WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


อยากให้ดูเป็นความบันเทิงและสังเกตเครื่องมือในการสร้างงาน
chotikan14
จาก Tik
IP:58.10.219.85

อังคารที่ , 5/7/2559
เวลา : 11:31

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      
เป็นความพร้อมระดับสูงในทุกด้าน....หากคิดตาม(ประสาคนชอบรถ) อาจพบว่า ไม่มีช่องว่างใดที่(เราคือผมหรือท่าน) จะเข้าไปร่วมงานกับเขาได้เลย แม้แต่จะไปเช็ดรถก็คงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องทำความสะอาด..หรือแม้แต่สร้างเป็นสารคดีเพื่อให้คนอื่นดูแล้วเข้าใจ.. ทุกวินาทีเป็นเรื่องของมืออาชีพแท้จริง...การเทียบเคียงนี้เองอาจทำให้เข้าใจภาวะมากขึ้น เพื่อให้รู้จักวางตนเองได้เหมาะสมครับ...

http://สารคดีภาคไทย.blogspot.com/2014/06/22-bugatti-veyron.html#!http://xn--42ca1cn7bob9c1de5a7p.blogspot.com/2014/06/22-bugatti-veyron.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 4 จาก >>> 1  2  3  4  5  

คำตอบที่ 91
       -รถออฟโรด คือรถที่คุ้มค่ากว่ารถอีกหลายแบบ ที่ใช้ในไทย คำว่าคุ้มค่าหมายถึงภาพรวม สำหรับเรื่องการใช้งาน...สำหรับผมคือแค่พอใช้ได้..เพราะกระด้าง/เก้งกางแต่..และก็สวยดี(นะ)...

-ผมมีรถคานแข็ง 2 คันๆหนึ่งเป็นรถโรงงานซึ่งถูกดัดแปลงตัวถังจากตอนเดียวเป็น 4ป.ท้ายบรรทุก และดัดแปลงเพิ่มขนาดล้อ/เปลี่ยนเครื่องยนต์/และเพิ่มออฟชั่นบางอย่างเข้าไปในตัวรถๆคันนี้ เริ่มต้นที่ผมด้วยสภาพ"เน่า" เพราะเลือกไม่ป็น จึงต้องแก้ไขกันมาเรื่อยๆจนถึงวันนี้ ก็สภาพดี ระดับ"สวยเกือบจริง" ได้แค่นั้นเพราะการหาของ ไม่ได้ดังใจ และถ้าจะพยายามอีกก็ต้องรอ/หาต่อไป...ผมภูมิใจรถคันนี้ ไม่ใช่เพราะเป็นรถ106 แต่เพราะมันดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทำให้ผมพิสูจน์ตัวเองได้ว่า"เป็นคนรักและรู้คุณค่าเครื่องมือ"...หมายถึงผมพยายามทุกอย่างก็เพื่อตนเอง...ขอเรียกว่าคุ้ม(จริง) ได้ความรู้เพราะบทเรียนนี้ครับ....

-ส่วนอีกคันเป็นรถปั้นจากรถ 2WD เป็น 4WD ก็เป็นอีกคันที่ให้ผลความรู้สึกดี(ในคันนี้)...คือการสร้างเป็นผลที่ผมกำหนดเองแต่แรก ไม่เอออตามช่างเสนอเเหมือนคันก่อน เปรียบคือกำหนดแบบและขนาดเสื้อเอง ให้ช่างตัดให้ แต่ไม่ได้ให้ช่างคิดให้ / แจ้งบันทึกลงเล่มถูกต้องตามระเบียบสังคมกำหนด(คือความสบายใจ) /ได้ความก้าวหน้าของเครื่องมือ ไม่ใช่ได้ของเล่น...และผ่านมาแบบไม่ราบรื่น ทำให้รู้ว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายแล้วในปัจจุบัน การทำได้แล้ว จึงให้ความพอใจด้วยครับ...

-ประสบการณืใช้เครื่องมือ และการครอบครองความพร้อม เป็นผลต่างหัวข้อ และบังคับผลเป็นถูกผิดไม่ได้ด้วย ตัวอย่างเช่นบางท่านมีเครื่องตัดหญ้าหรือเลื่อยยนต์ แล้วแทบไม่ได้ใช้หรือใช้บ้างแต่กับงานไม่หนัก การมีเครื่องมือนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด และชนิดของเครื่องมือ(คุณค่าคือราคา) หรือรถออฟโรด เป็นหนึ่งในแบบหนึ่ง ซึ่งกลไกราคาไม่ได้อยู่ที่รุ่นใหม่กว่าหรือเวลา...หมายถึงกังวลน้อยกว่า...คงคิดตามทันนะครับ...

-ดังนั้นผมจึงต้องปรับตัวให้พอใจในเครื่องมือที่มี เพื่อหยุดการดิ้นรนก้าว(ต่อ) หมายถึงใช้คำว่า "พอเพียงแล้ว"ครับ.....

-ภาพรวมทำให้รถ106 ยังไม่จากไป ตามแผน เพราะแปลนคือต้องการเก็บรถกระบะ รย.3 ไว้เป็นเครื่องมือประจำบ้าน เพราะค่าใช้จ่าภาษีปีต่ำกว่า รย.1 ผลทุกอย่างออกมาใกล้เคียงตามที่ตั้งหวังไว้....แต่การชอบรถเกินปกติของผม เป็นนิสัย(เสีย)ที่ยังแก้ไขไม่ได้...ดังนั้นคำว่าภาพรวม จึงคุ้มครองรถที่ถูกใช้น้อย/ค่าใช้จ่ายสูง หมายถึงใช้สิทธิ์ "พอใจในความ(ยัง)ดูดี"...ซึ่งเป็นเหตุผลการ "เล่นรถ" ไม่ใช่ "ใช้รถ" เหมือนใช้สิทธิ์ส่วนตัวรั้งไว้(ดูเล่น)ตามนิสัยเสียครับ....

-นี่คือตัวอย่างคิดของตัวผมเอง...อาจเป็นแนวทางได้บ้าง หรือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้วิเคราะห์ ในบางองศามองได้ครับ(มองรถเกินฐานะเครื่องมือ เป็นเรื่องผิดปกติ ) ขอวางไว้ให้ส่วนรวมด้วย....ขอบคุณครับ...



 แก้ไขเมื่อ : 11/9/2559 8:38:40





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 11/9/2559 เวลา : 07:36  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78202

คำตอบที่ 92
       -ขออนุญาตเขียนถึงการเทียบเคียงเรื่องหนึ่งครับ...

-ใน(หนัง)เทศ WAR HORSE ของผู้กำกับระดับโลก Steven Spieberg ผู้ได้รับเกียรติเป็น Sir (ระดับอัศวิน)ไปแล้ว. (เพื่อบอกว่าผู้มีผลงานดีย่อมไปได้ไกล)...

-เป็นนิยายเรื่องม้าที่อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 2....ผมอยากชี้นำว่า เนื้อเรื่องคือชีวิตของม้าตัวหนึ่ง...สะท้อนถึงความรักของคนหลายคนต่อม้าตัวนี้ สะท้อนถึงผู้ไม่ใยดีต่อชีวิตระดับสัตวิ์เลี้ยง หรือตรงกันข้าม อยากให้ท่านดูและสังเกตความรู้สึกของท่านต่อ"คนทั้ง 2 ฝ่าย" ที่ปฏิบัติต่อม้าตัวนี้...

-รถออฟโรดก็ น้องๆม้า เป็นเครื่องมือที่ถูกใจได้และอยู่ในช่วงความจำที่ไม่ลืมได้... เป็นรองม้าที่ไม่มีชีวิตเท่านั้นครับ...

-ดังนั้นการปฏิบัติต่อรถออฟโรด ก็เหมือนปฏิบัติต่อม้าใน WAR HORSE หมายถึงนำมาเป็นข้อคิดและแนวทางปฏิบัติ เพื่อสร้างผลให้ตัวท่านเองได้ครับ.

-ผมไม่ได้เขียนถึงตัวเอกของ(หนัง)เรื่องนี้ซึ่งเป็นม้า แต่ชี้ไปที่แวดล้อมหรือผู้ที่กระทำต่อม้า ให้ความรู้สึกอย่างไรต่อคนดู....นั่นคือแนวทางใช้เครื่องมือที่คล้อยตามผลได้ อยู่ที่ท่านจะดูแลรถอย่างดี หรือแบบโหดร้าย ต้องคิดเองโดยไม่มีเสียงเตือนว่าถูกหรือผิด...

-ผลเพื่อเจ้าของรถ ไม่ใช่รถ ...ลองกลับไปดูรถ BMW ในคต.ที่1 ..เจ้าของแจ้งขายบอก"พร้อมแข่ง" ซึ่งผมมองเป็นรถสภาพเน่าที่กำลังถูกอ้างให้เป็นรถแข่ง หมายถึงรถไม่มีความหมายที่จะซื้อ แต่รู้สึกถึงคนที่ทำให้รถอยู่ในสภาพนั้น และมาแจ้งว่าพร้อมแข่ง เป็นการทวีคูณเรื่อง(เหลวไหล) หนาวใจเมื่อคิว่า ทำเรื่องเลวร้าย อย่างอื่นได้อีกแค่ไหน และจะเจอกับลูกหลานเรา(คือผมหรือท่าน)บ้างเปล่า...คือสิ่งที่ชวนคิดตามครับ

---------------------------------

-ขอหมายเหตุว่าเป็นนิยายแทรกประวัติศาสตร์จริงคือสงครามโลก (1หรือ 2 ไม่แน่ใจ)จากความจำไม่ได้ค้นคว้า นำมาอ้างเนื้อเรื่องกินใจ ต้องขอโทษด้วยครับ

 แก้ไขเมื่อ : 11/9/2559 22:46:59



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 11/9/2559 เวลา : 14:52  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78203

คำตอบที่ 93
      
-(หนัง)เทศ WAR HORSE เป็นนิยายที่แต่งสมมุติเรือ่งแทรกไว้ในประวัติศาสตร์จริง....มีเนื้อเรื่องกินใจเกี่ยวกับความรักและเมตตา ในตอนท้ายที่ม้าวิ่งเตลิดหนีจนเข้าไปติดลวดหนามในแดนรบระหว่าง 2 ฝ่าย(หมายถึงตรงกลาง) และมีทหาร ทั้ง 2 ฝ่ายๆละ 1 คน ออกมาเพื่อช่วยม้า โดยบังเอิญใจตรงกัน หากดูแล้วไม่ติดขัดใจหมายถึงเป็นไปได้หรือไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อ...ความหมายของนักเขียนนิยายเรื่องนี้คือ สงคราม นำผู้ที่มีเมตตาต่อสัตว์เช่นเดียวกัน มาเข่นฆ่ากัน ตามหน้าที่...ซึ่งหมายถึงคนดีๆต้องมาสู้และฆ่ากัน คือเรื่องแปลกที่ผมอยากชี้ให้เห็นทิศทางของอำนาจ ไม่ใช่ความจำเป็นเสมอไปครับ...

-สู้รบตามหน้าที่..หรือตามจุดประสงค์ที่ขัดแย้งจนตกลงกันไม่ได้ ต้องเอาชนะกันด้วยสงคราม ...ถ้าคิดตามอาจได้ความรู้สึกถึงการสาเหตุเกิด/ยุติสงคราม เป็นเรื่องที่ควบคุมผลให้ตรงไม่ได้.... สงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งผ่านไป สัมพันธมิตรเป็นฝ่ายมีชัย จึงเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์เรียกฝ่ายตรงข้ามว่า "อาชญากรสงคราม"...ถ้าสมมุติว่าผลเป็นตรงข้าม การบันทึกประวัติศาสตร์ กล่าวโทษสาเหตุ ก็อาจเปลี่ยนไปอีกแบบครับ...

-ความหมายคือ สงครามไม่ได้หมายถึงความดีรบกับความเลว อำนาจที่ทำให้ชนะไม่ใช่ของพระเจ้าเสมอไป...ดังนั้นหากถึงจุดที่มีผู้พร้อมจะเก็บเกี่ยวประโยชน์จากสงคราม เขาจะเริ่มโดยไม่ต้องมีแรงกระตุ้นที่เกี่ยวกับมนุษยธรรม...ดังนั้นผู้ที่ไม่มีอำนาจและฐานะ..เช่นไทย....คือผู้ที่ต้องรอชะตากรรมสถานเดียวครับ...

-ย้อนกลับไปอ่านเรื่องทหาร 2 ฝ่ายออกมาช่วยม้าบาดเจ็บ เสี่ยงภัยออกมาเพราะมีเมตตาธรรมแบบเดียวกัน แต่ผู้มีเมตตาธรรม ถูกสั่ง ให้ฆ่ากันตามหน้าที่ โดยไม่ต้องถาม...เหตุผลไม่ได้อยู่ที่ทหารหรือคนไหนดี แต่อยู่ที่ใครคือผู้ชนะ แล้วการวางตัวจะมาเอง....แต่ไทยวางตัวสูงไปก่อนผลสามารถจริง หมายถึงเป็นการจ่ายซื้อภูมิมาแอ็คชั่น(เลียนแบบ)...

-มีผู้รู้เห็นแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นไมต้องถามหมอดูเรื่องอนาคต ทางรอดอยู่ที่พระเหนียวอย่างเดียว รสนิยม ดีๆ ถึงๆ เทพๆ ก็คือวิธีเดินไปสู่ทางตัน(เพื่อตายอย่างเขียด)นั่นเอง อยากให้ลองคิดตามดูครับ....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 11/9/2559 เวลา : 21:16  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78204

คำตอบที่ 94
      
-ผู้นำไทย มีรูปแบบการใช้ชีวิตในตำแหน่งงาน ก็เป็นแบบแผนที่ไม่ได้คิดเอง เลียนแบบ(ฟอร์ม)ของต่างประเทศมาใช้งานเหมือนเรื่องอื่นๆ...เช่นบอดี้การ์ด/รถกันกระสุน ไทยก็มีครับ...

-ตอนที่นายกฯไทยเป็นคนสุพรรณบุรี ตรงเวลากับนายบิล คลินตัน เป็นผู้นำฯ มีการประชุมเรื่องหนึ่งของหลายๆประเทศ ที่ลงท้ายด้วยการจับมือแบบโยงต่อกันเป็นโซ่ เพื่อถ่ายรูปหมู่ หมายถึงที่ระลึกความร่วมมือกันเรื่องหนึ่ง...

-ในครั้งนั้น นายกฯไทยยืนติดกับผู้นำอเมริกา ผมได้เห็นภาพข่าวในTV และพอดียืนอยู่ใกล้คนจ.สุพรรณด้วย....ได้ยินเขาพูดอย่างชื่นชมคนบ้านเดียวกับเขา..."ดูนายกเราซิ ยืนคู่กับอเมริกา ตัวเหมือนเท่าลูกกรอกเลย น่ารักดี"....เป็นการพูดตรงในเชิงชื่นชมจริงครับ...

-นึกตามก็อาจเข้าใจเพิ่มขึ้นอีก..."ด้วยกัน" ไม่ใช่ "เท่ากัน"

-ไพ่..เท่ากันทุกใบ แต่เลขและความสำคัญของเกม "ไม่เท่ากัน" มองด้านหลังไพ่ ไม่รู้เขารู้แต่เรา....หงายไพ่เทียบค่าจึงรู้ผลว่าแต้มใครเหนือกว่า...

-การเล่นไพ่จึงวางตนเท่ากันได้ เพราะอ่านผลไม่ออก ใช้กลยุทธได้หลายอย่างเพื่อชนะ เช่น "การลักไก่" บางครั้งก็นำผลชนะมาให้ได้...เพราะอ่านฐานะไพ่กันไม่ออก...หรือศักดิ์เท่ากันจนกว่าจะถึงเวลาหงายไพ่....

-แต่ในเกมคัดเลือกเผ่าพันธ์มนุษยชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกทำนายไว้ว่าคือทางยุติสงครามระหว่างประเทศอย่างถาวรซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อมีผู้ต้องการผลนั้น ...คนไทยคงไม่ต้องการอย่างนั้น... แต่ถ้า"ต้องเป็นอย่างนั้น" ไทยคงเริ่มเดาอนาคตออก...แต่ก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรให้รอด(ดี)ในตอนนั้น ...ถ้าต้องการเปลี่ยนลิขิต ก็คงต้องเริ่มคิดในตอนนี้ครับ...

-การหักโค่นล้มอำนาจเถื่อนในไทย มีเรื่อยๆตลอดมา (เจ้าพ่อ)นักเลง ก็จากไปด้วยรูปแบบเดิมๆ คือโดนลูกปืน มีอยู้ครั้งที่ได้เห็นข่าวนสพ.ลง พระห้อยคอราคา 3 ล้าน ถูกอมอยู่ในปากผู้ตายในรถด้วยปืนจนพรุน คือสิ่งที่อยากบอกว่า ก็เป็นที่พึ่งไม่ได้...ในสงครามอนาคตตั๋วรอด ไม่รู้มีขายเปล่า...ถ้ามี..ผมก็ไม่มีปัญญาซื้อ ผมรู้ตัวตั้งแต่ตอนนี้แล้ว ปรับตัวเองจะไม่ตะกายรสนิยมตั้งแต่ตอนนี้ หากถ้ารอดเพราะปาฏิหารย์ ตอนนั้น จะมีคนมองหน้าว่าไม่น่ารอด(เลย) เก็บกวาดไม่หมด...ก็คือสิ่งที่รู้คำตอบก่อนเหมือนกันครับ...




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 จันทร์, 12/9/2559 เวลา : 07:16  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78205

คำตอบที่ 95
      
-ในสภาวะคงเหลือจากโลกเก่า / เริ่มต้นในโลกใหม่ ...มีความเห็นที่ถูกวางไว้แล้วว่า นักวิทยาศาสตร์ 1 คน มีค่ามากกว่านักการเมือง 20 คน...

-ขอให้ย้อนกลับไปดูสารคดี ตามลิ้งค์ในกระทู้นี้อีกรอบครับ...

-หาก BUGATTI VEYRON คือผลงานระดับสำคัญของโลกใบนี้....ทีมที่สร้างก็มีค่ากว่านั้นครับ...

-หมายถึงหน้าตาของบุคคลที่อยู่ในสารคดีนั้น มีโอกาสถูกยกเว้นให้ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม เป็นผลประโยชน์ของโลกใหม่ ซึ่งต้องการผู้มีความสามารถครับ...

-ผู้ที่มีแต่รสนิยม...จะไม่มีโอกาสรอด ในฐานะเป้าหมายให้ต้องกำจัดด้วย เพราะคือปัญหาออย่างหนึ่งของโลกเก่าครับ....

-ฝึกไปตายแท้ๆ...คือเส้นทางชีวิตคนไทยผู้มีรสนิยมระดับโลก แต่ไม่มีเทคโนโลยีใดๆทั้งสิ้น...คิดตามเพื่อให้เกิดความรู้สึกกังวลบ้างดีกว่านะครับ...

-เพื่อการก้าวต่อไปในเวลานี้ อาจเหมาะสมขึ้นกว่าที่ผ่านมา.....ฝรั่งเขาค้นคว้าต้นเหตุที่ทำให้ไดโนเสาสูญพันธ์ เมื่อ 165 ล้านปีที่แล้วมา...เป็นคำตอบสำคัญที่คนไทยไม่รู้จักน้ำหนักว่าจะไปลงทุนค้นคว้าทำไม นำเงินไปซื้อล้อแบรดเล่ย์มาอัพเกรดรถดีกว่า...สิ่งที่อ้างนี้คือเหตุผลที่ไทยจะถูกตัดสินได้ง่ายๆ คือคิดไม่เหมือนเขาครับ....

-หากได้ดู(หนัง)เทศ WAR HORSE และเข้าใจว่าความรัก/เมตตาเป็นนิสัยของคนดี....ม้าสมมุติตัวนั้น ก้เหมือนรถที่ท่านใช้อยู่ตอนนี้ได้ ทำให้มันได้รับการเอาใจใส่ ที่ไม่ใช่แต่ง/ดัดแปลง โดยให้คนในแวดล้อมรอบตัวท่าน เป็นกรรมการให้คะแนน อย่าให้คะแนนเอง และไม่แคร์ผลอื่นเหมือนที่ผ่านมา ตัวอย่างคือ นักมวยตัดสินให้ตัวเองไม่ได้ ผลอยู่ที่คนดูคือกรรมการ...การยอมรับแพ้ชนะ ทำให้สิ่งนั้นเป็นกีฬา ที่กลับมาล้างตาได้ โดยมีผู้เห็นด้วยมากมาย เพราะเป็นเส้นทางของคนเก่งครับ

-หากท่านสังเกตอำนาจเถื่อนของมาเฟีย/นักเลง /เจ้าพ่อ ตามแต่เข้าใจ ชัยชนะอยู่ที่การลงมืออย่างไม่มีกติกา...เช่นลอบยิง หรือ10รุม2 เป็นต้น..

-ไม่ใช่ความดุร้ายเหมือนสัตว์หน้าขน แต่เถื่อนอย่างไม่กล้าแพ้คือวิธีคิดหาทาง....รถซิ่งที่รับผิดชอบเท่าที่หนีไม่พ้น ก็ไม่ต่างอะไรกับตรงนั้นครับ...

-ดังนั้นหากท่านอยู่ใกล้ใครสักคนที่มีอาการในแนวทางนี้ ขอให้ช่วยทำให้เกิดการกลับลำ หรืออย่างน้อย ก็ได้ลองพยายามแล้ว คือหน้าที่ของคนในสังคมที่รู้หน้าที่...เริ่มต้นที่การห้ามตัวอย่างเชิญชวนหรือการโชว์...ซึ่งมีศัพธ์นี้ในตลาดซื้อขายรถมือสองด้วยครับ....(พร้อมโชว์)

-หากท่านรู้จักความสกปรก แต่ไม่เข้าใจว่าต้องป้องกันหรือแก้ไขความสกปรกนี้อย่างไร การอยู่ในเหตุการณ์ ก็คือผู้สมรู้ร้วมคิดระดับหนึ่ง เหมือนเรื่องปล้นฆ่าคนขับแท็คซี่ ซึ่งเพื่อน/ญาต ติดร่างแหผิดไปด้วยครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 จันทร์, 12/9/2559 เวลา : 10:23  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78206

คำตอบที่ 96
      
-ขออนุญาตใช้ข้อความเรื่องม้าต่ออีกนิดครับ...

-การดูแลม้าใน(หนัง)เทศ War Horse เป็นความรักที่เป็นแบบอย่างได้ดี...ดูแลตามที่มันควรจะเป็น หรือธรรมชาติที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าเปรียบเป็นรถก็คือรักษาสภาพสแตนดาร์ดเป็นหลัก ...ไม่แต่งเติมในรูปแบบของม้าแกลบไทย ที่นำบายศรีไปคล้องไปห้อย ขอให้เปรียบความงาม/เกินงาม ไปกับรถที่ท่านใช้อยู่ด้วยครับ...

-อยากบอกว่าความแปลกก็คือความแปลก ไม่ใช่ความงาม ความแปลกเป็นจุดเริ่มต้นให้สนใจได้ แต่ความแวววาวและดูดีมาก คือสภาพที่ภูมิใจได้ครับ..

-คนไทยใช้คำว่าแต่งเหมือนพูดถึงวามสำเร็จรูปแบบหนึ่ง...ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมากครับ...

-การแต่งเป็นบวกและลบ และที่เห็นมาก อยู่ในแนวลบเหมือนแต่งตัวให้ม้าแกลบไทย หมายถึงใส่เพิ่มเข้าไปโดยไม่เข้าใจภาพ ไม่ได้ผิดตรงการกระทำที่ไม่เป็น(มวย) แต่ผิดที่เข้าใจว่านั่นคือแต่งแล้ว ถ้าบอกว่า"แต่งลาว" ก็คงโกรธ ไม่ใช่โกรธเดี่ยว...ลาวก็โกรธด้วย เพราะไปโทษภูมิเขาต่ำเป็นหลักไว้เปรียบ...

-ลาวจึงหัวเราะเยาะคนไทยเรื่องบั้งไฟพญานาค ที่รือกันหลายรูปแบบ แต่เป็นฝีมือลาวทั้งสิ้น...ลาวรับ..พร้อมรอยยิ้มในเรื่องนี้ เพราะหมายถึง"ต้มตุ๋น"คนไทยอย่างสมัครใจก้าวตามมา...คิดว่าเป็นบันเทิงที่เกิดขึ้นยาก...อะไรจะ(โง่)ได้ปานนั้น.....

-ตอนแรกที่ผมได้รถเน่ามา ผมก็ผิดหวังอย่างแรง แต่ปัจจุบันผมรู้สึกดีที่มันเปลี่ยนคืนสภาพได้ดีระดับหนึ่งแล้ว...และโดยผมเอง ..เหมือนได้ทำเรื่องถูกต้องบ้างครับ...

-ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมทำงานต่างจังหวัด และเช่าบ้านอยู้รวมกับทีม...มีแม่หมาท้องถิ่นมาผูกมิตร และที่สุดก็มีลูกด้วย เป็นหมาพันธ์ทางทั่วไป ลูกที่ออกมาไม่ค่อยเหมือนกัน ตามการผสมที่ไม่ได้คัดเลือก ...ที่สุดเหลือลูกหมาที่ 2 ตัวที่ไม่มีใครเอาไปเลี้ยง...ผมเริ่มพยายามบอกคนอื่นๆที่รู้จัก...ที่สุดก็ไปอีกตัว เหลือผมเลี้ยงไว้ 1 ตัวครับ....

-เวลาผ่านไป อีกเป็นปี...หมาตัวที่ผมเลี้ยงไม่มีลักษณะที่ดีเลย เหมือนหมาไทย แต่เตี้ยกว่าปกติ หูก็ไม่สวย...และที่สุดก็โดนรถชน/ทับตายครับ

-หมดภาระอย่างไม่ค่อยสวยเลย(คือบทเรียน)...เกิดมีธุระอย่างหนึ่งที่ผมต้องไปหาคนที่รับลูกหมาตัวสุดท้ายไปเลี้ยง....เมื่อผมไปที่บ้านนั้น มีหมาออกมาเห่าผม เจ้าของก็ห้ามหมาๆมาป้วนเปี้ยน เจ้าของบอกนี่คือหมาตัวที่รับมาเลี้ยง..ตอนจากมาตั้งชื่อแล้ว เพิ่งเริ่มกินอาหารและอดนมไม่นาน...ผมจึงเรียกชื่อเดิมหมาตัวนั้น...มันเปลี่ยนเป็นดีใจอย่างมาก หมายถึงจำผมได้ด้วย...ผมเองต่างหาก ที่จำมันไม่ได้เลย...

-หมาตัวนั้น สวยมากๆ ตัวเท่าหมาไทยแต่ขนปุย คล้ายหมาบางแก้วในปัจจุบัน แต่สีแปลกกว่า...นี่คืออีกหนึ่งบทเรียนที่อยากเล่าครับ...

-ผมมองผู้เลี้ยงอย่างเปลี่ยนไป คือยอมรับว่า เขาเอาใจใส่กับหมาพันธ์ทาง จนสวย(กว่าหมาบางแก้ว) คือความสามารถ/รสนิยมแบบหนึ่ง...หมายถึงเป็นความสามารถของผู้เลี้ยง ที่ผมยอมรับ

-ตัวอย่างนี้ ผมได้ทำตามคือเอาใจใส่ในสิ่งที่มี ให้ถึงขั้นดีเท่าที่ดีได้ เป็นเป็นทางผ่านชีวิตที่นึกถึงแล้วยิ้มออก ที่มีคนอื่นยอมรับ...ต่างกับการแต่งรถให้บิดเบี้ยวเช่นล้อเกินตัวถัง และไม่แคร์สายตาผู้อื่นด้วย....หมายถึงผมพ้นจากจุดนั้นด้วยเห็นหมาตัวนั้น(แท้ๆ)ครับ.....

-และเมื่อนำไปวางเทียบไว้กับผลงานที่เคยหลงทางไป ความรู้สึกส่วนหนึ่งก็แย่ครับ...อีกส่วนก็คือดี ที่เปลี่ยนเส้นทางได้ อยากให้ลองคิดตามดูครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 13/9/2559 เวลา : 07:14  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78207

คำตอบที่ 97
      
-ผมแจ้งรายละเอียดเรื่องหมาตกไปหน่อยครับ...

-ที่บอกว่าพ้นจากจุดเดิม(เพราะเห็นผลในหมาตัวนั้น) หมายถึงก็เคยเหมือนคนเหลือขอชาวไทยทั่วไป การเห็นเห็นหมาตัวนั้นทำให้สำนึกเกิดขึ้น...ขอให้สังเกตว่า ผมไม่(มีสิทธิ์)พูดว่า "เสียดาย"เลยครับ...

-ถ้าพูดเรื่องนี้ก็คงไม่ใช่บทเรียน(รู้)...หนึ่งคือได้เห็นผลงานของคนที่เอาใจใส่ในการเลี้ยงๆอย่างดี และสะอาดมาก นั่นหมายถึงหมาตัวนี้โชคดีแล้วที่ได้เจอเจ้าของแบบนี้...เมื่อนำไปเทียบกับอีกตัวที่ผมเลี้ยงและจบไม่สวย ...ผมเองนั่นแหละครับที่ต้องระอายใจบ้าง...เพราะผลทั้งการเลือกและการเลี้ยงต่างกันมาก "แต่วางตัวเท่ากัน" คือสิ่งที่บอกเพิ่มครับ...

-วันก่อนดูสารคดีสิงโตทะเลชื่อ LEO ซึ่งฉลาดมาก ผมมองเห็นความสุขทั้งผู้เลี้ยง/ครูฝึก และตัวสิงโตทะเลเองก็ดูแจ่มใสมาก...นั่นคือแบบอย่างที่ถูกต้อง..หากสิงโตทะเลตัวนี้ตายจากไปในวันหน้า เจ้าของและครูฝึกต้องเสียใจแน่นอน และความน่าเสียดายนั้นจริงได้ก็เพราะเจ้าของและครูฝึกดีนั่นเอง ในมุมมองกลับ...เห็นไหมครับว่าดีทั้งขึ้นและล่อง...แต่ภาพเช่นนี้กลับมีน้อยในความเป็นจริง...คำว่า"ปลอม"ครอบคลุมมาถึงเรื่องแบบเดียวกันแต่ผลตรงข้ามหรือด้อยกว่ามาก ซึ่งเกิดขึ้นมาก(มาย) ในไทย โดยเป็นการตามอย่างแฟชั่นจากต่างประเทศ...

-ดังนั้น...ใครคิดได้ก่อน ก็แก้ไขก่อน ใครได้ผลดีก็บอกวิธีกัน แต่ไม่ควรลืมการวางตัวด้วยครับ...

-เพราะเป็นการเลียนแบบมา ไม่ใช่คิดเอง เพียงทำให้เหมือนต้นแบบก็ได้ผลดีไปคุ้มค่าแล้ว อย่าหักล้างด้วยการวางตัวเป็นเจ้าของเทคนิคนี้เสียเอง...ระวังเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยเหมือนกันครับ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 13/9/2559 เวลา : 12:41  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78208

คำตอบที่ 98
      
-เรื่องหมาที่เล่าในคต.ก่อน ผ่านไปนานแล้วครับ...

-ปัจจุบันผมเลี้ยงแมว หากเทียบเคียงกับเรื่องหมาตัวนั้น ก็ยังตามไม่ทันแต่ก็ห่างสักขั้นเดียว หรือได้ผลใกล้เคียงแล้วครับ..

-เป็น report ว่าผมคิดถูก...เพราะผมได้รู้สึกดีต่อสัตว์เลี้ยง ซึ่งได้ผลดีกว่าในก่อนนานมาแล้วมากครับ...

-ก่อนหน้านี้คือเห็นคนอื่นเลี้ยงก็อยากเลี้ยงบ้าง มองๆ ถามนิดหน่อยแล้วก็เริ่มเลย ได้ผลต่ำกว่าที่จำมาเยอะ แต่ตอนนี้แมวที่เลี้ยงอยู่ ชาวบ้านก็ชอบว่ามันดีกับผมเป็นพิเศษ และสวยดีระดับพอใช้ได้ หมายถึงไม่โทรมไม่สกปรกครับ...

-ผมเริ่มเลี้ยงแมวตัวแรกเพราะ เป็นลูกแมวที่แม่แมวมาคลอดลูกไว้ในห้องเก็บของที่บ้าน มีลูก 3 ตัว พอเปิดไปเจอ มันก็ย้ายลูกในเวลาต่อมาครับ..

-แต่ทิ้งตัวที่เล็กที่สุดไว้ รออีกหลายวันก็ไม่มา ผมจึงต้องเลี้ยง...เรื่องนี้เล่าเพราะเหมือนสิงโตทะเล LEOในสารคดีตัวนั้น แม่ของมันก็ไม่ยอมเลี้ยง เจ้าของและครูฝึกรับหน้าที่แทน และผลตอบแทนก็คุ้มค่ามากครับ

-แมวที่ผมเลี้ยงตัวแรก ก็ประทับใจหลายครั้งที่มันแสดงออก จึงมีการเลี้ยงแมวเพิ่มอีก 2 รุ่นๆที่สองมี สองตัวพี่น้องพ่อแม่แมวเป็นเหมือนแมวป่าไม่เชื่อง มาออกลูกไว้ในที่ลับตาในบ้าน และทิ้งลูกไว้ในที่สุด...รุ่นที่สามตัวเดียว เป็นแมวที่โดนนำมาปล่อยครับ...

-ปัจจุบันบทเรียนครั้งที่เห็นเจ้าของหมาสวยๆตัวนั้น เป็นตัวอย่างให้ผมก้าวตาม และก็ได้รู้สึกดีกว่ามาก ทั้งๆที่ทั้งหมดเป็นแมวถูกปล่อยไว้หรือแมวที่ไม่มีใครต้องการ...

-ตอนนี้รุ่นแรกตายไปแล้ว เป็นตัวพิเศษมากสำหรับผมๆบอกคนอื่นเสมอว่า รุ่นที่สองและสาม ได้รับอนุมัติให้เลี้ยง เพราะรุ่นแรกได้ผลน่าพอใจ แทนที่จะนำไปปล่อยต่อไปครับ...

-เมื่อรุ่นแรกตายจากไป รุ่นที่สองตัวหนึ่ง ก็ขึ้นมาอยู่ข้างผมแทน เกือบตลอดเวลาคล้ายกันครับ...

-ก็รู้สึกดี....ผมจึงเชื่อว่าเป็นผลจากการกระทำของผมเอง...การเลียนแบบผู้ที่รักหมาสวยตัวนั้น จึงได้ผลจริงครับ...

-ตอนนี้ผมมีแมวพันทางที่พอจะมีความสวย เพราะเลี้ยงดี และมีรถที่เก่ามากแต่พร้อมใช้ไม่เกเร ก็เอาใจใส่เช่นกันครับ...

-report คือความเอาใจใส่ต่อต่อแวดล้อม ก็คือเอาใจใส่ตัวเอง ดีกว่าหลงตัวเอง หรือรักตัวเอง ซึ่งมีข้อเสียเยอะต้องแบก(และซ่อน)ไปด้วยครับ...

-เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง อยากชวนให้ดู BABE ภาคแรกอีกครั้ง เนื้อเรื่องโม้เหลวไหลแบบคลาสสิค เป็น(หนัง)คุณภาพดีเรื่องหนึ่ง ขอให้ดูเจ้าของสัตว์เลี้ยงพูดน้อย แต่ก็ดูอยู่ตลอดเวลา นั่นคือวิธีไม่ทำให้สัตว์สับสนถูกต้องเลยครับ...

-แมวผมมีชื่อทุกตัว และรู้จักชื่อตัวเองด้วย เวลามีคนอื่นมาเล่นด้วย เขามักดัดเสียง "เมี๊ยวๆ" เพื่อเรียกมารับอาหารว่าง...ผมบอกคอื่นว่าเรียกชื่อและไม่ต้องดัดเสียงด้วย แมวรู้จักชื่อตัวเอง พอเรียกให้เขาดู แมววิ่งมา คนอื่นรู้สึกชอบมาก ผมบอกว่า ที่มาเพราะผมเรียกไม่บ่อย และเรียกมาต้องมีอะไรให้เขาดูสักอย่าง ดังนั้นจึงเกิดความร่วมมือที่ดีในครั้งต่อๆมาครับ(เลียนแบบเรื่อง Babe1 มา)....ขอให้นึกว่าอ่าน report นะครับ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 13/9/2559 เวลา : 17:27  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78209

คำตอบที่ 99
      
-ผมเล่าเรื่องจริงหลายเรื่องในแบบนิทานคือเดินเรื่องและผล ไม่มีรายละเอียดมาก เพื่อให้ข้อคว่ามเป็นกลางหรือให้คนอ่านรำคาญน้อยเท่าที่นึกเองได้ครับ...

-จุดประสงค์คือ ต้องการให้ดูแลรถเก่าให้ดี/ใช้นานๆ อย่าเรียกการเติมว่า "แต่ง"รถ เพราะผู้ที่อยู่ในบรรทัดนี้ ทำตัวอย่งเสียความหมายเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการตามกันไปหลงทาง ขอให้ระมัดระวังการโชว์ทั้งรถและทั้งความเห็น เล่าเรื่องสัตว์เลี้ยงด้วย เพื่อให้ดูเป็นหลายสิ่งที่ใกล้ตัว หรือ"ชอบ" โดยอย่านำไปรวมกับเครื่องมือ ซึ่งหลายคนที่มักง่าย ใช้ศัพธ์แสลงกำกับให้ดูพิเศษ เช่น "สาวกหรือลูก" เพื่อเป็นจุดสนใจชั่วขณะ โดยลืมกลายเป็นส่งมอบผล หรือเป็นตัวอย่างให้ตาม จนความหมายจริงเพี้ยนหรือออกนอกเส้นทาง "สากล"ซึ่งเรื่องรถยนต์/สัตว์เลี้ยง เป็นเรื่องที่ต้องนัดหมายโยงกันทั่วโลก..

-หมายถึงควรเคารพในรูปแบบจริงที่ตั้งไว้เป็นแบบอย่างในสังคมทั่วไป อยานำมาบิดเบี้ยว เพื่อเป็นมุขให้กลุ่ม เพราะมีการจำมุขนี้ไปใช้ต่อๆกันไป ผู้เรียนรายต่อไป ซึ่งอาจเป็นลูกหลานท่านเอง จะเหมือนโดนบังหรือโดนอำพรางความหมายสากล....ความมักง่ายในการเล่นคำแสลง หรือโชว์เพี้ยนให้ฮา จึงไม่ใช่เรื่องเล็กครับ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พุธ, 14/9/2559 เวลา : 06:15  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78210

คำตอบที่ 100
      
-การเตือนก็คือการบอกทาง ถ้าไม่ได้ผล และบอกสภาพสังคมนั้นหลายอย่าง คำว่า "รับรู้" อาจเท่ากัน แต่การให้ความสำคัญ ไม่เท่ากันหรอกครับ...

-ดังนั้นเส้นทางเรียนรู้ หรือแบบอย่างสากลของมนุย์ชาติที่เดินไปในทางเดียวกัน ควรช่วยกันให้มองเห็นชัดและปัดฝุ่น อย่าบังหรือสลับเล่น ถ้าวันหนึ่งท่านชรามากจนไม่มีบทบาทในสังคมอีกแล้ว...และได้ข่าวลูกหลานท่านถูกเกณฑ์บังคับ ให้อยู่ในกลุ่มแรงงานระดับล่างสุด ท่านคงห่วง...และคงเปลี่ยนเป็นความเสียใจ ถ้ารู้ต่อไปว่า ท่านคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลในสังคมไทยเป็นอย่างนั้นครับ....

-มองเห็นวันนี้ก็แก้ไขวันนี้...โอกาสมีเสมอถ้าฉลาดพอ..ต่อเรื่องที่เรียนรู้ได้ไม่ยาก....

-การตามกันอย่างไม่คิดหน้า/หลัง เกิดขึ้นบ่อย ที่มีหลักฐานคือ การสลักต้นไม้ในสถานที่ท่องเที่ยว "เตี้ยรักคร่อมมากนะ" มีหลายคำในหลายต้น ไม่ใช่เกิดจากคนเดียวกันหรอกครับ....

-การพ่นสีคำที่ไม่ใช้กันในกระดาษพิมพ์ บนกำแพง ก็เกิดขึ้นต่อเนื่องมานาน โดยไม่ใช่ฝีมือคนเดียวกัน....คือตัวอย่างคิด..ว่าสิ่งที่ผมเตือนมีความหมายจริง ซึ่งถ้ามองแบบ 360 องศา หมายถึงรอบคอบทุกด้าน เพื่อเหมาะกับการดำรงอยู่ในปัจจุบัน...หากขืนเล่น ...วันหนึ่งจะเหมือนสุนัขข้ามถนน ซึ่งไม่รู้จักรถที่วิ่งไปมา(แม้เห็นทุกวันก็ตาม) ที่สุดคือโดนรถชนตายเพราะไม่เข้าใจจังหวะในการยืนหรือเดินผ่านตรงนั้น...จึงอยากชวนให้คิดตามครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พุธ, 14/9/2559 เวลา : 06:58  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78211

คำตอบที่ 101
       -ขอวางข้อความเพิ่มครับ...

-เรื่องไม่สนุก แต่อาจเป็นตัวอย่างให้เริ่มคิดบางอย่างที่ไม่เหมือนที่แล้วมาได้(บ้าง)ครับ...

-ผมขายรถเก๋งซึ่งใช้มาเกือบ 20 ปี...เป็นรถ CBU หรือรถนำเข้า ...นำไป(ตี)ราคาที่เต้นท์ เพื่อจะแลกรถกระบะ เขาให้ราคา.....ก็ต่ำมาก ไม่พอใจจึงไม่ขายและไม่ซื้อเขาด้วย....

-ต่อมามีคนในอำเภอเดียวกัน มาขอดูรถเพราะได้ข่าวว่าผมบอกขาย ผมบอกราคาเขาเท่าที่เต้นท์(ตี)ให้คือ.....เขาตอบตกลงทันที...วันที่มารับรถ เขานำเงินมาให้ และบอกเกรงใจ จะเพิ่มให้อีก 1 หมื่นบาท ผมบอกต้องการเท่าเดิม เพียงแต่บอกก่อนว่ารถเก่า วันนี้ไม่มีอะไรเสีย พรุ่งนี้ไม่แน่อาจมีรายการซ่อมโผล่ แต่ไม่ได้ปิดบังอะไรเพื่อขายให้ได้ เขาตกลงบอกรับเรื่องนั้นได้ และดูเขาดีใจ...ผมก็ดีใจครับ....

-เนื่องจากไม่ให้เลขทะเบียนสวยของรถคันที่ขาย พอดีมีคนรู้จักบอกขายรถเล็ก ยาริส ก็ไม่แพงเพราะรู้จักกันดี จึงซื้อไว้เพื่อสลับเลขทะเบียน...รถยังใหม่ แต่ก็มีรายการต้องซ่อมและทำเพิ่มบ้าง ก็ไม่ได้ลังเลอะไรครับ....

-ต่อมา...มีคนที่รู้จักกันดีในออฟฟิตเดียวกับคนในครอบครัวซึ่งใช้ยาริสอยู่...เขาต้องการรถรุ่นนี้เพื่อเอาไป(แต่ง) ผมได้รู้เรื่องและเข้าใจเรื่องการเล่นรถ(อยู่คนเดียว)ว่าทำไมเลือกยาริสตัวแรก...คนอยากซื้อติดตามผล ผมจึงตัดสินใจว่าถ้าไม่ขายจะเหมือนเล่นตัว ความรู้สึกจะคงเหลือ ขายก็ได้ เขาก็ให้ราคาไม่ขาดทุน ผมแจ้งคนในครอบครัวว่าคนใกล้กัน ถ้ายอมขายก็ไม่ควรต่อรองขอเพิ่มราคา(เหมือนที่คนอื่นทำกันทั่วไป)...ผ่านไปแล้วครับ ...

-ต้องการเล่าคือพฤติกรรมที่ผมแก้ไขตัวเองแล้ว โดยไม่คล้อยตามวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน...คือขายราคาเท่าที่เต้นท์ให้ต่อผู้ซื้อใช้งานจริงเอง / ซื้อของที่บอกไม่แพงอยู่แล้ว และขายต่อให้ผู้อยากได้ในราคาที่เขาให้เอง....รู้สึกสมบูรณ์แบบดีครับ...

- ตอนนี้ลืมเรื่องจำนวนเงินซื้อ/ขายไปแล้ว จำไว้แต่เพียงทุกฝ่ายพอใจในการซื้อขายรอบนี้เป็นเสร็จธุระ...จึงขอวางตัวอย่างทวนกระแสให้เกาะหูไว้ด้วยครับ....

-เหตุผลที่เปลี่ยนวิธีไปจากเดิมที่เคยทำเหมือนคนอื่นเขาทำ เพราะผมใช้วิธีคิดใหม่ว่า นานๆผ่านเรื่องแบบนี้ครั้ง ไม่ใช่อาชีพที่ต้องกำไรให้ได้ และก็ไม่เคยสบายใจเรื่องการขายรถยนต์มือสองในอดีตที่ผ่านมา ฐานะก็ไม่ได้ดีขึ้น หมายถึงไม่เห็นความคุ้มค่าเลย จึงอยากการลองหาทางที่อาจดีกว่าครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 14/9/2559 14:16:07





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พุธ, 14/9/2559 เวลา : 14:07  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78213

คำตอบที่ 102
       -เขียนมาไกล(ผู้คน)จังเลย...ลากมาเดี่ยวด้วย...หวังว่าคงให้อภัยกันนะครับ...


-ตอนนี้รถหรู/ในฝัน คนระดับกลาง กำลังถึงจุดพบกันระหว่างทฤษฎีใหม่/เก่า...เป็นเรื่องไม่แปลกที่ผู้ผลิตขายปรับเทคโนโลยีสู่ผู้ใช้งานได้หลายแบบ ที่ยังนับเป็นความก้าวหน้าด้วยครับ...

-แต่ถ้ามีผู้บริโภคแบ่งศักดิ์ศรีสินค้าให้แตกต่างกัน ในระดับกลางซึ่งเอื้อมถึงเริ่มยาก แต่ไม่สุดเอื้อมถ้าเขย่งก็จับได้เหมือนกัน เพื่อได้ภาพ(ตนเอง)มองเป็นระดับสูง โดยใครจะรู้ว่าเขย่งอยู่(อย่างเมื่อย)....

-ตัวอย่างในไทยเช่นรถโตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ ซึ่งหรูหราและเก่งพอ..ก้าวต่อมาจากรถอื่น 2WD แบบเดียวกัน หรือ4WD แบบ4ป.ท้ายบรรทุกเช่นรถ106..และยังเหนือกว่าคู่แข่งในบรรทัดเดียวกันของค่ายอื่น เช่นแกรนเชอโรกี, range rover เป็นต้น

-สำหรับคนไทย ซึ่งใส่การวางตัวเข้าไปเกินกว่าเหตุเสมอ เช่นไปร่วมแสดงละครทีวี เป็นตัวประกอบวิ่งไปวิ่งมาพอเห็นหน้าในเรื่อง แต่วางตัวแถวห้างฯเหมือนซุปเปอร์สตาร์....พอใช้แลนด์ครุยเซอร์ก็คงวางตัวราว "เสี่ย" ขึ้นไปครับ... นั่นคืภาพทีทำให้คนขับรถระดับ106และตัวรองอื่นๆ หลายๆคนเผลอเขย่งขาตอนมองไม่รู้ตัว จนจะการเป็นสมการการเดินหน้าอยู่แล้วครับ...

-แล้วก็มีผู้ผลิตรถแบบนี้ เปลี่ยนแปลง/เพิ่มความก้าวหน้าใหม่เข้ามาในรุ่นใหม่ๆ เพื่อเขย่าตลาด...นอกจากความหรูหราเพิ่มอีก ออฟชั่นการบังคับ 4WD เป็นโหมดให้เลือกช่วยการเริ่มต้น1ใช้งานให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม...และเปลี่ยนขุมพลัง...ทิศทางไปตามภาวะของโลก โดยทางปฏิบัติของยนตรกรรม เพื่อก้าวหน้าไม่มีคำว่าถอยหลัง(คำว่าย้อนยุคเป็นแฟชั่น ไม่ใช่เทคโนโลยี)

-ตัวอย่างคือ เครื่องดีเซลนิสสัน BD25 ฝาแดง ยอดนิยมในอดีต มีแรงม้าประจำตัว 90 ม้า...ปัจจุบันค่ายเดียวกันในรหัส YD 25Ti มีม้าออกมาจากเครื่อง กว่า 170 ตัว หมายถึง แรงกว่าเดิม 100% (อ้างค่ายเดียวกันเพื่อกันแรงโม้มาเทียบด้วย)

-หมายถึง รถเชอโรกี และเร้น โรเวอร์ เปลี่ยนเครื่องยนต์ความจุน้อยลงกว่าเดิมมาก แต่แรง เรื่องนี้เข้าทางคนชั้นกลางของป.ไทย คือลดรายจ่ายเรื่องภาษีรย.1 ซึ่งคิดตามซีซีและประหยัดน้ำมัน.....หมายถึงผู้บริโภคจะเริ่มมีทางเลือก ไม่ต้องเขย่งเท่าเดิม(6กม./ลิตร) ก็สมศักดิ์ศรีเท่าเดิมได้...เป็นเรื่องดีนะครับ..

-แต่โตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ ผู้เป็นเบอร์1ของหมวดนี้(เท่ห์ที่สุด) ยังไม่ลดขนาดเครื่องลง กระแสนิยมเริ่มคลอนด้วยตัวเลือกแบบฉลาดกว่า(สมกับเศรษฐีที่ต้องฉลาด)...เสี่ยทีกอดอกในบรรทัดนี้ จะเริ่มเหงา และเริ่มเหมือน(โง่)ด้วยเปล่าหนอ...คือความกังวล..

-ถ้าโตโยต้า ปรับเครื่องยนต์ตามคู่แข่ง โอกาสยอดนิยมก็คงกลับมาง่าย....แต่ผู้ที่วางมาดเสี่ยในป.ไทย ที่ดันราคารถรุ่นนี้มือสองไว้เบาเหมือนนุ่น เกินความจริงด้วยการเป่ามานาน (นับเป็นการบิดเบี้ยวอย่างหนึ่ง)...คำว่าเป่าด้วยลมปากซึ่งไม่ใช่ลมธรรมชาติ หมายถึงเป็นการกระทำในประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งได้ ตัวอยางเช่นมาร์โคโปโล ซึ่งถูกคนรุ่นหลังพิสูจน์ว่าเรื่องเล่ามีความขัดแย้ง...เป็นต้นครับ..

-ผมเขียนเรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อเสียดแทงพวกวางตัวรสนิยม"เสี่ย" ไปเกินฐานะตามรถที่ไม่รู้เรื่องด้วย...แต่เพื่อบอกคนที่สนใจเส้นทางนี้เพราะ "เสี่ยเป่าลม"ทั้งหลายที่นัดกันสร้างภาพเกินจริงไว้ให้สนใจ...ว่าควรเลิกสนใจรสนิยมแบบคนรุ่นก่อน เพราะผลกำลังจะพลิกความนิยมในเหตุผลเดิมจะกลายเป็นเรื่องเกินจริง(คุยเป็นศักดิ์ศรีเกินตัว) ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าอายอย่าหนึ่งได้ด้วยครับ.....

-เหมือนการนิยมเครื่องดีเซลอีซุซุ2500 รุ่นแรก คงกระพันต่อเหตุผลโจมตี.. แต่ร่วงลงในตอนนี้เพราะเครื่องรุ่นใหม่ของอีซุซุเองในรุ่นตั้งแต่ดีแมกซ์ออกมาเทียบเป็นภาพแตกต่าง(กันเอง) ตำแหน่งนิยมจึงต้องเปลี่ยนไป คือแบบอย่างการเป่าสิ่งนิยมในไทย ที่สุดก็ถูกลบครับ

 แก้ไขเมื่อ : 16/9/2559 6:25:52





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 15/9/2559 เวลา : 19:51  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78216

คำตอบที่ 103
      
-ขออนุญาตวางเรื่องที่คล้ายกัน แต่ถูกมองไม่เหมือนกันครับ....

-รถยนต์ป้ายแดงในป.ไทย ก็สเปคต่ำกว่าที่อื่น แต่ใช้งานได้ และมีผู้รับผิดชอบสินค้าหรือแบรนด์เดียวกันกับต่างประเทศแม้ว่าจะด้อยกว่า เป็นเงื่อนไขเฉพาะท้องถิ่นเกี่ยวกับกฏหมายด้วย..ทำนองนั้นครับ...

-หลังจากขายเป็นรถใหม่ ต่อจากนั้น หากมีการเปลี่ยนมือ ก็คือซื้อขายเป็นรถมือสอง ในขั้นตอนนี้ อยู่ในขบวนการร้าน/ผู้ค้า ไม่ใช่แบรนด์สินค้า มืออาชีพเรื่องนี้ก็มี ขายเองก็มี ขายแฝงตัวก็มี หลายรูปแบบ กฏหมายเข้ามาคุ้มครองสินค้าที่สภาพไม่คงที่ไม่เกิดผล ..ความรับผิดชอบของผู้ค้าระดับนี้จึงแตกต่างกันมาก...เมื่อบังคับยาก ก็ต้องแล้วแต่บุญกรรม เช่นรถมือสองบางคันเคยเคลือบสีก่อนบอกขาย บางคันเคลือบน้ำลายซึ่งต้นทุนต่ำกว่ามาก แต่แจ้งเป็นเคลือบ(ไอ้)แก้ว...ถ้ามีปัญหาก็แก้กันเอง เถียงกันยันวางมวย หรือแช่งอาฆาตก็มี...จึงไม่มีใครเชื่อถือกันในแวดล้อมนี้ ต้องมีภูมิคุ้มก้นเอง..โดยความหวาดระแวงเป็นที่ตั้ง(หรือเป็นพิมพ์)เป็นเรื่องจริงครับ...

-ที่จริงเรื่องค้าขายก็เหมือนกันทั่วโลก...สินค้าหลายอย่างก็มีแบรนด์เดียวกันด้วย ต่างกันที่ผู้ค้าเท่านั้นที่ไม่เหมือนกันครับ...


-ป.คิวบาเป็นป.ปิด...โดนแบน/คว่ำบาตรทางการค้ามานานหลายสิบปี เนื่องจากเป็นคอมมูนิสต์ ประชาชนลำบากตลอดมาจนเก่งและแกร่งด้วยครับ

-ไม่มีรถหรือตู้เย็นฯรุ่นใหม่มาหลายสิบปี ความเจริญเดินหน้าอย่างเชื่องช้าและลำบากหรือเท่าที่จำเป็นจริง แต่สิ่งหนึ่งซึ่งได้คือ ทรัพยากรธรรมชาติที่คงอยู่อย่างมากมายในปัจจุบัน คือสิ่งที่เป็นบวก/ลบ ของทุกอย่างในโลกนี้ครับ...

-ปรเทศคิวบามีนักท่องเที่ยวไปเยือนได้เหมือนจีน...คนคิวบาขายลูกเต่าให้นักท่องเที่ยวปล่อยสู่ทะเลธรรมชาติ เงินที่ได้เข้าเอกชนที่ทำกันเอง ...ซึ่งเขาไม่ใช่ไปจับลูกเต่ามารอขาย...แต่เขาดูแลลูกเต่าที่ฝักจากไข่ อนุบาลจนพร้อมไปสู่ทะเล แล้วขั้นด้วยการให้นักท่องเที่ยวซื้อปล่อย ...เป็นเรื่องดีมีประโยชน์ต่อหลายฝ่าย จนมีคนนอกทำเป็นสารคดี(หมายถึงนำไปเผยแพร่)...

-ไทยก็มีการขายสัตว์เพื่อปล่อย มักอยู่ตามวัด เป็นปลาชนิดต่างๆ หรือนก หรออาจเป็นเต่าน้ำจืด เป็นต้น...

-แต่วิธีของคนไทยไปอยู่ในสารคดีแบบขีดเส้นเตือนให้โลกระวัง....ต่างกับคิวบาเปรียบเหมือน นักประชาสงเคราะห์/ หัวขโมย...

-เรื่องเดียวกันที่คนดูเป็นผู้ตัดสิน...การค้ามนุษย์ และทำลายป่า หรือบ/ชดำรายชื่อนักค้ายารายใหญ่ อยู่ในมือคนนอกประเทศ....เหตุผลยาวมากเกินสนใจ แค่สังเกตไว้ให้รู้ว่าแตกต่าง และควรระวัง หรือให้รู้ตัว ก็พอก่อนครับ....






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 ศุกร์, 16/9/2559 เวลา : 08:07  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78220

คำตอบที่ 104
      
-การอนุบาลเต่าทะเลในไทย อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาล ผมเคยไปเที่ยวชมบ้าง จำนวนเต่าทะเลที่ฟื้นฟูจากหน่วยงานนี้ คิดว่าจำนวนต่ำกว่าในสารคดีคนคิวบาทำกันเอง(หนึ่งที่ต่อหนึ่งที่) โดยจำนวนคนเกี่ยวข้องของไทยน่าจะสูงกว่ามาก เพราะเป็นหน่วยงาน...หมายถึงคิวบาทำเพราะความชอบเต่าและมีกำไร ไทยทำเพราะอเมริกากำหนดให้ทำและขาดทุน ....คุณภาพงานคือคุณภาพคนหรือไม่ ต้องลองคิดในใจดูครับ...

-เรื่องบิดเบี้ยวต่อหน้าต่อตา เป็นงานที่ไทยถนัดกว่า มีทั้งความกล้าหาญในการตั้งราคามหาโหด และไม่หนาวร้อนกับสายตาที่เข้าใจด้วย พร้อมเลยครับ...

-ตัวอย่างที่ง่ายคือ...รถวางคานหน้าเองในไทยใช้คานรถ VX80 กันเยอะมาก ที่วางขายก็มีของตลอดเวลา ของรถ106และ65 ไม่เห็นตลอดเวลา ก็เดาว่ามีของน้อยกว่า แต่ราคาอะไหล่ VX80 ทั้งบอดี้พาร์ทด้วย แพงกว่ารถ 106 / 65 /130 ...พวกมีของตลอดเวลาแพงกว่าพวกไม่มีของตลอดเวลา มีความหมายให้คิดตามถึงกลยุทธค้าขายในไทย...ที่บิดเบี้ยวจากการมือผู้ค้าอะไหล่เก่าจากญี่ปุ่นครับ...

-ดังนั้น...สินค้าที่กำกับด้วย...แท้ๆ / สภาพเทพ -นางฟ้า / สดๆ / เนียนๆ /5ดาว / VIP / หายาก ฯ.....นั่นคือแบบแผนของขบวนการบิดเบี้ยวนี้ วิธีไม่ได้มาจากตำราเดียวกัน แค่มองๆกันก็เข้าใจ ไม่ต้องนุ่มนวลใช้ แบบสาดไปเลยก็ได้ ป.ไทย ไม่เคยขาดแคลน พวกหลอกง่าย ขอให้เป็นสิ่งที่สนใจ สู้ตายเพื่อตนเอง ทำได้ทันที เสียสละเพื่อคนอื่น ไม่อยากยุ่ง รอดูทีท่าอีกทีก่อนว่าจำเป็นแค่ไหน....นี่คือป.ไทย ที่กำลังก้าวตามความเจริญ(ไม่ใช่ค้นคว้าความเจริญ)...อีกครั้งที่ต้องขอบอกว่าการคิดแบบที่ผมเขียน มีอยู่จริง เยอะมากด้วย ทำให้กังวลเรื่องอนาคตว่าใครจะรอดเพราะปาฏิหารย์บ้าง(หนอ)..หมายถึงรอดด้วยเหตุผลว่าเป็นคนสำคัญ มองไม่เห็นเลยครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 ศุกร์, 16/9/2559 เวลา : 12:02  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78222

คำตอบที่ 105
       -โลกใบนี้...คนฐานะดี มีทั้งคนดีจริงและเลวจริง ปนกันในสังคมเดียวกัน(ด้วย)....พระเจ้าจึงเป็นผู้ผิด ที่ให้(ตังค์) ใช้ทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าจนสักฝ่ายหนึ่ง ปัญหารังแกกันหรือถ่วง หรือขัดแย้งจะหมดไปทันทีครับ..

-ดังนั้นก่อนที่จะรอให้พระเจ้าช่วยหรือเข้าข้าง...ควรพยายามที่สุดก่อน เกาะเรื่องสมการที่มีผลคงที่จริง อย่าไปยึดสิ่งที่เหลวไปไหลมา ไม่ว่าจะดูขลังระดับไหนในวันนี้ก็ตาม เพราะพรุ่งนี้ผลจะเปลี่ยนตามหมวดเหลวไหลสมชื่อได้.. ดังนั้นเชื่อในสิ่งที่ถูกพิสูจน์ผลแล้ว และพิจารณากับตัวเรา(คือผมหรือท่าน)ว่าใช้ได้ แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ชนชาติที่คิดค้นวิธีไว้เอง....ด้วยว่า..เรื่องที่ตามได้ทั้งหมดถูกทิ้งไว้เป็นสมบัติของโลก และไม่มีใครสามารถทำได้ครบทุกเรื่องในชั่วชีวิตหนึ่ง...เลือกเรียนรู้ไว้ใช้งานได้แค่บางส่วนเท่านั้น...ภาระกิจหรือกิจกรรมหรืออุดมการณ์นั้นอาจต้องส่งมอบให้ผู้อื่นทำต่อในเวลาของเขาต่อไปด้วย เช่นมอบให้ลูกหลาน/เพื่อน/วงการนั้น..เป็นเส้นทางที่อาจไม่มีวันจบด้วยครับ...

-ดังนั้นการเห็นแก่ตัวในตอนนี้เพื่อหวังสร้างฐานะ ก็อาจรวยได้ ส่งมอบความรวยให้ผู้สืบทอด อาจเหมือนยื่นนรก/สวรรค์ หมายถึงจะเสียใจได้ เพราะเป็นผลต่อไปไม่เคยคงที่ ...ผลงาน(หาเงิน)ที่ทำไว้ จะกลับมาแก้ไขไม่ได้อีก แต่การกระทำเพื่อเป็นผลนั้น จะทำให้หัวเราะหรือประนามตามหลังได้เสมอในประวัติศาสตร์มนุษย์....อยากให้คิดตามเพื่อเข้าใจคุณค่าที่ควรเป็นเป้าหมายชีวิต...เพราะต้องเริ่มทิ้ง "ใครๆก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น"...เพื่อให้เริ่มต้นใหม่ได้ อุดมการณ์ที่คงกระพันเสมอคือ "เกียรตืยศ ไม่ได้มีไว้ขาย"....ขอบคุณครับ

 แก้ไขเมื่อ : 17/9/2559 6:51:58



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 ศุกร์, 16/9/2559 เวลา : 19:21  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78223

คำตอบที่ 106
       -หลอกง่าย / หูเบา เป็นโรคระบาดในไทย ต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มเพิ่มความสำตัญเข้าไปในปัจจัยจำเป็น...หมายถึงเมื่อมี"รสนิยม"เพิ่มแล้ว ..เพราะเป็นเหตุผลส่วนที่เกิดความรู้สึกดี ไม่ใช่การเลือกใช้งานทั่วไป เช่น "ดีด้วย ถูกด้วย สวยต่างหาก" ดีด้วยคือคุณสมบัติประจำตัว.. ถูกด้วยเป็นวิธีหามาใช้.. สวยอีกต่างหากเป็ความพอใจแบบ+ ที่มีผลไม่คงที่ แสดงระดับไว้ให้รู้เท่านั้น เช่นไม่สวย แต่ใช้ดีและทน ก็แทนที่ได้ เป็นต้นครับ...

-นานแล้ว ในแวดล้อมรถมอเตอร์ไซค์ แบบ 2 จังหวะ "ท่อสูตร" เป็นเรื่องนิยมระดับระบาดอย่างหนึ่งเปลี่ยนใส่กันเยอะมาก วิธีกำหนดขนาดและรูปร่าง ต่างร้าน /ต่างคุย.. เรื่อยและเปื่อยในที่สุด หมายถึงสุดท้ายก็หายไปจากวงการ(แล้ว) ไม่มีเหลือเป็นพิมพ์สักร้าน(ท่อไอเสียดัง)/สูตรที่อ้าง....

-นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้(ในตอนนี้)ว่า คนไทยนอกจากหูเบา ยัง(ขี้)ลืมอีกต่างหากด้วย.....ครับ....

-----------------------

-อีกมายมายในผลเดียวกัน..อาจเรียกเป็นเกณฑ์นิสัย "ไม่รู้จักจำ/เบื่อ"...เรื่องผ่านไปก็เงียบ แต่ถ้าเป็นการทอนเงินผิด...ทวง...คือข้อสังเกตทิศทางนิสัยไทยครับ

 แก้ไขเมื่อ : 18/9/2559 6:23:08





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 เสาร์, 17/9/2559 เวลา : 07:19  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78224

คำตอบที่ 107
      
-ไทยมีห่วงโซ่รายได้บนสุดจากดิน คือผลทางการเกษตร และทะเล คือการประมง....คำว่าบนสุด ไม่ใช่ดีที่สุด แต่หมายถึงเม็ดเงินแรกเกิดจากแถวนั้นเรียก(ตามฝรั่ง)ว่าบนสุดของห่วงโซ่รายได้...แสลงให้เศร้าหน่อยคือดิน เพื่อให้ทราบว่า "ใช้แรงงานและผลก็ราคาถูก"....ส่วน G7 เจ้าแห่งสินค้านำเข้าชั้นนำทั้งหลาย เขาขายเทคโนโลยี หรือนวรรตกรรม ซึ่งราคาแพง....หมายถึงของถูกจำนวนมากแลกกับของแพงได้หน่อยเดียวครับ....

-ฝรั่งเขาใช้คำว่า fever เป็นความหมายกำกับคำเพื่อแสดงระดับอาการ ใช้ crazy ก็แนวเดียวกัน ไม่รู้อันไหนหมายถึงหนักว่ากันราวๆ "บ้า /คลั่ง" ในภาษาไทย โดยผมนิยามเล่นเองครับ...

-ผมอยากขอเตือนชาวไทยว่า เรา(คือผมหรือทาน) ไม่มีสิทธิ์ใช้คำแสลงของฝรั่งแบบนั้นต่อสินค้าของเขาในไทย เหตุผลคือเรา(คือผมหรือท่าน) ไม่ใช้ฝรั่ง จะใช้ได้ต้องเหลียวซ้ายขวาให้ดีก่อน...ถ้าต้นตำรับเขาอยู่ ได้ยิน เขาอาจลงโทษเรา... ด้วยการขึ้นราคาสินค้าตัวนั้นอีก ...ก็ต้องเพิ่ม speed หาเงินตามห่วงโซ่(ของใครๆก็คือของมัน) มือจะใหญ่กว่าปากที่เปล่งวาจาออกไปไม่กี่คำ เพราะของถูกแลกของแพงเป็นกติกาอยู่แล้ว...

-สิ่งที่ควรเข้าใจคือ "จ่ายอย่างไม่เต็มใจ ใช้อย่างรู้ค่า" คือความเหมาะสมกับไทยในตอนนี้ ใครเห็น ไม่ชมก็ต้องสงสารครับ...

-คนไทยจ้องเปลี่ยนเลียนแบบเขา ถ้าคิดว่า"เดินตาม" ก็คือถูก แต่ถ้าคิดว่า"ทำตาม" ความหมายจะต่างกันมากในบางองศามองครับ

-ตัวอย่างเปรียบเช่นเรื่องการเลี้ยงเต่าทะเล "เดินตามคิวบา" หรือ"ทำตามอเมริกาสั่ง"...คิดผลต่อในใจนะครับ..

-สิ่งที่ต้องการบอกในคต.นี้คือ อยากให้ทุกท่านที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว ปรับวิธีคิดที่เคยถูก(สอน)นำมาก่อนหน้านี้ใหม่ เพื่อตัวท่านเองจะดูมีปัญามากว่าเดิมในสายตาพวก G7....ซึ่งจะมีแต่ผลดี อย่างน้อย ที่เคย(อม)เทคโนโลยีไว้ ปล่อยให้ช้ากว่าที่อื่น อาจเร็วเท่าทันที่อื่นบ้างครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 เสาร์, 17/9/2559 เวลา : 19:26  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78229

คำตอบที่ 108
      
-เพลงไทยในอดีต..."สตรีที่โลกลืม" ถ้าบอกชื่อนักร้อง จะหาว่าเชยได้ในสมัยนี้ครับ...

-ผมเพียงยกมาเพื่อตั้งคำใหม่ไปเทียบ..."บุรุษที่สมควรลืม"...อยากอธิบายความหมายที่เคยเข้าใจผิดกันไปล่วงหน้า...เรื่องหนึ่งครับ...

-คือมีชายไทยที่ชื่นชอบรถญี่ปุ่นเกรดสูง ได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของรถรุ่นที่สนใจ อย่างละเอียดย้อนหลังไปตั้งแต่กำเนิด...และประสงค์ที่จะเผยแพร่ประวัติของรถนั้น ต่อผู้อื่นที่สนใจ...ฟังดูก็ถูกต้องนะครับ...

-แต่ผมเขียนในคต.ก่อนไว้ว่า คำบางคำไทยไม่สมควรใช้ในที่แจ้ง เดี๋ยวเขารู้ อ่านออก..ว่าร้องไห้งอแง แต่พ่อแม่รัก...จะกอดอกส่ายหัว..ราคาไปกันใหญ่เลยครับ...

-ผมมีวิธีอธิบายในการมององศาอื่นด้วยครับ...

-คือผู้ที่นำประวัติรถยนต์ญี่ปุ่น มาเรียบเรียง แล้วตั้งคุณค่าเป็น "มหากาพย์" เพื่อเรียกความสนใจ เจตนาไม่ใช่ต้องการให้ผู้อื่นรู้จักประวัติรถรุ่นนั้นเท่านั้น แต่เป็นการเรียกให้ผู้อื่นมารู้จักตัวเขาเองด้วย...นั่นคือสิ่งที่ไม่ได้ระวัง เป็นความมักง่ายอย่างหนึ่ง เป็นตัวอย่างให้คนอื่นที่มองหาช่องทางดัง ทำตามบ้างได้ ในนอกระบบฟอร์ม เปรียบง่ายๆคือเหมือนนิทานในรูปแบบรายงาน เพี้ยนก็เอาผิดไม่ได้...เพราะเป็นนิทาน...

-ผลอาจไม่ใช่เจตนาแบบนั้น แต่การพิจารณาผล ใช้กับผู้มีปัญญา เพราะไม่ใช่นิทานก่อนนอนให้แค่เพลินๆ....จึงขอหักล้างไว้ ณ ที่นี้ หวังว่าอาจหยุดผู้ที่สนใจ copy รูปแบบการเดินอย่างนี้ได้บ้าง...อย่าทำตามนะครับ...เพราะหากอยากแก้ไขเรื่องเมื่อโตเป็นหนุ่ม หรือตอนแก่เจียนไป ด้วยสำนึก...จะเหมือนปุยนุ่นที่ฟุ้งกระจายไปแล้ว เก็บกลับมาไม่ได้ จะเกิดภาระใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าให้คนรุ่นต่อไปเก็บกวาดในเวลาข้างหน้าครับ...



-"ข้าพเจ้าพร่ำเอ่ยชื่อ 'แลนด์ครุยเซอร์'อย่างไม่รู้เบื่อ...เงียบๆในหัวใจตามลำพัง ..คิดว่าคงมีเศษส่วน 'หนึ่งในพัน' เล็ดลอดออกจากใจสู่ภายนอก ..ก้องกังวาลในโลกกว้างอย่างบ้าคลั่ง...และแล้ว..จนโตโยต้ารับทราบ...แล้วมอบความสังเวชกลับมา..".....ขอบคุณครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 เสาร์, 17/9/2559 เวลา : 21:06  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78230

คำตอบที่ 109
       -ในคต.ก่อน ผมเขียนถึงเรื่องผมใช้รถ106 และพอใจ...ซึ่งอยากบอกว่า ก็คิดไม่เหมือนคนอื่นครับ...

-ผมใช้รถ106 แบบ 4ป.ท้ายบรรทุก เป็นรถรุ่นหนึ่งที่คนไทยนิยม....ยังมีคนอยากได้เป็นเจ้าของบ้าง แต่เนื่องจากรถรุ่นนี้ทำงานตรากตรำในยุคก่อน สภาพที่คงเหลือ มีส่วนน้อยที่ยังสภาพดีทัดเทียมความนิยม...จึงมีหลายคนอยากได้ รถ106ใหม่ เพื่อเริ่มใช้ตามวิธีของเขา...อาจจะเ เพราะโตโยต้า นำรถแลนด์ครุยเซอร์กระบะรหัส7 มาสร้างซ้ำขายอีกรอบ แต่ไม่มีขายในไทยครับ....

-ความต้องการทัดเทียม แต่โอกาสไม่เท่าต่างป.เขา คือความจริง ที่คนไทยไม่พูดถึงให้เข้าใจ...รู้กันแต่ว่าไม่มีตัวนี้ในไทย ที่มีบ้างคือวิ่งอ้อมภูเขามาและไม่ใช่รถใหม่ เป็นความพยายามมีในพื้นที่ไม่มีสิทธิ์ซื้อใช้ ซึ่งทำให้เห็นได้ว่า คนไทยชอบเล่นรถยนต์อย่างมากระดับโลกครับ

- รถ106ที่หลายคนอยากได้แบบรถใหม่ คงไม่มีแน่นอน เพราะสเปคต่ำกว่ารถแลนด์ครุยเซอร์มาก หมายถึงคุณสมบัติของเครื่องมือน้อยเกินไปแล้วสำหรับปัจจุบัน...

-รถ106ในไทย ที่นิยมและชอบต่อเนื่องมา เป็นภาพจริง ซึ่งมาจากผลรวมหลายข้อ เมื่อนำไปเทียบกับรถอื่นในปัจจุบัน ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ดี....ซึ่งข้อย่อยก็จริงบ้าง (พูด)เกินจริงบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงครับ...

-รถ106ไม่ใช่รถใช้ดีสำหรับผม เพราะเก่าและล้าสมัย สะดวกสบายน้อยกว่ารถใหม่มาก...แต่มีข้อดีอื่นๆ มาชดเชยจนเกิดน้ำหนักเท่ารถที่ดีกว่านี้...เป็นเส้นทางที่คนไทยผู้ใช้งานรถรุ่นนี้ทำผลทิ้งไว้ครับ...

-หมายถึงภาพรวมที่ดีในตอนนี้ ผมคิดว่าเกิดจากคนที่ใช้ก่อนหน้านี้ทำเส้นทางไว้ดีครับ...

-รถ106 ยังดีพอในแบบแบบเครื่องมือที่ใช้งานได้ด้วย ไม่ใช่ดีเป่าลมล้วนๆ เหมือนรถสะสมบางรุ่น หมายถึงส่วนที่ทำผลไว้ดี ไทยก็มีในรถรุ่นนี้เหมือนกันครับ..

-เนื่องจากช่วงนี้เป็นขาลงของออฟโรด อาจมีโอกาสเจอรถดีและไม่แพงไม่เหมือนเวลา HOT ซึ่งเอื้อไปในทางแพงและเป็นทางออกของรถสภาพไม่ดีด้วย...ชี้เป็นข้อสังเกตสำหรับผู้ที่มั่นใจกับรถประเภทนี้จริงจัง...แต่ไม่ใช่คำแนะนำ เพราะดีในภาพรวม หมายถึงรวมเรื่องสะสมและดูดีในความเป็นเครื่องมือๆดีเท่าเทคโนโลยีที่มีใส่ไว้พร้อม ในรถรุ่นใหม่...หากเยบแบบหันมองซ้ายขวา หรือเทียบห่างๆยังพอตามกันไปได้ แต่ถ้ามาจอดเทียบ ในโรงเก็บในฐานะ"เครื่องมือ"ด้วยกัน ผมคิดเองว่า สู้ไม่ได้หรอกครับ.....

 แก้ไขเมื่อ : 18/9/2559 11:30:27





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 18/9/2559 เวลา : 07:34  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78231

คำตอบที่ 110
       -BUGATTI VEYRON มีสปอยเลอร์หลังที่ทำงานอัตโนมัติ ความเร็ว 200กม./ชม. ขึ้นไป

-ของทุกสิ่งในโลกนี้ มีข้อดี/เสีย เสมอ เพียงแต่ในการนำมาใช้ เลือกให้อยู่ในผลดีมากว่าผลเสีย คือหลักคิดอย่างหนึ่งครับ...

-ในการขับแบบทั่วไป หรือเส้นทางแบบแรลลี่...หลักใหญ่ในการบังคับรถ จะอยู่ที่ล้อหน้า...ตัวอย่างเช่นรถทั่วไป เข้าทางโค้งเร็วในระดับเริ่มออกอาการเริ่มแหกโค้ง คนขับจะถอนการเร่งเพื่ออยู่ในความเร็วเท่าที่รถไม่เสียหลักๆจับผลที่ล้อหน้า หมายถึงจะไม่หลุดถนนถ้าล้อหน้ายังอยู่ในเลนวิ่ง...

-รถแรลลี่ใช้วิธีขับหลายอย่าง เพื่อให้ได้ความเร็วสูงในทางโค้ง..รถแบบนี้รักษาเวลาเฉลี่ยวิ่งตลอดทาง ก็เตรียมรถให้พร้อมต่อสภาพถนน ใช้กำลังสูงตลอดเวลา แต่ไม่ใช้ความเร็วสูงสุด หลุมและทางโค้งคือบททดสอบคนขับที่บังคับรถได้ดีกว่า ซึ่งแม้การขับจะโหดและใช้วิธีวิ่งหลายแบบในทางโค้ง/ทางไม่เรียบ แต่ก็ใช้หลักคือล้อหน้าเป็นหลักบังคับเช่นกันครับ

-ถ้าล้อหน้ายังอยู่ในเลนวิ่ง ไม่ว่าหลังจะส่ายหรือเกินเลนอย่างไร การทำเวลาก็ยังคงอยู่ในการควบคุมได้ครับ

-กลับมาที่รถถนนเรียบบ้านเรา ที่ใส่สปอยเล่อร์หลังชิ้นใหญ่ สิ่งที่ต้องการคือการทรงตัวดีขึ้นในความเร็วสูงในทางตรงครับ

-ถ้าสปอยเล่อร์หลังนั้น สร้างแรงกดทำให้ล้อหลังเกาะถนนดีกว่าล้อหน้า...หมายถึงช่วยกดหลังทรงตัวให้ดีขึ้นในทางตรง หากได้ผลดีที่ล้อหลังในทางโค้งด้วย จะเป็นผลเสียด้วยหรือไม่....อยากขอให้คิดตามด้วยครับ

-----------------------------------------------

-ความหมายของผมคือ รถที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า 150กม./ชม ขอให้มองสปอยเล่อร์หลัง เป็นชิ้นส่วนเสริมความสวยงามที่ติดแล้วมองดีขึ้นหรือไม่ก็พอ อย่าคาดหวังผลดีในการทรงตัว เพราะอาจมี+และ- แถมมาด้วย อย่ายอมเป็นรถแปลก เพียงเพื่อผลที่ไม่ค่อยเข้าใจ และมีโอกาสใช้น้อยมากครับ

 แก้ไขเมื่อ : 19/9/2559 5:31:12





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 18/9/2559 เวลา : 08:11  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78232

คำตอบที่ 111
      
-ในคตที่.109 "หมายถึงภาพรวมที่ดีในตอนนี้ ผมคิดว่าเกิดจากคนที่ใช้ก่อนหน้านี้ทำเส้นทางไว้ดีครับ" ประโยคนั้นหมายถึงรถ106 และอยากขอวางคำอธิบายเพื่อให้เป็นเหตุผลมากกว่าคำเยินยอกันเองครับ...

-ตัวเลขสวย/มงคล/แฝด/หาม/คู่ ฯ หมายถึงความเรื่องมากในไทยเรื่องตัวเลขในรูปแบบต่างๆ เรียกนักเล่นเลขก็อาจใช่ครับ...

-เลข "106" ถ้าคิดลอยๆ ต้องบอกว่าไม่มีเค้าจะเข้าระบบเล่นเลขกับเขาได้เลยครับ....คำถามสำหรับข้อนี้คือ หากท่านมีรถ 106 และได้เลขทะเบียนตรงรุ่น จะพอใจหรือดีใจไหมบ้างไหมครับ.....

-เครื่องยนต์ J ถูกวางเข้าไปแทนที่รหัสอื่นในไทย ด้วยจุดประสงค์หลายแบบ จำนวนมากคือนิยม แต่หากลงไปอยู่ในรถเยอรมัน กลับราคาเสียครับ(ทั้งๆที่แรงกว่าเดิม)..

-รถ 106 เครื่องเดิมๆ 3L ก็น่าสนใจที่เป็นเครื่องติดตัวมาจากโรงงาน รถ106 ที่วาง KZ หรือ QD32เข้าไปแทน3L ทำให้ผู้สนในรถรุ่นนี้ คิดอย่างไรเช่นราคาตกแบบรถเยอรมันเปลี่ยนเครื่องเปล่า...ตอบในใจไว้ด้วยนะครับ

-รถมือสอง ถ้าเป็นรถกึ่งสะสม เดิมๆมีค่าสูงสุด คงใช่นะครับ....ถ้าท่านเห็นรถ106 มีวัดรอบเครื่องยนต์ /มีเบาะแยก L/R มีกาบเสาA มีมือโหนด้วย/ มีแลนด์มิเตอร์ /มีกระจกมองมุม /มีกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า/กระปุกพวงมาลัยเพาเวอร์/โคมไฟหน้าแบบเปลี่ยนหลอดได้/เพลากลางเปลี่ยนเป็นท่อนเดียว...ฯ(อีกหลายรายการ) ซึ่งไม่เดิม...ท่านรู้สึกว่าแย่ลงเปล่า...ตอบในใจไว้ก่อนครับ

-ระบบเลี้ยวของรถ106เดิมเป็นแบบชาวบ้านเรียก(มือลิง) มีบางคัน(ที่ยกสูงและเพิ่มขนาดล้อใหญ่กว่าเดิม)เปลี่ยนเป็นแบบกวาดหน้า ...เปลี่ยนตำแหน่งคันชักขึ้นไปอยู่บน...ดัดแปลงอย่างนี้ ท่านคิดค้านเปล่าตอบในใจเหมือนเดิม...

-ท่านเห็นรถ106 แบบ 4ป.ท้ายบรรทุก แบบหัวนอก รู้ได้เลยว่า(ส่วนมาก)คือรถตอนเดียวเปลี่ยนหัว/เปลี่ยนหมวดทะเบียน ซึ่งต้องแก้ไขเต้ารับบอดี้ด้วย ท่านคิดอย่างไรอีกครั้งครับ...

-เวลาท่านเห็นรถ106 แต่งตัวเช่นล้อใหญ่ /กันชนเหล็กมีวิ๊นซ์ กันชนหลัง อาจมีที่ลากเรือด้วย ใส่บาร์ที่กระบะ ใส่บันไดข้าง เปลี่ยนฝากระบะหลังเป็นรุ่นอื่น(มือเปิดกลาง) บางคันดัดแปลงมากโดยเลื่อนรอกแขวนล้ออะไหล่ เพื่อแขวนล้อได้โตถึง 35 นิ้ว...ทำให้รู้สึกอย่างไร

-ยังมีอีก แต่ผมนึกได้เท่านี้ก่อน....ทั้งหมดคือไม่เดิมดัดแปลงเยอะ ...

-ทุกข้อที่แจ้งคือการแหกกฏ ซึ่ง"รุ่ง"หรือ"ล่วง" อยู่ที่ความต้องการของตลาดแสดงผลครับ...

- ผมเพียงแต่ชี้ว่า นี่คือผลงานการใช้รถ106 ของคนรุ่นก่อน สร้างทางมา ซึ่งแหกกฏป.ไทยหลายข้อ...และมีคนยอมรับด้วยครับ

-เดิมๆจริงๆ ก็ยังมีคนเล่น ก็ยังทรงคุณค่าแน่นอนตามหลักการเดิม แต่การที่การดัดแปลงมากถูกยอมรับ ไม่ใช่ความสำเร็จปกติหรอกครับ..

-นี่คือเหตุผลของผมว่ารถ106ดีในภาพรวม ซึ่งพิเศษกว่ารถอื่น และผมชอบด้วยครับ..





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 จันทร์, 19/9/2559 เวลา : 17:49  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78233

คำตอบที่ 112
      
-ขออนุญาตเขียนเรื่องภาษาไทย ฝากไว้เพื่อระวังการป่วยของสิ่งดี อยากให้เข้าใจว่ามีค่าในสากล ระดับเดียวกับมวยไทยได้เหมือนกัน...แต่มวยไทย ไม่มีตกต่ำ ถ้าตราบใดยังมีรางวัลซึ่งเป็นทั้งเงิน และเกียรติ คือชื่อเสียงด้วย...

-นักกีฬามวยไทยรุ่นก่อน ที่ถูกบันทึกการชกไว้(แบบคุณภาพดีมีผลมาก) ถือว่าโชคดีที่ได้รับเกียรติย้อนหลังในตอนนี้ ผมคงไม่ต้องอธิบาย มองภาพนักมวยไทยสมราคากว่าในอดีตเยอะครับ....

-แต่ภาษาไม่ได้ถูกนักกีฬาใช้เป็นอาวุธเหมือนมวย แต่กลับอยู่ในแวดล้อมต่างกันมาก จึงถูกรังแกหรือ(แกล้ง)ใช้แบบผิดๆ และเผยแพร่ผลแบบจุดเด่นอีกต่างหาก ถ้านำมาเปรียบเทียบในบันทึกหรือรายงานผล จะพบว่าอาการไม่ดีเลยครับ...

-เมื่อคนไทยต้องการชื่อไทยเป็นภาษาอังกฤษ เช่น Pong....ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน อ่านออกเสียงเป็น ป๋อง//ปอง/ป่อง/พงศ์/ และคงครอบคุมอีกหลายคำ ถ้าไม่มีการอธิบาย ก็จะไม่รู้ชื่อ(จริง) ตามตัวสะกดได้ครับ...

-เปลี่ยนเป็นฝรั่งต้องการให้เขียนชื่อเขาในเรื่องราวภาษาไทยสมมุติเขาชื่อ...Michael....ไมเคิ้ล(ผมใส่ไม้โท เพื่อให้ได้เสียงใกล้โดยไม่ต้องทำความเข้าใจแบบท้องถิ่นใช้กัน) แต่ในบางประเทศ อ่านคำนี้...มิคาเอล (กอบอชอฟ เป็นต้น) จะตามเสียงไทยเป็นมิคาเอว ก็ได้ครับ...

-คงเห็นตัวอย่างความเก่งของภาษาไทยนะครับ ...ในเรื่องสำนวนก็ตามได้ดีเช่นกัน สำหรับผมเองจึงใช้อย่างระวังเหมือนดื่มน้ำด้วยแก้วใสมองเห็นความสะอาดด้วย หมายถึงเข้าใจว่าภาษาไทยคือเครื่องมือที่ดี ...ดังนั้นอย่าทิ้งรอยนิ้วมือสกปรกไว้ที่แก้วให้คนใช้รุ่นต่อไป มองความใสสะอาดของน้ำดื่มแล้วไม่แน่ใจ...หมายถึงแปลบทความและสำนวนได้ลังเล เพราะมีจุดหักล้างกันเอง ซึ่งไม่เหมาะสมเป็นภาษาวิชาการหรือตำราสากล อย่างภาษาอังกฤษ ซึ่งก็มีข้อบกพร่อง แต่อยู่ในมือผู้เจริญ เปรียบเหมือนคนรวยทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด(ไม่มีใครกล้าจับผิดนั่นเอง) และเดาตามไม่ทันถือว่าโง่เองด้วย....

-สักวันจะมีคนไทยเก่ง นำเครื่องมือนี้ไปซ่อม...เพียงแต่ไม่ใช่วันนี้...ดังนั้นผู้ที่เข้าใจและห่วงเครื่องมือที่ป่วยนี้ ควรใช้อย่างระวังด้วยครับ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 จันทร์, 19/9/2559 เวลา : 20:53  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78234

คำตอบที่ 113
      
-ในสารคดีของอังกฤษ เรื่องต้นโอ๊ค..เป็นการบอกเล่าความสำคัญของต้นไม้ชนิดนี้ ในเชิงวิทยาศาสตร์ หมายถึงเป็นข้อมูลหรือสมการของพืชตระกูลนี้ เป็นสมบัติของโลก ไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัว...เขาใช้ศัพธ์ "ต้นโอ๊คของเรา" ตลอดในการนำเสนอเนื้อหาที่มีสาระ เป็นการค้นคว้าของเขา ต้นไม้ก็ในประเทศเขา ...ใช้คำว่า "เรา" ในสารคดีที่เปิดเผยไปทั่วโลกครับ...

-ผมเพียงอยากชี้ความหมายที่ไม่ส่วนตัว หรือเป็นสมบัติของโลกร่วมกัน ซึ่งรวมถึงเต่าทะเลในไทยด้วยครับ...

-และอีกมากมายที่เป็นสมบัติของโลก เช่นห้วยขาแข้ง ก็ถูกขึ้นบ/ชให้เป็นมรดกโลก เพื่อใช้กฏคุ้มครองสากลเข้าไปรักษาพื้นที่นั้น เป็นต้น

-ดังนั้น...การคิดว่าอะไรที่ทำเป็นส่วนตัว โดยถือว่าอย่ามายุ่ง คงเป็นการขืนความร่วมมือ โดยปกติ หากมีสัตว์ป่าออกมาทำร้ายคนในเขตเมือง การล่าจะเริ่มขึ้น เป็นหรือตายกำหนดไม่ได้ว่าทำได้เช่นไร แต่เป้าหมายคือต้องไม่เป็นอันตรายต่อคนก่อน....คนทุกชาติด้วยครับ...

-นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับโลกในปัจจุบัน...ผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือ จะต้องถูกแก้ไข ในวิธีที่ยังกำหนดไม่ได้ ผลเพื่อคนส่วนรวมในโลกเป็นหลัก..ดังนั้น การเที่ยวป่าของออฟโรดไทย หากฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของรัฐบาลกำหนด เช่นล้อ ไม่เกิน 33นิ้ว....ก็คือการละเมิดระดับสากล...ซึ่งหมายถึงทุกคนในไทยต้องรับผลด้วยกันครับ....

-สิ่งหนึ่งที่เป็นลักษณะของผู้นำ คือความเสียสละ...เริ่มตั้งแต่หัวหน้าครอบครัว ขึ้นไปถึงผู้นำประเทศ...ถ้าทำตามใจในทุกระดับ คงไม่ใช่สัตว์สังคมที่เรียกว่า "มนุษย์" ครับ..

-ถึงเวลาที่ต้องให้ความร่วมมือต่อโลก ...เหตุผลคือ มองเห็นกันในอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา และทุกพื้นที่ด้วยครับ

-ช่วยกันนะครับ แลกกับความสุขสบายที่มีในตอนนี้ อย่าให้ต้องจากไป เหมือนที่คิวบาได้รับมาหลายสิบปี...ข้อดีซึ่งมีอยู่บ้าง ไม่ใช่เรื่องที่คำนวณไว้ก่อนของคิวบา แต่เป็นผลข้างเคียงของการเปลี่ยนแปลง ย้อนขึ้นไปก่อนเป็นคอมมูนิสต์ คิวบาคือประเทศสำราญ ที่มีปาร์ตี้ทุกคืน ของคนทั่วโลกที่ไปทำธุระกิจที่นั่นสร้างแวดล้อมไว้บริการตนเอง และที่สุดก็พัง....ขอบคุณครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 20/9/2559 เวลา : 07:40  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78235

คำตอบที่ 114
      
-คนไทยโผไปโผมา...เหมือนบ้าจี้ และเหมือนตัวตลกในสายจากนอกประเทศ โดยเฉพาะพวก G7 ผู้เป็นเจ้าของสินค้าที่ขายให้คนไทยมีผลแสดงอาการอย่างนั้นครับ...

-ตัวอย่างคือ ...เครื่องอีซุซุในบอดี้รหัส KB ซึ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นระบบไดเร็ก และเพิ่มความจุ/แรงม้า...ฮิตกันหนัก..ชูมือเชียร์ เป็นตำแหน่งให้คนที่ลังเลตามด้วย...ให้เหตุผลก็ไม่มีผล เพราะไม่เชื่อในเหตุผล...ทุกอย่างเปลี่ยนไป ด้วยเหตุผลจริงมาลบล้างเอง เมื่ออีซุซุ เปลี่ยนเครื่องรุ่นใหม่มาแทนที่ ซึ่งมีคุณสมบัติค้านกับเครื่องรุ่นเก่า เช่นเสียงดังมาก/แรงน้อย/มลพิษสูง(มาก)หรือควันดำและไอเสียเหม็นมาก.....

-ตัวอย่างที่สองคือรถไทเกอร์...ในราว 5ปีขึ้นไปก่อนหน้านี้ รถไทเกอร์ 4WD แบบปีกนก หลายคันอยากได้รถ106 ซึ่งเป็นรุ่นเก่ากว่า....หมายถึงตอนนั้นก็ชูมือให้รถ106 เกินปกติ...ตั้งแต่กฏระเบียบขนาดล้อเข้าป่าถูกประกาศออกมา เรื่องก็กลายเป็นกลับกันครับ

-ตอนนี้ไทเกอร์ปีกนก อยู่ในความนิยมสูง(ขึ้นกว่าเดิมอีก) เพราะมีช่องให้เลือกได้ ว่าจะก้าวไปเป็นแบบไหน...คนใช้106 ก็ยังอยากได้ไทเกอร์ อย่างน้อยก็เพราะสภาพที่ดีกว่าซึ่งหาได้ยากในรถ106.....

-ผมก็ดีใจที่ไทเกอร์นิยม เพราะจะมีคนจำนวนหนึ่ง มั่นใจใช้รถรุ่นนี้ต่อ อย่างพอใจด้วย ทั้งๆที่สู้รถรุ่นใหม่ไม่ได้ แบบเดียวกับรถ106(ในการเป็นเครื่องมือแบบเปรียบเทียบ)

-ย้อนกลับมาที่ "ความอยากได้รถ106" ก่อนหน้านี้ หายไปไหน...หมายถึง การโผไปโผมานั่นเอง...

-ขอให้เริ่มคิดว่าเหมือนคนบ้าจี้ และมีปัญหาทางปัญญาเพราะใช้เหตุผลด้วยไม่ได้ผล...แต่ก็จะกลับมาเองในที่สุด(แบบขี้ลืม) ถ้าไม่มีการชูมือเชียร์ ทุกสิ่งก็ดำเนินไปแบบเรียบๆตามเหตุการณ์นั้น แต่เมื่อเกิดแรงหนุน/เชียร์ จะเหมือนรถเมล์สมัยก่อน ที่วิ่งตัวเปล่าเอียงขวา เพราะเสริมแหนบซ้ายเผื่อไว้ พอคนโหนมากก็กลายเป็นเอียงซ้ายเอง...เป็นภาพที่ไม่มีอีกแล้ว...หมายถึงการทำอย่างนั้นทั้งเสริมแหนบ และบรรทุกจนต้องโหน ไม่ใช่ภาพจริง เป็นเพียงทางผ่าน ที่ยังมีผลไม่เหมาะสม หรือเป็นการแก้ปัญหาของเวลาเท่านั้นครับ...

-เรื่องรถเมล์สมัยก่อนเอียงซ้าย/เอียงขวา... เป็นความจำเป็น...แต่การชูมือเชียร์และสร้างค่าเกินจริง เช่น "เป็นสาวก" ไม่ใช่เรื่องจำเป็นต้องทำ เป็นมุขที่มีผลเสียในภาพรวมของไทย..เพราะ G7 เขาสบายใจที่ลูกค้าเป็นแบบนั้นครับ...

-แก้ไขกันดีกว่า... ไม่ต้องยินดียินร้ายกับสินค้าที่แพงและยังไม่รู้ว่าอมเทคโนโลยีเปล่าด้วย ปล่อยให้เรียบเหมือนผิวน้ำที่ไม่มีคลื่น อย่าเป่าลมปากแทนลมธรรมชาติ คือสิ่งที่อยากเสนอความเห็นไว้ เพื่อขอให้คิดตามครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พุธ, 21/9/2559 เวลา : 08:32  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78238

คำตอบที่ 115
      
-ขออนุญาตอธิบายภาพในคต.ที่113 ในแบบความเห็นของผม...ทิ้งให้คิดเองก็กังวลว่าจะมองเป็นความบันเทิง ซึ่งคุณค่าต่ำเกินไปครับ...

-ภาพน้ำท่วมปี 2554 ใครที่ผ่านเหตุการณ์แบบในรูป คงเข้าใจดีว่า "ลำบากมาก" และก็มีคุณค่าในเชิงบทเรียนอย่างมากเช่นกันครับ...

-ในภาพนั้น ผิดปกติเกือบทุกอย่างครับ...น้ำท่วมระดับนั้น /บ้านจมน้ำ/ต้นไม้ยืนแช่น้ำ /คนแบกหมา /หมาให้คนแบก....เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกมากมายจริงๆครับ...

-"ใครเห็น ไม่ชมก็ต้องสงสาร"....อยู่ในคต.ที่107 และขอใช้ซ้ำให้คนแบกหมาด้วยครับ...

-อยากขอชี้นำที่คนและหมา... คนดูเหนื่อย หมาดูไม่เกร็ง หมายถึงความเสียสละ และความไว้วางใจกัน(หมาเหนือกว่าแมวตรงนี้ครับ) อยากอธิบายยาวๆ แต่คงไม่สมควรเพราะการให้ความสำคัญอาจไม่เท่ากัน ขอชี้เป็นแค่หัวข้อ เพื่อให้ท่านคิดต่อเองดีกว่าครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พุธ, 21/9/2559 เวลา : 18:05  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78239

คำตอบที่ 116
      
-ความตั้งใจทำงาน กับรสนิยม ไปด้วยกันเสมอ แต่ไม่ใช่เรื่องเดียวกันครับ....

-เหมือนผลสงครามโลกครั้งที่2 ตอนรบก็คือสู้กัน มองไม่ออก เหมือนหมากัดกัน มองเท่ากันยังไม่รู้ว่าตัวไหนนิสัยดี(จริงหรือไม่ด้วย) แต่พอได้ผลชนะ การวางตัวในฐานะผู้พิชิต จะมาเอง รวมถึงรางวัลและการฉลองด้วย ส่วนนั้นใช้รสนิยมครับ...

-ลาวมีวัฒนธรรมผ้าโบราณ เป็นงานมือระดับสูง คงเปรียบกับผ้าไหมไทยในยุคต่อมา แต่ไหมคือด้ายที่มีค่า หมายถึงเริ่มต้นจากของราคาแพง เมื่อคุณค่าสูงสุดเท่ากัน ความตั้งใจ/พยายามจึงไม่เท่ากันครับ...

-ตัวอย่างที่เรียนรู้เองคือ ตอนทำสายอากาศทิศทางใช้เอง งานระดับ DX มักอยู่ในสถานีหรูหรา ส่วนใหญ่เป็นงานซื้อเครื่องมือจากต่างประเทศ เพื่อหวังผลทำงานระดับสูงครับ..

-การทำสายอากาศแบบทดลองหรือ portabe กับสายอากาศ base มีระดับจุดประสงค์ต่างกัน เช่นหากเรา(คือผมหรือท่าน)นำเศษวัสดุมาทำเป็นสายอากาศซึ่งรับ/ส่งออกคลื่นได้(match) ก็ถือว่าสำเร็จ/สนุก...แต่หากนำเศษวัสดุหรือชนิดไม่เหมาะสม ไปทำสายอากาศทิศทาง โดยมีสภาพเท่าสายอากาศทดลอง คือmatch แต่ไม่แวววาว...เมื่อเสร็จก็คือควาสำเร็จของท่านคนเดียว ไม่ใช่"เรา(ส่วนรวม)" หมายถึงรับ/ส่งได้ แต่ขาดความดูดี/แวววาว ในระดับนี้ จะไม่มีใครยอมรับ นอกจากคนทำใช้เองเท่านั้นครับ...

-นี่คือตัวอย่างของคนไทย คือซื้อสายอากาศนำเข้า หรือจากผู้ผลิตในไทยที่ใช้เครื่องมืออย่างดี ผลงานใกล้เคียงของนอก เพื่อใช้งานในระดับหวังผล แต่เวลาเรียนรู้ ทำแบบเศษวัสดุทดลองทำ ได้เฮนิดหน่อยพอหรือจบ....เป็นนิสัยที่ไม่สมดุลย์ที่ไม่รู้ตัวกันครับ...

- ไมเคิล แองเจโล แกะสลักรูปปั้นเดวิด(ผลงานศิลประดับโลก) ใช้เวลา 17 ปี เป็นงานมือ และไม่ใช่ชิ้นเดียว (เรื่องอยู่ในสารคดี) หมายถึงมีหลายชิ้นงานที่เสร็จหรือเกือบเสร็จ แต่ไมเคิล แองเจโล ไม่พอใจผล เริ่มชิ้นใหม่ จนถึงที่สุด เลือกชิ้นนั้นส่งไปแสดง ที่เหลือคืองานที่ไม่ถูกเลือก เป็นความหมายถึงความตั้งใจระดับสูงมาก....ในไทยไม่มีงานมือ/ความตั้งใจระดับนี้ครับ...

-แต่รสนิยมเลือกซื้อ หรูหราระดับโลกไม่แพ้หรือตามทันยกเว้น Icom IC-275 ซึ่งอยู่ในเขตบังคับควบคุม แล้ว(คุย)ขยายผลกลายพันธ์เป็นเลอเลิศ(โดยคนไทย)

-กลับมาที่งานมือที่ต้องการความแม่นยำและแวววาว คือความยากที่ต้องใช้ความตั้งใจสูง ทำไปคุยไป ไม่ใช่วิธีสร้างที่ได้งานคุณค่าสูง

-และที่สุดเมื่อ(สมมุติ)นำรูปปั้นเดวิด ไปทำแบบพิมพ์หล่อ เพื่อ copy งานชิ้นต่อไปแต่เป็นการหล่อไม่ใช่การแกะ หรือหมายถึงระบบอุตสาหกรรม จะได้ชิ้นงานที่เรียบร้อยกว่างานมือ(ด้วย) แต่คุณค่าเทียบกันไม่ได้ เพราะต่างวิธี...ดังนั้นสายอากาศทิศทางที่ทำกันเองด้วยความตั้งใจสูง อย่างไรผลก็จะมีตำหนิ มากกว่าชุดที่ทำด้วยเครื่องมืออุตสาหกรรม...เรียก"สำเร็จ" หรือ "เสร็จ" อยู่ที่การอ่านของผู้รับรู้ที่ไม่ใช่เจ้าของผลงานครับ

-ทั้งหมดเพื่อบอกว่าไทย ควรเริ่มต้นที่การอ่านผลงานมือ/เครื่องจักร "ให้เข้าใจก่อนใช้เป็นรสนิยม"ครับ.....

- เหมือน chef ที่เข้าใจในรสชาติอาหาร ซึ่งเป็นข้อหลักของรสนิยม(ผลรวม)ในด้านนี้ครับ...

-การข้ามขั้นตอนของคนไทยเช่นรู้ว่าดี แต่อธิบายไม่ได้ว่าดีอย่างไร ตามๆเขามา ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ในการเดินตาม...ตรงนี้คือความสำคัญที่ถูกลืมไปครับ.......





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 22/9/2559 เวลา : 07:12  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78240

คำตอบที่ 117
      
-ขออนุญาตวางข้อความนี้ ไว้ให้ลองคิดดูครับ...

-ผมทราบประวัติประเทศคิวบา อย่างหยาบ ศึกษาเป็นผล/ทิศทาง อย่างหนึ่ง หมายถึงก็ไม่ถึงกับค้นคว้า เรื่องที่นำมาเล่าก็เป็นเรื่องย่อของความจริงทั่วไป เติมมุมมองให้คิดเข้าไป(หน่อย) เพื่อให้เห็นมุมองศาเรื่องเดียวกันครับ...

-ที่แจ้งแล้วคือ คนคิวบาถูกจำกัดความเป็นอยู่มากว่า 40 ปี เทียบกับโลกเสรี ก็คืออยู่ในความลำบาก มีคนเรียกร้อง/หนีออกมา จากสภาพนั้นตลอดมา แล้วถึงปัจจุบัน ก็เกิดโอกาสใหม่ที่รอคอยกันมานาน คืออเมริกาเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกันใหม่ หลังจากหยุดไปนาน หมายถึง คิวบากำลังจะพบความเจริญจากโลกภายนอกครับ....

-คนคิวบาเรียกร้องอยากให้เป็นเช่นนี้ และรอคอยมานาน...แต่พอถึงเวลาจริง ระดับนักวิชาการของคิวบา กลับห่วงการตัดสินใจก้าวตาม เพราะอดทนไม่เจริญมานาน เท่ากับ เก็บ/ฟื้นฟูธรรมชาติ ที่เสียหายเพราะความเจริญในป.อื่นๆ หมายถึงเขารู้ตัวว่าความลำบากของพวกเขาคือการอดออมในองศาหนึ่ง และโลกมองที่ธรรมชาตินั้นอย่างอิจฉาด้วย...ดังนั้นคิวบาต้องคิดวิธีก้าวให้ดี เพื่อให้คุ้มค่าที่สุดครับ....

-ผมอยากชวนให้คิดตามเรื่องผลดีที่ไม่เจริญ เผื่อมาประยุกต์ใช้ในไทยบ้าง แต่การเลิกเสพติด(ความเจริญ) โดยสมัครใจ จะได้ผลน้อยกว่าโดนบังคับ คือผลจริงทัวไป ดังนั้นหากจะเสี่ยงแบบไม่ถูกบังคับ ก็ควรรู้ก่อนว่าเสี่ยง(ลดเสพติดความเจริญ) คนอื่นเขาคิดอย่างไรตรงทางแยกนั้นครับ

-หมายถึงไทยควรดูคิวบาก้าวอย่างไรในต่อไปนี้ เพื่ออาจเป็นทิศทางที่น่าลองทำด้วย เป็นตัวอย่างแบบไม่มีใครบังคับนั่นเอง....ขอบคุณครับ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 22/9/2559 เวลา : 17:44  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78243

คำตอบที่ 118
      
-ผมดูสารคดี BUGATTI VEYRON หลายรอบครับ...

-ดูการใช้เครื่องมือระดับสูง...ดูการนำเสนอเรื่องในรูปแบบสารคดี อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า ทุกวินาที ในสารคดีนี้ เป็นงานระดับมืออาชีพทั้งสิ้น....

-ท่านที่อ่านสิ่งที่ผมคิดในกระทู้นี้...อาจมีผู้ที่คิดว่า ผมใช้ภาษาในการเล่าเรื่องแปลก(กว่า)...ถ้ามีคนอยากค้าน หรืออยากเสริม ก็แทรกยาก(กว่า)...ก็คงจริง แต่นั่นก็คือการระวังอย่างหนึ่งของผมครับ...

-หากเป็นส่วนดีในเรื่องการใช้ภาษา อยากบอกว่าเป็นความพยายาม...การดูสารคดีรถ VEYRON หลายรอบ ก็เพื่อค้นหาจุดที่เลียนแบบได้(บ้าง) เพื่อให้เป็นศาสตร์ด้วยครับ...

-การก้าวที่ดี คือมีเป้าหมาย หรือมีแบบ หรือวิธีก้าว เรื่องเหล่านี้เป็นสมการที่เป็นสมบัติของโลก หยิบดูได้ แต่ความเข้าใจในสิ่งที่เห็นเท่านั้นคือประโยชน์แท้จริง ดังนั้นการตามจึงไม่ใช่ซื้อรถแบบนั้นมาใช้ ซึ่งผมไม่มีเงินพอซื้อรถ BUGATTI VEYRON แต่อาจมีเงินพอซื้อ แท่นจับชิ้นงาน / สว่านแท่นที่มีท่อลมเป่าขี้เหล็ก / โต๊ะประกอบกลไก หรืออื่นที่เห็นแล้วหามาลองครอบครองได้..การมีเครื่องมือในครอบครอง เป็นเรื่องดี อาจดีกว่ามีรถยนต์(ก็คือเครื่องมือ)ด้วย เพราะมีวิธีง่ายกว่ารถยนต์มาก เมีแต่เกรดคุณภาพเพื่อเลือก คำว่ารุ่นใหม่ไม่มีความหมาย นอกจากวิธีใหม่ๆเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ.

-ดังนั้น...หากท่านนำความคิดนี้ พาดกลับไปยังรถที่มีใช้งานอยู่ คือมองความเป็นเครื่องมือเป็นความสำคัญแรกก่อนโฉม การใช้จะยาวนานขึ้นเอง...ใช้คำว่า"คุ้ม" ได้แบบเป็นช่าง(แท้) ไม่ใช่ใช้แบบสาดหรือเห่าให้คนอื่นสังเกต(เหมือนในขณะนี้ทั่วไป) หมายถึงแก้ไขที่ผู้ใช้ๆให้ถูกวิธี ...เป็นเรื่องน่าอายที่นักมวยใช้วิธีว่ายน้ำเป็นเชิง หรือใช้มวยวัดเป็นหลักในการชก....และคำว่า"คุ้ม" ก็คือหนึ่งในหลายๆคำที่ต้องตามไปพัฒนาการใช้ ให้เกิดผลสมเป็นเครื่องมือด้วยครับ......





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 ศุกร์, 23/9/2559 เวลา : 07:42  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78244

คำตอบที่ 119
      
-ในต่างประเทศคำว่า "protect" แปลว่า "ปกป้อง"..เป็นบุคคลิกของ Hero(ไม่ใช่โตโยต้า ฮีโร่) อยากให้ไทยทุกท่านรูจักและเข้าใจคำนี้ใกล้เข้าไปอีกหน่อยครับ....

-ปกป้อง ไม่ใช่การเข้าข้าง...หลายครั้งที่ HERO ปกป้องคนส่วนรวม และคนเลวก็รับผลนั้นด้วย ดังนั้นความหมาย แยกออกจากกันครับ...

-ปกป้อง / เอาตัวรอด เหมือนจะตรงกันข้าม(แต่ไม่ทั้งหมด)...สิ่งที่ต้องการบอกคือ ใครๆก็หัดสร้างแนวทาง HERO ได้ แต่ต้องรู้ตัวก่อนว่า...การปกป้อง ไม่ใช่การเข้าข้าง อาจคล้ายกันในองศาแคบๆเท่านั้น...แต่ความ "เสียสละ" กับ "ปกป้อง" ไปด้วยกันเสมอครับ..

-ผู้ที่ชอบใช้วิธีเข้าข้าง และวางตัวเป็นฮีโร่ จึงเป็นของปลอม ผู้ที่ปกป้อง อย่างเสียสละ...เรื่องตรงกันข้ามที่ถูก "ลักไก่" วางตัวเท่ากัน..เป็นวิธีสร้างจุดเด่นของคนมักง่ายแบบหนึ่งครับ....

-เกียรติเป็นรางวัลของการกระทำดี ..ดูหมิ่น(ให้อาย)คือรางวัลของการกระทำดีปลอม หมายถึง ทำเป็นหวังดี และวางตัวเป็นผู้ช่วยเหลือ ...คุ้นๆ บ้างไหมครับ...

-มหากาพย์รถยนต์ คือตัวอย่างทำนองนั้น เพียงแต่ดูแนบเนียนกว่าปกติทั่วไปอีกหน่อยครับ...

-และทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อหรือสร้าง(ให้ได้)ผลต่อ.......ผู้อ่อนแอ / ผู้โง่เขลา / ผู้ที่ลืมระวัง เป็นต้น...

-นึกตามจะเข้าใจเรื่องโลกที่เต็มไปด้วยการปนเปื้อน เรา(คือผมหรือท่าน) ต้องใช้เวลามากในเรื่องคัดกรองนี้ การย้ายหนีไปหาที่ใหม่ที่มีภัยน้อยกว่า คือทางแก้ไขอย่างหนึ่ง...แต่หากย้ายบ้านหรือย้ายถิ่น ไม่ได้...ก็คงต้องเริ่มใช้วิธี "ระวัง" และ "แก้ไข". ในที่เกิดเหตุนั้นครับ

-การแก้ไขการเอาตัวรอด หรือการหลอกเป็นฮีโร่ เรียกความศรัทธาจากผู้ไม่ฉลาด แก้ไขง่าย เพียงรู้ตัวก่อนว่าแถวนี้เยอะ ความระวังจะมาเอง ส่วนการแก้ไข เช่นตอบโต้หรือกำจัด หรือเขี่ยทิ้ง ก็สุดแล้วแต่ทำได้ โดยมีผลหลายระดับ ตัวอย่างเช่น เขี่ยทิ้งเพื่อเพียงตัวทานเอง ...ตอบโต้..เพื่อให้คนอื่นเห็นสิ่งนี้ด้วย...หรือกำจัด เพื่อหมดห่วงเรื่องมาถึงครอบครัวของท่าน....เป็นการอธิบายเท่านั้นครับ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 เสาร์, 24/9/2559 เวลา : 07:08  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78249

คำตอบที่ 120
      
-ขออนุญาตเล่าเรื่องจริงหนึ่ง ซึ่งเกิดกับผมเอง เพื่อเป็นตัวอย่างคิดตามข้อความในคต.ก่อน ดังนี้ครับ...

-นานมาก...ผมเป็นเพียงวัยรุ่น ได้ไปที่วัดหนึ่ง ก็ไม่ไกลมาก แต่ไม่มีทางรถยนต์ไปถึง ต้องนั่งเรือไปครับ...

-หมู่บ้านนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้(ในตอนนั้น) ไม่มีสถานีตำรวจแถวนั้น บางคน(วางตัวนักเลง)พกอาวุธในที่สาธารณะด้วยครับ...

-มีคำร่ำลือเกี่ยวกับที่นี่ 2 อย่าง หนึ่งคือ ปลากรายขนาดใหญ่หวงไข่หรือลูก ทำร้ายคนเล่นน้ำในคลอง(ติดวัด)...สองคือผีดุ...ระดับเณรสึกหนีไปหลายรุ่นแล้วครับ...

-ผมและเพื่อนหลายคนถูกจัดให้นอนที่(โบสถ์) นอนบนส่วนที่ยกพื้นให้พระนั่งสวด หันหัวนอนไปทางผนัง...ในคืนแรกที่ไปถึงนั้น ผมแปลกที่ จึงนอนไม่หลับ...คนอื่นหลับไปแล้ว... คงราวๆเที่ยงคืน...มีเสียงเคาะผนังตรงที่ผมนอน และก็ตามด้วยเสียงคราง "หือๆ" ผมมองดูเพื่อนไม่มีใครตื่นเลยครับ...

-เสียงเคาะผนัง(ก่ออิฐ) และเสียงคราง มีหลายรอบ..คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร..ผมตัดสินใจ เคาะผนังตอบไป เคาะมา/เคาะไป อยู่หลายรอบ ก็ได้ยินเสียงคนหัวเราะ..และเรื่องก็หมดหรือจบไปครับ....

-อย่าเข้าใจว่าเก่ง ...คือเย็นก่อนนอนวันนั้น ป้าแม่ครัว แอบบอกพวกผมให้ระวังเรื่องผีไว้ก่อนแล้ว ท่านเกรงใจคนมาไกลแต่วัยรุ่นจะเจอแกล้ง บอกว่าฝีมือหลานซึ่งเป็นทีมเด็กวัด...

-ขออธิบายเรื่องนี้ว่า การรู้ตัว(ล่วงหน้า) ทำให้ไม่กลัว การเคาะตอบ เพื่อให้เกมยุติ หมายถึงให้เขารู้ว่าไม่ได้ผล....และทั้งรู้ตัว/ตอบโต้ ก็แก้ปัญหาตรงนั้นได้ครับ........





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 เสาร์, 24/9/2559 เวลา : 07:42  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78250

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 4 จาก >>> 1  2  3  4  5  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,25 เมษายน 2567 (Online 4305 คน)