WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


อยากทราบเรื่องO2 เซนเซอร์ ครับ
ผู้ยากไร้
จาก เก๋สระแก้ว
125.25.182.228
จันทร์ที่ , 19/7/2553
เวลา : 11:03

อ่านแล้ว = 5821 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       O2 เซนเซอร์ สามารถทำให้รถดับได้หรือเปล่าครับ รถผมวิ่งๆอยู่ดับกลางอากาศ ครับ
บางครั้งสตาร์ทรถทิ้งไว้เฉยๆ สักพัก ก็ดับเอง ผมลองใช้ OBD เช็คแล้ว eeror
ที่O2 เซนเซอร์ ทั้ง 2ตัวตัวอื่นไม่มีครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       คุณเก๋...........zj ........เป็นไปได้หมดและครับ...อย่าว่าแต่โอทูเลย.....โอเลี้ยงก็ดับได้ถ้าหกขณะขับขี่ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_tai_kosum@hotmail.com จาก หนึ่ง....ห้าวแป็ก!!!!!!! 183.89.222.136 จันทร์, 19/7/2553 เวลา : 11:06   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516268

คำตอบที่ 2
       คันนี้ก้ ZJ ครับ ปลั๊กแตก เดินเบา ไม่เรียบครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ต้นJUC3123 จาก ต้นJUC3123 124.122.65.128 จันทร์, 19/7/2553 เวลา : 11:20   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516274

คำตอบที่ 3
       การทำงานของ OS senser
O2 เป็นตัวผลิตสัญญานไฟฟ้า(คล้ายแบตเตอร์รี่)
มันจะผลิต 0.5 V. เมื่อการเผาไหม้สมบูรณื
ต่ำกว่า 0.5 V. เมื่อมีอากาศมาก
สูงกว่า 0.5 V. เมื่อมีเชื้อเพลิงมาก
ECUทั้งเครื่องยนต์(น้ำมัน) แลมด้า(LPG) หัวฉีดแก๊ส(LPG)
ใช้จุดนี้กำหนดการจ่ายปริมาณเชื้อเพลิง มาก-น้อย
เมื่อO2เสียการจ่ายเชื้อเพลิงจะผิดปกติ เครื่องจะสดุดแบบจับจังหวะไม่แน่นอน ความร้อนเครื่องอาจสูงผิดปกติ กินเชื้อเพลิง วิ่งไม่ออก (ทั้งน้ำมัน และLPG)
!!O2 เหมือนหัวเทียนมีเบอร์ แต่สามารถเทียบใช้แทนกันได้(แต่ผมยังไม่ได้ศึกษา)
O2ตัวหน้าโอกาสเสียมาก ความร้อนสูง ไอเชื้อเพลิงเกาะ ส่วนตัวหลัง มีcatกรองไว้และความร้อนต่ำกว่า
O2ตัวหน้าใช้เป็นหลัก ตัวหลังใช้เป็นตัวเปรียบเทียบ
LPG ระบบดูดปกติ(ไม่แลมด้า) O2ไม่ต้องใช้
จากคุณ XJ890 203.146.150.130 ศุกร์, 26/10/2550
ข้อมูลคร่าวๆของตัวตรวจจับ O2 ครับ อันนี้เป็นระบบ TWC แต่โดยทั่วไปจะมีการทำงานใกล้เคียงกันหมดครับ
โดยทั่วไปเราทราบกันอยู่แล้วว่าส่วนผสมเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดจะอยู่ในช่วง อากาศ/เชื้อเพลิง ที่แคบที่สุดตัวตรวจจับ O2 จะทำหน้าที่ตรวจวัดอาตราส่วนผสมหลังจากการเผาไหม้ว่ามีช่วง ส่วนผสมหนาหรือบางกว่าอัตราส่วนผสมตามทฤษฎี ตัว O2 Sensor จะประกอบด้วย ไซโครเนี่ยมไดอ็อกไซด์ ZrO2 ซึ่งคล้ายกระเบื้องชนิดหนึ่ง จะถูกเคลือบทั้งภายในภายนอกด้วยชิ้นทองคำขาวบางๆ(มันแพงก็ตรงนี้เอง) อากาศโดยรอบจะถูกเหนี่ยวนำเข้าไปภายในของตัวตรวจจับสัญญาณ และภายนอกจะเผชิญอยู่กับไอเสียร้อนๆ ดังนั้นถ้าความเข้มข้นของอ็อกซิเจนภายใน ZrO2 แตกต่างกันมาก ชิ้นส่วน ZrO2 จะกำเนิดแรงดันไฟฟ้าออกมา เมื่อส่วนผสมบางมีอ็อกซิเจนในไอเสียมากขึ้น ทำให้ความเข้มข้นของอ็อกซิเจนภายในและภายนอกแตกต่างกันเล็กน้อย นั้นจะเป็นผลให้ ZrO2 กำเนิดแรงดันไฟฟ้าต่ำลง(ใกล้เคียง 0 V) ทางตรงกันข้ามถ้าเชื้อเพลิงมีส่วนผสมหนา อ็อกซิเจนในไอเสียแทบจะไม่มี ความเข้มข้นของภายในกับภายนอกจะต่างกันมากแรงดันที่ ZrO2 จะมากตามไปด้วย(อยู่ที่ไม่เกิน 1 V)
ส่วนทองคำขาวจะมีไว้ช่วยให้อ็อกซิเจนในไอเสียทำปฏิกิริยาทางเคมีกับ CO ที่มีอยู่ในไอเสีย เหตุนี้เองจะเป็นการลดปริมาณอ็อกซิเจนและเพิ่มความไวให้กับตัวตรวจจับสัญญาณ(ถ้าตรวจสอบแรงเคลื่อนในกรณีที่ต่ำมากหรือวัดค่าไม่ได้แสดงว่าทองคำขาวใน O2 หมดสภาพ)
ECU เองก็จะใช้สัญญาณนี้ในการ เพิ่ม – ลด การฉีดเชื้อเพลิง เพื่อควบคุมให้อยู่ในช่วงแคบที่สุด ใน O2 Sensor บางแบบจะมีเครื่องทำความร้อนเพื่ออุ่นชิ้นส่วน ZrO2 อยู่ด้วย เครื่องทำความร้อนนี้จะถูกควบคุมด้วย ECU เมื่อปริมาณอากาศมีการประจุต่ำ(อุณหภูมิไอเสียต่ำ) จะมีกระแสไฟไปเลี้ยงยังเครื่องทำความร้อน เพื่ออุ่นตัวจับสัญญาณ

ปล. ต้องขอขอบคุณ คุณ Sor ที่ให้ข้อมูล
จาก XJ890 203.146.150.130 ศุกร์, 26/10/2550 เวลา : 12:12   
ในกรณีที่ไม่มีตัวที่ O2 Sensor อยู่หลัง CAT มันก็จะไม่มีการวัดการทำงานของ CAT เท่านั้นเองครับ การตัด CAT ออกจะทำให้วิ่งดีขึ้นแต่ก็คงไม่มากนัก เสียงดังขึ้นแน่นอน จะไม่มีการกำจัด HC, CO, NOX ถ้าหากขับด้วยความเร็วเหมือนก่อนถอดก็ไม่น่าจะกินน้ำมันมากขึ้นครับ ส่วนตัวผมเองไม่เชียร์ครับ อยากให้อากาศสะอาดมากกว่า

ส่วนถ้าถอดตัว Oxygen Sensor ตัวแรกออก เครื่องจะทำงานใน Open Loop ซึ่งจะจ่ายน้ำมันตามตารางการฉีดของกล่องอย่างเดียวไม่มีการนำค่า O2 Sensor มาชดเชย ดังนั้นส่วนผสมจะไม่พอดีจุดที่ดีที่สุดคือ 14.7:1 แนวโน้มจะเป็นไปทางหนากว่าปรกติ เพราะว่าปรกติเครื่องจะจ่ายใน Open Loop ในช่วงที่เครื่องยังไม่ร้อน ใช้ส่วนผสมที่หนาขึ้นจะทำให้ติดเครื่องได้ง่าย ไม่สะดุดครับตอนเร่ง รถน่าจะแรงขึ้นแต่กินน้ำมันมากขึ้นด้วยครับ พอเครื่องอุ่นมันจะเข้า Close Loop ซึ่งจะใช้ O2 Sensor ช่วยปรับส่วนผสมให้ได้ถูกต้อง

ส่วนว่าระยะยาวจะเป็นอย่างไรบ้างคงขึ้นกับหลายปัจจัยครับ ในกรณีที่ในภาพรวมแล้วถ้าไม่หนามากไปก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก อาจจะมี Error Code แจ้งเรื่อง O2 Sensor แต่ในกรณีที่หนาไปมากอย่างรถคุณ Joke มันก็อาจจะมีอาการอื่นๆที่เกี่ยวกับน้ำมันหนาเกินไปหรือกล่องอาจจะงงทำงานไม่ถูกต้องตามมาครับ กรณีของคุณ Joke เป็นเนื่องจากว่า Temp Sensor เสีย กล่องได้รับสัญญาณว่าเครื่องยังเย็นอยู่ มันเลยอยู่ที่ Open Loop ไปเรื่อยๆเลยครับ
ไปค้น Web ต่างประเทศมาหลายที่ ผมสรุปอย่างนี้ครับ O2 Sensor ตัวแรกใช้สำหรับควบคุมส่วนผสมของการใช้ใน Close Loop ซึ่งจะใช้ตอนที่เครื่องอุ่นได้ที่และเร่งเครื่องไม่มากนัก ช่วยลดมลพิษและทำให้ประหยัด ถ้าเร่งมากกว่านี้จะเข้า Opne Loop เพื่อให้มีกำลังเพียงพอ O2 Sensor ตัวที่สองถ้ามีก็จะใช้วัดประสิทธิภาพการทำงานของ CAT ซึ่งถ้าไม่ปรกติก็น่าจะเพียงแค่แสดง Error Code ออกมาเท่านั้น ไม่น่าจะนำไปปรับส่วนผสมแต่อย่างใด อันนี้เรียบเรียงตามที่ค้นคว้ามานะครับ ไม่มีเอกสารยืนยัน
จาก XJ890 203.146.150.130 ศุกร์, 26/10/2550






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ต้นJUC3123 จาก ต้นJUC3123 110.164.249.202 จันทร์, 19/7/2553 เวลา : 11:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516277

คำตอบที่ 4
       ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

w_hm จาก อิ่ม 61.19.86.242 จันทร์, 19/7/2553 เวลา : 11:37   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516284

คำตอบที่ 5
       ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

เอ้ครับ จาก เอ้ครับ 113.53.12.147 จันทร์, 19/7/2553 เวลา : 13:36   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516305

คำตอบที่ 6
       แล้วถ้าไม่มี O2 เซนเซนรถจะดับไหมครับ (ในกรณีรถเดิมๆน่ะครับ)



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ผู้ยากไร้ จาก เก๋สระแก้ว 125.25.182.228 จันทร์, 19/7/2553 เวลา : 13:57   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516308

คำตอบที่ 7
       ไม่ดับนะครับ แต่จะซดเชื้อเพลิงมาก กว่าปกติครับ บางทีก็หนาไปเลย สิ่งที่ตามมาเขม่าเพียบ แคท ตันเร็วตามมา เงินก็จะเริ่มหมดกระเป๋า วาหรุป มี O2 ดีกว่าครับ สำหรับเครื่องยนต์หัวฉีด เดี๋ยวรอท่านอื่นมาแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมคับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ต้นJUC3123 จาก ต้นJUC3123 110.164.249.202 จันทร์, 19/7/2553 เวลา : 14:22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516311

คำตอบที่ 8
       ของผม.. XJ โฉมมน....(ไดเร็คคอยล์) วิ่งน้ำมันไม่ดับ-วิ่งแก๊ส 4-5 วัน ดับที !!!...ดับเฉพาะตอนชลอ รถติดๆ หรือจอดรอไฟแดง ....แต่ก็สตาทติดทุกครั้ง..ไปต่อ !!
**** ปรับ-จูนแก๊สแล้ว...(AG หัวฉีด)
**** เปลื่ยน เซ็นเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อแล้ว
**** ข้อสังเกตุ...ช่วงฝนนี้ เสาร์-อาทิตย์ ไม่ได้ใช้รถ..ทุกวันจันทร์ จะดับถี่หน่อย วันหนึ่ง 2-3 ครั้ง...
**** แอร์มีเสียง ตื้อออ..นิดๆ ทุกครั้งที่ตัด และเสียงจะลากยาวไปตามรอบเครื่องยนต์ ...แต่รอบเครื่องไม่สวิงมาก เคยลองวิ่งปิดแอร์ ขนาดจอดหรือชลอ..ไม่ดับ ( แต่วันจันทร์ที่ผ่านมาดับครั้งหนึ่ง..!!)
**** ระหว่างเดินเบาอยู่กับที่...สั่นสะเทือนนิดๆ จับความรู้สึกที่ก้น นั่งบนเบาะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tng จาก จม-ออน 58.8.188.214 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 08:56   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516549

คำตอบที่ 9
       แล้วสาเหตุเกิดจากอะไรครับพี่ จม-ออน เผื่อว่าผมจะนำมาปรับปรุงแก้ไขรถผมได้ถูกต้องนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ผู้ยากไร้ จาก เก๋สระแก้ว 125.24.14.10 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 10:17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516581

คำตอบที่ 10
       สวัสดีครับน้า จม ออน.หายไปไหนมาครับ กลับมาแล้วให้ดีใจเล่นป่าวเนี้ย อิอิอิอิ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_tai_kosum@hotmail.com จาก หนึ่ง....ห้าวแป็ก!!!!!!! 183.89.217.75 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 10:22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516584

คำตอบที่ 11
       ลูกปืนคอมแอร์เรื่มพังทำให้รถโหลดแยอะขึ้น มันฟืดขึ้น (ข้อสัญนิฐาน) ถ้าเป็นหนักกว่านี้สายพานจะขาด เดานะครับ ไม่รู้จะถูกไหม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_ta จาก tu_ta 124.121.154.212 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 10:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516609

คำตอบที่ 12
       ก็เข้าๆ ออกๆ ละครับ น้าหนึ่ง...55 งานโหลดเป็นบางช่วง...ครับ
ข้อสันนิฐานของคุณ ta ก็น่าสงสัย....ขอบคุณอีกครั้ง...เป็มมาร่วม5-6เดือนแล้ว แรกก็ตกใจ หลังเริ่มชิน

บางคนก็ว่า คอยล์ก็มีส่วน...
หรือบางคนแย้ง ถ้าเป็นที่คอยล์....ทั้งน้ำมัน-แก๊ส ต้องดับ..!!
ทุกวันนี้...ยังไม่ได้ไปทำอะไรต่อเลย....เห็นว่าพอวิ่งได้ แอร์เย็น ก็เลยใจเย็นไปก่อน..55

ขออนุญาตนำโพตส จากNTECH...จาก web gas thai มาเปิดเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
Link:http://www.gasthai.com/ngv/boardngv/question.asp?id=6158

คำตอบ ที่ 1
ปัญหาของ Honda ในรหัสเครื่องยนต์ K20 และ K24 ที่อยู่ใน Accord, CRV และ Stream

ปัญหาของคอยล์จุดระเบิดเสื่อมสภาพ จุดบ้างไม่จุดบ้าง ไม่สม่ำเสมอ, ไฟรั่วลงกราวด์
เครื่องยนต์มีอาการเบาดับ, สั่น, กระตุก, เร่งไม่ออก, เบรกแข็ง, พวงมาลัยหนัก และไฟเอ็นจิ้นโชว์ แต่ระบบน้ำมันรถวิ่งฉิวเลย
ให้ตรวจเช็คระบบจุดระเบิดก่อนอันดับแรก, เช็คหัวเทียน, คอยล์จุดระเบิด, กรองอากาศ, ตรวจเช็คระยะห่างวาล์ว พร้อมปรับตั้ง

คอยล์จุดระเบิดทำหน้าที่แปลงกระแสไฟ แล้วส่งไฟไปที่หัวเทียน
คอยล์มันเสื่อมทำงานไม่สม่ำเสมอ ไม่สมบูรณ์ จุดบ้างไม่จุดบ้าง ในรอบเดินเบาเครื่องยนต์จะสั่น สะดุด (เปิดแอร์ ใส่เกียร์D เหยียบเบรก) หรือขณะจอดอยู่นิ่งจะเห็นชัดที่สุด แต่ในรอบสูงอาจจะไม่ออกอาการให้เห็นเท่าไร หรือไม่มีอาการเลย
แล้วทำไมในระบบน้ำมันไม่เห็นเป็นอะไรเลย น้ำมันใช้ไฟอะไรจุดก็ติด แต่ NGV มันจุดติดไฟยาก ถ้าระบบจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ มีอาการให้เห็นทันที

คอยล์จุดระเบิดราคาประมาณ 1,850 บาทต่อลูก มันมี 4 ลูก คอยล์จุดระเบิดหัวใดหัวหนึ่งเสียแล้ว ที่เหลือจะตามมาในระยะห่างกันไม่นาน เช่นเดียวกับหัวเทียน แนะนำให้เปลี่ยนพร้อมกันทั้งหมด

อุปกรณ์ไฟฟ้ามีอายุงานครับ ไม่ว่ารถยี่ห้อไหนก็ต้องเสื่อมหรือเสียเหมือนกัน อายุงานของ Honda ประมาณ 120,000-150,000 กิโลเมตร



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tng จาก จม-ออน 58.8.188.214 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 11:22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516634

คำตอบที่ 13
       พี่จม ออน ตรวจสอบ เช็คโค๊ดก่อนนะ...อาการนี้ประมาณว่า วอดดด ไม่รู้สาเหตุ
จากนั้น เช็คมอเตอร์เดินเบา แล้วตามด้วยพวก Map senser มีสายแวคคัมอะไร ไม่แน่นรึป่าว
หรือรองทดสอบตามนี้ นะคับ วิ่งความเร็วแล้วแตะเบรคทันที เมื่อรอบต่ำ จะดับหรือเกือบดับ
เลี้ยวแล้วดับ ถ้าเป็นอย่างนี้ คือตอนเครื่องร้อนแล้วเป็น น่ะ ผม เจอ 1 คัน ไดเรคคอยล์ เป้นที่ O2 คับ เช็คโค๊ดไม่เจอ ต้องเครื่องร้อน ซัก 20-30 นาที ถึงจะตรวจด้วย OBD II เจอคับ เปลี่ยน O2 จบข่าว วิ่งฉิว จากทีเจ้าของจูนแก๊สมาเป็น 10 รอบครับ AG Gas เช่นเดียวกันคับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ต้นJUC3123 จาก ต้นJUC3123 124.121.250.191 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 11:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516639

คำตอบที่ 14
       " ฮ า า...ไ อ ห ย า า า วอดเลยเหรอ%%% ....เย็นไม่ได้แล้ว
จด ๆ ๆ......เช็คมอเตอร์เดินเบา , Map senser , สายแวคคัม ฯลฯ......ขอบคุณ คุณต้น อีกครั้ง...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tng จาก จม-ออน 58.8.188.214 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 12:43   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 516675

คำตอบที่ 15
       เช้านี้เข้าอู่มาแล้วครับ......เช็คคอยล์...สภาพหัวเทียนดี...อื่นๆ ก็เช็คตามที่คุณต้นแนะนำ...ทุกอย่างปกติหมด (ก่อนถึงอู่ ดับ2ครั้ง)....ตัดสินใจลองเปลื่ยน o2 ดู ไหนๆก็มาแล้ว...เสร็จขับไป Office ปทุมวัน วิ่งถนนเพชรบุรีตลอด เที่ยงๆรถติดบ้าง.......ไม่ดับครับ !!! 55...แต่ขอลองซักอาทิตย์ก่อน...
อ้อ...อู่ทักคอมแอร์ดังแล้ว ลูกปืนคอม หาคอมเปลื่ยนใหม่เหอะ..!!

*****ขอบคุณ คุณต้น กับ คุณ ตุ๊....ครับ ****....หวังว่าจบที่ O2..น่ะ..
ปล. โฉมมล 2002 รุ่น TR5 อู่บอก..บิดกุญแจเช็คโค๊ดไม่ได้..ต้อง DRB III ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tng จาก จม-ออน 58.8.191.147 พฤหัสบดี, 22/7/2553 เวลา : 13:36   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 517406

คำตอบที่ 16
       คุณจมออน ลูกปืนคอมดัง เปลี่ยนคอมทั้งลูกเลยเหรอ ทำไม ไม่เปลี่ยนเฉพาะลูกปืนครับหรือ ว่าคอมไม่มีกำลังอัดเหมือนกัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

นภัสดล จาก unicorn717 168.120.68.220 พฤหัสบดี, 22/7/2553 เวลา : 13:53   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 517408

คำตอบที่ 17
       ปล. โฉมมล 2002 รุ่น TR5 อู่บอก..บิดกุญแจเช็คโค๊ดไม่ได้..ต้อง DRB III

ใช้ ODB II (ราคา 1000+/-) ก็ได้ครับ ซื้อติดรถไว้ก็ดี ราคาไม่แพงด้วย ส่วน DRB III มันหายากและแพงไปหน่อยนะ ไม่รู้ว่าไปจิ้มแต่ละครั้งต้องเสียค่าบริการไหมด้วย มาเที่ยวบ้านพี่ต้นดิมี ODB II ให้จิ้มฟรี ของผมตอนนี้ให้คุณเก๋สระแก้ว แกยืมใช้อยู่ ถึงได้เจอว่า O2 มีปัญหาค่า voltage ค้างที่ 1v ไม่เคลื่นไหว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_ta จาก tu_ta 124.121.156.98 พฤหัสบดี, 22/7/2553 เวลา : 14:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 517428

คำตอบที่ 18
       ไม่มีปังหาครับ พี่ มาได้เลยครับที่ อช.จรัญฯ ชวนตาเจี๊ยบมาด้วยนะพี่จมออน จะได้ให้น้าตุ๊เตรียมเครื่องมือจิ้มเจ๋งๆ จะได้เคลียจายยย....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ต้นJUC3123 จาก ต้นJUC3123 110.164.249.202 พฤหัสบดี, 22/7/2553 เวลา : 18:17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 517490

คำตอบที่ 19
       มา update กระทู้ครับ...อาจมีหลายคนใชัเป็นกรณีศึกษา (ขออนุญาตคุณ เก๋ สระแก้ว ครับ )

****หลังจากที่ลองวิ่งมา 1 อาทิตย์....ยังคงดับอยู่ครับ จันทร์ 1 พุธ 1 พฤ 2 ...
****ไปเช็คคอมแอร์ มาแล้ว...ไม่ใช่ลูกปืนหน้าคลัสคอมแอร์ พูลเล่ยังหมุนได้คล่องคอมทำงานเสียงดัง
จากภายใน ถ้ารำคราญเสียง ต้องเปลื่ยนคอม แกะซ่อมไม่ได้ครับ (พัฒนาการ 29)
****หลังจากนี้ เดี๋ยวจะลองเช็คโค็ต ดูอีกที...ขอบคุณ คุณต้น คุณตุ๊ อช.จรัลฯ เดี่ยวเซ็ทวันเข้าไป
(รบกวน) ..นัดกับเจี๊ยบไว้แล้ว....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tng จาก จม-ออน 58.8.252.102 พุธ, 28/7/2553 เวลา : 18:19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 518885

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,25 เมษายน 2567 (Online 5858 คน)