คำตอบที่ 91
       คืนนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ

ที่ปราสาทบายอนที่เดียวผมเขียนได้อีกเป็นอาทิตย์ เพราะจะเล่าเรื่องพระเจ้าชัยวรมันต์ที่7 รบกับจามกู้ชาติขอม พูดเรื่องการเปลี่ยนมานับถือพุทธของขอมและพุทธก็กลับหายไปอีกครั้งกลายเป็นฮินดูอีกรอบ เรื่องเกร็ดการสร้างนครธมและปราสาทบายนอีกบานตะเกียง

ผมกับรุจดูปราสาทหินมาสิบกว่าปราสาทในสี่วันแล้วจะคุยเรื่องปราสาทบายนเป็นอาทิตย์ แล้วจะเล่าให้ครบทุกปราสาทจะกี่วันจบล่ะเนี่ย สงสัยจะยาวกว่าเรื่องเมืองนครศรีฯสักสามเท่าแน่ๆครับอย่าเบื่ออ่านกันเสียก่อน

ไปงวดนี้ผมกับรุจได้รูปมากกว่า 6000 รูป ถ่ายกันวันละพันห้าร้อยรูปเป็นอย่างต่ำ แค่เลือกรูปมาลงก็โลหิตพุ่งออกปากแล้วครับ

ผมยังคิดอยู่เลยว่าถ้าผมไม่ทำกล้องร่วงจากมือกระแทกหินจนพัง ต้องถ่ายไปปล้ำไปให้ระบบเลนส์ของกล้องที่เสียโขยกเขยกทำงานต่อได้ตลอดสามวันคงจะได้รูปมากกว่านี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 92
       ซู๊ดหยอด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 93
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 94
       ป๋านิธิครับมีปลากรอบฝากให้คุณเล็ก ต้องขออภัยที่วันที่ 1 ผมกลับถึงสุวรรณภูมิค่ำไปหน่อยเลยไม่ได้เอาต้นไม้ไปส่งให้ แล้วจะฝากปลากรอบไว้กับรุจที่เมืองทองครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 95
       สุดยอดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 96
       เห็นไหมละ.........เหมือนได้เดินเที่ยวเองเลย....ขอบพระคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 97
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 98
       วันนี้เริ่มด้วยปราสาทบายน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 99
      


พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ?

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 100
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 101
      


ย้อนแสงสุดๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 102
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 103
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 104
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 105
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 106
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 107
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 108
      


ดูกันจนตาลาย ใครบอกได้บ้างว่า มีหน้าไหนต่างกันบ้าง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 109
      
ตอบได้ ..มีไม้เสียบปลากรอบเขมรเป็นรางวัล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 110
       ไม้เสียบปลากรอบก็เอา....ตอบหน้าร้อนกับหน้าฝน....หุหุ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 111
       แท่น..แท้น... แท๊น...

ยังไม่ถูก.. แต่แจกรางวัลเป็นก้างปลาไปก่อนแล้วกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 112
       ผมมาพิจารณาดูแล้วถ้าผมดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆโดยไม่กล่าวถึงพื้นฐานของประวัติศาสตร์เขมรต้องมีเพื่อนๆตามไม่ทันแน่ๆเพราะว่า เขมรไม่ใช่พ่อแม่เราเลยไม่มีการสอนในวิชาประวัติศาสตร์ที่เรียนมา

และฮินดูก็ไม่ใช่ศาสนาของเราโดยตรงทำให้พวกเรามีพื้นฐานน้อยมาก จะเห็นกันก็ตรงที่มีปลายๆหางอยู่ในศาสนาพุทธเล็กน้อยหรือไม่ก็เห็นในโทรทัศน์ในงานพระราชพิธีต่างๆที่มีพราหมณ์มาทำพิธี


ผมจะเริ่มเล่าพื้นฐานของฮินดูก่อนก็แล้วกันนะครับจะได้ฟังเรื่องมหากาพย์มหาภาระตะที่ผมจะเล่าต่อมารู้เรื่อง เรื่องของฮินดูที่ผมจะเล่าผมได้ค้นตำราเก่าๆที่ผมคิดว่าคงไม่ได้ใช้แล้วกลับมาอ่านอีกครั้งและบางเรื่องที่ผมคิดว่าตำราบอกไม่หมดผมใช้วิธีโทรไปถามกับพราหมณ์ตัวจริงๆ


พราหมณ์ที่ผมกล่าวถึงนี่เป็นพราหมณ์โดยกำเนิดวรรณะพราหมณ์และยังเป็นพราหมณ์จริงๆนะครับ ไม่ใช่พวกตัวปลอมอาชีพตั้งศาลพระภูมิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 113
       เรื่องฮินดูที่ผมจะเขียนนี้ผมจะพยายามให้เที่ยงตรงที่สุดเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และถ้าอ้างอิงผิดเพี้ยนแล้วมีใครอ่านแล้วนำไปอ้างอิงในบทความอื่นต่อไปในอนาคตจะเกิดกรรมแก่ผม

ศาสนาฮินดูเกิดขึ้นในโลกมากว่า 4000ปีในอินเดียเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังมีผู้นับถืออยู่จนถึงทุกวันนี้ ศาสนาฮินดูมีคัมภีร์สำคัญอยู่สองคัมภีร์คืองรามยานะที่กล่าวถึงอวตารที่7ของพระวิศณุลงมาปราบมารอสูราวณะหรือที่เรารู้จักในนามของทศกัณฐ์ และมหาภาระตะที่กล่าวสรรเสริญพระกฤษณะอวตารที่8ของพระวิศณุ สงครามระหว่าตระกูลเการพและปาณฑพ


ศาสนาฮินดูได้แตกออกไปหลายนิกายตามเวลาที่ยาวนานและวรรณะของคนที่นับถือ แต่ที่สำคัญมีสองนิกายคือ ไศวนิกายและไวษณพนิกาย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 114
       ไศวนิกายนับถือพระศิวะเป็นใหญ่นิยมการสร้างศิวลึงค์ไว้ตามสถานบูชาหรือตามภูเขาที่เปรียบเสมือนเขาพระสุเมรของพระศิวะ โดยความเชื่อของชาวฮินดูแล้วเขาพระสุเมรคือศูนย์กลางของจักรวาล

ตามคัมภีร์ปุราณะของไศวนิกายได้กล่าวึงกำเนิดของพระศิวะไว้ว่าหลังจากการทำายล้างโลกพระศิวะได้กำเนิดขึ้นเองโดยไม่ได้เป็นโอรสหรือจุติจากที่ใดทั้งสิ้น ทรงสร้างเทพองค์อื่นๆโดยใช้มือลูบอกก็บังเกิดพระอุมาภควดี ที่เป็นพระชายาของพระองค์ ใช้มือลูบพระหัตถ์ขวาก็เกิดเป็นพระพรหม ใช้มือลูบพระหัตถ์ซ้ายก็เกิดเป็นพระพระนรายณ์ ทรงสำรอกพระมางสะจากพระอุทรก็เกิดแผ่นดินเอาพระจุฑามณีที่ปักพระเกศามาปักบนแผ่นดินก็เกิดเป็นเขาพระสุเมรุ

พระศิวะเป็นพระผู้สร้างและพระผู้ทำลายจึงมีรูปลักษณ์แทนพระองค์เป็นศิวลึงค์

การบูชาตัวแทนพระศิวะคือการบูชาศิวะลึงค์ที่สร้างไว้ตามศาสนะสถานต่างๆนั่นเองซึ่งสิ่งที่คู่กับศิวลึงค์คือโยนี

โดยศิวลึงค์จะตั้งบนฐานสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าโยนีที่เป็นตัวแทนพระอุมาเวลาจะทำน้ำมนต์จะใช้น้ำราดบนศิวลิงค์ให้น้ำใหลลงมาที่โยนีและใหล่ผ่านรางเล็กๆที่ฐานโยนีลงมาใช้เป็นน้ำมนต์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 115
       ไวษณพนิกายจะนับถือพระวิศณุหรือพระนรายณ์ว่าเป็นเทพสูงสุด นิกายนี้เชื่อกันว่าฤๅษีนาถมุนีเป็นผู้นำของนิกายนี้ตนแรก

นิกายนี้ถือว่าพระวิษณุเป็นผู้สร้างโลกจากจักรวาลที่มีแต่น้ำและความว่างเปล่าที่มีขึ้นหลังยุคไฟบรรลัยกัลป์ ในความว่างเปล่านั้นพระวิศณุทรงบรรทมอยู่บนหลังนาคพันหัวชื่อเศษะนาคราช ขณะที่พระองค์ทรงบรรทมอยู่นั้นได้มีดอกบัวผุดขึ้นที่พระนาภีและเกิดเป็นพระพรหมขึ้นมาและพระพรหมที่เกิดมาเป็นผู้สร้างโลก


พระวิษณุมีสี่กร ทรงสังข์ จักร์ คฑา และดอกบัว มีผิวพระองค์สี้เงินทรงมงกุฎ มีสายพระศอเป็นรัตนะศักดิ์สิทธิ์ชื่อกาสตุภะ ทรงครุฑเป็นพาหนะ ที่เรียกพระองค์อีกชื่อว่าพระนารายณ์เพราะพระองค์ทรงอยู่เหนือน้ำ แต่คำว่าวิษณุแปลว่าผู้แทรกซึมอยู่ทุกที่โดยธรรมชาติ


นิกายไวษณพเจริญรุ่งเรื่องในอินเดียสมัยราชวงค์คุปตะประมาณสองพันสามร้อยปีที่แล้วเชื่อเรื่องอวตารของพระนารยณ์ลงมาปราทุกข์เข็นของมนุษย์เคารพพระราม พระกฤษณะ หนุมาร และพระพุทธเจ้าโดยอ้างว่าพระพุทธเจ้าคืออวตารหนึ่งของพระนารายณ์

เรื่อนรายณ์อวตารที่เก่าที่สุดคือคัมภีร์ภควัทคีตาที่พระกฤษณะเปิดเผยพระองค์ว่าเป็นอวตารของพระเจ้าที่ไม่เคยหยุดนิ่งเฉยเมื่อมนุษย์ทุกข์ร้อน

ปราสาทนครวัดยุคต้นเป็นปราสาทที่สร้างตามไศวนิกายแต่ยุคหลังช่วงการสร้างนครวัดได้เปลี่ยนเป็นไวษณพนิกาย แต่ระหว่างกลางที่กินเวลาหลายร้อยปีที่มีการผสมกันระหว่างทั้งสองนิกายอยู่หลายปราสาทถึงขนาดเอาพระวิศณุและพระศิวะมาผสมกันเป็นพระหริหระ คือมีสองด้านอีกด้านเป็นพระวิศณุอีกด้านเป็นพระศิวะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 116
       เอาเป็นว่าผมเล่าให้ฟังสั้นๆก็พอนะครับใครอยากรู้ควรไปหาอ่านเองเพราะจะให้ผมเจาะเล่าเรื่องฮินดูแบบละเอียดคงต้องลอกงานเดิมมาเขียนอีก

ผมเคยเขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ศิลปะแบบปาละและคุปตะ และพุทธศิลป์ของอินเดีย ที่พูดถึงอินเดียและฮินดูแบบเปลือยเป็นฉากๆที่ตอนนี้ผมเองก็ไม่มีต้นฉบับเหลือเลยสักเล่ม

ตัวที่พิมพ์ไว้พร้อมภาพประกอบก็สลายไปพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ล่ม ใครเห็นตามแผงหนังสือเก่าก็ช่วยซื้อมาฝากผมด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 117
       จุดแรกที่ผมเดินเข้าไปในปราสาทบายอนผมจะไม่เดินเหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไปคือเดินตรงเข้าตัวโคปุระกลาง แต่ผมเดินที่ระเบียงรายรอบปราสาทก่อน

ที่กำแพงรอบปราสาทนั่นแหละคือชีวิตทั้งชีวิตของพระเจ้าชัยวรมันที่7 ที่คนทั่วไปมองข้าม ต่างก็เดินตามหน้าที่ยอดปราสาทเข้าโคปุระเหมือนโดนสะกดจิต


ผมเลือกที่จะใช้เวลาเกือบชั่วโมงที่นี่ก่อนจะเดินเข้าโคปุระเหมือนนักท่องเที่ยวอื่นๆ ลองตามผมมาครับว่าผมได้พบกับอะไรบ้างที่ระเบียงราย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 118
       พระเจ้าชัยวรมันที่7 ทรงประสูตรเมื่อกว่าพันสามร้อยปีที่แล้ว ทรงเป็นโอรสพระเจ้าธรณินทรวรมันที่2 และที่สำคัญคือพระองค์ได้หันมานับถือพุทธศาสนานิกายมหายายโดยการชักนำตามพระมเหษีเจ้าหญิงชัยราชเทวีที่พระองค์ได้อภิเษกมาตั้งแต่ยังวัยเยาว์

พระมเหษีองค์นี้มีอิธิพลต่อพระองค์ที่สุดทั้งแนวคิดและการต่อสู้ของพระองค์ พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของขอมก็ได้กำลังและคู่คิดที่ดีอย่างเจ้าหญิงชัยราชเทวีนี่แหละ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพระองค์ถึงประสพความสำเร็จในการรวมชาติ และรบจนจามที่เข้ามาตีขอมถอยล่นออกไปจนเกิดความสงบสุขและทรงนับถือพุทธตามพระมเหษี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 119
       พระองค์ทรงมีบทบาทเมื่ออายุเกือบหกสิบแล้วคือพระองค์ประสูติประมาณ 1663-8 และไม่มีบทบาทอะไรจนถึงปี 1721 ที่กษัตริย์จามปาพระเจ้าชัยอินทรวรมันยกทัพมาตีพระนครจนแตกเผาเมืองและปล้นไปเป็นจำนวนมากและจับพระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมันประหารชีวิต

ในตำนานได้กล่าวว่าเจ้าชายวรมันได้รอให้เมืองแตกโดยไม่สู้เพื่อจะกู้กลับแล้วขึ้นครองราชนับว่าเป็นแผนที่โหดร้ายพอสมควร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 120
       พระองค์ใช้เวลาประมาณสี่ปีก็กู้พระนครกลับได้อีกทั้งทำยุทธนาวีที่โตนเลสาปจนได้ชัยชนะเหนืออาณาจักรจามปาและเมื่อบ้านเมืองสงบแล้วทรงปราดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจาชัยวรมันที่7 และสร้างเมืองนครธมขึ้นมา เมืองนี้มีชื่อเรียกว่านครหลวงหรือนครใหญ่เพราะคำว่าธมแปลว่าใหญ่

ทรงย้ายศูนย์กลางของราชธานีจากปราสาทบาปวนในลัทธิไศวนิกายมาสร้างปราสาทบายนที่พระนครเป็นศูนย์กลางแทนและเปลี่ยนศาสนาของชาวขอมให้เป็นพุทธศาสนาแบบมหายานแทน

แสดงความคิดเห็นย่อย