WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


สามวันที่นครศรีธรรมราช
baron
จาก von Richthofen
IP:125.24.51.45

อาทิตย์ที่ , 27/5/2550
เวลา : 23:18

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เที่ยวฉลองเสร็จงานไปชิ้นหนึ่งที่กินเวลานั่งโต๊ะอยู่เกือบห้าเดือน ห่างหายจากหน้าเวปที่ผมเข้ามาพาเที่ยวในแบบประจำของผมไปหลายเดือน

ผมเลยพาเพื่อนเที่ยวนครฯในแบบของผมครับ ผมจะพาไปดูเมืองนครฯในมุมมองของคนไม่เคยเดินเที่ยวแบบเจาะรายละเอียดเมืองนครฯ ขับรถไปเรื่อยๆ เจออะไรชอบแวะนานหน่อย มีเรื่องเล่าความเชื่อและตำนานของคนนครฯและเกร็ดประวัติศาสตร์แบบมาตราฐานหอพระสมุดและแบบพงศาวดารกระซิบตามแบบของผม

เริ่มเดินทางย้อนเวลากลับไปเมืองศรีวิชัย นครแห่งแรกของสุวรรณภูมิได้เลยครับ








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

คำตอบที่ 211
      
ทริปนี้อร่อยจนลืมถ่ายรูปไปหลายอย่าง สมกับไม่ได้ไปนครฯเสียหลายปี

ถ้าโอกาศมี คราวหน้าจะเอารูปงานบุญเดือนสิบพร้อมกับข้าวและขนมแปลกๆมาฝาก




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Ruj จาก Ruj 203.155.231.73 พฤหัสบดี, 28/6/2550 เวลา : 23:51  IP : 203.155.231.73   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9862

คำตอบที่ 212
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

praphin จาก Tik 203.146.148.130 เสาร์, 30/6/2550 เวลา : 13:32  IP : 203.146.148.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9897

คำตอบที่ 213
       ขออนุญาติ อ.วอน คัดลอกบทความกับรูปถ่ายไปเก็บไว้ให้ลูกหลานอ่านครับ
ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวดีๆด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Sabathe จาก เอ TOC025 136.8.1.100 จันทร์, 2/7/2550 เวลา : 10:30  IP : 136.8.1.100   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9995

คำตอบที่ 214
       พี่ครับถ้าไปอีก ชวนตั้งคาราวานไปซิครับ อยากไปด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

BADDOG จาก BADDOG 58.10.84.122 อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 09:56  IP : 58.10.84.122   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10037

คำตอบที่ 215
       ส่งการบ้านป๋านิธิครับ ช้าไปนิดผมต้องหาหลักฐานมายืนยันจากดอกไม้เงินดอกไม้ทองที่มาจากหัวเมืองดังกล่าวครับ

อาณาเขตกรุงธนบุรี ดังนี้

ทิศเหนือ ตลอดอาณาจักรลานนา
ทิศใต้ ตลอดเมืองไทรบุรีและตรังกานู
ทิศตะวันออก ตลอดกัมพูชาจดญวนใต้
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดนครเวียงจันทน์ หัวเมืองพวน และนครหลวงพระบาง หัวพันทั้งห้าทั้งหก
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดเมืองพุทธไธมาศ
ทิศตะวันตก ตลอดเมืองมะริด และตะนาวศรีออกมหาสมุทรอินเดีย

ใหญ่กว่าที่เรามีในตอนนี้กว่าสองเท่าครับเพราะรวมเอา ลาวทั้งประเทศ เขมรทั้งประเทศ และพม่าบางส่วน มาเลย์บางส่วนมาด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.41.48 อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 13:25  IP : 125.24.41.48   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10043

คำตอบที่ 216
       ขอบพระคุณครับท่านอาจารย์

จาก ร.๑-ร.๕ ประมาณ 100 ปี หากทหารหารขอพระเจ้าตากยังอยู่ไม่อาจคาดเดาได้ว่า แผ่นดินพระเจ้ากรุงธนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ครับแล้วลูกหลานของท่านเหล่านี้
พระยาพิชัย
กรมขุนอินทรพิทักษ์
กรมขุนรามภูเบศร์
พระยากำแหงสงคราม
ยังมีอยู่กันหรือไม่ หรือไม่มีแล้วครับ ขอบพระคุณครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก นิธิ 203.113.0.192 อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 17:24  IP : 203.113.0.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10046

คำตอบที่ 217
       หลังจากแผ่นดินพระเจ้าตากแล้วบ้านเมืองเราหดลงครับป๋านิธิ

พื้นแผ่นดินที่หดครั้งแรกเนื่องจากการสงบศึกญวนตามที่ผมเล่ามาแล้วเราต้องตอบแทนการที่เขาแบ็คอัพให้เรื่องการล้อมทัพหลวงของกรมขุนอิทรพิทักษ์ลูกคนโตพระเจ้าตากเอาไว้เพื่อให้พระยาจักรีแอบย่องจากเขมรเข้ามารัฐประหารในกรุงธนฯได้ แผ่นดินเขมรติดต่อญวนบางส่วนต้องให้ญวนไปถือว่าตอบแทนแรงงานและไมตรีที่ช่วยเหลือกัน

หลังจากนั้นก็หดลงเพราะอังกฤษและฝรั่งเศษในรัชกาลที่5 เอาไว้ผมจะเล่าเรื่องพระปรีชาของรัชกาลที่4ที่เล่นเกมส์ใต้ดินแบบทันฝรั่ง และสยามเสียแผ่นดินไปครึ่งประเทศในรัชกาลที่5

ครั้งสุดท้ายเมื่อห้าสิบปีที่แล้วเราเสียเขาพระวิหารไปให้เจ้าสีหนุของเขมร คุณนิธิยังคงทันเห็นการเรี่ยไรเงินประชาชนในกรุงเทพฯเพื่อสู้คดีที่ศาลโลกของหม่อมเสนีย์ ปราโมทย์ได้ในครั้งนั้น





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 23:16  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10056

คำตอบที่ 218
       เรื่องสาแหรกของบุคคลท่านตามนามที่คุณนิธิกล่าวมาผมขอเริ่มจาก กรมขุนอินทรพิทักษ์ ราชบุตรคนโตของพระเจ้าตากก่อนครับ

ท่านเป็นตัวเอกที่ไปรบทัพเขมรและญวนกับพระยาจักรีแต่โดนพระยาจักรีไปผูกมิตรกับญวนที่รบกันอยู่ให้มาล้อมทัพหลวงพวกเดียวกันเองอย่างที่บอกมาแล้ว

ท่านกลับมาบ้านก็พบว่าพระยาจักรียึดเมืองไปแล้วและจับท่านสำเร็จโทษเสียให้ตายตามพระเจ้าตากพระบิดาไป

ผมจะจับความที่กรมขุนอิทรพิทักษ์เลยก็จะหมดอรรถรสไปกว่าครึ่ง ผมขอจับความเริ่มที่แม่ยายของพระเจ้าตากหรือสมเด็จยายของกรมขุนอินทรพิทักษ์จะได้รสชาติกว่าครับ

ผมใช้คำว่าสมเด็จยายเหมือนลิเกเพื่อให้ฟังง่ายกว่าสมเด็จพระปิตุฉา เพราะกรมพระอิทร์พิทักษ์ท่านเป็นวังหน้าในแผ่นดินพระเจ้าตากเนื่องจากต่ำแหน่งนี้ต้องเป็นพระอนุชาแต่ท่านไม่มีเลยต้องให้ราชบุตรเป็นแทนดังนั้นตำแหน่งของท้าวทองมอญแม่ยายพระเจ้าตากต้องเป็นพระปิตุฉาครับ

เริ่มเลยนะครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 23:32  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10057

คำตอบที่ 219
       มีผู้เล่าถวายสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธ์วงศ์วรเดช ผู้ทรงเป็นเชื้อสายท้าวทรงกันดาลทองมอญ ทางสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระราชมารดาของพระองค์

ว่า ท้าวทรงกันดาลทองมอญ เป็นหม่อมห้ามของหม่อมเจ้า พระโอรสของพระองค์เจ้าหรือเจ้าฟ้า ในพระราชวงศ์อยุธยา ตั้งบ้านเรือนอยู่ท่าสิบเบี้ยอยุธยาอันเป็นถิ่นของมอญอพยพ

ทั้งสองทางมีข้อที่ตรงกันอยู่ว่า ท่านต้องเป็นห้ามของเจ้านายราชวงศ์อยุธยาแน่นอน จึงรู้เรื่องธรรมเนียมประเพณีในวัง และต้องคุ้นเคยกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาก่อน เมื่อสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี จึงได้โปรดให้ท่านเป็น ‘แม่วัง’ ตำแหน่งท้าวทรงกันดาล





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 23:52  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10058

คำตอบที่ 220
       ในหนังสือต้นตระกูลไทย เล่าว่า ในปลายสมัยอยุธยา เป็นพระสนมในกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เข้าใจว่าคงจะเป็นเจ้าฟ้าอุทุมพร รัชกาลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เพราะในรัชกาลนั้น เจ้าฟ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิต ท่านได้เป็นกรมพระราชวังบวร แทนเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ หรืออาจจะเป็นพระสนมในเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์เลยก็ได้ แต่ในหนังสือเล่มนี้ เล่าผิดไปหน่อยที่ว่าท้าวทรงกันดาลทองมอญ ไม่มีบุตรธิดาเลย

ไม่มีแล้วจะเป็นแม่ยายพระเจ้าตากได้อย่างไรกัน มุขหลุดแบบนี้ในประวัติศาสตร์มีบ่อยๆครับ ดังนั้นต้องทำให้ผมอ่านหลายเล่มถึงจะกล้าเขียนอะไรมาให้อ่านกัน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 23:56  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10059

คำตอบที่ 221
       ว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นั้น เมื่อเสด็จปราบดาภิเษก แล้ว ได้ทรงสถาปนาพระอัครมเหสีเดิม ชื่อ สอน เป็น กรมหลวงบาทบริจา เรียกกันในสมัยกรุงธนบุรีว่า พระอัครมเหสีหอกลาง

ส่วนแม่ยายชื่อ ทองมอญ ก็ให้เป็นท้าวกังสดาล ตำแหน่งแม่วังคอยดูแลความเรียบร้อยฝ่ายใน

ต่อมาเมื่อสิ้นพระราชวงศ์แล้ว เปลี่ยนคำนำพระนามเป็น หม่อมสอน เนื่องจากถูกถอดยศล้างตระกูลพระเจ้าตากจนสิ้น

คำนำหน้าว่า หม่อม ว่า คุณชาย คุณหญิง นั้น มีหลักฐานว่า ใช้เรียกบรรดาผู้ดีมีสกุล กับผู้เคยมียศเป็นเจ้า และบรรดาบุตรธิดาของผู้ดีมีสกุล มาแต่ครั้งปลายสมัยอยุธยา





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:00  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10060

คำตอบที่ 222
       สำหรับ หม่อมสอน นั้น แม้จะมิได้เป็นเจ้าแล้ว แต่ในบรรดาแวดวงก็ยังยกย่องเรียกกันว่า เจ้าสอนหอกลาง

กรมหลวงบาทบริจา มีพระราชโอรสสององค์ องค์ใหญ่มีพระนาม จุ้ย องค์เล็กพระนาม น้อย

พระองค์ใหญ่นั้นสมเด็จพระราชบิดา ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ ที่พระมหาอุปราช

กรมขุนอินทรพิทักษ์ หรือเรียกกันทั่วไปว่า เจ้าจุ้ย นี้ ว่ากันว่าเป็นคนอ่อนแอ

แต่ถ้าพิจารณาตามจดหมายเหตุบันทึกความทรงจำ ของกรมหลวงนรินทรเทวี พระเจ้าน้องนางเธอใน ร.1 ที่ทรงกล่าวถึงเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์แล้ว จะเห็นได้ว่า ท่านเป็นผู้มีเมตตา อันอาจทำให้เห็นเป็นความอ่อนแอไปได้

จดหมายเหตุกรมหลวงนรินทรเทวี ตอนนี้ว่า

จึงรับสั่งให้เจ้าลูกเธอ กรมอินทรพิทักษ์ขึ้นไปจับ กบฏมหาดา ซึ่งโฆษณาตัวเองจนผู้คนพากันหลงใหลศรัทธาว่าเป็นผู้มีบุญ-มหาดา เธอเมตตาสัตว์ที่หลงทำบุญเชื่อถือมหาดา ให้ฝีพายกระทุ้งโห่ร้องขึ้นไปที่ได้ยินเสียงอื้ออึงหนีได้มาก ที่ยังอยู่ในบริเวณวัดนั้น จับส่งลงมา ทั้งผู้รั้งกรมการกรุงเก่า







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:06  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10061

คำตอบที่ 223
       เมื่อสิ้นราชวงศ์กรุงธนบุรีแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯมหาราช ทรงพระกรุณาจะชุบเลี้ยงให้ทำราชการ แต่กรมขุนอินทรพิทักษ์ขอตายตามพระราชบิดา ว่าทำให้เจ้าฟ้าน้อยพระอนุชาขอตายตามเสด็จไปด้วย

เรื่องนี้มีผู้ให้ความเห็นว่า คงเป็นเพราะ ศักดิ์ศรี ที่เคยเป็นถึงพระมหาอุปราช เมื่อเสด็จไปกรุงกัมพูชา ก็ไปในฐานะพระมหาอุปราช เตรียมจะไปครองเมืองเขมร จึงไม่ยอมอยู่ ขอให้สำเร็จโทษเสียซึ่งธรรมดาคนอ่อนแอไม่น่าจะตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเช่นนี้

พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงถูกสำเร็จโทษ เพียง 2 พระองค์ นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงไว้ชีวิตหมด ไม่ทรงยอมประหารชีวิต ตามที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงขอให้ประหารให้หมดสิ้น ตามคำโบราณที่ว่า ตัดหนามอย่าไว้หน่อ

เรื่องนี้จึงเป็นที่สงสัยกันอยู่มาก เพราะนอกจากจะไม่ทรงประหารแล้ว ยังทรงชุบเลี้ยงใกล้ชิดสนิทสนม โดยเฉพาะเจ้าฟ้าทัศพงศ์ นั้น ทรงพระเมตตาโปรดปรานมาก ดังที่เคยเล่ามาแล้ว โปรดฯให้มีบรรดาศักดิ์เป็นพระพงศ์นรินทร์ ราชนิกุล ทรงชุบเลี้ยงคู่กันกับนักพระองค์เอง โอรสพระเจ้ากรุงกัมพูชาซึ่งทรงรับเป็นพระราชบุตรบุญธรรม โปรดฯให้อุปสมบทพร้อมกับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนเสนานุรักษ์ ทรงผนวช สมโภชพร้อมกันอย่างมโหฬาร







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:08  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10062

คำตอบที่ 224
       กรมขุนอินทรพิทักษ์-เจ้าจุ้ย มีธิดา 2 บุตรชาย 2

ธิดา คือ คุณหญิง มะเดื่อ เป็นหม่อมห้ามในกรมหมื่นนราเทเวศร์ พระโอรสพระองค์ใหญ่ในการพระราชวังบวรสถานพิมุข วังหลัง

และ คุณหญิงสาลี่ เป็นหม่อมห้ามในกรมหลวงเสนีบริรักษ์ พระโอรสพระองค์เล็กในกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข เช่นกัน

บุตรชายคนสุดท้อง ชื่อทองอิน รับราชการในรัชกาลที่ 1 ได้เป็นพระยากลาโหมราชเสนา

พระมเหสีฝ่ายซ้าย คือ กรมหลวงบริจาภักดีศรีสุดารักษ์ เจ้าจอมมารดาฉิม หรือที่เมืองนครศรีธรรมราชเรียกกันว่า ทูลกระหม่อมหญิงใหญ่ เพราะสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดฯให้ยกฐานะเมืองนครฯ เป็นประเทศราช เรียกผู้ครองเมืองว่า พระเจ้านครศรีธรรมราช มีโอรส 3 ธิดา 1

โอรสองค์แรก คือ เจ้าฟ้าทัศพงศ์ หรือพระพงศ์นรินทร์

องค์ที่ 2 คือ เจ้าฟ้าทัศไพ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯมหาราช โปรดฯตั้งเป็น พระอินทอำไพ หรืออินทอภัย บางแห่งว่า อินทรอภัย สุดแต่ผู้จดในบันทึกในจดหมายเหตุ ราชนิกุล

องค์ที่ 3 คือ เจ้าฟ้านเรนทร์ราชา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯมหาราช โปรดฯตั้งเป็น พระนเรนทร์ราชาราชนิกุล






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:10  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10063

คำตอบที่ 225
       ส่วน ธิดา คือ เจ้าฟ้าหญิงปัญจปาปี นั้น ได้เป็นหม่อมห้าม ในพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้า กรมขุนอิศรานุรักษ์ พระโอรสในสมเด็จพระพี่นางพระองค์น้อยในรัชกาลที่ 1

พระพงศ์นรินทร์ หรือเจ้าฟ้าทัศพงศ์ นี้ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงผนวช ได้ติดตามสมเด็จพระราชบิดา เข้าไปประทับอยู่ในโบสถ์ด้วย เวลานั้นชันษาได้ 12 ปี ยังไม่ทันได้โสกันต์

พระพงศ์นรินทร์ มีบุตรธิดาทั้งหมด 17 คน

ธิดาคนที่ 3 ชื่อ คุณหญิงเสงี่ยม สมรสกับพระยาเสน่หามนตรี น้อยเอียด พระยาเสน่หามนตรี เป็นบุตรชายของเจ้าพระยานครศรีธรรมราช น้อย ผู้เป็นราชโอรส สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เจ้าจอมมารดาปราง น้องสาวกรมหลวงบริจาริกาภักดีศรีสุดารักษ์ เป็นมารดา ดังนั้น คุณหญิงเสงี่ยม กับ พระยาเสน่หามนตรี จึงเป็นลูกพี่ลูกน้องกันทรงท่านบิดานั่นเอง

ในรัชกาลที่ 4 คุณหญิงเสงี่ยม มีตำแหน่งเป็นปลัด ของเจ้าคุณหญิงนุ่ม ธิดา สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ เจ้าคุณหญิงนุ่ม นับเป็นเจ้าคุณพระราชพันธ์ชั้น 3 เป็นหลานย่าของเจ้าคุณหญิงนวล เจ้าคุณพระราชพันธ์ชั้น 1 พระน้องนางในสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี รัชกาลที่1





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:13  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10064

คำตอบที่ 226
       คุณปลัดเสงี่ยมเคยเป็นพระพี่เลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เป็นที่โปรดปรานมาก ตรัสเรียกว่า คุณหรัดน้อย

ธิดาคนที่ 11 ของพระพงศ์นรินทร์ ชื่อ คุณหญิงพลับ เป็นหม่อมห้ามในกรมหมื่นภูมินทรภักดี หรือพระองค์เจ้าลดาวัลย์ มีโอรสธิดา 3 องค์ ธิดาใหญ่ชื่อ หม่อมเจ้าสารภี

หม่อมเจ้าสารภีนี้ เป็นที่โปรดปรานในพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงมาก สมเด็จเจ้าฟ้า พระราชโอรสธิดาในพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง และ พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏฯ ทรงเรียกว่า ป้าภี พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง จึงทรงพลอยตรัสเรียกว่า ป้าภี ตามไปด้วย ในพระราชนิพนธ์เรื่องไกลบ้าน ทรงเอ่ยถึง ป้าภี หลายครั้ง

ธิดาคนที่ 12 เรียกกันว่า คุณพระนมจั่น เป็นพระนมพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง

ธิดาคนที่ 17 เรียกกันว่า คุณพระนมขาว เป็นพระนมสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระจักรพรรดิพงศ์ พระราชอนุชาพระองค์กลาง ร่วมพระราชชนนีใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง

ยังมีเชื้อพระวงศ์ ระดับพระราชโอรส พระราชธิดา ลงมาจนถึงชั้นพระนัดดา ในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อีกหลายท่านที่เกี่ยวดองสัมพันธ์กันกับพระราชวงศ์จักรีจนอาจเรียกได้ว่า กลมกลืนกันไปทีเดียว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:16  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10065

คำตอบที่ 227
       เนื่องจากหลังสมัยรัชกาลที่5 มาแล้วยังมีสืบเชื้อสายลงมาอีกในชั้น เหลน ลื้อ หลืบ ที่ยังมีชีวิตในปัจจุบันผมจึงขอหยุดไล่ตระกูลพระเจ้าตากในสายกรมขุนอินทรพิทักษ์ ราชบุตรคนโตเพียงเท่านี้เนื่องจากอาจจะไปกระทบกับเรื่องส่วนตัวของบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:34  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10066

คำตอบที่ 228
       ซึ่งจะเห็นได้ว่าลูกพระเจ้าตาก ไม่ได้ถูกประหารชีวิตทั้งหมดครับ สมัยรัชกาลที่1 โดนไปสองคน มีหลายคนเชื่อว่าเชื้อสายของสมเด็จพระเจ้าตากสินจะหมดสิ้นในรัชสมัยของรัชกาล2 เมื่อครั้งที่เกิดกบฎเจ้าฟ้าเหม็นแล้วรัชกาลที่2 ประหารลูกและหลานพระเจ้าตากจนหมดสิ้นเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ก่อกบฎอีก


แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนจะมั่นใจอะไรมันมักจะมีซอกเล็กซอกน้อยให้ทิ้งมูลฝอยร่องรอยให้ตามได้บางเรื่อง

โอรสของสมเด็จพระเจ้าตากสินไม่ได้ถูกประหารทั้งหมด เนื่องจากในประวัติเภสัชกรรมไทย ก็ยังมีบันทึกเรื่องดังกล่าว คือ

ในรัชกาลที่ 2 เป็นรัชสมัยแห่งการฟื้นฟู เรื่องการแพทย์ เพราะพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเห็นว่า คัมภีร์แพทย์ ณ โรงพระโอสถ สมัยอยุธยา หายไป จึงทรงค้นคว้าตำรายาจากที่ต่างๆ เพราะทรงวิตกว่า ตำราและคัมภีร์แพทย์ต่างๆ จะเสื่อมสูญ

ดังนั้นในปีวอก จัตวาศก จุลศักราช 1174 พ.ศ.2356 ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าๆ ให้เหล่าผู้ชำนาญการลักษณะโรค และสรรคุณยา รวมทั้งผู้มีตำรายาดีๆ นำเข้ามาทูลเกล้าถวาย และทรงโปรดๆ ให้ พระพงศ์นรินทรราชนิกูล พระโอรสในสมเด็จ พระเจ้ากรุงธนบุรี ซึ่งเป็นหมอหลวง สืบถาม และเลือกสรร ตำรายาดี จดเป็นตำราหลวง สำหรับโรงพระโอสถ

ตำรานี้มีชื่อว่า ตำราพระโอสถครั้งรัชกาลที่ 2 ตำรานี้พิมพ์ครั้งแรกตรงกับปีมะโรง พ.ศ. 2459 โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิร ญาณวโรรส โปรดให้พิมพ์

เห็นหรือเปล่าว่ามันมีซอกหลืบของประวัติศาสตร์ให้ค้นหาได้ตลอดเวลา บางสิ่งที่คนทั่วไปคิดว่าโดยประหารหมดแล้วแต่บางพระองค์ท่านทำตัว "โลว์โปรไฟล์" ก็ยังรักษาชีวิตไว้สืบวงค์พระเจ้าตากได้ครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 00:45  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10067

คำตอบที่ 229
       อ้าว....แล้วกันผมไปเอ่ยพระนามเจ้าฟ้าเหม็นไปแล้วจะไม่พูดปูพื้นก็คงไม่ได้แล้ว เอาอีกสาแหรกหนึ่งเลยก็ได้ครับคือฝั่งพระเจ้าตากกับลูกสาวพระยาจักรี

ครับถูกต้องแล้วครับรัชกาลที่1 เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งลูกน้อง และเป็นพ่อตาอีกต่างหาก

ผู้ที่ถูกประหารไปในคราวเดียวกับพระราชบิดา มี 2 องค์คือเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ ที่เล่าให้ฟังในกระทู้ และพระอนุชา คือเจ้าฟ้าชายน้อย

องค์อื่นๆอยู่มาได้ทั้งหมด

ในจำนวนนี้ มีอยู่องค์หนึ่งเป็นที่โปรดปรานของรัชกาลที่ 1 เพราะเป็นเจ้าฟ้าที่ประสูติจากพระราชธิดาของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ ซึ่งถวายเป็นเจ้าจอมในพระเจ้าตากสิน

มีพระนามเดิมว่าเจ้าฟ้าเหม็น หรือเจ้าฟ้าชายสุพันธุวงศ์ กรมขุนกษัตรานุชิต ไม่ว่าเสด็จไปไหน ก็จะโปรดฯให้ตามเสด็จอยู่เสมอจนตลอดรัชกาล สรุปแล้วทรงโปรดหลานองค์นี้มากกว่าลูกเสียอีก เรื่องนี้ย่อมโดนเขม่นเอาจากลูกแน่นอน

แต่พอสิ้นรัชกาลที่ 1 ขึ้นรัชกาลที่ 2 เจ้าฟ้าองค์นี้ก็ถูกข้อหากบฎ ถูกสำเร็จโทษ พร้อมพระอนุชาต่างมารดา คือพระองค์เจ้าชายอรนิกา และพระขนิษฐา พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณ ซึ่งถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดด้วย สรุปแล้วงานนี้ซวยหมู่ หมดเชื้อสายรุ่นลูกพระเจ้าตากไปอีกชุดใหญ่

ส่วนองค์อื่นๆก็ยังอยู่มาได้ แต่ว่าไม่ได้เป็นเจ้านาย กลายเป็นสามัญชน ผู้ชายได้เข้ารับราชการเป็นขุนนาง ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ในวัง

หนึ่งในจำนวนนี้คือสมเด็จเจ้าฟ้าชายทัศไนย ซึ่งกลายเป็นพระอินทรอภัย องค์นี้ถูกประหารไม่ใช่ด้วยข้อหาการเมือง แต่เป็นเพราะลักลอบติดต่อสื่อรักกับเจ้าจอมในรัชกาลที่ 2 ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎมณเฑียรบาลขั้นร้ายแรง โทษประหารลูกเดียว แต่บุตรธิดาก็ยังสืบเชื้อสายต่อมา
หนึ่งในจำนวนนี้ชื่อน้อย เป็นเจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 4เป็นเจ้าจอมมารดารุ่นใหญ่





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 01:20  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10069

คำตอบที่ 230
       และที่มีลูกหลานมากมาย ก็คือ ณ นคร สืบสายจากพระราชโอรสพระเจ้าตากในเจ้าจอมที่พระราชทานไปให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราช เจ้าจอมผู้นั้นกำลังตั้งครรภ์ เจ้าพระยานครฯทราบก็ดูแลไว้อย่างดีในฐานะเจ้าจอม ไม่ใช่ในฐานะภรรยา


เมื่อมีบุตรออกมาถึงไม่มีชื่อทางประวัติศาสตร์ว่าเป็นเจ้านาย แต่ก็ถือว่าเป็นวงศ์พระเจ้าตาก
ณ นคร แยกย่อยลงไปอีกเป็น โกมารกุล ณ นคร

ลูกหลานที่ไปแต่งกับสกุลอื่นก็มีอีกมาก แต่สืบยากเพราะเป็นหญิง ไปใช้นามสกุลสามี ลูกหลานออกมาก็ใช้นามสกุลบิดา






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 01:26  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10070

คำตอบที่ 231
       นอกจากนี้มีพระเจ้าหลานเธออีก 2 องค์ ถูกสำเร็จโทษตอนเปลี่ยนราชวงศ์ คือ กรมขุนอนุรักษ์สงคราม เจ้ารามลักษณ์ และกรมขุนรามภูเบศร์เจ้าบุญจันทร์

เชื้อสายที่ไปรวบรวมมาได้ มีสายดังนี้

สินสุข สืบเชื้อสายมาจากกรมขุนอินทรพิทักษ์ ที่ขอสิ้นพระชนม์ตามพระราชบิดาไป แต่โอรสธิดายังคงอยู่

อินทรโยธิน สืบเชื้อสายมาจากกรมขุนอินทรพิทักษ์เช่นกัน

พงษ์สิน สืบเชื้อสายมาจากเจ้าฟ้าทัศพงษ์ ซึ่งกลายมาเป็นขุนนางสามัญชน

ศิลานนท์ มาจากเจ้าฟ้าชายศิลา ซึ่งในรัชกาลที่ ๓ รับราชการได้เป็นพระยาประชาชีพ

รุ่งไพโรจน์ สืบเชื้อสายจากเจ้าฟ้าชายนเรนทรราชกุมาร ในรัชกาลที่ ๒ รับราชการเป็นพระนเรนทรราชา

สกุล ณ นคร โกมารกุล ณ นคร และจาตุรงคกุล ทั้งสามสกุลนี้สืบเชื้อสายจากเจ้าพระยานครน้อย ที่เกิดจากเจ้าจอมมารดาปราง พระราชทานไปจากธนบุรีโดยมีพระราชโอรสติดไปในครรภ์ด้วย

เชื้อสายพระเจ้าตากที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อหากบฎในต้นรัชกาลที่ ๒ และไม่เกี่ยวข้องกับพระอินทรอภัยผู้ลักลอบติดต่อกับเจ้าจอม ล้วนรับราชการกันมาเป็นปกติ
พงศาวดารไม่ได้บันทึกว่าท่านเหล่านี้ทำอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ เข้าใจว่าก็คงรับราชการไปตามสายงาน มีลูกมีหลานเช่นเดียวกับตระกูลขุนนางอื่นๆ จนมีเชื้อสายมาจนถึงปัจจุบัน







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen พุธ, 4/7/2550 เวลา : 01:32  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10071

คำตอบที่ 232
       คืนนี้คงต้องพอก่อน

ขอบคุณ คุณหญิงและคุณติ๋ง เพื่อนต่างเวปที่เล่นเรื่องประวัติศาสตร์เป็นงานอดิเรกได้กรุณาให้แนวทางเรื่องสาแหรกพระเจ้าตากแก่ผม

สบายใจได้หรือยังครับป๋านิธิว่าตระกูลของท่านลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองไม่ได้สาบสูญไปตามแรงดาบที่ฟันคอในช่วงสองรัชกาล

จบไปสองสาแหรกสายตรง คือ กรมขุนอินทรพิทักษ์
กรมขุนรามภูเบศร์ ยังติดการบ้านป๋านิธิอีกสองตระกูล แล้วจะหาเวลามามุดมุ้งคนรุ่นทวดของทวดย้อนหลังไปอีก 250ปี คุ้ยหาว่าใครมีลูกกับใครมาเล่าให้ฟังครับ


แต่คืนนี้ผมสะใจเรื่องท้าวกังสดารทองมอญนี่คาดไม่ถึงว่าจะคุ้ยตระกูลย้อนหลังได้ชนอายุ 300ปีตั้งแต่ครั้งรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เจ้าฟ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิต เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ เลย


ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสนุกครับ ถ้าเราขัดขืนหาความจริงจับผิดเรื่องโกหกที่เขายัดหัวให้ท่องจำตอนเด็กๆจะยิ่งเป็นเรื่องสนุกยิ่งนัก




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.82 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 01:55  IP : 125.24.35.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10073

คำตอบที่ 233
       สุดยอด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก H_Rayong 125.26.248.56 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 02:20  IP : 125.26.248.56   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10074

คำตอบที่ 234
       สุดยอดๆๆครับอาจารย์ ไม่ถามต่ออีกแล้วครับ ขอบพระคุณมากๆครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก นิธิ 203.113.0.192 พุธ, 4/7/2550 เวลา : 09:46  IP : 203.113.0.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10080

คำตอบที่ 235
       ดีจริงๆครับมีต่ออีกเปล่าครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

BADDOG จาก BADDOG 58.10.84.49 อังคาร, 10/7/2550 เวลา : 13:37  IP : 58.10.84.49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10213

คำตอบที่ 236
       ขณะที่ผมอ่านพวศาวดารประวัติพระยาพิชัยดาบหักผมได้พบเรื่องหนึ่งที่เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีช

เป็นเรื่องที่เอาความฝันและเรื่องจริงมาประสานกันได้กินใจผมมากจนไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรฝัน

พอกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงผมเริ่มค้นหาสิ่งที่เป็นจริงในคลังข้อมูลของผมถึงกับอึ้งไปพักใหญ่

ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมกำลังมองข้ามประวัติศาสตร์ชิ้นใหญ่แบบเดินผ่านไปไม่รู้เลยว่าของชิ้นที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร

โชคดีมากที่ผมถ่ายรูปเอาไว้แล้วกลับมาดูอีกครั้งถึงกับตื้นตันในความบ้องตื้นของตัวเองว่าไม่ได้ทำการบ้านที่ดีพอ

ครั้งหน้าครับ ถ้ามีโอกาสผมจะเจาะประวัติที่แท้จริงของวัตถุชิ้นนี้

“ดาบนันทกาวุธ” ดาบคู่กับประวัติการกู้เอกราชของสยามถึงสองครั้ง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.60.33 พุธ, 11/7/2550 เวลา : 21:32  IP : 125.24.60.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10234

คำตอบที่ 237
       ลุศักราช 2133 เจ้าชายเมืองสองแควพระนามว่าพระนเรศทรงประกาศปลดปล่อยกรุงศรีอยุธยาไม่ขึ้นต่อหงษาหลังจากพระเจ้านันทบุเรงส่งมือสังหารมาหวังพระชนม์ชีพของพระองค์

ในกองทัพหน้าที่ต้องถ่วงเวลาทัพหลวงแปรที่ต้องอาญาให้ประหารจากการศึกที่เพี่ยงพล้ำให้ทัพเมืองแปรเข้าถึงแม่น้ำสะโต้งก่อนแผนจนต้องใช้พระแสงปืนต้นยิงสุระกรรมาอุปราชแปรเพื่อหยุดทัพนั้น พระมหาเถรคันฉ่องได้ขอบิณฑบาตรชีวิตไพร่พลขุนทหารเอาไว้โดยให้ไปเป็นตะพุ่นเลี้ยงช้าง

เจ้าแสนคนเลี้ยงช้างก็ยังระอุในเลือดนักรบที่เคยเป็นมา ดาบเหล็กน้ำพี้คู่กายที่ตีมากับมือช่างเหล็ก วิชาตีดาบที่สืบมาจากพ่อของพ่อหลายรุ่นก็ไม่ได้ดื่มเลือดพม่าอีกเลย







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.60.33 พุธ, 11/7/2550 เวลา : 22:11  IP : 125.24.60.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10235

คำตอบที่ 238
       เมื่อครั้งพระนเรศทรงออกศึกกับอังวะ ทัพอังวะมีมอญวิชาฝีมือผู้หนึ่งคุมหมู่ทลวงควันทัพหน้านามว่าสมิงมะสะเมิงเป็นผู้มีวิชาล่ำลือว่าออกรบไม่เคยแพ้ผู้ใด สมิงมะตะเมิงสร้างความเสียหายให้ทัพหน้าของพระนเรศหลายครั้งจนทรงคิดว่าจะจัดการกับมอญผู้นี้อย่างเด็ดขาด

ครั้งนั้นแสนคนเลี้ยงช้างก็ได้โอกาสกราบพระนเรศขณะที่ทรงมาดูโรงช้างว่าจะขอสู้ศึกอีกไถ่โทษขอออกรบเป็นหัวหมู่ทลวงควันอีกครั้งและขอปะทะโดยตรงกับหมู่ทะลวงควันของสมิงมะตะเมิงถ้าแพ้ขอถวายหัวในศึก

ครั้งนั้นดาบเหล็กน้ำพี้คู่นั้นของเจ้าแสนคนเลี้ยงช้างก็เด็ดหัวสมิงมะตะเมิงมาถวายพระนเรศได้สำเร็จ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.60.33 พุธ, 11/7/2550 เวลา : 22:28  IP : 125.24.60.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10236

คำตอบที่ 239
       พระนเรศจึงพระราชทานบรรดาศักดิ์ขุนแสนสะท้านศึกให้เหมือนเดิมตำแหน่งจาตุรงค์บาทเดินคู่ช้างศึกของพระองค์

ดาบคู่นั้นทรงพระราชทานชื่อว่า " ดาบนันทกาวุทธ " แปลว่าดาบที่สยบทหารของพระเจ้านันทบุเรง

นันทกาวุธและขุนแสนสะท้านศึกตำแหน่งจาตุรงค์บาทรับใช้พระนเรศวรราชาตลอดมาแม้กระทั่งครั้งทรงชนช้างกับพระเจ้าแปร นันทกาวุธและขุนแสนก็อยู่เคียงข้างช้างทรงกู้ชาติสยามจนหลุดพ้นพม่าจากอำนาจโดยเด็ดขาด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.60.33 พุธ, 11/7/2550 เวลา : 22:57  IP : 125.24.60.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10237

คำตอบที่ 240
       สืบมาภายหลังจากที่ สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา และทรงได้รับชัยชนะ ทำให้ พม่า ไม่กล้ารุกรานไทย เป็นเวลาเกือบ 200 ปี


หลังจากสิ้นรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรฯชื่อของขุนพระนายแสนศึกสะท้านได้สูญหายไปพร้อมกับ ดาบเหล็กน้ำพี้คู่ ที่ชื่อว่า.... “ดาบนันทกาวุธ”





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.60.33 พุธ, 11/7/2550 เวลา : 23:00  IP : 125.24.60.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10238

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,28 มีนาคม 2567 (Online 2335 คน)