WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


โชคร้าย... หรือว่า... โชคดี... ???
005
จาก BoyDogtag,TTC-005
IP:202.122.130.31

อังคารที่ , 1/6/2553
เวลา : 08:51

อ่านแล้ว = 9465 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 3 จาก >>> 1  2  3  

คำตอบที่ 61
      

fiogf49gjkf0d
โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า }แน่นอน~
คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน
ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
เหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคน อีกคนหนึ่ง
ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง



เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
ไม่เป็นขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป
อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

TTC-054 จาก TTC-054 มๅรบูรพา 58.8.100.31 พฤหัสบดี, 16/6/2554 เวลา : 23:06  IP : 58.8.100.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 108921

คำตอบที่ 62
      

fiogf49gjkf0d
" น้ำใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ".........

ยุคสมัยนี้ เดินไปทางไหน หันไปร้านใด ก็มักจะเจอป้ายขอปรับขึ้นราคาสินค้า และอาหารอยู่จนชินตา โดยเจ้าของร้านมักจะอ้างว่า เพราะของมันแพงขึ้น ต้นทุนสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองร้านให้อยู่ต่อไปได้..

แต่ทว่า.. ในอีกมุมหนึ่งของสังคม ยังมีแม่ค้าวัยย่างหกสิบปีคนหนึ่ง
ประกอบอาชีพหาบเร่ค้าขายกับข้าวมานานกว่า 30 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ไข่ไก่ยังราคาเพียงฟองละห้าสิบสตางค์ และแม้วันนี้ราคาไข่ไก่จะพุ่งเกือบฟองละ 5 บาท แต่แกก็ยังคงยืดหยัดขายกับข้าวทุกอย่างในราคา 5 บาทเหมือนเมื่อสามสิบปีที่แล้วไม่มีผิดเพี้ยน..

ในเวลาใกล้บ่ายสองของทุกวัน สายตาหลายคู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 33 แยก 3
จะเฝ้ามองหา ป้าแดง บุญยัง พิมพ์รัตน์ หรือที่ทุกคนเรียกแกว่า "ป้าหาบ" เพื่ออุดหนุนกับข้าวอร่อย ๆ ของแก ที่ทุกวันหาบหน้าของแกจะเต็มไปด้วยมะละกอ ข้าวเหนียว และครก ขณะที่หาบหลังเต็มไปด้วยกับข้าวและขนมหวานใส่ถุงพลาสติกกองสูงเป็นภูเขา...

" ของทุกอย่างป้าแกขาย 5 บาท ที่ขายสิบบาทก็มีอย่างเดียว คือปลาหมึกเท่านั้น แกขายของแกอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยขึ้นราคาสักที".... ลูกชายเจ้าของบ้านที่ป้าหาบใช้เป็นพื้นที่ขายของพูดถึงป้า...

จุดเริ่มต้นของแม่ค้า 5 บาท ต้องย้อนไปตั้งแต่สมัยปี พ.ศ. 2520 ที่ป้าหาบเดินทางจากจังหวัดร้อยเอ็ดเข้ามาอยู่กรุงเทพมหานคร และตัดสินใจจะขายส้มตำครกละ 5 บาท ให้คนงานในซอยซึ่งมีรายได้น้อยได้ทานกันอย่างอิ่มท้อง จนหลายสิบปีผ่านไป แกก็มีเงินเก็บไปปลูกบ้านที่ร้อยเอ็ดได้หนึ่งหลัง ทั้ง ๆ ที่ขายส้มตำในราคาเพียงครกละ 5 บาท และไม่เคยขยับราคาเลยสักครั้ง แม้ข้าวของจะแพงขึ้น แพงขึ้น เกือบเท่าตัว..

" ขายราคานี้เพราะมันขายง่าย คนซื้อก็จ่ายง่าย ทุนฉันแต่ละวันก็พันกว่าบาท ก็พอมีกำไรนิด ๆ หน่อย ๆ ไอ้เรามันไม่มีหนี้สิน ก็อยู่ได้ ไม่ต้องไปโขกเอากำไรกับเขามากเกินไป "... ป้าหาบ บอกถึงเหตุผลที่ขายกับข้าวเพียง 5 บาท...

ป้าหาบ หรือ ป้าแดง ยังบอกอีกด้วยว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าหาบของแกมีมากหน้าหลายตา ทั้งขาประจำ , ขาจร
โดยเฉพาะช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 หาบของแกยิ่งขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งถ้าตอนนั้นแกปรับขึ้นราคาก็คงมีกำไรอู่ฟู่ไปแล้ว
แต่แกไม่เคยคิดจะขึ้นราคาเลยสักที.. !!!

" เคยยุให้แกขึ้นราคา.. แกก็งอนนะ.. บอกว่าขึ้นแล้วสงสารพวกโรงงาน ป้าแกมองถึงคนล่าง ๆ ที่ซื้อของแกกิน"... ลูกค้าประจำ ซึ่งเป็นคุณครูโรงเรียนวัดสุวรรณาราม แอบกระซิบเรื่องของป้าอย่างชื่นชม

หลายคนสงสัยว่า... แกขายกับข้าวในราคาเพียง 5 บาทมาได้อย่างไรตั้งนานกว่า 3 ทศวรรษ แล้วจะมีกำไรหรือ ป้าหาบยิ้มแล้วบอกว่า ตัวแกเองก็จำไม่ได้หรอกว่า ได้กำไรหรือขาดทุนอย่างไร เพราะแกคิดเพียงว่า แม้แกจะขายข้าวในราคา 5 บาท แต่ตัวแกเองไม่ได้เดือดร้อนอะไร อยากทานอะไรก็ได้ทาน ไม่เคยลำบาก และไม่ทำให้เป็นหนี้ใคร เพราะฉะนั้นก็ยังขาย 5 บาทได้อยู่..

นอกจากป้าหาบจะใจดีขายกับข้าวทุกอย่างในราคาถุงละ 5 บาทแล้ว
บ่อยครั้งที่จะเห็นแม่ค้าวัยชราคนนี้ หยิบยื่นกับข้าวให้ลูกค้าที่ไม่ค่อยมีเงินได้ทานกันฟรี ๆ แถมยังให้เสียเยอะจนผู้รับเองยังตกใจ !!!

...." นึกถึงตัวเองเวลาไม่มี ท้องหิวมันทรมานมากนะ คนเงินเดือนน้อย ๆ ก็อยากให้เขากินอิ่ม บางคนมีเงินมา 10 บาท มาซื้อกับป้า ป้าก็ให้เขาเยอะ ๆ เป็นข้าวเหนียวเป็นอะไรอย่างนี้ บางคนมาไกล ๆ ไม่มีเงินมา ป้าก็ให้ไปบ้าง หรือไม่ก็คิดเขาแค่ครึ่งเดียว 20 บาท เอา 10 บาทพอ" ป้าหาบ บอก..

ความใจดีของป้าหาบ อาจจะเป็นเพราะในสมัยสาว ๆ แกเคยลำบากมาก่อน ทำมาหมดแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำนา ทำไร่ เป็นแม่บ้าน สุดท้ายมาจบที่แม่ค้าขายส้มตำ และเก็บหอมรอมริบเรื่อยมาจนพอมีเงินเก็บ แต่แกก็ยังเข้าใจหัวอกของคนยากไร้เป็นอย่างดี...

...... " ของอย่างนี้นะหนู คนไม่เคยลำบากมาก่อนไม่มีทางเข้าใจหรอก บางทีแค่"ยี่สิบบาท" เราเห็นว่าน้อยนิด เขาก็หาไม่ได้นะ หรือบางคนย้ายไปอยู่ที่ไกล ๆ มาซื้อของป้า ป้าก็ยิ่งไม่เอาเงินเขาเลย กลัวเขาจะไม่มีค่ารถกลับบ้าน" ป้าหาบ เล่าด้วยความเข้าใจคนหัวอกเดียวกัน...

เคล็ดลับที่ทำให้ป้าหาบสามารถคงราคา 5 บาทมาได้กว่า 30 ปี ก็ไม่ยากอะไร
เพราะป้าหาบแกจะพยายามทำให้ต้นทุนต่ำที่สุด และซื้อวัตถุดิบจากเจ้าประจำทำให้ได้มาในราคาไม่แพงมาก ซึ่งแกก็จะตื่นแต่เช้ามืดมาทำกับข้าวเป็นหม้อ ๆ แล้วหาบของหนัก ๆ ออกมาขายช่วงบ่าย ๆ เป็นประจำเกือบทุกวันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย...

ป้าหาบยังบอกอีกด้วยว่า... แกสนุกกับสิ่งที่แกทำ เพราะได้คุยกับคนมากหน้าหลายตา และหากแกหยุดขายไปหนึ่งวันหรือสองวัน วันรุ่งขึ้นจะมีลูกค้ามาตัดพ้อเลยทีเดียว...

" ถ้าเขาไม่มี เราก็ให้เขากินได้ เวลาเราไม่มี ก็คงจะมีคนยื่นมาให้เรากินบ้าง เหมือนว่าเราทำบุญ ยิ่งกว่าใส่บาตรอีกนะ การให้คนเขาได้กิน ใส่บาตรบางทีพระมีของกินเยอะ ๆ พระท่านก็ไม่ฉันอันนั้นอันนี้ แต่คนที่ไม่มีจะกิน ให้เขาไปเขาก็กินหมด และอิ่มด้วย ยิ่งบางคนให้ไป เขาไม่ลืมเลย ไปเจอกันอยู่กลางทาง เขาเห็นป้าแล้วบอกดีใจจังเลย นึกถึงที่ป้าให้ของกิน เขาบอกว่าไม่เคยลืมเรา ขนาด 9 ปี 10 ปี มาเจอกันวันนี้ ยังมีคนมาทักป้าเลย".... ป้าหาบ เล่าด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างยิ่ง...

ป้าหาบยังบอกด้วยว่า ชีวิตของแกพอมีพอกิน เงินเก็บก็พอมี หนี้สินไม่มี ลูกเต้าก็โตได้งานทำกันหมดแล้ว
เพราะฉะนั้น ชีวิตของแกก็ไม่ได้ลำบากอะไร เช่นนั้นแล้ว เมื่อแกพร้อม ก็สามารถทำอะไรอย่างที่แกอยากจะทำได้ด้วยความสบายใจซึ่งสิ่งนั้นก็คือ "การให้" นั่นเอง..!!!

เห็นไหมว่า เพียงแค่ความคิดเล็ก ๆ ของป้าหาบที่เจือจานน้ำใจอันยิ่งใหญ่สู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน กลับทำให้มุมหนึ่งของสังคมไทยในยุคข้าวยากหมากแพงดูแล้วมีความสุขขึ้นมาถนัดตา...

ปล. อ่านแล้วรู้สึกดีจัง สำหรับเราที่ยังไม่ต้องพึ่งกับข้าวถุงละ 5 บาท ก็ยังสามารถช่วยอุดหนุนป้าได้นะครับ

ปล. ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร ค. ฅน เดือนกรกฎาคม






fiogf49gjkf0d
น้ำใจเหลือล้น นี่คือคนที่ควรยกย่อง
จาก : 130(130) 11/8/2554 18:52:14 [223.205.11.228]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 11/8/2554 เวลา : 10:30  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110133

คำตอบที่ 63
      

fiogf49gjkf0d
“พ่อฉันผู้เป็นใบ้” โฆษณาไทย ทำชาวเน็ตจีน หลั่งน้ำตา

ความซาบซึ้งใจกับความรักของพ่อผู้เป็นใบ้ ในโฆษณาชิ้นใหม่ของไทยประกันชีวิต ที่กำลังได้รับการบอกต่อในหมู่ชาวเน็ตฯ จีน ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา (ภาพจากคลิปฯ)

โฆษณาไทยยังคงสร้างปรากฏการณ์บนแดนมังกร ล่าสุด โฆษณาชุด Silence of Love จากไทยประกันชีวิต ทำชาวเน็ตจีน หลั่งน้ำตา บนเว็บไซต์ tudou.com เสิร์ชเอ็นจิ้นของจีน และ ทวิตเตอร์จีน “Sina Weibo” ไมโครบล็อกดัง

เว็บไซต์ไชน่า สแม็ก จีน (16 ส.ค.) ได้กล่าวถึงโฆษณาชิ้นใหม่ของไทย ที่กำลังได้รับการบอกต่อในหมู่ชาวเน็ตจีน ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้วยความซาบซึ้งใจกับความรักของพ่อผู้เป็นใบ้ โดยผู้ผลิตโฆษณาชิ้นนี้ ได้อัปโหลดคลิปโฆษณาอยู่บนยูทูป และมีการอัปโหลดซ้ำโดยชาวเน็ตจีนลงในเว็บไซต์ tudou.com

ชาวเน็ตจีนหลายคนถึงกับแสดงความเห็นหลังได้ชมว่า “โฆษณาจากประเทศไทยนั้น ถือว่าสุดยอด” และเมื่อได้ทราบถึงที่มาที่ไปของโฆษณา ว่า ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของชายชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่ด้วย ยิ่งประทับใจกับโฆษณาชิ้นนี้อย่างมาก นับเป็นโฆษณาอีกชิ้นที่เข้าถึงความรู้สึกของคนจีน หลังจากความสำเร็จของโฆษณาชุด Disconnect to Connect - (dtac) เมื่อปลายปีที่แล้ว

(โฆษณาชุด Silence of Love จากไทยประกันชีวิต กับคำบรรยายภาษาจีน)

อ้างอิง 1 : http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000103325
อ้างอิง 2 : http://video.sina.com.cn/v/b/58925620-1503973200.html








fiogf49gjkf0d
ฃึ้งด้วยกับโฆษณาครับ แต่น้ำตาปลอมป่าว ไม่ค่อยใว้ใจ ไปเที่ยวจีนผมยังกล้วเรื่องอาหารปลอมเลย
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 19/8/2554 5:44:45 [110.168.97.234]
แล้วคุณว่าโชคร้าย...หรือว่า....โชคดี ที่ใด้ไปเที่ยวจีน ทานอาหารจีนแล้วเก็บโรคกลับมาฟูมฟัก-รอวันรักษา
จาก : ฅนหน้าเดิม(rawat) 19/8/2554 8:58:46 [124.120.233.18]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.122.37.72 พฤหัสบดี, 18/8/2554 เวลา : 22:55  IP : 124.122.37.72   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110458

คำตอบที่ 64
      

fiogf49gjkf0d
เสียงเรียกเข้า.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:53  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110489

คำตอบที่ 65
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:53  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110490

คำตอบที่ 66
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:53  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110491

คำตอบที่ 67
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:54  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110492

คำตอบที่ 68
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:54  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110493

คำตอบที่ 69
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:55  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110494

คำตอบที่ 70
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:55  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110495

คำตอบที่ 71
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:57  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110497

คำตอบที่ 72
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:57  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110498

คำตอบที่ 73
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:58  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110499

คำตอบที่ 74
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:58  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110500

คำตอบที่ 75
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:58  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110501

คำตอบที่ 76
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:59  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110502

คำตอบที่ 77
      

fiogf49gjkf0d






fiogf49gjkf0d
..................
จาก : 005(005) 22/8/2554 15:01:16 [202.122.130.31]
กินใจจริงๆ......ครับ
จาก : saliga(เรือง) 22/8/2554 16:03:55 [118.172.234.90]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 14:59  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110503

คำตอบที่ 78
      

fiogf49gjkf0d
จับใจ ..จริงๆ เมื่อมีโอกาส กอดและหอมคุณแม่บ้าง และบางครั้งต้องขอขมา ถ้าทำให้ท่านไม่สบายใจ จะได้ไม่เป็นบาปติดตัวเรา บางครั้งอาจจะสายเกินไป (ถ้าท่านไปอย่างไม่มีวันกลับ) บางครั้งถ้าท่านไม่มีเวลาทำบุญ จงทำกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะว่าท่านคือพระอรหันต์



fiogf49gjkf0d
เห็นด้วยตามที่.. พี่เรืองและพี่หนึ่งว่าไว้เลยครับ...
จาก : 005 (005 ) 22/8/2554 21:42:12 [115.87.6.247]
ครับ...ใครที่ยังมีพ่อและแม่อยู่ก็ทำดีกับท่านมากๆนะครับ มีโอกาสก็ไปกราบเท้าท่านบ้าง
จาก : sailom_276(sailom_276) 23/8/2554 10:06:06 [182.232.110.31]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

130 จาก หนึ่ง กาฬสินธุ์ 223.205.135.24 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 19:02  IP : 223.205.135.24   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110504

คำตอบที่ 79
      

fiogf49gjkf0d
นิทานสอนใจ : เพื่อนยากพาย่ำแย่

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ปรากฏมิตรไมตรีอันเด่นชัดระหว่างสัตว์สองตัวคือ ลิง และปลา ซึ่งให้ความนับถือเป็นเพื่อนรักเพื่อนยาก และคอยช่วยเหลือจุนเจือกันมาเป็นเวลานาน

เมื่อมีเวลาว่าง บางครั้งลิงก็จะมาหาปลาที่ริมตลิ่ง และบางครั้งปลาก็ไปเรียกหาลิงที่ต้นมะม่วงใกล้ธารน้ำ ทั้งสองมักจะไปมาหาสู่กันเช่นนี้เพื่อใช้เวลาพูดคุยปรึกษาปัญหาต่าง ๆ รวมไปถึงการปรับทุกข์กันอยู่เสมอ

ว่ากันตามจริงแล้ว การที่สัตว์สองตัวนี้มาจับคู่เป็นเพื่อนยากกันก็นับว่าสมควรอยู่ เพราะต่างก็สามารถใช้คุณสมบัติเฉพาะตัวของตนเกื้อหนุนอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ดังเช่นลิงนั้น ว่ากันตามจริงแล้วก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่ได้เปรียบในการใช้ชีวิตมากกว่าปลา เพราะจะไปไหนมาไหนก็สะดวก มีอิสระเสรีที่จะท่องเที่ยวหาอาหารตามที่ต่าง ๆ ในป่าได้ดั่งที่ใจต้องการ

ลิงจึงนับได้ว่าเป็นผู้กว้างขวางผู้หนึ่งในป่า แต่ลิงก็ไม่ได้ทะนงตนในเรื่องนี้มากมายนัก มันคบปลาเป็นเพื่อนด้วยความบริสุทธิ์ใจ และยังคงเห็นคุณค่าในตัวปลาอยู่เสมอ ด้วยมีความคิดว่า แม้ปลาจะเป็นเพียงสัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ แต่หากวันใดวันหนึ่งที่อาหารในป่าหมดไป ตนเองอาจจะต้องเป็นฝ่ายไปขอพึ่งพาอาศัยปลา หรืออีกทางหนึ่งปลาก็ทำให้ลิงกว้างขวางในสังคมสัตว์มากขึ้น เผื่อมีศัตรูใด ๆ มารุกราน ลิงก็อาจขอความช่วยเหลือจากปลา และเหล่าสัตว์น้ำได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด

ส่วนปลา เป็นสัตว์ที่ต้องอาศัยอยู่ในน้ำ ปลาคิดว่าเป็นบุญของตนโดยแท้ที่ได้ลิงมาเป็นเพื่อนยาก เพราะลิงมีน้ำใจช่วยเหลือปลาในเรื่องต่าง ๆ ที่ลิงทำได้มาโดยตลอด นอกจากนั้น หากมีคราวใดที่ปลาเกิดอุบัติเหตุติดค้างอยู่บนบก ลิงก็สามารถช่วยปลามาปล่อยลงน้ำได้อย่างทันท่วงที

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ลิงไม่กินปลาเป็นอาหาร ดังนั้นการคบลิงจึงมีความปลอดภัยสำหรับปลา ยิ่งไปกว่านั้นบนบกก็มีอาหารกินที่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะผลไม้สุก ๆ ซึ่งลิงต้องกินเป็นอาหารอยู่แล้ว ลิงก็มักจะกัดแบ่งผลไม้สุกเหล่านั้นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่เพียงพอกับความต้องการของปลา แล้วส่งให้ปลากินอยู่บ่อย ๆ ลิงและปลาจึงรักและประทับใจในกันและกันไม่เสื่อมคลายด้วยประการฉะนี้

อยู่มาวันหนึ่ง เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในป่า น้ำป่าไหลหลากจนท่วมล้นตลิ่ง และเพิ่มระดับสูงขึ้นจนเกือบจะท่วมถึงกิ่งไม้ ลิงและปลาต่างเป็นห่วงในกันและกันมาก ลิงนั้นเที่ยวกระโดดไปตามกิ่งไม้ที่น้ำยังท่วมไม่ถึงแล้วร้องตะโกนเรียกหาปลา

"ปลาเพื่อนยาก เจ้าอยู่ที่ไหน...อยู่แถวนี้หรือไม่ ช่วยส่งเสียงให้ข้ารับรู้ด้วย ปลาเพื่อนยากของข้า"

ลิงตามหาปลาด้วยความเป็นห่วงยิ่งนัก มันกลัวว่าปลาจะถูกน้ำพัดพาไปติดค้างตามกิ่งไม้ต่างๆ แต่ไม่ว่าจะหาเท่าไรก็ยังไร้ซึ่งวี่แววของปลาเพื่อนรัก มันตามหาปลาไปทั่วป่าจนอ่อนเพลียสิ้นเรี่ยวแรงและผล็อยหลับไปบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

ฝ่ายปลาก็เป็นห่วงลิงมากไม่แพ้กัน มันกลัวว่าลิงจะพลัดตกน้ำและจมน้ำตาย ปลาจึงเที่ยวว่ายน้ำหาลิงไปทั่วทุกหนแห่งที่มันจะสามารถว่ายฝ่าไปได้ด้วยกำลังทั้งหมดจากครีบเล็ก ๆ ทั้งสองของมัน

"เราต้องตามหาลิงให้พบและช่วยลิงให้ได้ ลิงช่วยเรามามากแล้ว ถึงคราวที่เราจะได้ตอบแทนบุญคุณเพื่อนรักของเราบ้าง" ปลาคิดในใจและว่ายน้ำหาลิงต่อไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะต้องช่วยลิงให้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปนานแล้ว ปลาก็ยังหาลิงไม่พบ ครีบน้อย ๆ ของมันที่ใช้แหวกว่ายทวนกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากมาตลอดทางเริ่มอ่อนล้าจนแทบขยับไม่ได้







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.6.247 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 22:00  IP : 115.87.6.247   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110506

คำตอบที่ 80
      

fiogf49gjkf0d
"ตอนนี้เราไร้เรี่ยวแรงจะว่ายน้ำต่อไป หากยังฝืนตัวเอง เราคงได้หมดกำลังและตายเสียก่อนที่จะได้ช่วยลิงเป็นแน่ เพราะฉะนั้นเราจะพักตัวเองสักครู่ เมื่อมีแรงแล้วจึงค่อยว่ายน้ำหาลิงต่อไปจะดีกว่า" ปลาบอกกับตัวเอง แล้วว่ายเข้าไปหลบพักอยู่ในโพรงรากไม้ที่ถูกน้ำท่วมถึงต้นหนึ่งเพื่อออมแรงไว้ก่อน

แต่แล้วธรรมชาติก็เมตตาช่วยให้เพื่อนรักทั้งสองมาพบกันจนได้ เพราะน้ำที่ท่วมป่าได้พัดพาเอาร่างน้อย ๆ ของปลาที่กำลังพักผ่อนเอาแรงอยู่ในโพรงไม้ เคลื่อนขึ้นไปกระทบกับกิ่งไม้ที่ลิงพักหลับอยู่

เมื่อลิงถูกน้ำป่ากระเด็นมากระทบตัวก็ตกใจตื่น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นปลาซึ่งถูกกระแสน้ำพัดพามาทางที่ตนอยู่พอดี ลิงดีใจมากรีบยื่นมือออกไปคว้าร่างของปลาไว้ แล้วนำปลาไปวางไว้บนยอดไม้ เพื่อไม่ให้ปลาถูกกระแสน้ำพัดพาต่อไปอีก

"ตื่นเถิดเพื่อนเอ๋ย" ลิงปลุกปลาจนต้องตื่นตามเสียงเรียกของเพื่อนรัก

"โอ...ลิงเพื่อนยาก" ปลาร้องด้วยความดีใจเมื่อเห็นหน้าลิง "ข้าตามหาเพื่อนอยู่นานมากแล้วรู้ไหม แต่หาเท่าไร ๆ ก็ไม่พบ เพื่อนไปอยู่ไหนมาเล่า"

"ข้าก็เที่ยวตามหาเพื่อนจนสิ้นแรงเช่นกัน แต่โชคดีที่โชคชะตาชักนำให้เรามาพบกันอีก ข้าเห็นเพื่อนถูกน้ำพัดมาเลยรีบคว้าร่างเพื่อนไว้ แล้วนำมาวางไว้บนยอดไม้นี่ ด้วยเกรงว่าเพื่อนอาจจะถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดพาไปพบกับอันตรายได้" ลิงกล่าวแก่ปลา

"โอ...ลิงเพื่อนยาก ท่านมีบุญคุณกับข้าอีกแล้วหรือนี่ ข้าหวังว่าจะได้ช่วยเพื่อนบ้าง แต่กลายเป็นว่าเป็นว่าเพื่อนต้องมาช่วยข้าอีก" ปลาตัดพ้อตัวเอง

"อย่าพูดอย่างนั้นเลยปลาเพื่อนรัก เพื่อนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า ข้าไม่ยอมให้เพื่อนเป็นอะไรหรอก...ว่าแต่เพื่อนอยู่บนยอดไม้นี่สบายดีหรือไม่" ลิงถามปลาด้วยความเป็นห่วง

"ขอบใจลิงมากที่นำข้ามาอยู่บนยอดไม้นี้ ข้าสบายดี และเห็นด้วยกับเพื่อนว่าหากอยู่ในน้ำที่พัดแรงอย่างนั้นต่อไป ตัวข้าอาจจะไปกระแทกกับโขดหินตายเสียก่อนก็เป็นได้" ปลาเห็นด้วยกับลิงโดยลืมไปเสียสนิทว่าตนเองเป็นสัตว์น้ำ ก็ต้องอยู่ในน้ำ

"ถ้าเพื่อนว่าอย่างนี้ข้ากับเบาใจ เอาอย่างนี้นะ เพื่อนพักอยู่บนนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะไปหาอาหารดี ๆ มาให้เพื่อนกินเอง" ลิงบอกแก่ปลาแล้วรีบปีนป่ายต้นไม้ออกไปหาอาหารให้ปลาทันที

ในไม่ช้าเมื่อลองกลับมายังยอดไม้ที่ปลานอนอยู่ ลิงก็แทบเป็นลมทั้งยืน เมื่อเห็นปลาเพื่อนยาก นอนแน่นิ่งสิ้นใจอยู่บนยอดไม้ที่ลิงพามาหลบกระแสน้ำอยู่นั่นเอง

ดังนั้น เธอทั้งหลาย...จงยืนยันในเจตนารมณ์อันดีงามของเธอ ที่มุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่เดือดร้อนต่อไปเถิด ความหวังดีของคนเราซึ่งมีต่อผู้อื่นนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีและช่วยให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้นเป็นแน่ แต่บางครั้ง บางกรณีบางบุคคล เราก็ต้องศึกษา ทำความเข้าใจในรากเหง้าของปัญหาและธรรมชาติของคนผู้ซึ่งต้องการรับความช่วยเหลือให้ถ่องแท้เสียก่อน แล้วจึงค่อยหยิบยื่นความช่วยเหลือแก่เขาไปอย่างเต็มที่ หากเป็นดังนี้ ความช่วยเหลือของเธอ จึงจะสร้างคุณประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้เดือดร้อนได้ดีเป็นที่สุด

และในแง่ของผู้ซึ่งต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นนั้น ขอจงอย่าขาดสติในตนเอง และมัวหลงดีใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหยิบยื่นให้ แต่ต้องคิดให้รอบคอบด้วยว่า ความช่วยเหลือที่เขาให้แก่เรานั้น ถูกต้องเหมาะสมตามที่เรากำลังเดือดร้อนจริงหรือไม่ และตรงกับสภาพตามธรรมชาติของเราด้วยหรือเปล่า

มิเช่นนั้น ความช่วยเหลือที่ตั้งใจมอบให้ ก็อาจจะนำพาซึ่งผลร้ายและความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่ผู้เดือดร้อน มากกว่าผลดีที่เขาผู้นั้นสมควรจะได้รับจริง ๆ

////////////////////////

ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ฟรีมายด์ที่เอื้อเฟื้อนิทานสอนใจดี ๆ ในชุดหนังสือนิทานสีขาวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.6.247 จันทร์, 22/8/2554 เวลา : 22:04  IP : 115.87.6.247   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110507

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 3 จาก >>> 1  2  3  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,19 เมษายน 2567 (Online 4374 คน)