WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


โมดิฟาย ปรับแต่ง ปรับเปลี่ยน(ถามมา/ตอบไป).........ภาค 3
sorapol
จาก สอ
IP:125.24.3.213

อาทิตย์ที่ , 18/9/2554
เวลา : 22:05

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ต่อจากกระทู้เดิม เนื่องจากกระทู้เดิมเต็ม และได้มีการอัดย่อไฟล์ใหม่ให้เหลืออยู่หน้าเดียวแบบ"อ่าน"เท่านั้น ทำให้บางส่วนมีการเปลี่ยนแปลงและคลาดเคลื่อน แต่ได้ทำการแก้ไขแล้ว โดยจะมีการระบุในส่วนของเนื้อหาไว้ท้าย Link อย่างเช่น ค.ห.ที่ 1-50 เป็นต้น เพื่อให้ตรงกับเนื้อหาในเรื่องนั้นๆ

Link ต่างๆ ที่ผ่านมาดังนี้ครับ

การวางเครื่องTD27turbo ชนเกียร์ไดฮัทสุ Rocky
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/2902.shtml

การวางเครื่องวีทาร่า G16A ชนเกียร์เดิม 1300 พร้อมกับผลการใช้งานต่างๆ
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/2902.shtml (ค.ห.ที่ 91 เป็นต้นไป)

การดัดแปลงคอมแอร์ต่างรุ่นใส่กับเครื่องดีเซล TD27/BD30 สำหรับการใช้งานหนัก
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/4454.shtml (ค.ห.ที่ 31-82)

การดัดแปลงวางแหนบยาวกับรถคาริเบี้ยนสำหรับการใช้งานหนัก
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/4454.shtml (ภาค 1)(ค.ห.ที่ 84 เป็นต้นไป)
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/4677.shtml (ภาค 2 ตอนจบ ค.ห.ที่ 2-43)

เล็กๆน้อยๆเรื่องการเทินเพลา
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/4677.shtml (ค.ห.ที่ 49-88)

การวางเครื่อง 3S-FE เกียร์ AUTO สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสบายและการใช้งานที่สะดวกสบาย
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/4677.shtml (ภาค 1 Introduction ยกเครื่องเก่าออก ค.ห.ที่ 159-203)
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/4865.shtml (ภาค 2 ตอนจบ ค.ห.ที่ 1-264)

แก๊สหัวฉีดกับเครื่องวีทาร่า G16A
การวางถังแก๊สใต้ท้องรถคาริเบี้ยนในขนาด 48 ลิตร และ 58 ลิตร
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/shtml/4865.shtml (ภาค 1 ค.ห.ที่ 284-376)
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/question.asp?page=1&id=5302 (ภาคจบ ค.ห.ที่ 1-117)

การโอเวอร์ฮอล์เครื่องวีทาร่า G16A 8 วาล์ว แบบคาร์บูเรเตอร์
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/question.asp?page=9&id=5302 (ค.ห.ที่ 255-553)

การวางเครื่องยนต์ 3RZ-FE 2700 ซีซี ชนเกียร์ธรรมดาไดฮัทสุ Rocky รุ่น 5 เกียร์
และการติดตั้งระบบแก๊สแบบหัวฉีด AC กับเครื่องยนต์ 3RZ-FE
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/question.asp?page=19&id=5302 (ภาค 1 Introduction ยกเครื่องเดิมสปอร์ตมายด์ออก ค.ห.ที่ 561- 630)
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/question.asp?page=22&id=5302 (ภาค 2 วางเครื่องและชนเกียร์ ในบอดี้ซูซูกิสปอร์ตมายด์ ค.ห.ที่ 631 เป็นต้นไป)

ชิมลาง G16A SinglePoint 8V หัวฉีดเดี่ยว ในซูซูกิคาริเบี้ยน
และการวางถังแก๊สใต้ท้องขนาด 58 ลิตร
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/question.asp?page=48&ID=5302 (ตั้งแต่คำตอบที่ 1416-1517)

Sporty อยากเย็น
การแปลงคอมแอร์โตโยต้าใส่เครื่อง G13B หัวฉีด
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/question.asp?page=52&id=5302
(ตั้งแต่คำตอบที่ 1548-1601)

การแปลงคอมแอร์โตโยต้าใส่เครื่องวีทาร่า G16A
http://www.weekendhobby.com/offroad/suzuki/question.asp?page=54&id=5302
(คำตอบที่ 1604-1658)

ในแต่ละ Link อาจจะมีคำถามต่างๆสอดแทรกพร้อมกับแนวทางปัญหาต่างๆก็ลองติดตามกันไปเรื่อยๆได้ครับ


 แก้ไขเมื่อ : 13/8/2556 20:58:44

 แก้ไขเมื่อ : 8/3/2557 0:39:30

 แก้ไขเมื่อ : 8/3/2557 0:47:37

 แก้ไขเมื่อ : 23/5/2557 21:11:38

 แก้ไขเมื่อ : 31/1/2561 9:29:05

 แก้ไขเมื่อ : 31/1/2561 9:32:31






จะติดต่อได้อย่างไงครับ อย่ากย้ายถังแก้สลงใต้ท้องอะครับ ถัง58
จาก : asia 222(asia 222) 7/10/2556 14:17:57 [27.55.18.136]
เบอร์ผม 0909618894 ครับ
จาก : asia 222(asia 222) 7/10/2556 14:19:37 [27.55.18.136]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  
21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  
41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  

คำตอบที่ 31
       มุมมองด้านหลังอีกจุดหนึ่งครับ แบบภาพรวมครบเครื่องของด้านหลังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่ยึดถังแก๊ส ถังน้ำมัน คานหลัง แหนบ โตงเตง และโช้ค
(ดูกันหลายๆมุมครับ)







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.8.128 พุธ, 9/11/2554 เวลา : 14:21  IP : 125.24.8.128   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15212

คำตอบที่ 32
       ขอเบอร์ติดต่อหน่อย ของ ผม 0817747190 อยู่ปราจีนบุรีจะขอคำปรึกษา



081-754-5376 ครับ ปรึกษาได้ตามสะดวกครับ
จาก : สอ(sorapol) 12/11/2554 10:57:09 [125.24.21.194]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ดาบชา จาก ดาบชา 125.25.79.110 พฤหัสบดี, 10/11/2554 เวลา : 15:47  IP : 125.25.79.110   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15236

คำตอบที่ 33
       (ตอบคุณ thekem)
ถ้าน้ำสุง 1 เมตร เทิร์นเพลายกสูงกับยางประมาณเท่าไหร่ถึงวิ่งได้ครับ ปีหน้าจะเอาแตะเอียไปลงรถให้หมด ปีหน้าน้ำท่วมที่ไหนจะไปลุยช่วย

ตอบ จริงๆแล้วระดับความสูงของน้ำประมาณ 1 เมตรนี้ ถ้าลำพังแค่ยางซัก 31 นิ้ว ก็พอได้ครับแต่ตัวรถอาจจะต้องมีความสูงนิดนึงเพื่อที่น้ำจะได้ยังไม่เข้ารถ แต่ถ้าไม่ซีเรียสเกี่ยวกับน้ำเข้ารถ(อันที่จริงแล้วคาริเบี้ยนน้ำก็เข้ารถง่ายอยู่แล้วโดยเฉพาะเวลาฝนตกหนักๆ) ก็ลุยเข้าไปได้เลยครับ เพียงแต่รื้อพวกพรมออกไปให้หมดก่อนเวลาทำความสะอาดจะได้ง่ายดาย แต่เวลาวิ่งลุยน้ำแบบยาวๆลึกๆอาจจะไม่สบายเท่ากับยางไซส์โตๆ

แต่ถ้าจะให้สบายขึ้นมาอีกหน่อย ขั้นต่ำก็คงจะต้องเป็นยาง 33 นิ้วสำหรับการลุยน้ำท่วมที่จะสบายขึ้นมากอีกระดับหนึ่ง เพราะทั้งเรื่องของความสูงของตัวรถที่จะโย่งมากขึ้นไปอีก(เพราะจะต้องสูงเพื่อใส่ยาง 33 นิ้วให้ได้) หน้ายางที่กว้าง น้ำหนักยางที่ได้ สุดท้ายก็จะทำให้น้ำหนักของรถโดยรวมทั้งหมดมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิม สามารถที่จะวิ่งลุยน้ำลึกๆได้ดีกว่ายางขนาด 31 นิ้ว
แต่ถึงกระนั้นก็อย่าลืมว่า ยาง 33 นิ้วนี้ก็จะมีผลในด้านลบสำหรับการใช้งานแบบทั่วไปในระยะยาวด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบลูกปืนล้อ การสึกหรอของเพลาข้าง และเฟืองท้าย ตลอดจนการลงทุนที่มากกว่า เพราะจะต้องมีการเซ็ตระบบเฟืองท้ายใหม่ด้วยเพื่อให้เหมาะสมกับขนาดยางที่ใช้อยู่ (ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่อง 3S ก็ตาม)

แต่ถ้าจะให้เป็นค่ากลางแบบพอสมควรระหว่าง 31 นิ้วกับ 33 นิ้ว ก็คงต้องเป็นยาง 32 นิ้วครับ(32X11.5) ซึ่งก็จะทำให้รถรับภาระหนักที่น้อยกว่าการใส่ยางขนาด 33 นิ้ว(33X12.5) แต่ก็ยังคงมากกว่า 31 นิ้ว(31X10.5)อยู่ดีครับ และเน้นให้ตัวรถมีความสูงนิดหน่อยเพื่อให้เหมาะกับการลุยน้ำท่วมครับ เพียงเท่านี้ก็เอาไปลุยน้ำท่วมได้แล้วครับ

ส่วนยางขนาด 35 นิ้ว คงไม่แนะนำเพราะจะโอเวอร์โหลดจนเกินไปสำหรับช่วงล่างเดิม

ส่วนในกรณีที่ต้องการลุยแบบสูงกว่า 1 เมตรขึ้นไป(อาจจะประมาณ ครึ่งประตูของคาริเบี้ยน) คงจะต้องมีการเซ็ตรถมากกว่านี้ขึ้นไปอีกครับ เช่น
- การติดตั้งท่อสน็อคเกิ้ลให้อยู่สูงขึ้นไปในระดับหลังคารถ
- การซีลระบบป้องกันน้ำให้กับระบบไฟของเครื่องยนต์ เช่น ยาซิลิโคนตามเบ้าสายหัวเทียน กะลาจานจ่าย เป็นต้น เพราะระบบไฟของเครื่องเบนซินค่อนข้างไวต่อความรู้สึกกับความชื้นครับ
- กล่อง ECU ปกติควรจะติดตั้งไม่ให้ต่ำกว่าแนวคอนโซลหน้าอยู่แล้วครับ
- ส่วนเรื่องการต่อท่อไอเสียให้อยู่สูงหนีน้ำขึ้นมา อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ แต่ถ้าอยากจะสบายใจก็ต่อให้มันสูงขึ้นมา
- อุปกรณ์ภายในรถที่เป็นพวกพรม และแผงข้างประตูพยายามถอดออกให้หมด จะได้ไม่เสีย เน่า

ส่วนสเปคของเครื่อง 3S เกียร์ออโต้กับขนาดยางและเฟืองท้าย มีดังนี้
1.ยาง 31 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบเดิมและเสริมเอา หรือแหนบยกแบบ 2-3 นิ้วก็ได้)+เฟืองเดิม+สโลว์เดิม
2.ยาง 32 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบยก 3-4 นิ้ว)+เฟืองเดิม+สโลว์ 1000 (หรือสโลว์เดิมก็ยังพอได้ แต่ปลายอาจจะเริ่มอืดหน่อย)
3.ยาง 33 นิ้ว (แบ่งเป็น 2 กรณี)
- ยาง 33 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบยก 3-4 นิ้ว)+เฟืองเดิม+สโลว์ 1000 (วิธีนี้ยังคงวิ่งได้แต่อืดนิดนึง ปลายไม่ค่อยไป และกินน้ำมัน/แก๊สพอสมควร)
- ยาง 33 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบยก 3-4 นิ้ว)+เฟือง 8.39+สโลว์เดิม (วิธีนี้เหมาะสมหมดทั้งต้นและปลาย กินน้ำมัน/แก๊สตามสเปคเครื่องยนต์ เพราะระบบส่งกำลังเหมาะสม ไม่โหลดเครื่องยนต์ครับ)




โหวความรู้ทั้งนั้นขอบคุณมากครับ คงเอายาก 31 ก่อนครับ มีเงินลงช่วงล่างเยอะค่อยคิด 33 เพราะเน้นวิ่งทางดำ เพราะยังเรียนอยู่ครับ
จาก : thekem(thekem) 12/11/2554 16:27:41 [58.9.149.223]
สูตร 31 + ยกพวกนี้จะแก้ปัญหาเดิมได้ไหมครับ เรื่อง วิ่ง 60-80 มีเสียงดังหน่ะครับด้วยแหนบอันเก่ามันล้าไปดัดมายังไม่ได้เสริม เลยคิด
จาก : thekem(thekem) 12/11/2554 16:29:43 [58.9.149.223]
คิดว่ามันอาจจะดังเพราะแหนบมันรับเครื่องใหม่ไม่ไหวแล้วทำให้เพลาหรืออะไรมันมีปัญหาดังหน่ะครับ ถ้าไม่ใช่ก็จะได้ทำใจไว้ก่อนจะได้ไปแก้
จาก : thekem(thekem) 12/11/2554 16:30:36 [58.9.149.223]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.21.194 เสาร์, 12/11/2554 เวลา : 12:30  IP : 125.24.21.194   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15261

คำตอบที่ 34
       (ตอบคุณ thekem)
ถ้าน้ำสุง 1 เมตร เทิร์นเพลายกสูงกับยางประมาณเท่าไหร่ถึงวิ่งได้ครับ ปีหน้าจะเอาแตะเอียไปลงรถให้หมด ปีหน้าน้ำท่วมที่ไหนจะไปลุยช่วย

ตอบ จริงๆแล้วระดับความสูงของน้ำประมาณ 1 เมตรนี้ ถ้าลำพังแค่ยางซัก 31 นิ้ว ก็พอได้ครับแต่ตัวรถอาจจะต้องมีความสูงนิดนึงเพื่อที่น้ำจะได้ยังไม่เข้ารถ แต่ถ้าไม่ซีเรียสเกี่ยวกับน้ำเข้ารถ(อันที่จริงแล้วคาริเบี้ยนน้ำก็เข้ารถง่ายอยู่แล้วโดยเฉพาะเวลาฝนตกหนักๆ) ก็ลุยเข้าไปได้เลยครับ เพียงแต่รื้อพวกพรมออกไปให้หมดก่อนเวลาทำความสะอาดจะได้ง่ายดาย แต่เวลาวิ่งลุยน้ำแบบยาวๆลึกๆอาจจะไม่สบายเท่ากับยางไซส์โตๆ

แต่ถ้าจะให้สบายขึ้นมาอีกหน่อย ขั้นต่ำก็คงจะต้องเป็นยาง 33 นิ้วสำหรับการลุยน้ำท่วมที่จะสบายขึ้นมากอีกระดับหนึ่ง เพราะทั้งเรื่องของความสูงของตัวรถที่จะโย่งมากขึ้นไปอีก(เพราะจะต้องสูงเพื่อใส่ยาง 33 นิ้วให้ได้) หน้ายางที่กว้าง น้ำหนักยางที่ได้ สุดท้ายก็จะทำให้น้ำหนักของรถโดยรวมทั้งหมดมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิม สามารถที่จะวิ่งลุยน้ำลึกๆได้ดีกว่ายางขนาด 31 นิ้ว
แต่ถึงกระนั้นก็อย่าลืมว่า ยาง 33 นิ้วนี้ก็จะมีผลในด้านลบสำหรับการใช้งานแบบทั่วไปในระยะยาวด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบลูกปืนล้อ การสึกหรอของเพลาข้าง และเฟืองท้าย ตลอดจนการลงทุนที่มากกว่า เพราะจะต้องมีการเซ็ตระบบเฟืองท้ายใหม่ด้วยเพื่อให้เหมาะสมกับขนาดยางที่ใช้อยู่ (ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่อง 3S ก็ตาม)

แต่ถ้าจะให้เป็นค่ากลางแบบพอสมควรระหว่าง 31 นิ้วกับ 33 นิ้ว ก็คงต้องเป็นยาง 32 นิ้วครับ(32X11.5) ซึ่งก็จะทำให้รถรับภาระหนักที่น้อยกว่าการใส่ยางขนาด 33 นิ้ว(33X12.5) แต่ก็ยังคงมากกว่า 31 นิ้ว(31X10.5)อยู่ดีครับ และเน้นให้ตัวรถมีความสูงนิดหน่อยเพื่อให้เหมาะกับการลุยน้ำท่วมครับ เพียงเท่านี้ก็เอาไปลุยน้ำท่วมได้แล้วครับ

ส่วนยางขนาด 35 นิ้ว คงไม่แนะนำเพราะจะโอเวอร์โหลดจนเกินไปสำหรับช่วงล่างเดิม

ส่วนในกรณีที่ต้องการลุยแบบสูงกว่า 1 เมตรขึ้นไป(อาจจะประมาณ ครึ่งประตูของคาริเบี้ยน) คงจะต้องมีการเซ็ตรถมากกว่านี้ขึ้นไปอีกครับ เช่น
- การติดตั้งท่อสน็อคเกิ้ลให้อยู่สูงขึ้นไปในระดับหลังคารถ
- การซีลระบบป้องกันน้ำให้กับระบบไฟของเครื่องยนต์ เช่น ยาซิลิโคนตามเบ้าสายหัวเทียน กะลาจานจ่าย เป็นต้น เพราะระบบไฟของเครื่องเบนซินค่อนข้างไวต่อความรู้สึกกับความชื้นครับ
- กล่อง ECU ปกติควรจะติดตั้งไม่ให้ต่ำกว่าแนวคอนโซลหน้าอยู่แล้วครับ
- ส่วนเรื่องการต่อท่อไอเสียให้อยู่สูงหนีน้ำขึ้นมา อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ แต่ถ้าอยากจะสบายใจก็ต่อให้มันสูงขึ้นมา
- อุปกรณ์ภายในรถที่เป็นพวกพรม และแผงข้างประตูพยายามถอดออกให้หมด จะได้ไม่เสีย เน่า

ส่วนสเปคของเครื่อง 3S เกียร์ออโต้กับขนาดยางและเฟืองท้าย มีดังนี้
1.ยาง 31 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบเดิมและเสริมเอา หรือแหนบยกแบบ 2-3 นิ้วก็ได้)+เฟืองเดิม+สโลว์เดิม
2.ยาง 32 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบยก 3-4 นิ้ว)+เฟืองเดิม+สโลว์ 1000 (หรือสโลว์เดิมก็ยังพอได้ แต่ปลายอาจจะเริ่มอืดหน่อย)
3.ยาง 33 นิ้ว (แบ่งเป็น 2 กรณี)
- ยาง 33 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบยก 3-4 นิ้ว)+เฟืองเดิม+สโลว์ 1000 (วิธีนี้ยังคงวิ่งได้แต่อืดนิดนึง ปลายไม่ค่อยไป และกินน้ำมัน/แก๊สพอสมควร)
- ยาง 33 นิ้ว+ยกสูงแบบเทินเพลา(โดยใช้แหนบยก 3-4 นิ้ว)+เฟือง 8.39+สโลว์เดิม (วิธีนี้เหมาะสมหมดทั้งต้นและปลาย กินน้ำมัน/แก๊สตามสเปคเครื่องยนต์ เพราะระบบส่งกำลังเหมาะสม ไม่โหลดเครื่องยนต์ครับ)




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.21.194 เสาร์, 12/11/2554 เวลา : 12:30  IP : 125.24.21.194   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15262

คำตอบที่ 35
       สวัสดีครับคุณสอ ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามกระทู้ของคุณเป็นประจำครับ ซึ่งนับว่าประสบการณ์ของคุณสอที่พ้นผ่านไม่ธรรมดาจริงๆครับ วันนี้ผมรบกวนขอความคิดเห็นจากคุณสอสักเรื่องหนึ่งครับ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า...วันหนึ่ง ผมไปเดินเชียงกงหาชิ้นส่วนรถ แต่บังเอิญหันไปเจอเครื่องยนต์ตัวนี้ครับ "3S-GE ฝาดำขับหลัง" ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่สดๆจาก Lexus Alteza VVT-i คู่ Dual ทั้งฝั่งไอดี-ไอเสีย ซึ่งน่าจะมีแรงบิดในรอบต่ำเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า 3S-FE พร้อมกับม้าสูงสุดถึง 210 ตัว จริงหรือเปล่าครับ (ทางร้านเขาโฆษณามา) พร้อมกับค้าตัว 5-6 หมื่นบาทแล้วแต่การเลือกใช้เกียร์

ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ และเครื่องเดิมซูซูกิที่ใกล้จะกลับบ้านเก่าของมันเต็มที ทำให้ผมสนใจอย่างมากกับการนำ "Beam ฝาดำ" มาร่วมทุกข์ร่วมสุข ด้วยมิติหน้าตา แครง-กรองน้ำมันเครื่อง มันจะสามารถเข้ากับซูซูกิของชาวเราได้ไหมครับคุณสอ

ปล.รถผมซูกิ จิมนี่(ซามูไร) คานกว้าง แหนบใต้เพลาครับ





เดี๋ยวตอบให้ครับ
จาก : สอ(sorapol) 13/11/2554 10:02:12 [125.24.27.172]
ติดตามชมอยู่ครับ อิอิ
จาก : jimkona(jimkona) 13/11/2554 13:57:34 [124.122.68.223]
แวะมาดูอีกที ตัวนี่แรงจริง ไรจริง สนใจจริงๆครับ
จาก : jimkona(jimkona) 16/11/2554 22:35:38 [115.87.123.63]
อ่า...เดี๋ยวตอบให้ครับ พอดี 3 วันที่ผ่านมาเครือข่าย net ล่มไปครับ เพิ่งจะเข้ามาเล่นได้
จาก : สอ(sorapol) 17/11/2554 9:23:09 [125.24.22.72]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jimkona จาก nuew 124.120.53.85 เสาร์, 12/11/2554 เวลา : 14:41  IP : 124.120.53.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15263

คำตอบที่ 36
       อีกจั๊กรูปครับ





เดี๋ยวมาตอบให้ครับ
จาก : สอ(sorapol) 13/11/2554 10:03:37 [125.24.27.172]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jimkona จาก nuew 124.120.53.85 เสาร์, 12/11/2554 เวลา : 14:42  IP : 124.120.53.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15264

คำตอบที่ 37
       สวัสดี ครับ พี่ สอ ผมกำลังจะตัดสินในหารถ Suzuki caribian ใช้งานอยู่ครับ แต่ติดอยู่ตรงที่ผมไม่สามารถขับรถที่เป็นเกียร์ธรรมดาได้ครับ ขับเป็นแต่เกียร์ Auto ครับ วัตถุประสงค์คือใช้งานทั่วไปธรรมดา ใช้ 4x4 บ้างนิดหน่อย ครับ ไม่ทราบว่าง พี่สอ สามารถที่จะ Set รถให้ผมได้หรือเปล่าครับรบกวนพี่สอช่วยตอบที่ครับ และถ้าทำได้จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ครับ (รถผมหามาให้เองครับ) พอดีได้อ่านถึงผลงานของพี่สอ เลยสนใจครับ และอีกอย่างคืนอยู่ไม่ไกลกันครับ ผมอยู่ตรงสะพานพระราม 5 ปากทางเข้าวัดสังฆทานเองครับ รบกวนพี่สอตอบด้วยครับ ถ้าเรื่องราคาเป็นความลับก็ขอให้ตอบกลับที่ Mail นี้นะครับ Pramoch_l@yahoo.com ขอขอบคุณมากครับ
โมทย์



รับทราบครับ เดี๋ยวจะตอบเป็นเจ้าๆให้นะครับ พอดี net เพิ่งจะเล่นได้
จาก : สอ(sorapol) 17/11/2554 9:30:39 [125.24.22.72]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pramoch_l จาก โมทย์ 175.176.220.7 พุธ, 16/11/2554 เวลา : 10:00  IP : 175.176.220.7   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15361

คำตอบที่ 38
       (ตอบคุณ nuew)
วันนี้ผมรบกวนขอความคิดเห็นจากคุณสอสักเรื่องหนึ่งครับ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า...วันหนึ่ง ผมไปเดินเชียงกงหาชิ้นส่วนรถ แต่บังเอิญหันไปเจอเครื่องยนต์ตัวนี้ครับ "3S-GE ฝาดำขับหลัง" ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่สดๆจาก Lexus Alteza VVT-i คู่ Dual ทั้งฝั่งไอดี-ไอเสีย ซึ่งน่าจะมีแรงบิดในรอบต่ำเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า 3S-FE พร้อมกับม้าสูงสุดถึง 210 ตัว จริงหรือเปล่าครับ (ทางร้านเขาโฆษณามา) พร้อมกับค้าตัว 5-6 หมื่นบาทแล้วแต่การเลือกใช้เกียร์

ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ และเครื่องเดิมซูซูกิที่ใกล้จะกลับบ้านเก่าของมันเต็มที ทำให้ผมสนใจอย่างมากกับการนำ "Beam ฝาดำ" มาร่วมทุกข์ร่วมสุข ด้วยมิติหน้าตา แครง-กรองน้ำมันเครื่อง มันจะสามารถเข้ากับซูซูกิของชาวเราได้ไหมครับคุณสอ

ปล.รถผมซูกิ จิมนี่(ซามูไร) คานกว้าง แหนบใต้เพลาครับ

ตอบ จะเริ่มต้นด้วยอะไรดีล่ะครับ......
เริ่มจากสเปคของเครื่องยนต์คร่าวๆก่อนแล้วกันนะครับ

Redtop Specifications (เครื่องฝาแดงขับหน้า)
VVT-I = Variable Valve Timing - Intelligent Intake cam is VVT-I enabled
Aerodynamic volume displacement (cc) = 1998
Piston bore vs stroke (mm*mm) = 86.0*86.0
Compression ratio = 11:1
Rod pin diameter = 22mm
Rod big end bore = 51mm
Rod big end width = 21mm
Rod lendth to center = 138mm
The highest output (ps/rpm) = 200/7,000
Largest torque (kg-m/rpm) = 21.0/6,000
Injector size = 315cc
Cylinder head chamber compression = 33-34cc
Buckets/lifters = 31mm
Intake Valve Diameter: 34.5mm
Exhaust Valve Diameter: 29.5mm
Transmission speed change ratio
1st gear = 3.285
2nd gear = 1.960
3rd gear = 1.322
4th gear = 1.028
5th speed = 0.820
Retreat = 3.153
Deceleration ratio = 4.176
Helica LSD

Greytop Specifications (เครื่องฝาเทาขับหน้า)
VVT-I = Variable Valve Timing - Intelligent Intake cam is VVT-I enabled
Aerodynamic volume displacement (cc) = 1998
Piston bore vs stroke (mm*mm) = 86.0*86.0
Compression ratio = 11:1
Rod pin diameter = 22mm
Rod big end bore = 51mm
Rod big end width = 21mm
Rod lendth to center = 138mm
The highest output (ps/rpm) = 180/6,600
Largest torque (kg-m/rpm) = 20.5/6,000
Injector size = 315cc
Cylinder head chamber compression = 33-34cc
Buckets/lifters = 31mm
Intake Valve Diameter: 34.5mm
Exhaust Valve Diameter: 29.5mm
Only came in Automatic Transmission configuration

Blacktop Specifications (เครื่องฝาดำขับหลัง)
VVT-I = Variable Valve Timing - Intelligent
Intake and exhaust cam is VVT-I enabled
Aerodynamic volume displacement (cc) = 1998
Piston bore vs stroke (mm?mm) = 86.0?86.0
Compression ratio = 11:1
Rod pin diameter = 22mm
Rod big end bore = 51mm
Rod big end width = 21mm
Rod lendth to center = 138mm
The highest output (ps/rpm) = 210/7,800
Largest torque (kg-m/rpm) = 21.6/6,400
Injector size = 365cc
Cylinder head chamber compression = 33-34cc
Buckets/lifters = 31mm (auto)
Buckets/lifters = 33mm (manual)
Intake Valve Diameter: 34.5mm
Exhaust Valve Diameter: 29.5mm

ข้อมูลดังกล่าวที่แจ้งมานี้ จะเป็นเครื่องในตระกูล 3S ทั้งหมด เพียงแต่ว่า ทั้งหมดที่กล่าวมาจะอยู่ในสายพันธุ์ BEAMS ซึ่งมีความพิเศษตรงที่มีการนำระบบ VVT-i มาใช้ร่วมกับระบบของเครื่องยนต์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด ในทุกๆรอบเครื่องที่ทำงาน ซึ่งก็จะแตกต่างไปจากเครื่อง 3S ธรรมดาทั่วไป

แต่ว่า...ตัวเลขข้อมูลเชิงวิชาการต่างๆเหล่านี้ มันไปเกี่ยวอะไร?? หรือบอกอะไร??ที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันกับรถที่เราจะนำมาวาง นั่นก็คือ "ซูซูกิคาริเบี้ยน"

***เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อครับ***



O_o จัดจ้านน สุดๆ
จาก : Jimkona(Jimkona) 18/11/2554 2:43:21 [124.121.250.80]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.22.72 ศุกร์, 18/11/2554 เวลา : 00:19  IP : 125.24.22.72   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15394

คำตอบที่ 39
       จากสเปคดังกล่าวที่แจ้งไป ผมจะตัดรายละเอียดที่ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจต่อบุคคลทั่วๆไป หรือเป็นศัพท์ทางช่าง รวมถึงข้อมูลที่ซ้ำกันของเครื่องทั้ง 3 รุ่น และก็รวมทั้งสิ่งที่ไม่มีองค์ประกอบต่อการดัดแปลงวางในรถคาริเบี้ยน ให้เหลือแต่เพียงสิ่งที่สำคัญ ดังนี้ครับ

ตัวที่ 1 เครื่องฝาแดงขับหน้า
Redtop Specifications
VVT-I = Variable Valve Timing - Intelligent Intake cam is VVT-I enabled
Aerodynamic volume displacement (cc) = 1998
Piston bore vs stroke (mm*mm) = 86.0*86.0
The highest output (ps/rpm) = 180/6,600
Largest torque (kg-m/rpm) = 20.5/6,000

ตัวที่ 2 เครื่องฝาเทาขับหน้า
Greytop Specifications
VVT-I = Variable Valve Timing - Intelligent Intake cam is VVT-I enabled
Aerodynamic volume displacement (cc) = 1998
Piston bore vs stroke (mm*mm) = 86.0*86.0
The highest output (ps/rpm) = 180/6,600
Largest torque (kg-m/rpm) = 20.5/6,000

ตัวที่ 3 เครื่องฝาดำขับหลัง
Blacktop Specifications
VVT-I = Variable Valve Timing - Intelligent Intake and exhaust cam is VVT-I enabled
Aerodynamic volume displacement (cc) = 1998
Piston bore vs stroke (mm?mm) = 86.0*86.0
The highest output (ps/rpm) = 210/7,800
Largest torque (kg-m/rpm) = 21.6/6,400

ซึ่งในสเปคที่เหลืออยู่นี้ ก็ยังคงมีส่วนที่เหมือนกัน และก็แตกต่างกันไปอยู่อีกเล็กน้อย แต่ก็ต้องยกมาเป็นรายละเอียดหลัก เพราะจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำมาใช้พิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่กับการวางในรถซูซูกิ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.32.101 ศุกร์, 18/11/2554 เวลา : 12:18  IP : 125.24.32.101   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15422

คำตอบที่ 40
       ถ้าจะดูให้เห็นหน้าค่าตากันขึ้นมาชัดเจนอีกหน่อยในแต่ละรุ่นเครื่อง พร้อมแปลงภาษาทางเทคนิคเครื่องยนต์ให้ง่ายต่อความเข้าใจ
ก็เริ่มตั้งแต่ตัวแรก นั่นก็คือ

1. เครื่องฝาแดงขับหน้า (Redtop) ผลิตขึ้นมาในปี 1997
ข้อมูลทางเทคนิค(แบบเข้าใจง่ายๆ)
- เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แบบวางขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า
- ระบบวาล์วแปรผัน(VVT-i) ด้านไอดีเพียงด้านเดียว
- ขนาดความจุเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี
- กระบอกสูบXช่วงชัก คือ 86X86 มม.
- แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า/6,600 รอบ
- แรงบิดสูงสุด 20.5 กก.ม./6,000 รอบ
- อัตราทดเฟืองท้ายสแตนดาร์ดจากโรงงานคือ 4.176





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.46.172 ศุกร์, 18/11/2554 เวลา : 21:27  IP : 125.24.46.172   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15426

คำตอบที่ 41
       ตัวต่อมา

2. เครื่องฝาเทาขับหน้า (Greytop) ผลิตขึ้นมาในปี 1997 เหมือนกันแต่อยู่คนละบอดี้
ข้อมูลทางเทคนิค(แบบเข้าใจง่ายๆ)
- เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แบบวางขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า
- ระบบวาล์วแปรผัน(VVT-i) ด้านไอดีเพียงด้านเดียว
- ขนาดความจุเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี
- กระบอกสูบXช่วงชัก คือ 86X86 มม.
- แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า/6,600 รอบ
- แรงบิดสูงสุด 20.5 กก.ม./6,000 รอบ

**เครื่องยนต์ตัวนี้ดูๆแล้วแทบจะเหมือนกันทุกอย่างกับตัว Redtop ที่ได้กล่าวไป**





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.46.172 ศุกร์, 18/11/2554 เวลา : 21:41  IP : 125.24.46.172   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15427

คำตอบที่ 42
       และตัวสุดท้าย

3. เครื่องฝาดำขับหลัง (Blacktop) ถูกผลิตขึ้นมาในปี 1998
ข้อมูลทางเทคนิค(แบบเข้าใจง่ายๆ)
- เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แบบวางตามยาว และระบบขับเคลื่อนแบบล้อหลัง
- ระบบวาล์วแปรผัน(VVT-i) ทั้งด้านไอดี และด้านไอเสีย
- ขนาดความจุเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี
- กระบอกสูบXช่วงชัก คือ 86X86 มม.
- แรงม้าสูงสุด 210 แรงม้า/7,800 รอบ
- แรงบิดสูงสุด 21.6 กก.ม./6,400 รอบ
- ระบบเกียร์มีทั้งแบบออโต้ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 เกียร์ (6 Speed)

**พอมาถึงตัวนี้จะเริ่มมีอะไรที่ค่อนข้างแตกต่างไปจาก 2 ตัวแรกที่กล่าวมาในข้างต้น พอสมควร**






ปูเสื่อรอชม ครับ
จาก : jimkona(jimkona) 19/11/2554 10:30:53 [124.120.182.48]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.46.172 ศุกร์, 18/11/2554 เวลา : 22:08  IP : 125.24.46.172   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15428

คำตอบที่ 43
       น้ำลดลงยังครับคุณสอ



ลดลงไปพอสมควรครับ แต่เวลาขึ้นสูงสุดก็ยังเยอะอยู่ครับ
จาก : สอ(sorapol) 21/11/2554 21:18:36 [125.24.12.196]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

phet KCB จาก เพชร KCB 223.207.162.25 เสาร์, 19/11/2554 เวลา : 10:30  IP : 223.207.162.25   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15434

คำตอบที่ 44
      
(จับเข้ามารวมหมวดหมู่กันใหม่)

1. เครื่องฝาแดงขับหน้า (Redtop) ผลิตขึ้นมาในปี 1997
- เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แบบวางขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า
- ระบบวาล์วแปรผัน(VVT-i) ด้านไอดีเพียงด้านเดียว
- ขนาดความจุเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี
- กระบอกสูบXช่วงชัก คือ 86X86 มม.
- แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า/6,600 รอบ
- แรงบิดสูงสุด 20.5 กก.ม./6,000 รอบ
- อัตราทดเฟืองท้ายสแตนดาร์ดจากโรงงานคือ 4.176

2. เครื่องฝาเทาขับหน้า (Greytop) ผลิตขึ้นมาในปี 1997 เหมือนกันแต่อยู่คนละบอดี้
- เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แบบวางขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า
- ระบบวาล์วแปรผัน(VVT-i) ด้านไอดีเพียงด้านเดียว
- ขนาดความจุเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี
- กระบอกสูบXช่วงชัก คือ 86X86 มม.
- แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า/6,600 รอบ
- แรงบิดสูงสุด 20.5 กก.ม./6,000 รอบ

3. เครื่องฝาดำขับหลัง (Blacktop) ถูกผลิตขึ้นมาในปี 1998
- เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แบบวางตามยาว และระบบขับเคลื่อนแบบล้อหลัง
- ระบบวาล์วแปรผัน(VVT-i) ทั้งด้านไอดี และด้านไอเสีย
- ขนาดความจุเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี
- กระบอกสูบXช่วงชัก คือ 86X86 มม.
- แรงม้าสูงสุด 210 แรงม้า/7,800 รอบ
- แรงบิดสูงสุด 21.6 กก.ม./6,400 รอบ
- ระบบเกียร์มีทั้งแบบออโต้ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 เกียร์ (6 Speed)

เราลองยกมาเปรียบเทียบรวมๆกันทั้ง 3 ตัวในเบื้องต้นนี้ จะเห็นว่า โดยพื้นฐานของระบบเครื่องยนต์แทบจะเหมือนกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ขนาดความจุของซีซีเครื่องยนต์ ความโตของกระบอกสูบ ระยะช่วงชัก หรือแม้กระทั่งแรงม้าสูงสุด แรงบิดสูงสุดของทั้ง 3 ตัวนี้ก็ไม่แตกต่างกัน(สำหรับผมนะครับ) ซึ่งในจุดนี้อันที่จริงแล้วถ้าเราดูตามตัวเลขแรงม้าอาจจะเห็นว่า ตัว Redtop กับ Greytop มันจะมีแรงม้าที่ด้อยกว่าตัว Blacktop อยู่พอสมควรแต่อย่าลืมว่า การที่ตัว Blacktop มันมีม้ามากกว่าตัวอื่นก็ต้องดูรอบเครื่องที่ระบุไว้ในด้านหลังด้วยเพราะได้มีการแจ้งรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน ซึ่งตามข้อมูลได้ระบุว่า เครื่อง 2 ตัวแรกมี 180 ม้าที่ 6,600 รอบ แต่ตัวหลังนี้มี 210 ม้า.....ซึ่งก็จริงๆครับ ม้ามีมากกว่า.......แต่....ที่ 7,800 รอบ ซึ่งก็แทบจะไม่แตกต่างกันเลยเพราะถ้าหากว่าเจ้าเครื่อง 2 ตัวแรกสามารถกวาดรอบขึ้นไปเป็น 7,800 รอบ ก็อาจจะได้แรงม้าที่ระดับเท่ากันก็เป็นได้ แต่ตามข้อมูลที่ได้ค้นหามาจากใน Google ทั่วไปก็แจ้งเป็นตัวเลขนี้กันทั้งหมด เหมือนกันหมด ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า มันเป็นเทคนิคทางด้านโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ หรือเจ้าระบบเครื่องยนต์ของตัว Blacktop มันมี VVT-i คู่ มันเลยสามารถกวาดรอบขึ้นไปได้สูงกว่าเหนือกว่าเพื่อนร่วมรุ่นของมันหรือเปล่าก็ไม่สามารถรู้ได้ครับ หรืออาจจะเป็น การแจ้งข้อมูลที่เป็นไปตามประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่เหมาะสมที่สุดของรุ่นนั้นๆ ณ รอบเครื่องที่เหมาะสมที่สุดโดยที่ให้แรงม้าได้สูงสุดเหนือกว่าเครื่องในสายพันธ์เดียวกันก็เป็นได้

ส่วนเรื่องแรงบิดเครื่องยนต์ก็เช่นเดียวกันกับแรงม้าครับ เพราะตัว Blacktop ก็ดูเหมือนว่าแรงบิดมากกว่านิดหน่อย แต่ก็อย่าลืมว่าใช้รอบเครื่องที่สูงกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอีกเช่นกัน

ดังนั้น จากการที่ทางร้านขายเครื่องได้โฆษณามาว่า 210 ม้า ก็คงไม่ผิดครับ เค้าไม่ได้โกหก
แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่า ทั้งเรื่องแรงม้าและแรงบิด ผมให้พอๆกันทั้งหมด 3 ตัว ไม่น่าจะแตกต่างกันมาก

แต่สิ่งที่จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนสำหรับตัว Blacktop ก็จะเป็นเรื่องของระบบ VVT-i คู่ และระบบขับเคลื่อนของมันที่แตกต่างจาก 2 ตัวแรกอย่างสิ้นเชิงอีกทั้งระบบเกียร์แบบธรรมดายังพ่วงด้วย 6 เกียร์อีกด้วย

(และจะกล่าวในลำดับต่อไป)




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.12.196 จันทร์, 21/11/2554 เวลา : 22:57  IP : 125.24.12.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15487

คำตอบที่ 45
       รถ ลุยน้ำมาควรเช็ค+ควรทำอะไรบ้างครับ ......พ่อเอารถผมไปยกสูงแล้ว รอรับรถอาทิตย์นี้ แต่พ่อคงเอาไปใช้ทำงานก่อนคิดว่าต้องผ่านหรืออาจจะแช่น้ำ ประมาณมิดล้อ 34"-35" หน่ะครับ ไม่แน่ใจว่าจะใส่กี่นิ้ว และยกแค่ไหน เพราะพ่อไปจัดการเองหมด อดเลือกเลย ............

แล้ว ถ้าจะหัดงัดแงะหรือหัดซ่อมเองแบบค่อยเป็นค่อยไป ควรศึกษาเรื่องไหนเป็นอันดับต้นๆ แล้วอุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมี คืออะไรครับ คิดว่าอะไรทำเองได้มันก็น่าจะรู้สึกดีกว่าไปตามหาช่าง ซึ่งย่านผมหาอู่ทำคาริเบี้ยนยากหน่อย อันไหนทำเองได้เลยอยากทำและศึกษาไว้เพราะ ต้องเดินทางไกลบ่อยในอนาคต กรุงเทพ-เชียงราย

ขอบคุณครับ



ถ้าประหยัดสุดคงเป็น 31 นิ้วครับ จะได้ไม่สิ้นเปลืองเยอะ เดี๋ยวตอบให้อีกทีครับ
จาก : สอ(sorapol) 23/11/2554 11:39:28 [125.24.14.103]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

thekem จาก คิว 58.9.137.100 อังคาร, 22/11/2554 เวลา : 00:26  IP : 58.9.137.100   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15488

คำตอบที่ 46
       อยากจะทำรถ ซู สปอร์ตตี้ ครับ
รบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ ของ คุณสอ ครับ
จาก ชัยโรจน์ จ.เชียงราย



เบอร์โทรครับ 081-754-5376 สอบถามหรือปรึกษาได้ครับ ตามสบาย
จาก : สอ(sorapol) 23/11/2554 11:35:22 [125.24.14.103]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chairojt จาก chairojt 118.172.92.91 อังคาร, 22/11/2554 เวลา : 09:56  IP : 118.172.92.91   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15510

คำตอบที่ 47
       (ตอบคุณ thekem)
สูตร 31 + ยกพวกนี้จะแก้ปัญหาเดิมได้ไหมครับ เรื่อง วิ่ง 60-80 มีเสียงดังหน่ะครับด้วยแหนบอันเก่ามันล้าไปดัดมายังไม่ได้เสริม เลยคิดว่ามันอาจจะดังเพราะแหนบมันรับเครื่องใหม่ไม่ไหวแล้วทำให้เพลาหรืออะไรมันมีปัญหาดังหน่ะครับ ถ้าไม่ใช่ก็จะได้ทำใจไว้ก่อน

ตอบ วิ่ง 60-80 แล้วมีเสียงดังคงไม่เกี่ยวกับระบบแหนบนะครับ เพราะแหนบรับน้ำหนักโดยตรงในแนวขึ้นลง(แนวดิ่ง) และเสียงที่ว่านี้ก็จะเป็นลักษณะของการที่มีจุดหมุน ดังนั้นแหนบก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำงานเป็นแบบหมุน และอีกอย่างก็คือ ไม่ว่าแหนบจะรับน้ำหนักมากน้อยเพียงใด ไหวไม่ไหวก็คงไม่มีเสียงอีกเช่นกันครับ จะมีอย่างมากก็เสียงอ็อดๆแอ๊ดๆ จากการที่แผ่นแหนบเบียดกันเอง หรือเวลาที่เราเลี้ยวพวงมาลัยซ้ายสุดแล้วหักกลับมาทางขวาในทันทีก็มักจะมีเสียงครับอันเนื่องมาจากการแทงข้างของกระปุกพวงมาลัยเพาเวอร์ที่มีแรงดันมหาศาลแล้วทำให้ตัวแหนบมีการสไลด์บิดตัวนิดๆ เสียงจะดังก๊อกแก๊ก ก็แก้ด้วยการบีบแคลมป์รัดตัวแหนบให้แน่นๆมากขึ้น หรือหายางในหรือพลาสติกมารองตรงตัวแคลมป์รัดแหนบก็จะหายดังครับ

แต่ในกรณีที่ดังตามที่แจ้งมานี้ก็คงเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งที่หมุน ซึ่งได้แก่
- ระบบเพลากลางที่ตัดต่อมาได้เซ็นเตอร์หรือเปล่า หรือตัดมาสั้นไปทำให้ตัวสวมเลื่อนถอยออกมาเยอะใกล้หลุด
- การสึกหรอของตัวสปายเพลากลาง
- ยอยกากบาทเพลากลางตาย หรือจารบีเริ่มแห้ง ซึ่งก็จะรวมถึงยอยท้ายเกียร์ของเครื่อง 3S ด้วย
- ระดับองศาของเกียร์สโลว์ที่ดัดแปลงติดตั้งมาในตอนแรกหลังจากมีการวางเครื่องเสร็จอาจะไม่อยู่ในแนวที่เหมาะสมก็จะทำให้มีเสียงดังได้ครับ
เพราะทั้งหมดที่แจ้งมานี้ก็จะเข้าข่ายในย่านความเร็วที่ 60-80 กม./ชม.ทั้งหมด เนื่องจากในช่วงความเร็วดังกล่าวจะเป็นช่วงที่เริ่มมีความเร็วขึ้นไป ดังนั้นอะไรที่ไม่ได้เซ็นเตอร์ ไม่ตรงก็จะแสดงอาการให้เห็นครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.14.103 พุธ, 23/11/2554 เวลา : 12:16  IP : 125.24.14.103   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15547

คำตอบที่ 48
       (ตอบคุณคิว)
รถ ลุยน้ำมาควรเช็ค+ควรทำอะไรบ้างครับ ......พ่อเอารถผมไปยกสูงแล้ว รอรับรถอาทิตย์นี้ แต่พ่อคงเอาไปใช้ทำงานก่อนคิดว่าต้องผ่านหรืออาจจะแช่น้ำ ประมาณมิดล้อ 34"-35" หน่ะครับ ไม่แน่ใจว่าจะใส่กี่นิ้ว และยกแค่ไหน เพราะพ่อไปจัดการเองหมด อดเลือกเลย ............

ตอบ เช็คทุกจุดที่แนวระดับน้ำขึ้นมาถึง ซึ่งสังเกตได้จากขอบน้ำที่ขึ้นมาสูงสุดครับ ยกตัวอย่างเช่น ท่วมสูงในระดับครึ่งล้อถึงมิดยางก็อาจจะเช็คแค่เฟืองท้าย แต่ถ้าน้ำสูงขึ้นมาในระดับครึ่งประตูรถ ก็คงต้องเช็คทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
1.ระบบเครื่องยนต์
2.ระบบเกียร์ทั้งเกียร์หลักและเกียร์สโลว์
3.ระบบเฟืองท้ายหน้า/หลัง
4.ระบบไฟฟ้า

ผมแบ่งเป็น 2 กรณีแล้วกันนะครับ คือ
กรณีที่1 รถจอดทิ้งไว้เฉยๆแล้วน้ำท่วม
อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่า เราจะต้องรู้ถึงระดับน้ำที่ท่วมสูงสุดก่อนว่าสูงถึงไหน สมมติว่า สูงประมาณครึ่งประตูรถคาริเบี้ยน เราก็ต้องดูสภาพโดยรวมก่อนรวมถึงองค์ประกอบทุกอย่างของเครื่องยนต์ที่น้ำขึ้นมาถึง เช่น ไดสตาร์ท ไดชาร์จ ระบบน้ำมันเครื่อง ซึ่งน้ำก็อาจจะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้แต่ก็ควรจะเช็คไว้ก่อน จริงๆแล้วควรจะเริ่มตั้งแต่การถ่ายน้ำมันเครื่องดูก่อนว่ามีน้ำหรือเปล่า “ก่อน” ในที่นี้ก็คือ ก่อนจะสตาร์ทรถนะครับ เพราะถ้าหากว่าเราจอดทิ้งไว้เฉยๆ การทำงานของทุกส่วนในรถยนต์ก็ยังไม่มีการทำงานหมุน และธรรมชาติของน้ำเวลาเข้าไปอยู่กับน้ำมัน น้ำจะลงไปอยู่ที่ด้านล่างสุดของอ่างแคร้ง ซึ่งก็จะใกล้ๆกับบริเวณที่เราจะถ่ายน้ำมัน ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่า เวลาเราถ่ายน้ำมัน น้ำจะออกมาก่อน ดังนั้นจึงควรถ่ายทิ้งออกไปให้หมดก่อนที่จะเติมลงไปใหม่ ต่อมาก็เป็นพวกระบบเกียร์หลักและเกียร์สโลว์ และเฟืองท้ายหน้าหลังก็เหมือนกันครับ ถ้ายังไม่ได้ไปวิ่งใช้งานก็ถ่ายเปลี่ยนใหม่
พอใส่น้ำมันเสร็จก็ลองสตาร์ทเครื่องดู ถ้าสตาร์ทติดก็โอเคครับ แต่ถ้าไม่ติดก็ลองไล่ฉีดโซแนกซ์เพื่อไล่ความชื้นบริเวณไดชาร์จ ไดสตาร์ท ดูอีกที ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้ายังไม่ติดก็คงต้องเรียกช่างให้มาดูและไล่ระบบไฟเพื่อเช็คว่าไฟมาหรือไม่ในลำดับต่อไป

แต่ถ้าจอดทิ้งไว้แล้วน้ำสูงท่วมมิดเครื่องก็ควรจะถ่ายน้ำมันออกมา ลำดับต่อมาก็คงต้องไล่น้ำออกจากระบบเครื่องยนต์โดยการถอดหัวเทียนออกแล้วสตาร์ทไล่น้ำออกจากระบบเครื่องยนต์ แต่ถึงกระนั้นก็อาจจะไม่หมด 100% แต่ก็แก้ด้วยวิธีถ่ายน้ำมันเครื่องในรอบระยะเวลาที่ถี่ขึ้นกว่าแต่ก่อนครับ

กรณีที่ 2 เอาไปขับลุยน้ำท่วมมา
ในกรณีนี้จะเป็นการนำรถไปใช้วิ่งลุยน้ำแล้ว ซึ่งเครื่องยนต์จะทำงานและตีน้ำเข้ากันกับน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ เกียร์ หรือเฟืองท้ายหน้า/หลัง ก็จะต้องแก้เบื้องต้นโดยการถ่ายน้ำมันกันบ่อยๆอีกหลายครั้งล่ะครับ แถมยังต้องมีไอเหงื่อเกาะติดอยู่ตามชิ้นส่วนด้านบนของเครื่องยนต์ เสื้อเพลาด้วย นานไปก็จะเริ่มเกิดสนิม แต่ถ้าจะให้ชัวร์แบบ 100% เลยก็คงจะต้องผ่าเครื่องกันล่ะครับ ถอดรื้อพวกข้อเหวี่ยง ก้านสูบ ตลอดจนแคมชาฟท์ และวาล์วต่างๆ วิธีนี้ก็จบ 100% แต่แพงหน่อยเพราะก็เหมือนราคายกเครื่องครับ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ เพราะบางทีก็ขึ้นอยู่กับระดับน้ำที่เราวิ่งถ้าท่วมเสมอๆกับพวกซีลกันน้ำมันบางทีก็อาจจะไม่เข้าเพราะแรงกดของน้ำอาจจะยังไม่มากพอ แต่ถ้าท่วมสูงๆแบบมิดไฟหน้า มิดฝากระโปรง ก็จะมีแรงกดดันของน้ำมากขึ้น และระดับน้ำที่ยิ่งสูงก็จะยิ่งท่วมขึ้นไปด้านบนฝาครอบวาล์วก็จะมีความเสี่ยงจากด้านบนของเครื่องจากการที่น้ำจะเข้ามากขึ้นไปอีก (เรียกว่าท่วมตัวเครื่องยนต์แบบ 100%) รวมทั้งสามารถดันเข้าตามพวกปากซีลต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นพวกซีลกันน้ำมันต่างๆ ซีลคอหน้า คอหลัง ซีลท้ายเกียร์ ซีลหน้าแปลนต่างๆ เพราะต้องเข้าใจว่า ซีลกันน้ำมันพวกนี้มันทำหน้าที่กันน้ำมันจากข้างในออกมา และปริมาณน้ำมันข้างในก็มีอยู่ในสัดส่วนที่จำกัดเท่านั้นไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไร ซึ่งต่างจากปริมาณน้ำจากด้านนอกที่มีมากและแรงกดดันก็สูง ประกอบกับซีลก็ไม่ได้ทำหน้าที่กันน้ำจากข้างนอก โอกาสที่น้ำจะเข้าไปจึงมีสูง ยิ่งถ้าหากเป็นพวกเฟืองท้ายและเกียร์สโลว์ด้วยแล้วยิ่งโอกาสเข้าสูงเพราะอยู่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ แรงกดน้ำก็มีเยอะ
จริงๆแล้วไม่ควรลุยแบบลึกมากๆ อีกทั้งเครื่องยนต์รถก็ไม่ได้ออกแบบมาไว้สำหรับเป็นเครื่องที่ใช้ลุยน้ำอยู่ตลอดเวลา เพราะการลุยน้ำท่วมแบบนี้จะไม่เหมือนกับการเที่ยวป่าออฟโรดครับ เพราะออฟโรดจะเป็นลักษณะขึ้นเขาลงห้วย ลงบ่อโคลนยาวๆอาจจะซัก 100 เมตร ก็ถือว่า เป็นการลุยแบบชั่วครู่เท่านั้นแล้วก็ขึ้น หรือติดก็วินช์ขึ้นไป ติดอยู่ในบ่อโคลนลึกๆ 1 ชม.หรือชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าเล็กน้อย แต่ในสถานการณ์แบบน้ำท่วมนี้ลุยกันยาวนานครับ ลุยกันทั้งวันและก็หลายๆวัน บางคันยังต้องจอดทิ้งไว้แบบครึ่งคันแล้วพอเช้ามาก็ขับใช้งานต่อก็มีเยอะครับ ซึ่งแก้ไขเบื้องต้นก็คงจะต้องเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันอยู่บ่อยๆ เรื่อยๆ ถ้ายังคงต้องใช้รถอยู่ประจำนะครับ แล้วพอน้ำลงก็ค่อยรื้อเปลี่ยนและตรวจเช็คชิ้นส่วนต่างๆใหม่หมดอีกทีครับ

จากกรณีที่แจ้งไปทั้งหมดนี้จะเป็นลักษณะของน้ำที่ท่วมสูง แต่ถ้าหากว่าระดับน้ำที่ท่วมอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก เช่น ต่ำกว่าชายตัวถังรถด้านล่าง ก็อาจจะตรวจเช็คแค่ชุดเกียร์สโลว์ กับเฟืองท้ายหน้า/หลัง ลูกปืนล้อต่างๆ รื้อล้างตรวจเช็คใหม่หมดในจุดที่น้ำเข้าก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.14.103 พุธ, 23/11/2554 เวลา : 18:08  IP : 125.24.14.103   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15551

คำตอบที่ 49
       ส่วนเรื่องระบบไฟของเครื่องยนต์ ถ้าน้ำท่วมสูงไม่ถึง ก็ไม่ต้องไปยุ่งอะไรครับ แต่ถ้าท่วมถึงก็คงจะต้องตรวจเช็คเป็นจุดๆไป เช่น ชุดไฟรีเลย์ต่างๆ กล่อง ECU ในรถ ชุดกล่องฟิวส์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งโดยปกติแล้วการติดตั้งพวกรีเลย์นี้ควรจะให้ตั้งตรง บางที่ติดเอาง่ายๆก็ไปห้อยไปเกี่ยวคล้องไว้กับอะไรก็ได้ ซึ่งบางทีนอนบ้างหงายขึ้นมาบ้างก็จะทำให้น้ำเข้าง่าย ไม่พอยังน้ำขังอีกต่างหาก พอนานไปก็เกิดสนิม ขี้เกลือ ไฟเดินไม่ดีและก็ช็อตไหม้ในที่สุด แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเสียหรือไม่เสียก็ควรถอดออกมาเป่าลมให้แห้ง หรือเอาโซแนกซ์ไล่ฉีดเข้าไป ก็ใช้งานต่อได้ครับ

ดังนั้น การตรวจเช็คซ่อมบำรุงรถที่ลุยน้ำ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าลุยระดับน้ำสูงแค่ไหน และรถบางคันก็ตกแต่งไม่เหมือนกัน บางทีใส่ยาง 35 นิ้ว ลุยแบบมิดยางมันก็สูงมิดไฟหน้าคาริเบี้ยนแบบสแตนดาร์ดแล้วครับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.14.103 พุธ, 23/11/2554 เวลา : 18:49  IP : 125.24.14.103   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15552

คำตอบที่ 50
       อยากได้รถสูงขึ้น 3 นิ้ว ครับ ล้อ ประมาณ 29-30 นิ้ว โดยรวมแล้วน่าจะออกมาเป็นอย่างนี้ครับ มีต่อ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jimkona จาก nuew 58.10.124.200 พฤหัสบดี, 24/11/2554 เวลา : 12:37  IP : 58.10.124.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15562

คำตอบที่ 51
       คันดังกล่าวใช้แหนบอย่างนี้ครับ คุณสอครับ อันนี้เป็นแหนบเดิมหรือของแต่งครับ

 แก้ไขเมื่อ : 24/11/2554 18:35:24





เป็นแหนบแบบแต่งครับ ยี่ห้อตามที่ระบุไว้
ค่าตัวแรงไหมครับ
จาก : jimkona(jimkona) 25/11/2554 2:11:44 [115.87.121.74]
แหนบแบรด์ของนอกนี่ ขั้นต่ำก็อยู่ที่ 20,000-25,000 บาทขึ้นไปแทบทุกยี่ห้อครับ
จาก : สอ(sorapol) 25/11/2554 17:23:12 [125.24.29.132]
ราคาดังกล่าวยังไม่รวมโช้คอีก 4 ต้นนะครับ ถ้าโช้คนอกด้วยก็น่าจะจบราวๆ 35,000-38,000 บาทครับ
จาก : สอ(sorapol) 25/11/2554 17:24:40 [125.24.29.132]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jimkona จาก nuew 58.10.124.200 พฤหัสบดี, 24/11/2554 เวลา : 12:39  IP : 58.10.124.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15563

คำตอบที่ 52
       สุดท้ายครับ ใช้โตงเตงตัวนี้ครับ เขาระบุว่ายาวกว่า 4 นิ้วครึ่ง ทีเดียวเชียว จะให้ความแข็งแรงและการทรงตัวที่เหนียวแน่นหรือเปล่าครับ ผมกะจะเล่นอย่างนี้เลยครับ สไตล์ญี่ปุ่น วิ่งทางดำ ลงทางดิน แล้วไปปีนขึ้นดอย

ขอบขอบคุณรูปจาก www.teentoa.com ครับ


 แก้ไขเมื่อ : 24/11/2554 18:37:29





ยาวขนาดนี้ก็เต็มที่แล้วครับ จริงๆแล้วโตงเตงไม่ควรยาวมากๆจนเกินไปครับ เพราะจะโอนเอนได้ง่าย
จาก : สอ(sorapol) 25/11/2554 17:08:01 [125.24.29.132]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jimkona จาก nuew 58.10.124.200 พฤหัสบดี, 24/11/2554 เวลา : 12:45  IP : 58.10.124.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15564

คำตอบที่ 53
       สำหรับคันที่จะต้องลงไม้ลงมือ คือคันนี้ครับ ดูไม่จืด





สภาพอย่างนี้ก็ถือว่า ใช้ได้แล้วครับ ตัวถังดี ช่วงล่างแจ๋ว ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากมายแล้วครับ
จาก : สอ(sorapol) 25/11/2554 17:13:29 [125.24.29.132]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jimkona จาก nuew 58.10.124.200 พฤหัสบดี, 24/11/2554 เวลา : 18:41  IP : 58.10.124.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15566



คำตอบที่ 54
       (ตอบคุณคิวต่อ)
ไม่แน่ใจว่าจะใส่กี่นิ้ว และยกแค่ไหน เพราะพ่อไปจัดการเองหมด อดเลือกเลย ............

แล้ว ถ้าจะหัดงัดแงะหรือหัดซ่อมเองแบบค่อยเป็นค่อยไป ควรศึกษาเรื่องไหนเป็นอันดับต้นๆ แล้วอุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมี คืออะไรครับ คิดว่าอะไรทำเองได้มันก็น่าจะรู้สึกดีกว่าไปตามหาช่าง ซึ่งย่านผมหาอู่ทำคาริเบี้ยนยากหน่อย อันไหนทำเองได้เลยอยากทำและศึกษาไว้เพราะ ต้องเดินทางไกลบ่อยในอนาคต กรุงเทพ-เชียงราย

ตอบ อย่างที่แจ้งไว้ตอนแรกคือ ประหยัดสุดเห็นจะเป็นยาง 31 นิ้ว ซึ่งเป็นไซส์ที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองเยอะ อัตราทดทั้งเฟืองและเกียร์ก็ไม่ต้องไปเสียเงินเปลี่ยน และระบบแหนบเดิมๆก็ยังคงสามารถใช้งานต่อได้เพียงแต่ดัดแปลงย้ายขึ้นมาไว้เทินเพลาเท่านั้น ตัดต่อเพลากลางใหม่อีกรอบ (อย่าลืมว่า เช็คในเรื่องของเพลากลางไปด้วยเลยนะครับ จะได้ไม่เสียเที่ยวอีก) ความสูงที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็จะมากกว่าเดิมซักประมาณ 6-8 นิ้วก็เป็นอันใช้ได้ สำหรับสถานการณ์น้ำในช่วงปลายทางที่เริ่มๆลดลงไปบ้างแล้วพอสมควร โช๊คก็สามารถใช้ชุดเดิมที่ติดรถต่อได้จะได้ประหยัด(ถ้ายังดีอยู่นะครับ) เพียงแต่ย้ายจุดยึดใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับความสูงของรถที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของทางร้านที่คุณไปทำอยู่แล้วครับ
ส่วนเรื่องที่จะหัดงัดแงะเอง ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรให้งัดแงะเท่าไหร่ครับโดยเฉพาะระบบเครื่องยนต์ เพราะว่าเครื่องเป็นแบบหัวฉีดแล้วโอกาสที่จะรวนหรือมีปัญหาก็แทบจะไม่มี ถ้าคุณวางระบบมาดีหรือดัดแปลงมาดีจากร้านที่ทำนะครับ แต่ถ้าไม่ดีก็คงจะปวดหัวพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องระบบไฟฟ้าของเครื่องพวกนี้ ซึ่งถ้าหากว่าจะหัดงัดแงะเองก็จะเป็นในลักษณะเปลี่ยนอะไหล่ดูจะง่ายกว่า อย่างเช่น
- ชุดไฟรีเลย์เปิดวงจร ที่ควรมีไว้ติดรถซัก 2 ตัว มันเป็นตัวรีเลย์เปิดกล่อง กับรีเลย์ปั๊มในถังครับ ซึ่งจริงๆแล้วก็เสียยาก แต่มีติดไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
- ชุดหัวเทียน 4 หัว เผื่อมีปัญหาเกี่ยวกับหัวเทียนก็จะได้ถอดเปลี่ยนได้เอง หรือใช้เทสไฟ
- ฟิวส์ในระบบไฟของรถ เช่น ฟิวส์ 15 แอมป์ 30 แอมป์ และพวกที่ใช้ไดชาร์จ เป็นต้น
ส่วนนอกเหนือจากที่แจ้งมานี้ ถ้าหากรถเสียก็ควรจะเรียกช่างมาทำจะสะดวกกว่าครับ

ส่วนเรื่องอื่นที่ควรมีไว้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานติดรถ ก็เห็นจะเป็นพวกเครื่องไม้เครื่องมือเล็กๆน้อยๆที่สามารถพกพาติดรถไว้ได้ง่าย ไม่เกะกะ และสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ เช่น
- บ็อกซ์ถอดล้อรถแบบตัว L (ไม่แนะนำให้ใช้กากบาทเพราะเกะกะเนื้อที่ในรถ) แต่ตรงนี้ต้องดูด้วยว่า ถ้าล้อเป็นแบบกระทะผ่าลึกๆออฟลบเยอะๆก็อาจจะใช้ L ไม่ได้ครับเพราะจะติดแก้มยางก่อน คงจะต้องใช้กากบาทล่ะครับ
- แม่แรงยกรถ ซึ่งไม่ใช่แบบที่ติดรถมา เพราะแบบนั้นเค้าใช้กับคาริเบี้ยนสแตนดาร์ด ซึ่งรถที่ยกสูงมาแล้วก็จะขึ้นไม่ถึง และที่สำคัญคือ ไม่แข็งแรงด้วย เพราะมันคอยจะพลิก อันตรายครับ ส่วนแม่แรงที่ผมว่านี้ก็จะเป็นแบบที่ติดรถแบบ 4x4 มาจากโรงงาน อย่างเช่น โตโยต้า LN หรือรถ 6 ล้อเล็กได้ก็ยิ่งดีครับ เพราะว่ามันจะเป็นกลไกเฟืองแบบง่ายๆมีเหล็กหมุนต่อออกมานอกตัวรถ และที่สำคัญคือ สูง เพราะมันมีถึง 3 ชั้น สามารถขึ้นได้ถึงยาง 35-36 นิ้ว หรือไม่ก็เป็นแม่แรงแบบไฮดรอริกตัวสีแดงๆตามคลองถมที่ขายกันก็ได้เช่นกันครับ แต่อาจจะเตี้ยไปหน่อย แต่ถ้าใช้กับยาง 31 นิ้วก็ได้แหละครับ
- ขอนไม้ซักอัน รถจะได้ไม่เอนไถลเวลาเราถอดเปลี่ยนยาง ลำพังแค่ระบบเบรคมือคาริเบี้ยนนั้นไม่เพียงพอครับ อันตรายครับ
- เครื่องมือเล็กๆน้อยๆพวกปะแจแหวน ปากตายต่างๆที่ใช้กับเครื่องยนต์ทั่วไป เช่น เบอร์ 10/11/12/13/14/17/19 และก็พวกไขควงปากแบน และแฉก (พวกเบอร์ 10/12/13 ควรมีเป็นคู่ครับ)
- น็อตเบอร์ 10/12 ทั้งตัวผู้และตัวเมีย ความยาวแบบหลากหลาย ติดรถไว้ซักหน่อย
- ยางอะไหล่ ซึ่งปกติมันก็มีมาอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ถอดออก ลมยางควรเติมไว้ประมาณ 40 กว่าปอนด์ และมีการตรวจเช็คทุกๆเดือน
- ท่อยางลม ท่อยางน้ำมัน ซักครึ่งเมตร ติดไว้อย่างละเส้น

ส่วนพวกเชือกลากและสายจั๊มพ์แบตจะพกหรือไม่ก็แล้วแต่ครับ
เท่าที่พอนึกออกก็มีเท่านี้ อาจจะขาดเหลือตกหล่นไปบ้าง ยังไงแล้วมันก็จะต้องลองทำเองดูครับ เพราะถ้าเราเจอปัญหาอะไรแล้วเครื่องมือไม่ครบเราก็จะรู้ด้วยตนเองว่า ต้องไปซื้ออะไรมาเพิ่มครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเราก็จะได้ครบทุกปัญหา มีเครื่องมือทุกแบบที่เราจะงัดแงะเอง ภายใต้เงื่อนไขที่เราพอจะทำได้เองนะครับ ถ้าปัญหาอะไรใหญ่ๆหรือว่าเสี่ยงทำแบบมั่วๆมันอาจจะมีผลเสียที่ค่อนข้างใหญ่ก็ควรจะเรียกช่างให้มาทำจะสะดวกกว่าครับ



อขบคุณมากครับ พอได้แนวทางบ้าง เผื่อบางจุดเรียกช่างไม่ได้ หน่ะครับ เลยต้องมีการเตรียมตัวไว้บ้าง มีรถแล้วคงอยากเที่ยววัดไกลๆ
จาก : คิว(thekem) 25/11/2554 10:23:51 [58.9.51.17]
กับเดินทางไกลๆ ........... ยกเทิร์นเพลา ยาง32
เห็นว่าจะใช้ยาง กลางๆ เรียก ออลรึเปล่าไม่แน่ใจที่ดอกไม่ใหญ่เท่า มัด หน่ะครับ พวกซุ้มล้อกับกระจกหูช้างนี่ สามารถติดเองได้ไหมครับ
จาก : คิว(thekem) 25/11/2554 10:26:25 [58.9.51.17]
พอดีชอบกระจกแบบหูช้าง มากกกว่าเดิมๆ ผมว่ามันมองถนัดกว่าเยอะ
จาก : คิว(thekem) 25/11/2554 10:26:51 [58.9.51.17]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.29.132 ศุกร์, 25/11/2554 เวลา : 09:45  IP : 125.24.29.132   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15586

คำตอบที่ 55
       (ตอบคุณคิว)
เห็นว่าจะใช้ยาง กลางๆ เรียก ออลรึเปล่าไม่แน่ใจที่ดอกไม่ใหญ่เท่า มัด หน่ะครับ พวกซุ้มล้อกับกระจกหูช้างนี่ สามารถติดเองได้ไหมครับ
พอดีชอบกระจกแบบหูช้าง มากกกว่าเดิมๆ ผมว่ามันมองถนัดกว่าเยอะ

ตอบ ประเภทยางที่เล่นกันอยู่ก็มักจะเล่นกันอยู่ 3 แบบ คือ
1. ยาง Allterrain ส่วนใหญ่จะใช้สัญลักษณ์ข้างแก้มยางว่า A/T ครับ เป็นยางที่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบวิ่งทางดำบ้าง ลูกรังบ้าง และทางโคลนบ้าง เป็นลักษณะยางที่มีคุณสมบัติที่ใช้งานได้แบบค่อนข้างหลากหลายครับ
2. ยาง Mudterrian จะใช้สัญลักษณ์ข้างแก้มยางว่า M/T เป็นยางที่เหมาะสำหรับการวิ่งแบบเน้นทางโคลนเป็นหลัก แต่ก็ยังใช้วิ่งทางดำและลูกรังได้ เพียงแต่หลักใหญ่ๆของการผลิตยางแบบนี้คือ ใช้กับทางโคลนครับ
3. ยางที่มากกว่าความเป็น M/T หรือจะเรียกว่า ยางลักษณะทางการเกษตรก็ได้ แต่เค้าก็ไม่ได้ผลิตเพื่อใช้กับพวกรถเกษตรนะครับ เพียงแต่ผลิตเพื่อให้เหมาะสมกับรถแบบออฟโรดที่เน้นลุยกันอย่างเดียว ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ดอกยางจะหยาบมากที่สุด ลายของดอกยางจะเป็นแบบ Rotation คือ หมุนทางเดียว กลับด้านไม่ได้ ไม่เหมาะสำหรับการวิ่งบนถนนดำ หรือถ้าวิ่งได้ก็ค่อนข้างด้อยประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ 2 ประเภทแรกที่กล่าวมา เนื้อยางหนา แก้มยางหนา น้ำหนักยางต่อเส้นค่อนข้างมาก วิ่งเสียงดัง และสึกเร็ว กินกำลังเครื่อง การสึกหรอทุกอย่างสูงหมด พูดง่ายๆว่า ทุกอย่างแทบจะเลวหมด แต่ดีอยู่ยางเดียวคือ เหมาะกับการปั่นโคลน เพราะขุดและตะกุยดีเยี่ยม ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อครับ เช่น Simex Superswamper และอื่นๆ

จริงๆแล้วแต่ละประเภทที่กล่าวมานี้ การใช้งานในบ้านเรามันก็ไม่ค่อยจะตรงกับคุณสมบัติกันซักเท่าไหร่ครับ คือ ถ้าวิ่งทางดำเป็นหลักก็เลือกใช้แบบ M/T กันซะมากเพราะว่าดอกสวยเท่านั้นครับ หรือไม่ก็เผื่อไว้ลุย(เผื่อไว้ก่อน) ซึ่งทั้งชีวิตนี้ก็อาจจะไม่ได้ลุยเลยก็ได้ หรือหนักหน่อยบางเจ้าก็ใส่พวกตะขาบวิ่งทางดำก็เยอะครับ วิ่งบ่อยๆปีครึ่งปี ก็ดอกหมดแล้วครับ
ส่วนนอกเหนือจากที่กล่าวมา ที่ไม่ได้เอ่ยถึง ก็จะมีพวกยางประเภทดอก snow ที่เน้นวิ่งใช้งานกับภูมิประเทศแบบหิมะตก หรือยางที่มีดอกค่อนข้างเรียบที่เน้นถนนดำอย่างเดียวเช่น H/T ซึ่งเป็นยางแบบเน้นทางไฮเวย์อย่างเดียว ลายดอกค่อนข้างเรียบเหมือนพวกรถเก๋ง แต่ผมไม่ได้จัดรวมอยู่ในประเภทยางยอดนิยมที่ออฟโรดในบ้านเราชอบใช้กันนะครับ

ส่วนการติดตั้งซุ้มล้อ????? คงจะเป็นโป่งล้อใช่ไหมครับ ติดตั้งเองได้ไม่ยากครับ แต่ติดตั้งให้สวยเนี๊ยบอาจจะยากซักหน่อย เพราะต้องเข้าใจว่า โป่งล้อที่ขายกันอยู่นี้เป็นงานหล่อไฟเบอร์ซึ่งมาตรฐานต่ำ ผมบอกเลยว่า มาตรฐาน “ต่ำ” เพราะแต่ละชุดไม่ค่อยออกมาเหมือนกันซักเท่าไหร่ แถมยุคหลังๆนี่ใช้ไปนานๆมีลีบ ย่นอีกต่างหากด้วยครับ แตกต่างกับยุคสมัยก่อนที่มีขายกันจะดูดีกว่าครับ เนื้องานดี โค้งกว้างเหลี่ยมสวย แต่ก็นั่นแหละครับ...ชั่งมันเถอะ แต่เอาเป็นว่า จากการที่งานมาตรฐานไม่ค่อยดีนี้มันก็เลยทำให้ ความแนบกับตัวถังคาริเบี้ยนมันมีปัญหา ซึ่งถ้าจะติดตั้งให้เนี๊ยบสวยแนบตัวถัง มันก็คงต้องมีการปาดแต่งขอบแล้วก็เทียบ และก็ทาบ (ใช้หินเจียรปาดแต่งเอาครับ) ซึ่งทำวนๆกันอยู่อย่างนี้ ก็เล่นเป็น 1-2 วันเหมือนกันครับ ไหนจะรูไม่ถึง รูยึดไม่ตรง ต้องกดต้องดัน มันก็เลยต้องใช้เวลาครับ แต่ถ้าติดๆส่งๆไปก็ไม่น่าจะเกินครึ่งวันก็เสร็จครับ
ส่วนเรื่องกระจกมองข้างแบบหูช้างนี้ ผมไม่เคยติดครับ เลยไม่รู้ว่ามันจะต้องเจาะประตูหรือดัดแปลงอะไรบ้าง ปกติแล้วพวกดัดแปลง เจาะรูเยอะๆ หรือติดตั้งเสร็จแล้วดูใหญ่โตไม่ค่อยเหมือนเดิมของรถนี่ ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ ผมว่ามันใหญ่โตเกินไป (อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัวนะครับ) ยังไงต้องลองติดตั้งเองดูครับ






ถ้าโป่งกับกระจกให้ร้านติดตั้งให้คิดราคาประมาณไหนครับ ระหว่างให้ร้านหากับหาเองให้ร้านติด ผมชอบกระจกแบบปาเหลี่ยมครับ มองถนัด
จาก : คิว(thekem) 26/11/2554 22:09:33 [58.9.147.77]
ไม่รู้เหมือนกันสิครับ คงจะ 300-500 มั๊งครับ กับงานแบบนี้ มันเป็นงานที่ไม่สามารถเรียกสูงได้ครับ
จาก : สอ(sorapol) 26/11/2554 22:47:09 [125.24.52.240]
ขอบคุณมากครับ
จาก : คิว(thekem) 27/11/2554 8:46:07 [58.9.59.219]
จากคำตอบทำให้เทใจไป ยาง ออลเลย กลัวดอกหมดไว เงินหายาก อิอิ
จาก : คิว(thekem) 27/11/2554 8:46:35 [58.9.59.219]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.52.240 เสาร์, 26/11/2554 เวลา : 21:39  IP : 125.24.52.240   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15612

คำตอบที่ 56
       ไปรับรถกลับมาแล้วครับ ขากลับรถดับสตาทไม่ติด......เลยต้องเรียกช่างแถวบ้าน มีปัญหาเรื่องฟิวรถ
1. (เปลี่ยนเองได้ไหมครับถ้าไปซื้อมาเอง) เครื่อง 3s-fe ช่างทำให้รอบนึงแต่ยังดับ พอถึงบ้านให้แถวบ้านดูให้ ไม่รู้เขาเอาตัวสำรองใส่ให้รึเปล่าหน่ะครับ คิดว่าจะไปอู่ใกล้ๆบ้านให้เขาเปลี่ยนให้
2.เริ่มเห็นว่าท่อไอเสียด้านใต้ท้องรถมันมีสนิทเยอะ ควรทำใหม่ทั้งเส้นเลยไหมครับ ใจจริงอยากต่อแค่ท่อให้สูงเท่ๆเฉยๆหนีน้ำด้วย

3.เทิร์นเพลา แหนบยก 4 " ยาง 32" เปลี่ยนสโลวเป็น 1000 ครับ จะกินน้ำมันมากไหม วิ่งจากอู่กลับบ้านไม่กล้าวิ่งเกิน 50 เลย ดูน่ากลัวๆ ดูเข็มแล้วมัน 20-40 แต่ความเร็วจริงๆรู้สึกว่ามันไม่ใช่อ่ะครับ ผมคิดไปเองไหมครับ ความเร็วจริงกับหน้าปัดไม่ตรงกัน เพราะยางใหญ่ คือ ถ้าไม่ตรงจริง สามารถไปตั้งได้หรือไม่ครับแล้วจะมีปัญหาอะไรไหมทั้งก่อนและหลัง
4.ถ้าเหยียบเร็วๆซัก 80+ รถคงไม่เกาะถนนใช่ไหมครับ ยางแบบ mud ครับ เพราะขับไม่เร็วๆ20-40 ยังรู้สึกมันลอยๆ หรือเพราะผมคิดไปเองเพราะมันสูง - - ยังไม่กล้าลองเหยียบครับ หวั่นไหวกลัวเบรคไม่อยู่หรือคุมรถไม่ได้ .......

พ่อให้ช่างจัดการให้หมดเลย ไม่ได้เลือกอะไรเลย อิอิ ที่เหลือจะเริ่มจัดเองแล้วครับ ค่ายกพ่อจ่ายหมดไปเยอะเลย ถ้าให้ทำเองปีหน้าผมว่าคงไม่ได้เท่านี้เลยผมอ่ะ T_T

 แก้ไขเมื่อ : 28/11/2554 15:36:56

 แก้ไขเมื่อ : 28/11/2554 15:40:39





รบกวนอีกอย่างครับ ใบรับรองวิศวะกร ยกสูง+พวงมาลัยพาวเวอร์ หาจากที่ไหนได้ครับ แนะนำหน่อยครับ จะไปต่อทะเบียนหน่ะครับ
จาก : คิว(thekem) 29/11/2554 6:54:15 [115.87.149.247]
ยังไม่ได้จ่ายภาษีเลย ไปลงเครื่องเสร็จแล้วดันมีน้ำท่วมมาจ่อต่อเลย
จาก : คิว(thekem) 29/11/2554 6:54:47 [115.87.149.247]
เดี๋ยวตอบให้ครับ
จาก : สอ(sorapol) 29/11/2554 16:43:27 [125.24.6.234]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

thekem จาก คิว 115.87.149.247 จันทร์, 28/11/2554 เวลา : 13:44  IP : 115.87.149.247   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15639

คำตอบที่ 57
       วันนี้ไปวิ่งมา ก่อนถึงบ้าน รถมีอาการ .............. เกนความร้อนขึ้นสูงเกือบสุด เปิดฝากระโปรงมา สายพานหลุด ที่พักน้ำหล่นไปอยู่ใกล้ๆสายพาน
แล้วก็ ฝาถังพักน้ำลงไปอยู่ในพัดลม ......... มันเกิดอะไรขึ้นครับ ไม่ได้ขับเร็วเลยเพราะลุยน้ำมา อนาถมาก กลับมาถึงบ้านได้แบบ ทุลักทุเลมาก ...... น้ำเดือดปุ๊ดๆ และมีเสียงหอน ด้วยไม่รู้จากสายพานหรือ เพราะสายหม้อพักน้ำมันหลุด

หรือผมไม่ถูกโฉลก กับรถ



เดี๋ยวตอบให้แบบเร่งด่วนก่อนครับ พอดีเปิดคอมอยู่
จาก : สอ(sorapol) 30/11/2554 15:10:18 [125.24.42.132]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

thekem จาก คิว 115.87.149.89 พุธ, 30/11/2554 เวลา : 13:44  IP : 115.87.149.89   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15673

คำตอบที่ 58
       (ตอบคุณคิว)
วันนี้ไปวิ่งมา ก่อนถึงบ้าน รถมีอาการ .............. เกนความร้อนขึ้นสูงเกือบสุด เปิดฝากระโปรงมา สายพานหลุด ที่พักน้ำหล่นไปอยู่ใกล้ๆสายพาน
แล้วก็ ฝาถังพักน้ำลงไปอยู่ในพัดลม ......... มันเกิดอะไรขึ้นครับ ไม่ได้ขับเร็วเลยเพราะลุยน้ำมา อนาถมาก กลับมาถึงบ้านได้แบบ ทุลักทุเลมาก ...... น้ำเดือดปุ๊ดๆ และมีเสียงหอน ด้วยไม่รู้จากสายพานหรือ เพราะสายหม้อพักน้ำมันหลุด

หรือผมไม่ถูกโฉลก กับรถ

ตอบ ผมเดาเอานะครับ ว่า ปัญหาน่าจะเกิดจากกระป๋องพักน้ำนี่แหละ เพราะมีหลักฐานอยู่ตามที่ได้แจ้งมาว่า ที่พักน้ำได้หล่นไปอยู่ใกล้ๆสายพานและฝาถังพักน้ำก็หล่นไปอยู่ในพัดลม (ซึ่งเข้าใจว่าเป็นพัดลมไฟฟ้าที่เป่าอยู่หลังหม้อน้ำ)
ผมจะอธิบายลำดับของการเกิดปัญหาให้ดังนี้ครับ
ลำดับที่ 1 พี่ขับมาอยู่ดีๆ กระป๋องพักน้ำอาจจะหลุดออกมาจากที่ยึด
ลำดับที่ 2 พอกระป๋องพักน้ำมันหลุดหล่นลงมา น้ำจากหม้อน้ำมันก็ค่อยๆทยอยไหลออกไปจนเหลือน้อย
ลำดับที่ 3 ในขณะเดียวกันตัวกระป๋องน้ำก็ไปละหรือเฉี่ยวหรือสีกับสายพานหรือมูเล่ไดชาร์จ หรือคอมแอร์ ซึ่งมันก็อยู่ในตำแหน่งฟากเดียวกัน
ลำดับที่ 4 ปริมาณน้ำในหม้อน้ำก็จะค่อยๆเริ่มหายไปเรื่อยๆ จนปริมาณน้ำในระบบเริ่มมีน้อย
ลำดับที่ 5 ระบบระบายความร้อนก็เริ่มมีปัญหา ทำให้เครื่องฮีทในที่สุด

ส่วนเรื่องสายพานไดชาร์จหลุดออกมาก็น่าจะมาจากการที่สายยางน้ำจากหม้อน้ำไปถังพักน้ำมันอาจจะเข้าไปขัดในร่องมูเล่ไดชาร์จหรือไม่ก็คอมแอร์ล่ะครับ ทำให้สายพานเด้งหลุดออกมา
ซึ่งจริงๆแล้วตอนแรกผมก็กะจะตอบว่า สายพานไดชาร์จหลุดทำให้ปั๊มน้ำไม่ทำงานทำให้เครื่องฮีทแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ครับเพราะลืมไปว่า เจ้าเครื่อง 3S มันใช้สายพานไทม์มิ่งเป็นตัวขับปั๊มน้ำครับ ไม่ได้ใช้สายพานจากไดชาร์จมาเป็นตัวขับเหมือนอย่างพวกเครื่อง G13A/G16A ตอนแรกเลยเกือบสับสนซะเอง

ส่วนเรื่องกระป๋องพักน้ำหลุดนั้น ปัญหาก็น่าจะมาจากการยึดกระป๋องไม่แน่น หรือยึดหลวม หรือเหล็กล็อคที่จะมาเข้าล็อคกระป๋องพักน้ำไม่ใช่ของมัน ทำให้เวลารถกระเทือนบ่อยๆ ก็หลุดหล่นลงมาแล้วก็ทำให้ไปขัดอยู่กับพวกไดชาร์จหรือคอมแอร์ดังกล่าว จนทำให้เกิดปัญหาขึ้น



ถ้าเป็นเรื่องของกระป๋องจริง เวลาติดลงไป ควรทำอย่างไรให้แน่นหนาครับ รู้สักว่า ช่างแค่เสียกระป๋องมาไว้ในแท่นเสียเฉยๆ แต่ผมลอง
จาก : คิว(thekem) 30/11/2554 16:39:03 [115.87.149.89]
ใส่กลับไปดูมันก็แน่นนะครับ แต่ตอนรถวิ่งไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบาง ถ้าเป็นตามท่านว่าจริง ผมจะติดอย่างไรให้แน่นหนา ลวดผูกเลยดีไหมครับ
จาก : คิว(thekem) 30/11/2554 16:39:52 [115.87.149.89]
เรียกน้องก็ได้ครับ ผมเพิ่ง 21 ยังไม่อยากแก่เท่าไหร่ อิอิ ขอบคุณคำตอบครับ
จาก : คิว(thekem) 30/11/2554 16:44:12 [115.87.149.89]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sorapol จาก สอ 125.24.42.132 พุธ, 30/11/2554 เวลา : 16:11  IP : 125.24.42.132   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15674

คำตอบที่ 59
       อันนี้ ถ่ายตอนเอาออกมาวางข้างนอกแล้วครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

thekem จาก คิว 115.87.149.89 พุธ, 30/11/2554 เวลา : 16:33  IP : 115.87.149.89   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15675

คำตอบที่ 60
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

thekem จาก คิว 115.87.149.89 พุธ, 30/11/2554 เวลา : 16:34  IP : 115.87.149.89   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15676

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  
21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  
41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,24 เมษายน 2567 (Online 4025 คน)