด้วยคือความแม่นยำที่ลดลงไปมากเมื่อยิงในระยะเกิน 50 หลาขึ้นไป ซึ่งปืนกลมือทุกกระบอกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองก็เจอเหมือนกันหมด

ลิงค์ประวัติปืนกลมือ Thompson ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Thompson_submachine_gun

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 81
       ปืนกลกระบอกต่อมา ปืนกลมือ M3 หรือ Grease Gun ครับ ใช้กระสุนขนาด 9x19 mm. Parabellum และ .45 ACP ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Blowback ในการยิง ความจุ 30 นัด/แมกกาซีนครับ
ปืนกล M3 เป็นปืนที่นิยมใช้กันในหน่วยพลร่ม หน่วย Ranger ,Green Beret และทหารนาวิกโยธินของฝ่ายสหรัฐฯรวมทั้งหน่วย SAS ของอังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยปืนกลมือ UZI และ H&K MP5-SD เนื่องจากมีความสะดวกต่อการพกพาและความแม่นยำที่สูงกว่าครับ

ลิงค์ประวัติของปืนกล Thompson
1. http://en.wikipedia.org/wiki/Thompson_submachine_gun
2. http://world.guns.ru/smg/smg29-e.htm
ปืนกล M3 Grease Gun
1. http://world.guns.ru/smg/smg32-e.htm
2. http://en.wikipedia.org/wiki/M3_Grease_Gun
http://world.guns.ru/smg/smg32-e.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 82
       ปืนไรเฟิลอัตโนมัติ BAR (BAR : Browning Automatic Rifle) ใช้กระสุนขนาด .30-06 เหมือนปืน M1 Garand และปืน Springfield'03 ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Gas-operated, open bolt ความจุ 20 นัด/แมกกาซีน อัตราการยิง 450-550 นัด

จะสังเกตได้ว่าปืนไรเฟิลหลายรุ่นของฝ่ายสหรัฐอเมริกา จะใช้กระสุนขนาดเดียวกันหมดคือขนาด .30-06 เนื่องจากเป็นนโยบายในการลดความยุ่งยากในการขนส่งเสบียงและยุทโธปกรณ์ต่างๆของฝ่ายพลาธิการ จนถึงปีค.ศ.1950 กระสุน .30-06 จึงถูกแทนที่ด้วยกระสุนขนาด .308 (7.62X51 mm. NATO) ของ Winchester แทน พร้อมกับนำปืนไรเฟิล M14 เข้ามาเป็นอาวุธประจำกายแทนที่ปืน M1 Garand ,M1 Carbine และ BAR

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 83
       ลืมไปครับ ลิงค์ประวัติปืน BAR
1. http://en.wikipedia.org/wiki/Browning_Automatic_Rifle
2. http://world.guns.ru/machine/mg36-e.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 84
       เจ้าตัวที่เห็นในคำตอบ 79 ตอนเด็กดูในหนังไทย หนังสงครามโลกครั้งที่2 สงครามเกาหลี สงครามเวียตนามยุคแรกๆ เห็นติดบนรถถัง(น่าจะขนาด .50) รถจี้ป ถ้าตั้งฐานยิงมักจะเห็นพลยิง 2-3 คน ประครองปืนและยิง 1-2 คน ป้อนกระสุน 1 คน ถ้าประเภทที่พระเอกเป็นฮีโร่กล้ามใหญ่ๆ ก็จะยิงคนเดียว...(คงหนักเอาการอยู่นะ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 85
       ถ้าติดบนรถอีแต๋น เอ้ย....มอเตอร์ไซค์ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ต้องเจ้านี่เลยครับ Vickers ปืนกลที่มีระบบระบายความร้อนลำกล้องด้วยน้ำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 86
       นี่ไงจ๊ะ ปืน สเตน ของพลร่มอังกฤษ ผมว่าอังกฤษนี่ออกแบบรูปร่างปืนได้เชยจริงๆนะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 87
       คำตอบที่ 84
เจ้าตัวที่เห็นในคำตอบ 79 ตอนเด็กดูในหนังไทย หนังสงครามโลกครั้งที่2 สงครามเกาหลี สงครามเวียตนามยุคแรกๆ เห็นติดบนรถถัง(น่าจะขนาด .50) รถจี้ป ถ้าตั้งฐานยิงมักจะเห็นพลยิง 2-3 คน ประครองปืนและยิง 1-2 คน ป้อนกระสุน 1 คน ถ้าประเภทที่พระเอกเป็นฮีโร่กล้ามใหญ่ๆ ก็จะยิงคนเดียว...(คงหนักเอาการอยู่นะ)
----
ปืนกลเบา Browning .30 Caliber M1919 ไม่เคยทำขนาด .50 หรือ 12.7 มม.นะครับ มีแต่ขนาด
1. .30-06
2. .308 Winchester (7.62×51 mm. NATO)
3. .303 British
4. 8 mm Mauser
มีแค่ 4 ขนาดนี้แค่นั้นครับ ถ้าใช้กระสุนขนาด .50 หรือ 12.7 มม.แล้วต้องเป็นปืนกลหนัก Browning M2HB หรือปืนกล 93 สถานเดียวละครับ เห็นหน้าตาคล้ายกันแต่คนละสปีชีส์นะครับ

*** ในรูปข้างล่าง ปืนกลเบา Browning .30 Caliber M1919 ติดตั้งพร้อมปืนยิงไฟ M67 หรือ Zippo บนรถถัง M48 ในปีค.ศ.1968
ปืนกลเบา Browning .30 Caliber M1919 และปืนกลหนัก Browning M2HB หรือปืนกล 93 เป็นปืนกลมาตรฐานที่นิยมนำมาติดตั้งบนรถถังในสงครามเกาหลีและสงครามเวียดนามในช่วงแรก ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยปืนกลเบา M60 ,M240 และ M249 ในภายหลัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 88
       คำตอบที่ 84
เจ้าตัวที่เห็นในคำตอบ 79 ตอนเด็กดูในหนังไทย หนังสงครามโลกครั้งที่2 สงครามเกาหลี สงครามเวียตนามยุคแรกๆ เห็นติดบนรถถัง(น่าจะขนาด .50) รถจี้ป ถ้าตั้งฐานยิงมักจะเห็นพลยิง 2-3 คน ประครองปืนและยิง 1-2 คน ป้อนกระสุน 1 คน ถ้าประเภทที่พระเอกเป็นฮีโร่กล้ามใหญ่ๆ ก็จะยิงคนเดียว...(คงหนักเอาการอยู่นะ)
-------------
ปกติซุ้มปืนกลจะมีพลยิงปืนกล 2 คนครับ คนนึงมีหน้าที่ยิง อีกคนมีหน้าที่บรรจุกระสุนและคุ้มกันคนยิงในกรณีที่ข้าศึกจับทิศทางได้แล้วยิงสวนมา ถามว่ายิงคนเดียวได้ไหมสบายมากครับถ้าเป็นพวกปืนกลเบาอย่าง M60 M240 หรือ M249 ไม่ต้องอะไรมากขอแค่เอาสายกระสุนพาดบ่ามาสัก 2-3 สายหรือถ้าให้ให้ดีขอใส่กล่องกระสุนมาด้วย ถึงไหนถึงกันครับ แต่ถ้าเป็นปืนกลหนักอย่างปืนกล 93 ผมขอบายละครับ หนักเอาการเลยแค่ถือเฉยๆนะครับ

*** ปืนกล 93 หรือปืนกลหนัก Browning M2HB แบบเต็มๆครับ คิดว่าผมจะแบกไหวไหมละครับน้ำหนักตัวปืนเปล่ายังตั้ง 38 กก. แถมกระบอกอย่างควายเลย เวลายิงยังต้องเอาขาทรายไปด้วย ไอ้พวกมะกันยังยกไปยิงคนเดียวไม่ไหวเลยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 89
       มาต่อกันที่กองทัพอังกฤษบ้าง ปืนไรเฟิลแบบลูกเลื่อน(Bolt Action) ปืน Lee Enfield ครับ ใช้กระสุนขนาด .303 British ความจุ 5+5 นัด อย่างงครับผมจะเขียน 10 นัดก็ได้ แต่ว่าปืนมันดันใช้คลิปกระสุน 5 นัด 2 คลิปในการบรรจุกระสุนนี่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 90
       หน้าตาของกระสุน .303 British ครับ

ลิงค์ประวัติปืน Lee Enfield ครับ
1. http://en.wikipedia.org/wiki/Lee-Enfield
2. http://world.guns.ru/rifle/rfl04-e.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย