LN106 (กระทู้ต่อครับ )

คำตอบที่ 31
มีใครสนใจเจ้าคันนี้ไหมครับ พอดีอาผมมีโครงการจะปล่อยออก เพราะตอนนี้เก็บ 106 ไว้สามคันแล้ว แล้วเจ้าคันนี้ไม่ได้ขับเลย เอาไว้จอดดูตอนกินข้าว ชีวิตประจำวันก็ใช้คันอื่นแทน คันนี้ซื้อมาแล้วมาบิ๊วใหม่หมดเลย เกือบสมบูรณ์แล้ว 95%+ แต่ไม่มีเวลาทำต่อเลย รถปีสุดท้ายปี 97

ขอรูปเพิ่มเติม และฟังราคาหน่อยได้ไหมครับ doiwilai@hotmail.com
จาก : บ้านใหม่(บ้านใหม่) 26/9/2556 18:00:47 [118.175.91.83]

โทรมาคุยกับผมดีกว่าคับ โทรมาได้ตลอดคับผมนอนดึก 0843262403
จาก : wipomo(wipomo) 26/9/2556 19:47:54 [124.121.59.70]

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก อายุ 15 แต่รัก ออฟโรด 124.121.59.70 พฤหัสบดี, 26/9/2556 เวลา : 15:22 IP : 124.121.59.70

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 64952

คำตอบที่ 33
-รถ106 เปลี่ยนสปอร์ตไล้ท์อีก(แล้ว).....ครับ

-มีกระบะคานแข็ง้เพิ่มอีกคัน ใหม่กว่า 16ปี ...ซึ่งความใหม่กว่ามีความหมายแน่นอน ...แต่ รถ106 ก็ยังเป็นรูปหล่อประจำบ้านอยู่ดี เป็นรองแค่ลูกศรชี้รายเดียวครับ..

-ผมมีความเห็นอย่างหนึ่งคือ รถ106 เป็นรถ ซ่อม/แต่ง ง่าย(กว่า) มีเส้นทาง(แบบ)ให้เลือก ซ่อมก็ไม่ต้องห่วงหรือไม่เสี่ยง เพราะส่วนใหญ่ช่างจะรู้จักรถรุ่นนี้ ไม่ต้องกำกับอะไรมาก ผมชอบตรงนีมาก ..คันสีเทาก็ดี แต่ต้องคอยกำกับการเลือก/ถามผล .และบางครั้งก็ต้องทำใหม่(เพื่อให้ถูกใจ)

-ซ่อมรถ106 เหนื่อยเพราะรถเก่า/โทรม ซ่อมอย่างจริงใจต่อตัวเอง รายการจึงเยอะ แต่รถใหม่กว่าก็เหนื่อยตามผล สรุปจึงเหนื่อยเหมือนกัน แต่ความรู้สึกหลังการเหนื่อยเรื่องซ่อม/ปั้นรถ บอกตามตรง รถ106 ให้ความรู้สึกปลอดภัย เหมือนมีหลักตำแหน่งend ว่าเสร็จจริง หรีอถึงฝั่งจริงมากกว่าครับ...

-เพราะรถรุ่นนี้มีเส้นทางให้เดินตามอยู่แล้ว หลากหลายแบบด้วย ปัญหาจึงอยู่ที่ทุนหรือเงินเท่านั้น ดังนั้นเวลารถโทรมก็ไม่กลุ้มใจมาก เพราะให้อภัยตัวเองที่เงินทุนน้อย แต่ไม่ได้สิ้นความหวัง เพียงแต่รอไปก่อน ....

-อีกข้อคือรถรุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องใหญ่ พิมพ์นิยมอยู่ที่รถสแตนดาร์ด/รถหรูหรา มากออฟชั่น จึงเทียบเคียงกันเองในรุ่น ไม่ต้องเปรียบกับใคร เพราะเป็นรถนิยมอยู่แล้ว ...รถ106ยังเป็นรถที่ทำขนาดได้ดี ตั้งแต่ 30-37 นิ้ว...ซุ้มล้อหน้าเอื้อต่อการเพิ่มขนาดยางกว่าหน่อย ทำให้รายจ่ายน้อยลงครับ

-ผมอยากให้รถรุ่นนี้อยู่ในมือคนที่มีใจชอบ เพื่อดูแลให้ดี จะได้ไม่ต้องเปลี่ยน สมฐานะไทยๆ คือใช้ของดี แต่ใช้รักษา เพื่อให้คงทน ใช้นานๆ...

-สำหรับผม รถ106 ใช้งานทั่วไปก็งั้นๆ แต่ภาพรวม ต้องบอกว่าสบายใจกว่า หรือดีครับ....

-ไม่ใช่ข้อความระบาย แต่เป็น report ให้ท่านที่มาอ่านเก็บข้อมูล ตอนนี้ดาวรุ่งมากมาย ทำให้เพดานราคารถ106 เป็นจริงมากขึ้น ท่านใดที่เคยสนใจ จ้องไว้ไม่ต้องลังเลๆ เฉพาะราคา/สภาพเท่านั้นพอ เพราะอย่างไรรถรุ่นนี้คงไม่ตกแถวหายสาบสูญไปง่ายครับ....

แก้ไขเมื่อ : 1/10/2556 6:59:56

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Tik 223.204.32.85 จันทร์, 30/9/2556 เวลา : 20:13 IP : 223.204.32.85

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65037

คำตอบที่ 36
ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับ yn 106 ที่ใช้อยู่ครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้รถ 4wd เนื่องจากเหมาะกับสภาพการใช้งานหลายแบบ ผมมี tiger 1kz อีกคัน ที่ใช้เพราะชอบทั้งสองคัน ถ้าเวลาไหนต้องความแรงของเครื่องและนิ่มนวล เอาครอบครัวไปด้วยได้จะใช้ tiger แต่ถ้าไปคนเดียวไม่ห่วงเรื่องสถาพถนน และมั่นใจในโครงสร้าง และชอบขับคือ yn106 เพราะเท่าที่ใช้รถคานแข็งมา การซ่อมบำรุงง่ายถูก ระบบช่วงล่างไม่ซับซ้อน เข้าโค้งไม่โครง ลูกหมากหน้าซ้ายขวาใช้ของ 555 คุณภาพสมราคา(ประมาณ1200บาท) เครื่อง 4y ผมซ่อมใหม่แทนที่จะเปลี่ยนเครื่อง(ระยะ 350000 กิโลประมาณ 20000 บาท) เพราะ เป็นเครื่องที่ทนทาน ระบบง่ายใช้โซ่ ใช้คาร์บูจูนง่าย ตามหาอะไหล่ง่าย ขอให้ระบบไฟจุดระเบิดสมบูรณ์ วิ่งทางใกล้ทางไกลไม่มีปัญหา อะไหล่อย่างพวกคอยล์ของฮิตาชิ(700บาท) จานจ่ายเปลี่ยนใช้เดนโซ่แบบหน้าทองขาวแท้คุณภาพดี(2500บาท)เป็นของถอดมือสอง ฝาจานจ่าย (200บาท) หัวนกกระจอก(70บาท) ทุกอย่างมีอะไหล่ตามบ้านนอกอย่างเมืองเลยบ้านผมราคารับได้สบาย ไฟเลี้ยวกันชนแท้ของไมตี้ (250บาท ของเทียม 60บาท) ไฟท้ายแท้ของไมตี้(จำราคาไม่ได้แต่ถูก) สายหัวเทียน(700บาท) เปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งละ 4ลิตร ประหยัด ชุดซ่อมหัวกระโหลกก็ไม่แพง ยกคลัช 5000 บาท ใช้แก๊ส 8 กม/ลิตร 1.8 บาท/กม ค่าน้ำมันเทียบกับtiger ประหยัดกว่าครึ่งนึง ข้อเสียคือ อืดการแซงต้องลุ้นบางแต่เรารู้ว่าสภาพรถเป็นอย่างไรก้อขับแบบเซฟ การบังคับเลี้ยงแบบเดิมคุมยากนิดหน่อยแต่ทำให้เรามีสมาธิในการขับมากขึ้น แต่รถคันนี้ไม่เคยเสียกลางทางพาผมกลับบ้านได้ทุกครั้ง วิ่งเดินทางติดต่อกัน 4-8 ชั่วโมงประจำ ตัวรถค่อนข้างแข็งแรงวัสดุไม่ทันสมัยแต่แข็งแรงตัวอย่างเช่น กันชนหน้าเหล็กทั้งชิ้นบนล่าง ชนสุนัขตัวโตๆ ไม่มีร่องรอย เทียบกับรถน้องรุ่นใหม่ชนสนัขตัวเล็กกว่า หมดค่ากันชนใหม่ ค่าทำสีใหม่ไปเกือบ20000 บาท ก็เลยชอบใช้คันนี้เดินทาง เวลามีระบบไหนทำงานไม่ปกติผมจะซ่อมบำรุงก่อนที่มันจะพังขณะใช้งานครับถือว่าเป็นการป้องกันดีกว่า เพราะราคาอะไหล่โดยรวมไม่แพง ผมนำเล่าเพื่อเป็นข้อมูลไม่ได้ยกย่องว่ามันดีที่สุดแต่มันเหมาะกับผมที่สุด เนื่องจากคนใช้รถทุกคนก็ต้องอยากใช้รถแบบที่ตัวเองชอบและรักที่จะใช้มัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก depp1065 1.1.251.151 ศุกร์, 4/10/2556 เวลา : 11:38 IP : 1.1.251.151

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65220

คำตอบที่ 37

-รูปรถในคต.ที่35 คันด้านขวา ผมเรียกรุ่นไม่ถูก ขอชี้แทนเรียกรุ่นแล้วกันครับ ...เห็นที่เมืองกาญ 2 คัน สีขาวทั้งคู่ เครื่องดีเซลของVX80 เหมือนกัน ต่างกันที่ช่วงล่างเป็นคนละรุ่น คันหนึ่งหน้าเป็นสปริง หลังแหนบใต้คาน อีกคันหน้าแหนบใต้คาน โตงเตงอยู่หน้า หลังแหนบใต้คาน...

-คันหนึ่งพึ่งทำสีเสร็จ ค่าทำสี หนึ่งแสนบาท เหมือนของใหม่ สวยเพียบพร้อมทุกอย่าง ..ได้เห็นของจริงแล้วหายอยากได้ เพราะรถสวยเหมือนใหม่ แต่ไม่ใช่แบบรถใหม่ทั่วไป เป็นรถหายาก มีจำนวนน้อย และแพงมากกว่ารถใหม่ทั่วไปอีก... พื้นกระบะเงาแว๊ป จนคิดว่าอย่าว่าแต่จะไปบรรทุกของ แม้หากให้คนขึ้นโดยสารในกระบะ ถ้าใส่รองเท้ามีทรายติด ผมว่าคงไม่สบายใจแล้วล่ะ..... อย่างผมเอื้อมไม่ถึงอยู่แล้ว หากให้รักษาแบบที่เห็น คงไปไม่รอดแน่นอนครับ....

-คนที่ไม่แน่จริง อ่านผมบรรยายแบบย่อ แล้วกลับบ้านได้ ปล่อยหรือเหลือแต่คนเหนือชั้น(กว่า) ให้เขาตามรอยแลนด์ครุยเซอร์กระบะกันต่อไป ... ปลอบใจกันเองหน่อยว่า ...106 ซ่อม/รักษาง่าย ดูน่ารักขึ้นเยอะเลยครับ.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Tik 49.48.227.242 อังคาร, 8/10/2556 เวลา : 19:28 IP : 49.48.227.242

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65344

คำตอบที่ 41
Landcruiser ในคำตอบ 35 ด้านขวา แบบกระบะผมก็เรียกรุ่นไม่ค่อยถูกเหมือนกัน มีขายในออสเตรเลียเยอะ และก็ตะวันออกกลางก็สั่งเข้าไปมากเหมือนกัน มีทั้งดีเซลและเบนซิน เครื่องยนต์ใหญ่พอสมควร การผลิตขึ้นรูปตัวถังด้วยเหล็กกัลวาไนซ์ แบบปลอดสนิมแทบตลอดอายุการใช้งาน ความทนทานทั้งในด้านตัวรถและช่วงล่าง เครื่องยนต์มีมากพอกับ LN 106 หรืออาจจะมากกว่า เพราะเครื่องยนต์ใหญ่สร้างแรงบิดได้ในรอบต่ำกว่าน่าจะทนทานกว่า LN มาก
แต่ก็ตามที่คุณ Tik ว่ารถแบบนี้ ถ้าสั่งเข้ามาขายในบ้านเราราคาแตะเกือบ 3 ล้านบาท สำหรับรถใหม่ป้ายแดงทะเบียนถูกต้อง เห็นแล้วผู้น้อยไม่กล้า คงต้องยอมให้ตัวจริงเสียงจริงที่หลงใหลแล้วชอบครอบครองมันดีกว่า ที่จริงราคารถพวกนี้ก็ไม่ต่างจาก Landrover Defender กะบะที่สั่งเข้ามาขายในบ้านเรา คือ 2 ล้านบาทปลาย ๆ คือราคาพอกันทั้งคู่แต่ Landcruiser น่าจะแพงกว่ากัน แต่บอกไม่ได้ว่าราคาถูกหรือแพงเพราะมันคือความหลงใหลส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่ชื่นชอบมันและราคามันก็สูงเกินกว่ารถทั่วไป

LN เดิม ๆ เครื่อง 3L กินน้ำมันตัวเปล่า 10-12 โลลิตร แต่ให้ทำใจเผื่อไว้เลย 10.x km/l ในการใช้งานจริง ถ้าบรรทุกหรือเดินรอบต่ำตลอดยังไงก็ไม่ถึง 10 km/l อาจจะอยู่แค่ 7-8 km/l ส่วนยกสูงยางใหญ่แล้วผมไม่มีข้อมูล เคยขับแต่รถเดิม ๆ
YN106 เครื่อง 4Y เบนซิน 2200 ก็กินประมาณ 8-10 โลลิตร
ความเร็วสูงสุดไม่เคยลอง เพราะยังไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของจริง ๆ ซักที เพียงแค่ได้ขับนาน ๆ ที ไม่กล้าเหยียบ ไม่ใช่ว่ารถมันแรง แต่เพราะรถฟิลลิ่งมันไม่คุ้นเคย กับรถที่เราใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 9/10/2556 เวลา : 08:55 IP : 202.80.239.130

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65366

คำตอบที่ 42

-ดีใจที่มีสมาชิก ที่เรียกรุ่นไม่ถูกเหมือนกัน แต่ไม่รู้เจตนา/อุดมการณ์เดียวกันเปล่า อย่างผมคือหลีกเลี่ยงที่จะสนิทกับคุณญี่ปุ่นหรือไม่ยอมเป็นญาติ กับพวกที่ มาล็อค(ไม่ใช่หลอก)ขายรถยนต์ ขนาดหันข้างหรือทำขืนๆไม่ไส่ใจ เงินทองที่ไม่เหลือเพราะเรื่องนี้อยู่ดี ...น้ำใจก็เห็นชัดแล้ว เอารถจมน้ำมาทุบทิ้งมากมาย น่าจะจับฉลากแจกฟรีกัน จะประทับใจกว่า......"ซื้อเท่าที่จำเป็น"....คือคติหลังน้ำท่วมปี54ครับ

-ผมใช้รถ106 มาคงราวๆ 5 ปีได้แล้ว มีความภูมิใจที่จะบอกหรือตอบ คต.ที่ 39 ว่า ตลอดมาบนถนนดำ ไม่(เคย)ได้แซงรถออฟโรดอื่นๆ และกลับจะถูกไล่แซง แบบจงใจอีกต่างหาก เกาะรถทัวร์สายใต้ได้ก็เกร็งกันแย่แล้วครับ(เกร็งที่เข็มน้ำมันลดฮวบๆ)...

-ไม่เคยถือสารถออฟโรดอื่น ที่แสดงพลังวิ่งไล่แซงรถผม ตอนแซงนี้ ฉีกขาดลอยเลยครับ แต่ลอยไปไม่ไกล หรือยังเห็นก้นรถอีกนาน ซึ่งแสดงว่า อยากแซงเพื่อแสดงพลังที่เหนือกว่า/ข่มขวัญ ไม่ได้รีบจริง เพราะแซงแล้วก็ผ่อน ให้ผมมองเห็นท้ายอีก(นาน) ....ที่เล่าเพราะบ่อยนะครับ

-เหตุผล คงอยู่ในคต.ที่40 หรือหมั่นไส้รถรูปหล่อนั่นเอง....ผมจึงมองเป็นเรื่องดีครับ....บาลานซ์ / balance ดี/ด้อย กว่าบ้าง ..ธรรมดา แต่หล่อกับทนคือปรารถนาอยู่แล้วครับ( ทน...หมายถึงซ่อมกลับมาเหมือนเดิมได้)

-ความเร็วเครื่อง 3L ในรถเดิมๆล้อเล็ก คงแตะถึง 140กม./ชม.หรืออาจมากกว่า พอใช้วิ่งไกล,แซง ไม่ต้องกังวลๆ เรื่องสายพานไทมิ่ง อย่างเดียวพอครับ(รถเก่าระบบนับอาจเสีย,รวน / ล้อใหญ เลขไมล์เพี้ยน ระยะทางไม่ตรง=การนับเพี้ยน)

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Tik 223.205.244.123 พุธ, 9/10/2556 เวลา : 20:16 IP : 223.205.244.123

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65375

คำตอบที่ 51
อยากได้ LN106 กลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง ราคาตอนนี้ปี 2013 รถรุ่นนี้ถ้าขึ้นสายพานการผลิตที่บ้านโพธิ์ราคาตอนนี้จะอยู่ที่ 1 ล้านบาท + นิดหน่อย หรือไม่เอากำไรจะอยู่ที่ 9 แสนปลาย ๆ เพื่อไม่ให้ราคากะบะน่าเกลียดไป แต่ถ้านำเข้าจากโรงงานออสเตรเลีย ราคาปิคอัพกะบะใหม่ ๆ ของ LN 106 จะอยู่ที่ 2 ล้านบาทปลาย ๆ ด้วยราคาขนาดนี้จะเหลือแฟนพันธ์แท้ซักกี่รายที่พร้อมจะซื้อมัน
แต่รถรุ่นนี้ปัจจุบันแนวคิดการออกแบบสร้างรถแบบนี้บริษัทรถยนต์ทั่วโลกไม่ทำอีกแล้ว เพราะลูกค้าจะไม่เปลี่ยนรถยนต์ หรือเปลี่ยนยากขึ้น การที่จะทำรถให้ทนทาน ไม่จุกจิกและเน้นการใช้งานในทางทุรกันดารเพียงอย่างเดียว รถในปี 1990-1995 ภายใต้แนวคิดนี้จึงเลิกไป เพราะสาเหตุคือโลกมันเปลี่ยนไปอีกทั้งต้องผลิตรถ mass production จำนวนมากต่อหน่วยต่อรุ่นออกมาจำหน่ายให้ค่าตัวถูกลง รถยี่ห้อที่จะเหลือที่คงยังทำอยู่เพราะมีแฟนใจรักอยู่ก็ Land rover Defender ที่ปัจจุบันรถแบบนี้ยังมีผลิตอยู่ ราคาค่าตัว Defender ที่นำเข้ามาขายในบ้านเรา 2-3 ปีก่อนก็อยู่ที่ 2.8 -3.2 ล้านบาท ซึ่งราคา LN106 ก็อยู่ราว ๆ เดียวกัน นั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน

ปัจจุบันแนวคิดการทำรถ Hilux จะต้องอยู่ในโครงการ IMV รถรุ่นนึงสามารถขายออกไปได้ทั่วโลก โรงงานเครือข่ายของTOYOTA ทั้งไทย แอฟริกาใต้ อาร์เจนติน่า ต้องสามารถขึ้นไลน์ผลิตได้เหมือนกันหมดทุกไลน์ รถ Hilux รุ่นนึง ทาง TOYOTA ต้องขายได้มากกว่า 2 แสนคันต่อปี ภายใต้โครงการ IMV รถ Hilux ที่บ้านเราเรียกว่า Vigo ขายได้มากกว่า 1 ล้านคันทั่วโลกในเวลา 5 ปี สร้างผลกำไรให้ TOYOTA ถึง 4 แสนกว่าล้านบาท และยังสามารถขายอะไหล่ชิ้นส่วนไปทั่วโลกได้อีก 1 แสนกว่าล้านบาท
ถ้าคุณเป็นผู้บริหาร TOYOTA จะเลือกกลับมาขึ้นไลน์ผลิต Hilux LN106 ขายได้เพียงปีล่ะไม่กี่หมื่นคัน ตั้งราคา 1 ล้านบาทก็ยังไม่มีกำไร อีกหรือเปล่า
นี่ใงครับ ที่มาของคำว่ากระบะผีสิงห์ ความทนทานของ LN (ถ้ายังหาอะไหล่ได้ )
http://www.youtube.com/watch?v=QVp_t04waH4

ผมว่ายังโชคดีที่บ้านเรายังมี LN106 ให้เล่นอยู่หลายคัน ถ้าใจรักพร้อมจะเล่นมันก็ซื้อเลย เพราะเสน่ห์มันมีในตัวของ LN อยู่แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 11/10/2556 เวลา : 14:27 IP : 202.80.239.130

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65436

คำตอบที่ 52
บ้านเราไม่เหมือนประเทศอื่นๆบนโลก รถที่ใช้ในประเทศต้องใช้รถที่ผลิตในประเทศทั้งที่ประเทศอื่นๆเขานํารถรุ่นต่างๆมาขายได้ รถคานแข็ง โตโยต้ายังผลิตรุ่นแลนครูเซอร์ กระบะอยู่สําหรับคนที่งานหนักสมบุกสมบัน ทั่วโลกเขาก็ใช้ตัวนี้กันครับ แม้แต่ประเทศอาเซียนรอบข้างเราทุกประเทศ คงไม่ต้องเอากระบะไฮลักซ์มาทําใหม่อีกแล้วน่ะครับ มันเลยยุคของมันมาแล้ว ที่บ้านเรา รถบางรุ่นยังเป็นรถเทวดาอยู่ได้เพราะ มันมีรุ่นเดียว วนเวียนกันไปมาในตลาด ผมก็คนใช้106คนหนึ่งน่ะครับ แต่ถ้าประเทศไทยเปิดตลาดเหมือนประเทศทั่วโลกเขาเป็นกัน ผมคงจะเล่นแลนด์ครูเซอร์กระบะ หรือ แลนด์ฯดีเฟนเดอร์ คงไม่เลือก106 เพราะมันเล็กเกินไปในความคิดผม ถ้าบ้านเราเหมือนเมืองนอกเขา มุมมองของผู้ใช้อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ อาจจะมองกว้างกว่านี้ ภาคเหนือ ที่ผมอยู่อาจจะเห็นชาวเขา ขับแลนด์ครูเซอร์กระบะก็ได้ เพราะมันแ็ข็งแรง เครื่องยนต์มีกําลังสูง มีระบบดิฟล็อค นอกจากนั้น ยี่ห้ออื่น เช่นนิสสัน ซาฟารีกระบะ (คานแข็งคอยด์) ก็น่าใช้มาก แทนที่จะเป็น106อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก้ได้ เหมือนกับทางออสเตรเลียซึ่งใช้รถออฟโรคมากมาย รถคานแข็งแหนบ มันพัฒนาได้สุดทางของมันแล้ว ไม่สามารถที่จะเกาะถนนแบบรถรุ่นใหม่ รถใหม่ที่กําลังสูงย่อมต้องการระบบการทรงตัวดีตามกันไป ความสะดวกสบาย เทคโนโลยี่มันถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว มีไม่น้อยที่พอสัมผัสแล้วรู้ว่าไม่ใช่ทางที่ตนเองคิดฝันไว้ 106เป็นรถคันที่สองจะเหมาะมากครับ ถ้าใช้เป็นรถคันเดียวในชีวิตประจําวันบางทีบางครั้ง สุขภาพคนขับอาจจะแย่เอาครับ ฯลฯ คงไม่ต้องรอรีโปรดักซ์106 ถ้าชอบมันจริงๆ มือสองบ้านเราที่สภาพดีๆ แล้วเอามาทําอีกหน่อย ก็โอเคมากมายแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ลุงแก๊ส 171.4.250.128 ศุกร์, 11/10/2556 เวลา : 19:24 IP : 171.4.250.128

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65442

คำตอบที่ 53
ผมกับพี่ชายก็ใช้ 106 4ประตูเหมือนกัน เวลาซ่อมก็ทำทีเดียวพร้อมกัน เช่นก่อนการเดินทางท่องเที่ยว หรืองานจิตอาสาต่าง
เป็นรถที่ซ่อมงาย ไม่จุกจิก อะไหล่ทดแทนมากมาย หรือจะพึ่งพาอะไหล่จากศูนย์ก็ได้ ใช้แล้วรักมัน ไม่เคยมีแม้ซักครั้งที่
จะต้องกินข้าวลิงกลางทาง เจ้านี่เป็นสมาชิกคันที่ 3 ที่เก่าที่สุดในบ้าน แต่เชื่อมั้ยครับตั้งแต่ได้มันมา จะต้องคอยปฏิเสธคนที่มาถามขอซื้อ
โดยเฉพาะพี่ๆในที่ทำงานเดียวกัน
"พี่..รถมันเก่าเเล้ว ผมเอาไว้เข้าสวนยาง พี่ไปถอยวีโก้ใหม่ๆเท่ๆดีกว่าครับ"

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก cd6accord 1.0.129.107 เสาร์, 12/10/2556 เวลา : 10:48 IP : 1.0.129.107

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65450

คำตอบที่ 55

-บ้านเราหรือ ป.ไทย ใครมีที่จอดรถก็ควรมีกระบะไว้ใช้สักคัน เดี๋ยวนี้จ้างกันลำบาก และคอยกังวลเรื่องเวลา หมายถึงบางครั้งของอาจค้างอยู่บนกระบะข้ามวัน..ผมคิดเช่นนั้นเสมอครับ..

-เป็น 4WD ด้วย ก็ถูกใจ/มั่นใจเลย...

-รถตอนเดียวค่าใช้จ่ายภาษีถูก รถล้อเล็กกัไม่เปลือง แต่สำรองบรรทุก จึงจะมีโปรแกรมใช้น้อยเกินไป ...รถ 4ป. ท้ายบรรทุก ได้งานไปเที่ยวด้วยเพิ่มระยะวิ่งมากขึ้น แต่รถแบบนี้มักแต่งตัวกัน แต่งใหญ่ขึ้นกันเป็นส่วนมาก จึงซึมทราบไปกับเขาด้วย...ก็ดีครับ แต่เปลืองขึ้นเยอะ ..คิดว่ามีทางให้เปลืองหรือมีออฟชั่นให้เลือกซื้อ ดีกว่าไม่มีให้ซื้อ(ทั้งๆที่อยากซื้อ) และแต่งตามเขาไป(เป็นข้ออ้างกับครอบครัว)...แต่แลกได้ความพอใจกลับมาครับ...

---------------------------------------------------------------------------------------

-หลายปีแล้ว ..ในตอนนั้นยังไม่มี ดีเล่อร์รายใด นำ RANGE ROVER มาขายในไทยอย่างเป็นทางการ รถที่เข้ามาวิ่งในตอนนั้น คือมีผู้รู้ช่องทาง นำเข้ามา เป็นรายย่อยแต่มือถึงๆเรื่องนำเข้ามาจนได้ และมาบอกขายให้ผู้สนใจในไทย ในราคาประมาณ 5 ล้านบาท โดยรถตัวจริงก็เหมือนรถมือสองสภาพป้ายแดงในปัจจุบันนี้ คือมีการใช้งานไปด้วยบอกขายไปด้วย สิ่งต้องการบอกเล่าคือ ต่อมาอีกไม่กี่เดือนก็มีดีเล่อร์ตัวจริงเกิดขึ้น มีโชว์รูม การันตี และศูนย์ครบแบบรถใหม่ทั่วไป ตั้งราคาขายที่ประมาณ 4.2 ล้าน และต่อมาลดเหลือ 3.9 สำหรับรถล็อตแรก เพราะล็อตต่อมาเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ เป็นตัวเลขใกล้เคียงในระบบความจำ ซึ่งผ่านมานานเกือบ 20 ปีแล้วครับ...

-พอนำเรื่องนี้มาคิด ก็คงรู้สึกบ้างกับคนที่นำมารถใช้แล้วมาขายราคา 5 ล้าน คือเขาคิดอย่างไร และรูปแบบขบวนการนี้ ก็ยังคงอยู่ เหมือนละคร "คู่กรรม" ที่สร้างใหม่ ในเนื้อเรื่องเดิม เรื่อยๆ ดูกันไม่เคยเข็ด....ทำนองนั้นครับ...

-เวลาผ่านไปอย่างยาวนาน ทำให้ผมเชื่อสิ่งหนึ่ง อย่างยอมแพ้คือ ผิดที่/ผิดเวลา ,พายเรือทวนน้ำ เป็นกรรมจริงๆครับ.....

-สิ่งที่อยากทำในท้ายๆของเวลาแห่งชีวิต คือเตือน หรือพยายามทำให้คนที่ยังมีเวลาอีกมาก ให้เข้าใจความหมายสิ่งที่อยากรู้แบบตรงที่สุด เพื่อเขาอาจมีโอกาสก้าวหน้ากว่าคนรุ่นก่อน ไม่เจออันตราย จนต้องหยุด/ชะงัก/หรือล้มหายไป...แต่ไม่ใช่เพื่อต่อต้านใครครับ

-จึงขอขอบคุณหลายท่านที่ให้ความรู้และแนวทางกับผู้นิยมรถออฟโรด ผมเองยังต้องอ่านเพื่อเก็บเพิ่มอีกเหมือนกันครับ...

-ข้อความที่ชอบ copy มาวางในคต.นี้อีกครั้งครับ...

-"ถ้าประเทศไทยเปิดตลาดเหมือนประเทศทั่วโลกเขาเป็นกัน "
-"ผมว่ายังโชคดีที่บ้านเรายังมี LN106 ให้เล่นอยู่หลายคัน "
-"เป็นรถที่ซ่อมงาย ไม่จุกจิก อะไหล่ทดแทนมากมาย หรือจะพึ่งพาอะไหล่จากศูนย์ก็ได้ ใช้แล้วรักมัน "

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Tik 223.205.36.250 เสาร์, 12/10/2556 เวลา : 19:38 IP : 223.205.36.250

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65456

คำตอบที่ 57
-สวยดีครับ / เคยคิดจะทำเหมือนกัน แต่ผมชอบไทเกอร์บอดี้แค็ป 4WD หาของไม่ได้ เจอแต่รุ่นธรรมดาต้องตัดต่อกระบะ งานเยอะ และแพงมากอีกต่างหาก อีกข้อคือผมผูกพันกับเลขทะเบียนตรงรุ่น106 เพราะต้องเปลี่ยนด้วย (รย.1 เป็น รย.3) คิดว่าคงไม่มีหนทางได้เลขแบบที่ชอบอีกแล้ว ล้งเลอยู่อย่างนั้น จนหมดเวลา จึงต้องซ่อมไปในแนวทางเดิมครับ....

-ตอนเห็นคันนี้ลงขายก็สนใจ อยากได้ เพราะเจ้าของเดิมก็เอาใจใส่รถดี แต่เขาคงไม่มีเวลาทำด้วยตัวเอง งานเปลี่ยนแบบนี้ จะมีงานเก็บมาก ซึ่งเป็นรายการปลีกย่อย ที่ต้องใช้เวลา ซึ่งช่างในปัจจุบัน มักทำงานหลักๆและจำกัดเวลา ไม่มีเวลาเก็บงานที่ต้องใช้เวลาให้ครับ...

-ผมขออนุญาตออกความเห็นอีกครั้งว่า นี่คือความอิสระของรถ106 และเป็นสิ่งที่ผมชอบเหนือกว่าทุกข้อ เติมเปลี่ยนอะไรก็ได้ ถ้าสวยหรือดีขึ้น จะมีคนยอมรับ ...รถบางรุ่นผิดแบบแผนเดิมนิดเดียว คนสนใจเดินหันหลังกลับบ้านเลย เหมือนเจอของปลอม นั่นตอนซื้อ พอตอนครอบครองก็ใช้ของอื่นมาทดแทนไม่ได้ แต่งก็ต้องตามแบบแผน ซึ่งพอเจอหลายๆคัน ผมว่าพิมพ์เดียวกันหมด(หรือโหล)ทั้งๆที่เป็นรถในหมวดรสนิยมอีกระดับหรือแพง ไม่ใช่รถเศรษฐกิจ.. ผมใช้รถเพื่อตัวเอง จึงไม่ชอบแบบอย่างนั้นครับ.....

-ผมใช้รถ106 แต่เปลี่ยนเครื่องเป็นนิสสัน ก็แลกเปลี่ยนความรู้จากทั้งสองกลุ่ม เพื่อนำกลับมาพัฒนารถตัวเองครับ...

แก้ไขเมื่อ : 14/10/2556 8:02:43

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Tik 49.48.220.135 อาทิตย์, 13/10/2556 เวลา : 07:30 IP : 49.48.220.135

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 65464

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1 2 3 4 5 6 7