WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เครื่อง YD-DI ในรถฟรอนเทียร์การ์ตูน ใส่คันเร่งมือได้หรือไม่ครับ
chotikan14
จาก Tik
IP:49.48.202.43

พุธที่ , 2/10/2556
เวลา : 07:34

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       -รถรุ่น YD-DI เครื่อง YD25TI อยากมีคันเร่งมือไว้ใช้ในกรณีคลานในน้ำท่วมครับ... หากท่านใดเข้าใจกลไกตัวนี้ ช่วยแนะนำวิธีและร้านที่ทำให้ได้ด้วยครับ

-ในแดชบอร์ด มีตำแหน่งพร้อมรูอยู่ตามรูปครับ

 แก้ไขเมื่อ : 2/10/2556 7:37:18






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  

คำตอบที่ 121
       พี่ครับแจ้งแก้ไขเป็นขับ4 ทำยังไงบ้างครับ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pom 4wd จาก pom 4wd 58.137.224.194 พฤหัสบดี, 4/9/2557 เวลา : 08:26  IP : 58.137.224.194   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45196

คำตอบที่ 122
       -รย.1 ขนส่งกำหนดความสูงวัดระดับที่ไฟหน้า(จำว่าม่เกิน 1.35ม.)ไม่ควบคุมน้ำหนัก เอกสารคือ

1.สมุด(ทะเบียน)รถตัวจริง
2.หลักฐานเจ้าของและผู้รับมอบอำนาจ
3.ใบเสร็จค่าอะไหล่หลักเช่น คาน,เกียร์,แหนบและอื่นๆ + ค่าแรงอู่ที่รับจ้าง
4.ภาพถ่ายรถที่ดัดแปลงแล้ว รูปด้าน(ตรง) หน้า/หลัง/ข้างซ้าย/ข้างขวา/ช่วงล่างหน้า/ช่วงล่างหลัง .....ให้เห็นแผ่นป้ายทะเบียนด้วย
5.หนังสือรับรองความมั่นคงแข็งแรงของวิศวกรผู้ตรวจสอบ+หลักฐานของวิศวกร

-ข้อ 4. ควรถ่ายเป็น 3 ชุด ให้วิศวกรเก็บไว้เอง 1 ชุด+หนังสือ(ของผมจัดข้อความเองเพื่อให้ครอบคลุมคำว่ายกสูงด้วย)ที่จะให้เขาเซ็นชื่อรับรอง หนังสือรับรองที่ลงชื่อแล้ว+ภาพถ่ายที่รับรองแล้ว คือนำยื่นขนส่ง ถ่ายเอกสารที่รับรองแล้วนี้ไว้อีก 1 ชุด เก็บไว้เองครับ

-รูปแนบคต.นี้คือค่าใช้จ่าย 127บาท คือค่าภาษีรายปีส่วนสุดท้ายก่อนเปลี่ยนอัตราจาก 900 เป็น 1050 ของ รย.3 .....รย.1 คิดว่าคงไม่มีรายจ่ายบรรทัดนี้ครับ

-ถ้าต้องต่อพรบ. ก็หาแถวขนส่ง ฟังเจ้าหน้าที่ขนส่งแจ้งก่อนครับ

-เอกสารมีสำเนาให้วิศวกรเก็บไว้ เพื่อให้เกียรติต่อเขา อย่าข้ามหรือคิดว่าจ่ายเงินแล้วเพราะคำรับรองไม่ใช่สินค้า วิศวกรเข้าใจว่ากำหนดระดับสามัญขึ้นไป ก็เหมือนระดับครูอาจารย์แล้ว ...ควรระวังมารยาทด้วยครับ

-เขียนคำขอที่ขนส่ง หรือหาแบบฟอร์มคำขอในเวป แล้วเขียนก่อนไปก็ได้ อย่าลืมกำหนดคำว่า"ยกสูง"ลงไปในใบคำขอด้วยเช่นกันครับ

------------------------------------------------

-เพิ่มข้อความว่าการขออนุญาตแก้ไขระบบรองรับน้ำหนัก และดัดแปลงจากขับ 2 ...เป็นขับ 4 เป็นหัวข้อที่จะถูกเข้มงวด เนื่องจากที่แล้วมา รถทั้งสูงและเตี้ย ถูกนำไปใช้งานแบบผิดปกติ คือมีส่วนหนึ่งที่เที่ยวกึ่งทำลายป่า และรถซิ่งประลองความเร็วในทางหลวง...มีผลเป็นเสียต่อส่วนรวมทั้ง 2 แบบ

-แต่กฎหมายยังไม่ปิด เพียงแต่จะถูกเข้มงวด ดังนั้นจึงขอให้เข้าใจสถานะก่อนเพื่อเตรียมตัวให้ดี ยังเป็นเรื่องที่ทำได้ ..เพียงแต่ยากขึ้นเรื่อยๆครับ




 แก้ไขเมื่อ : 4/9/2557 9:59:14

 แก้ไขเมื่อ : 4/9/2557 21:02:36





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik พฤหัสบดี, 4/9/2557 เวลา : 09:36  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45197

คำตอบที่ 123
       -รูปแนบคต.นี้....

-บน....เปลี่ยนสวิทซ์สปอตไล้ท์ ใหม่ คือต้องการสวิทซ์เพิ่ม จึงต้องจัดกันใหม่ ได้เพิ่มขึ้นอีก 1 ตัวเป็น 3 ...และแทนชุดแรกด้วย บน/ล่าง สำหรับสปอตไล้ท์ 2 (ไส้)ได้เข้าใจง่ายกว่า (เดิมเป็น ซ้าย/ขวา)ครับ

-ล่าง....ที่คอนโซลกลางมีตำแหน่งสวิทซ์ จึงวางสวิทซ์สำหรับ เปิด/ปิด ระบบปั๊มลม และอีกตัวเป็นสวิทซ์กดเรียก(กดเด้งคืน ไม่ค้าง นอกจากกดคา)ไว้เปิด(ไล่น้ำ)ในระบบ...สวิทซ์ 0n/off ของนิสสันไม่มีเหลือแล้ว จึงใช้ของเท่าที่หาได้ในบ้านไปก่อนครับ

-ยังนึกไม่ออกว่าจะวางรีเลย์สั่งงานไว้ตรงไหนเหมาะครับ.....

----------------------------------------

-เพิ่มข้อความว่า สวิทซ์สั่งงานปั๊มลมเปิด/ปิดระบบ+ปล่อยลมทิ้ง ใช้รวมในสวิทซ์ตัวเดียวได้ คือสวิทซ์เปิด/ปิดปัดน้ำฝนกระจกหลังของรถเทอราโน่วัน สวิทซืจะมี 2 จังหวะในตัวเดียวกันคือเปิด/ปิด และฉีดน้ำ แต่ผมไม่มีของและไม่อยากรอ จึงใช้ของที่มีอยู่แล้วครับ...


-------------------------------------------

-เพิ่มข้อความอีกว่า จะเปลี่ยนการสั่งงานปล่อยลมทิ้งเป็นอัตโนมตืแทน ส่วนสวิทซ์แมนน่วลว่าจะคงไว้กดเช็คครับ




 แก้ไขเมื่อ : 8/9/2557 17:00:18

 แก้ไขเมื่อ : 7/10/2557 18:30:26





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 27.55.0.174 ศุกร์, 5/9/2557 เวลา : 20:33  IP : 27.55.0.174   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45198

คำตอบที่ 124
      
-ติดตั้งโรลบาร์แล้วครับ...

-เป็นของเก่าที่ล้าสมัยไปแล้ว นำมาแก้เองเหลือเส้นเดียว ตัดให้เตี้ยลงด้วย 1 นิ้ว ส่งร้านทำหน้าแปลนใหม่ แล้วกลับมาติดตั้งเอง...

-รูปบน... ต้องหาวิธี ตามรูปคือเชื่อมลวดกับน็อตเพื่อดึงเข้าหารูหน้าแปลน ใส่แหวนสปริงกันหมุนตาม แต่ก็ขันแน่นสุดไม่ได้อยู่ดี เพราะลายเนอร์กับขอบกระบะ ไม่สนิท ถ้าขันเร่งมากจะกดลายเนอร์อาจแตกได้ เพิ่งได้รู้ตอนเจาะนั่นเอง...สรุปว่าติดตั้งยากครับ

-ชุดลากเรือยังรอขาที่ส่งตัด-พับ ยังไม่ได้ของ รอต่อไปก่อน เหลือถังลมใต้ท้องอีกรายการ และนาฬิกาในห้องโดยสาร เสนอเผื่อเป็นแนวทางได้บ้างเท่านั้นครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik ศุกร์, 12/9/2557 เวลา : 18:15  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45204

คำตอบที่ 125
      
-ชุดลากเรือ งานติดตั้งเสร็จแล้วครับ .....เหลืองานสายไฟยังรอไว้ทำรวมกับปั๊มลม...

-รูปแนบคต.นี้ ล้ออะไหล่ 35 นิ้ว กว้าง 11.5 นิ้ว ยังกว้างกว่าที่ตั้งใจไว้คือ10.5 นิ้ว เป็นของที่มีอยู่แล้วจึงต้องทนใช้ไปก่อน.../ ไม่ใส่กันชนก็ดูแปลกดีครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 16/9/2557 เวลา : 18:40  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45218

คำตอบที่ 126
      
-รวบรัดขั้นตอนทำ ข้ามมาถึงตอนตัดใส่ขายึดแชสซีเชื่อม และทำสีพาวเดอร์เสร็จ ก่อนติดตั้งครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 16/9/2557 เวลา : 18:43  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45219

คำตอบที่ 127
       -ยึดน็อตข้างละ 4 ตัว เป็นน็อตเบอร์12 เล็กไปหน่อย เนื่องจากยึดกับขากันชนเดิมซึ่งโปร่ง เจาะรูใหญ่เกรงจะมีผลเรื่องความแข็งแรงของหลัก ยังไม่ถึงกับมั่นใจในการกำหนดแบบนี้... ตัวที่ยึดกับคานแชสซีเบอร์14 ใหญ่กว่าหน่อยครับ

-ขอให้สังเกตว่าขาเหล็กส่วนที่พับไปเกาะแชสซีมีรอยเชื่อม คือขาเหล็กที่ตัดพับมา องศาไม่ได้ จึงต้องแก้ไขด้วยการตัดและเชื่อมติดใหม่ครับ

---------------------------------------------

-กรอบสีแดงเป็นน็อตตัวแรกของงานนี้ คือที่ขากันชนหลังมีรูอยู่แล้ว กำหนดน็อตเบอร์12 ก็เพราะเหตุขนาดรูน็อตนี้ด้วยครับ..

-เมื่อเป็นรูน็อตประจำรถ ซ้ายและขวาจึงเท่ากัน จึงใช้เป็นจุดหลัก แขวนน็อตตัวแรกก่อน แล้วจึงปรับระดับ(แหงน)จนพอใจจึงสร้างรูน็อตที่ 2และ3 ต่อไป (ศรสีเขียว) กรอบสีเขียว ยึดกับคานแชสซีใช้น็อตใหญ่กว่าหน่อย...ศรสีแดงชี้ขากันชน มีเนื้อเหล็กไม่เต็มความกว้างครับ

 แก้ไขเมื่อ : 17/9/2557 20:46:15





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 16/9/2557 เวลา : 18:52  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45220

คำตอบที่ 128
      
-ท่อไอเสีย , ล้ออะไหล่ ,ชุดลากเรือ และกันชนหลังเดิม มีระยะสัมพันธ์กันดีครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 16/9/2557 เวลา : 18:57  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45221

คำตอบที่ 129
      
-มีปลั๊กไฟด้วย ยังไม่ได้เดินสายไฟครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 16/9/2557 เวลา : 19:01  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45222

คำตอบที่ 130
      
-งานถังลมใต้ท้อง ยังคาดเวลาไม่ได้ เพราะยังไม่มีวี่แววขนาดถังที่ต้องการ อาจรอนานครับ...

-หวังว่าคงเป็นแนวทางได้บ้างขอบคุณครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 16/9/2557 เวลา : 19:05  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45223

คำตอบที่ 131
       -บนซ้าย.... ปลั๊กไฟ DC

-บนขวา... 7 PIN ผมต่อไฟทั้งหมด พ่วงจากอุปกรณ์ที่กำหนดไว้ ดังนี้
-กรอบสีเขียว PIN ใหญ่ ..ดิน /ลบ / ground ....กรอบสีแดง PIN อยู่กลาง ..ไฟ + ACC หรือไฟผ่านสวิทซ์สตาร์ท
-ที่เหลืออีก 5 PIN ...ไฟเลี้ยว L,R...ไฟสปอทไล้ท์ทำงานพร้อมกับดวงที่โรลบาร์....ไฟ(หรี่)...และไฟเบรคครับ

-ล่างซ้าย... ปลั๊กตัวผู้ ศรสีเขียวชี้มีบ่ารับเขี้ยวล็อค(ที่ฝา)

-ล่างขวา....สกรูล็อคทองเหลือง



 แก้ไขเมื่อ : 24/9/2557 18:28:45





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik จันทร์, 22/9/2557 เวลา : 19:28  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45232

คำตอบที่ 132
      
-บนซ้าย..ด้านหลังมีลูกยางให้ด้วย ..

-บนขวา... มีครอบช่อง ว้สดุเป็นพลาสติคเกรดดี

-ล่าง.....สปริงประคองสายไฟทำห่วงยกมาให้ด้วยครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik จันทร์, 22/9/2557 เวลา : 19:33  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45233

คำตอบที่ 133
       -บนซ้าย...ใช้ท่อหุ้มสายไฟ ทั้ง 2 อย่าง

-บนขวา... ตำแหน่งรีเลย์...สปอทไล้ท์หลัง และปั๊มลมใต้ท้องรถ อยู่ในเบ้าไฟท้าย R เจาะรู 4 มม. รูเดียวเพื่อยึดสกรูเกลียวปล่อย อีกตัวกอดกันเองครับ

-ล่างขวา...พ่วงไฟเลี้ยวและไฟ(หรี่) จากซ็อคเก็ตในเบ้าเดียวกัน โดยบัดกรีเกาะที่แจ็คเดิม ไม่ปลอกสายไฟเพื่อพ่วงครับ

-ล่างซ้าย...ตั้งฟิวส์ลอยอีก 1 ตัวอยู่กับแบตลูกแรก...เมนนี้ใช้รวมไม่แยกเพราะฟิวส์ลอยถ้าตั้งมาก ในที่สุดมักจะจำไม่ได้เอง เขียนแผนผังอุปกรณ์เพิ่ม นานๆก็หาสมุดไม่เจออีก หรือมีเงื่อนไข ....แบบครั้งนี้เป็นการลองเพื่อหาผลระยะยาวที่อาจดีกว่าครับ

 แก้ไขเมื่อ : 23/9/2557 8:38:09





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik จันทร์, 22/9/2557 เวลา : 19:43  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45234

คำตอบที่ 134
      
-บนซ้าย,ขวา....ศรสีแดงชี้(ตีนตุ๊กแก)ใช้กาวสองหน้า อยู่ตจว.หาได้แต่สีขาว เข็มขัดรัดท่อแบบมีพุกหรือหมุดในตัว....เป็นวัสดุ เท่าที่หาได้ บางครั้งก็ดีหรือเหมาะ บางครั้งก็ต้องใช้ไปก่อน หรือสรุปว่าแล้วแต่หาของได้ ดังนั้นการ DIY สายไฟแบบนี้ ส่วนที่ยากคือหาของ ซึ่งรวมถึงสายไฟซึ่งมีสี/คาดหรือจุดเพื่อบอกรหัสใช้งาน /ขนาด ด้วยครับ

-ล่างซ้าย...ชุดปั๊มลม...ศรสีฟ้าคือไฟสั่งงานจากสวิทซ์ on/off ในห้องโดยสารมารอที่ตำแหน่งที่คาดว่าจะติดตั้งถังลม...ศรสีม่วง คือสายไฟรับคำสั่งของสวิทซ์แรงดันถังลมไปหารีเลย์ มารอเช่นกัน ...กรอบสีเขียวขดสายไฟไว้รอและมัดขั้วสานไว้ชั่วคราวเพื่อเช็คระบบก่อนครับ

-ล่างขวา...ชุดลากเรือ...มีรูเกลียวใน เพื่อรับน็อตหัวประแจหกเหลี่ยม เพื่อล็อคกันไม่ให้สั่น(เกิดเสียง) และอาจกันหายได้ระดับหนึ่งด้วย...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 23/9/2557 เวลา : 08:54  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45235

คำตอบที่ 135
       -รหัสสายไฟรถต่างแบรนด์ก็ไม่เหมือนกัน เช่นไฟ(หรี่)ของนิสสันจะเป็นพื้นชมภูคาดเส้นน้ำเงินฯ ส่วนฮอนด้าจะเป็นลายจุดสีแทนแถบหรือเส้น สายไฟเก่าที่มากับรถประกอบนอกคุณภาพและรหัสสี ดีกว่ารถประกอบในประเทศมาก ถ้าอายุเกิน 10 ปี อาจต่างกันถึง100/40ได้ครับ

-ศรสีแดงชี้ท่อหุ้มสายไฟซึ่งใช้มาก สิ่งที่คู่กันคือเทปพันสายไฟอย่างดี(ที่สุด)ที่เหมาะกับงานรถยนต์ ของ 3M อย่างดีจะหาซื้อง่ายกว่า ม้วนใหญ่กว่าปกติและอยู่ในตลับพลาสติค อย่างดีจะไม่ทิ้งรอยกาวและไม่คลายหรือหลุดง่ายครับ

-ศรสีฟ้าเป็นหัวแร้งบัดกรีโคนแจ็ค(กันหลุดเนื่องจากดึง) ต่อสายไฟ....ศรสีเขียวเครื่องเป่าลมร้อนสำหรับท่อหดงานต่อสายไฟ...กรอบสีแดง เป็นคีมเพื่อบีบแจ็คกับสายไฟ(ไม่ใช่หางปลา)ครับ

----------------------------------------

-การบัดกรีสายไฟที่ฦโคนแจ็ค เหตุผลคือแจ็คที่มีลิ้นเพื่อเข้าซ็อคเก็ต ทั่วไปตามร้านอะไหล่ยนต์ตัวละ 1 บาท เนื้อทองเหลทองบางกว่าของที่อยู่ในรถยนต์เวลาบีบจะคลายตัวได้บ้างเพราะอ่อนกว่า และขาของแจ็คทำขนาดเดียว เมื่อนำมาใช้กับสายหลายขนาด ถ้าสายทองแดงใหญ่ โอกาสหลุดก็มากขึ้น ส่วนสายเล็กมากขาแจ็คบีบไม่เต็มก็เช่นกัน เวลาสายหลุดในงานที่ยังไม่เสร็จ ไล่หากันกว่าจะเจอสาเหตุอาจกินเวลามาก จึงตัดสินใจบัดกรีที่โคนแจ็คเพิ่มเป็นตัวช่วยทุตัวครับ

-การต่อสายด้วยการบัดกรี เพราะใช้สายเก่าสภาพดี เพิ่อลดขนาดปมที่จะเกิดขึ้นเมื่อใช้แบบมัดแล้วพันด้วยเทป ซึ่งจะมีปมใหญกว่าสายหลายเท่า เป็นปัญหาในการใช้ท่อหุ้ม ซึ่งมักเลือกขนาดพอดีครับ..

-การบัดกรีสายเก่า หรือสายที่ใหญ จะมีปัญหาคือติดยาก เพื่อให้งานเร็วขึ้น ตัวช่วยคือ "น้ำกรด" ซึ่งมีขายตามร้านเคหะภํณท์ เป็นขวดเหมือนทินเน่อร์ ราคาถูกกว่า ...นำสายไฟปลอกแล้วรอบัดกรีจุ่มส่วนทองแดงลงไป จะสะอาดทันทีครับ....



 แก้ไขเมื่อ : 24/9/2557 6:50:11





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 23/9/2557 เวลา : 09:26  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45236

คำตอบที่ 136
       -รูปแนบคต.นี้....ล่าง...ดวงไฟ 12V สำเร็จรูปดวงเล็ก ปีที่แล้วไม่ใส่กันชนหลังใช้ส่องแผ่นป้ายทะเบียน ต่อมาใส่กันชนจึงไม่ได้ใช้ แต่ไม่ได้ถอดออกจากรถ ...วันนี้ลองเลื่อนลงมาจากใต้พื้นกระบะ มาเกาะขาไฟส่องป้าย L พ่วงไฟจากจุดนี้ด้วยครับ...

-บน....มาดูผลตอนกลางคืน กล้องถ่ายแสงเกินจริงไป คือของจริงจะสว่างน้อยกว่า สังเกตจากไฟท้ายรถไฟ(หรี่) over มองเหมือนไฟเบรค หมายถึงจริงๆสว่างพอๆกับไฟส่องป้ายทะเบียน หรือกำลังดี ตำแหน่งเกาะก็พอดีเช่นกัน เป็นการตกแต่งที่เหมือนให้ความสำคัญกับปลั๊กท้ายรถนี้ ทั้งๆที่เป็นการสแตนบายเท่านั้น ..

-ใช้ดวงไฟดวงเดียว....เป็นไอเดียนะครับ

---------------------------------------------------

-เพิ่มข้อความว่า....ดวงไฟสำเร็จรูปดวงเล็กที่ส่องปลั๊กไฟท้ายรถ เกาะกับขาไฟส่องป้าย L ขาล่าง โดยเติมเป็นสกรูเกลียวปล่อย+พุกพลาสติค ผมเปลี่ยนตัวล่างนี้เป็นน็อต 5 มมแทน โดยใส่ตัวเมียแทนพุกพลาสตืต ขันแค่พอตึงสำหรับยึดไฟส่องป้าย ถ้าเร่งแน่น ดวงไฟเป็นพลาสติคจะแตกได้ครับ

-จากนั้นจึงใช้แหวนรอง ใส่ไฟสำเร็จรูป ใส่แหวน+ตัวเมีย และขันคึงกว่าตัวเมียชั้นแรกครับ

-สรุปคือใช้น็อตแทนสกรู เพื่อขันยึดของ 2 ชิ้น ขันเกลียวตึงไม่เท่ากันได้ครับ

 แก้ไขเมื่อ : 24/9/2557 19:38:19

 แก้ไขเมื่อ : 25/9/2557 12:41:11





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik พุธ, 24/9/2557 เวลา : 19:35  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45241

คำตอบที่ 137
       -ไฟส่องป้ายมี 2 ข้าง L + R และไฟล่องปลั๊ก รวมเป็น 3 ดวง ใช้หลอด 10W เท่ากันครับ...

-รูปแนบคต.นี้...บน เพิ่งมาเห็นในวันนี้ว่ากรอบนอกของไฟส่องป้ายยุบเนื่องจากความร้อนของหลอด 10W และดวงนี้เพิ่งเปลี่ยนไปไม่นาน...

-อะไหล่เทียมมักมีคุณภาพต่ำลงเรื่อยๆตามหลักชีวิตของผู้ผลิตในประเทศไทย ....

-หลอดไฟวัตต์น้อยๆเดี๋ยวนี้หายาก ตัวเช่นหลอดไฟหน้าปัทม์ 3W ไม่มีแล้ว มีแต่ 5W แต่รายการนี้ปัจจุบันมีหลอด LED มาแทน ปัญหาความร้อนเกิน จึงหมดไปครับ

-ล่าง.... ต้องบอกว่าโชคดีที่ยังหาซื้อหลอด 5W ได้ เป็นอะไหล่เก่าเก็บของร้านหนึ่ง ราคาหลอดละ 15 บาท จึงซื้อมาเปลี่ยนใหม่ทั้ง 3 หลอดครับ

--------------------------------------------

-เพิ่มข้อความว่า....

-ได้ลองไฟในตอนค่ำนี้แล้ว แสงลดลงนิดเดียว ไม่ใช่ครึ่งตามวัตต์ที่ลดลงครึ่งหนึ่ง ...สรุปผลคือใช้ได้ ไม่ได้ลองเรื่องผลความร้อนเมื่อเปิดนานๆ เพราะหลอดไฟวัตต์ต่ำกว่า 5W คงไม่มีแล้ว ถ้ายังร้อนเกินก็ต้องไปแก้ที่คุณภาพดวงโคม คือหาที่พลาสติคเนื้อดีกว่านีครับ

-แต่ขอแข้งว่าผมได้ลองหลอด12V ขนาดเท่าที่อยูในไฟฉายรุ่นเก่า ใส่ในไฟตาแมวรุ่นเก่าเช่นกัน ผลคือ 5W ร้อนมากจับไม่ได้ ลองเปลค่ยนเป็น 3 วัตต์ ก็ร้อนลดลงแต่ได้แค่แตะดูผลครับ....

-สิ่งที่ต้องการบอกคือหากใช้รถรุ่นเก่าที่ยังไม่มีหลอด LED เป็นทางออกใหม่ ก็ควรหาฤซื้อหลอด 5W ขนาดเดียวกับไฟเบรค และหลอด 3W ขนาดเล็กเท่าที่อยูตามเกจ์หน้าปัทฒ์รถรุ่นเก่าสำรองไว้บ้าง เพราะความร้อนเนื่องจากวัตต์สูง จะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ อะไหล่ที่หาซื้อได้ง่ายเช่น หลอดเล็ก 5W หลอดใหญ่ 10W ไม่ใช่กำหนดตามผู้ผลิตๆใช้วัตต์ตามเหมาะสม(พื้นที่ของช่องใส่หลอด/คุณภาพดวงโคม) หรือใส่หมวกยางสี เพื่อผลสบายตา และกระจายความร้อนของหลอดด้วย ซึ่งไม่ใช่หลักของอะไหล่ที่หาได้ในตอนนี้ครับ..



 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2557 19:26:53





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik ศุกร์, 26/9/2557 เวลา : 13:17  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45247

คำตอบที่ 138
      
-ลองด้วยหลอดไฟ 5W ร้อนมากจับไม่ได้ทั้งตัว ถ้าที่เลนส์นิ้วคงพองได้ อาจเป็นต้นเหตุไฟไหม้รถได้ ...

-ในรูปเป็น 3W ตัวเรือนพอจับได้ เลนส์ใช้นิ้วแตะๆพอได้ครับ...







ซื้อที่ไหนครับ หลอดแบบนี้ 0895130584วิท
จาก : thaphat(thaphat) 30/9/2557 18:27:18 [49.230.111.83]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik เสาร์, 27/9/2557 เวลา : 09:30  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45248

คำตอบที่ 139
       -วันนี้เข้าสายไฟชุดปั๊มลมในห้องโดยสารแล้ว ก็ทำงานปกติดีครับ

-ที่เหลือคือถังลมกับสวิทซ์แรงดันลม ต้องย้ายท้อไอเสียด้วยครับ

-รูปแนบคต.นี้ สวิทซ์กดติดปล่อยดับของนิสสันพัง คัวเตะสพานไฟภายในปลายแตกหัก จึงต้องเปลี่ยนใหม่ ยังไม่ได้ออกไปหาร้านเซียงกง หรือหน้าเวปซื้อขาย ไม่อยากรอจึงหาสวิทซ์บ้านหม้อกดติดปล่อยดับเหมือนกันมาใส่ไปก่อน ราคาตัวละ 20 บาท พอดูได้ครับ....

-------------------------------------

-เพิ่มข้อความว่า สวิทซ์กดสั่งปล่อยลมทิ้ง จะเปลี่ยนเป็นอัตโนมัติหลังปั๊มลมหยุดทำงาน ส่วนสวิทซ์อาจคงไว้เพื่อกดเข็คผลระบบครับ



 แก้ไขเมื่อ : 7/10/2557 18:33:16





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อาทิตย์, 28/9/2557 เวลา : 15:28  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45250

คำตอบที่ 140
      
-นาฬิกาหล่นพัง พอแกะซองใส่ออกเจอกาวร้อน หรือกาวช้าง ตามรูป มีรูสกรูด้วย รถผมซื้อมือสองมา 3 คัน เจอ ทั้ง 3 คัน อีกคันเป็นลำโพงทวีตเตอร์ อีกคัน เป็นพระแบบนั่ง .....ผมมักเรียกว่าประดับยนต์แบบกึ่งทำลายครับ...







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik จันทร์, 29/9/2557 เวลา : 12:31  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45251

คำตอบที่ 141
      
-คำถามในคต.ที่138 ขอตอบตรงนี้ เพราะในช่องจำกัดตัวอักษร คืออยากให้เข้าใจครับ...

-ชุดไฟ(ตาแมว) ตามในรูปซื้อที่ไทวัสดุครับ...

-เดิมใช้หลอดเกลียว 220V หรือไฟบ้าน ทางห้างเขานำมาลดราคา จึงซื้อไว้ มีหลายสี ผมเปลี่ยนหลอด DC 12V 3 และ 5 วัตต์เพื่อดูผล ...ข้อเสียคือคุณภาพพอใช้งานได้สมกับราคาถูก อีกข้อคือ ลำตัวโคมทั้งชุดยาวเกินไป และเวลาเปลี่ยนหลอดต้องถอด๙นส่วนซึ่งต่อกันด้วยเกลียว ทำให้ถ้าสายไฟจะไปบิดเป็นเกลียวที่สาย และอาจเป็นเหตุให้สายหลุดจากขุดเชื่อมทีท้ายได้ครับ

-อีกข้อคือต้องเจาะรูขนาดใหญ่ และความร้อนมาก เนื่องจากหลอดไฟเต็มพื้นที่กระบอกหรือช่องการระบายไม่มีๆแต่ทนได้แค่ไหนครับ

-รูปแนบคต.นี้ ผมเคยใช้ในรถ Jeep CJ (ศรสีแดง)สีเขียวเพื่อบอกสถานะ 4WD ส่วนสีเหลืองจำไม่ได้แล้ว ไม่ใช่ไฟเลี้ยวๆอยู่ในเรือนไมล์

-กรอบสีแดงคือสตาร์ทรถปกติ ส่วนกรอบสีเขียวคือ้เพื่อเข้า 4WD(แบบลม) หรือเปิดระบบด้วยกุญแจ ถ้าเป็นสวิทซ์จะผิดพลาดได้ง่าย หรือป้องกันการใช้ได้คือไม่ให้กุญแจ ก็ขับสองอย่างเดียวครับ





ขอบคุณครับ สำหรับที่ซื้อหลอดตาแมว หานานแล้ว ไม่รู้
จาก : thaphat(thaphat) 1/10/2557 13:36:08 [124.120.33.36]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 30/9/2557 เวลา : 20:53  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45252

คำตอบที่ 142
      
-ได้ถังลมมาใบหนึ่งครับ...

-เป็นอลูมิเนียม ขนาด 18 X 83 ซม. หนักเกือบ 14 กก. พอๆกับล้อเหล็กของร็อค 1 วง ในรูปสูงพอๆกับล้อ 35 นิ้ว และวางนอนในตำแหน่งที่เล็งไว้ข้างแชสซีหลัก ขนานกับถังน้ำมันครับ...

-ยาวกว่ากำหนด( 60 ซม.) จึงยังไม่แน่ใจว่าจะติดตั้งได้หรือไม่ ...จากนี้คงใช้เวลา เพราะงานแบบนี้เป็นงานที่ช่างไม่ค่อยอยากทำ คาดว่าต้องรอนัดหมายกันครับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik พุธ, 1/10/2557 เวลา : 18:30  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45255

คำตอบที่ 143
      
-เปลี่ยนแผนเป็นทำส่วนยึดถังลมกับแชสซีเอง เพื่อให้งานที่ร้านท่อไอเสียง่ายขึ้นเกี่ยวกับเวลาด้วย หมายถึงเสร็จภายในหนึ่งวันครับ...

-งานแบบนี้จะยุ่งยากที่สุดคือการหาของ แผนอาจเกิดเมื่อเห็นของเท่าที่หาได้ก่อน หมายถึงต้องไปดูวัสดุก่อนตัดสินใจครับ

-เหล็กรัดถังลมเข้ากับเหล็ก U ที่บากเป็นรูป V เพื่อรับส่วนโค้งของถ้ง คือวัสดุที่มีในท้องถิ่น ที่ใช้ 2 เส้นต่อฐานคือการแก้ปัญหาเรื่องขนาดที่กะเองว่าเล็กไปหน่อยครับ...

-ในรูปมีฐานเดียว อีกฐานเจาะรูไม่เหมือนกัน เพราะไปตรงกับส่วนโค้งของแชสซีพอดี(ตรงหูแหนบหลัง) อีกอย่างคือระยะจับไม่balance เพราะติดขัดเต้ารับตัวถังและระยะรูที่เหล็กยึด/ความสูงหรือติดใต้ท้องรถ ทำไปกะไปเพราะไม่มีความเชี่ยวชาญ ใช้ความพยายามเป็นเกียร์เดินหน้าครับ

-อย่างที่เคยแจ้งว่าผมพยายามเติม เพื่อหนีจุดที่ด้อยกว่าถ้าเปรียบเทียบ การทำงานแบบมีแรงกดดัน เป็นเรื่องท้ายทาย และทำให้เดินหน้า เพราะผมคำนึงเองว่าหยุดที่ตรงเสร็จพอใช้งานไม่ได้ เพราะเดิมพันในใจไว้เองครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik ศุกร์, 3/10/2557 เวลา : 22:05  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45260

คำตอบที่ 144
      
-รูปแนบคต.นี้....บนตำแหน่งฐานถังลมที่กำหนดไว้...ศรสีแดงกำหนดคงที่ไม่เลื่อน ...ศรสีเขียว เลื่อนได้ ผมกำหนดไว้ท้ายถังเพื่อแข็งแรงกว่า ช่วยรับแรงรัดของแคลมป์ จะเร่งแน่นที่ตัวสุดท้าย นอกนั้นจะแค่เร่งตึงครับ

-ล่าง....กรอบสีเขียว/แดง ยังไม่ได้ปรับองศาขนานกัน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik เสาร์, 4/10/2557 เวลา : 09:33  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45261

คำตอบที่ 145
      
-เหล็กฐาน U ทำบ่าเป็นรูป V ทำแบบกระดาษไปให้ร้านๆตัดด้วยแก๊ส คลาดเคลื่นหรือไม่เท่ากันบ้าง ต้องมาปรับใหม่ตามรูปบนซ้าย..

-บนขวา,ล่างซ้าย/ขวา.....ใกล้เคียงด้วยเครื่องเจียรมือเล็ก เหลือแต่งด้วยตะไบ/มือ เพื่อให้เรียบอีกหน่อย ก็คงพอใช้ได้...

-จากนั้นก็พ่นสี(เอง) งานนิดเดียวคงไม่ส่งทำสีพาวเดอร์ เพราะอยู่ไกล(บ้านโป่ง)...

-ทำตำแหน่งที่แชสซี เพื่อให้ช่างท่อไอเสียทราบ และถังลมเหมือนรูปคต.ที่144 ใส่ท้ายรถไปด้วย....

-เมื่อทำท่อไอเสียเสร็จจึงจะเริ่มงานเดินท่อลม+อุปกรณ์ควบคุมและงานสายไฟครับ......





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik เสาร์, 4/10/2557 เวลา : 09:45  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45262

คำตอบที่ 146
      
-ติดตั้งถังลมแล้วครับ....

-เร็วกว่าที่คิดไว้ .....ต่อไปก็ท่อลมทั้งระบบ...ไม่มีความรู้ก็อยากจ้างคนรู้เรื่อง แต่เกรงว่าถ้าช่างไม่เข้าใจความต้องการ หรือได้งานที่ใช้งานได้ดีแต่ไม่ถูกใจ จะเสียเวลาและความรู้สึกช่างด้วย จึงยังลังเลอยู่ครับ

-รูปแนบคต.นี้ ...ศรสีแดงชี้ ถุงมือเก่า(มาก)อุดปากถัง...ไม่มีความหมายใดๆครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik จันทร์, 6/10/2557 เวลา : 13:52  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45267

คำตอบที่ 147
       -น้ำหนักรวมขาประมาณ 18.5 กก. คาดว่ารวมวาวล์และอุปกรณ์ คงราวๆ 20 กก. / ถังถ้าไม่รั่ว คาดว่ารับแรงดันได้เกิน 1000 ปอนด์ เมื่อเทียบนน./ขนาดกับถังลมอลูมเนียมที่มีอยู่ทั่วไป.... แต่ชั้นต้นกำหนดว่าจะเก็บแรงดันลมที่ 150-200 ปอนด์ หรือประมาณ 10-15 บาร์( 1บาร์=14.5 ปอนด์) ตาม pressure switch ที่ไปดูมาซึ่งมี 10,15 บาร์ / เกลียวและขนาดรูที่ปากถัง เท่ากับถังลมเหล็กที่เห็นทั่วไปครับ....

-ถังลมใบนี้ผมซื้อจากร้านขายของเก่า โดยเขาต้องการขายตามน้ำหนัก กก.ละ 60 บาท.....ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง ได้ของก็ดีใจที่ไม่ต้องตะเวณหาต่อไปครับ

-ค่าเหล็กตัดเพื่อทำขา 4 ชิ้น 220 บาท, ค่าน็อต 4 ชุดๆละ 18 บาท , แคลมป์ขนาด 180 มม. 4 ตัวๆละ 22 บาท ,ค่าสีรองพื้นเหล็ก สีดำกึ่งด้าน 70 บาท,ค่าย้ายท่ออเสียและติดตั้งถัง 950 บาท .......

-รูปแนบคต.นี้ ศรสีแดงชี้ตำแหน่งที่หมายไว้ในใจ.... ซึ่งเดิมเป็นที่เก็บเครื่องมือ+แม่แรงรถ ...แต่ต้องเจาะรู กำลังไตร่ตรองอยู่ครับ

--------------------------------

-เพิมช้อความว่า ลืมความสามารถของปั๊มลม หมายถึงกำหนดการเก็บลมต้องขึ้นอยู่กับการบรรจุ หรือแรงดันลมของปั๊มด้วย ซึ่งยังไม่ทราบ แต่อย่างน้อยจะไม่ต้องกังวลเรื่องถังเรื่องไหวหรือไม่ ยกเว้นรั่วครับ

 แก้ไขเมื่อ : 9/10/2557 22:16:03





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik จันทร์, 6/10/2557 เวลา : 16:09  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45268

คำตอบที่ 148
       -ช่องใส่แม่แรงในคต.ที่ก่อน ที่พื้นมีรูอยู่แล้วเพื่อระบายน้ำมีลูกยางอุดไว้ เหมือนพื้นในห้องโดยสาร แต่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ถนัด เพราะเพรสเชอร์สวิทซ์ รูรับลมอยู่ใต้สวิทซ์ หมายถึงต้องเจาะใหม่ ตรงตำแหน่งสวิทซ์แรงดันนี้ ซึ่งจะต้องอยู่ริม ที่สุดก็หลีกไม่พ้น ช่องนี้ครับ....

-รูปแนบคต.นี้....เดินหน้าไปอีกหน่อย...

- ซ้ายคือโปโร....ยึดกับขาบันไดข้าง....

-กลางคือคอปเปอร์จ่ายลม....ใช้น็อตตัวเดียวกับที่ยึดถังลมกับแชสซี....

-ขวาคือห้วถังลมใส่ข้อต่อสี่ทาง...ต่อหัวที่1 ต่อกับถังลมแล้ว อีกสองทาง รอท่อลมมาเสียบ ส่วนสุดท้ายที่เห็นสีฟ้าคือปลั๊กอุดท่อพีวีซี ซึ่งจะใส่เช็ควาวล์ในหัวนี้ แต่ตอนนี้รอจุดเชื่อม เพราะท่อลมจากปั๊ม 7 ครีบ เล็กกว่าที่ใช้ทั่วไป จึงต้องกลับไปที่ร้านเพื่อหาตัวต่อต่างขนาดก่อนครับ

-จริงๆ อยากให้คอปเปอร์อยู่ซ้าย โปโรอยู่ขวา เกี่ยวกับใกล้ล้อ/โคลน....แต่เนื่องจากโปโรเลือกตัวใหญ่มา แข็งมาก คลายจนสุดแล้วก็ยังแข็ง ต้องใช้แรงดึงมาก จึงจำเป็นต้องยึดน็อต 2 ตัว แต่ตัวกลางไม่มีจุดยึดน็อต 2 ตัว ได้แต่ฝากกับขาถังลมน็อตตัวเดียว จึงไม่เหมาะ หมายถึงตามภาวะครับ

-เกจ์วัดแรงดัน ตั้งใจให้อยูที่ข้างขาโรลบาร์ แต่งานยังไปไม่ถึง ก็ยังไม่แน่ใจครับ

-สวิทซ์ปล่อยลม จะทำเป็นอัตโนมัติ ยังไม่รู้วิธี อาจต้องไปจบที่ร้านไดนาโมครับ

 แก้ไขเมื่อ : 29/10/2557 7:02:34





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik ศุกร์, 10/10/2557 เวลา : 18:49  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45272

คำตอบที่ 149
       -ชุดปั๊มลมในรถฟรอนเทียร์ ผมจัดทำแบบไม่มีความรู้จริงมาก่อน จับอุปกรณ์จากหลายสายพันธ์ จับมาวางให้ทำงานร่วมกันตามที่คาดคิด จากหลักการทั่วไป... ผืด/ถูก/ขาด/เกิน.... ดีที่เป็นงานไม่เสี่ยง เวลาไม่เป็นดังที่คาดการ ความเสียหายจึงไม่มากครับ...

-เรียนรู้จากเรื่องนี้หลายอย่าง.. อุปกรณ์ เช่นเข็ควาวล์ ใช้เกลียวต่างกันในชิ้นเดียวกัน / ประแจเบอร์แปลกกว่าที่ใช้ในรถ เป็นบางชิ้นเช่นโปโร ฯ

-เสียเวลาทั้งเปลี่ยนของ และรอผลเช่นความสามารถของปั๊มลม ไปมาก เช่นถังลมเก็บแรงดันได้เป็นพันปอนด์ แต่ปั๊มลม 7 ครีบ คือเท่าที่หาได้ ผลิดแรงดันไปเก็บได้ 90 ปอนด์ จากการทดลอง ไม่กล้าปล่อยนานกว่านั้น เพราะจากช่วง 70-90 ปอนด์สุดท้าย ใช้เวลาปั๊มนาน และเมื่อยุติผลทดลองที่ 90 ปอนด์ มอเตอร์และเสื้อปั๊มลม ร้อนมาก ได้แค่แตะๆดู เท่านั้น เกิดการเปลี่ยนของเพราะเหตุนี้ด้วยครับ....

-ที่รถผมคงสรุปที่เพรสเชอร์สวิทซ์ตัวเล็ก ซึ่งวงทำงานอยู่ที่ 40/60 ปอนด์ อาจตั้งแก่ได้อีกเล็กน้อย

-เมื่อถึงจุดตัดสินใจ....ก็ไม่แน่ใจว่าคุ้มหรือไม่กับงานมากมายและต้นทุนเกือบหมื่นบาท เมื่อเทียบกับการการพกปั๊มลมแบบพกพาทุนราวๆ สามพันบาท น้ำหนักเบากว่าปั๊ม 7 ครีบมากทนเปล่าไม่แน่ใจ หรือการอัดลมสักพันปอนด์เก็บไว้ใช้โดย เมื่อหมดจึงไปหาที่เติมใหม่ จะหาทีมีลมขนาดนั้นได้ยากหรือไม่ และค่าใช้จ่ายต่อครั้งเท่าไร .........สรุปก็ตัดสินใจไม่ได้ เพราะดูจะมีปัญหาทุกแบบ แต่แตกต่างกันครับ...

-งานยังไม่เสร็จ และอาจใช้เวลาในการปรับระบบ รวมถีงการติดตั้ง หมายถึงพอรีบ ก็จะกลับมาไม่พอใจเอง จึงอยากชลองานที่เพิ่งเข้าใจ เช่นต้องปรับโปโรให้สัมพันธ์กับเพรสเชอร์สวิทซ์/ปั๊มลม เพื่อไม่กังวลครับ

----------------------------------------

-พอมาถึงตรงนี้ ความคิดส่วนหนึ่งก็พอใจ แต่ควบคู่กับความกังวลบ้างด้วยครับ...

-รีโมทสาย-วิ๊นซ์,ถุงมือหนัง,เชือกสำหรับมัดของ,สาบพ่วงแบต,สายลมแบบขดเป็นสปริง,เหล็กท่อนหาง+สายไฟพ่วงชุดลากเรือ...อื่นๆอีกนิดหน่อย...คือปัญหาว่าจะไปเก็บที่ไหน รถแบบ 4ป. มีหลังเบาะหลังพอยัดหรือซุกได้ รถแบบแค็ปไม่มี....เรื่องกล่องหรือลังท้ายรถ ไม่เคยอยู่ในสมองเลย เพราะกลัวหายทั้งกล่อง และต้องการพื้นที่ในกระบะไว้เพื่อพร้อมบรรทุกมากกว่าอื่นใด... ยังนึกไม่ออก ขอให้นึกตามเพื่อเตรียมรับไว้เป็นการบ้าน งานของผมยังเป็นแผนที่ยังไม่รอบคอบครับ

 แก้ไขเมื่อ : 15/10/2557 22:16:47

 แก้ไขเมื่อ : 21/10/2557 6:33:36





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.203.68 พุธ, 15/10/2557 เวลา : 13:07  IP : 49.48.203.68   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45281

คำตอบที่ 150
      
-เรื่องปวดหัวในการคลำทางงานปั๊มลม มีต่อแกครับ

-วันวานเพิ่งตัดสินใจ จากการเก็บผลทดลอง ไปเปลี่ยนเพรสเชอร์สวิทซ์ ซื้อเกจ์สเกล 100 ปอนด์ ไม่ได้แจ้งว่าต้องขับรถไกล เพราะตอนเริ่มคลำหาคำตอบเรื่องอุปกรณ์ ร้านใกล้บ้าน หลายร้าน ไม่ให้เวลากับคนที่ไม่รู้แต่จะถามให้รู้ ต้องไกลบ้านจึงเจอร้านที่ให้เวลามาช่วยคิดแกะรายการของครับ..

-รูปแนบคต.นี้ บน...ให้ report ไว้ในคต.ก่อน มาจากการใช้เกจ์เก่า(มาก)ทดลองผล ในรูปคือ 6 บาร์ หรือประมาณ 90 ปอนด์ หืดชึ้นคอ จึงต้องสรุป ลดเพดานที่กำหนดไว้..0..

-ล่าง......ติดตั้งเกจ์ที่ซื้อมาใหม่ เช้านี้ลองอีกรอบ ผลคือ 100ปอนด์ใช้เวลาไม่นาน พอหยุดครื่อง(ยังไม่ได้ต่อเพรสเชอร์สวิทซ์) ไปจับมอเตอร์ปั๊มลมแค่อุ่น เสื้อสูบ 7 ครีบ ก็ไม่ร้อนมาก จับได้ ไม่ต้องปล่อย วันวานได้แค่แตะ...ปวดหัวเลยครับ

-ผมว่าจะหยุดพักก่อน ...ปวดหัวกับการทำงานแบบคลำ....จะกลับไปที่ 70/100 ปอนด์ ก็ต้องไปเปลี่ยนของอีก และเกจ์ ถือว่าใช้แล้ว ก็ต้องซื้อใหม่...ไม่ลบข้อความเดิม เพื่อให้เห็นเป็นปัญหาครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik พฤหัสบดี, 16/10/2557 เวลา : 08:40  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45283

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,19 มีนาคม 2567 (Online 1204 คน)