WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ขยายความเรือนสามน้ำสีสุภาษิตสอนหญิงของเจ้าป้า
baron
จาก von Richthofen
IP:125.24.26.38

พุธที่ , 24/9/2551
เวลา : 13:53

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       จากกระทู้แม่บ้านของพวกเราได้มีการขอให้ขยายความเรื่องเรือนสามน้ำสี่ที่เป็นสุภาษิตสอนหญิงมาแต่โบราณ ผมก็ไปค้นหนังสือเก่าๆมาอ่านฟื้นความจำสมัยยังเรียนวิชาศิลธรรมพอได้เรื่องมาบ้างเลยเอามาขยายความเล่าสู่กันฟังเพื่อไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา

สุภาษิตสอนหญิง
เรือนสามน้ำสี่มีคนบอก ไม่ต้องลอกท่องจำนำไปใช้
โบราณสอนพรประเสริฐเลิศจากใจ หากสาวไหนทำได้ครบพบสุขจริง....







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  

คำตอบที่ 1
       เรื่องเรื่อนสามน้ำสี่ นี่ผมต้องนึกถึงคำสอนของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ คำสอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีแต่ผู้ดีแปดสาแหรกเหมือนสมัยก่อนนี้แล้วถึงจะทำได้

คำว่า ผู้ดีแปดสาแหรก นี่ตอนนี้กลายเป็นคำด่าไปแล้วทั้งที่สมัยก่อนเป็นคำรับรองว่าผู้หญิงคนไหนเป็นผู้ดีแปดสาสาแหรกมีค่าร้อยชั่ง คือสินสอดต้องมีถึงแปดพันบาทซึ่สมัยก่อนเงินแปดพันบาทนี่กินได้สุขสบายตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ อย่าสมัยเมื่อรัชกาลที่ 5 ทองคำบาทละไม่ถึงสิบบาทบาท ดังนั้นค่าตัวของสาวน้อยร้อยชั่งก็ต้องควรเป็นแปดล้านบาทเป็นอย่างต่ำ


คำว่าแปดสาแหรกหมายถึงสืบเชื้อสายไปฝั่งพ่อและแม่ได้ถึงสี่ชั่วคนว่าเป็นผู้ดีแท้ๆแบบนี้หมายถึงผู้หญิงคนนั้นต้องได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 13:56  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32394

คำตอบที่ 2
       เรือนสามหมายถึง

เรื่อนแรกหมายถึงบ้าน เรือนนอนต้องสะอาดไม่ใช่ตื่นนอนและสะบัดก้นออกจากห้องนอนโดยไม่พับจัดเก็บให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง หลายๆคนสมัยนี้พอตื่นก็ออกจากห้องนอนโดยทิ้งห้องนอนไว้เละเทะแล้วกลับมานอนต่อโดยไม่รังเกียจเลย ตั้งแต่เกิดจำความได้ผมเป็นผู้ชายแท้ๆยังไม่เคยตื่นนอนโดยไม่ทำเตียงนอนให้เรียบร้อยเลย สมัยก่อนผมนอนมุ้งต้องพับเก็บและจัดผ้าปูที่นอนให้เรียบตึงเสมอก่อนลงจากเตียงไปทำธุระส่วนตัว


เรือนไฟ หมายถึงครัวต้องสะอาดไม่ทิ้งของเรี่ยราดให้อุจจาดตา ต้องรักษาความสะอาดไว้เสมอ สมัยนี้บางบ้านล้างจานต่อเมื่อจานหมด เรื่องความสะอาดเรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึงแมลงสาบ มด หนู วิ่งกันให้เกลื่อน ถ้าครัวสะอาดได้เท่านี้แล้วส้วมจะขนาดไหน ผมเป็นคนชอบเข้าครัวเมื่อมีเวลาดังนั้นครัวของผมต้องสะอาดมีดต้องคมและจานทุกใบต้องล้างเช็ดวางคลุมผ้าตลอดเวลา


เรื่อนอยู่ต้องสะอาดไม่ใช่เดินไปตรงไหนก็เดินเป็นเส้นตรงไม่ได้เพราะข้าวของวางเกลื่อนไปหมด บ้านผู้ดีต้องโล่งสะอาดมองเห็นพื้นบ้านผืนใหญ่ๆแล้วสบายตา

สมัยผมเป็นเด็กไปบ้านคุณปู่จะไม่เห็นฝุ่นเลยสักที่แม้กระทั่งสวิทซ์ไฟฟ้ายังเช็ดถูจนไม่มีฝุ่น พื้นกระดานเป็นมันอยู่เสมอ ขนาดผมถูบ้านเองตั้งแต่เด็กๆทุกวันหลังเลิกเรียนยังสะอาดสู้บ้านคุณปู่ผมยังไม่ได้เลยทั้งที่คุณย่าก็ไม่มีคนใช้เลยสักคน

ผมเกิดทันที่ยังเห็นคุณปู่แต่งตัวไปทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรุ่นอาจารย์ป๋วย อึ้งภากร และทันเห็นวิธีดูแลบ้านของคุณย่าสมัยที่ท่านยังมีแรงทำเองหลังจากที่คุณปู่ออกจากบ้านไปทำงาน พอคุณปู่เดินกลับบ้านตอนเย็นทุกอย่างในบ้านก็พร้อมเรียบร้อยแบบไม่มีที่ติ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 14:08  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32396

คำตอบที่ 3
       เรื่อนสองหมายถึงเรือนผม ผู้ญิงที่ดีต้องรู้จัดรักษาเรื่อนผมให้สะอาดและจัดให้เรียบร้อย สมัยก่อนมีการถอนไรผมจับเขม่ากันวุ่นวายไปหมด การดูแลผมให้สะอาดเสมอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงเพราะผู้หญิงทำงานบ้านทำครัวพอถึงตอนเย็นผมจะเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อและกลิ่นครัว ดังนั้นการรักษาความสะอาดของเรือนผมสำคัญมากสำหรับผู้หญิงที่ดี


ผมเคยเดินผ่านผู้หญิงบางคนแทบสำลักกลิ่นสาบของผมเธอก็บ่อยๆ บางครั้งผมขึ้นรถไฟฟ้าเห็นที่ว่างก็เข้าไปยืนแล้วก็ต้องรีบเดินออก ถึงได้รู้ว่าตรงนั้นว่างไม่มีคนยืนเพราะกลิ่นผมของหล่อนเหมือนคนไม่ได้สระผมมาหลายวันคล้ายกลิ่นปลาสลิดแห้งอย่างไรอย่างนั้นเลย


การสระผมทุกวันเป็นอุบายของคนโบราณอีกอย่างคือให้หนาวอย่างไรก็ต้องอาบน้ำเพราะถ้าสระผมแล้วไม่อาบน้ำมันเป็นไปไม่ได้ สมัยก่อนมีคำค่อนขอดผู้หญิงทางเหนือว่าหน้าหนาวไม่ค่อยอาบน้ำซึ่งเป็นธรรมชาติของคนที่อยู่ในพื้นที่หนาวปีละสามสี่เดือน ผู้หญิงในยุโรปเองสมัยก่อนก็อาบน้ำสัปดาห์ละครั้งเพราะการอาบน้ำในเมืองหนาวเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร


แต่บางอย่างเป็นข้อยกเว้นนะครับผู้หญิงฝรั่งเศสนี่ขี้เกียจอาบน้ำอันดับหนึ่งของยุโรปแต่กลิ่นตัวของแต่ละคนเวลาเดินผ่านเร้าใจสุดๆบางคนผมเดินผ่านแล้วต้องหันไปมองเลยก็มี ไม่เหมือนผู้หญิงเยอรมันบางคนกลิ่นตัวเน่านึกว่าแม้วที่ขายของตลาดไนท์บาซาเชียงใหม่เดินผ่าน ส่วนผู้หญิงอิตาเลี่ยนที่สาวๆกลิ่นจะดีตามประสาเมืองที่อุ่นขึ้นมาอีกนิดไม่มีหิมะ แต่ที่มีอายุจะอ้วนแล้วกลิ่นตุๆเหมือนเนยแข็งเกือบทุกคน จนมีคำพูดว่าเนยแข็งที่ดีต้องมีกลิ่นเหมือนผู้หญิงอิตาเลี่ยนไม่ได้อาบน้ำสามวัน ส่วนจะคิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นจากส่วนไหนก็จินตนาการเอาเอง

ผมยังจำกลอนอังกฤษโบราณแผลงๆเรื่องยายแก่เลี้ยงแมวที่ร้องกันตอนเมาเบียร์ในผับสโมสรนักศึกษาสมัยยังเรียนได้ดี ตอนจบจะตะเบ็งสุดเสียงว่า The old Pussy always smell that way แล้วยกเบียร์ดื่ม





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 14:18  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32397

คำตอบที่ 4
       เรือนที่สามคือเรื่อนร่าง ผู้หญิงที่ดีต้องรู้จักรักษาเรื่อนร่างให้ดูดี สะอาด และปล่อยตัวให้เละเทะเพราะคิดว่าออกเรือนแล้วไม่ต้องดูแลก็ได้ กลายเป็นหุ่นเมียหลวงสมบูรณ์แบบ ผู้หญิงส่วนมากจะปล่อยตัวไม่ออกกำลังกายเลยจนอ้วนเป็นเป็ดโป๋ยฉ่าย มีเพื่อนบางคนของผมไปไหนกับเมียนึกว่าพาแม่ไปด้วยไม่ใช่เรื่องตลกนะครับของจริงๆเลย คนวัยเกินสี่สิบก็ลองนึกภาพเมียจอมดุในการ์ตูนหนูจ๋าประกอบก็ได้ เป็นอย่างนั้นเลย


การที่รักษาเรือร่างเป็นสิ่งสำคัญเพราะว่าการที่ต้องพาภริยาออกงานหรือต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือนถึงบ้านไม่ใช่ให้แขกเห็นนุ่งชุดถุงแป้งมันอะไรก็ไม่รู้ การแต่งตัวให้สมแก่ฐานะแม้แต่จะอยู่บ้านก็ถือว่าเป็นสมบัติของผู้หญิงอย่างหนึ่ง


ผมโชคดีที่ได้เห็นทวดของผมถึงสองคน ท่านจะใส่ผ้าลายโจงกะเบนแต่งตัวอยู่บ้านเหมือนไปวัดอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่ยายของผมก็นุ่งผ้าลายตลอดชีวิตแม้จะอยู่กับบ้านก็ไม่เคยแต่งตัวมอมแมมให้ผมเห็นเลย

คุณย่าชอบนุ่งผ้าพื้นสีสดๆส่วนมากจะเป็น สีเขียว สีเหลือง สีปูนสด กับเสื้อขาวขอบลูกไม้ถังโครเชต์ แม้แต่ตอนก่อนเสียชีวิตก็ยังแต่งตัวแบบนี้ ผมเคยถามว่าทำไมไม่นุ่งผ้าลายเหมือทวดก็ได้คำตอบว่าย่านุ่งแบบนี้มาตั้งแต่เรียนที่คอนแวนต์ ก็ถึงบางอ้อว่าเด็กเซ็นโยเซฟคอนแวนต์เมื่อเกือบร้อยปีก่อนเขานุ่งห่มกันแบบนี้ไปเรียนหนังสือ ผมเคยถามคุณแม่ของรุจว่านิสิตหญิงจุฬาสมัยก่อนแต่งตัวกันอย่างไรก็ได้คำตอบคล้ายๆกันกับที่ผมเห็นคุณย่าแต่งตัวตอนอยู่บ้าน






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 14:29  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32398

คำตอบที่ 5
       น้ำสี่หมายถึง

น้ำที่หนึ่งคือน้ำใจ หญิงที่ดีต้องมีน้ำใจงาม ไม่เห็นแก่ตัวโอบอ้อมอารีแก่คนทั่วไป เป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นเจ้านายที่ดีในกรณีที่เป้นบ้านที่มีข้าทาสบริวาร มีน้ำใจงามที่จะไม่กักตัวสามีไม่ให้ไปที่ชอบที่ชอบ(อันนี้ผมเติมเอง)


น้ำใจนั้นสำคัญมากเพราะสมัยก่อนคนไทยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่มีทั้งบ้านสามรุ่นคนอยู่ที่เดียวกันการอยู่ในฐานะสะใภ้ต้องมีน้ำใจต้องญาติสามีไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้อ่อนวัยกว่า

เสียดายที่ผมเองไม่ได้อยู่ในครอบครัวใหญ่เพราะคนสามรุ่นคนที่ผมมีสมัยเด็กๆมีบ้านแยกกันในระยะที่เดินได้สิบห้านาทีไม่ถึงกับต้องขึ้นรถรางฟังเสียงกระดิ่งก๋องๆไปหากัน แต่ก็มีน้ำใจให้กันเสมอจะมีอาหารหวานคาวไปให้กันบ่อยๆ

สมัยผมเด็กจะเป็นคนวิ่งถือจานถือชามแกงไปบ้านทวดเสมอๆทำให้เห็นถึงน้ำใจของผู้หญิงแต่ละบ้านที่มีให้กัน แม้แต่ตอนนี้ผมก็แลกอาหารกับข้างบ้านบ่อยๆเพราะน้ำใจเล็กๆน้อยๆสำคัญในการครองเรือนแบบไทยๆ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 15:03  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32401

คำตอบที่ 6
       น้ำมีสองคือน้ำคำ การรักษาคำพูดให้ไพเราะอ่อนหวานเป็นคุณสมบัติของผู้หญิง ผมคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ชอบให้ภริยาตัวเองพูดจาไพเราะ อ่อนหวานแม้แต่จะเป็นเวลาที่สามีกลับบ้านหลังเที่ยงคืน(อันนี้ผมก็เติมเอาเองอีกเหมือนกัน)


การที่คนไทยอยู่กันครอบครัวใหญ่การพูดจาอ่อนหวานเป็นวิธีที่ทำให้บ้านไม่แตกเป็นเสี่ยงๆที่ดีอีกอย่างหนึ่ง
ผมเคยไปบ้านเพื่อนบางคนสมัยที่ยังหนุ่มสาวกันอยู่ก็คุยกันเหมือนเพื่อนคุยกัน พอมีลูกเท่านั้นก็เปลี่ยนไปกลายเป็นพูดจาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นผิดตา คงอาจจะไม่อยากให้ลูกเห็นพ่อแม่พูดแบบนั้นก็ได้

ผมต้องทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนระดับผู้ใช้แรงงานที่สามีภริยาพูดกูมึงและพูดคำด่าคำอยู่ตลอดชีวิต แต่มีกรรมกรบางครอบครัวที่เข้ามาทำงานยามหน้าแล้งที่ไม่ได้ทำนาเขาพูดจากันเหมือนคนที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี นั่งฟังสองสามีภริยาคุยกันแล้วเพลินมากเพราะต่างก็ให้เกียรติ์กันและกันในคำพูดตลอดเวลาแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงคนงานก่อสร้างใช้แรงงานแต่ก็มีสมบัติผู้ดีในการพูดคุยกับสามีภริยาทุกเวลา


การบ่นและนินทาถือว่าอยู่ในข่ายนี้ด้วยครับ ผู้ชายส่วนมากจะทนไม่ได้กับคำบ่นที่ไม่เลิกราเอาแค่พอรู้เรื่องก็พอแล้วบางคนบ่นไม่เลิกราเรื่องเดียวกันบ่นไม่หยุดสิบปีก็ไม่เลิกบ่นในเรื่องเดียวกัน และผู้ชายไม่ชอบฟังนินทาแบบผู้หญิง งานเหนื่อยกลับบ้านมาแล้วยังต้องฟังคำพูดไร้สาระเรื่องส่วนตัวของคนโน้นคนนี้จากปากของภริยามันเหมือนกินยาขมเลยครับ

สำหรับผมแล้วการพูดจาสำคัญมากผมไม่เคยพูดไม่ไพเราะกับผู้หญิงคนไหนแม้แต่ลูกของตัวเอง คนที่ไปเที่ยวกับผมจะรู้ดีว่าผมพูดอย่างไรกับครอบครัวและในทางกลับกันคนในครอบครัวพูดอย่างไรกับผม







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 15:14  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32403

คำตอบที่ 7
       น้ำที่สามคือน้ำมือ เป็นผู้หญิงที่ดีต้องรู้จักเข้าครัวทำอาหารเป็น สมัยก่อนที่คนไทยอยู่ครอบครัวใหญ่สะใภ้จะทำตัวเป็นคุณนายไม่เข้าครัวไม่ได้ ต้องช่วยเหลืองานครัวทุกอย่าง และต้องมีรสมือที่ดีเป็นที่ชมเชยของคนที่ได้ลองชิมรสมือ


สมัยก่อนถึงกับมีคำพูดว่าจะขอลูกสาวใครต้องฟังเสียงตำน้ำพริก ถ้าตำถี่ๆและดังไปสามบ้านแปดบ้านถือว่าเป็นแม่ครัวที่ดีแบบนี้ขอมาเป็นสะใภ้ได้


บางครั้งบ้านต้องรับแขกที่มาเยือนการที่มีอาหารรสดีไว้เลี้ยงแขกที่มาเยี่ยมเยือนถือว่าเป็นหน้าตาของบ้านนั้นเลยที่เดียว สมัยก่อนงานบุญต่างๆต้องมีวันสุกดิบก่อนงานบุญพวกผู้หญิงจากเรือนต่างๆจะมารวมตัวกันที่บ้านงานหรือวัดเพื่อทำอาหารเลี้ยงพระเลี้ยงแขก อาหารแต่ละอย่างจะทำกันสุดฝีมือของแต่ละบ้านที่รู้กันอยู่ว่าบ้านไหนทำอะไรอร่อย

ใครโดนเกณฑ์ภริยาไปล้างจานชามหลังครัวถือว่าเสียหน้าสามีอย่างมากเพราะคนล้างจานส่วนมากจะมีรสมือไม่เข้าปาก






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 15:18  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32404

คำตอบที่ 8
       น้ำที่สีคือน้ำเต้าปูน สมัยก่อนคนไทยยังกินหมากอยู่การที่ปล่อยให้น้ำหล่อเต้าปูนแห้งจนควักปูนมาทาพลูไม่ได้ถือว่าขายหน้าแขกที่มาเยี่ยมเยือนถึงบ้านอย่างมาก

สมัยก่อนการพูดถึงน้ำเต้าปูนเพื่อเป็นอุบายถึงการหาจัดเตรียมน้ำกินน้ำใช้ซึ่งสมัยก่อนต้องไปโพงจากบ่อน้ำแล้วนำมาใส่ตุ่มในเรือนเพื่อกินใช้ พอฝนตกทีหนึ่งพวกผู้หญิงก็ต้องตัวเปียกไปรองน้ำฝนไว้กิน

สมัยผมเด็กๆก็กินน้ำฝนมาตลอดเพราะกรุงเทพสมัยก่อนยังไม่มีควันพิษมากมายเหมือนสมัยนี้น้ำฝนถือว่าเป็นน้ำสะอาดและกินอร่อยที่สุด


สมัยนี้คงต้องดัดแปลงกันบ้างคือมีแขกมาถึงบ้านไม่มีอะไรเลี้ยงแขกเลยแม้แต่น้ำสักแก้ว บางบ้านตู้เย็นไม่มีน้ำเลยก็มีเพราะกินหมดแล้วไม่ได้เติมใหม่มาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก็มีบางครั้งแม้แต่น้ำปลาข้าวสารยังขาดบ้านเลยก็มีให้เห็น


การดูแลบ้านให้มีของกินของใช้และอาหารไว้ตลอดเวลาน่าจะเข้ากับข้อนี้ได้ดีของคุณสมบัติผู้หญิงที่ดีสมัยนี้เพราะไม่ต้องไปหาบน้ำขึ้นเรือนเหมือนสมัยก่อนนี้แล้ว







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 15:36  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32405

คำตอบที่ 9
      



เป็นไงบ้างครับเรือนสามน้ำสี่ที่ผมเล่าให้ฟัง

ทำได้คนละกี่ข้อครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.26.38 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 15:37  IP : 125.24.26.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32406

คำตอบที่ 10
      

ต้องไปตามเมียมานั่งท่องจำให้ขึ้นใจทุกข้อซะเเล้ว


ว่าเเต่นางเเบบหน้าตาคุ้น ๆ นะครับ ... พี่ Ruj คิดเหมือนผมป่ะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree 125.26.71.171 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 16:19  IP : 125.26.71.171   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32408

คำตอบที่ 11
       โห.........ช่างงามเสียยิ่งกระไร ขอรับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Rin จาก Rin 202.12.118.61 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 20:10  IP : 202.12.118.61   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32415

คำตอบที่ 12
       ชอบครับ โดยเฉพาะคำตอบที่ 4



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ร ท. 117.47.104.78 พุธ, 24/9/2551 เวลา : 20:38  IP : 117.47.104.78   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32417

คำตอบที่ 13
       อย่างนี้ต้องปริ้นไปให้แฟนอ่านสักสิบเที่ยว
จะได้รู้ว่าคำว่ากุนสตรี หรือกุลสตรี ต่างกันยังไง ... 5555



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

yakusa จาก Sak YaKuSa 222.123.247.162 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 00:35  IP : 222.123.247.162   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32422

คำตอบที่ 14
       สงสัยสูญพันธุ์หมดแล้ว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ติ๊ก 124.121.240.3 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 09:13  IP : 124.121.240.3   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32425

คำตอบที่ 15
       ดีมากครับ อ. วอน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

BADDOGBADDOG จาก BADDOG 58.10.84.146 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 09:17  IP : 58.10.84.146   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32426

คำตอบที่ 16
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

degsure จาก Degsure 125.27.74.118 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 09:35  IP : 125.27.74.118   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32428

คำตอบที่ 17
       ขอขอบพระคุณ อ.วอน ที่ให้ความรู้ในเรื่อง เรือน 3 น้ำ 4 คุณสมบัติในการเป็นแม่บ้านที่ดี เผื่อว่าน้องๆท่านใดที่ยังไม่มีครอบครัวอาจจะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
แต่สำหรับคุณพ่อบ้านพลังงานทางเลือกทั้งหลาย คิดได้ก็สายเสียแล้วนะเจ้าคะ สินค้าชิ้นนี้ซื้อหามาแล้วไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้นะเจ้าคะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ple&pae จาก จ้าวป้า 125.24.9.66 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 10:36  IP : 125.24.9.66   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32430

คำตอบที่ 18
      

ใครเป็นอย่างไรไม่ทราบ เเต่สำหรับผมเเล้ว ภรรยาเสมือน...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree 125.26.71.72 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 20:21  IP : 125.26.71.72   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32442

คำตอบที่ 19
       รักน้องตลอดไปจริงหรือเปล่าค้า......พี่กรูปรี





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.5.174 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 21:54  IP : 125.24.5.174   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32444

คำตอบที่ 20
       จริงครับ

อย่างงี้ผมจะไม่รักเมียผมได้อย่างไร เพราะเข้าเกณฑ์ทุกข้อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.192 พฤหัสบดี, 25/9/2551 เวลา : 22:03  IP : 202.91.19.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32448

คำตอบที่ 21
       อ้าว...ถ้างั้นอิชั้นจะผ่านเกณฑ์กะเขามั๊ยเนี้ย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ple&pae จาก จ้าวป้า 125.24.32.65 ศุกร์, 26/9/2551 เวลา : 09:59  IP : 125.24.32.65   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32459

คำตอบที่ 22
       ขอบพระคุณอาจารย์วอนที่เล่าเรื่องดีๆให้ฟัง

สุภาพสตรีสมัยนั้นสุดยอดจริงๆ ขอแสดงความยินดีกับคุณหนุ่มดัวยครับ

เอแล้วผู้ชายสมัยนั้นมีมาตรฐานใดใช้เป็นตัววัดมั่งครับอาจารย์

ขอ CHECK LIST ด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก nithi 203.113.0.206 ศุกร์, 26/9/2551 เวลา : 10:52  IP : 203.113.0.206   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32460

คำตอบที่ 23
       เรื่องที่ป๋านิธิถามมานั้นเป็นการถามแบบปราชญ์ครับ สั้นๆแต่ตอบแบบสั้นไม่ได้เลย

สังคมไทยสมัยก่อนนั้น การศึกษาของกุลสตรีจะจำกัดแต่เพียงในครัวเรือนหรือในราชสำนัก การศึกษาความรู้ทางโลกครั้งแรกของสตรีไทยเกิดขึ้นมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าที่ได้จ้างแหม่มแอนนาเข้ามาสอนพระราชธิดาของพระองค์เมื่อร้อยหกสิบปีก่อนเรื่องนี้ผมได้เขียนเรื่องการศึกษาของบ้างเราไปบ้างส่วนในกระทู้เก่าๆแล้ว



แต่การศึกษาของชายไทยทั้งหมดจะอยู่ที่วัดแม้แต่จะเกิดในวังก็ต้องไปศึกษาในวัดไม่มีข้อแม้ว่าจะเป็นเจ้าหรือไพร่


จะเห็นว่าอาจารย์ดีๆเช่น สังฆราชสุกไก่เถื่อนผู้เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จโต ก็เป็นพระอาจารย์ของพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์มาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จโตก็เป็นอาจารย์แก่ราชบุตรของรัชกาลที่4 แม้แต่รัชกาลที่5 ก็เรียนหนังสือกับสมเด็จโตก่อนจะเรียนทางโลกกับแหม่มแอนนา สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรสก็เป็นพระอาจารย์แก่เจ้านายพระองค์ต่างๆในยุคต่อมา ไม่ต่างกับสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ก็ทรงเป็นพระอาจารย์แก่พระบรมวงค์สานุวงค์ในวัยเยาว์ที่ ตอนนี้ยังพอมีพระบรมวงค์สานุวงค์ที่ทรงพระชมน์สูงพอที่ทันได้เรียนกับท่าน



สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นธรรมที่ได้รับการสั่งสอนสำรับชายไทยมาตั้งแต่โบราณทุกคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือไพร่ที่เข้าไปศึกษาในวัดคือ "ฆราวาสธรรมครับ"

ผมต้องยอมรับว่า ฆราวาสธรรม นั้นสั้นๆมีเพียงสี่ข้อ แต่พอระเบิดธรรมออกมาแล้วความลึกซึ้งบังเกิดทันที



สี่ข้อนี่แหละเรียนกันเป็นพรรษาครับ








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.44.177 เสาร์, 27/9/2551 เวลา : 01:48  IP : 125.24.44.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32462

คำตอบที่ 24
       ฆราวาสธรรม 4 หลักการครองชีวิตของคฤหัสถ์
หลักธรรมสำหรับการครองชีวิตของผู้ครองเรือนที่จะประสบ ความสุขสมบูรณ์ จะต้องประกอบด้วยธรรม 4 ประการ

ธรรมทั้ง 4 ประการนี้ จะสร้างความสัมพันธ์อันดีงาม อบอุ่นเป็นสุข ภายในครอบครัว และเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย เป็นหลักธรรมสำหรับผู้ครองเรือน ที่จำเป็นต้องมีอยู่ประจำ เพื่อเสริมให้มีความสุขยิ่งขึ้น


พระพุทธองค์ได้ตรัสกะยักษ์ ชื่ออาฬวกะ ปรากฎอยู่ในอาฬวกสูตร มี ๔ ประการ คือ

สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ

สั้นๆแค่นี้แหละครับเขียนหนังสือได้เล่มเบ่อเริ่ม พระอาจารย์สมัยก่อนสอนชายไทยทั้ง ไพร่ ผู้ดี ลูกพระยา มหากษัตริย์ได้เป็นพรรษา




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.44.177 เสาร์, 27/9/2551 เวลา : 02:07  IP : 125.24.44.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32463

คำตอบที่ 25
       ถ้าผมจะงัดเอาบาลีอาฬวกสูตรมาเล่าก็คงไม่มีคนอ่านนอกจากป๋านิธิและหนุ่มกระโทก

บังเอิญที่ผมมีต้นฉบับที่ยังคงเหลือเล่มหนึ่งที่ผมตั้งชื่อไว้ว่า

Gharavasa Dhamma
The virtues for lay people who's heading for a good housrhold life


ขอเวลาผมนั่งอ่านแล้วแปลกลับเป็นไทยก่อน เพราะเนื้อหาเบาๆแต่แทงใจ

บทความแบบนี้แหละที่สร้างพุทธมามะกะ ที่เป็นชาวต่างชาติได้พบกับความสงบสุขของพุทธศาสนามามากมายแล้ว

อีกสองวันแล้วค่อยมาคุยกันต่อครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.44.177 เสาร์, 27/9/2551 เวลา : 02:30  IP : 125.24.44.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32464

คำตอบที่ 26
       อ้อ คือฆราวาสธรรมนี่เอง

สัจจะคือ ความจริง มั่นอยู่ในสัจจะ ซื่อตรง ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดจริง ทำจริง
เป็นเหตุนำมาซึ่งความเชื่อถือ หรือไว้วางใจได้

ทมะ คือ ฝึกตน ปรับปรุงตน บังคับควบคุมตนเองได้ รู้จักปรับตัว และแก้ไขปรับปรุงตน
ให้เจริญก้าวหน้าอยู่เสมอ รวมทั้งการยอมรับและแก้ไขสิ่งบกพร่องของตนด้วย

ขันติ คือ อดทน อดทนต่อความหนาว ร้อน หิว กระหาย ทนตรากตรำ ทนต่อความเจ็บใจ
ทนข่มอารมณ์ของตนได้ ทนต่อความยั่วยวนต่าง ๆ อดทนต่ออำนาจฝ่ายต่ำ อดทนต่อการทำการงาน

จาคะ คือ เสียสละ เอื้อเฟื้อ เกื้อกูล ช่วยเหลือบำเพ็ญประโยชน์ สละความโกรธ ความเห็นแก่ตัว
มีใจกว้างร่วมงานกับคนอื่นได้ สละอารมณ์ขุ่นมัวภายในจิตใจได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.204 เสาร์, 27/9/2551 เวลา : 21:50  IP : 202.91.19.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32524

คำตอบที่ 27
       ฆราวาสธรรม คือธรรมสำหรับผู้ครองเรือน คฤหัสถ์ผู้ครองเรือน ก็จะต้องมีธรรมของผู้ครองเรือน และเป็นธรรมะสำหรับครอบครัวที่ทุกคนจะต้องมี


ธรรมสำหรับฆราวาสที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมไว้นั้น จุดประสงค์ก็เพื่อให้เป็นฆราวาสที่ดี ต้องการให้เป็นฆราวาสจนถึงขั้นที่เรียกว่า อริยฆราวาส เป็นฆราวาสที่เป็นอริยะ แล้วก็สามารถจะเป็นได้อยู่ได้ถึงอนาคามี
อริยะถึงขั้นอนาคามี หรือพระอริยบุคคลในระดับที่ 3 เกือบจะเป็นพระอรหันต์อยู่แล้ว สามารถจะอยู่ครองฆราวาสได้ตลอดชีวิต


มีตัวอย่างในสมัยพุทธกาลมากมาย ที่ท่านเหล่านั้นใช้ชีวิตแบบฆราวาส และก็สามารถจะบรรลุธรรมได้จนถึงพระอนาคามี ในสมัยพุทธกาลก็มี จิตตคหบดี เป็นพระอนาคามี ที่อยู่ครองเรือน


เนื่องจากต้นฉบับที่ผมใช้เป็นธรรมะที่ใช้สอนคนที่ไม่มีพื้นฐานทางพุทธศาสนาเลยซึ่งเป็นภาษาอังกฤษน่าจะเข้าใจได้ง่ายๆสำรับคนไทยที่มีพื้นของพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.45.49 จันทร์, 29/9/2551 เวลา : 07:23  IP : 125.25.45.49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32545

คำตอบที่ 28
       Gharavasa : Dhamma for virtues for lay people who's heading for a good household life
ฆราวาสธรรม ธรรมะสำหรับบุคคลทั่วไปที่มุ่งหาชีวิตที่ดีในการครองเรือน

1. Sacca: truth and honesty
สัจจะ ความจริง, ซื่อตรง ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดจริง ทำจริง

2. Dama: taming and training oneself; adjustment; self - deverlopment
ทมะ การฝึกฝน,การข่มใจ ฝึกนิสัย ปรับตัว, รู้จักควบคุมจิตใจ ฝึกหัดดัดนิสัย แก้ไขข้อบกพร่อง ปรับปรุงตนให้เจริญก้าวหน้าด้วยสติปัญญา

3. Khanti: tolerance; forbearance; perseverance
ขันติ ความอดทน, ตั้งหน้าทำหน้าที่การงานด้วยความขยันหมั่นเพียร เข้มแข็ง ทนทาน ไม่หวั่นไหว มั่นในจุดมุ่งหมาย ไม่ท้อถอย

4. Caga: liberality; generosity
จาคะ ความเสียสละ,สละกิเลส สละความสุขสบายและผลประโยชน์ส่วนตนได้ ใจกว้างพร้อมที่จะรับฟังความทุกข์ความคิดเห็น และความต้องการของผู้อื่น พร้อมที่จะร่วมมือช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่คับแคบเห็นแก่ตนหรือเอาแต่ใจตัว







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.45.49 จันทร์, 29/9/2551 เวลา : 07:27  IP : 125.25.45.49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32546

คำตอบที่ 29
       สัจจะ ความจริง, ซื่อตรง ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดจริง ทำจริง
สัจจะหมายถึงความจริง จริงทางกาย จริงทางวาจา ที่ไม่เป็นโทษ ดำรงมั่นอยู่ในความจริงที่รู้จักด้วยปัญญา
สัจจะ มี 2 อย่าง


1. สัจจานุรักษ์ คือการรักษาสัจจะ อะไรที่เป็นสัจจะก็รักษาสิ่งนั้นเอาไว้ ในการดำรงค์ชีวิตปัจจุบันการรักษาสัจจะเป็นเรื่องสำคัญ การที่พูดสิ่งใดเอาไว้ก็ให้ทำได้ดังที่พูดเอาไว้จะช้าจะเร็วก็ต้องทำอย่างที่ได้พูดเอาไว้ มีคำพูดที่ว่า เราเป็นนายของคำพูดแต่พอพูดแล้วคำพูดเป็นนายเรา


สำหรับการครองเรือนแล้วสิ่งที่ให้สัญญากับครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญเช่น บอกว่าจะทำหรือไม่ทำสิ่งใดต้องทำให้ได้ตามนั้นเพราะการเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องไม่ทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้เลน วันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้ทำอีกอย่าง ลูกเมียจะเห็นเราเป็นอะไร ต่อไปคำพูดของเราแม้แต่ลูกเมียก็ไม่เชื่อถือ








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.45.49 จันทร์, 29/9/2551 เวลา : 07:29  IP : 125.25.45.49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32547

คำตอบที่ 30
       สำหรับเพื่อนๆยิ่งกว่าลูกเมียเสียอีก เพื่อนจะหายหน้าไม่คบหาด้วย คำพูดสำคัญอย่างมาก พูดแล้วต้องทำให้ได้ไม่ใช่รับปากลอยๆแล้วทำอีกอย่าง

บางครั้งในทางกลับกันคือรักษาสัจจะในทางเป็นโทษคือยังคงทำอะไรโง่ๆไม่เคยเปลี่ยน แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นสัจจานุรักษ์เพราะเป็นการรักษาสิ่งที่โง่ๆให้กับชีวิต


ผมมีเพื่อนและลูกน้องหลายคนที่ยังส่งเงินให้กับเมียที่เลิกลากันไปแล้วแม้เธอจะไปมีสามีใหม่เงียบๆแต่ก็ยังส่งเงินให้อยู่เพราะต้องการรักษาสัจจะว่าจะเลี้ยงดูตลอดชีวิต การรักษาคำพูดด้วยการยังคงส่งเงินที่ส่งให้เมียไปซื้อไข่ลวกกับซุปไก่ให้ผัวใหม่กินไม่ถือว่าเป็นสัจจานุรักษ์ เขาเรียกว่าโง่ครับ มันเป็น สัจจาภินิเวส


การรับปากกับเพื่อนว่าจะช่วยเหลือยามทุกข์ยากแต่เพื่อนเอาเราไปด่าลับหลังตลอดเวลา แล้วเวลาเขาเดือดร้อนบากหน้ามาขอความช่วยเหลือ เราก็ยังต้องช่วยเขาเพราะเราออกปากไว้แล้วแบบนี้เรียกว่าสัจจาภินิเวส คือไปยึดถือสัจจะด้วยอุปาทานและงมงาย


มันด่าเราลับหลังแต่พอเดือดร้อนก็หน้าไม่อายยังซมซานมาพึ่งพาเราอีก ถ้ายังคงไปช่วยอีกเพราะเกรงว่าจะเสียคำพูด แบบนี้เรียกว่าโง่ไม่ใช่การรักษาสัจจะครับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.45.49 จันทร์, 29/9/2551 เวลา : 07:33  IP : 125.25.45.49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32548

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,16 เมษายน 2567 (Online 2934 คน)