คำตอบที่ 1231
       จากนั้นก็จัดการใส่กลับเข้าไปในตำแหน่งใต้ท้องรถเหมือนเดิม เข้าล็อคสายไฟในตำแหน่งเดิมให้หมดครบถ้วน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1232
       เช่นเดียวกันกับระบบสายไฟของชุดแก๊สที่มายังท้ายรถก็ดำเนินการเก็บรายละเอียดไปพร้อมกันเลยนะครับ มันเป็นส่วนควบคู่กัน ซึ่งสายไฟของชุดแก๊สที่มายังท้ายรถนี้ก็จะประกอบไปด้วยส่วนของ สายไฟติ๊กตัดแก๊สหน้าถังและสายไฟนาฬิการถังเท่านั้นครับ ซึ่งก็ดำเนินการเก็บให้เรียบร้อยทั้งหมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1233
       ท่อส่งน้ำมันและท่อแก๊สที่ทำหน้าที่ส่งน้ำมันมาจากท้ายรถก็ต้องกำหนดทางเดินใหม่มาในฝั่งคนนั่งแทนตำแหน่งเดิมที่อยู่ฝั่งคนขับครับ ตรงจุดนี้คือ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับรูปแบบของเครื่องที่วางแต่ละตัวจะแตกต่างกันไปนะครับ เพราะต้องการที่จะให้เกิดความเรียบร้อย ไม่อยากให้มีสายโน้นสายนี้โยงข้ามเครื่องไปมา และอีกอย่างก็คือ กรองเบนซินเหล็กของเครื่อง 3RZ และชุดท่อนำน้ำมันเข้าเครื่องมันก็อยู่ฝั่งคนนั่งตรงบริเวณชุดท่อไอดีทั้งหมด ก็เลยทำการแก้ไขในจุดนี้ไปครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1234
       ในตำแหน่งเดิมของคัทซีในฝั่งคนขับก็จะโล่งๆแบบนี้ครับ คงเหลือแต่ชุดแป๊บเบรคเท่านั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1235
       รวมถึงชุดสายไฟของระบบเกียร์ซึ่งจากเดิมที่ได้มีการเก็บไปแล้วในบางส่วนแล้วทิ้งปลายห้อยบอกตำแหน่งที่เตรียมจะเดินต่อเพื่อขึ้นไปยังรถเพื่อควบคุมด้านบนที่ห้องโดยสาร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1236
       ตำแหน่งต่างๆควรจะถูกล็อคไว้ให้เรียบร้อยเหมือนกับของเดิมๆแบบโรงงาน จะได้ไม่ห้อยระเกะระกะ หรือไปเกิดเบียดหรือสีกับตัวถังรถทำให้สายไฟขาดเสียหายได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1237
       ทุกจุดทุกโค้งจะต้องมีที่อยู่ของมัน จะได้ไม่ห่างออกมาจากเสื้อเกียร์มากเกินไป ต้องให้แนบมากที่สุดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1238
       พร้อมกับทำการต่อผ่านขั้วปลั๊กอย่างถูกหลัก เผื่อสำหรับเรื่องการยกเกียร์ลงจะได้ไม่ต้องตัดสายไฟทิ้ง เพราะเรานำขั้วปลั๊กมาใช้ทำการเชื่อมต่อโดยแบ่งออกเป็นปลั๊ก 4WD โชว์ที่หน้าปัด กับชุดควบคุมระบบโซลินอยด์เกียร์ในการเข้าและปลด 4wd มันคนละชุดกันนะครับ รวมทั้งสายกราวด์อื่นๆด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1239
       รายละเอียดอีกส่วนหนึ่งเกี่ยวกับสายไฟของเครื่อง ก็จะเป็นตัว Diagnosis นะครับ เป็นอีกตัวที่ไม่มีก็ได้ไม่เป็นไร เพียงแต่ว่า หากเวลาเครื่องยนต์มีปัญหาเราก็จะทำการตรวจสอบในเบื้องต้นได้ค่อนข้างยาก คือ ก็ต้องไล่คลำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอ แต่ถ้าเรามีตัวนี้เราก็สามารถที่จะทำการช็อตคร่อมสายไฟระหว่างช่องได้เพื่อให้ปรากฎไฟ Check engine ขึ้นที่หน้าจอของมันแล้วมันก็จะมีการกระพริบ อย่างเช่น กระพริบ 4 แล้วเว้นช่วงไปแล้วก็กระพริบอีก 2 ที ซึ่งก็เป็น 42 มันก็จะเป็นระบบแอร์โฟว์ เป็นต้น (สมมตินะครับ) ก็แสดงว่า แอร์โฟว์มีปัญหา อาจจะเสียหรือกราวด์ไม่ลงหรือขาดใน อะไรประมาณนั้น แต่เราก็จะต้องมีโค้ทรหัสของมันด้วยว่า กระพริบกี่ทีแล้วมันบอกอะไร

อย่างเช่น 3RZ ที่ทำคันนี้ ตอนแรกผมเก็บงานสายไฟไม่ครบครับ แต่ได้ทำการต่อสายไฟของตัว Diagnosis ไว้เรียบร้อยครบถ้วนแล้ว ก็เอาไฟป้อนเข้าไปไล่เช็คดูที่หน้าโค้ท ก็ปรากฏขึ้นเป็น 41 กับ 24 หรือยังไงเนี่ยล่ะครับ (จำไม่ค่อยได้แล้ว) ก็จะบ่งชี้ว่า เกิดความบกพร่องขึ้นที่ตัว TPsensor กับ ตัว Airflowsensor ซึ่งก็ลองไล่เช็คดูอีกทีก็พบว่า ชุดสายไฟกราวด์ของเจ้า 2 สิ่งนี้ยังไม่ได้ทำการเชื่อมต่อ ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาได้ครับ

ก็ถือว่า เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่ไม่ควรจะมองข้าม ถือเป็นการเติมเต็มให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งจริงๆแล้วตัว Diagnosis connector นี้มันก็จะมีอยู่กับเครื่องยนต์ที่มีระบบกล่อง ECU มาใช้ควบคุมอยู่ทุกตัวล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเบนซินหรือดีเซล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1240
       โดยปกติแล้วตัวนี้มันก็จะมีจุดยึดอยู่ในตำแหน่งต่างๆที่แตกต่างกันไปตามแต่รุ่นเครื่องยนต์ บ้างก็ยึดกับห้องเครื่อง บ้างก็ยึดกับตัวเครื่อง แต่สำหรับคันนี้ผมต้องการให้ยึดอยู่กับตำแหน่งนี้ คือ บริเวณด้านหน้าของชุดท่อไอดี เพราะดูแล้วน่าจะเหมาะสม เพราะว่าที่ห้องเครื่องมีอะไรต่ออะไรเยอะมากแล้ว และจะได้ไม่รกมากเกินไปด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1241
       แต่ในตำแหน่งที่เราต้องการนี้มันไม่มีที่สำหรับให้ยึด ดังนั้นเราจึงต้องสร้างจุดยึดสำหรับตัว Diagnosis นี้ขึ้นมาใหม่ โดยเชื่อมต่อมาจากรูไหนก็ได้ที่เป็นรูฟรีอยู่ที่ท่อไอดีในตำแหน่งที่ใกล้กับเจ้าตัวนี้มากที่สุด ก็เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่ค่อนข้างจะจุกจิกและเสียเวลาพอสมควร เพราะรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้มันมีเกิดขึ้นอยู่มากมายมันก็จะเสียเวลามากหลายอยู่ครับ ถ้าชุ่ยๆก็ปล่อยลอยๆห้อยๆไว้ ง่ายดี มั่วๆไปมันก็จะได้งานที่ไม่เรียบร้อยไม่สมบูรณ์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1242
       เราก็สร้างจุดยึดขึ้นมาโดยใช้เหล็กงอพับทั่วๆไป ให้ฟิตๆให้พอดี มีเขี้ยวล็อคพับยึดด้วยจะได้แข็งแรง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1243
       ยึดเข้าไปในตำแหน่งรูฟรีที่เป็นน็อตเบอร์ 10 เกลียวทั่วไป แล้วขันให้แน่นเรียบร้อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1244
       เสร็จแล้วเราก็ได้การยึดเจ้าตัวนี้ในตำแหน่งที่เราต้องการ ซึ่งดูแล้วก็เหมาะสมขึ้นมาทันทีครับ ดูกระชับและมาตรฐานดี มีที่อยู่มันจะได้ไม่ต้องไปห้อยโหนก็อกๆแก๊กๆให้รำคาญครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1245
       อีกมุมครับ ดูเหมาะสมทีเดียว
เวลาใช้งานก็เปิดฝาจิ้มได้สะดวก ไล่เช็คได้ง่าย

 แก้ไขเมื่อ : 23/1/2557 19:27:19

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1246
       ในส่วนของระบบแก๊สก็ดำเนินการไปพร้อมๆกันด้วยเลยนะครับ เพราะว่าในส่วนหลักๆมันก็จะมีการความเกี่ยวเนื่องกันกับระบบสายไฟอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ท่อยางน้ำวนเข้าหม้อต้มทั้ง 2 เส้นที่มาจากตัวเครื่องยนต์ ทำการเชื่อมต่อให้ครบระบบทั้งหมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1247
       ถ้าหากว่า คุณเป็นคนที่ช่างเก็บ อะไรๆก็เก็บไว้หมดเผื่อจะได้เห็นคุณค่าของมันในภายภาคหน้า และนี่ก็คือ หนึ่งในนั้นครับ ตัวล็อคสายต่างๆ กิ๊บล็อคต่างๆ เข็มขัดเล็กเข็มขัดน้อย เข็มขัดแบบมีเดือยล็อคพวกสายไฟ สายน้ำมัน ซึ่งทั้งหมดมันเป็นของที่มักจะติดมากับเครื่องยนต์ตามเชียงกงซึ่งจะมีเยอะแยะมากมาย และโดยมากก็จะโยนทิ้งถังขยะทั้งหมด แต่ถ้าหากเก็บไว้เราก็สามารถที่จะนำมันขึ้นมาใช้ได้อย่างมีคุณค่าครับ และก็ไปหาซื้อที่ไหนก็ไม่ได้ แถมยังเติมเต็มความสมบูรณ์แบบภายใต้เนื้องานแบบมาตรฐานโรงงานได้อย่างมากครับ

เข็มขัดตัวนี้จะมีเขี้ยวล็อคโดยจะมีห่วงใหญ่กับห่วงเล็กอยู่ในตัวเดียวกัน ซึ่งผมก็ได้นำมาใช้โดยห่วงใหญ่ใช้ล็อคสายน้ำวนเข้าหม้อต้มแก๊ส ส่วนห่วงเล็กก็ล็อคสายไฟชุดที่มาจากเครื่องยนต์ซึ่งเป็นตำแหน่งของสายไฟไดสตาร์ทกับตัว Igniter ซึ่งพันเทปแล้วแน่นฟิตพอดีเข้าล็อคกันทั้งหมดเลยครับ เข็มขัดพวกนี้ถ้าหากเราเก็บเอาไว้เราก็สามารถที่จะนำขึ้นมาออกแบบวางในตำแหน่งที่ต้องการจะใช้งานได้อย่างดีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1248
       เจ้า Tomasetto หลังทองที่ทุกอย่างกำลังจะสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ สายน้ำวน ท่อแก๊ส สายส่งแก๊สเข้าชุดรางหัวฉีด ทุกอย่างกำลังจะถูกจั๊มพ์ระบบเข้ากันทั้งหมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1249
       จากนั้นก็เดินระบบสายคันเร่ง โดยที่จะต้องอยู่ในพิกัดความยาวที่เหมาะสม ไม่ใช่ได้มายังไงก็ใส่เข้าไปอย่างนั้นยาวเหยียดกว้างอ้อมโลก หรือสั้นเกินไปจนตึง ทุกๆอย่างต้องอิสระและเหมาะสม และที่สำคัญมันก็จะต้องมีที่อยู่ด้วย ซึ่งอย่างน้อยๆก็เป็นการบังคับแนวของมันให้แนวมันได้ จะได้ไม่หักด้วยครับ

พวกสายคันเร่งนี้ผมเลือกพวกสายคันเร่งของญี่ปุ่นนะครับ ไม่ใช่สายแบบที่หาซื้อตามท้องตลาดทั่วไป เพราะความลื่นและความคงทนถาวรแตกต่างกันลิบลับ พวกตามร้านอะไหล่(สายใหม่)นี่ แรกๆใหม่ๆอยู่ก็ลื่นดีครับ แต่ใช้ไปไม่เท่าไหร่ก็ฝืด ประจำเลยครับ เพราะสายคันเร่งจากญี่ปุ่นนี้มันจะมีพลาสติกหุ้มสายสลิงอีกที จึงทำให้มีความลื่น และก็ปราศจากสนิมอีกด้วย แถมไม่ทำให้สลิงแตกแถวออกมา แตกต่างกับสายคันเร่งบ้านเราอย่างมากมายครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1250
       ต่อกันด้วยสายไฟระบบแก๊สหัวฉีดแบบชุดใหญ่ ที่มีปริมาณสายไฟเพิ่มมากขึ้นจากเครื่องยนต์เดิมๆอีกเกือบเท่าตัว ถ้าหากเดินไม่ดี ลากโยงไปมา รกและยุ่งเหยิงแน่นอนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1251
       แล้วอย่างที่แจ้งไว้นะครับ ว่า การเก็บงานสายไฟเครื่องยนต์นี้ มันจะมีความเกี่ยวเนื่องกันกับระบบสายไฟของแก๊สด้วย ไม่ว่าจะเป็นแก๊สแบบมิกเซอร์ หรือแก๊สแบบหัวฉีด เพราะมันจะต้องมีการตัดระบบไฟเข้าหัวฉีดและระบบน้ำมันด้วย ดังนั้นเนื้องานก็จะต้องดำเนินการไปพร้อมๆกันด้วยเลยนะครับ จะได้เก็บรายละเอียดทีเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1252
       ในรูปเจ้าตัวนี้ มันเป็น Mapsensor ของระบบแก๊สนะครับ ในตอนนั้นที่ทำรู้สึกว่า เป็นรุ่นใหม่ด้วยของ AC ครับ เจ้าตัวนี้จะไม่มีสายไฟมายุ่งเหยิงและรกเหมือนกับตัวก่อน แต่ราคาไม่ใช่ถูกๆ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่า มีรุ่นใหม่ๆออกมาแทนแล้วหรือยัง แต่ยังคงมีอะไหล่ขายมากมายอยู่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1253
       ท่อยางแก๊สจากหม้อต้มเข้าสู่รางหัวฉีดแก๊สที่อยู่ที่ท่อไอดีเครื่องยนต์ ถูกรัดประกบคู่เข้ากับท่อยางน้ำวนที่มาจากหลังเครื่องยนต์ รวบเข้าไว้ด้วยกันจะได้เป็นหมวดหมู่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1254
       เคียงข้างกันนั้นก็จะมีชุดรีเลย์ที่ได้ถูกจัดเรียงกันไว้อย่างเป็นหมวดหมู่แล้วเหมือนกัน ไล่กันไป รีเลย์สตาร์ท รีเลย์เปิดวงจรกล่อง รีเลย์ปั๊ม และรีเลย์ระบบแอร์ที่มีอีก 3 ตัวที่ใช้ในการควบคุมเฉพาะระบบแอร์อย่างเดียวพร้อมกับตัวดันรอบเครื่องด้วยที่ผ่านกล่อง ECU อีกทีหนึ่ง ก็ได้ถูกเรียงมาที่ด้านข้างรถอีกหนึ่งแถว ซึ่งยังคงใช้รีเลย์ชุดเดิมของที่มากับรถในบางส่วน แต่ได้เพิ่มเติมเข้าไปอีก 1 ตัวพร้อมกับจั๊มพ์ระบบสายไฟให้มันอยู่ด้วยกัน รู้จักกันทั้งหมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1255
       บริเวณนี้โดยรวมเริ่มที่จะแน่นขึ้นมาแล้ว แต่อยู่ภายใต้ความเป็นสัดเป็นส่วน การจะรื้อเพื่อทำอะไรหรือตรวจเช็คอะไรไม่ยุ่งเหยิงครับ สายไฟเส้นไหนมาจากไหนรู้หมดไม่ยุ่งยาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1256
       แต่ถ้ามองโดยรวมในภาพกว้างๆสำหรับทางฝั่งคนนั่งแล้ว ยังคงโล่งอยู่อีกมากครับ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ได้รวมอุปกรณ์ทั้งหมดที่จะต้องจัดวางลงไปทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น หม้อต้มและชุดสายไฟแก๊สหัวฉีด Igniter กระป๋องพักน้ำ กระป๋องฉีดน้ำฝน กระป๋องเติมน้ำมันเพาเวอร์ ระบบชุดรีเลย์ต่างๆ ไดร์เออร์ระบบแอร์และท่อแอร์ที่เดินมาเชื่อมต่อระบบกับแผงร้อนหน้ารถเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ก็เรียกได้ว่า ไม่มีอะไรที่จะมาเพิ่มมากกว่านี้อีกแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1257
       เสร็จแล้วก็ลองมาดูทางฝั่งคนขับกันบ้าง ในส่วนของท่อยางน้ำบนจากเครื่องไปยังหม้อน้ำซึ่งได้มีติดมากับเครื่องตัวนี้อยู่แล้วจากเชียงกง ก็สามารถใช้งานต่อได้ครับถ้าสภาพยังดีอยู่ คือไม่บวม ไม่ขาดรั่ว ที่สำคัญคือ เป็นของแท้ที่มากับเครื่องจากโรงงาน ซึ่งถ้าหากว่า มีปัญหาจะต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ในคราวต่อไปก็สามารถสั่งซื้อโดยระบุเป็นท่อยางน้ำบนของเครื่อง 3RZ ได้เลยครับ ตรงรุ่นทั้งหมด

อะไหล่เครื่องยนต์ 2RZ/3RZ มีขายทั่วไปครับ แทบทุกชิ้นเหมือนๆกับพวกเครื่อง J ล่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1258
       แต่ก็ได้มีการเพิ่มเติมรายละเอียดเข้าไปตามความต้องการของเจ้าของรถ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1259
       โดยการติดตั้งเซ็นเซอร์ความร้อนเพิ่มเติม นอกเหนือจากของเดิมที่ได้มีการวายริ่งสายไฟขึ้นเกจ์ความร้อนที่หน้าจอปกติอีกต่างหาก ตรงจุดนี้จริงๆแล้วก็สามารถดูจากหน้าจอเดิมๆที่มากับรถสปอร์ตมายด์ก็ได้เหมือนกันนะครับ ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่า เราสามารถที่จะดูความละเอียดได้มากขึ้นกว่าเดิม คือ มันจะบอกระดับเป็นอุณหภูมิ เข็มจะบอกที่องศาเท่าไหร่ คือบางทีแล้วระดับความร้อนขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 100-110 ที่หน้าเกจ์วัดที่ติดตั้งเพิ่ม แต่ความร้อนที่หน้าจอเดิมของรถก็ยังคงปกติอยู่อะไรประมาณนี้ เราก็สามารถที่จะรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ เพื่อทำการตรวจสอบเป็นลำดับต่อไป

แต่ถ้าระดับความร้อนยังคงอยู่ในระดับที่เกิน 100 แต่่่ก็ไม่ได้ขึ้นสูงไปมากกว่านี้ บางทีแล้วมันก็ยังคงปกติอยู่นะครับ อาจจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ได้ เพราะมันอาจจะเป็นธรรมดาของเครื่องยนต์รุ่นนั้นๆ หรือพวกเครื่องยนต์ดีเซลที่ปกติแล้วมักจะมีความร้อนมากกว่าเครื่องเบนซินอยู่แล้วเป็นทุนเดิม มีแผงคอยล์ร้อนแอร์อยู่หน้าหม้อน้ำอะไรประมาณนี้ มันก็ย่อมที่จะมีความร้อนสะสมที่มากกว่าเครื่องยนต์ทั่วๆไปครับ แต่ถ้าหากว่า เป็นความร้อนที่เกิดขึ้นแล้ววิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆสิครับ อันนี้น่ากลัว จะต้องตรวจเช็คหาความผิดปกติแล้ว

 แก้ไขเมื่อ : 26/1/2557 20:21:44

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1260
       ติดตั้งเข้าไปในส่วนของท่อยางหม้อน้ำบน เพื่อที่จะรอการเชื่อมต่อระบบไฟอีกทีในลำดับต่อไป เพราะจะต้องเดินระบบไฟเข้าไปยังห้องโดยสารอีกทีครับ จะได้เก็บงานสายไฟไปเลยทีเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย