WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


GUN & BB GUN : รวมเหล่าปืนผาหน้าไม้.. อาวุธยุทโธปกรณ์.. คุยทุกเรื่อง
005
จาก BoyDogtag,TTC-005
IP:124.121.65.227

อังคารที่ , 21/6/2554
เวลา : 12:44

อ่านแล้ว = 51580 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  

คำตอบที่ 121
      

fiogf49gjkf0d
นี่ก็เห่า (น้ำ) ผมจับครับ ไม่อยากฆ่า ถ้าไม่ได้กิน
ผมใช้อุปกรณ์จับงู ใช้ท่อ PVC กับเชือกครับพี่โก๋ อย่าไปกลัว

หรือไม่ก็ปล่อยงูบนหัวไปขู่ก่อนก็ได้
ผมว่างูมันจะหนีเลยนะ ถ้าเจออ่ะ





fiogf49gjkf0d
ตอนจับนี่เมาป่าววว 555
จาก : Koh_ppK(Koh_ppK) 5/12/2555 8:43:37 [27.55.0.196]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

thebank44 จาก thebank44 202.183.235.61 อังคาร, 4/12/2555 เวลา : 15:51  IP : 202.183.235.61   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121329

คำตอบที่ 122
      

fiogf49gjkf0d
กว่าจะว่างไปค้นหากระสุนลูกปลาย..
ซึ่งผมเองได้ซื้อมาเมื่อราว 7-8 ปีที่แล้ว..

กระสุนเป็นของ CCI
ซื้อมาในราคา.. 9mm = 90 บาท/นัด และ
.22 = 60 บาท/นัด...ครับคุณโก๋

หลังจากนั้น อีกราวปีนึง..
ผมได้ไปสอบถามกับร้านค้าเดิมที่เคยไปซื้อกระสุนลูกปรายมา
ก็ได้ความว่า.. 9mm นัดละ 120 บาทไปแล้วครับ.. แพงดีจริงๆ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.190.202 อังคาร, 18/12/2555 เวลา : 23:28  IP : 124.121.190.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121650

คำตอบที่ 123
      

fiogf49gjkf0d
วันนี้..ได้มีโอกาสไปหลังวังมา
เลยเดินถามหากระสุนลูกปราย 9mm ให้คุณโก๋ซะหน่อย..

มีอยู่ร้านนึงครับ.. ที่ยังมีกระสุนชนิกนี้ขายอยู่
ผมเลยถามว่า.. "ขายนัดละเท่าไร???"

......"350"....!!!!!
ใช่แล้วครับ.. สามร้อยห้าสิบบาทต่อนัด... แพงดีจริงๆ

ปล. : อีกนัดที่เป้นกระสุนหัวระเบิดนั้น คือ Black-Talon ขนาด 9mm... ครับ
ถ้าคุณโก๋จะหากระสุน Hydra-Shock ติดแม็กจริงๆละก็...
พยายามหา Black-tolon ก่อนเลยจะดีกว่านะครับ..
และถ้าได้ในราคาไม่แพงนัก.. ก็แบ่งมาขายผมบ้างก็ได้นะครับ..
( ราคาสุดท้ายที่ขายใมองไทย เมื่อราว 5 ปีที่แล้ว... มัน 150 บาท/นัดครับ )






fiogf49gjkf0d
ขอบคุณมากครับพี่บอย ราคาแพงเว่อร์จริงๆ คงต้องหาไม้ไผ่ยาวๆไว้ตีงูล่ะครับ
จาก : Koh_ppK(Koh_ppK) 20/12/2555 13:18:26 [27.55.152.48]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.190.202 อังคาร, 18/12/2555 เวลา : 23:42  IP : 124.121.190.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121652

คำตอบที่ 124
      

fiogf49gjkf0d
อย่าเพิ่งซื้อ .. “อาก้า” รุ่นที่ 5 จะมาแล้ว AK-12 รัวหูดับตับไหม้

ปืนเล็กยาวอัตโนมัติ AK-12 หรือ "อาก้า" รุ่นปี 2012 อวดโฉมในงานแสดงอาวุธและการป้องกันประเทศในกรุงมอสโกเมื่อปีที่แล้ว บริษัทผู้ผลิตนำต้นแบบออกนำเสนอต่อกระทรวงกลาโหมตอนต้นปี 2554 ซุ่มพัฒนาและปรับปรุงต่อมาตลอดทั้งปี เริ่มการทดสอบทุกด้านเมื่อต้นปี 2555 แล้วเสร็จในเดือน พ.ย. นำเสนอต่อกระทรวงกลาโหม กองทัพบกรัสเซียจะเริ่มทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายเดือน ม.ค.-ก.พ.2556 นี้ อันเป็นขั้นตอนปฏิบัติก่อนนำเข้าประจำการ คาดว่าการผลิตลอตใหญ่จะเริ่มขึ้นได้ในท้ายปี การส่งออกก็จะติดตามมาหลังจากนั้น.. นี่อาจจะเป็นปืนกระบอกใหม่ทันสมัยที่สุดสำหรับนักรบยุคปัจจุบัน. -- ภาพ: สำนักข่าวรัสเซีย RIA Novosti.

- กองทัพรัสเซียจะเริ่มทดสอบปืนรุ่นใหม่ล่าสุดของคาลาชนิคอฟ (Kalashnikov) ในเดือน ม.ค.-ก.พ.นี้ ซึ่งจะเป็นการทดสอบเพื่อนำเข้าประจำการ หลังจากผ่านการทดลองด้านประสิทธิภาพ และอื่นๆ รวมทั้งแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเพิ่งจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในเดือน พ.ย.2555

หมายความว่า อีกไม่นานก็จะมีปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดคือ AK-12 ออกสู่ตลาดโลก ให้เป็นทางเลือกสำหรับหลายประเทศที่เป็นลูกค้าประจำของคาลาชนิคอฟมาเป็นเวลานานข้ามศตวรรษ

AK-12 เป็นปืนรุ่นที่ 5 ของ “อาก้า” (Automat Kalashnikov) ซึ่งจะผลิตออกมาหลายเวอร์ชัน รวมทั้งสำหรับส่งออก และจะกลายเป็นปืน และมีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในวงการกลาโหมของโลก ทั้งเป็นที่หมายตาของประเทศที่อยู่นอกค่ายนาโต้ และสหรัฐฯ หลายประเทศอยู่ในจังหวะที่จะต้องเปลี่ยนอาวุธปืนของกองทัพเสียใหม่ สำหรับกำลังพลหลายหมื่น หรือหลายแสนคน

ปืนของคาลาชนิคอฟได้ชื่อเป็นอาวุธประจำกายนักรบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเชื่อถือได้มากที่สุดอีกยี่ห้อหนึ่ง โดยมี AK-47 เป็นธงนำ และกลายเป็นตำนานแห่งอาวุธปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติในศตวรรษที่ 20 แต่หลายทศวรรษมานี้สหรัฐฯ กับพันธมิตร ได้ผลิตปืนเล็กยาวอัตโนมัติออกมาอีกหลายรุ่นที่มีความแม่นยำสูงกว่า รวมทั้งทนทาน ทันสมัยมากกว่าอีกด้วย

กองทัพรัสเซียสั่งให้กลุ่มอุตสาหกรรมอิซห์มาช (Izhmash) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กระทรวงกลาโหม ศึกษาวิจัย และทดลองเพื่อผลิตอาวุธปืนใหม่ออกมาให้สอดคล้องกับสภาพสงครามในยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป โดยยึดถือพื้นฐานของ AK-47 อันเป็นตำนานคู่กองทัพมาตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต

จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ คาลาชนิคอฟเมื่อก่อน กับรัฐวิสาหกิจอิซห์มาชในวันนี้ ผลิต AK รุ่นต่างๆ ออกมาประมาณ 75 ล้านกระบอก เมื่อรวมกับเวอร์ชันที่ผลิตในอีกกว่าสิบประเทศทั่วโลก ทั้งที่มีลิขสิทธิ์ และผลิตโดยลอกเลียนแบบก็จะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านกระบอก

ในช่วงสงครามเวียดนาม ทั้งเวียดนาม กัมพูชา และลาว ใช้ AK-47 เป็นอาวุธหลักในการต่อสู้กับสหรัฐฯ และรัฐบาลที่สหรัฐฯ หนุนหลัง หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีประวัติศาสตร์คล้ายกัน ได้รับเอกราช และนำชาติเข้าสูยุคใหม่มาได้ก็เพราะ “อาก้า”

จากวันนั้นถึงวันนี้ประเทศต่างๆ เหล่านี้ได้ทยอยเปลี่ยนอาวุธให้กองทัพ แต่ก็ยังหนีไม่พ้นปืนของคาลาชนิคอฟ ซึ่งรวมทั้งเวียดนาม ลาว กัมพูชา ติมอร์เลสเต อินโดนีเซีย พม่า ไปจนถึงอินเดีย เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี ก็ถึงโอกาสอันควรที่จะต้องเปลี่ยนใหญ่กันสักครั้ง ไม่ว่าจะเก็บเอาไว้ในคลัง หรือผ่านการใช้งานมามากน้อยแค่ไหนก็ตาม เพราะ 20 ปีเป็นช่วงอายุเฉลี่ยที่ AK-47 ใช้งานได้ดีที่สุด

ยังไม่ต้องพูดถึงอีกหลายประเทศในแอฟริกา หรือละตินอเมริกา จนถึงยุโรปตะวันออก ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะปืนอาก้า ประเทศโมซัมบิกสำนึกในบุญคุณของ AK-47 จนต้องนำขึ้นไปประดับบนธงชาติคู่กับสัญลักษณ์ประเทศ ในขณะที่ติมอร์เลสเตนำไปใช้ในตราประจำชาติ..






fiogf49gjkf0d
ซือรุ่นนี้ไว้ จะไปปล้น อะไหล่ คุณบอย ดีมั้ย 555
จาก : 130(130) 3/1/2556 13:03:46 [49.48.134.249]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 3/1/2556 เวลา : 08:27  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121876

คำตอบที่ 125
      

fiogf49gjkf0d
อาก้าได้ชื่อในความอึดความทน ใช้ได้ในทุกสภาพพื้นที่ และภูมิอากาศ หยิบขึ้นจากโคลนก็เหนียวไกยิงได้ทันที ยิงจนหมดแมกกาซีน 30 นัดโดยไม่มีติดขัด ถอดสลักเพียง 3 ชิ้นก็ทำความสะอาดได้ แม้ไม่ต้องการการบำรุงรักษามากมาย

ถึงกระนั้นถ้าหากเทียบกับคู่แข่งอย่าง M-16 ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความแม่นยำ แม้กระสุนของอาก้าจะมีขนาดใหญ่กว่า และคุยระยะหวังผลเอาไว้ถึง 350 เมตร แต่ในสนามจริงจะยิงให้เข้าเป้าห่างออกไปสัก 200 เมตรก็ยังลำบาก ซึ่งเรื่องนี้ M-16 ทำได้ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ในสงครามกองโจรปืนอาก้าได้เปรียบทั้งในด้านความคล่องตัว และความทนทายาด และในระยะซุ่มยิงประมาณ 100 เมตรในป่าดงนั้น กระสุนของอาก้ามีอานุภาพสูงกว่าในการหยุดยั้ง หรือทำลายคู่ต่อสู้

แต่ในปัจจุบัน สหรัฐฯ พัฒนาอาวุธปืนไปไกลกว่า M-16 หลายยุคแล้ว

ปืนของสหรัฐฯ ติดอุปกรณ์ช่วยรบได้มากมาย ยิงได้แม่นยำต่างไปจากเมื่อ 2-3 ทศวรรษก่อน และรัสเซียทราบดีว่าหากประชันกันตัวต่อตัว กระบอกต่อกระบอก ปืนของคาลาชนิคอฟยากที่จะเทียบรัศมีปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติของสหรัฐฯ ได้ ถึงแม้จะพัฒนาต่อจาก AK-47 มาอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น AKM (AK Modern) AK-74 (ประจำการปี 1974) และ AK-100s ซึ่งเป็นเวอร์ชันส่งออกของ AK-74 กับรุ่นย่อยอีกนับสิบรุ่นก็ตามที

บริษัทอิซห์มาชนำต้นแบบ AK-12 ออกแนะนำตัวตั้งแต่ต้นปี 2554 ซุ่มพัฒนาต่อมา 1 ปีเต็ม ก่อนจะเริ่มทำทดสอบหาจุดบกพร่อง และปรับปรุงแก้ไขตลอดปีที่แล้ว ซึ่งสำนักข่าวโนวอสติของทางการรัสเซียรายงานว่า การทดสอบแล้วเสร็จลงในเดือน พ.ย. ซึ่งมีการแก้ไขจุดอ่อนไปจำนวนหนึ่ง ก็จึงถึงรอบที่กองทัพจะต้อง “เล่นเอง” จนเป็นที่พอใจ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในช่วงปลายปีนี้


ภาพ : AK-12 พัฒนาต่อจาก AK-74 หรือ "อาก้า" รุ่นปี 1974 ส่วนประกอบหลายชิ้นคล้ายกัน เพียงแต่ผลิตขึ้นใหม่จากวัสดุชนิดใหม่ และคุณภาพจะต้องดีกว่ารุ่นเดิมอีกด้วย ทั้งนี้เป็นไปตามความต้องการของกองทัพรัสเซีย. -- ภาพ: สำนักข่าวรัสเซีย RIA Novosti.






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 3/1/2556 เวลา : 08:28  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121877

คำตอบที่ 126
      

fiogf49gjkf0d
ภาพ : มิคาอิล คาลาชนิคอฟ (Mikhail Kalashnikov) ต้นตำนานปืน "อาก้า" ปัจจุบันอายุ 90 ปีเศษ วางมือจากปืนผาหน้าไม้แล้ว ทิ้งเป็นมรดกให้ชนรุ่นหลังพัฒนาต่อไป. -- ภาพ: RIA Novosti/Ruslan Krivobok.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 3/1/2556 เวลา : 08:29  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121878

คำตอบที่ 127
      

fiogf49gjkf0d
http://world.kapook.com/pin/50e6950238217a085c000000 ผมจะไปหัดยิงปืนแบบนี้ได้ที่ไหนครับคุณบอย





fiogf49gjkf0d
เป็นที่มา ของ จุด 2 ห้อย ฮิ้วๆๆ
จาก : 130(130) 6/1/2556 21:38:53 [171.5.68.57]
ขอบคุณครับ.. พี่เร... แหมเล่น Glock 18C ซะด้วยสิครับ...
จาก : 005 (005 ) 6/1/2556 22:07:00 [115.87.13.114]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 110.169.224.150 อาทิตย์, 6/1/2556 เวลา : 17:02  IP : 110.169.224.150   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121935

คำตอบที่ 128
      

fiogf49gjkf0d
เพื่อนบ้านเกาะติด.. สหรัฐฯ ขายเรือ LCS สุดล้ำให้ราชนาวีไทย

เว็บไซต์ข่าวกลาโหมชั้นนำของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านย่านเอเชียต่างจับตาข่าวสำคัญข่าวหนึ่งที่รายงานโดยเว็บไซต์ "เจนส์" (Jane's Defence) แหล่งข่าวกลาโหมและความมั่นคงที่เชื่อถือได้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งหลายฝ่ายกล่าวว่าถ้าหากเป็นจริงก็จะเป็นรูปธรรมสำคัญของนโยบายคืนสู่เอเชียของสหรัฐฯ

บริษัทล็อกฮีดมาร์ติน (Lockheed Martin) ผู้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์แลเทคโนโลยีแห่งสหรัฐฯ ซึ่งรวมทั้งเครื่องบินรบยุคที่ 5 แบบ เอฟ-15 "ไล้ท์นิ่ง" พิจารณาเสนอขายเรือโจมตีชายฝั่ง หรือ LCS (Littoral Combat Ship) ชั้นฟรีดอม (Freedom-Class) ให้แก่ราชนาวีไทย

เจนส์รายงานเรื่องนี้สัปดาห์ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อ้างการยืนยันของนายดัก ลอเรนโด (Doug Laurendeau) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจระบบเรือและอากาศยานของล็อคฮีดมาร์ติน ซึ่งกล่าวว่า เป็นอีกโอกาสหนึ่งของบริษัทในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเสนอขายเรือรบที่ล้ำหน้ารุ่นนี้เป็นการตอบสนองคำเชื้อเชิญของไทย เพื่อเข้าร่วมเสนอในการจัดซื้อจัดหาเรือฟริเกตใหม่จำนวน 2 ลำ ซึ่งได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณจัดซื้อจากรัฐบาลไทยตั้งแต่เดือน ก.ย.2555 รวมเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์

การซื้ออาวุธเทคโนโลยีสูงจากสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกประเทศ แม้จะเป็นชาติร่ำรวยมาหาศาลก็จะไม่มีโอกาสเช่นนี้ ถ้าหากไม่สอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งสงวนสิทธิ์นี้ไว้ให้แก่ประเทศพันธมิตรนอกค่ายนาโต้ที่มีอยู่เพียง 15 ประเทศและราชอาณาจักรไทยรวมอยู่ในนั้น

ล็อคฮีดมาร์ตินเองก็ไม่สามารถที่จะขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ใครๆ ได้โดยลำพัง หากไม่ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์กลาโหมในภูมิภาคนี้หลายคนมองว่า นับเป็นโอกาสดีที่สุดของไทยที่จะมีเรือรบรุ่นล่าสุด ทันสมัยที่สุดของสหรัฐฯ ไว้ใช้

และถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงไทยก็จะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นประเทศแรกๆ ในบรรดาชาติพันธมิตรนอกกลุ่มนาโต้ที่จะมีเรือ LCS ประจำการในกองทัพเรือ

“ล็อคฮีดมาร์ตินดูพร้อมจะเข้าแข่งขัน เพื่อสนองความต้องการเรือฟริเกตกับทั้งเกาหลีและเยอรมนี” เจนส์กล่าว และไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีก

เป็นที่ทราบกันดีว่าคู่แข่งสำคัญของเรือสหรัฐฯ ที่อยู่ในสายตาของกองทัพเรือไทยคือ เรือ DW3000H ที่ออกแบบโดยแดวูต่อเรือและวิศวกรรมทางทะเล (Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering -DSME) กับเรือตระกูลเมโก (MEKO) ที่พัฒนาโดยกลุ่มธีสเซนครุปมารีนซีสเต็มส์ (ThyssenKrupp Marine Systems) แห่งเยอรมนี ถึงแม้ผู้สังเกตการณ์บางรายจะเคยลงความเห็นว่า สเป็กที่กองทัพเรือไทยกำหนดออกมา เป็นการเข้าข้างเรือรบจากเกาหลีอย่างออกนอกหน้าก็ตาม

แต่หมากต่อรองของกองทัพเรือไทยมีมากว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนกระโดดเข้าร่วมวงโดยเสนอเรือ “แบบ 054” (Type 054) พร้อมติดจรวดนำวิถีให้พิจารณาอีกราย เจนส์รายงานเรื่องนี้ แต่ก็ระบุว่าผู้บัญชาการทหารเรือของไทย ประสงค์จะซื้อเรือที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ยุโรปหรือเกาหลีมากกว่าด้วยงบประมาณที่ไม่เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์

เรือจีนอาจจะราคาถูกกว่าเรือที่ต่อโดยโลกตะวันตกถึง 4 เท่า แต่คุณภาพเป็นทีน่าสงสัย และกองทัพเรือไทยเคยมีประสบการณ์ตรงมาแล้วเมื่อครั้งให้จีนต่อเรือหลวงชุดนเรศวร-ตากสิน ซึ่งต้องรื้อใหม่ทั้งหมดหลังการส่งมอบ นอกจากนั้นไทยก็ยังไม่คุ้นกับระบบอาวุธนาวีของจีนโดยสิ้นเชิง

Pic : เรือโจมตีชายฝั่งชั้นฟรีดอม (Freedom-Class Littoral Combat Ship) เข้าประจำการปี 2553 เป็นเรือ LCS ลำแรกของกองทัพเรือสหรัฐ ปัจจุบันกำลังเตรียมตัวไปประจำการที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นการออกปฏิบัติการครั้งแรก ลำที่ 2 เรือฟอร์ตเวิร์ธ (LCS-3 "Forth Worth") เพิ่งเข้าประจำการเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ปัจจุบันล็อคฮีดมาร์ตินกำลังต่ออีก 2 ลำจากทั้งหมด 6 ลำในเฟสที่ 1 และนี่คือเรือรบยุคใหม่ที่จะเข้าประจำการแทนเรือฟรีเกตชั้นโอลิเวอร์ ฮาซาร์ด เพอร์รี (Oliver Hazard Perry-Class Frigate) สื่อกลาโหมประเทศเพื่อนบ้านต่างมองว่า ความเคลื่อนไหวนี้ของฝ่ายสหรัฐฯ มีนัยสำคัญและเป็นโอกาสดีที่สุดของราชนาวีไทยที่จะมีเรือรบล้ำยุคไว้ป้องกันประเทศ มีเพียง 15 ประเทศทั่วโลกที่สหรัฐฯ จะหยิบยื่นโอกาสเช่นนี้ให้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศ. -- ภาพ: Lockheed Martin

ref. : http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000014657>






fiogf49gjkf0d
รบกวน.. พี่ภาพอธิบายเรื่องชั้นของเรือรบ สักนิดนะครับ..ถ้ามีเวลา.. พวกฟิเกตอะไร ???
จาก : 005(005) 5/2/2556 7:16:59 [202.122.130.32]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 อังคาร, 5/2/2556 เวลา : 07:14  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 122430

คำตอบที่ 129
      

fiogf49gjkf0d
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เจนส์กำลังพูดถึง เรือฟริเกตขนาด 4,300 ตัน “เจียงคาย 1” (Jiang Kai 1) หรือ แบบ 054A “เจียงคาย 2” ขนาด 4,053 ตัน เนื่องจากแบบ 054 ได้เลิกผลิตไปแล้วหลังจากที่ได้ผลิตออกมาเพียง 2 ลำและหันมาต่อเจียงคาย 2 ใช้แทน ซึ่งติดตั้งระบบอาวุธกับระบบเรดาร์ทันสมัยกว่า

ปัจจุบันกองทัพเรือจีนมีเรือฟรีเกตแบบ 054A ประจำการจำนวน 16 ลำ และกำลังต่ออีก 4 ลำ ทั้งนี้เป็นรายงานในเว็บไซต์ Sino-Defence.Com ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

สื่อกลาโหมต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านต่างทราบดีว่า ราชนาวีไทยไม่ใช่ลูกค้าหน้าใหม่ของล็อคฮีดมาร์ติน หากมีความสัมพันธ์ต่อกันมานานหลายสิบปีแล้วผ่านโครงการร่วมมือช่วยเหลือในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล ปีที่แล้วบริษัทนี้ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรบแบบเอฟ-16 ได้ทำการอัพเกรดแล้วเสร็จและส่งมอบให้แก่กองทัพอากาศไทยลอตแรก

ในเดือน ก.พ.ปีที่แล้วเช่นกันล็อคฮีดมาร์ตินได้ส่งมอบเฮลิคอปเตอร์แบบ MH-60 “ซีฮอว์ค” จำนวน 2 ลำที่กองทัพเรือไทยจัดซื้อ

การพันตูด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างสหรัฐฯ และไทยยังมีลักษณะกระชั้นยิ่งขึ้นหลังการรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายทหารในปี 2549 เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทเรย์ธีออน (Raytheon) สหรัฐฯ เพิ่งประกาศเกี่ยวกับการขายจรวดนำวิถีแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) ให้กองทัพเรือไทย และ นี่คือขีปนาวุธต่อสู้ป้องกันเรือรบดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ซึ่งไทยเป็นเพียง 1 ใน 13 ประเทศที่มีประจำการ

ปัจจุบันวุฒิสภาสหรัฐกำลังรอพิจารณาร่างรัฐบัญญัติฉบับหนึ่งที่จะอนุญาติให้สหรัฐฯ ยกเรือฟรีเกตชั้นเพอร์รีฮาซาร์ดเพอร์รี (Oliver Hazard Perry-Class Frigate) ที่กำลังจะปลดประจำการ 2 ลำให้แก่ราชนาวีไทย “ฟรีๆ” พร้อมกับมิตรประเทศอีก 2 ชาติ ซึ่งแม้จะใช้งานมานาน 2 ทศวรรษ แต่เรือรบชั้นนี้ก็ยังทันสมัย หลังการฟื้นฟูและอัพเกรดก็จะใช้งานต่อไปได้อีก 20 ปี้แป็นอย่างน้อย

สำหรับเรือ LCS ชั้นฟรีดอม ถูกกำหนดให้ใช้รหัสเป็นเลขคี่ คู่ขนานกับเรือชั้น “อินดีเพนเดนซ์” (LCS-2 Independence) ที่ผลิตโดยเจเนอรัลไดนามิคส์ (General Dynamics) ซึ่งใช้รหัสเลขคู่

ปัจจุบันเรือ LCS-1 ฟรีดอม กำลังอยู่ระหว่างเตีรยมการไปประจำที่สิงคโปร์ในปีนี้ ตามนโยบายกลับคืนสู่เอเชียแปซิฟิกของสหรัฐฯ ล็อคฮีดมาร์ตินกล่าวถึงเรื่องนี้ในเว็บไซต์

อย่างไรก็ตามบริษัทนี้เพิ่งจะผลิตเรือชั้นฟรีดอมออกมาเพียง 2 ลำเท่านั้น ลำล่าสุดคือเพิ่งทำพิธีนำเข้าประจำการในเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว คือเรือฟอร์ตเวิร์ธ (LCS-3 Fort Worth) ขณะนี้กำลังต่ออีก 2 ลำ คือ LCS-5 “มิลวอคี” (Milwaukee) กับ LCS-7 “ดีทรอย” (Detroi)

ลำต่อๆ ไปในโครงการคือ LCS-9 “ลิตเติ้ลร็อก” (Little Rock) กับ LCS-11 “ซูซิตี้” (Sioux City)

แม้จะได้ชื่อเป็น “เรือโจมตีชายฝั่ง” แต่เรือชั่นฟรีดอมสามารถจัด (Configuration) ได้หลายรูปแบบตามความต้องการใช้งานในทั่วโลก แต่รุ่นมาตรฐานติดตั้งระบบอีจิส (Aegis) กับระบบเรดาร์ SPY-1F(V) และระบบยิงจรวดนำวิถีแนวดิ่งแบบ MK41 ล็อคฮีดมาร์ตินกล่าว.






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 อังคาร, 5/2/2556 เวลา : 07:21  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 122431

คำตอบที่ 130
      

fiogf49gjkf0d
เรือดำน้ำเวียดนาม 2 ลำแรก ออกทะเลแล่นทดสอบ

สื่อในรัสเซียได้เผยแพร่ภาพเรือดำน้ำ “ฮานอย” (Hanoi City) ซึ่งปล่อยลงน้ำที่อู่ต่อในนครเซ็นปีเตอร์สเบิร์กเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อปรับแต่ง และเตรียมออกแล่นทดสอบในทะเลตลอดปีนี้ ก่อนติดอาวุธซึ่งจะมีการทดสอบอีกขั้นตอนหนึ่ง

นี่คือเรือดำน้ำโจมตีเร็วชั้นคิโล (Kilo-Class) แบบเดียวกับของกองทัพเรือรัสเซีย เป็นลำที่ 2 จากจำนวนทั้งหมด 6 ลำ ที่เวียดนามเซ็นซื้อในปลายปี 2552

ตามข้อมูลในเว็บไซต์ Airbase.Ru เรือดำน้ำ “ฮานอยซิตี้” ถูกปล่อยลงน้ำในวันที่ 28 ธ.ค.2555 ที่อู่ต่อเรือแอดมิรัลตี้ (Admiralty) เพื่อเตรียมออกแล่นทดสอบในย่านทะเลบอลติก และในเดือนเดียวกัน เรือดำน้ำลำแรกคือ “นครโฮจิมินห์” (Ho Chi Minh City) ได้ออกแล่นสู่ทะเลเป็นครั้งแรก หลังถูกปล่อยลงน้ำในวันที่ 28 ส.ค.2554

เว็บไซต์แห่งเดียวรายงานอีกว่า เมื่อปล่อยเรือดำน้ำลำที่ 2 แล้ว อู่ต่อเรือแห่งนี้ได้เริ่มงานสำหรับเรือดำน้ำลำที่ 3 ทันที

อู่ต่อเรือแอดมิรัลตี้ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขอกองทัพเรือรัสเซีย จะต้องต่อเรือดำน้ำชั้นคิโลให้กองทัพเรือเวียดนามต่อไปอีกหลายปี ขณะที่อีกหน่วยหนึ่งจะทำการทดสอบคู่ขนานกันไป ซึ่งจะต้องใช้เวลานานนับปีในการปรับแต่ง ก่อนจะเริ่มทดสอบเรือกับระบบอาวุธ Airbase.Ru กล่าว

ภาพ : เรือโฮจิมินห์ซิตี้ (Ho Chi Minh City) เป็นลำแรกจากทั้งหมด 6 ลำที่เวียดนามสั่งซื้อจากรัสเซีย ปล่อยลงน้ำวันที่ 28 ส.ค.2555 และเริ่มเดินเครื่องออกสู่ทะเลบอลติค เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา นี่คือเรือดำนน้ำลำแรกที่มีกำหนดส่งมอบให้แก่เวียดนามในปี 2558 สื่อออนไลน์ในรัสเซียกล่าว. -- ภาพ: Airbase.Ru






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 ศุกร์, 8/2/2556 เวลา : 16:34  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 122464

คำตอบที่ 131
      

fiogf49gjkf0d
เรือดำน้ำโจมตีเร็วที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล-ไฟฟ้าชั้นนี้ มีชื่อเสียงเรื่องความเงียบเมื่อแล่นอยู่ใต้น้ำ ดำน้ำได้ลึกสุด 300 เมตร ติดตั้งระบบนำร่องที่ก้าวหน้า ติดตอร์ปิโดและจรวดนำวิถีทำลายเรือ เป็นเรือใต้น้ำที่มีใช้ในกองทัพหลายประเทศ รวมทั้งในจีน และอินเดียด้วย แต่รุ่นที่เวียดนามสั่งซื้อใหม่จะติดเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ทำให้เรือเงียบยิ่งขึ้น เร็วขึ้นอีก แต่ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น เว็บไซต์แห่งเดียวกันกล่าว

เวียดนามได้ส่งทหารจำนวนหนึ่งไปฝึกในรัสเซียล่วงหน้าตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อเรียนวิธีควบคุมบังคับ ตลอดจนการใช้งานเรือดำน้ำลำแรก-โฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบในปี 2558 ลำต่อๆ ไปฝ่ายรัสเซียจะส่งมอบให้เวียดนามปีละ 1 ลำ ไปจนครบ 6 ลำ Airbase.Ru กล่าว

ตามรายงานของสื่อออนไลน์ในเวียดนามก่อนหน้านี้ เรือดำน้ำทั้ง 6 ลำ จะตั้งชื่อตามชื่อของ 6 นครของประเทศ ที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง ซึ่งรวมทั้งนครด่าหนังในภาคกลาง นครเหวในภาคกลางตอนบน นครหายฝ่องในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับนครเกิ่นเทอ ในเขตที่ราบปากแมน้ำโขง.

ภาพ : ฮานอยซิตี้
Airbase.Ru







fiogf49gjkf0d
555"มีเรือดำน้ำ 6 ลำ"ล้าหลังกว่าประเทศไทยเยอะ "ไทยมีเรือเหาะแล้ว" อิอิอิ
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 9/2/2556 5:28:04 [124.120.245.253]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 ศุกร์, 8/2/2556 เวลา : 16:36  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 122465

คำตอบที่ 132
      

fiogf49gjkf0d
ทอ.อิเหนาเปลี่ยนใจซื้อ Su-30 รัสเซียอีก 6 ลำ $470 ล้าน

อินโดนีเซียได้เปลี่ยนความคิดอีกครั้งหนึ่ง และตัดสินใจเซ็นซื้อเครื่องบินรบแบบ Su30MK2 เพิ่มอีก 6 ลำ โดยใช้เงินกู้ของรัสเซีย การจัดซื้อครั้งนี้จะทำให้กองทัพอากาศมีเครื่องบินรบตระกูลซูคอย (Sukhoi) เพิ่มขึ้น 16 ลำ สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานเรื่องนี้ อ้างนายอะนาโตลี อิซาอิคิน (Anatoly Isaikin) ผู้อำนวยการใหญ่ของโรโซโนรอเน็กซ์ปอร์ต (Rosoboronexport) บริษัทขายอาวุธยุทโธปกรณ์ภายใต้กระทรวงกลาโหม

แผนการจัดซื้อเครื่องบินทั้ง 6 ลำ เปิดเผยเป็นครั้งแรกในปี 2553 ซึ่งมูลค่าในขณะนั้นคือ 470 ล้านดอลลาร์ พร้อมระบบอาวุธ และกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย ประกาศในช่วงนั้นเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเครื่องบินรบชนิดต่างๆ จากรัสเซียถึง 180 ลำ เพื่อให้มีจำนวนครบ 10 ฝูง ตลอดระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า

แต่ในเดือน ส.ค.2554 เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้หนึ่งของกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียได้ประกาศยกเลิกแผนการจัดซื้อเครื่องบินรบจากรัสเซียท่ามกลางความงุนงงของหลายฝ่าย โดยอ้างว่า มีงบประมาณไม่เพียงพอ และจะใช้สำหรับอัปเกรดเครื่องบินลำเลียงขนส่งแบบ ซี-130 ที่ใช้งานมานาน รวมทั้งซื้อต่อจากกองทัพอากาศออสเตรเลียอีก 1 ลำด้วย

การประกาศเรื่องนี้เป็นช่วงเดียวกันกับที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดเผยแผนการบริจาคเครื่องบินเอฟ-16 ที่ใช้งานแล้วให้แก่กองทัพอินโดนีเซีย “ฟรีๆ” จำนวน 24 ลำ แต่จะต้องจ่ายค่าอัปเกรดเป็นเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม สองฝ่ายยังสืบต่อเจรจาซื้อขาย Su-30SK2 ต่อมาบนพื้นฐานที่ว่ามีการตกลงกันแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนที่ฝ่ายอินโดนีเซียเลือกระบบอาวุธเท่านั้น

ต่อมา ในเดือน ธ.ค.2554 โรโซโนรอเน็กซ์ปอร์ต ได้เซ็นสัญญาเตรียมส่งมอบเครื่องบินรบทั้ง 6 ลำ ให้ฝ่ายอินโดนีเซีย รวมมูลค่าซื้อขาย 470 ล้านดอลลาร์ และมีกำหนดรับส่ง 2 ลำแรกในสิ้นปี 2555 อีก 4 ลำที่เหลือใน 2 ปีถัดไป แต่ไม่มีการส่งมอบใดๆ เกิดขึ้น

จนกระทั่งเดือน ธ.ค.2555 กระทรวงการคลังอินโดนีเซียได้เซ็นสัญญาเงินกู้แบบ “เอ็กซ์ปอร์ตเครดิต” จำนวน 399.5 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารเพื่อการพัฒนาและกิจการเศรษฐกิจต่างประเทศ (Bank for Development and Foreign Economic Affairs --Vnesheconombank) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมีระยะเวลาใช้คืน 7 ปี ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเงินกู้สำหรับซื้อ Su-30MK2 ล็อตล่าสุด

ปัจจุบัน กองทัพอากาศอินโดนีเซียมี Su-30MK ประจำการ จำนวน 2 ลำ Su-30MK2 อีก 3 ลำ ส่วนที่เหลือเป็น Su-27SK จำนวน 3 ลำ กับ Su-27SKM อีก 3 ลำ ทั้งหมดส่งมอบระหว่างปี 2543-2551 เป็นหนึ่งใน 3 ชาติกลุ่มอาเซียนที่ใช้เครื่องรบผลิตในรัสเซีย ถัดจากเวียดนาม และมาเลเซีย

ในปี 2546 มาเลเซียเซ็นสัญญาซื้อ Su-30MKM จำนวน 18 ลำ มูลค่าราว 900 ล้านดอลลาร์ ได้รับส่งมอบครบทั้งหมดแล้ว

ปี 2548 เวียดนามสั่งซื้อ Su-30MK2 ล็อตแรก จำนวน 4 ลำ ซื้ออีกล็อต จำนวน 8 ลำ ในปี 2550 อีก 12 ลำ ในปี 2552 มีการทยอยส่งมอบมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งลำสุดท้ายซึ่งเป็น MK2V และเป็นลำที่ 24 ได้รับมอบในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

นอกจาก Su-30 รุ่นล่าสุดแล้ว ในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้เ วียดนามได้จัดซื้อเครื่องบินรบ Su-27 รวม 15 ลำ เป็น Su-27SK จำนวน 12 ลำ และ Su-27UBK อีก 3 ลำ ทำให้มีเครื่องบินรบของซูคอยประจำการรวม 44 ลำในปัจจุบัน ยังไม่นับรวมเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดรุ่นเก่าแบบ Su-22 ทีใช้มาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นและยังใช้การได้อีกนับร้อยลำ

ตามรายงานของสื่อทางการ กองทัพอากาศเวียดนามมีแผนการจัดซื้อ Su-30 ถึง 44 ลำในช่วง 15 ปี (2548-2563) เพื่อให้ได้จำนวนครบ 3 ฝูง และเมื่อต้นปีนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เสนอขายให้อีก 12 ลำ.

ภาพ : เครื่องบิน Su-27 (หน้าสุด) กับ Su-30 (ลำถัดไป) ทั้ง 2 ลำ บินเข้าฝูงกับเอฟ-18 "ฮอร์เน็ต" ของกองทัพอากาศออสเตรเลียระหว่างการฝึกพิตช์แบล็ก (Pitch Black 2012) ที่เมืองดาร์วิน ในออสเตรเลียเหนือเมื่อปลายปีที่แล้วซึ่งอินโดนีเซียส่งเครื่องบินรบตระกูลซูคอยไปร่วมจำนวน 4 ลำ เป็นการฝึกร่วมครั้งแรกระหว่างทัพฟ้าของสองประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพอากาศไทยและสิงคโปร์ได้ไปร่วมฝึกด้วยเช่นกัน ปัจจุบันทัพฟ้าอินโดนีเซียมี Su-30 กับ Su-27 ประจำการรวม 10 ลำ และเพิ่งจะเซ็นซื้อ Su-30MK2 อีก 6 ลำ ยังไม่ทราบกำหนดการส่งมอบ.

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000019132






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.14.186 เสาร์, 16/2/2556 เวลา : 11:41  IP : 124.121.14.186   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 122547

คำตอบที่ 133
      

fiogf49gjkf0d
มาเลเซียประกาศซื้อเครื่องบินรบ 18 ลำเสริมเขี้ยวเล็บภายในปี 2015

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- มาเลเซียเตรียมซื้อเครื่องบินขับไล่เพิ่มเติมอีก 18 ลำ ภายในปี 2015 เพื่อนำมาแทนที่ฝูงเครื่องบินขับไล่เดิมซึ่งมีเครื่อง “มิก-29” ของรัสเซียเป็นแกนหลัก และมีอายุการใช้งานยาวนานโดยล่าสุดรัฐบาลเสือเหลืองประกาศขึ้นบัญชี 5 บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่อยู่ในข่ายการพิจารณา

คำแถลงของอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแดนเสือเหลือง ในวันพฤหัสบดี (28) ระบุว่า ตัวเลือกของมาเลเซียในการเสริมเขี้ยวเล็บครั้งนี้ประกอบไปด้วย เครื่องบินขับไล่ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จากสหราชอาณาจักร , เครื่องบินขับไล่ ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน, เครื่องบินขับไล่ ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส , เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซุปเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ รวมถึง เครื่องบินขับไล่ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย

รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียเปิดเผยข่าวการเสริมเขี้ยวลับทางอากาศดังกล่าว ระหว่างเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านการเดินเรือและอวกาศนานาชาติที่เกาะลังกาวี โดยยืนยันขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดตัวเลขงบประมาณที่แน่นอนที่จะนำมาใช้ในโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ครั้งนี้ และคาดว่า การตัดสินใจอนุมัติจัดซื้อขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค อาจประกาศในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้

ขณะที่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอาวุธระหว่างประเทศ เผย การจัดซื้อฝูงบินขับไล่ของมาเลเซีย อาจต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์แล้ว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องบินขับไล่ที่มาเลเซียมีอยู่ในความครอบครองขณะนี้ ไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องประเทศจากภัยคุกคามใหม่ๆได้ โดยเฉพาะข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับพื้นที่หลายส่วนในทะเลจีนใต้ และภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ที่กำลังคุกคามความมั่นคงต่อรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 พฤหัสบดี, 28/3/2556 เวลา : 17:52  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123009

คำตอบที่ 134
      

fiogf49gjkf0d
เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซุปเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 พฤหัสบดี, 28/3/2556 เวลา : 17:54  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123010

คำตอบที่ 135
      

fiogf49gjkf0d
ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 พฤหัสบดี, 28/3/2556 เวลา : 17:55  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123011

คำตอบที่ 136
      

fiogf49gjkf0d
ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 พฤหัสบดี, 28/3/2556 เวลา : 17:56  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123012

คำตอบที่ 137
      

fiogf49gjkf0d
ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 พฤหัสบดี, 28/3/2556 เวลา : 17:57  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123013

คำตอบที่ 138
      

fiogf49gjkf0d
ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 พฤหัสบดี, 28/3/2556 เวลา : 17:57  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123014

คำตอบที่ 139
      

fiogf49gjkf0d
" อาเซียนเข้าสู่ยุคแข่งขันอาวุธ เวียดนามได้เรือดำน้ำ เพื่อนบ้านซื้อเรือรบ-เครื่องบิน "

- ไม่เคยมียุคใดที่กลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะทุ่มงบประมาณซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มากมายขนาดนี้มาก่อน เวียดนามกำลังจะเป็นมหาอำนาจเรือดำน้ำ อินโดนีเซียทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อเรือรบ เรือดำน้ำอีก 2 ลำ เครื่องบินรบอีก 16 ลำ รถถังรุ่นใหม่ ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ ปืนใหญ่อัตตาจร และอื่นๆ ไทยกำลังมองหาเรือฟรีเกตรุ่นใหม่อีก 2 ลำ มาเลเซียกำลังพิจารณาคัดเลือกเครื่องบินรบยุคที่ 4 อีก 18 ลำ

ไปไกลที่สุดคือ สิงคโปร์ซึ่งจองเอฟ-35 เครื่องบินรบยุคที่ 5 ของสหรัฐฯ อันจะทำให้ประเทศเกาะเล็กๆ แห่งนี้กลายเป็นมหาอำนาจทางอากาศภายในกลุ่ม

การรุกลงใต้ของจีน กับการกล่าวอ้างทะเลจีนใต้เป็นของตนแต่ผู้เดียว ทำให้อาเซียนตื่นกลัว ประกอบกับสถานการณ์ใหม่ที่สหรัฐฯ หมุนเวียนกำลังเข้าสู่ภูมิภาคนี้ถึง 60% ทำให้ประเทศต่างๆ ในย่านนี้มองว่าอาวุธทันสมัยมีความจำเป็นมากขึ้น

แม้แต่ฟิลิปปินส์ที่อยู่เงียบๆ มาหลายทศวรรษภายใต้ร่มเงาของสหรัฐฯ ในฐานะประเทศพันธมิตรนอกกลุ่มนาโต้ ก็ยังต้องซื้อหาอาวุธเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี

ปี 2556 ดุลอำนาจภายในกลุ่มที่มีสมาชิก 10 ชาติกำลังจะเปลี่ยนไป แต่ละประเทศต้องหาอาวุธเพื่อป้องกัน และป้องปรามเพื่อตัวเอง ถึงแม้ว่าทั้งหมดจะรวมตัวเข้าเป็นประชาคมใหญ่ภายในปี 2558 นี้ก็ตาม

หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด เวียดนามจะได้รับเรือดำน้ำชั้นคิโล (Kilo-class) สองลำแรกในช่วงปลายปีนี้ และนี่คือเรือสำหรับสงครามใต้น้ำที่ทันสมัยที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของรัสเซียที่ผ่านการพัฒนามายาวนานตั้งแต่ยุคที่เป็นสหภาพโซเวียต ซึ่งจะทำให้เวียดนามมีเขี้ยวเล็บที่น่าเกรงขามยิ่งขึ้น ขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับ “การคุกคาม” จากจีน ในกรณีพิพาทหมู่เกาะพาราเซลทางตอนเหนือ กับหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ที่อยู่ใต้ลงไป

ไม่เฉพาะเวียดนามเท่านั้นที่เป็นคู่พิพาทในเรื่องเขตน่านน้ำแดนดินในทะเลจีนใต้กับจีน ยังมีอาเซียนอีก 3 ประเทศที่เป็นคู่กรณีด้วย ได้แก่ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน กับอีกฝ่ายหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปคือ จีนไต้หวัน

มาเลเซียประกาศระหว่างงานแสดงนิทรรศการการอวกาศและท้องทะเล ที่เกาะลังกาวี หรือ LIMA 2513 ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับแผนการจัดซื้อเครื่องบินรบอีก 18 ลำ ซึ่งได้คัดเอาไว้พิจารณา 5 รุ่น คือ JAS-39 กริพเพน จากสวีเดน ยูโรไต้ฝุ่น จากอังกฤษ ราฟาล จากฝรั่งเศส เอฟ-18อี/เอฟ “ซูเปอร์ฮอร์เน็ต” ของสหรัฐฯ และซูคอย Su-30 ของรัสเซีย

มาเลเซียเป็นชาติที่ 3 ในอาเซียนที่มีเรือดำน้ำ ถัดจากสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งทั้ง 3 ชาตินี้ล้วนมีแผนการจัดซื้อเพิ่มเติม

กองทัพอากาศไทยเพิ่งได้รับมอบกริพเพน อีก 3 ลำ รวมเป็น 9 จากทั้งหมด 12 ลำ ที่จัดซื้อ ขณะที่อินโดนีเซียประกาศในเดือน มี.ค.ว่า ได้ตัดสินใจซื้อ Su-30 จากรัสเซียอีก 16 ลำ และกำลังรอส่งมอบเอฟ-16 ที่ใช้แล้วจากสหรัฐฯ เพื่อทำการอัปเกรด ซึ่งว่ากันว่ามีจำนวนถึง 24 ลำ

ฟิลิปปินส์ที่ไม่เคยซื้ออาวุธมานาน กำลังมองหาเรือฟรีเกตติดระบบจรวดทันสมัย เพื่อลาดตระเวนน่านน้ำ จำนวน 2 ลำ นอกจากนั้น ในเดือน มี.ค.ยังได้เซ็นสัญญาซื้อเฮลิคอปเตอร์จากค่ายยุโรป จำนวน 3 ลำ ติดอุปกรณ์เตือนภัยล่วงหน้าสำหรับภารกิจบินลาดตระเวนน่านน้ำ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ในภูมิภาคนี้ แต่แผนการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ภายในกลุ่มอาเซียนมานานแล้ว รวมทั้งราชนาวีของไทยที่กำลังมองหาเรือฟรีเกตรุ่นใหม่อีก 2 ลำ ซึ่งอาจจะเป็นเรือที่ผลิตในเยอรมนี เกาหลี หรือเป็นเรือฟรีเกตที่สหรัฐฯ ปลดประจำการ และจะมอบให้ฟรีๆ จำนวน 2 ลำ แต่ไทยจะต้องจ่ายหลายร้อยล้านดอลลาร์เป็นค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดให้ทันสมัย

ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การที่จีนเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมกว่า 10% ในปีนี้ ยิ่งทำให้ประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มอาเซียนพากันตื่นตัว กระตือรือร้นจัดซื้อจัดหาอาวุธมากยิ่งขึ้น หลังจากช่วงปีที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้กลายเป็นประเทศซื้ออาวุธมากที่สุด จนกระทั่งติดในอันดับต้นๆ ของโลก

การปรากฏตัวของเรือรบจีนในเขตหมู่เกาะพิพาท กับการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศเข้าสู่ทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรก ได้ทำให้อาเซียนตื่นตระหนกถึงภัยอันตรายจากประเทศคอมมิวนิสต์ อาเซียนเห็นความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังเขตน่านน้ำแดนดินของตนมากกว่าครั้งไหนๆ

ภาพ : เรือนครฮานอย กับนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเรือดำน้ำชั้นคิโล (Kilo-class) 2 ลำแรก ในจำนวน 6 ลำที่ซื้อจากรัสเซีย ออกจากอู่ต่อในนครเซ็นปีเอร์สเบิร์ก เพื่อทำ การทดสอบในทะเลในช่วงต้นปีนี้ รัสเซียจะส่งมอบทั้งสองลำให้เวียดนามปลายปีนี้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 ศุกร์, 19/4/2556 เวลา : 08:19  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123494

คำตอบที่ 140
      

fiogf49gjkf0d
ถึงแม้ว่าสถิติปี 2555-2556 จะยังไม่มีออกมา แต่สถาบันวิจัยสันติภาพในกรุงสตอกโฮล์ม หรือ (SIPRI) ได้พบว่า ในปี 2554-2555 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้งบประมาณกลาโหมเพิ่มขึ้นถึง 42% มากที่สุดคือ ซื้อเรือรบ เรือตรวจการณ์ ระบบเรดาร์ เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ และพวกระบบจรวดต่อต้านเรือรบ

เชื่อกันว่าปีนี้ค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมของอาเซียนจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก

มาเลเซียซื้อเรือดำน้ำสกอร์ปีน (Scorpene) จากฝรั่งเศส และทำการอัปเกรดให้ทันสมัย ไทยยังคงแผนการจัดซื้อเรือดำน้ำไม่เปลี่ยนแปลง หลังพลาดเรือดำน้ำเก่าที่ผลิตในเยอรมนี ขณะที่อินโดนีเซีย ซื้อเรือดำน้ำเก่าจากเยอรมนีอีกรุ่นหนึ่ง และให้กลุ่มแดวูของเกาหลีอัปเกรด

ปัจจุบัน อินโดนีเซียกำลังรอรับมอบเรือดำน้ำที่ผลิตจากเกาหลีโดยเทคโนโลยีเยอรมนีอีก 2 ลำ

สิงคโปร์ได้สร้างฝูงเรือดำน้ำ “แชลเลนเจอร์ทีม” ขึ้นมา โดยซื้อเรือดำน้ำเก่าจากสวีเดน 4 ลำ และทำการอัปเกรด ในขณะที่มีกองเรือรบทันสมัยที่สุดอีกกองหนึ่ง นอกจากนั้น สิงคโปร์ยังจัดซื้อเครื่องบินรบเอฟ-15 เอสจี อีก 1 ฝูง แต่ที่กำลังถูกจับตามองที่สุดก็คือ การตัดสินใจซื้อ F-35 เครื่องบินรบล้ำยุคสมัยจากสหรัฐฯ

นักสังเกตการณ์หลายรายไม่ยอมเรียกว่านี่คือ การแข่งขันอาวุธ แต่อธิบายว่าเป็นเพียงการเพิ่มการจัดซื้อจัดหาแบบตัวใครตัวมันโดยรู้สึกถึงภัยใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป แต่เริ่มเคลื่อนเข้าใกล้ตัว มากกว่าจะเกิดจากการระแวงสงสัยประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทั้ง 10 ประเทศกำลังจะรวมเป็นประชาคมคล้ายๆ กับสหภาพยุโรปในอีก 2 ปีข้างหน้า

หากมองว่าสหรัฐฯ เป็นมิตรของอาเซียน ศัตรูสำคัญที่สุดของสมาชิกส่วนใหญ่ในกลุ่มก็จะไม่ใช่ใครอื่นหากเป็นจีน ในขณะที่ 2 มหาอำนาจกำลังพันตูกันในทะเลจีนใต้ ซึ่งสหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรในย่านเอเชียแปซิฟิกถือว่าเป็นทะเลหลวง และเป็นเส้นทางเดินเรือเสรี

หลายปีมานี้ จีนไม่เพียงแต่ทุ่มเทให้การวิจัยทดลองจนเกิดมีเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกเท่านั้น จีนยังพัฒนาเรือรบอีกหลายขนาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรือพิฆาต กับ เรือฟรีเกตที่มีอยู่หลายชั้น กับกองเรือดำน้ำที่เข้มแข็งที่สุดในย่านนี้

กองทัพอากาศจีนได้วิจัยทดลองสร้างเครื่องบิน J-20 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบยุคที่ 5 “สเตลธ์” ออกมาเป็นลำแรก และยังสร้าง J-31 ขึ้นมาอีกรุ่น

ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับอาวุธของโลกตะวันตกแล้ว จีนจะยังไม่มีอะไรไปเทียบเคียงได้ก็ตาม แต่ไม่กี่ปีมานี้ จีนได้พิสูจน์ให้ชาวโลกได้เห็นเป็นครั้งแรกว่า มีตัวตนอยู่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ด้านเศรษฐกิจเท่านั้น หากยังด้านการทหารอีกด้วย

เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่เรือรบของจีนสามารถแล่นออกสู่ทะเลหลวง ทั้งในแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย ไปจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ทั้งหมดนี้ย่อมเพียงพอที่กลุ่มอาเซียนซึ่งเคยเผชิญหน้ากับการคุกคามจากค่ายคอมมิวนิสต์ในยุคสงครามเย็น จะรู้สึกหวาดกลัวการรุกทางการทหารจีนมากกว่าครั้งไหนๆ.

ภาพ : เครื่องบิน F-35B "ไล้ท์นิง" ที่กองทัพเรือสหรัฐอยู่ระหว่างจัดเตรียมนำเข้าประจำการ กำลังบินทดสอบ สิงคโปร์จะเป็นชาติแรกๆ ของโลกที่เป็นเจ้าของเครื่องบินรบยุคที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพล้ำยุคที่สุดในปัจจุบัน

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046178






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.32 ศุกร์, 19/4/2556 เวลา : 08:20  IP : 202.122.130.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123495

คำตอบที่ 141
      

fiogf49gjkf0d
เชียร์ให้ไทยฃื้อ F-22แรปเตอร์ชึ้นลงทางดิ่งได้ ไปเลย 20 ลำ ส่วนตัวชอบ F-4 แฟนท่อมมากๆชอบมาแต่ปี 2514-2515 แล้วครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 124.120.132.232 อาทิตย์, 21/4/2556 เวลา : 15:26  IP : 124.120.132.232   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123498

คำตอบที่ 142
      

fiogf49gjkf0d
ผมชอบเจ้าเหมียว 2 หางคับ F14 Tomcat





fiogf49gjkf0d
สงสัยชอบเพราะแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้แง๋มเลย Macross ไรซังอย่างนี่แหละช่ายป่ะล๊า.....
จาก : veeTTC022(veeTTC022) 2/5/2556 17:41:22 [125.26.153.182]
คุณวี 2... พอบอกว่ารู้จัก Macross เท่านั้น.. รู้อายุเลย....อิอิ
จาก : 005 (005 ) 4/5/2556 20:16:17 [124.121.30.177]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ttc009 จาก 009 171.4.227.158 อาทิตย์, 21/4/2556 เวลา : 21:09  IP : 171.4.227.158   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123503

คำตอบที่ 143
      

fiogf49gjkf0d
ไทยกำลังจะได้ T-84 “โอปล็อต” 5 คันแรก .. แถวนี้ใครเจ๋ง?

ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ กองทัพบกไทยก็จะได้รับรถถัง T-84 “โอปล็อต” 5 คันแรก ในเดือน พ.ค.นี้ และกำลังจะเป็นประวัติการณ์ใหม่ กำลังจะเป็นครั้งแรกที่รถถังยอดเยี่ยมที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกจากค่ายโซเวียตเก่าเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยเติมอุณหภูมิการสั่งสมแสนยานุภาพระหว่างเพื่อนบ้านย่านนี้ให้ระอุร้อนยิ่งขึ้น

ไทยเซ็นซื้อ T-84 จากสาธารณรัฐยูเครนในปลายปี 2554 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกเคยเดินทางไปชมการสาธิต “โอปล็อต” ด้วยตัวเองถึงแหล่งผลิต และหลายวงการยกย่องว่า “ช่างรู้จักเลือก” กล่าวคือ กองทัพบกไทยจงใจเลือกของคุณภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล

แต่เมื่อสำรวจเพื่อนบ้านรอบๆ ตัว จะพบว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นแหล่งรถถังคุณภาพเยี่ยมของโลกมาระยะหนึ่งแล้ว มีทั้งที่ผลิตจากค่ายโซเวียตเก่า ซึ่งรวมทั้ง T-72 ที่พม่าซื้อจากรัสเซีย ขณะที่เวียดนามอยู่ระหว่างจัดซื้อของเก่าจะโปแลนด์ที่นำไป “รีฟิต” ติดตั้งระบบอาวุธ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งของเกราะป้องกันด้วย

มาเลเซียที่รั้วบ้านติดกันมีรถถัง T-72 อีกรุ่นหนึ่งที่ซื้อจากโปแลนด์ และ “รีฟิต” ให้ทันสมัย

ส่วนไทย หลังจากโละรถถังที่ซื้อจากจีนที่จอดตายเต็มค่ายแบบยกล็อต และนำไปทิ้งทะเลทำปะการังเทียมจนหมดในปลายปี 2553 ทัพบกไทยก็เหลือเพียง M48 กับ M60 ซึ่งติดปืนใหญ่ 105 มม.

หากจะว่าด้วยรถถังโจมตีหลัก หรือ Main Battle Tank เทียบตัวต่อตัว ชิ้นต่อชิ้น ถ้าหากไม่นับจำนวน ก็ดูเหมือนว่าไทยจะล้าหลังกว่าใครๆ ในภาพรวม โดยไม่นับ T-55 ของกัมพูชาที่ซื้อจากสาธารณรัฐยูเครน 2 ล็อต รวมเป็นจำนวนกว่า 100 คัน ในปี 2553 และ 2555

ใต้ลงไปยิ่งดูน่าเกรงขาม กองทัพบกสิงคโปร์มีรถถังเลโอพาร์ด-เอ4 (Leopard A4) ใช้ก่อนใคร และอินโดนีเซียอาจจะเป็นเจ้าที่ 2 เพื่อนบ้านทางใต้สุดของกลุ่มอาเซียนเจรจาจัดซื้อรถถัง “เสือดาว” ที่ผลิตในเยอรมนีถึง 100 คัน

เลโอพาร์ด-2 เป็นรถถังชั้นเยี่ยม 1 ใน 4 รุ่นของค่ายตะวันตกในปัจจุบัน ร่วมกลุ่มกับรถถังเลอแคลร์ (Leclerc) ของฝรั่งเศส กับ แชลเลนเจอร์ (Challenger) ของอังกฤษ กับ เอ-1 “เอบรามส์” A1 Abrams ของสหรัฐฯ ซึ่งได้ชื่อเป็น “รถถังนาโต้”

สำนักข่าวกลาโหมหลายแห่งบอกว่า T-84 โอปล็อต ป้ายแดงของไทยกำลังจะเปลี่ยนเกมการสู้รบของเหล่ายานเกราะในย่านนี้.

ภาพ : หุ้ม "สเกิ๊ต" รอบคัน ข้างในยังมีเกราะอีก 2 ชั้น ด้านหน้าขึ้นไปจนถึงป้อมปืนเป็นเกราะแบบ ERA ยืดหยุ่นรับแรงระเบิด ติดปืนใหญ่ 125 มม. ระบบควบคุมการยิงแบบอัตโนมัติ ยิงกระสุนได้หลากหลายแบบ รวมทั้งกระสุนนำวิถีด้วยความร้อนแบบเดียวกับจรวดทำลายรถถัง มีระยะหวังผลไกล 5 กม. เครื่องยนต์ 1,200 แรงม้า ห้อเร็วถึง 70 กม./ชม. ฯลฯ รุ่นมาตรฐานของสาธารณรัฐยูเครนติดตั้งระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม ไทยซื้อ 49 คันมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาทและกำลังจะเป็นเจ้าแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เป็นเจ้าของรถถังเจ๋งที่สุดที่มีต้นกำเนิดจากค่ายโซเวียตในอดีต.






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:14  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123658

คำตอบที่ 144
      

fiogf49gjkf0d
เลียบค่ายทหาร
ภาพประกอบ/สารพัดแหล่ง

ภาพ : T-72S กองทัพบกพม่าซื้อจากยูเครนกว่า 130 คัน เวียดนามมี T-72M1 ซื้อจากโปแลนด์เกือบ 500 คัน ซื้อล็อตล่าสุดปี 2548 ปัจจุบันกำลังจัดซื้อรุ่นใหม่อีกกว่า 100 คัน เป็นรถถังที่ใช้แพร่หลายมากที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก พัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ผลิตในหลายประเทศที่เคยอยู่ในค่ายคอมมิวนิสต์โซเวียต กองทัพบกรัสเซียยังมีประจำการ แต่ยูเครนปลด T-72 หมดแล้ว หันมาพัฒนา T-80UD และกลายมาเป็น T-84 "โอปล็อต" ในวันนี้.






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:17  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123659

คำตอบที่ 145
      

fiogf49gjkf0d
ภาพ : T-72S กองทัพบกพม่า หุ้มเกราะรอบคัน และในส่วนหน้าจากล่างขึ้นไปจนถึง "ป้อมปืน" หุ้มด้วยเกราะแบบยืดหยุ่นแรงระเบิด (Explosive Reactive Armor) แบบเดียวกันกับที่ใช้ในส่วนหน้าของ T-48M "โอปล็อต" ที่ไทยซื้อจากยูเครน T-72 ติดปืนใหญ่ 125 มม. ระบบป้อนกระสุนอัตโนมัติเช่นเดียวกัน ติดตั้งจรวดทำลายรถถังข้าศึกแบบ 2A6M พร้อมท่อยิง เก่ากว่าแต่ระบบอาวุธของ T-72 ยังเป็นหนึ่งในย่านนี้เช่นกัน.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:18  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123660

คำตอบที่ 146
      

fiogf49gjkf0d
ภาพ : T-84 "โอปล็อต-M" หุ้มเกราะรอบคันถึง 3 ชั้น ส่วนหน้าเป็นเกราะแบบยืดหยุ่นต่อแรงระเบิด (ERA) ไม่ให้เข้าถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใน ติดตั้งปืนใหญ่ 125 มม. ลำกล้องเรียบ หรือ "รูเกลี้ยง" ป้อนกระสุนอัตโนมัติ ยิงกระสุนได้หลายชนิด ทำลายรถถัง-ยานหุ้มเกราะข้าศึก สิ่งปลูกสร้างหรือบังเกอร์ และยิงเฮลิคอปเตอร์ที่บินระดับต่ำ ยิงกระสุนนำวิถีด้วยความร้อนทำลายเป้าหมายได้ไกลถึง 5,000 เมตร ฯลฯ ติดระบบจรวดต่อสู้รถถังอีกต่างหาก มีระบบพรางตัวเองด้วย "ควันอิเล็กทรอนิกส์" ไม่ตกเป็นเป้าของจรวดที่นำวิถีด้วยความร้อนหรือเลเซอร์ ติดปืนต่อสู้อากาศยาน ฯลฯ.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:20  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123661

คำตอบที่ 147
      

fiogf49gjkf0d
ภาพ : เครื่องยนต์ดีเซล 1,200 แรงม้า แรงจัด มีระบบเกียร์อัตโนมัติให้เลือก ระบบควบคุมทุกอย่างเป็นดิจิตอล ภายในติดแอร์เย็นฉ่ำสำหรับ 3 คน ผู้บังคับการ พลขับกับพลอาวุธ ของยูเครนมีรุ่นติดตั้งเครื่องยนต์พิเศษใช้เชื้อเพลิงได้ทุกชนิด ติดตั้งระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม กองทัพบกไทยยังไม่เคยแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับสเป็กของ T-84 Oplot-M ที่เซ็นซื้อทั้ง 49 คันแต่รัฐสภาอนุมัติงบประมาณ 7,155 ล้านบาทให้แล้ว เป็นการจัดซื้อจัดหาเพื่อใช้แทน M41 จำนวน 200 คันที่ปลดประจำการ.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:21  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123662

คำตอบที่ 148
      

fiogf49gjkf0d
ภาพ : PT-91M รถถังหลักของทัพบกมาเลเซีย ซื้อจากโปแลนด์ซึ่งพัฒนาจาก T-72M1 ของโซเวียต ติดปืนใหญ่ 125 มม. พร้อมระบบควบคุมการยิงสมัยใหม่ ระบบสื่อสารยุคใหม่ หุ้มเกราะหนารอบคัน ติดตั้งอาวุธ/ระบบป้องกันตัวเองรอบคัน เป็นรถถังของค่ายโซเวียตแบบที่ 3 ที่มีใช้อยู่ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ T-84 Oplot-M ของไทยได้ชื่อเป็นรุ่นทันสมัยที่สุดจากหลังม่านเหล็กในอดีต.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:22  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123663

คำตอบที่ 149
      

fiogf49gjkf0d
ภาพ : ทัพบกเสือเหลืองเซ็นซื้อ PT-91M จากโปแลนด์ต้นปี 2545 พร้อมยานยนต์สนับสนุนรวมมูลค่า 370 ล้านดอลลาร์ ยานเกราะทั้งหมดส่งมอบในช่วงปี 2551-2552 เติบโตมาจากค่ายโซเวียตเก่าด้วยกัน ไม่ต่างกับ T84 Oplot-M ที่ไทยจะได้รับ 5 คันแรกในเดือน พ.ค.นี้ ว่ากันว่าปัจจุบันเป็นรถถังชั้นนำ 1 ใน 5 รุ่นของโลก ประสิทธิภาพไม่ได้ห่างกันมากมายกับของเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษและสหรัฐ.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:24  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123664

คำตอบที่ 150
      

fiogf49gjkf0d
ภาพ : ว่าด้วยอำนาจการยิง ป.125 ของ PT-91M ไม่น่าจะแตกต่างกับของ T-84 Oplot-M มากมาย ตัวถังอาจจะหุ้มเกราะไม่หลายชั้นเท่ากับ T-84 แต่ก็ติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์รอบคันซึ่งรวมทั้งระบบควบคุมการยิง ระบบนำร่องต่างๆ ตลอดจนระบบป้องกันตัวเอง ที่ล้วนเป็นอุปกรณ์ทันสมัย ผลิตจากยุโรปตะวันตก เช่นเดียวกันกับรถถังใหม่ที่ไทยกำลังจะเป็นเจ้าของเจ้าแรกในย่านนี้.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.30.177 เสาร์, 4/5/2556 เวลา : 20:25  IP : 124.121.30.177   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 123665

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,24 เมษายน 2567 (Online 3325 คน)