WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


สรรหามาเล่าตามประสาพวกเราชาว "เพื่อนแชมป์"
น้าหมู Champ 012
จาก น้าหมู(Modern 9)
IP:124.120.71.118

พุธที่ , 27/5/2552
เวลา : 18:00

อ่านแล้ว = 11153 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 31
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

scarecrow จาก Red Machine 067 58.9.170.253 พฤหัสบดี, 2/7/2552 เวลา : 14:16  IP : 58.9.170.253   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 82881

คำตอบที่ 32
      

fiogf49gjkf0d
มีหลายสิ่งที่คุณรู้สึกได้ในมิตรภาพที่ไร้ข้อจำกัดของความเป็นเพื่อน ความผูกพันเหล่านั้นถูกถ่ายทอดผ่านตัวอักษร เพื่อบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่แสนจะพิเศษของทุกๆ คนที่มีเพื่อน คุณขาดข้อไหนหรือเปล่า

Always be homest , would you want them to lie to you?
จงซื่อสัตย์เสมอ...... คุณต้องการให้เพื่อนโกหกคุณเหรอ

Be there when they need you, or you may wind up alone
จงอยู่เคียงข้างเมื่อเขาต้องการ.....หรือคุณต้องการจะอยู่คนเดียว

Cheer them on, we all need encouragement now and then
ให้กำลังใจ......เราทุกคนต่างก็ต้องการการสนับสนุนเป็นบางครั้ง

Don't look for their faults, even if you have none
อย่ามองหาข้อผิดพลาดของเขา.....แม้ว่าคุณจะไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว

Encourage their dreams, what would we be without them?
สนับสนุนให้เขาทำตามความฝัน.......เราจะอยู่อย่างปราศจากความฝันได้อย่างไร

Forgive them, you just may do something wrong sometime
ให้อภัย ....คุณอาจจะเคยทำผิดพลาดในบางเวลา

Get together often, misery loves company, so does glee
เจอกันบ่อยๆ...... เมื่อมีความทุกข์ ต้องมีเพื่อนเพราะการคบค้าสมาคมทำให้เกิดความสนุกสนาน

Have faith in them, the human animal is remarkable
มีศรัทธาในเพื่อน.....การมีศรัทธาเป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่น

Include them, you may need to be included sometime
รวมเขาเข้าไปด้วย......คุณก็อาจจะต้องการถูกรวมบ้างบางครั้ง

Just be there when they need you
อยู่ข้างๆ.......เมื่อเขาต้องการคุณ

Know when they need a hug, and couldn't you use one?
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการให้กอด...เคยกอดเพื่อนบ้างหรือยัง

Love them unconditionally, that is the only condition
รักโดยไร้ข้อแม้........นี่เป็นเพียงเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้น

Make them feel special, because aren't we all special?
ทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ.. เพราะเราทุกคนก็เป็นคนพิเศษไม่ใช่เหรอ

Never forget them, who wants to feel forgotten
อย่าลืมเพื่อน........ ใครบ้างอยากถูกลืม

Offer to help, and know when " Nothanks" is just politeness
เสนอตัวที่จะช่วยเหลือ......และควรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คำว่า "ไม่เป็นไร ขอบคุณ"เป็นคำพูดแค่เพื่อมารยาท

Praise them honesly and openly
ยกย่องเพื่อนอย่างจริงใจ และเปิดเผย

Quietly disagree, noisy No's make enemies
อย่าโต้แย้งอย่างโจ่งแจ้ง........การทำเช่นนั้นก่อให้เกิดศัตรู

Really listen, a friendly ear is a soothing balm
ตั้งใจรับฟัง.......การรับฟังของเพื่อนคือยารักษาอาการ

Say you're sorry, don't let them assume it
กล่าวคำขอโทษ.......อย่าปล่อยให้เพื่อนต้องสันนิษฐานเอาเอง

Talk frequently, connunication is important
พูดคุยกันบ่อยๆ ........การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ

Use good judgement
ใช้ข้อตัดสินที่ดี

Verbalise your feelings
อธิบายความรู้สึกของคุณเป็นคำพูด

Wish them luck, hopeftlly good
อวยพรให้โชคดี ..........หวังว่าเขาจะพบแต่เรื่องดี

Xamine your motives before you "help" out
ตรวจสอบเจตนาของคุณ ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ

Your words count, use them wisely
คำพูดของคุณมีค่า ......จงใช้อย่างชาญฉลาด

Zip your lips when they told a secret
ปิดปากให้สนิทเมื่อเพื่อนบอกความลับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern9) 202.142.200.250 อังคาร, 14/7/2552 เวลา : 07:36  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83117

คำตอบที่ 33
      

fiogf49gjkf0d
เทคนิคการเอาตัวรอด จากตำรวจจราจร
ในกรณีที่ตำรวจจราจรเรียกแล้ว ไม่ว่ากรณีใดๆ ขอให้ท่านปฎิบัติตัวดังต่อไปนี้
๑. อย่าไปโต้เถียงใดๆทั้งสิ้น และพูดจาให้สุภาพที่สุด

๒. ระงับอารมณ์ให้เป็นปกติ ประหนึ่งว่ามีเรื่องตลกเกิดขึ้น

๓. จราจรขอดูใบขับขี่ ห้ามให้ดูเด็ดขาด ( คุณอาจจะถ่ายสำเนาใบขับขี่ แล้วยี่นให้เขาดูจะดีที่สุด)

๔. ขอให้จราจรเขียนใบสั่งให้คุณ เขาจะเพิ่มข้อหาอีกข้อหนึ่งคือ ไม่มีใบอนุญาติขับขี่ ก็ให้เขาเพิ่มข้อหา

๕. เมื่อได้รับใบสั่งมาแล้ว คุณจะฉีกทิ้งหรือเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็สุดแท้แต่คุณ

๖. คุณไม่ต้องไปจ่ายค่าปรับตามใบสั่ง
ประเด็นสำคัญ อย่าให้จราจรดูใบขับขี่เด็ดขาด เพราะมันจะยึด(วิ่งราวทัพย์)ใบขับขี่คุณไป แล้ว
คุณก็ต้องยอมไปเสียค่าปรับเพื่อจะเอาใบขับขี่กลับคืน





เมื่อคุณไม่ไปชำระค่าปรับจะมีผลอย่างไร
๑. ไม่มีผลต่อการเสียภาษีรถยนต์หรือจักรยายนต์ทั้งสิ้น คุณยังไปชำระค่าภาษีได้ตามปกติ แม้จราจรจะขู่ ว่าจะอายัดทะเบียนก็ตาม

๒. ขนส่งไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่รับต่อภาษี ไม่มีสิทธิ์ยึดหน่วงเล่มทะเบียน

๓. การอายัดเล่มทะเบียนมันเป็นข้อตกลงระหว่างตำรวจกับกองทะเบียน ไม่ได้เป็นข้อกฎหมายที่จะบังคับ ใช้กับประชาชนได้ ดังนั้นขนส่งทุกแห่งจะไม่รับชำระภาษีหรือยึดหน่วงเล่มทะเบียนไม่ได้


ผม โดนยึดใบขับขี่รถยนต์ แล้วไม่ไปเสียค่าปรับ สิบปีมาแล้ว ต่อทะเบียนได้ทุกปี จนขาย รถทิ้งไปแล้ว ผมมีใบสั่งเกือบสิบใบทั้งรถยนต์ มอไซค์ ก็ไม่มีปัญหาก่อต่อภาษี

ผม ไม่ได้ส่งเสริมให้ใครทำผิดกฎหมาย แต่ไม่อยากเห็นใครเสียเปรียบโดยไม่
เป็นธรรม วันหลังจะมาบอกว่ากรณีใดที่ตำรวจยึดรถได้ กรณีใดยึดไม่ได้ เพื่อจะได้เป็นความรู้
ต่อสู้กับมาเฟียในคราบของตำรวจ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.250 อังคาร, 14/7/2552 เวลา : 12:26  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83118

คำตอบที่ 34
      

fiogf49gjkf0d
เขาเจอเธอในงานเลี้ยงแห่งนึง เธอดูโดดเด่นมาก และมีคนมากมายรุมล้อมเธอ ในขณะที่เขาดูเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง ไม่มีใครใส่ใจเขาเลย

และหลังงานเลี้ยงเลิก เขาได้มีโอกาสชวนเธอไปดื่มกาแฟต่อ เธอประหลาดใจมาก แต่ท่าทีที่สุภาพของเขา ทำให้เธอตอบตกลง

พวกเขานั่งในร้านกาแฟดีๆแห่งนึง เขาดูประหม่าจนพูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกอึดอัดมาก จนคิดในใจว่า ได้โปรดให้ฉันกลับบ้านเหอะ

แต่ทันใดนั้น.....

เขาถามบ๋อยว่า ขอเกลือป่นได้ไหม อยากเอามาใส่ในกาแฟ ทุกคนในร้านหันมาจ้องเขาด้วยความประหลาดใจ เขาอายจนต้องก้มหน้า แต่ก็ยังเติมเกลือลงในกาแฟ และก็ดื่มมันเสียด้วย

ทำให้เธอต้องถามเขาอย่างอดไม่ได้ว่า ทำไมชอบกาแฟรสชาติแบบนี้ เขาตอบว่า เมื่อเขายังเด็ก บ้านเกิดเขาอยู่ริมทะเล เขาเป็นลูกน้ำเค็ม เล่นกับทะเลทุกวัน เคยชินกับรสเค็มของเกลือ เหมือนกับรสชาติของกาแฟเค็ม เพราะฉะนั้นเมื่อทุกครั้งที่เขาได้ลิ้มรสกาแฟเค็มๆ เขาก็จะคิดถึงวัยเด็ก คิดถึงบ้านเกิด เขาคิดถึงพ่อแม่ทียังอยู่ที่นั่น

เขาเล่าไปก็น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ นั่นเป็นความในใจลึกๆของเขา ผู้ชายคนไหนที่กล้าบอกว่าเขาคิดถึงบ้าน แสดงว่าเขาต้องรักครอบครัวอย่างมาก และมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ดังนั้นเธอก็เริ่มประทับใจในตัวเขา เริ่มชวนเขาคุย เล่าถึงบ้านเกิดของเธอบ้าง ชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวของเธอ เธอกับเขาคุยกันถูกคอมากขึ้นเรื่อยๆ และจากการเริ่มต้นที่ดี ทำให้เขากับเธอคืบหน้าความสัมพันธ์ต่อไป

จนทีสุด เธอก็ค้นพบว่า เขาคือผู้ชายแบบที่เธอต้องการอย่างแท้จริง เขาใจกว้าง อ่อนโยน อบอุ่น และดูแลเป็นอย่างดี เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่เธอเกือบจะมองข้ามเขาไป! ต้องขอบคุณกาแฟแก้วนั้น และชีวิตรักที่สวยงามเช่นนี้ ก็เหมือนดังเรื่องทั่วไป เมื่อเธอตกลงใจแต่งงานกับเขา และก็มีความสุขมาโดยตลอด.... โดยทุกๆครั้งที่เธอชงกาแฟให้กับเขา เธอต้องใส่เกลือลงไปในกาแฟให้ทุกครั้งไป เธอรู้ว่านี่เป็นกาแฟที่เขาชอบมากที่สุด

หลังจากนั้นอีกสี่สิบปี เขาก็จากเธอไป ทิ้งจดหมายไว้ให้เธอฉบับนึง ข้างในมีใจความว่า

ที่รัก อภัยให้ผมด้วย ที่ต้องโกหกคุณชั่วชีวิต มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมโกหกคุณ เรื่องกาแฟเค็มนั่น จำวันแรกที่เรามีนัดกันได้ไหม ผมประหม่ามากในตอนนั้น จริงๆแล้วผมต้องการน้ำตาล แต่ผมพูดผิดเป็นขอเกลือ ซึ่งมันยากที่จะกลับคำในตอนนั้น ผมจึงต้องปล่อยมันไป ซึ่งผมไม่คิดว่า นั่นจะทำให้เราได้เริ่มต้นการพูดคุยกัน ผมพยายามที่จะสารภาพกับคุณหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะสารภาพออกไป ทำให้ผมสัญญากับตัวเองว่า จะไม่โกหกอะไรคุณอีกแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้ผมจากไปแล้ว ผมไม่ต้องหวาดกลัวอะไรอีก ดังนั้นจึงเล่าความจริงในจดหมายฉบับนี้

แท้จริงแล้วผมไม่ได้ชอบทานกาแฟรสเค็มเลยแม้แต่น้อย มันรสชาติค่อนข้างแย่ทีเดียว แต่ว่าผมทานมันตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่ได้รู้จักคุณ ผมไม่เคยนึกเสียใจในสิ่งที่ทำเพื่อคุณเลย การได้พบคุณเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดชีวิตของผม ถ้าผมได้มีโอกาสมีชีวิตอีกครั้ง ผมก็ยังอยากจะได้พบคุณ และมีคุณเป็นภรรยาผมอีกครั้งเช่นกัน แม้ว่าผมจะต้องดื่มกาแฟรสเค็มอีกตลอดชีวิตก็ตาม!

น้ำตาของเธอหยดใส่กระดาษจดหมายจนเปียกชุ่ม และหลังจากนั้น หากมีใครถามเธอ กาแฟรสเติมเกลือรสชาติเป็นเช่นไร

เธอก็จะตอบเสมอว่า " มันหวาน "









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern9) 124.120.83.52 อังคาร, 14/7/2552 เวลา : 17:30  IP : 124.120.83.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83124

คำตอบที่ 35
      

fiogf49gjkf0d
ปัตตานุโมทนามัย... อนุโมทนากับคนที่ทำบุญ เราก็ได้บุญด้วย

ผู้ถาม มีคนฝากให้มาถามหลวงพ่อว่า พ่อแม่ไม่ค่อยทำบุญแต่เป็นคนดี คนซื่อ ถ้าบุตรหลานทำให้แล้วจะใส่ชื่อเขาด้วย อยากทราบว่า ท่านจะได้หรือไม่ครับ

หลวงพ่อ เขาโมทนาด้วยหรือเปล่า ถ้าลูกไปบอกว่า "พ่อ(หรือแม่) ฉันทำบุญให้แล้ว ถ้าท่านยินดีด้วย ท่านได้แน่นอน ถ้าบอก กูไม่รู้โว้ย ด่าตะเพิด อันนี้ไม่ได้แน่


ผู้ถาม อย่างเวลาเลิกพระกรรมฐานแล้ว ก็มีคนไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ แต่หนูไม่มีของก็ยกมืออนุโมทนาด้วย อย่างนี้จะมีอานิสงส์ไหมคะ...?

หลวงพ่อ อานิสงส์ที่จะพึงได้ก็คือ ปัตตานุโมทนามัย เป็นผลกำไรจากการเจริญพระกรรมฐานไม่ต้องลงทุน ถ้าตั้งใจจริงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เราได้ครั้งละ 90 ผ่านไป 10 คนเราได้ 900 มากกว่าเจ้าของ เอ้า! เยอะจริงๆ มันทำบารมีให้เต็มเร็ว เร็วมาก

การโมทนา เขาแปลว่า ยินดีด้วย ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ สักแต่ว่า สาธุ มันไม่ได้อะไร คำว่า "สาธุ" ไม่จำเป็นต้องออกเสียง ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้ เอาใจยินดีใช้ได้เลย
และการแสดงความยินดีมันก็คือ มุทิตา เป็นตัวหนึ่งใน พรหมวิหาร 4 นี่บุญตัวใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า "จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา" ถ้าก่อนตายจิตผ่องใส ก็ไปสู่สุคติ หมายถึง สวรรค์ ก็ได้ พรหมก็ได้ นิพพานก็ได้ สุดแล้วแต่กำลังใจเรา

และการโมทนานี่ทำให้ชุ่มชื่นใจ ใช่ไหม....เขาทำดีเรายินดีด้วย ยินดีกับความดีของเขา ไม่ช้าเราก็ดีตามเขา เพราะเราเห็นเขาดี เราก็ชอบดีใช่ไหม... แต่อย่าไปชอบดีเฉยๆ นะ ต้องทำดีด้วยนะ ทำบุญด้วยตนเองบ้าง


ผู้ถาม หลวงพ่อครับ ปัตตานุโมทนามัย กับ ไวยาวัจจมัย นี่เหมือนกันไหมครับ

หลวงพ่อ ไวยาวัจจมัย เขาแปลว่า ขวนขวายในกิจการงาน เช่น เขาส่งสตางค์มาทำบุญ เราช่วยส่งต่อ หรือพวกที่ช่วยขนสังฆทานนี่ ก็พลอยได้บุญไปด้วย มีอานิสงส์ต่ำกว่าบวชเณรนิดหนึ่ง ไม่เบานะ
แต่ ปัตตานุโมทนามัย ไม่ต้องลงทุน แต่พวกถือมานี่ ยังต้องออกแรงนะ พวกโมทนานี่ไม่ต้องออกแรงเลย แต่อย่าลืมนะเอาแค่โมทนาอย่างเดียวไม่ดีนะ ต้องอาศัยคนต้นตลอด ถ้าไม่ได้อาศัยคนต้นจริงๆ จะสำเร็จมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับ พระนางพิมพา ต้องอาศัยพระพุทธเจ้าตลอด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern9) 124.120.71.213 พุธ, 15/7/2552 เวลา : 11:39  IP : 124.120.71.213   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83147

คำตอบที่ 36
      

fiogf49gjkf0d
เคยมั้ย จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทรมาหาคุณ พอคุณรับเขาก็รีบบอกว่าโทรผิด
เคยมั้ย มีโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทรมาหาคุณเวลาดึกๆตีสอง ตีสาม ที่คุณหลับไปแล้ว พอคุณตื่นเช้ามา ก็พบ Miss call อย่างสงสัยสุดขีด (ว่ากิ๊กคนไหนแอบโทรมา)
เคยมั้ย จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทรมาหาคุณ พอคุณรับ ได้ยินเสียงปลายสายเป็นภาษาอะไรที่ฟังไม่รู้เรื่อง
(ประมาณว่าภาษาอาหรับ ภาษายาวี ภาษาตุรกี ภาษาลาล่า ลูลู่ ฯลฯ)
เคยมั้ย จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทรมาหาคุณ พอคุณรับสาย มันก็รีบตัดสายทิ้ง
เคยมั้ย จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทรหยอดมาหาคุณแล้วรีบวาง พอคุณโทรกลับ มันก็ปิดเครื่องไปซะแล้ว
เคยมั้ย หลายๆเบอร์โทรแปลกๆ แบบที่บอกข้างบน พอสองสามวันให้หลัง คุณก็ยังโทรกลับไปหาเบอร์นั้น ด้วยความ ฉงน สงสัย ใคร่รู้ ว่า “ แมร่งงง เบอร์ไอ้บ้าตัวไหนวะ... ”

เหล่านี้ “ อาจ ” เป็นโทรศัพท์แห่งความตาย

ขอเตือนว่า คุณอาจ กำลัง “ ฆ่าคน ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว

เพราะ “ไอ้บ้า ตัวนั้น” ที่มันโทรมาหาคุณ
มันใช้วิธีสุ่มหาเบอร์โทรของคุณจากในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะเบอร์ของทหาร ตำรวจ หรือคนในแวดวงข้าราชการ
หรือแม้แต่ มันโทรสุ่มสี่สุ่มห้าทั่วๆไปเรื่อยเปื่อย
พอคุณรับสาย มันก็จะบอกว่าขอโทษทีโทรผิด หรือมันรีบตัดสายทิ้ง
แล้วมันจะรีบปิดเครื่องหนี
แล้วมันตั้งเวลาเปิดเครื่องโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้ให ้เปิดเครื่องเองอัตโนมัติ
แล้วมันก็ เอาโทรศัพท์เบอร์นั้น ไปพ่วงวงจรเข้ากับ “ระเบิด” แสวงเครื่อง
แล้วมันก็เอาไปวางไว้ในที่ลับตาคน หรือในที่คนพลุกพล่านซึ่งไม่มีคนสนใจ
แล้วมันก็จากไป
แล้วด้วยความขี้สงสัยของคุณ คุณก็จะโทรกลับไปหาเบอร์นั้น อีกซักครั้ง สองครั้ง หรือสามครั้ง
แล้ว โทรศัพท์หมายเลขนั้น มันก็เปิดเครื่องเองอัตโนมัติ ตามที่ “มัน” ตั้งเวลาไว้
แล้วพอดี คุณก็โทรเข้าไปเบอร์นั้น ด้วยความสงสัยใคร่รู้ของคุณอีกที
หรือไม่ก็ พอเครื่องมันเปิดตามเวลาที่ตั้งไว้ ก็จะมี sms เข้าทันที แจ้งหมายเลขโทรเข้าเครื่องนั้น ในระหว่างที่มันปิดเครื่องไว้ (ก็เบอร์คุณนั่นแหละที่โทรเข้าไป) ... บริการแจ๋ว .. แจ๋วจริงๆ
แล้ว โทรศัพท์เครื่องนั้น ก็สั่น ทำให้เชื่อมต่อวงจรไฟฟ้าเข้ากับลูกระเบิด

แล้วมันก็ระเบิดขึ้นมาในสถานที่ๆ มันวางเอาไว้ (โดยเฉพาะในแถบชายแดนภาคใต้)
แล้ว ก็มีผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย

แล้ว คุณก็ “ ฆ่าคน ” โดยคุณไม่รู้ตัว
แล้ว ตำรวจ ก็สืบหาหมายเลขที่โทร.เข้าโทรศัพท์เครื่องที่ระเบิด
แล้ว ปรากฎว่ามันคือเบอร์คุณ เป็นคนโทรไปให้มันระเบิด
แล้ว คุณก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่า เป็นคนจุดชนวนระเบิด
แม้ว่าคุณจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แม้ว่า คุณอาจจะไม่ต้องติดคุก เพราะคุณไม่ได้ทำผิดอะไร
แต่การที่คุณตกเป็นผู้ต้องสงสัย มันก็อาจทำให้คุณมีเรื่องปวดหัวๆตามมาอีกมากมาย

ขอความกรุณาซักหน่อยนะครับ

ถ้ามีเบอร์โทรแปลกๆที่คุณไม่รู้จักโทรมาหาคุณ

ถ้ารับแล้ว มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง แบบที่ผมบอกไว้

กรุณาอย่าโทรกลับไปครับ

ถ้าเขาที่โทรมามีธุระ ถ้าเขาที่โทรมาเป็นคนรู้จัก ถ้าเขาต้องการติดต่อคุณจริงๆ

เขาจะโทรมาหาคุณใหม่แน่ๆ ไม่ต้องไปสงสัยอะไรให้มาก

กรุณาอย่าโทรกลับไปอีก ด้วยความสงสัยของคุณ

เพราะความขี้สงสัยของคุณ อาจกำลัง “ ฆ่าคน ” ก็เป็นได้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern9) 202.142.200.250 พฤหัสบดี, 16/7/2552 เวลา : 11:35  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83162

คำตอบที่ 37
      

fiogf49gjkf0d
นั่งตรงๆ

ครูวิชิตเป็นครูเกษียณอายุมานานหลายปีแล้ว

ซ้ำโชคร้ายร่างกายเป็นอัมพาตส่วนล่างไปไหนก็ต้องใช้รถเข็นตลอด

แต่เนื่องด้วยมีเงินบำนาญลูกหลานก็จ้างพยาบาลคอยดูแล



วันหนึ่ง ครูวิชิตอยากออกไปสูดอากาสข้างนอก ก็บอกพยาบาลว่า

"คุณพยาบาล พาผมออกไปดูธรรมชาติ ข้างนอกหน่อย"

พยาบาลก็พาไป


ซักพักครูวิชิตก็นั่งเอียงซ้าย พยาบาลเห็นก็จับนั่งตัวตรง

พอเอียงขวาก็ถูกจับนั่งตัวตรงอีก


ครูวิชิตโมโห เลยบอกออกไปว่า


"คุณพยาบาล ผมจะตดมั่งไม่ได้เลยรึไง...ห๊า" (อุ๊บบบ!!) 55555






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern9) 202.142.200.250 อังคาร, 21/7/2552 เวลา : 14:14  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83333

คำตอบที่ 38
      

fiogf49gjkf0d
อยากจะเตือนเพื่อนๆ เข้าห้องน้ำมอเตอร์เวย์ ระวัง!!!!!!!!!!!!!!!!!

จุดพักรถมอเตอร์เวย์ต้องระวัง แม้กระทั่งผู้ชาย
เคยเจอแบบนี้ไหมครับ จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ตอนตีสอง

ผมกำลังขับรถกลับบ้านคนเดียว ปวดขี้สุดๆ เลยแวะเข้าห้องน้ำ ปิดประตูปัง !!!!

สักพักมีคนเดินมาเข้าห้องน้ำ ห้องข้างๆผม แล้วมีเสียงลอดออกมา

ชายนิรนาม : “สวัสดี เป็นไงบ้าง สบายดีไหม”
ผม : นึกในใจ อืม อะไรของมันว่ะ แต่ทำใจดีสู้เสือ เอาไงเอากันว่ะ เลยตอบกลับไป “ เอ่อ สวัสดีครับ สบายดีครับ”

ชายนิรนามถามต่อ : “ แล้วทำอะไรอยู่ล่ะ”
ผม : นึกในใจ มึงจะให้กูทำ อะไร ฟะ นั่งอยู่ในส้วม “ เอ่อ คือ ขี้อยู่อะครับ”

ชายนิรนามถามอีก : “นอนดึกนะเนี่ย ป่านนี้ ยังไม่หลับไม่นอน จะไปไหนเนี่ย”
ผม : อืม แปลกดีวุ้ย มีคนชวนคุย คงกำลังหาเพื่อนคุย “ เออ กลับบ้านที่จันทน์ ครับ ต้องไปงานแต่งตอนเช้า”

สำหรับประโยคสุดท้ายของชายนิรนาม ที่ทำให้ผมขนลุก

































ชายนิรนาม : “ เฮ้ยๆ กูวางหูแค่นี้ก่อนนะ ห้องข้างๆเป็นเอี้ยอะไรไม่รู้ พูดตอบมาตลอดเลย”
ผม :



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern9) 202.142.200.250 พุธ, 29/7/2552 เวลา : 11:07  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83437

คำตอบที่ 39
      

fiogf49gjkf0d
ผมหมายใจจะพูดถึงเชื้อเพลิงที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่นะครับ สำหรับการใช้งานกับเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะดีเซล หรือเบนซินทั่วไป

ซึ่งผมอยากจะบอกว่าใช้ได้กับรถยนต์ทุกคันนั่นแหละ อย่าวิตกกังวลกันไปนักเลย

ที่บอกกันว่าเมื่อใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์กันหมดแล้ว จะไม่มีเบนซินให้เติมสำหรับรถยนต์เก่าเลยนั้น ก็ขอให้ลองนึกย้อนหลังไปเมื่อครั้งที่เรายังใช้สารตะกั่วผสมในน้ำมันเบนซินอยู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นน้ำมันไร้สาร เราก็เอะอะกันครึกโครมว่า เครื่องยนต์เก่าจะต้องพังพินาศไปในชั่วครู่ชั่วยาม

ส่วนมากก็ออกมาบอกมาพูดกันในรายการวิทยุบ้าง ในหนังสือรถยนต์ ในหน้าหนังสือพิมพ์บ้างว่า บ่าวาล์วของรถจะสึกเร็ว จนต้องทำ บ่าวาล์วกันใหม่ในไม่กี่วันที่ใช้งานน้ำมันไร้สารตะกั่ว

แล้วเป็นอย่างไร

จนป่านนี้ ผมยังแทบไม่ได้ยินช่างยนต์คนซ่อมรถ พูดกันเรื่องซ่อมบ่าวาล์วที่สึกเร็วเพราะใช้น้ำมันไร้สาร ในรถยนต์รุ่นเก่าแม้แต่คนเดียว

พูดน่ะพูด แต่พูดแค่เพราะรถเก่าแล้ว ต้องซ่อมกันเท่านั้นแหละ ไม่มีใครพูดสักคนว่า ที่ต้องซ่อมบ่าวาล์วนั้น เพราะเป็นผลมาจากการใช้น้ำมันไร้สารตะกั่ว

คือเรื่องเหล่านี้เป็นไปได้ ไม่ใช่ไม่ได้ แต่เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนเกือบจะเหมือนกับการสึกหรอธรรมดาของจักรกล

ใช้เวลานานมาก ถึงนานจนลืมกันไปเลย ว่าตอนนี้ไม่มีน้ำมันผสมสารตะกั่วให้เติมกันแล้ว

อย่างเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้น้ำมันไบโอดีเซล ก็เห็นถามกันให้วุ่นไปหมด ว่าจะต้องปรับแต่งแก้ไขเครื่องยนต์อย่างไรให้ใช้งานกับน้ำมัน ไบโอดีเซลได้

แล้วก็มีท่านผู้แสดงตัวว่าเป็นผู้รู้ ออกมาแสดงความทื่อให้เห็นให้ได้ฟังกันในรายการวิทยุรถยนต์ที่ขาดการควบคุมกันหมดว่า จะต้องระวังส่วนต่างๆ อันเป็นยาง เพราะยางทนแอลกอฮอล์ไม่ได้ โดยไม่ได้คำนึงเลยว่า รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่ใช้ยางสังเคราะห์ หรือยางประเภท viton เคลือบภายในของท่อน้ำมันกันหมดแล้ว

สาร viton นั้นเป็นสารจดทะเบียนของ dupont ที่ทนทานต่อแอลกอฮอล์ได้อย่างดี ใช้กันมานานแล้วครับ

คุณไม่ต้องทำอะไรกับรถยนต์ดีเซล หรือเบนซินของคุณเลย หากจะเลือกใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

เพราะเท่าที่มีข้อมูลอยู่ในมือและข้อมูลที่เกลื่อนกลาดในอินเทอร์เน็ตนั้น ผมก็เห็นแค่ว่า เขาให้ระวังและดูแลเมื่อคุณใช้งานน้ำมันระดับ E100 และ B100 กันเท่านั้น

หาได้มีใครแสดงภูมิออกมาเฉพาะทางด้านน้ำมันระดับ E10 หรือ B2 ไปจนถึง B5 เลย

เป็นการเตือนธรรมดา เฉพาะสำหรับกลุ่มที่ใช้น้ำมัน B100 ที่ว่า น้ำมันมีคุณสมบัติสูงในการชะล้าง และกัดกร่อนเนื้อยางธรรมชาติ หรือ butyl rubber ในระบบเชื้อเพลิงเท่านั้น ไม่ว่าจะในท่อทางเดินน้ำมัน หรือในตัวปั๊มน้ำมันและหัวฉีดเชื้อเพลิง

ดังนั้นหากคุณใช้น้ำมันระดับ B100 หรือ ใกล้เคียงเข้าไป ก็ควรจะต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนเหล่านั้น ให้มาใช้เป็นซีล เป็นท่อ ที่เคลือบหรือสร้างด้วย viton

แต่ชิ้นส่วนที่ทำด้วยยางธรรมชาติในระบบเชื้อเพลิงของดีเซลนั้น มีน้อยมากมาตั้งแต่เริ่มต้นทศวรรษหนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบแล้วละครับ

เมื่อล่วงมาถึงปัจจุบัน จึงแทบไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น

แม้แต่ของมาสด้าที่ออกมาประกาศให้ทราบว่า ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันดีเซลแบบไบโอดีเซล ในบ้านเรา ผมก็อยากจะเชื่อว่า ผู้ประกาศนั้นน่าจะไม่เคยอ่านลึกเข้าไปในข้อมูลที่ได้รับ หากแต่เพียงอ่านแค่ประโยคเดียวโดดๆ ว่า ไม่ควรใช้น้ำมันไบโอดีเซล

แล้วลืมไปหมดว่า การอ่านข้อมูลต้องอ่านให้ละเอียด ให้กว้างๆ ให้ลึกหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ได้อ่านเฉพาะประโยคเดียว

ที่เป็นเพียงข้อชี้บ่ง ไม่ได้อธิบายความหมายของการชี้บ่งนั้นๆ ที่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นแต่อย่างใด





คอลัมน์ เก็บตกเทคโนโลยี
โดย ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern 9) 202.142.200.250 พฤหัสบดี, 30/7/2552 เวลา : 13:57  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83453

คำตอบที่ 40
      

fiogf49gjkf0d
ในขณะที่เราคิดถึงคน ๆ นึงตลอดเวลา
เค้าคนนั้นก็อาจคิดถึงคนอื่นอยู่ก็เป็นได้
และบางครั้ง ก็อาจมีคนที่คิดถึงเรา

โดยที่เราไม่สนใจเลยเช่นกัน

บางครั้ง การได้ฝันไปคนเดียว

มันก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่ว่า
สิ่งที่เราคิดทั้งหมด

มันคือความฝันของเราเองเพียงคนเดียว
ฉะนั้น ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่

เลือกที่จะจมกับความฝัน
มากกว่าการได้รับรู้ความจริง
การไม่ได้เป็นที่ 1 ในใจเค้า

ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า...
เราอาจเป็นที่ 2

ซึ่งมันก็ยังดีกว่าเป็นที่ 3 ที่ 4...
และหากเราเป็นที่ 10 ในใจเค้า...
ก็ขอให้คิดไว้ว่า

ดีกว่าเราไม่มีความสำคัญอะไรในใจเค้าเลย

แต่โปรดจำไว้เถอะว่า
หากหัวใจของคุณยังไม่ร้องไห้ออกมาดัง ๆ
พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า

...ชั้นเหนื่อยเหลือเกินแล้ว
โปรดห้ามใจเถอะ

ก่อนที่ชั้นจะอ่อนล้าไปกว่านี้...

ก็จงชอบต่อไปเถอะ
การรักใครซักคน

ไม่ต้องการความพยายาม
"การตัดใจ"ต่างหาก

ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย
ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า

ความสุขยาม ที่คุณได้สบตาเค้า
กับความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า
อันไหนมันหนักหนากว่ากัน

อย่าโทษตัวเอง ที่มาเจอเค้าสายเกินไป...
อย่าโทษเค้าที่ไม่มีใจให้...
อย่าโทษโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน

แต่ไม่ได้ทำให้เราใจตรงกัน

แต่จงยิ้มให้กับตัวเอง ที่อย่างน้อย

ถึงจะพบกับเค้าคนนั้นสายเกินไป
แต่ก็ยังได้พบ...

ยิ้มให้เค้า ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา
แต่ก็ยังได้รับหัวใจของเราไป...

ยิ้มให้กับโชคชะตา
ที่ยังทำให้เรา...ได้รู้จักกัน

คุณควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ครั้งหนึ่ง
คุณได้เจอคนที่คุณอยากเก็บรอยยิ้ม

ของเค้าไว้คนเดียว

คนที่คุณใส่ใจกว่าตัวคุณเอง...
คนที่ทำให้คุณหัวเราะ...

และร้องไห้ได้มากมาย...

คนที่เพียงแค่ยิ้มของเค้า
ก็สามารถเปลี่ยนวันที่หมองหม่น...

ให้กลายเป็นวันที่สดใส
เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ?

แค่การได้เห็นคนที่เรารัก
ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคน

ที่เค้ารักมากที่สุด
...นั่นแหละคือความสุขของการได้รัก

...อย่างจริงใจ








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 125.24.193.17 อาทิตย์, 2/8/2552 เวลา : 12:17  IP : 125.24.193.17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83460

คำตอบที่ 41
      

fiogf49gjkf0d
คำเตือน : 9 เคล็ดลับ...สำหรับสุภาพสตรี และบุคคลทั่วไป

1 . เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด้
" ข้อศอก" คือจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย
หากถูกทำร้าย หรือกำลังจะถูกทำร้าย
และคุณอยู่ในระยะที่ใกล้พอ
จงใช้ข้อศอกให้เป็นประโยชน์
( ถองกบาลหรือกกหูมันแรง ๆ )

2 . ข้อแนะนำจากหนังสือแนะนำ
นักท่องเที่ยวเมืองนิวออร์ลีนส์
หากถูกโจรจี้และขอกระเป๋าถือหรือ
กระเป๋าสตางค์ อย่ายื่นกระเป๋าให้โจร
แต่ให้เขวี้ยงกระเป๋าไปไกล ๆ
เพราะเป็นไปได้ว่าเจ้าโจรนั่น
อาจสนใจแค่เงินหรือข้าวของในกระเป๋า
มากกว่าตัวคุณ
มันจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าที่คุณโยนออกไป
ทีนี้ก็จงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
ไปในทิศทางตรงกันข้าม

3. ถ้าถูกจับขังในฝากระโปรงท้ายรถ
พยายามทุบให้ไฟท้ายรถหลุดออก

จากนั้นยื่นแขนออกมาจากรูโหว่แล้วโบกสุดฤทธิ์
คนขับมองไม่เห็นคุณ
แต่รับรองชาวบ้านเห็นแน่ ๆ
วิธีนี้ช่วยชีวิตคน มานักต่อนักแล้ว

4. อย่านั่งแช่ในรถ

สาวๆ ทั้งหลาย เมื่อเสร็จภารกิจช้อปปิ้ง
กินข้าว เลิกงาน ฯลฯ สาว ๆ
เมื่อก้าวขึ้นรถแล้ว ก็มักจะ นั่งแช่
ทำอะไรต่อมิอะไรกระจุกกระจิก
เป็นต้นว่า ดูสมุดบัญชี จดลิสต์รายการ
ข้าวของ หรือเรื่องที่จะต้องทำ หรืออื่น ๆ
ขอเตือนว่า..อย่าทำเช่นนี้เป็นอันขาด
ผู้ร้ายอาจกำลังจับตาเฝ้าดูคุณอยู่
การที่นั่งจ่อมอยู่อย่างนี้แหละ
จะเป็นโอกาสอันงาม
ที่มันจะก้าวขึ้นมานั่งในรถข้าง ๆ คุณ
เอาปืนจี้แล้ว สั่งให้พาไปไหนต่อไหน
เพราะฉะนั้นก้าวขึ้นนั่งในรถเมื่อไร
ให้รีบล็อคประตูแล้วออกรถทันที

5. ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ
เมื่อคุณต้องเดินไปยังรถที่จอดในลานจอดรถ
โรงจอดรถ หรืออาคารที่จอดรถ

ก. สำรวจรอบตัวมองข้างในรถทั้งที่นั่งข้างคนขับ
พื้นรถรวมถึง เบาะหลังด้วย
ข. ถ้ารถคุณจอดอยู่ข้างรถตู้คันใหญ่
แนะนำให้ขึ้นรถด้านประตูผู้โดยสาร
ผู้ร้ายส่วนใหญ่มักฉวยโอกาสจังหวะที่เหยื่อกำลัง
เปิดประตูรถลากตัวเหยื่อขึ้นรถตู้
ค. ดูรถที่จอดอยู่ข้างรถคุณทั้งฝั่งซ้ายและขวา
หากมีผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวตรงเบาะด้าน
ที่ใกล้รถคุณ ควรหลีกเลี่ยงด้วยการ
เดินกลับเข้าไปในห้างหรือที่ทำงาน
แล้วขอให้เจ้าหน้าที่ห้าง หรือ รปภ.
หรือเพื่อนชายเดินกลับมาส่งที่รถ
ปลอดภัยไว้ก่อน ดีกว่าต้องเสียใจทีหลัง
(โดนหาว่าประสาทยังดีกว่าต้องซี้ม่องเซ็ก)

6. ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงทางบันได
บันไดเป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดถ้าอยู่คนเดียว
รวมทั้งเป็นจุดที่เกิดอาชญากรรมได้ดีที่สุด

7. หากผู้ร้ายมีปืน และคุณยังไม่ได้ถูกจี้ .วิ่งหนี!!!
โอกาสที่มันจะยิงโดนคุณมีเพียง 4 ใน
100 ครั้งเท่านั้น (เป้าเคลื่อนที่)
และถึงจะยิงโดน ก็เป็นไปได้มาก ว่า
จะไม่ถูกอวัยวะสำคัญเพราะงั้นวิ่งลูกเดียว!

8. อย่าใจอ่อน ผู้หญิงมักขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจ
งานนี้อย่าเชียวนะ!! เพราะอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย
ข่มขืน หรือฆาตกรรมได้ กรณีนี้มีตัวอย่างมาแล้ว
ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งในอเมริกาชื่อ เท็ด เบินดี้ม
เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีการศึกษา
ใช้กลวิธีเรียกร้องความสงสารจากเหยื่อเพศหญิง
ซึ่งไม่ได้เกิดความสงสัยสักนิด
เขาหลอกลวงเหยื่อให้ตายใจด้วยการเดินโดยอาศัยไม้เท้า
หรือแสร้งทำขากะเผลก
แล้วขอ 'ความช่วยเหลือ'จากเหยื่อ
ให้ช่วยพยุงขึ้นรถ จากนั้นก็ใช้จังหวะนั้น
ลักพาตัวไป......ฆ่า????

9. ให้ร้องว่า ' ไฟไหม้ ' แทนคำว่า ' ช่วยด้วย'
จากหนังสือภัยจาก 108 มงกุฏ
เมื่อคุณกลับบ้านในเวลากลางคืน
หากถูกคนร้ายจี้ ชิงทรัพย์ ฯลฯ
เวลาร้องขอความช่วยเหลือ
คำว่าไฟใหม้จะทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้น
ตกใจตื่นและออกมาดูสถานการณ์ได้เร็วกว่า

หากท่านเห็นว่าข้อความที่อ่านมาอาจเป็นประโยชน์ต่อคนที่ท่านรู้จักท่านสามารถส่งต่อได้
โดยเฉพาะเพื่อน พี่ น้องที่เป็นเพศหญิง เพื่อเตือนให้เธอเหล่านั้นระลึก อยู่เสมอว่า
'โลกใบนี้มีคนวิกลจริตอาศัยอยู่มาก ... ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเสียใจภายหลัง'



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 125.24.193.17 อาทิตย์, 2/8/2552 เวลา : 12:19  IP : 125.24.193.17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83461

คำตอบที่ 42
      

fiogf49gjkf0d
ใครเคยอกหัก ลองอ่านดูนะ


มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา!

เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ
ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ
ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน

เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด

^_^ คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 125.24.193.17 อาทิตย์, 2/8/2552 เวลา : 12:21  IP : 125.24.193.17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83462

คำตอบที่ 43
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อเช้าดูช่อง 9 มา เรื่องมะรุม
มีผู้หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่สหรัฐอเมริกา ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ความดันโลหิตสูง เม็ดเลือดขาวกินเม็ดเลือดแดง ( ลูคีเมีย) และปอดมีปัญหาอักเสบ ไปหาหมอ หมอก็รักษาที่ละโรค พอดีปวดฟันไปถอนฟัน หมอให้กินยาเพนนิซิลิน ดันแพ้ยาอย่างรุนแรง จนเกิดอาการบวมและลามไปที่ไตเกิดปัญหา หมอต้องเริ่มรักษาใหม่ของแต่ละโรคเพราะว่ายาที่รักษาแต่ละโรค จะมีเพนนิซิลินเป็นส่วนประกอบ และหมอก็ให้เค้าเตรียมทำใจ

พอดีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันเป็นชาวพม่า แม่ป่วยเป็นมะเร็ง เค้าต้องการหายารักษาโรค ด้วยความหวังดีเค้ามาหาข้อมูลใน internet ให้เพื่อน และรู้ว่ามะรุมมี คุณลักษณะในการช่วย เค้าเลยหาต้นมะรุม ในสหรัฐมีคนที่ปลูกมะรุมในบ้านอยู่บ้าง ซึ่งแต่ละบ้านงกมากและไม่ยอมให้ เพราะที่สหรัฐเค้ากินกันถือว่าบ้านไหนมีต้นมะรุมเสมือนมีโรงพยาบาลที่บ้าน ดังนั้น เค้าเริ่มปลูกต้นมะรุน และกินใบสดที่ใบไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไป หรือไม่จะเก็บใบสดมาตากแห้ง ( ต้องมีผ้าขาวบางคลุมเพื่อไม่ให้สูญเสียน้ำไป) บดให้ละเอียดใส่แค็บซูลกินทุกเช้า
มะรุมไม้กลางบ้านของไทยที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมาเป็นเวลานานนอกจากจะรับประทานอร่อยแล้ว ชาวอินเดียยังได้ทำการทดลองและเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆได้ถึง 300 ชนิด องค์การสหประชาชาติได้ให้การสนับสนุนในการค้น
คว้าและวิจัยอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในการรักษาโรคขาดอาหารและอาการตาบอดซึ่งเกิดขึ้นในเด็กแรกเกิดจนถึงวัยเจริญเดิบโตในประเทศด้อยพัฒนาเช่นกลุ่มประเทศในอาฟริกาตอนใต้และประเทศอินเดีย กลุ่มองค์การกุศลมากมายได้หันมาให้ความสนใจอย่างจริงจังกับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ รวมทั้งประเทศไทย กลุ่มนักศึกษาแพทย์จำนวน 25 ท่านจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ได้ทำการทดลองวิจัยในการที่จะนำมารักษาผู้ป่วยด้วย
โรคงูสวัดแม้แต่กลุ่มประเทศอื่นๆเช่นอังกฤษ , เยอรมัน , รัสเซีย , ญี่ปุ่น , จีน , ก็หันมาให้ความสนใจและทำการค้นคว้าอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เบาหวาน โรคเอดส์ และอีกมากมาย
ประโยชน์คร่าวๆ จากวารสารค้นคว้าที่พอจะอ้างอิงได้มีดังต่อไปนี้คือ
1. ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิด ถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอด ได้เป็นอย่างดี
2. ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ ทำให้สามารถลดการใช้ยาลงโดยความเห็นชอบและการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้รักษาด้วย
3. รักษาโรคความดันโลหิตสูง
4. ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายถ้าแม้ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อ HIV นอกจากนี้ยังช่วยให้คนทั่วๆไปสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง
5. ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้และสามารถมีชิวิตอยู่อย่างคนทั่วไปได้ในสังคมการรักษาโรคเอดส์ที่ประสพผลสำเร็จในกลุ่มประเทศอาฟริกา แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็กำลังอยู่ในภาวะทดลอง
6. ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งแต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบันหากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง
7. ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊า โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม
8. รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้นถ้ารับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์
9. รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง โรคพยาธิในลำไส้ เป็นต้น
10. รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ

นอกจากนี้ต้นมะรุมยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายซึ่งไม่สามารถที่จะนำมาอ้างอิงได้หมดในที่นี้ หากสนใจท่านสามารถหาอ่านได้จากเอกสารอ้างอิงกำกับท้ายเอกสารฉบับนี้
วิธีใช้
ใบสด ควรรับประทานใบสดที่ไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไปนัก เพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่
เด็กแรกเกิด - 1 ปี คั้นน้ำจากใบเพียง 1 หยด ผสมกับนมให้ดื่มเพียง 1 หยด ต่อ 1-2 วัน ใบมะรุมนี้มีธาตุเหล็กสูงมาก ฉะนั้นทารกในวัยเจริญเติบโต - 2 ขวบ จึงไม่ควรทานมาก
เด็กที่เริ่มทานอาหารได้ถึง 3-4 ขวบ ควรทานวันละไม่เกิน 2 ใบ เพิ่มจำนวนขึ้นทีละใบตามอายุ จนถึง 10 ขวบ
เด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ รับประทานวันละ 1 กิ่ง จะทานสดหรือประกอบอาหารก็ได้ ถ้าจะให้ได้ผลรวดเร็ว ควรคั้นน้ำดื่มประมาณวันละ 1 ช้อนโต๊ะสำหรับผู้ใหญ่ หรือ 1 ช้อนชาสำหรับเด็ก
การรับประทานสุกควรลวกแต่พอควรเพราะการถูกความร้อนนานเกินไปจะทำให้สารอาหารหลายชนิดเสื่อมคุณภาพลงไปมาก ถ้าสามารถรับประทานสดได้จะดีมาก ใช้ทำสลัดรวมกับผักสด หรือวางบนแซนวิช

ผล รับประทานได้ทั้งฝักอ่อนและฝักแก่พอสมควรฝักแก่จะใช้ลำบากเพราะต้องปอกเปลือกเช่นใช้แกงส้มหรือขูดเอาแต่เนื้อใน มาทำแกงกะหรี่ ฝักอ่อนขนาดถั่วฝักยาวสามารถนำมาทำอาหารได้มากมายหลายชนิด อาทิ เช่น แกงส้มฝักมะรุม ฝักมะรุมอ่อนผัดน้ำมันหอย ยำฝักมะรุมอ่อน(เหมือนยำถั่วพลู)
สลัดสดใบมะรุมผักรวม ทอดมันปลากับฝักมะรุมอ่อน แกงเลียงฝักมะรุมอ่อนและใบมะรุม
แกงเผ็ดฝักมะรุมอ่อน ไข่ยัดไส้ใบมะรุมหมูสับ ดอกมะรุมชุบไข่ทอด
ผัดพริกขิงฝักมะรุมอ่อน ผัดจืดฝักมะรุมอ่อนใส่ไข่และกุ้ง ผัดเผ็ดฝักมะรุมอ่อนยอดพริกไทยกับไก่
ฝักมะรุมอ่อนผัดขี้เมา ไก่อบฝักมะรุมอ่อน ยอด ดอก และฝักมะรุมอ่อนจิ้มน้ำพริก
ต้มจืดหมูสับใบมะรุมอ่อน ผัดฝักมะรุมอ่อนกับเห็ดสดต่างๆ ราดหน้าฝักและใบมะรุมอ่อนไก่/หมู
แกงจืดใบมะรุมอ่อนเต้าหู้ ผัดฝักมะรุมอ่อนกับเห็ดหูหนู จีน แกงจืดวุ้นเส้นใบมะรุมอ่อนใส่เห็ดสด
แกงเขียวหวานหรือแกงแดงฝักมะรุมอ่อน(จะใส่เนื้อ หรือไก่ก็ได้ตามแต่ชอบ)
ยอด ดอก และฝักมะรุมอ่อนชุบแป้งเทมปุระทอด เหล่านี้เป็นต้น

เมล็ด สามารถนำเมล็ดมะรุมมาสกัดน้ำมันเพื่อใช้ประโยชน์ได้มากมายเช่นใช้ทำอาหารได้ รักษาโรคปวดตามข้อ โรคเก๊า รักษาโรครูมาติซั่ม และรักษาโรคผิวหนัง แก้ผิวแห้ง ใช้แทนยารักษาผิวให้ชุ่มชื้น รักษาโรคอันเกิดจากเชื้อรา
เปลือกจากลำต้น นำมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆใส่ผ้าห่อทำเป็นลูกประคบนึ่งให้ร้อนนำมาใช้ประคบ แก้โรคปวดหลัง ปวดตามข้อได้เป็นอย่างดี * ร้านขายยาจีนนำมาใช้เข้าเครื่องยาจีนรักษาโรคหลายประเภท*
กากของเมล็ดกากที่เหลือจากการทำน้ำมันสามารถนำมาใช้ในการกรองหรือทำน้ำให้บริสุทธิ์เป็นน้ำดื่มได้กากของเมล็ดมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นนำมาทำปุ๋ยต่อได้

ดอก ใช้ต้มทำน้ำชาใช้ดื่มช่วยให้นอนหลับสบาย

ใบตากแห้ง สามารถนำใบมาตากแห้งโดยการตากในที่ร่มอย่าให้โดนแดดเมื่อแห้งสนิทดีแล้วนำมาป่นเป็นผงบรรจุในหลอดแคปซูลเพื่อสะดวกแก่การพกพาในกรณีที่เดินทางและหาใบสดไม่ได้ใช้ทำเป็นน้ำชาไว้ดื่มได้ตลอดวันแต่ใบแห้งจะขาดไวตามินซีและไวตามินบีตลอลีนและแร่ธาตุบางจำพวกที่สูญหายในระหว่างการทำให้แห้งควรเก็บผงมะรุมไว้ในที่มืดเช่นขวดพลาสติกชนิดทึบเพื่ อ กั นการเสื่อมคุณภาพแต่คุณสมบัติอื่นๆ ยังคงเดิมเนื่องจากมะรุมเป็นพืชสมุนไพรกลางบ้านดังนั้นการให้ผลย่อมช้ากว่ายาแผนสมัยใหม่การที่จะใช้ให้ได้ผลอย่างจริงจังต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนและต้องใช้ติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอจะให้ผลเป็นที่น่าพอใจร่างกายจะแข็งแรงอยู่เสมอคนธรรมดาที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคก็สามารถใช้ได้เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อต่างๆ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดียิ่ง
เอกสารอ้างอิง:

Nature's Medicine Cabinet by Sanford Holst
The Miracle Tree by Lowell Fuglie
LA times
March 27th 2000 article wrote by Mark Fritz.
WWW.PUBMED.GOV . (Search for Moringa) (Antiviral Research Volume 60, Issue 3, Nov. 2003, Pages 175-180: Depts. of Microbiology, Pharmaceutical Botany, Pharmacology, Faculty of Pharmaceutical Science, Chulalongkorn University , Bangkok 10330 , Thailand . Corresponding author. Tel.: +66-2-218-8378; fax +66-2-254-5195)

' มะรุม ' เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่ถูกปลูกไว้ในบริเวณบ้านไทยมาแต่โบราณ กินได้หลายส่วน ทั้งยอด ดอก และฝักเขียว แต่ใครๆ ก็นิยมกินฝักมากกว่าส่วนอื่นๆ

ต้นมะรุมพบได้ทุกภาคในประเทศไทย ทาง อีสาน เรียก "ผักอีฮุม หรือผักอีฮึม" ภาคเหนือ เรียก "มะค้อมก้อน" ชาวกะเหรี่ยง แถบกาญจนบุรีเรียก"กาแน้งเดิง" ส่วน ชาวฉาน แถบแม่ฮ่องสอนเรียก " ผักเนื้อไก่" เป็นต้น

มะรุมมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Moringa oleifera Lam. วงศ์ Moringaceae เป็นพืชกำเนิดแถบใต้เชิงเขาหิมาลัย

มะรุมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 3-4 เมตร ทรงต้นโปร่ง ใบเป็นแบบขนนกคล้ายกับใยมะขามออกเรียงแบบสลับ ผิวใบด้านล่างสีอ่อนกว่าด้านบน ดอกออกเป็นช่อสีขาว ดอกมี 5 กลีบ

ฝักมีความยาว 20-50 เซนติเมตร ลักษณะเหมือนไม้ตีกลอง เป็นที่มาของชื่อต้นไม้ตีกลองในภาษาอังกฤษ (Drumstick Tree) เปลือกฝักอ่อนสีเขียวมีส่วนคอดและส่วนมนเป็นระยะตามความยาวของฝัก เปลือกฝักแก่มีสีน้ำตาล เมล็ดมีเยื่อหุ้มลักษณะกลมมีสีน้ำตาล เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร เมล็ดแก่สามารถบีบน้ำมันออกมากินได้

มะรุมเป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง ขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ดและการปักชำ การปลูกการดูแลรักษาก็ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน เกษตรกรจึงมักนิยมปลูกมะรุมไว้ริมรั้วบ้านหรือหลังบ้าน 1-5 ต้น เพื่อให้เป็นผักคู่บ้านคู่ครัวแบบพอเพียงที่ไม่ต้องซื้อหา

คนไทยทุกภาคนิยมนำฝักมะรุมไปทำแกงส้ม ด้วยการปอกเปลือกหั่นฝักมะรุมเป็นชิ้นยาวพอคำ ถือว่าเป็นผักที่ทำแกงส้มคู่กับปลาช่อนอร่อยที่สุด จะต่างกันก็ในรายละเอียดของแกงตามแบบอย่างของแต่ละท้องถิ่นเท่านั้น แม้แต่ทางใต้ก็นิยมนำมะรุมมาทำแกงส้มปลาช่อน โดยจะใช้ขมิ้นเพื่อดับกลิ่นคาวปลาและเพิ่มสีสันของน้ำแกง ปรุงรสเปรี้ยวด้วยการใส่ส้มแขกแทนน้ำมะขาม และหั่นปลาช่อนเป็นแว่นใหญ่ไม่โขลกเนื้อปลากับเครื่องแกง

ผู้เฒ่าผู้แก่นิยมกินมะรุมในช่วงต้นหนาวเพราะเป็นฤดูกาลของฝักมะรุม หาได้ง่าย รสชาติอร่อยเพราะสดเต็มที่ มีขายตามตลาดในช่วงฤดูกาล คนที่ปลูกมะรุมไว้ในบ้านเท่านั้นจึงจะมีโอกาสลิ้มรสยอดมะรุม ใบอ่อน ช่อดอกและฝักอ่อน ช่อดอกนำไปดองเก็บไว้กินกับน้ำพริก ยอดมะรุม ใบอ่อน ช่อดอก และฝักอ่อนนำมาลวกหรือต้ทให้สุก จิ้มกับน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกแจ่วบอง กินแนมกับลาบ ก้อย แจ่วได้ทุกอย่าง หรือจะใช้ยอดอ่อน ช่อดอกทำแกงส้มหรือแกงอ่อมก็ได้

ส่วนอื่นๆ ของโลกจะใช้ใบมะรุมประกอบอาหารเช่นเดียวกับการใช้ผักขมฝรั่ง หรือปรุงเป็นซอสข้นราดข้าวหรืออาหารแป้งอื่นๆ นอกจากนี้ ใช้ใบตากแห้งป่นเก็บไว้ได้นานโรยอาหาร เช่นเดียวกับที่ภูมิปัญญาอีสานจังหวัดสกลนครใช้ใบมะรุมแห้งปรุงเข้าเครื่อง " ผงนัว" กับสมุนไพรอื่นไว้แต่งรสอาหารมาแต่โบราณ ส่วนฝักอ่อนปรุงอาหารเหมือนถั่วแขก



คุณค่าทางอาหารของมะรุม

มะรุมเป็นพืชมหัศจรรย์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด กล่าวถึงในคัมภีร์ใบเบิ้ลว่าเป็นพืชที่รักษาทุกโรค

ใบมะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน

นอกจากนี้ มะรุมมีธาตุอาหารปริมาณสูงเป็นพิเศษที่ช่วยป้องกันโรค นั่นคือ

วิตามินเอ บำรุงสายตามีมากกว่าแครอต 3 เท่า

วิตามินซี ช่วยป้องกันหวัด 7 เท่าของส้ม

แคลเซียม บำรุงกระดูกเกิน 3 เท่าของนมสด

โพแทสเซียม บำรุงสมองและระบบประสาท 3 เท่าของกล้วย

ใยอาหาร และ พลังงาน ไม่สูงมากเหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักอีกด้วย
น้ำมันสกัดจากเมล็ดมะรุมมีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันมะกอกดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
จากอาหารมาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นผลิตชาใบมะรุมออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบุว่าใช้แก้ไขปัญหาโรคปากนกกระจอก หอบหืด อาการปวดหูและปวดศรีษะ ช่วยบำรุงสายตา ระบบทางเดินอาหาร และช่วยระบายกาก

ประเทศอินเดีย หญิงตั้งครรภ์จะกินใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก แต่ที่ประเทศที่ฟิลิปปินส์และบอสวานาหญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะกินแกงจืดใบมะรุม(ภาษาฟิลิปปินส์ เรียก "มาลังเก") เพื่อประสะน้ำนมและเพิ่มแคลเซียมให้กับน้ำนมแม่เหมือนกับคนไทย

ชะลอความแก่

กล่าวกันว่ามะรุมมีฤทธิ์ชะลอความแก่ เนื่องจากยังไม่พบรายงานการวิจัยเกี่ยวกับมะรุมในด้านนี้ คาดว่าเป็นการสรุปเนื่องจากมะรุมมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญคือ รูทินและเควอเซทิน (rutin และ quercetin) สารลูทีนและกรดแคฟฟีโอลิลควินิก (lutein และ caffeoylquinic acids) ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ ดูแลอวัยวะต่างๆ ได้แก่ จอประสาทตา ตับ และหลอดเลือดจากการเสื่อมสภาพตามอายุ การกินสารต้านอนุมูลอิสระชะลอการเสื่อมสภาพในเซลล์ร่างกาย

ฆ่าจุลินทรีย์

สานเบนซิลไทโอไซยาเนตโคไซด์และเบนซิลกลูโคซิโนเลตค้นพบในปี พ.ศ. 2507 จากมะรุมมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ สนับสนุนการใช้น้ำคั้นจากมะรุมหยอดหูแก้ปวดหู

ปัจจุบันหลังจากค้นพบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร Helicobactor pylori กำลังมีการศึกษาสารจากมะรุมในการต้านเชื้อดังกล่าว

การป้องกันมะเร็ง
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตไกลโคไซด์ชนิดหนึ่งและสารไนอาซิไมซิน (niazimicin) จากมะรุมสามารถต้านการเกิดมะเร็งที่ถูกกระตุ้นโดยสารฟอบอลเอสเทอร์ในเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้

การทดลองในหนูพบว่าหนูที่ได้รับฝักมะรุมเป็นอาการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังจากการกระตุ้นน้อยกว่ากลุ่มทดลอง โดยกลุ่มที่กินมะรุมเนื้องอกบนผิวหนังน้อยกว่ากลุ่มควบคุม

ฤทธิ์ลดไขมันและคอเลสเทอรอล
จากการทดลอง 120 วัน ให้กระต่ายกินฝักมะรุม วันละ 200 กรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันเทียบกับยาโลวาสแตทิน 6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันและให้อาหารไขมันมาก

ใบมะรุม 100 กรัม
( คุณค่าทางโภชนาการของอาหารอินเดีย พ.ศ. 2537)
พลังงาน 26 แคลอรี
โปรตีน 6.7 กรัม ( 2 เท่าของนม)
ไขมัน 0.1 กรัม
ใยอาหาร 4.8 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 3.7 กรัม
วิตามินเอ 6,780 ไมโครกรัม ( 3 เท่าของแครอต)
วิตามินซี 220 มิลลิกรัม ( 7 เท่าของส้ม)
แคโรทีน 110 ไมโครกรัม
แคลเซียม 440 มิลลิกรัม (เกิน 3 เท่าของนม)
ฟอสฟอรัส 110 มิลลิกรัม
เหล็ก 0.18 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 28 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 259 มิลลิกรัม ( 3 เท่าของกล้วย)

พบว่าทั้งกลุ่มที่กินมะรุมและยามีคอเลสเทอรอลฟอสโฟไลพิด ไตรกลีเซอไรด์ VLDL LDL ปริมาณคอเลสเทอรอลต่อฟอสโฟไลพิด และ atherogenic index ต่ำลงทั้ง 2 กลุ่มมีการสะสมไขมันในตับ หัวใจ และท่อเลือดแดง (เอออร์ตา)

กลุ่มควบคุมปัจจัยด้านการสะสมไขมันในอวัยวะเหล่านี้ไม่มีค่าลดลงแต่อย่างใด

กลุ่มที่กินมะรุมพบการขับคอเลสเทอรอลในอุจจาระเพิ่มขึ้น










 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 125.24.193.17 อาทิตย์, 2/8/2552 เวลา : 12:23  IP : 125.24.193.17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83463

คำตอบที่ 44
      

fiogf49gjkf0d
จดหมายสั่งลา

ถึงน้องหญิงที่รัก

พี่เขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อบอกกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายว่า คราวนี้พี่ลาขาด
พี่เป็นสามีที่ดีเสมอมาตลอดระยะเวลา 7 ปีแม้จะไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร
ในระยะสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่พี่รู้สึกแย่ที่สุด
ยิ่งเมื่อเจ้านายของน้องโทรมา บอกข่าวพี่ว่า น้องลาออกจากงานแล้ว ก็กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับพี่ซะแล้ว
เมื่ออาทิตย์ก่อน น้องกลับมาจากที่ทำงานโดยไม่ได้แม้แต่จะสังเกตทรงผม ทรงใหม่ของพี่ที่ไปทำมาเพื่อน้อง
กับข้าวที่เคยเป็นของสุดโปรดของน้อง น้องก็ใช้เวลาแค่ 2 นาทีสวาปามจนหมดโดยไม่ปริปากชมซักคำ
หรือแม้แต่กางเกงนอนผ้าไหม ตัวใหม่ของพี่น้องก็ไม่ใยดีชายตามอง กลับโดดขึ้นเตียงนอนหลับเป็นตายทันทีหลังจากดู ละครน้ำเน่าจบ
น้องไม่เคยเอ่ยปากบอกรักพี่อีกเลย หรือกระทั่งกิจกรรมแสนสนุกที่เราเคยทำ ก็ไม่เคยมี
อย่างกับว่าเราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันซะอย่างงั้น
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเ พร าะ น้องมีคนใหม่ หรือหมดรักพี่แล้ว พี่ก็จะลาขาดจากน้องตลอดไป

จาก ว่าที่ อดีตสามี

ป.ล. ไม่ต้องเสียเวลา ตามหาพี่ให้เหนื่อย น้องสาวของน้องหญิงกับพี่ ตัดสินใจกันว่าจะย้ายไปอยู่ อุบลฯ ด้วยกัน

ขอให้น้องโชคดีมีชัยเด้อ



********************************************

จดหมายจากน้องหญิง ฝากเพื่อนน้องไขศรี (น้องสาว) ไปให้พี่ สมชาย

ถึงพี่สมชาย อดีตสามี

นี่เป็นข่าวดีที่สุดในชีวิตของน้องที่เคยได้รับเมื่อได้จดหมายจ ากพี่สมชาย

จริงอยู่ที่เราแต่งงานกันมา 7 ปีแม้ว่า คำว่า'สามีที่ดี' จะไกลจากความจริงสำหรับพี่สมชายก็ตาม
น้องใช้เวลาดูละครน้ำเน่า เ พร าะมันช่วยให้คลายเครียดจากอาการขี้บ่น จู้จี้จุกจิกของพี่สมชาย
แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผลซักเท่าไร
ที่จริง น้องสังเกตเห็นทรงผม ทรงใหม่ของพี่เมื่ออาทิตย์ก่อน
แต่ความคิดแวปแรกที่เกิดขึ้นเมื่อน้องเห็นพี่
คือ 'นี่มันทรงอะไรกันผะ' 'ดูอย่างกับ ตุ๊ด เอเอฟ 4 เลย'
เ พร าะคุณแม่ของน้องสอนมาดี ว่าถ้าพูดอะไรออกมาแล้วมันทำให้คนเขาเสียใจ
อย่าพูดดีกว่า น้องจึงไม่พูดอะไรออกมาซักคำ
และเมื่อพี่สมชายทำอาหารสุดโปรดของน้อง น้องเกรงว่า พี่จะสับสนว่า
มันจะเป็นของโปรดของ น้องไขศรี (น้องสาว) หรือของน้องหญิงกันแน่ เ พร าะน้องเลิกทาน
เครื่องในมาเกือบ 7 ปีแล้ว
พูดถึง กางเกงนอนผ้าไหมตัวใหม่ของพี่สมชาย น้องไม่อยากมองมัน
เ พร าะป้ายราคา 1490 บาท มันยังติดอยู่ที่กางเกงอยู่เลย
และน้องได้แต่ภาวนาว่า มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ ไขศรี (น้องสาว)
มายืมเงิน 1500 บาทจากน้องในเช้าวันเดียวกัน
และแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง น้องก็ยังคิดว่า เราน่าจะคุยกันเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
จนไม่กี่วันถัดมา น้องถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ชุดใหญ่ยกแผง น้องจึงลาออกจากงาน
และไปซื้อแพคเกจ เที่ยวรอบโลก 2 ที่กะจะชวนพี่สมชายไปเที่ยวด้วยกัน
ก่อนกลับมาเสวยสุขต่อหลังจบการเดินทางท่องเที่ยว
แต่เมื่อน้องกลับมาถึงบ้านและพบกับจดหมายของพี่ น้องจึงเข้าใจว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเ พร าะชะตากำหนดให้เป็นไป น้องได้แต่หวังว่า พี่จะพบกับชีวิตอย่างที่พี่อยากมีดังหวัง
อ้อ ทนายของน้องบอกน้องว่า จดหมายฉบับที่พี่สมชายเขียน สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องหย่า
และใช้เป็นเอกสารยืนยัน การไม่ต้องแบ่งสมบัติที่มีหลังแต่งได้
ดังนั้น ขอให้พี่โชคดีค่ะ

จาก น้องหญิง อดีตภรรยาของพี่สมชาย ซึ่งขณะนี้รวย โ....ค.. ต...ร... และ หลุดพ้นนรกซะที

ป..ล. น้องไม่รู้ว่าเคย บอกพี่สมชายหรือเปล่าว่า น้องของ น้องหญิง 'ไขศรี'
มีชื่อเดิมว่า 'ไอ้ไข่' แต่น้องหวังว่า มันคงไม่เป็นปัญหากับพี่สมชายมั้งคะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 125.24.193.17 อาทิตย์, 2/8/2552 เวลา : 12:23  IP : 125.24.193.17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83464

คำตอบที่ 45
      

fiogf49gjkf0d
เคยเจอไหม ที่ต้องรับโทรศัพท์ด้วยความมึนงงกับหมายเลขในการโทรเข้าหรือเวลาเห็นสายไม่ได้รับปรากฏเป็นคำแปลกๆไม่ว่าจะเป็น No number, Private number, 000, ไม่มีเบอร์, ไม่ปรากฏอะไรเลย หรือแม้กระทั่งเป็นเบอร์ที่โทรกลับไปแล้ว พบว่ายังไม่เปิดให้บริการ มาไขข้อคาใจกันดีกว่า ว่าจริงๆแล้วคำพวกนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่!

การทำงาน

การทำงานเริ่มจากการส่งสัญญาณจากเครื่องโทรศัพท์ไปยังชุมสาย จากนั้นก็จะติดต่อไปที่ชุมสายของผู้รับแล้วติดต่อเข้ามาที่เครื่องรับพร้อมกับการขอเชื่อมต่อและ ข้อมูลที่เรียกว่า Caller Id ซึ่งนั่นก็คือ รหัสประเทศ + รหัสเมือง + หมายเลขโทรศัพท์
สำหรับรหัสประเทศของไทยคือ 66 ซึ่งเราจะพบอยู่บ่อยๆในการรับข้อความจากเบอร์ที่ไม่ได้อยู่ในสมุดโทรศัพท์ที่จะขึ้นเป็น +66xxxxxxx ส่วนตัวที่สามถัดมาคือรหัสเมือง โดยที่จะตัด 0 ตัวหน้าออก เช่น โทรศัพท์ในกรุงเทพและปริมณฑลก็จะเป็น +662xxxxxxx ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือ 01 ก็จะเป็น +661xxxxxxx เป็นต้น
ส่วนการที่ไม่ขึ้นเบอร์นั้นก็เป็นเพราะว่าการติดต่อกันระหว่างชุมสายไม่ได้ส่ง Caller Id มาด้วย จะส่งมาเพียงแค่การขอเชื่อมต่อจึงทำให้ไม่ปรากฏเบอร์โชว์เข้า หากเราไม่ต้องการให้มีการแสดงหมายเลขของเราในเวลาที่โทรไปยังเบอร์ต่างๆ เราก็สามารถขอซ่อน caller Id ได้โดยต้องไปทำเรื่องขอกับศูนย์บริการของระบบที่เราใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์พื้นฐานหรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อขอ set caller id ซึ่งต้องทำที่ตู้สาขาโทรศัพท์หรือ PABX (Private Automatic (or Automated) Branch eXchange) เพื่อขอตั้งค่า อาจจะตั้งป็นเบอร์ 000 หรือไม่ตั้งอะไรเลยก็ได้ ถ้าไม่ตั้งก็จะปรากฏเป็น No number หรือ Private number เวลาโทรเข้านั่นเอง

เป็นเบอร์อะไรได้บ้าง?

คำแปลกๆพวกนี้เป็นได้หลายอย่างทีเดียว อย่างแรกก็คือ โทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ ทุกอย่างทั้งการโทรเข้าจากโทรศัพท์พื้นฐานต่างประเทศ, โทรศัพท์มือถือที่จดทะเบียนต่างประเทศ, โทรศัพท์มือถือของไทยที่มีการโอนไปใช้ยังต่างประเทศ (Roaming), โทรศัพท์สาธารณะต่างประเทศ, การโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, โทรศัพท์จากบัตรโทรศัพท์ของต่างประเทศและบัตรโทรศัพท์ Thai card ที่นำไปใช้ต่างประเทศ, Pin Phone, การโทรออกจากต่างประเทศโดยการกดรหัสโทรศัพท์แบบประหยัด (Idd), โทรศัพท์สาธารณะในประเทศ และ พีซีที

No number, Private number, ไม่มีเบอร์

การที่แสดง No number, Private number และไม่มีเบอร์นั้น ส่วนใหญ่ตอนที่มีสายเรียกเข้ามาจะขึ้นเพียงการแสดงผลการทำงานของโทรศัพท์เช่น สายเข้า... หรือ calling.... แต่เมื่อกดเข้าไปในข้อมูลการใช้จะปรากฏคำพวกนี้ จะพบในกรณีสายจาก PCT ที่ต่อกับโทรศัพท์พื้นฐานบ้าน, โทรศัพท์จากต่างประเทศแบบต่อตรงทุกแบบทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์มือถือในต่างประเทศและผู้ที่ตั้งค่าให้ไม่โชว์เบอร์ดังที่กล่าวมาแล้ว

000

ลักษณะนี้จะเป็นพวกที่ตั้งค่าไว้ให้เป็น 000 และโทรศัพท์ PCT Buddy (โทรศัพท์ PCT ที่เป็นแบบเติมเงินไม่ได้ต่อกับโทรศัพท์บ้าน)

เบอร์ทั่วไป

บางครั้งจะมีการโชว์เบอร์เป็นเบอร์ทั้ง 02xxxxxxx, 09xxxxxxx หรือเบอร์ต่างๆที่โทรกลับไปไม่ติดหรือเข้าฝากข้อความ ในลักษณะนี้แบ่งได้เป็นหลายแบบแล้วแต่ระบบของชุมสาย โอเปอเรเตอร์และตามที่แต่ละประเทศจะกำหนด

กรณีแรก บางครั้งPCT ก็มีการโชว์เบอร์โทรเข้าซึ่งจะเป็นเบอร์ 02xxxxxxx ซึ่งโทรกลับไปจะไม่ตรงกับเบอร์ที่โทรเข้ามาจริงๆ แต่จะเป็น 02 + รหัสเครื่อง PCT 7 ตัวแรก(ปกติรหัสเครื่องของ PCT จะมี 8 หลักซึ่งเอาไว้ใช้ในการโทรโดยตรงจากเครื่องโทรศัพท์ของ TA ด้วยกันด้วยการกด 1680 แล้วตามด้วยเบอร์เครื่อง) ซึ่งอาจไปตรงกับโทรศัพท์พื้นฐานที่มีอยู่แล้วหรืออาจเป็นเบอร์ที่ยังไม่เปิดบริการก็ได้ ในกรณีนี้มีการส่ง caller ID ไปเป็นรหัสเครื่อง 8 หลัก เวลาที่โทรเข้าก็เพิ่ม 02 เข้ามาแล้วตัดหมายเลขเครื่องตัวสุดท้ายออกไป

กรณีที่สอง คือการใช้การ์ดและการโทรผ่านอินเตอร์เน็ต สำหรับการโทรแบบนี้ไม่ได้เป็นการโทรโดยตรงแต่จะเป็นการโทรเข้ามาแล้วถูกแปลงโดยเลขหมายในประเทศอีกครั้งหนึ่ง จึงอาจเป็นเบอร์ได้หลายประเภททั้งโทรศัพท์พิ้นฐานกรุงเทพและต่างจังหวัดรวมถึงโทรศัพท์มือถือด้วย แม้ว่าจะโทรจากโทรศัพท์เครื่องเดิมแต่ที่เบอร์เข้าของผู้รับก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆเพราะว่า Caller ID จะขึ้นอยู่กับทางบริษัทของบัตรนั้นๆ เวลาโทรเข้ามาในประเทศจะมีการติดต่อเข้าสู่ระบบของบัตรแล้วแปลงเป็นเบอร์ไทยโดยสุ่มคู่สาย (Random) สำหรับการโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ได้มีทุกประเทศ ขึ้นอยู่กับกฎหมายอินเตอร์เน็ตของแต่ละที่ ว่าจะครอบคลุมหรือไม่ อย่างประเทศไทยก็มีการจำกัดการโทรออกต่างประเทศและผูกขาดกับองค์การโทรศัพท์และบางบริษัทที่ได้รับสัมปทาน

กรณีต่อไป คือการโทรออกจากต่างประเทศโดยการกดรหัสโทรศัพท์แบบประหยัด (Idd) แบบนี้จะมีในบางประเทศเช่น ฮ่องกง ซึ่งมีการแข่งขันในการให้บริการของแต่ละบริษัทสูง รูปแบบการให้บริการก็คือจะเป็นการสมัครบริการตามบริษัทเครือข่ายต่างๆเอามาใช้กับหมายเลขใดหมายเลขหนึ่งโดยที่จะต้องกดหมายเลขการให้บริการตามด้วยรหัสประเทศรหัสเมืองและหมายเลขโทรศัพท์ในการโทรออก ในการสมัครแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทเดียวกับเครือข่าย (operator) ที่เราใช้อยู่ก็ได้ Caller ID ของระบบจะเป็นเบอร์ตายตัวทำให้เวลาโทรเข้าก็จะปรากฏเป็นเบอร์เดิมตลอด

อีกกรณีหนึ่ง ที่จะพบเจอในชีวิตประจำวันได้บ่อยที่สุดก็คือการโทรเข้าจากโทรศัพท์สาธารณะ ซึ่งจะเป็นเบอร์ตามท้องที่ต่างๆ ในกรณีนี้เราอาจสังเกตได้จากตัวเลขของหมายเลขโทรศัพท์ทั้ง 9 หลัก อย่างรหัสจังหวัด 2 ตัวแรกสำหรับกรุงเทพและปริมณฑล 3 ตัวแรกสำหรับต่างจังหวัด และก็จะยังสามารถสังเกตได้อีกว่าเป็นเขตใดหรือท้องที่ใดโดยการดู 3 ตัวหน้าของหมายเลขโทรศัพท์ อย่างเช่น 02216xxxx เป็นพื้นที่เขตปทุมวัน 02243xxxx เป็นพื้นที่เขตดุสิต

ในการโทรศัพท์เข้าตรงจากต่างประเทศในบางเครือข่ายที่มีการร่วมมือกันของเครือข่าย เวลาโทรเข้าก็จะขึ้นเป็นเบอร์ตรงกับเบอร์ของผู้โทรเลย
อย่างไรก็ตามเงื่อนไขดังที่กล่าวมานี้ก็เป็นเพียงเงื่อนไขหลวมๆ ที่ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราสามารถสันนิษฐานคร่าวๆได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นใครได้บ้าง ถึงแม้ว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนก็ตามที แต่เพียงเท่านี้เราก็สามารถเป็นนักสืบขั้นต้นได้อย่างง่ายๆแล้ว




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern 9) 202.142.200.250 อังคาร, 4/8/2552 เวลา : 11:31  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83514

คำตอบที่ 46
      

fiogf49gjkf0d
นิทานเรื่อง....เเม่มด
ถ้าเป็นคุณ จะเลือกแบบไหน ดีมาก ๆ ...อ่านให้จบนะ
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว.....

อาเธอร์ถูกจับและจะประหารชีวิต
แต่กษัตริย์เสนอให้เขาเป็นอิสระ ถ้าหากเขาสามารถตอบ
ปัญหาแสนยากข้อหนึ่ง ได้ถูกต้อง

อาเธอร์มีเวลาหาคำตอบ 1 ปีเต็ม ถ้าเขาตอบไม่ได้
เขาก็จะถูกประหาร

"คำถามนั้นคือ .... สิ่งที่ผู้หญิงต้องการจริงๆ คืออะไร ?"

ปัญหาดังกล่าวช่างยากเย็นจนแม้นักปราชญ์ที่ฉลาดก็ยังงุนงง
เขากลับไปยังอาณาจักรของเขาและ เริ่มหาคำตอบจากทุกผู้คน
แต่ไม่มีใครให้คำตอบที่น่าพอใจได้


คนส่วนมากจะแนะนำให้เขาไปปรึกษาเรื่องนี้กับยายแม่มดแก่
ซึ่งน่าจะเป็นผู้เดียวที่จะรู้คำตอบ แต่ราคาค่าปรึกษาคงจะแสนแพง

แล้ววันสิ้นปีก็มาถึง อาเธอร์ไม่มีทางเลือกอื่น

แม่มดตกลงจะให้คำตอบแต่อาเธอร์ต้องยอมรับเงื่อนไขแลกเปลี่ยนก่อน
นังแม่มดต้องการแต่งงานกับกาเวน อัศวินผู้ทรงเกียรติสูงสุดของ
เหล่าอัศวินโต๊ะกลม และเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของอาเธอร์

อาเธอร์หนุ่มถึงกับสยองขวัญ
เพราะยายแก่หลังโกงเหม็นก็เหม็น มีฟันเหลือซี่เดียว ตัวก็เหม็นเหมือนถังส้วม
ชอบทำเสียงประหลาดน่ารังเกียจ เขาปฏิเสธที่จะให้เพื่อนรักแต่งงานกับหล่อน

ฝ่ายกาเวนพอได้รับรู้ถึงข้อเสนอนั้น เขายอมแต่งงาน
เพื่อชีวิตของอาเธอร์ และการดำรงอยู่ของอัศวินโต๊ะกลม

และยายแม่มดก็ให้คำตอบต่อคำถามของอาเธอร์

"สิ่งที่ผู้หญิงต้องการจริงๆ ก็คือการได้เป็นตัวของตัวเอง"

ทุกคนทราบได้ทันทีว่าแม่มดได้กล่าวอมตะวาจาอันยิ่งใหญ่
และอาเธอร์ก็รอดพ้นจากการประหารแน่นอน
และก็เป็นเช่นนั้นจริง


แต่ทว่า........งานแต่งงานของกาเวนกับนังแม่มดช่างเหลือรับจริงๆ
กาเวนสง่าผ่าเผยเช่นปกติทั้งสุภาพอ่อนน้อม
ส่วนฝ่ายนังแม่มดเฒ่านั้นออกลายนิสัยเลวสุดเดช

ทั้งกินมูมมามด้วยสองมือ ทั้งเรอ ทั้งตด ทุกผู้คนต่างรู้สึกอึดอัด
และแล้วยามค่ำของวันส่งตัวก็มาถึง

กาเวนได้ปลอบตนเองพร้อมรับคืนสยองเขาก้าวเขาสู่ห้องนอนวิวาห์
ช่างไม่เชื่อสายตาตนเอง!!!!
หญิงสาวแสนสวยที่สุดที่เคยพบพาน นอนรออยู่เบื้องหน้า
กาเวนงุนงง ? สาวแสนสวยเฉลยว่า

เพราะกาเวนช่างแสนดีกับหล่อน (เมื่อยามเป็นแม่มด)
ดังนั้นครึ่งหนึ่งของวัน เธอจะอยู่ในสภาพพิกลพิการน่ารังเกียจ
ส่วนอีกครึ่งหนี่งของวัน เธอจะอยู่ในร่างแสนสวยนี้

กลางวันเขาอยากให้เธอเป็นแบบไหน กลางคืนอยากให้เป็นแบบไหน?

เป็นคำถามที่ช่างโหดร้าย!!!

กาเวนเริ่มคิดไตร่ตรอง
หญิงสาวสวยยามกลางวันเพื่ออวดต่อเพื่อนฝูง
แต่กลางคืนเมื่ออยู่สองต่อสอง เป็นยายแม่มด?

หรือว่าเขาควรจะเลือกยายแม่มดตอนกลางวัน
แล้วได้สาวสวยเพื่อเริงระบำยามค่ำคืนดี??

เป็นคุณหล่ะ
คุณจะเลือกอย่างไร
(กรุณาหยุดคิดสักนิดเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ค่อย scroll ลงไปอ่านนะ )











เอาละ..


เมื่อได้คำตอบของคุณแล้ว
อ่านคำตอบของกาเวนที่อยู่ข้างล่างนี้
กาเวนตอบว่า

"เขาขอมอบให้เธอเป็นผู้ติดสินใจเลือกเอง"


เมื่อเธอได้ยินดังนั้น เธอจึงประกาศก้องว่าเธอจะสวยตลอดเวลา
เพราะเขาได้ให้ความเคารพและให้เธอเป็นตัวของตัวเอง



นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า...

1. ผู้หญิงไม่ว่าจะสวยหรือจะน่าเกลียด ลึกๆ ข้างในเธอก็คือ แม่มด
2. ผู้หญิงจะกลายร่างเป็นแม่มด หรือเป็นสาวแสนสวยเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับ ความประพฤติของผู้ชาย!!!



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู(Modern9) 202.142.200.250 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 12:33  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83748

คำตอบที่ 47
      

fiogf49gjkf0d
.......เมื่อมนุษย์มีความสามารถส่งยานอาวกาศไปดาวอังคารได้ จึงได้ส่งมนุษย์อาวกาศชายหนึ่งคนและหญิงอีกหนึ่งคน เมื่อยานอาวกาศได้จอดลงบนดาวอังคารเรียบร้อยแล้ว ปรากฎว่ามีมนุษย์ดาวอังคารมาให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ......

.......เมื่อได้ถามจุดประสงค์ของมนุษย์โลกแล้ว ได้ความว่ามิได้มาร้ายแต่อย่างใด มนุษย์ดาวอังคารจึงเชิญไปยังที่พัก และจัดเลี้ยงเป็นอย่างดี การพูดคุยเป็นไปอย่างสนุกสนานถูกคอ ตอนหนึ่งมนุษย์ดาวอังคารได้สอบถามด้วยความสงสัยว่า ....

""มนุษย์โลกอย่างท่านนี่ดำรงค์เผ่าพันธุ์กันอย่างไรหรือท่าน ข้าฯสงสัยมานานแล้ววานท่านช่วยไขข้อสงสัยข้าฯด้วยเถิด""

มนุษย์เลยย้อนถามว่า ""แล้วท่านล่ะดำรงค์เผ่าพันธุ์ของท่านอย่างไรล่ะ""

มนุษย์ดาวอังคารได้ฟังก็เลยพามนุษย์โลกไปยังห้องแลปของตัวเองและจัดแจง หยิบสิ่งของในหลอดทดลองมาผสมกัน ...ครู่หนึ่งจึงได้ทารกออกมาเหมือนกับมนุษย์ดาวอังคารเป๊ะ

มนุษย์ดาวอังคารจึงกล่าวว่า ""ทีนี้ถึงตาท่านบ้างละนะ""

....มนุษย์โลกผู้ชายก็หันไปมองด้านผู้หญิงนัยย์ว่ารู้กันจากนั้นก็ลงมือผลิตทารกตามกระบวนการมนุษย์โลก เมื่อเสร็จธุระ มนุษย์ดาวอังคารก็ถามด้วยความสงสัยว่า

""อ้าวแล้วไหนล่ะทารกที่เป็นมนุษย์น่ะ""

มนุษย์โลกจึงตอบว่า ""โน้นต้องรอไปอีก9เดือนจึงจะได้"" .
.
.
มนุษย์ดาวอังคาร ""แหม นึกว่าได้เลย เห็นตอนท้ายเร่งจัง""



.........................................................................................



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Champ79 จาก Champ 079 203.113.1.130 อังคาร, 1/9/2552 เวลา : 16:22  IP : 203.113.1.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83816

คำตอบที่ 48
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อน้องๆเป็นหวัดหายใจทางปาก......





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Champ79 จาก Champ 079 203.113.1.130 พุธ, 2/9/2552 เวลา : 15:26  IP : 203.113.1.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83827

คำตอบที่ 49
      

fiogf49gjkf0d
+++++ต้องส่งน้องๆมาหาหมอโดยด่วนแล้วครับอาการนี้ต้องฉีดยาคนละ 2 เข็ม พร้อมกับนวดประคบแก้พกช้ำตามตัวด้วยนะครับ .....รีบๆนะเดี๋ยวจะเป็นหนัก +++++



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kran Champ130 จาก Kran130 118.172.190.60 พุธ, 2/9/2552 เวลา : 23:52  IP : 118.172.190.60   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83835

คำตอบที่ 50
      

fiogf49gjkf0d
วันอาทิตย์

ช่วงนี้ดวงอาทิตย์ยังคงร้อนอยู่ ดังนั้นไม่ควรเดินกลางแดดนานๆ
เพราะจะทำให้เหงื่อออก ไม่ควรดูโทรทัศน์ใกล้ๆ เพราะจะแสบตา
และไม่ควรขากเสลดบนทางเท้า โชคไม่ดีอาจถูกปรับ 2,000 บาท
ถ้าท้องผูกควรดื่มน้ำมากๆ เวลาปวดขี้ให้รีบเข้าห้องส้วมให้เรียบร้อย
ห้ามสวมเสื้อผ้าเวลาอาบน้ำ ไม่ควรดื่มลิโพเกินวันละ 2 ขวด
โปรดสังเกตคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง
เด็กเกิดวันนี้
ถ้าเป็นคนจะไม่มีหาง จะมีหน้ามีตาตั้งแต่ยังเล็ก
นอกจากนี้จะยังมีหู จมูกและคางอีกด้วย
ขณะเป็นทารกหรือทาริกาจะตัวเล็ก
ในช่วงนี้ถ้าเด็กขี้แตกให้รีบเปลี่ยนผ้าอ้อมทันที
และเด็กจะตัวใหญ่ขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
เมื่อเติบใหญ่เด็กจะกลายเป็นผู้ใหญ่ได้เอง
ถ้าทิ้งไว้ต่อไปจะกลายเป็นผู้เฒ่า
ถ้าไม่มีลูกหลานจะมีบุญได้ไปอยู่บ้านพักคนชรา

วันจันทร์

คุณเป็นคนที่โชคดีมากเพราะคุณเกิดในวันที่มี 24 ช.ม.
ระยะนี้ดวงจันทร์เคลื่อนที่ตัดหน้าดาวโจรที่รังสิต
ถ้าไม่ระวังของมีค่าอาจหายได้
ถ้าเดินไม่ระวังอาจหกล้มเจ็บตัวเป็นที่อับอายเสื่อมเสีย
ถ้าเจอหมาบ้าไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาดเพราะอาจถูกกัดได้
เมื่อหิวก็ควรหาอะไรกินเป็นการแก้เคล็ด
เด็กเกิดวันนี้
ถ้าเป็นผู้ชายจะไม่เป็นผู้หญิง
โตขึ้นมาอีกหน่อยจะสามารถใส่เสื้อผ้าเองได้
เมื่อเติบใหญ่ต้องได้ไปทำบัตรประชาชนเป็นแน่แท้

วันอังคาร

ก่อนอื่นหมอดูขอทำนายว่าปีที่คุณเกิดมี 12 เดือน
และเดือนที่คุณเกิดถ้าลงท้ายด้วย ยน จะมี 30 วัน
แต่ถ้าหากลงท้ายด้วย คม จะมี 31 วัน
วันนี้หากใช้เงินมากเกินตัวอาจจะต้องไปสร้างหนี้ยืมสินเขาได้
ไปตลาดถ้าต่อราคามากๆ อาจถูกแม่ค้าด่า
ดาวประจำตัวยังโคจรรอบคลองเตย
ให้รีบไปทำงานแต่เช้า ถ้าไปสายจะถูกเจ้านายเขม่น
ถ้าปวดหัวก็ให้นอนพักผ่อน อย่ากินแอสไพรินตอนท้องว่าง
และอย่ากินกาแฟก่อนนอนเพราะจะทำให้นอนไม่หลับ
เด็กเกิดวันนี้
ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายควรรีบทำสูติบัตร
เมื่อถึงวัยเรียนก็ควรพาไปเข้าเรียน
ถ้าเลี้ยงไม่ดีจะกลายเป็นโจร ถ้าเลี้ยงดีอาจได้เรียนมหาวิทยาลัย
ในช่วงอายุ 5-7 ขวบ ควรพาเด็กไปเที่ยวเขาดิน

วันพุธ

วันนี้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์
ตื่นขึ้นมาควรล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำฟอกสบู่ให้เรียบร้อย
ถ้าฝนตกไม่ควรออกไปเล่นน้ำฝนเป็นอันขาดเพราะจะเป็นหวัดได้
ขึ้นรถเมล์ระวังกระเป๋ารถเมล์จะเข้ามาเก็บตังค์
เดินทางไกลจะเจอแต่คนแปลกหน้า
ในวันนี้ถ้าเจอพระตอนบ่ายห้ามใส่บาตรเด็ดขาด
เจอเพื่อนจงทักทายดีๆ แต่ถ้าเจอเจ้าหนี้ควรหลบลี้หนีไกลๆ
เด็กเกิดวันนี้
ถ้าเป็นชายโตขึ้นอาจจะเป็นตุ๊ดได้ เมื่อเติบใหญ่ควรพาไปเกณฑ์ทหาร
และไม่ควรทำ สด.43 ปลอมเพราะจะถูกจับ
ถ้าเป็นหญิงเมื่ออายุ 20 จะบรรลุนิติภาวะได้เอง
ในช่วงอายุนี้บิดามารดาไม่ควรอนุญาตให้ลูกสาวบวชเป็นอันขาด

วันพฤหัสบดี

วันนี้ถ้าเหยียบขี้หมาให้รีบเอารองเท้าขูดกับขอบฟุตบาทโดยเร็วมิฉะนั้นจะเหม็น
ขึ้นรถเมล์ควรเกาะราวให้แน่นและไม่ควรตดบนรถเมล์เป็นอันขาด
ถ้าอากาศร้อนไม่ควรใส่เสื้อหนาวเพราะคนอื่นจะหาว่าบ้า
เมื่อเห็นพัดลมกำลังหมุนอย่าเอามือเข้าไปแหย่มิฉะนั้นเลือดจะออกได้
เด็กเกิดวันนี้
เมื่อเกิดใหม่ๆ ฟันจะยังไม่ขึ้น ควรรอไปเรื่อยๆ ฟันจะขึ้นเอง
ไม่ควรเลี้ยงทารกด้วยนมข้นหวาน จะทำให้ขาดสารอาหาร
ให้เลี้ยงด้วยนมแม่ไปก่อนจนกว่าจะมีอายุครบ 2 ขวบ
เมื่อโตขึ้นผู้ปกครองควรสอนให้เด็กล้างก้นเองมิฉะนั้นจะเป็นภาระในอนาคต

วันศุกร์

ควรนำกระปุกไปใส่กระเป๋า
วันนี้ห้ามทิ้งแฟนเป็นอันขาดเพราะแฟนอาจจะเสียใจได้
และห้ามกินของมันๆ ระวังจะอ้วน ควรเปลี่ยนแปรงสีฟัน 3 เดือนต่อ 1 อัน
และไม่ควรลงเล่นน้ำคลองในกรุงเทพฯ เป็นอันขาด
วันนี้ดาวพระศุกร์โคจรมาพบกับดาวพระเสาร์
ดังนั้นถ้าวันนี้เป็นวันศุกร์ขอทำนายว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันเสาร์
และวันต่อไปจะเป็นวันอาทิตย์
เด็กเกิดวันนี้
เป็นผู้มีบุญญา วาสนาส่ง
เมื่อแบเบาะจะยังพูดไม่ได้ ควรสอนไปเรื่อยๆ
เด็กจะพูดได้เอง ยกเว้นถ้าเด็กเป็นใบ้
ในระยะ 6-8 ขวบ ควรสอนให้เด็กเข้าบ้านทางประตู
ไม่ควรสอนให้เด็กเข้าบ้านทางหน้าต่างเด็ดขาด

วันเสาร์

ควรเอากระเป๋าไปใส่กระปุก
เพราะมันจะทำให้กระเป๋าตุงได้
วันนี้ถ้าเดินผ่านกองขยะควรเอามือปิดจมูกและรีบเดินผ่านไปโดยเร็ว
หลังกินข้าวถ้ามีเศษอาหารติดฟันไม่ควรเอาตะเกียบแคะฟันเป็นอันขาด
ควรใช้ไม้จิ้มฟันดีที่สุด ถ้าเล็บยาวควรตัดให้สั้น
แต่ถ้าถนนสั้นควรตัดให้ยาว
คืนนี้ไม่ควรนอนดึกเพราะพรุ่งนี้จะตื่นสาย
เวลาอาบน้ำควรถูสบู่ให้เกลี้ยงเวลา ไปวัดควรสวมเสื้อผ้าไปด้วย
และไม่ควรแคะขี้มูกต่อหน้าพระสงฆ์
ถ้าคันจมูกควรจามให้เรียบร้อยก่อนเข้าวัด
แต่ถ้าไปสวนสัตว์ห้ามยื่นมือเข้ากรงเสือเป็นอันขาด
ถ้าขับรถไม่เป็นก็ไม่ควรขับ จะเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน
ให้แก้เคล็ดโดยนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่ดีกว่า
เด็กเกิดวันนี้
เมื่อยังเล็กถ้าหิวจะร้องไห้ ควรป้อนนมเสีย
เด็กก็จะหยุดร้องไปเอง และเมื่อป้อนนมเสร็จแล้วเด็กอิ่ม
ไม่ควรเข้าไปเล่นกับเด็กทันทีเด็กจะอ้วกใส่หน้าได้
ควรทำให้เด็กเรอเสียก่อน โดยการจับพาดไหล่
เมื่อโตขึ้นมาหน่อยควรเลี้ยงด้วย อะแล็คต้าเอ็นเอฟ หนองโพ
สเปย์รอยัลตามลำดับ
และเกิดมาวันแรกยังดูซีดีน้องแน๊ทไม่รู้เรื่อง
ควรสอนไปเรื่อยๆ ไม่ควรเปิดแผ่นซ้ำๆเพราะอาจทำให้เด็กเบื่อได้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Champ79 จาก Champ 079 203.113.1.130 พฤหัสบดี, 3/9/2552 เวลา : 13:23  IP : 203.113.1.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83839

คำตอบที่ 51
      

fiogf49gjkf0d
ดูดวงวันเกิดแม่นๆครับ...ข้างบน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Champ79 จาก Champ 079 203.113.1.130 พฤหัสบดี, 3/9/2552 เวลา : 13:24  IP : 203.113.1.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83840

คำตอบที่ 52
      

fiogf49gjkf0d

ความเป็นจริง ของโลกใบนี้

โลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
คุณว่าจริงไหม . . .?

อย่าไปให้ความสำคัญกับใครบางคน เมื่อคุณเป็นแค่ทางเลือกของเขา.
สัมพันธภาพจะดีที่สุดเมื่อทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกันอย่างสมดุล

ไม่ต้องสาธยายเกี่ยวกับตัวคุณให้ใครฟังหรอก
เพราะคนที่ชอบคุณ ยังไงเขาก็ชอบ และไม่ต้องการฟังมัน
แต่คนที่เกลียดคุณ ยังไงเขาก็ไม่เชื่อคุณหรอก

เมื่อคุณพูดแต่ว่าคุณยุ่ง คุณก็จะไม่ว่างเลย
เมื่อคุณพูดแต่ว่าคุณไม่มีเวลา คุณก็จะไม่มีเวลาเลย
เมื่อคุณพูดแต่ว่าคุณจะทำในวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้จะไม่มีวันมาถึงเลย

เมื่อเราตื่นขึ้นมาในยามเช้า เรามีทางเลือกง่ายๆ 2 อย่าง
กลับไปนอนและฝันหวานต่อ หรือ ลุกขึ้นมาแล้วทำความฝันให้เป็นจริง
มันก็แล้วแต่คุณจะเลือกแล้วล่ะ

เรามักทำให้คนที่ใส่ใจเราต้องร้องไห้
เรามักร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เคยใส่ใจเรา
และเรามักใส่ใจกับคนที่ไม่มีวันร้องไห้ให้เรา
นี่คือความจริงของชีวิต เป็นเรื่องแปลกแต่จริง
ถ้าเห็นคุณเห็นด้วย มันก็ยังไม่สายเกินแก้

เมื่อคุณกำลังสนุกสนาน ก็อย่ารับปากพล่อยๆ
เมื่อคุณกำลังเศร้า ก็อย่าได้ตอบกลับ
เมื่อคุณกำลังโกรธ ก็อย่าไปตัดสินใจอะไร

คิดให้ถี่ถ้วน ทำอย่างสุขุม


เวลาก็เหมือนสายน้ำ
คุณไม่มีทางสัมผัสน้ำเดียวกันได้สองครั้งหรอก
เพราะมันได้ไหลผ่านไปแล้ว
มีความสุขกับทุกช่วงชีวิตของเราดีกว่า...

เมื่อได้รับแล้ว แสดงว่าคุณคือ...ของฉันตลอดไป






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 58.9.172.55 พฤหัสบดี, 17/9/2552 เวลา : 11:23  IP : 58.9.172.55   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83974

คำตอบที่ 53
      

fiogf49gjkf0d


อ่านให้จบน่ะค่ะจุดเด่นอยู่ที่ข้อ 19 ค่ะ



กฏแห่งกรรม
1. เหตุใดคุณมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย
เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายจีวรแด่พระสงฆ์

2. เหตุใดชาตินี้คุณมีอาหารดีดีรับประทานอยู่เสมอ
เพราะชาติก่อนคุณเคยทำทานอาหารแก่คนยากจนในชาติก่อน

3. เหตุใดชาตินี้คุณอดอยากยากจน ไม่มีเสื้อผ้าดีดีสวมใส่
เพราะคุณตระหนี่ขี้เหนียวไม่ยอมทำทานคนจน ในชาติก่อน

4. เหตุใดชาตินี้คุณมีบ้านเรือนให ญ ญ่โต
เพราะคุณเคยถวายข้าวสารเข้าวัดในชาติก่อน

5. เหตุใดชาตินี้คุณมีความเจริ ญ รุ่งเรืองและมีความสุขมาก
เพราะคุณเคยถวายเงินสร้างวัดในชาติก่อน

6. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนสวย และรูปงาม
เพราะคุณเคยถวายดอกไม้สดบูชาพระด้วยความเคารพในชาติก่อน

7. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมีปั ญญ ญญาดี
เพราะคุณเคยเป็นพุทธมามกะและทานมังสวิรัติในชาติก่อน

8. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นที่รักของทุกๆ คนและมีเพื่อนมากมาย
เพราะคุณเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคนในชาติก่อน

9. เหตุใดชาตินี้คุณมีพ่อ แม่อยู่พร้อมหน้า
เพราะคุณเคารพและให้ความช่วยเหลือ ไม่ดูแคลนคนไร้ญ าติในชาติก่อน

10. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นเด็กกำพร้า
เพราะคุณเคยยิงนก ตกปลา และพรากสัตว์ในชาติก่อน

11. เหตุใดชาตินี้คุณมีอายุยืนแข็งแรง
เพราะคุณเคยปล่อยนก ปล่อยปลา สิ่งมีชีวิตในชาติก่อน

12. เหตุใดชาตินี้คุณอายุสั้น
เพราะชาติก่อนคุณเคยฆ่าสัตว์มากมาย

13. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนรับใช้
เพราะชาติก่อนคุณเคยดูถูกเหยียดหยามคนจน

14. เหตุใดชาตินี้คุณมีดวงตาสดใส
เพราะชาติก่อนคุณเคยเติมน้ำมันตะเกียงและจุดไฟบูชาพระ

15. เหตุใดชาตินี้คุณโง่ปั ญญ ญญาอ่อนและหูหนวก
เพราะชาติก่อนคุณเคยด่าว่าและหยาบคายต่อหน้าพ่อแม่

16. เหตุใดชาตินี้คุณต้องตายเพราะยาพิษ
เพราะชาติก่อนคุณเจตนาวางยาในต้นน้ำลำธารให้เป็นพิษ

17. เหตุใดชาตินี้คุณจึงแขวนคอตาย
เพราะชาติก่อนคุณใช้ตะข่ายล่าและดักสัตว์

18. ถ้าชาตินี้คุณฆ่าเขา
ชาติหน้าเขาก็จะฆ่าคุณ และจะฆ่ากันไป-มาไม่มีสิ้นสุด

19. ถ้าชาตินี้คุณบอกเล่ากฏแห่งกรรม
คุณจะ??ป็นที่เคารพนับถือมากมายในชาติหน้า






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 58.9.173.86 เสาร์, 19/9/2552 เวลา : 10:32  IP : 58.9.173.86   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83981

คำตอบที่ 54
      

fiogf49gjkf0d
สาธุ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ126 จาก OLE'126 111.84.117.14 อาทิตย์, 20/9/2552 เวลา : 21:19  IP : 111.84.117.14   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 83984

คำตอบที่ 55
      

fiogf49gjkf0d

ปริศนาเลขบัตรประชาชน 13 หลัก

อยากรู้มั้ย ว่าแต่ละตำแหน่งหมายถึงอะไร ค้นหาคำตอบได้ที่นี่

โดยความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเรียนหรือทำอะไร ตัวเลขก็ล้วนมีเอี่ยว หรือมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนเราเสมอ และในทางกลับกัน ตัวเลขบางตัวอาจจะทำให้เรามีความสุขขึ้นด้วยซ้ำ เช่น ตัวเลขเพิ่มขึ้นของเงินเดือนหรือโบนัส ตัวเลขในบัญชีรายรับ ตัวเลขมูลค่าเพิ่มของหุ้นที่เราซื้อ ฯลฯ ยกเว้น ตัวเลขดอกเบี้ยเงินกู้ ที่งามโดยไม่ต้องรดน้ำ หรือตัวเลขยอดหนี้ที่ยังไม่จ่าย ส่วนตัวเลขที่น่ารังเกียจอีกตัว คือ ตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้นของสาวๆ ที่ยังไม่แต่งงาน เป็นต้น

นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมี “ตัวเลข” ที่เกี่ยวพันกับความเชื่อต่างๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศอีกหลายตัว เช่น คนไทยถือว่า เลข 9 เป็นเลขมงคล เพราะออกเสียงว่า “เก้า” ที่พ้องกับคำว่า “ก้าว” อันหมายถึง ความเจริญก้าวหน้า ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบัน เราจึงเห็นคนไทยจำนวนไม่น้อย ไปทัวร์ไหว้พระ 9 วัดเพื่อความเป็นสิริมงคล จนได้กลายมาเป็นการ “ทำบุญ” อีกรูปแบบที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย

สำหรับฝรั่ง เขาจะถือว่า เลข 13 เป็นเลขอาถรรพ์ หรือเลขอัปมงคล หรือเรียกกันว่า ลัคกี้นัมเบอร์ (Lucky number) สาเหตุมาจากอาหารมื้อสุดท้าย ของพระเยซูคริสต์ ที่เรียกกันว่า เดอะลาสซับเปอร์ (The Last Supper) นั้น มีสาวกร่วมโต๊ะพร้อมกับพระองค์ นับรวมแล้วได้ 13 คนพอดี ครั้นวันรุ่งขึ้นซึ่งตรงกับวันศุกร์ พระองค์ก็ถูกจับตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์ เขาจึงถือว่าวันศุกร์ที่ตรงกับวันที่ 13 เป็นวันโชคร้าย

แม้ว่าเลข 13 จะเป็นเลขอาถรรพ์ของฝรั่ง แต่คนไทยโดยทั่วไป ไม่ได้ถือกับตัวเลขดังกล่าว และที่น่าสนใจคือ มี เลข 13 ที่เกี่ยวพันโดยตรงกับคนไทย ซึ่งเชื่อว่า คงมีคนอีกไม่น้อยไม่เคยทราบมาก่อน นั่นคือ เลขประจำตัวประชาชนในบัตรประชาชน หรือที่เดี๋ยวนี้เรียก สมาร์ทการ์ด ที่มีด้วยกัน 13 หลัก และแต่ละหลักก็มิใช่แค่เป็นเพียงจำนวนนับธรรมดาๆ แต่มีความหมายแฝงอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ขอนำมาเสนอเพื่อเป็นความรู้ ดังนี้

สมมุติว่า เลขบัตรประชาชนของเราเขียนไว้ว่า 1 1001 01245 29 9 (เขียนเว้นวรรค ตามแบบ) แต่ละหลักก็จะมีความหมายดังนี้

หลักที่ 1 (คือหมายเลข 1 ในตัวอย่าง) จะหมายถึง ประเภทบุคคล ซึ่งมีอยู่ 8 ประเภทได้แก่

ประเภทที่ 1 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย และได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา หมายความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2527 เป็นต้นไป อันเป็นวันเริ่มแรกที่เขาประกาศให้ประชาชนทุกคน ต้องมีเลขประจำตัว 13 หลัก เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองไปแจ้งเกิดที่อำเภอ หรือสำนักทะเบียนในเขตที่อยู่ภายใน 15 วันนับแต่เกิดมา ตามที่กฎหมายกำหนด เด็กคนนั้นก็ถือเป็นบุคคลประเภท 1 และจะมีเลขประจำตัวขึ้นด้วยเลข 1 เช่น เด็กหญิงส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2527 และพ่อไปแจ้งเกิดที่เขตดุสิตภายในวันที่ 17 มกราคม 2527 เด็กหญิงส้มจี๊ด ก็จะมีหมายเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 1 และก็ต่อด้วยเลขหลักอื่นๆ อีก 12 ตัว เป็น 1 1001 01245 29 9 เป็นต้น ซึ่งเลขนี้จะปรากฏในทะเบียนบ้าน และจะเป็นเลขประจำตัว เมื่อส้มจี๊ดไปทำบัตรประชาชนตอนอายุ 15 ปี

ประเภทที่ 2 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา หมายความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2527 เป็นต้นไป แล้วบังเอิญว่าพ่อแม่ผู้ปกครองลืมหรือติดธุระ ทำให้ไม่สามารถไปแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตภายใน 15 วันตามกฎหมายกำหนด เมื่อไปแจ้งภายหลัง เด็กคนนั้นก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 2 และจะมีเลขตัวแรกในทะเบียนบ้านขึ้นด้วยเลข 2 ทันที เช่น ในกรณีส้มจี๊ด หากพ่อไปแจ้งเกิดให้ ในวันที่ 18 มกราคม 2527 หรือเกินกว่านั้น ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวเป็น 2 1001 01245 29 9 ในทะเบียนบ้าน และเมื่อไปทำบัตรประชาชนในภายหน้า

ประเภทที่ 3 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในสมัยเริ่มแรก (คือตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม 2527) หมายความว่า บุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ณ ที่ใดที่หนึ่งในประเทศไทย มาตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 คนนั้นถือว่าเป็นบุคคลประเภท 3 และก็จะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 3 เช่น ส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2501 และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวในทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนเป็น 3 1001 01245 29 9

ประเภทที่ 4 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าวแต่แจ้งย้ายเข้า โดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ในสมัยเริ่มแรก หมายความว่า คนไทยหรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าว ที่อาจจะเป็นบุคคลประเภท 3 คือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดิมอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เลขประจำตัว ก็ขอย้ายบ้านไปเขตหรืออำเภออื่น ก่อนช่วงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 ก็จะเป็นบุคคลประเภท 4 ทันที เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในสำนักทะเบียนเขตคลองสาน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2527 ส้มจี๊ดก็ขอย้ายบ้านไปเขตดุสิต โดยที่ส้มจี๊ดยังไม่ทันได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสาน พอแจ้งย้ายเข้าเขตดุสิต ส้มจี๊ดก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 4 มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วย 4 กลายเป็น 4 1001 01245 29 9 ทันที แต่ถ้าส้มจี๊ดย้ายจากเขตคลองสานเดิม ไปเขตดุสิต หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 ส้มจี๊ดก็ยังเป็นบุคคลประเภท 3 อยู่ เพราะถือว่าจะได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสานแล้ว จะย้ายอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง

การกำหนดให้บุคคลเริ่มมีเลขประจำตัว 13 หลักในทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2527 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 อันเป็นวันสุดท้าย ของการดำเนินการให้ประชาชน ที่ไม่มีเลขประจำตัวในบัตรหรือทะเบียนบ้าน ได้มีเลขประจำตัวจนครบแล้วนั้น ก็เพราะก่อนหน้านี้ ประเทศไทยยังไม่เคยมีการกำหนดเลขประจำตัวดังกล่าวมาก่อนเลย ดังนั้น ช่วงที่ว่าจึงเป็นระยะเวลาจัดระบบให้เข้าที่เข้าทาง เพราะหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 แล้ว ทุกคนจะต้องมีเลขประจำตัวเพื่อสำแดงตนว่า เป็นบุคคลประเภทใด โดยดูตามเงื่อนไขในแต่ละกรณี ซึ่งมีอีก 4 ประเภท คือ

ประเภทที่ 5 คือ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อ เข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจ หรือกรณีอื่นๆ เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตดุสิตอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าตอนที่มีการสำรวจรายชื่อผู้อยู่ในบ้าน เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้ชื่อของส้มจี๊ดหายไปจากทะเบียนบ้าน เมื่อไปแจ้งเจ้าหน้าที่และตรวจสอบแล้วว่าตกสำรวจจริง หรือจะเป็นเพราะกรณีอื่นใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็จะเพิ่มชื่อให้ แต่ส้มจี๊ดก็จะมีหมายเลขในทะเบียนบ้านเป็นบุคคลประเภท 5 และบัตรประชาชนจะขึ้นต้นด้วยเลข 5 ทันที คือ กลายเป็น 5 1001 01245 29 9

ประเภทที่ 6 คือ ผู้ที่เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ในลักษณะชั่วคราว กล่าวคือ คนที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้สัญชาติไทย เพราะทางการยังไม่รับรองทางกฎหมาย เช่น ชนกลุ่มน้อยตามชายแดน หรือชาวเขา กลุ่มนี้ถือว่าเป็นผู้เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนบุคคลที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ชั่วคราว เช่น นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย แม้บางคนจะถือพาสปอร์ตประเทศของตน แต่อาจจะมีสามีหรือภริยาคนไทย จึงไปขอทำทะเบียนประวัติ เพื่อให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านสามีหรือภริยา คนทั้งสองแบบที่ว่า ถือว่าเป็นบุคคลประเภท 6 เลขประจำตัวในบัตรจะขึ้นต้นด้วยเลข 6 เช่น 6 1012 23458 12

ประเภทที่ 7 คือ บุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ซึ่งเกิดในประเทศไทย คนกลุ่มนี้ในทะเบียนประวัติจะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 7 เช่น 7 1012 2345 133

ประเภทที่ 8 คือ คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมาย คือ ผู้ที่ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือคนที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนที่ได้รับการให้สัญชาติไทย ตั้งแต่หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 เป็นต้นไปจนปัจจุบัน คนกลุ่มนี้เลขในทะเบียนประวัติจะขึ้นด้วยเลข 8 เช่น 8 1018 01234 24 7

คนทั้ง 8 ประเภทนี้ จะมีเพียงประเภทที่ 3, 4 และ 5 เท่านั้น ที่จะมีบัตรประชาชนได้เลย ส่วนประเภทที่ 1 และ 2 จะมีบัตรประชาชนได้ ก็ต่อเมื่อมีอายุถึงเกณฑ์ทำบัตรประจำตัวประชาชน คืออายุ 15 ปี แต่สำหรับบุคคลประเภทที่ 6, 7 และ 8 จะมีเพียงทะเบียนประวัติเล่มสีเหลืองเท่านั้น จะไม่มีการออกบัตรประชาชนให้

ต่อไปคือ หลักที่ 2 ถึงหลักที่ 5 (เลข 1001 ในตัวอย่างหรือสี่ตัวถัดไปจากตัวแรก) จะหมายถึง รหัสของสำนักทะเบียน หรืออำเภอที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนขณะที่ให้เลข ซึ่งก็หมายถึงถิ่นที่อยู่ของเรานั่นเอง กล่าวคือ เลขหลักที่ 2 และ 3 จะหมายถึงจังหวัดที่อยู่ ส่วนหลักที่ 4 และ 5 หมายถึงเขตหรืออำเภอในจังหวัดนั้นๆ เช่น ถ้าเขียนว่า 1001 ก็หมายถึงว่า คุณอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ในเขตดุสิต เพราะ 10๐ ในหลักที่ 2 และ 3 หมายถึงกรุงเทพมหานคร ส่วนเลข 01 ในหลักที่ 4 และ 5 คือรหัสของสำนักทะเบียนเขตดุสิต หรือถ้าเขียนว่า 1101 ก็จะหมายถึง อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง เพราะ 11 แรกคือ รหัสจังหวัดสมุทรปราการ และ 01 หลัง คือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นต้น

สำหรับ หลักที่ 6 ถึงหลักที่ 10 (เลข 01245 ในตัวอย่าง) จะหมายถึง กลุ่มที่ของบุคคลแต่ละประเภท ตามหลักแรก (หลักที่ 1) ซึ่งทางสำนักทะเบียนในแต่ละแห่ง ก็จะจัดกลุ่มเรียงไปตามลำดับ หรือหากเป็นเด็กเกิดใหม่ในปัจจุบัน เลขดังกล่าวก็จะหมายถึง เล่มที่ของสูติบัตร (ใบแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตออกให้) ซึ่งก็คือเลขประจำตัวในทะเบียนบ้านของเด็กที่แต่ละอำเภอหรือเขตออกให้ และจะไปปรากฎในบัตรประชาชน เมื่อถึงอายุต้องทำบัตรนั่นเอง แต่ถ้ายังไม่ถึงเกณฑ์เลขนี้ ก็จะปรากฏอยู่แค่ในทะเบียนบ้านของเด็กเท่านั้น

หลักที่ 11 และ 12 (หมายเลข 29 ในตัวอย่างสมมุติ) จะหมายถึง ลำดับที่ของบุคคลในแต่ละกลุ่มประเภท เป็นการจัดลำดับว่าเราเป็นคนที่เท่าไรในกลุ่มของบุคคลประเภทนั้นๆ

หลักที่ 13 (เลข 9 ตัวสุดท้ายในตัวอย่าง) จะหมายถึง ตัวเลขสำหรับตรวจสอบความถูกต้องของเลขทั้ง 12 หลักแรกอีกที

สำหรับเลขตั้งแต่หลักที่ 6 ถึง 13 นี้เป็นการจัดหมวดหมู่ และเรียงลำดับบุคคลในแต่ละประเภทของสำนักทะเบียนในแต่ละท้องที่ ซึ่งเราก็คงไม่ต้องรู้รายละเอียดอะไรลึกไปกว่านี้ เพราะรู้แล้วอาจจะงงเปล่าๆ

เป็นเรื่องน่าแปลกว่า ตัวเลข 13 หลักที่เป็นหมายเลขในบัตรประชาชน หรือเลขประจำตัวประชาชนของเราแต่ละคนนี้ จะไม่มีการซ้ำกันเลย ผิดกับชื่อหรือนามสกุล ยังมีซ้ำกันได้ และจะเป็นเลขประจำตัวเราจนตาย ไม่มีการเปลี่ยน หรือยกให้คนอื่น และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า ในอนาคตจะต้องมีการเติมเลข อย่างเลข 8 เข้าไปอีก เพราะเลขไม่พอใช้เหมือนโทรศัพท์มือถือหรือไม่ เขาก็บอกว่าคงอีกนาน อาจจะถึง 100 ปีโน่น เพราะการที่เขาแยกแยะบุคคลเป็นประเภทต่างๆ และยังแยกย่อยเป็นจังหวัดอำเภอ แล้วลงรายละเอียดไปเป็นกลุ่มๆในแต่ละประเภทอีกนั้น ทำให้เพดานหรือช่วงตัวเลขมีความห่างมาก จนสามารถรองรับจำนวนคนได้อีกมาก และหากใครสงสัย หรือมีปัญหาในเรื่องทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส บัตรประชาชน ก็สามารถสอบถามไปได้ที่ สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร. 1548

ตัวเลข 13 หลักที่กล่าวข้างต้น เป็นเลขประจำตัวประชาชนของแต่ละคนนี้ แม้จะมิใช่ตัวเลขที่เราต้องใช้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน ยกเว้นใช้ในการกรอกเอกสารบางอย่าง เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร ฯลฯ แต่เลขนี้ก็มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นการสำแดงตัวตน “ความเป็นคนไทยหรือคนในประเทศไทย” ที่ทำให้เราสามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทย และใช้สิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 58.9.172.117 พฤหัสบดี, 24/9/2552 เวลา : 10:24  IP : 58.9.172.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 84003

คำตอบที่ 56
      

fiogf49gjkf0d

กัมพูชา ให้ญี่ปุ่นเจาะน้ำมันพื้นที่ทับซ้อน

สื่อกัมพูชาประโคมข่าวรัฐบาลให้สัมปทานบริษัทเอกชนของญี่ปุ่น ขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา

สื่อมวลของกัมพูชาหลายฉบับ อาทิ "รัศมีอังกอร์" หนังสือพิมพ์ยอดนิยมของกัมพูชาและสื่ออินเทอร์เน็ต นำเสนอข่าวว่า หน่วยงานด้านสิทธิการขุดเจาะน้ำมันและแก๊สธรรมชาติได้มอบสิทธิการขุดเจาะน้ำมันให้กับบริษัทเอกชนของประเทศญี่ปุ่น
โดยนายอาง ซุดเริด ผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้นำนายโยชิ ยูกิกาวา ประธานบริษัท เอ็มโอ อีซีโอ จำกัด เข้าพบสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ใน อ.ตาขะเมา จ.กันดาร เพื่อเปิดโอกาสให้นายโยชิ แสดงความขอบคุณที่ได้มอบสิทธิการขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่บล็อค 4 ให้ในฐานะที่เป็นผู้ชนะการประมูล โดยมีการจัดส่งเอกสารต่าง ๆ ในการทำสัญญากับเจ้าหน้าที่ด้านสิทธิการขุดเจาะน้ำมันของกัมพูชาด้วย

ขณะเดียวกันในสื่อทางอินเทอร์เน็ตของกัมพูชา ยังระบุด้วยว่า สำหรับพื้นที่บล็อค 4 เป็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา บริเวณเกาะกูด จังหวัดตราดของไทยกับจังหวัดเกาะกงของประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพิกัดอยู่ติดกับพื้นที่บล็อค 3 ที่ทางรัฐบาลกัมพูชาเคยมอบสิทธิการขุดเจาะน้ำมันให้บริษัทโตตันของประเทศฝรั่งเศส แต่ถูกทางรัฐบาลไทยประท้วง จนทำให้บริษัทของฝรั่งเศสไม่สามารถดำเนินการขุดเจาะได้ แต่ล่าสุดรัฐบาลกัมพูชาได้มอบสัมปทานให้กับบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น รายงานข่าวยังคาดการว่า ในพื้นที่ดังกล่าวจะสามารถขุดเจาะน้ำมันและแก๊สได้จำนวนมาก







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 58.9.172.117 พฤหัสบดี, 24/9/2552 เวลา : 10:27  IP : 58.9.172.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 84004

คำตอบที่ 57
      

fiogf49gjkf0d
ภัยแท็กซี่ติดกระจกส่อง...

สาวๆ ระวังไว้ด้วย จากเรื่องที่คุณผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งมักอาศัยรถแท็กซี่ เป็นพาหนะในการสัญจร เขาบอกว่าเจอมา 2 ครั้งแล้วคือระหว่างที่นั่งแท็กซี่ สายตาเหลือบไปเห็นกระจกเล็กและด้วยมุมการปรับกระจกทำให้เขาสงสัยว่า

มันติดไว้ทำไม น่าจะมีจุดประสงค์ไม่ดี จึงลองเอามือถือวางแถวเป้ากางเกง แล้วถ่ายรูปมุมดังกล่าวก็ได้รูปอย่างที่เห็น ดังนั้น คุณผู้หญิงทั้งหลายพึงระวังไว้หน่อยก็ดี

เนื่องจากอย่างน้อยก็แสดงว่า คนขับมันมีเจตนาไม่ดี เกิดมันดูนานๆ แล้วคุมตัวเองไม่ได้จะทำยังไง แล้วถ้าคนขับจะต้องละสายตามาดูบ่อยๆ ระหว่างขับรถ อาจเกิดอุบัติเหตุได้







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 58.9.172.117 พฤหัสบดี, 24/9/2552 เวลา : 10:34  IP : 58.9.172.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 84005

คำตอบที่ 58
      

fiogf49gjkf0d
บุหรี่ : ใบยาสูบที่มีกระดาษพันอยู่โดยมีไฟติดอยู่อีกข้างหนึ่งและมีคนโง่อยู่อีกข้างหนึ่ง
หย่า : Future tense ของคำว่า " แต่งงาน"
เลกเชอร์ : ศิลปะในการถ่ายทอดข้อมูลจากกระดาษโน้ตของอาจารย์ไปยังกระดาษโน้ตของนักศึกษาโดยที่ไม่ผ่านหัวสมองของทั้ง 2 ฝ่าย
ประชุม : ความงุนงงของคนคนหนึ่งที่มีมากขึ้นเมื่อเหตุการณ์จบลง
ยินยอม : ศิลปะในการแบ่งเค้กให้ทุกๆคนโดยทำให้แต่ล่ะคนคิดว่าตนเองได้เค้กชิ้นใหญ่สุด
น้ำตา :พลังน้ำที่ผู้หญิงสามารถสยบความแข็งแกร่งของพลังงานแห่งความเป็นชายได้
พจนานุกรม : ที่เดียวที่คำว่า Success มาก่อนคำว่า Work
ห้องประชุม : สถานที่ซึ่งทุกๆ คนจะส่งเสียงโดยไม่มีใครฟังและไม่มีใครยอมรับอะไร
เจ้านาย : ใครบางคนที่ชอบมาทำงานเช้าในวันที่คุณเข้างานสายและก็มาซะสายในวันที่คุณมาเช้า
อาชญากร : ก็เหมือนคนเราๆ ท่านๆ นี่แหละ เพียงแต่ถูกจับได้
นักการทูต : คนที่บอกให้คุณไปลงนรกได้ด้วยวิธีพูดที่ทำให้คุณอยากไปแทบจะรอไม่ไหว
หมอ : คนที่ช่วยชีวิตคุณด้วยยาและฆ่าคุณทีหลังด้วยบิลค่ารักษา
ทนายความ : คนที่ยื่นมือเข้าช่วยคนทำผิดกฎหมาย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นักโฆษณา : คนที่รู้จักเลือกพูดแต่ความจริงเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการเฉพาะครึ่งที่ดี
นักร้องวัยรุ่น : เด็กหนุ่มสาวที่มีหน้าตาเป็นอาวุธ และเครื่องแต่งเสียงกับ sound engineer เป็นเพื่อนตาย
หมอดูลายมือ : คนแปลกหน้าที่สามารถจับมือแฟนคุณได้ต่อหน้าต่อตาโดยไม่โดน...
ข่าวลือ : สิ่งที่มีประสิทธิภาพไวกว่าแสง
ประสบการณ์ : ชื่อที่มนุษย์ตั้งให้กับความผิดพลาดที่ทำในอดีต
หาว : จังหวะเดียวในชีวิตที่ผู้ชายที่แต่งงานแล้วบางคน มีโอกาสได้อ้าปาก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก Red Machine 067 58.9.169.20 พุธ, 7/10/2552 เวลา : 13:32  IP : 58.9.169.20   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 84212

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,26 เมษายน 2567 (Online 6093 คน)