WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เกร็ดความรู้รถใช้แก๊ส TOYOTA 2.7 vvti 2TR-FE
Auto.
จาก Auto
IP:27.55.203.87

พุธที่ , 15/12/2553
เวลา : 22:21

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด มีบอกกันมานานแล้ว
ผมได้คุยกับแท๊กซี่ส่วนมากเป็นแท๊กซีบุคคล ซึ่งน่าเชื่อถือได้
ข้อควรปฏิบัติสำหรับรถทั่วที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับติดแก๊ส อย่างเช่น Corolla Altis Civic หรืออื่น ๆ

1 รถแบบนี้ไม่ควรใช้แก๊สเพียว ๆ ควรสลับน้ำมันบ้าง
2 ก่อนถึงบ้านสัก 5-10 กิโลเมตรควรเปลี่ยนมาใช้น้ำมันก่อนดับเครื่องครั้งสุดท้ายของการใช้งาน
3 ถ้าวิ่งความเร็วสูงมากกว่า 140 km/h ขึ้นไปรถแบบนี้ไม่ต้องตัดปั๊มติ๊ก และ ควรเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเมื่อความเร็วสูง ถ้าวิ่งทางยาว ๆ จะสลับน้ำมันเป็นครั้งคราว
4 Valve ถ้ามีการสึกหรอสูงเมื่อถึงคราวต้องเปลี่ยนส่วนมากพี่แท๊กซี่เหล่านี้นิยมซื้อของแท้เปลี่ยนที่ศูนย์บริการมากกว่าไปเปลี่ยนจากร้านหรืออู่ภายนอก ราคาต่อตัวผมจำไม่ได้ว่าเขาบอกเท่าไหร่แต่อยู่หลักร้อยต่อ1 ตัว มี 16 ตัว
5 ถ้าทำได้ดังนี้จะยืดอายุการใช้งานและช่วยลดการตั้งวาล์วทุก 4 หมื่นกิโลเมตรลงไปได้

อายุของเครื่องยนต์แท๊กซี่เหล่านี้จะยาวนานกว่าปกติคือสามารถไปได้เกิน 7.5 แสนกิโลเมตร ถ้าระยะปกติที่พังกันในส่วนสหกรณ์แท๊กซี่ 5-7 แสนกิโลเมตร




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 12 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

คำตอบที่ 331
       เรื่องนี้เดี๋ยวมีเกี่ยวโยงต่อ พอดีวันนี้ผมคุยกับท่านนึงที่โทรมาหาผมเพื่อจะซื้อ Hilux 2.7 4x4 cab
เอาเรื่องแรกก่อน

ญาติภรรยาผมคนนึงเขาใช้ปิคอัพ มิตซูบิชิสตราด้า วิ่งส่งของแถวสมุทรปราการใช้ความเร็วต่ำตลอดแต่ก็บรรทุกหนักตลอดเหมือนกัน เขาสู้ค่าน้ำมันดีเซลไม่ไหวจึงตัดสินใจเอารถไปเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นเครื่อง J ติดแก๊ส LPG เสียเงินเพิ่มให้ร้าน 40,000 บาทและต้องยกเครื่องเดิมเกียร์เดิมให้ร้านไปอีก เค้าไม่ได้ฟังคำทัดทานของผมซึ่งบอกว่ามันไม่คุ้มแน่นอนที่พี่จะทำแบบนั้น ตอนนั้นผมให้ 2 ทางเลือกคือเอาดีเซลนั่นแหละไปติดแก๊ส หรือไม่ก็ขายคันนี้แล้วออก Hilux 2.7 เบนซิน ผมไม่อยากเรียกว่าวีโก้ ( เพราะเมืองนอกหลายแห่งเค้าก็ไม่เรียกว่าวีโก้ คำว่า Champ ก็ไม่มี ผมเองก็มักจะไม่ใช้คำว่าวีโก้ในเวป 2.7 เพราะ Hlux 2.7 มันยังต้องทำตลาดภายใต้ชื่อ Hilux อีกนานหลายปี )
ซึ่งเวลานี้เค้ากลับมาบอกเองว่ามันไม่คุ้ม เพราะรถใช้งานมาปีกว่าซ่อมไปแล้ว 40,000 บาท ค่าติดตั้งอีก 40,000 รวม 80,000 บาท สู้เก็บเงินค่าน้ำมันไว้ดีกว่า ตอนนี้สายไฟที่ไวริ่งไว้ก็กรอบมากจากความร้อน สาเหตุที่การเปลี่ยนเครื่อง J แล้วไม่คุ้มเพราะว่ามันคืองานดัดแปลงแก้ไขซึ่งดัดแปลงเยอะ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ J มันเป็นเครื่องสำหรับรถเก๋งขับหลังมันเลยเอามาลงกับปิคอัพได้ แต่เครื่องยนต์รถเก๋งไม่ได้ทนทานหรือเหมาะสมกับการใช้งานสไตล์ปิคอัพ ที่ต้องการแรงบิดและความทนทานในการใช้งานหนักหรือการบรรทุกหนักปัญหาการใช้งานมันจึงออกมาให้เห็น จุกจิกกวนใจเปล่า ๆ เครื่องยนต์เบนซินไม่ได้ทนทานต่อการใช้งานเหมือนกับเครื่อง 2.7 ทุกรุ่น เนื่องจากแต่ละรุ่นมันมีความแตกต่างกันออกไป ไม่งั้นรถอย่าง Jeep cherokee ISUZU Trooper เครื่องและเกียร์ คงทนทานโคตร ๆ ไปนานแล้วล่ะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 27.55.8.85 เสาร์, 27/10/2555 เวลา : 17:35  IP : 27.55.8.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32798

คำตอบที่ 332
       เรื่องที่ 2 พอดีท่านนี้โทรมาเรื่องต้องการซื้อ Hilux 2.7 4x4 cab
ผมถามเค้าว่าจะไปบรรทุกอะไรเขาบอกว่าก็พวกเหล็ก อลูมิเนียมมีความยาวพอควรเหมือนกัน ตอนแรกเขาใช้ Hilux 2.5 ดีเซลคอมมอนเรล แต่สู้ค่าน้ำมันไม่ไหวเอารถไปติดแก๊ส NGV ฉีดร่วม ค่าใช้จ่ายจากเดิมโลล่ะ 2.5-2.8 บาทเหลือประมาณ 2 บาทต้น ๆ แต่มีปัญหาเครื่องไม่นิ่ง


การติดแก๊สดีเซลคอมมอนเรล ผมอธิบายให้ดังนี้
ติดได้ครับไม่ใช่ติดไม่ได้ แต่ติดแล้วจะคุ้มไม่คุ้มน่ะอีกเรื่องนึง วิธีคิด
ไม่คิดเอาเครื่อง 2.5 มาติดน่ะครับ คิดที่เครื่อง 3.0 ดีเซล สำหรับรถปิคอัพเท่านั้น สมมุติตัวเลขกลม ๆ ก่อน จะได้คิดง่ายขึ้น
รถกินน้ำมัน 10 km/l ราคาค่าน้ำมันดีเซล 30 บาท/ ลิตร คิดเป็นค่าใช้จ่าย กิโลเมตรล่ะ 3 บาท ติดแก๊สแบบฉีดร่วม 70:30 การวิ่ง 100 km
อัตราการกินน้ำมันจะเหลือ 7 ลิตร ส่วนแก๊ส NGV จะใช้ไป 3 kg
การใช้น้ำมัน 7 ลิตร x 30 บาท = 210 บาท NGV 3kg. x 10.5 บาท = 32 บาท รวมค่าใช้จ่าย 210+32 = 242 บาทต่อ 100 กิโลเมตร
หรือคิดเป็น 2.42 บาท / กิโลเมตร ประหยัดจากของเดิม 0.58 บาท / กิโลเมตร เราจะเห็นว่าการติดแก๊ส NGV ร่วมกับดีเซลประหยัดขึ้นจริง
แต่ว่าต้องสำหรับคนที่ไม่มีทางออก แทนที่จะเอารถไปเปลี่ยนเครื่อง J ติดแก๊สซึ่งมันไม่คุ้ม หรือไม่ต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ยังต้องใช้คันนี้ดีเซลไปอีกนานมากกกก เพราะว่าความประหยัดที่เกิดขึ้นนั้นกิโลเมตรล่ะ 0.58 บาท กว่าจะคืนทุนค่าติดตั้งคุณต้องใช้งานรถไปอย่างน้อยที่ระยะทาง 180,000 -200,000 กิโลเมตร หลังจากนั้นจึงจะเป็นกำไร ( ค่าติดตั้งอยู่ราว 60,000-80,000 บาท ) ซึงคนจะติดแก๊สต้องใช้งานมากเพียงพอและใช้รถระยะยาวจึงจะคุ้มค่า ที่สำคัญหลังจากติดแก๊สแล้วรถควรวิ่งใช้งานถนอม ๆ ไม่ควรนึกว่าตัวเองเป็นดีเซล 3.0 เกาะติดความแรง ขยี้คันเร่ง พ่วงสารพัดกล่องแบบนี้มันก็ไม่ประหยัดจริงสำหรับการติดตั้งแก๊ส การติดแก๊สดีเซลคอมมอนเรลแบบนี้รถที่เหมาะติดตั้งต้องเป็นเครื่อง 3.0 หรือเครื่องเทอร์โบแปรผันที่กินน้ำมันเยอะ ๆ ไม่ควรเอาเครื่อง 2.5 ที่เน้นข้างประหยัดมาติดแก๊ส และไม่ควรเอา LPG มาติดแก๊สร่วมกับดีเซล เนื่องจากราคา LPG สูงกว่า NGV มาก การติดแก๊สแล้วทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงไม่มากการคืนทุนยิ่งนานออกไปอีก ดีเซลคอมมอนเรลจะถูกฉโลกกับ NGV มากกว่า
อีกอย่างนึงเครื่องยนต์ดีเซลธรรมชาติคือต้องใช้แรงอัดในการจุดระเบิด การผสมฉีดร่วมเกิน 70:30 อาจทำให้เครื่องยนต์ปัญหาได้ ถึงแม้จะประหยัดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเพราะเครื่องจะดีได้ต้องฉีดด้วยน้ำมันที่มากพอซึ่งจะต่างกับการสันดาปของเบนซินที่ใช้ประกายไฟจากหัวเทียนและพลังงานในการใช้

อีกอย่างค่าซ่อมดีเซลจะแพง เครื่องมันจะไม่ทนทานเท่าแบบเดิมผมไม่รู้ว่าฉีดร่วมในดีเซลแบบนี้จะทำให้อายุเครื่องทนทานไปถึงเมื่อไหร่
เราต้องยอมรับกันล่ะว่าดีเซลเวลาซ่อมทีหน้ามืด ค่าอะไหล่จัดว่าแพงเข้าขั้น เมื่อก่อนคนที่บอกว่าดีเซลซ่อมบำรุงถูกกว่าเบนซินไม่ค่อยจุกจิกเท่าเบนซิน ส่วนใหญ่ฟังเขามาจำเขามาพูดทั้งนั้น แต่คิดเองน่ะไม่ถูกแน่ว่าแพงกว่าหรือถูกกว่าอย่างไร ลองถามคุณ ble ble นายตัวยุ่งที่คุณไปซื้อปั๊มน้ำจากเขาก็ได้ ปั๊มน้ำเครื่อง 2.7 ขาย 1300 บาท ปั๊มน้ำดีเซลทำไมขายแพงกว่าเป็น 1400-1500 บาท ทำไมไม่ขายอะไหล่ตัวดีเซลถูกกว่าเบนซินล่ะครับ ถ้าเครื่องดีเซลมันซ่อมถูกกว่าเบนซินน่าจะขายอะไหล่ถูกกว่าซิครับ ฝาสูบเบนซิน 2.7 วันนี้ขาย 3 หมื่นกว่า แล้วฝาสูบดีเซลคอมอนเรลวันนี้ขายเท่าไหร่เอ๋ย ? ต้องมีมากกว่า 4 หมื่นบาทขึ้นไปเพราะดีเซลรุ่นเก่ายังเล่นฝาล่ะ 4หมื่นบาทของใหม่แพงกว่าบาน
เมื่อติดแก๊สแล้วดีเซลยิ่งต้องระวังเรื่องน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องรวมถึงสไตล์การขับขี่ของตัวเองด้วย



ถ้าเป็นดีเซลยุคเก่า swirl chamber 4M40 ใช้แก๊ส LPG ได้
จาก : Auto.(Auto.) 29/10/2555 12:43:55 [202.80.239.130]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 27.55.4.201 เสาร์, 27/10/2555 เวลา : 18:28  IP : 27.55.4.201   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32799

คำตอบที่ 333
       ประสบการณ์รถกินแก๊ส

ผมเปลี่ยนการเติมแก๊สเป็นปั๊มอื่นมาหลายเดือนแล้ว ก่อนหน้านี้จับอัตราสิ้นเปลืองบ้างไม่จับบ้างแต่รู้สึกกินแก๊สเพิ่มขึ้น ปั๊มเดิม ๆ ที่เคยเติมตอนนี้ขึ้นมาเป็น 12.90 แถมน้ำ 600 cc ทุก 100 บาท แต่ว่าปั๊มใหม่ที่เปลี่ยนไปเติม 12.70 แถมน้ำขวดใหญ่ 1.5 ลิตร 1 ขวดทุก 200 บาท ตอนนั้นพอดีเอารถไปเปลี่ยนถังแก๊สด้วยเติมได้ 70 ลิตร ทีนี้วิ่งยาวขึ้นมากกว่าจะกลับมาเติมได้อีกครั้ง จนกระทั่งผมลองให้น้องเอารถไปให้อาจารย์รุ่งที่ อู่รุ่งวัฒนาช่วยดูกราฟจูนแก๊สให้หน่อยว่าผิดปกติอะไรหรือไม่ อาจารย์รุ่งฝากมาบอกว่ากราฟปกติไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยทับเส้นน้ำมัน ของเดิมวิ่งไปทำงานเส้นบางนาตราด วิ่งในเมืองแบบนี้กินแก๊สประมาณ 5.8-6.3 km/l นอกเมืองวิ่งช้า ๆ ได้ประมาณ 7.7 km/l แต่ว่าหลังจากที่เราใช้ปั๊มนี้แถววัดหลงพ่อโตที่เพิ่งเปิดใหม่ การกินแก๊สในเมืองอยู่ที่ 5.0-5.3 km/l นอกเมืองได้ไม่เกิน 7 km/l ผมเติมปั๊มใหม่นี้หลายเดือนเหมือนกัน บางทีคิดว่าอาจจะเพราะมีจุดรั่วบริเวณถังที่ติดตั้งใหม่หรือปล่า ยังไม่ได้ทดสอบน้ำสบู่ซักที
ตอนนี้ก็กลับมาเติมที่ปั๊มเดิมแถวกิ่งแก้วที่มี 2 ปั๊ม แข่งกันอยู่ ขาย 12.90 เท่ากัน แต่เลือกเติมปั๊มใดปั๊มนึงก่อน ผมเติมมา 3 ถังแล้วจากปั๊มเดียวกัน
ปรากฎว่าอัตราสิ้นเปลืองกลับมาอยู่ที่จุดเดิมเลย คือวิ่งในเมืองถังแรกได้ 5.8 km/l ถังที่ 2 วิ่งนอกเมืองสลับในเมืองได้ 6.3 km/l
พอถังที่ 3 วิ่งกลับบ้านฉะเชิงเทราเหมือนเคย ขับช้า ๆ 70-80 km/h ระยะทางเฉลี่ย 174 km เติมแก๊สปั๊มเดิม 293.8 บาท เฉลี่ยได้ 7.63 km/l เท่ากับว่าได้อัตราสิ้นเปลืองกลับคืนมาเหมือนเดิม ถ้าเป็นปั๊มที่วัดหลวงพ่อโต ไปกลับฉะเชิงเทราจะมีเกิน 300 บาท (ลองมาหลายถังแล้ว ลองเติมเป็นเดือน ) ซึ่งจะเกิน 300 ไปมากน้อยต่างกัน แสดงว่าปั๊มที่เติมปั๊มนี้ที่ซอยหลวงพ่อโตน่าจะมีปัญหาไม่ตรงกับปั๊มอื่นที่ผมเคยเติมมาจริง จึงได้ออกมาต่างกันแบบนี้ เมื่อก่อนนี้พ่อผมเคยใช้บริการปั๊มแก๊สแห่งนึงในอำเภอเมืองแปดริ้วคุ้นเคยกับเจ้าของปั๊มเป็นอย่างดี ตั้งแต่ยังมีปั๊มแก๊สกันแค่ 1-2 ปั๊มในฉะเชิงเทรา เจ้าของปั๊มบอกว่ามีคนเสนอตัวจับมิเตอร์ให้มีกลโกงซิกแซกของปั๊มแก๊สได้ แต่แกไม่เอาเพราะลูกค้าประจำแกเยอะ เท่านี้ก็กำไรมากอยู่แล้ว ใครผ่านไปฉะเชิงเทราก็ดูซอยที่เขามีแหล่งบันเทิงเยอะ ๆ แล้วปั๊มนี้มีรถขนแก๊สเป็นของตัวเองด้วยปั๊มเก่าหน่อยนึงแต่เติมเต็มลิตร ช่วงหลังเส้นทางมาแปดริ้วมีปั๊มแก๊สเกิดใหม่หลายปั๊ม แต่คนส่วนใหญ่ไปใช้บริการปั๊มอื่นแล้วกลับมาเติมปั๊มของแกอีกเหมือนเดิม มันเพราะอะไร น่าคิดไหม ? เพราะ........การเติมแก๊สมันได้ไม่เต็มลิตรเท่ากันทุกปั๊มน่ะสิ ถังนึง 300 บาทจะผิดกัน 5-20 บาทแล้วแต่ช่วง ของผมเติมที 800 กว่าบาทในตอนนี้บางทีจึงผิดกันมากเฉลี่ยออกมาจึงดูว่ากินแก๊สมากกว่าเดิมเยอะ เรื่องปั๊มแก๊สต้องพิสูจน์กันเอาเองในรถแต่ละคัน ลองทดสอบดูด้วยเส้นทางเหมือนกันกับปั๊มใกล้บ้านดูกันนาน ๆ ก่อนฟันธงแล้วค่อยเปลี่ยนปั๊มหาจุดลงตัวของตัวเอง ว่าเราจะเลือกปั๊มใด ถ้าละแวกบ้านการกินแก๊สเท่ากันหมดก็ถือว่าโชคดีไปมีทางเลือกมากขึ้น แต่ของผมถือว่าดูมานานแล้ว เชื่อถือได้ว่าไม่น่าจะตรงแน่นอนเลยเปลี่ยนปั๊มแล้วกลับมาเติมที่เดิม


ปอลิง รถ ISUZU Vcross 4x4 รุ่น 3.0 ดีเซล ตัว TOP อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันช่วงไม่เกิน 100 อยู่ที่ 15-16 km/l นะครับ ประหยัดกว่ารถดีเซลขับ 2wd รุ่นเดิม ๆ ที่เคยขับกันมา จากตัวเลขที่ขับกันจริงใช้งานจริง

รุ่นเดิมลูกน้องที่ทำงานผมใช้อยู่ ISUZU Hilander เกียร์ MT ปี 06 กินน้ำมัน 11 km/l นอกเมือง 13 km/l
อีกคนนึใช้ ISUZU Dmax เกียร์ MT ปี 09-10 ขับ 2wd SLX ตัวเตี้ยโหลดนิดนึง กินน้ำมัน 13-14 km/l ทางยาวไม่เกิน 100 km/h จึงได้ 15-16 km/l รถปิคอัพ 4wd สมัยนี้ประหยัดน้ำมันกว่ารถปิคอัพ 2wd สมัยก่อนเยอะ



เคยต้องวิ่งแค่ 100 km/h ยาว 400 กม. คนเดียว ซัดยาวไม่มีพัก เป็นอะไรที่น่าเบื่อมากๆ
จาก : Aod SRT(Aod SRT) 29/10/2555 9:12:58 [202.12.73.193]
คนขับรถเร็ว ๆ ประจำอาจจะอึดอัดนิดหน่อยครับ ที่ต้องขับช้าลง
จาก : Auto.(Auto.) 29/10/2555 14:51:06 [202.80.239.130]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 110.168.75.89 อาทิตย์, 28/10/2555 เวลา : 17:19  IP : 110.168.75.89   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32819

คำตอบที่ 334
       คุณ Auto.
รถคุณไม่มีปัญหา หลอกครับ ผมเจอมามาก ส่วนใหญ่
1.ปั้มใช้แก๊สหนักมาผสม ทำให้ราคาต้นทุนต่ำลง เพื่อสู้ราคา
2.มีการตุกติกที่ ตู้หัวจ่าย ผมเห็น กะตา เขาเล่นเอาบางอย่างไปทำให้การคิดราคาคลาดเคลื่อน โดยไม่ทำให้ ตะกั่วหลุด(ของกรมชั่งตวงวัด)
3.การซึมที่ หัวเติม อาจมีได้บ้างในกรณีใช้หัวเติมเร็วบ่อย(ไม่แนะนำให้ใช้ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ บอกเด็กน้าไม่ต้องการเสียงดังเวลาเอาหัวเติมออก)
4.ผมก็ไม่อยากส่งเสริม แต่ ยี่ห้ออื่น ลองแล้วไม่ work. ต้องยอม ปตท.เขา



ผมเช็คแล้วรถผมไม่ได้มีปัญหา กราฟจูนแก๊ส ปกติ
จาก : Auto.(Auto.) 28/10/2555 20:25:03 [58.11.224.57]
น่าจะโดนข้อ 1 ผสมเยอะ หรือข้อ 2 มีความคลาดเคลื่อนของตู้จ่าย จากการซิกแซก
จาก : Auto.(Auto.) 28/10/2555 20:26:44 [58.11.224.57]
ข้อ 2 ตุกติกที่หัวจ่ายนี่น่าจะทำกันเยอะ เพราะเขาไปเสนอปั๊มแก๊สทุกแห่ง
จาก : Auto.(Auto.) 28/10/2555 20:40:31 [58.11.224.57]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

buree จาก บุรี 182.52.201.3 อาทิตย์, 28/10/2555 เวลา : 19:01  IP : 182.52.201.3   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32823

คำตอบที่ 335
       สัพเพเหระแล้วกันคำตอบนี้

เกียร์ AT ถ้าเป็น 4 speed 5 speed 6 speed สำหรับรถปิคอัพรถตลาดบ้านเราขณะนี้ เรทการกินน้ำมัน ตัวเกียร์ AT 5 speed จะกินน้ำมันน้อยที่สุด สึกหรอต่ำสุด สาเหตุเพราะว่าอัตราทดเกียร์ 4 speed รอบห่างกว่าและอัตราทดเกียร์สุดท้าย ที่เกียร์ 4 จะอยู่มีอัตราทดเกียร์ที่ 1:1 หรือต่ำกว่าต่อ รอบการใช้งานถ้าเทียบกับ 5 speed ด้วยกันแล้ว 5 speed รอบต่ำกว่าเล็กน้อยและอัตราทดเกียร์สุดท้ายคือเกียร์ 5 เท่ากับ 0.8 :1 จะต่ำกว่าชนิด 4 speed ส่งผลทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและสึกหรอต่ำกว่า ส่วนเกียร์ 6 speed ดูไปแล้วเหมือนจะประหยัดแต่ว่าไม่ประหยัดกว่า 5 speed แต่อย่างใดเนื่องจากการเปลี่ยนเกียร์ค่อนข้างเร็วเนื่องจากกระชั้นชิดมาก บางทีเกียร์ 5 ที่ทดไว้ 0.8:1 กับเกียร์ที่ทดไว้ 0.7:1 อาจไม่ได้ทำงานเต็มที่เพราะเกียร์เปลี่ยนสลับไปมาอยู่บ่อยครั้งขณะใช้งาน
ในส่วนของเกียร์ธรรมดา ถ้าเป็น 5 จังหวะการกินน้ำมันจะต่ำกว่า 6 จังหวะ การขับ 6 จังหวะจะให้สนุกต้องเค้นเกียร์มากกว่าและรีดแรงออกมาบ่อยส่งผลให้ไม่ประหยัดเท่าที่ควร ถ้าจะขับรถเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

เครื่องยนต์ 2TR-FE ผลิตครั้งแรกที่โรงงานสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ชลบุรี ผมก็เข้าใจว่าเครื่องยนต์ยังผลิตมาที่นี่มาตลอด จนกระทั่งมีข่าวว่าเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่จริงเท็จที่ผ่านมาก็ไม่มีใครยืนยันได้ซักที วันนี้ยืนยันอย่างเป็นทางการ เครื่อง 2TR-FE 2.7 vvti ได้ย้ายฐานการผลิตไปอินโดนิเซียตั้งนานแล้ว เรื่องระยะเวลาไม่แน่ใจยังหาคนยืนยันไม่ได้ว่าย้ายไปตั้งแต่ประมาณปี 2008 หรือ 2010 แต่มีผลเกี่ยวโยงกันแน่นอนในเรื่องการย้ายไปส่งผลถึงเรื่องการยกเลิกการผลิตในรุ่น 4x4 และรุ่นเกียร์อัตโนมัติไปด้วย อย่างใดอย่างนึงหรือทั้ง 2 อย่าง เนื่องด้วยชุดเกียร์ 4x4 ถูกส่งมาจากญี่ปุ่น กระโหลกเฟืองเพลาหน้าและ Diff lock ไฟฟ้า ในรุ่น 4wd ก็ถูกส่งมาจากต่างประเทศเช่นกัน (แต่ไม่ทราบว่า component part มาจากไหนบ้าง) assy เป็นชุดที่โรงงาน Hino motor ซึ่งมีผลกับการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ในการผลิตหลังการย้ายไลน์ผลิตออกไปของ TOYOTA ก็ได้ยกเลิกการผลิตรุ่นดังกล่าวไปด้วย เป็นเหตุผลทางธุรกิจและไลน์การผลิตของ TOYOTA เองด้วยเพราะเครื่อง 2tr-fe 2.7 เน้นที่การส่งออกและมีบางส่วนส่งกลับไปญี่ปุ่นหรือภูมิภาคอื่น เช่นเดียวกับเครื่อง 1TR-FE ที่ผลิตป้อนโรงงานโตโยต้าที่อินโดนิเซียและภูมิภาคอื่นเช่นกัน เทคโนโลยีการผลิตเสื้อสูบทางอินโดนิเซียมีการลงทุนในส่วนนี้ที่ดีกว่าและทางอินโดไม่ได้เน้นกฎหมายเรื่องควบคุมมลพิษเท่าใดนัก ส่วนโรงงานสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ชลบุรี จะผลิตเครื่องดีเซลคอมมอนเรลและเครื่องยนต์เบนซินเก๋ง อย่าง 1NZ-FE วีออส อัลติสเป็นหลัก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 115.87.85.252 อังคาร, 30/10/2555 เวลา : 21:56  IP : 115.87.85.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32844

คำตอบที่ 336
       ผมใช้ Fortuner 2.7 4x4 ปี2006(มือสอง)วิ่งมาแล้วประมาณ 119,000 ไม่เคยติดแก็สมาก่อน ผมเลือกติดตั้ง Energy reform Advance OBD โดยเลือกถังโดนัท 72 ลิตร มีอาการกินแก็สอยู่ที่ 6/L(กินมากๆ) เพื่อนๆที่ใช้รถรุ่นเดียวกันเค้าบอกว่ากินอยู่ประมาณ 8/L ใช้รถวิ่งไปทำงาน พัทยา-แหลมฉบัง การจราจรไม่ได้ติดอะไรมากใช้ความเร็วเฉลี่ยอยูที่ 80-100 เอาไปให้ช่างแก้โดยช่างจูนให้ใหม่แต่ก็ยังเหมือนเดิม (ช่างบอกว่าก็จูนเหมือนๆกับคันอื่นๆ) พี่ๆท่านใดมีคำแนะนำช่วยหน่อยครับ

....... ตอบ............. มันก็เกี่ยวกับการจูนนั่นแหละครับ ถ้าติดถูกต้อง ยกเว้นมีปัญหาว่าอาจไวริ่งสายมาผิด Energy reform ดังเพราะมีคนเค้าทำตลาดมีคนผลักดันวางตัวเองไว้สูง ต้องลองให้ร้านที่ติดตั้งแก้ไขใหม่ แต่ถ้าลองแก้ไขใหม่ 3-4 ครั้งแล้วไม่หาย ลองไปหาร้าน NRB Gas ที่จันทบุรีให้เขาช่วยลองดู อาจจะช่วยได้ เพราะเขาติดตั้งของ Energy reform เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ได้ให้โทรเข้าไปที่ศูนย์ของ Energy reform ลองถามหาความรับผิดชอบและความช่วยเหลือจากแบรนด์นี้ดู
ก่อนติดน่าจะลองถามในเวปนี้ดูก่อน หรือโทรถาม ในเวปเนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่าน ๆ กันมาจะช่วยได้เยอะไม่ต้องลองผิดลองถูกกันบ่อย
พิมพ์ไปตั้งเยอะคำตอบไม่ออกมา
ลองกลับไปให้ร้านติดต้งแก้ไขใหม่ ถ้า 3-4 ครั้งแล้วไม่หายค่อยให้ที่อื่นทำ สาเหตุน่าจะเป็นจากการจูนหรือไม่ก็ไวริ่งสายผิดก็ได้
ถ้าลองแก้แล้วไม่หายลองติดต่อไปที่ร้าน NRB Gas จันทบุรี เขารับติดแก๊สของ Energy reform อยุ่น่าจะพอช่วยได้หรือไม่ก็ลองไปหาศูนย์ใหญ่ของ Energy reform ดูก็ได้ว่าเขาจะช่วยเหลือหรือรับผิดชอบได้อย่างไรบ้าง
Energy reform ไม่ได้ดังเพราะแบรนด์ แต่ดังเพราะการทำตลาดของผู้นำเข้าวางแบรนด์ตัวเองไว้ให้ดูสูง

by Auto



ขอบคุณครับพี่ พอดีใจร้อนไปหน่อยครับ ว่าแต่จะแก้ไขได้มั้ยครับในกรณีแบบผมนี้ หรือว่าต้องเปลี่ยนใหม่เลยเพิ่งติดเมื่อวันที่ 23/10 นี้เองครับ
จาก : noome(noomeCU) 31/10/2555 21:23:50 [180.180.11.187]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noomeCU จาก noome 125.27.37.190 พุธ, 31/10/2555 เวลา : 20:43  IP : 125.27.37.190   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32857

คำตอบที่ 337
       ขอบคุณพี่ Auto มากๆครับสำหรับคำแนะนำดีๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noomeCU จาก noome 180.180.4.85 พฤหัสบดี, 1/11/2555 เวลา : 22:47  IP : 180.180.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32865

คำตอบที่ 338
       หม้อต้มแก๊สของ Magic III ยังพบปัญหารั่วอยู่บ้าง อาการรั่วของหม้อต้มแก๊สลักษณะที่พบคือ
1. อาจสตาร์ทยาก ลากยาวขึ้นกว่าจะติด ถ้าพบหม้อต้มแก๊สอายุราว 1.5 แสนกิโลเมตร + - ให้ลองเปลี่ยนก่อน พร้อมหัวฉีดแก๊สที่ราคาไม่แพง ถ้าเป็นหัวฉีด Kehin ไม่ต้องเปลี่ยน
2. พบปัญหาน้ำหม้อน้ำเดือดหรือหม้อพักน้ำล้นออกมา แล้วตรวจสอบจุดรั่วไม่พบให้ลองเปลี่ยนหม้อต้มดูก่อน เพราะอาจเกิดปัญหารั่วภายในเกิดขึ้นแม้อายุการใช้งานเพียง 40,000-60,000 กิโลเมตรก็สามารถรั่วได้เช่นกัน

ถ้าเป็นไปได้ให้ลองกลับมาใช้หม้อต้มเดิมของ Zavoli หรือ Tomasetto หลังทอง 6 สูบเหมือนเดิมดีกว่าราคาหม้อต้ม 3000-3200 อายุยังทนทาน (แต่อายุงานยังไงก็อยู่แค่ 1.5 แสนกิโลเมตร + - นิดหน่อย )

ส่วนใครที่ติดแก๊สมาที่มีระบบ OBD Scan ถ้าระบบนี้การขับขี่ชอบกระทืบคันเร่งบ่อย เปลี่ยนเกียร์บ่อย แบบเกียร์ธรรมดา หรือชอบขับรถไม่นิ่มนวลอาจทำให้เปลืองแก๊สเพิ่มมากขึ้น Spec การติดแก๊สเครื่อง 2.7 ไม่ได้สูงมากนัก ใช้เสปกสูงเกินไปแล้วใช้พฤติกรรมการขับดังกล่าวก็ไม่ประหยัด


ส่วนอาการสตาร์ทยากบางคันที่ไม่ติดเลย บางทีอาจเป็นเพราะแบตเตอรี่ไฟอ่อน ชุด ECU แก๊สบางรุ่นถ้าไฟอ่อนสตาร์ทไม่ได้ หรือไม่ก็ไม่ยอมตัดเข้าเป็นแก๊ส คือระบบให้ใช้น้ำมันอย่างเดียว เพราะฉะนั้นแบตเตอรี่มีอายุการใช้งาน 2-3 ปี ควรรีบเปลี่ยนก่อนหมดอายุ ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ในตลาดแบตน้ำนี่แหละราคา 1700 บาท +- นิดหน่อย สำหรับเครื่อง 2.7 ใช้ขนาด 60 amp หรือจะขยายขนาดเพิ่มเป็น 75 amp ก็ได้ไม่มีผลอะไรหรอก แต่เปลืองตังค์เพิ่มขึ้น ยกเว้นขายเป็น 100-120 amp ในรถปกติไม่ควรทำเพราะเปลืองมากเกินความจำเป็น



ร้านมันเชียร์ GS Super Diamond 120amp ผบ.เอาด้วย เลยจัดมา 3400 บาท ตัวเบาเลย แต่ก็ OK นะ
จาก : Aod SRT(Aod SRT) 2/11/2555 13:02:09 [202.12.73.193]
ไฟน่ะเยอะจริง แต่เราไม่ได้ประโยชน์อะไรจากมันหรอกครับ เสียเงินแพงเปล่า ๆ
จาก : Auto.(Auto.) 2/11/2555 14:25:54 [202.80.239.130]
เพราะว่ารถเราแบตเตอรี่ขนาดเดิม ๆ ก็เหลือแล้ว ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ Winch ก็เปล่าประโยชน์
จาก : Auto.(Auto.) 2/11/2555 14:26:57 [202.80.239.130]
รถเบนซินไมได้ใช้มอเตอร์ Start ขนาดใหญ่ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพากำลังไฟฟ้ามากเหมือนดีเซล
จาก : Auto.(Auto.) 2/11/2555 14:28:49 [202.80.239.130]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 2/11/2555 เวลา : 07:51  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32866

คำตอบที่ 339
       ขอความช่วยครับ รถผมสตาร์ไม่ติดเลยครับพ่วงแบ็ตแล้วก็ยังไม่ติด ท่านใดมีประสพการบ้างครับเป็นที่ไดรสตาร์หรือป่าวครับ

ลืมบอกว่าผมใช้ Fortuner 2.7 4x4 ปี2006(มือสอง)วิ่งมาแล้วประมาณ 119,000 ติดแก็ส Energy reform Advance OBD

ถ้าสตาร์ทแล้ว ไดร์หมุนเอื่อยๆ แล้วดัง แป๊กๆๆ




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noomeCU จาก noome 180.180.0.77 ศุกร์, 2/11/2555 เวลา : 22:57  IP : 180.180.0.77   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32873

คำตอบที่ 340
       ปัญหาสายพ่วงหรือเปล่าครับ เพราะอาการเหมือนแบตไฟไม่พอ เมื่อมันหมุนเอื่อย ๆ แบบนี้ เพราะว่ารถเพิ่งวิ่งมา ไม่นานมอเตอร์สตาร์ทไม่น่าเสีย
เคยเจอกับหลายท่านที่แนะนำไป ปรากฎว่าพ่วงแบตแล้วก็ไม่ติดเพราะว่าสายพ่วงแบตที่ขายกันตาม Lotus ไส้ทองแดงมันเล็กไป จ่ายกระแสไฟสูง ๆ ไม่ได้ ทำให้เหมือนเราไม่ได้พ่วงแบต อีกแบบนึงการคีบสายกราวด์มันหลวมหรือไม่ค่อยตรงจุดที่กำหนดให้คีบกราวด์ ที่เครื่องยนต์ 2TR-FE มีจุดกำหนดให้คีบกราวด์ฝั่งซ้ายมือเวลาหันหน้าเข้าหารถบริเวณใกล้ท่อไอเสีย
ลองเช็คแบตเตอรี่ดูก่อนครับ ว่าที่ตัวแบตมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่แล้ว เขาจะมีเดือนปีที่เริ่มใช้แบตเป็นสติเกอร์ปิดอยู่


ถ้าเครื่องยนต์เวลาสตาร์ทไม่ได้หมุนเอื่อย ๆ แต่หมุนปกติมีกำลังแรงดีพอแล้ว ต้องตรวจการจ่ายน้ำมันว่ารถเราตัดปั๊มติ๊กมาหรือเปล่า บางทีรีเลย์อาจไม่ทำงาน ถ้ารุ่นนี้สตาร์ทแก๊สได้ให้ลองกดสตาร์ทแก๊สแทน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.122.97.251 เสาร์, 3/11/2555 เวลา : 08:54  IP : 124.122.97.251   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32881

คำตอบที่ 341
       อีกเรื่องนึงเผื่อใครเจอปัยหาแบบที่ผมเจอมาเร็ว ๆ นี้ คือ อาการไม่ตัดเข้าแก๊ส สาเหตุเป็นที่ติ๊กแก๊สเสีย ติ๊กแก๊สจะอยุ่บริเวณหม้อต้มแก๊สหรือใกล้กับหม้อต้มแก๊สมี สายไฟ 2 เส้นออกมา ทำหน้าที่เป็นตัววาล์วเปิดปิดแก๊สจากหม้อต้มอีกชั้นนึง สังเกตุดครับใกล้กับหม้อต้มแก๊ส จะมีชิ้นส่วนสีน้ำเงินหรือสีส้มมีสายไฟออกมา ตัวนี้มีปัยหาจะทำให้ตัดเข้าแก๊สไม่ได้ สาเหตุที่พบคือว่ามันสกปรกมากจนเสีย เพราะแก๊สที่เราเติมมีทั้งสิ่งสกปรกและน้ำมันคอมเพรสเซอร์จากปั๊มแก๊ส ที่เติมเข้าไป มันถูกกรองอีกชั้นนึงก่อนเข้าหม้อต้ม แล้วก็สะสมอยู่ในติ๊กแก๊สตัวนี้
ถ้าเจออาการนี้ก็ต้องเปลี่ยนอย่างเดียว อะไหล่ช้นนึงรวมค่าเปลี่ยนประมาณ 350 บาท ทีแรกผมอยากรอให้ถึงอายุหม้อต้มแล้วเปลี่ยนไปพร้มอกันเลยแต่มันดันพังก่อน ถ้าหม้อต้ม Tomasetto มันติดมาพร้อมกัน ตัวสีน้ำเงินนั่นแหละ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 115.87.109.30 เสาร์, 3/11/2555 เวลา : 11:52  IP : 115.87.109.30   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32882

คำตอบที่ 342
       พอดีเจอมาเกี่ยวกับ Energy reformในเวป Fortunerclub เป็นอุทาหรณ์ที่ผมบอกไปว่าอย่าไปคิดเล่นกับชุด OBD มากนัก ชอบหลงตามคำโฆษณาไปกับเค้าอุปกรณ์ดีแค่ไหนก็ตาม ต้องเพิ่งช่างที่มีประสบการณ์เป็นสำคัญ ที่สำคัญหลายบริษัทถ้าไม่รับผิดชอบให้ลูกค้าจะปวดหัวเปล่า ขายของได้กำไรมากมายก็จริงแต่รับผิดชอบลูกค้าทำกันไม่ค่อยได้ เพราะเมืองไทยยังไม่มีกฎหมายมาเล่นงานผู้ผลิตกันโดยตรง การคุ้มครองผู้บริโภคจึงเป็นปัญหา อย่าไปลองผิดลองถูกกันบ่อย ๆ รถเราเงินเราทั้งนั้น รถพังมาก็โยนกันไปมาไม่มีใครรับผิดชอบ
http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=56311.0

ผมเคยถอดถังแก๊สขายไปในเวป คนที่มาซื้อถังแก๊สผมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับยี่ห้อ Energy reform นี่แหละเพราะเค้าเองก็ติดแก๊สเอง แล้วก็ยังมีร้านติดแก๊สที่ระยองที่ผมเคยไปวางถังแก๊สมาก็พูดคล้ายกันเรื่อง Energy reform คือเค้าติดทุกยี่ห้อมากกว่า 7 ยี่ห้อ อยากได้อะไรก็จัดหมด เอายี่ห้อไหนล่ะ กำไรมากน้อยต่างกันตามยี่ห้อหรือบางร้านก็คิดกำไรเท่ากันคือจะติดยี่ห้อไหนก็บวกกำไรไว้แล้วว่าร้านเค้าจะได้ค่าติดตั้ง 3xxx กว่าบาท หรือบางร้านคิดแพงก็คิดค่าติดตั้ง 8000 บาทอย่างนี้เป็นต้น Energy reform ผู้นำเข้ารวยไปนานแล้วเพราะทำตลาดมานาน และวางแบรนด์ไว้สูง
ร้านติดแก๊สที่ระยองผมวางถังแก๊สผมไม่เคยเชื่อเลยว่ามันจะจูนได้ดี เพราะมันเคยจูนรถผมมา 2 ครั้งแก้ไม่หาย ห่วยทั้ง 2 ครั้ง เพราะไม่เข้าใจการจูน แต่ร้านพูดถูกทุกอย่างเรื่องยี่ห้อชุดแก๊ส เพราะร้านนี้เขาเป็นนักธุรกิจตัวจริงทำแล้วรวย เปิดอู่ขึ้นมาน่าจะรวยเพราะงานติดแก๊สวันนึงเยอะมาก จึงมีชุดแก๊สไว้บริการเกือบทุกยี่ห้อ จะพูดเอายี่ห้อไหนดีก็พูดได้หมด ถ้าลูกค้ามีในใจว่า Energy reform เขาก็จัดให้ได้ กำไรบาน หรือไม่แน่ใจลังเลเรื่องราคาเอาตัวรองลงไปก็ได้ หรือรู้ว่าคุณภาพชุดนี้ดีอยู่แล้วจัดเลยครับ ดีกว่าทุกยี่ห้อที่กล่าวมา ยี่ห้อชุดแก๊สอย่าไปหลงตามกระแสเค้ามากนักการตลาด ที่เค้าเล่นไว้ เราไม่ต้องไปศึกษาจนทะลุปรุโปร่งหรอกเพราะเราไม่ใช่ช่าง
ถ้าจำที่พูดในเวปหรือบอกทางโทรศัพท์ได้คุณไม่ต้องไปหาชุดแก๊สที่มันดีมากจนเกินไปนักหรอก หายี่ห้อที่จูนง่าย จบง่ายราคาไม่แพงนัก นิยมในตลาด ไม่ต้องมี Hard rock เพื่อล๊อคโปรแกรมเฉพาะ หรือสายจูนโดยเฉพาะ หาคนจูนไม่ยากนัก มันจะได้ไม่ลำบากกับเราภายหลังติดตั้งไปแล้วจะได้ซ่อมบำรุงไม่แพง ราคาถูก สำคัญที่ช่างเขาเข้าใจใน Parameter รถรุ่นนั้น ๆ อย่างเพียงพอหรือเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 115.87.109.30 เสาร์, 3/11/2555 เวลา : 13:38  IP : 115.87.109.30   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32883

คำตอบที่ 343
       สตาร์ทติดแล้วครับ แค่สายแบตหลวมเองครับ เอ้อ..แบบว่าไม่เคยเจอมาก่อนก็เลยไม่รู้เรื่อง อันดับแรกพ่วงแบตกันใหญ่เลย
ขอบคุณพี่ Auto อีกครั้งครับที่มึน้ำใจมาตลอด



เป็นที่สายแบตเตอรี่จริง ๆ
จาก : Auto.(Auto.) 3/11/2555 20:08:00 [115.87.120.241]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noomeCU จาก noome 171.4.78.4 เสาร์, 3/11/2555 เวลา : 18:51  IP : 171.4.78.4   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32884

คำตอบที่ 344
       ชุดแก๊สเวลาที่เราไปติดตั้งแก๊ส

1. ชุดแก๊สหัวฉีดยีห้อดังยี่ห้อนึง 4 สูบ ราคา 12,000 บาท ยี่ห้อรองลงมา 9,xxx บาท ราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1 หมื่น + - นิดหน่อย
2. ถังแก๊ส 3,xxx กว่าบาท ถ้าถังโดนัทจากตุรกีหรือมาจากชื่นศิริ 6,xxx บาท
3. วาล์วที่ถังแก๊ส ยี่ห้อดีเลย OMB ไม่เกิน 2500 รองลงมายี่ห้อ Tomasetto 2000 บาท บางร้านใช้ยี่ห้อลดลงไปอีก ราคาก็ลงตาม
4. ท่อแก๊ส 400 บาท
5. ท่อแก๊สเข้าถังแก๊ส 300 บาท
6. ท่อ Low แก๊ส 150 บาท
7. หัวเติมแก๊ส 185 บาท
8.ไม่รวมรีเลย์ตัดปั๊มติ๊กจากร้านอีก 400 บาท ถ้าใครจะตัดปั๊มเพิ่มเติมก็เพิ่มในส่วนนี้ แต่ตัดแล้วสบายใจแน่นอน

ราคาต้นทุนในการใช้อุปกรณ์แก๊สมีประมาณ 18,xxx บาท บวกลบนิดหน่อย
ถ้าจะติดแก๊สเอง ด้วยฝีมือเราเอง ถ้าใครมีฝีมือเองพอจะเป็นช่างก็สามารถติดเองได้ เลือกชุดแก๊สที่เราสามารถจูนได้ง่ายด้วยตัวเราเอง (ถ้าศึกษาโปรแกรมมาก่อน) แต่ถ้าไม่ได้เป็นช่างไม่ได้มีเวลาพอที่จะทำไม่ชำนาญไปหาร้านติดตั้งเอาดีกว่า เพราะร้านหรืออู่เขาทำเป็นอาชีพชำนาญกว่าเรา จะได้ไม่ต้องลองผิดถูกเองหรือพอใจจะทำตรงนั้นก็ได้ เห็นได้ว่าราคาชุดแก๊สทั้งหมดอยู่ที่ 18,xxx กว่าบาท ที่เหลือจะเป็นค่าติดตั้งแก๊ส อีกประมาณ 3,xxx-4,xxx กว่าบาท ส่วนใหญ่อู่ติดตั้งเขาจึงคิดราคาติดตั้งแก๊สอยู่ที่ 21,000-24,000 บาท ใครติดแพงก็คิดเองแล้วกัน ถ้าติดถังแคปซูลใต้ท้องรถ ร้านเขาจะคิดเพิ่มเติมอีก 1500-3000 บาท ถ้าถังโดนัทร้านไม่ค่อยคิดเพิ่มแล้วแต่หลายร้านก็คิดเพิ่มเติม บริษัท Versus เป็นรายแรกที่สร้างอู่เครือข่ายและให้การค้าที่สร้างมาตรฐานการตัดสินใจโดยการวางราคาที่เป็นมาตรฐานสำหรับอู่เครือข่ายทั่วประเทศให้คิดอยู่ในราคาเดียวกัน เพราะเมื่อก่อนการติดตั้งแก๊สมีปัญหามากที่ราคาติดแก๊สร้านนึงกระโดดสูงกว่าอีกร้านนึงมาก บางคนไปติดมา 3x,xxx กว่าบาท ทั้งที่ชุดแก๊สใกล้กัน อย่างนี้เป็นต้น ทำให้อู่หรือร้านซ่อมเครื่องยนต์บางร้านหันมาเปิดเป็นร้านติดแก๊สกันมากเพราะเห็นว่ากำไรดี ส่วนที่เหลือเป็นค่าอะไร คนที่ไปติดมาก็ให้คำตอบตัวเองก็แล้วกัน อย่าเพิ่งคุยเลยว่าตัวเองติดมาแพงอายเขาเปล่า ผมถึงบอกว่าไม่ต้องไปติดแพงหรือเลือกชุดแก๊สกันแพงเกินไป สำคัญที่ช่างหรืออู่ติดแก๊สที่เราเลือกเข้าใจ Parameter ของรถคันนั้นหรือเปล่าว่าออกแบบมาเพื่ออะไร อย่างที่เค้าพูดกันในหมู่ช่างจูนแก๊ส ติดแก๊สจูนให้วิ่งได้หรือวิ่งให้ดีมันคนล่ะเรื่องกัน Autotune แก๊สอย่างเดียวไม่มีทางได้ผลดีแม้ว่าชุดแก๊สชุดนั้นจะเป็นตัว top ที่ต่อ OBD ได้ก็ตาม สุดท้ายก็ต้องเพิ่งช่างจูนแก๊ส จูนให้ดียังไงสุดท้ายการใช้ความเร็วสูง ๆ หรือขับยาวต่อเนื่องต้องตัดเข้าน้ำมันเพราะรถออกแบบมาใช้น้ำมันไม่ได้ใช้แก๊สไม่ว่ารถรุ่นนั้นจะเป็น CNG จากโรงงานก็ตาม ก็ต้องทำแบบนี้ไม่งั้นเครื่องพังหมด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.181.33 อาทิตย์, 4/11/2555 เวลา : 08:35  IP : 124.120.181.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32886

คำตอบที่ 345
       พอดีไปเห็นภาพนี้มาจากการประกวดภาพถ่าย ครบรอบ 50 ปี TOYOTA ในประเทศไทย
ID: 3485
จะกี่ 10 ปีก็ยังอุ่นใจ TOYOTA
โดย นายเบญจศีล นุตตะละ
Vote: 133

ประวัติของ TOYOTA รุ่นนี้
Generation ที่ 2 (พ.ศ. 2515 - 2521)
โฉมที่สองนี้ รหัสตัวถัง RN20 มีการปรับปรุงให้ไฮลักซ์มีความสะดวกสบายในห้องโดยสารมากขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1587 ซีซี 12R I4 ยกเว้นในอเมริกา ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1968 ซีซี 18R SOHC I4 108 แรงม้า ซึ่งต่อมาเครื่องยนต์นี้ถูกนำไปขายควบคู่เป็นทางเลือกกับเครื่องเบนซิน 1587 ซีซี นอกอเมริกาใน พ.ศ. 2520 ...................พ.ศ. 2518 ไฮลักซ์มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ให้มีขนาดใหญ่และสะดวกสบายขึ้นอีก มีการนำระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดมาใช้ในไฮลักซ์เป็นครั้งแรก ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2189 ซีซี 20R SOHC I4 96 แรงม้า ทำให้ผู้ซื้อในอเมริกัน ตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Pickup เป็นต้นกำเนิดของคำว่าปิคอัพ ซึ่งต่อมาคำนี้ก็กลายเป็นคำศัพท์ที่แปลว่ารถกระบะ

เห็นไหมครับเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ของคำว่ารถปิคอัพ หรือรถกะบะในประเทศไทย ซึ่งตัวนี้คือ Generetion 2 และใช้เครื่องเบนซิน
รถที่ท่านใช้กันอยู่นี้มันสามารถยืนระยะได้ยาวนานหลาย 10 ปีอย่างแน่นอน รถคันนึงสามารถใช้ได้ยาวนานเลือกทั้งทีเอาให้ดีและมั่นใจไปกับมัน

เครดิตภาพโดย นายเบญจศีล นุตตะละ
http://www.toyota50th-photosharing.com/gallery.php?&page=62#






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.181.33 อาทิตย์, 4/11/2555 เวลา : 09:16  IP : 124.120.181.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32887

คำตอบที่ 346
       ซึ้งเลยครับพี่ Auto เสียค่าโง่แท้ๆติดอย่างแพงแต่ก็ยังไม่จบเสียเวลาจริงๆ คิดว่าอุปกรณ์ดีๆจะช่วยประหยัดขึ้น ถ้ายังไม่จบไม่รู้ว่าต้องถอดทิ้งหรือป่าว แฮ่ๆๆ ที่เลือกรุ่นนี้ก็เพราะเพื่อนซื้อ Fortuner 2.7 ป้ายแดงขับ2ไปติดมาแล้ววิ่งได้ 12-13km/L ก็เลยรีบไปติดบ้าง พอไปติดมาของเราทำไมมันได้แค่ 6kmก่า/L กรรมแท้ๆ


ตอบ .......... รถ Fortuner 2.7 ไม่ว่าจะรุ่น 2wd 4wd มันไม่สามารถจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 12-13 km/l คือไม่มีทาง ขับยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ รถเบนซินน่ะครับเครื่องใหญ่ขนาดนี้ รถหนักปาเข้าไป 1830 kg. จะให้ประหยัดน้ำมันเหมือนขับ Vios เป็นไปไม่ได้แน่นอน เอา Hilux 2.7 2wd เกียร์ธรรมดา ขับกันเต็มที่ก็ได้ไม่เกิน 9 km/l และถ้ารถรุ่นนี้เอามาติดแก๊ส ตามสมการของเชื้อเพลิงแก๊ส ที่มีค่าความร้อนน้อยกว่าน้ำมันเบนซิน 95 พอเอามาติดแก๊สแล้ว ส่วนใหญ่จะกินเชื้อเพลิงที่ประมาณ 7-8 km/l ซึ่งรถ 2.7 ที่ติดแก๊สส่วนใหญ่ที่ผมมีข้อมูลได้อัตราสิ้นเปลืองจริงไม่เกินนี้ทั้งนั้นสำหรับรถเดิม ๆ
ไม่ว่าจะ 2.7 รุ่นนั้นจะเป็น 2wd 4wd เกียร์ AT MT จะเป็น Fortuner หรือ Hilux ไม่ต่างกันเท่าไหร่ อยู่ในเรทการสิ้นเปลืองนี้ทั้งหมด
by Auto



ตอบเพิ่มเติม........ รถ Fortuner Hilux พื้นฐานมันเป็นรถเอาไว้ใช้สำหรับงานหนักพิเศษ เป็นปิคอัพสำหรับงานบรรทุกหนัก เครื่องยนต์มันต้องถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานหนัก บรรทุกหนัก รวมถึงเอาไว้ใช้กับรถออฟโรดได้ด้วย เครื่องยนต์มันจึงต้องมีทั้งแรงบิดและแรงม้าเพื่อให้พละกำลังที่แรงพอเหลือเฟือกับการใช้งานหนักดังกล่าว เพราะฉะนั้นเครื่องยนต์มันเป็นแบบนี้มันต้องกินเชื้อเพลิงมากเป็นธรรมดา ถึงแม้ว่ามันจะถูกพัฒนาให้ประหยัดน้ำมันขึ้นมากแล้วก็ตาม แต่พื้นฐานของเครื่องยนต์เบนซินมันจะกินน้ำมันมากกว่าเครื่องดีเซลที่ซีซีเท่ากันสเปกใกล้กันอยู่แล้ว
ถ้าจะเล่นเครื่องเบนซินสำหรับรถแบบนี้ทำใจในเรื่องนี้ไว้ได้เลย ว่ารถต้องใช้เชื้อเพลิงมาก ต่อให้ไปเลือกรถ SUZUKI CARRY ก็กินน้ำมันประมาณ 7-8 km/l อยุ่ดี เพราะรถแบบนี้ก็เป็นแบบนี้ บางคนเขาจึงเปลี่ยนจากกระบะเล็กซีซีต่ำมาเป็น Hilux 2.7 ที่วิ่งดีกว่าสนุกกว่าใช้เชื้อเพลิงเท่ากัน หลายคนพยายาม ที่จะเลือก Fortuner เลือก 2wd เพื่อต้องการประหยัดน้ำมัน หรือคนที่เลือก Hilux 2.7 เมื่อกอ่นหน้านี้ช่วงมีแต่เกียร์ AT หวังว่าเลือกรถ 2wd MT เพราะคิดว่ามันจะประหยัดน้ำมันกว่า รุ่นเดิม ๆ ซึ่งมันไม่จริง อัตราสิ้นเปลืองที่คนใช้ 2.7 ขับ ๆ กันมาก็เป็นตัวบ่งบอกอยู่แล้วว่าเครื่องเบนซินกินน้ำมันประมาณเท่าไหร่ ไม่ว่าขับรุ่นไหนเรทใกล้เคียงกันหมด
บางคนเค้าถึงอยากขับ V6 4.0 ไปเลย หรือไม่นักธุรกิจไทยบางคนที่ไปทำมาหากินอยู่ฝั่งลาว เค้าก็ซื้อรถ TOYOTA TUNDRA ขับไปเลย เพราะ V8 5700 cc มันกินน้ำมันไม่ต่างจาก เครื่องเบนซินเล็ก ๆ มากนัก
by Auto



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noomeCU จาก noome 101.109.149.176 อาทิตย์, 4/11/2555 เวลา : 19:11  IP : 101.109.149.176   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32893

คำตอบที่ 347
       รถ Fortuner 2.7 4x4 ตอนทีผมซื้อมาแรก ๆ ยังไม่ติดแก๊ส ตอนนั้นขับด้วยน้ำมัน 95 กินน้ำมันวิ่งทางไกลตกประมาณ 8.7 km/l บรรทุกคนนั่งเด็กเต็มคันรถ น่าจะประมาณ 9-10 คน ผู้ใหญ่ 5 คน เด็กอีก 5 คน ถ้ารถเปล่าน่าจะได้ประมาณ 9 km/l วิ่งปกติทั่วไป 7 km/l ในเมือง 6.2-6.5 km/l

ส่วน Landcruiser new Prado 2.7 LSD เครื่องเดียวกันแต่สเปกแรงม้ามากกว่า คือ 163 แรงม้า นิตยสารนักเลงรถกะบะทดสอบการกินน้ำมันก็อยู่ประมาณ 8 km/l นอกเมือง ทั่วไปก็ 7 km/l ในเมืองก็ 6 km/l เรทก็ใกล้เคียงกันทั้งที่รถหนักกว่าแรงม้ามากกว่า ถ้าติดแก๊สแล้วหาความต่างไม่เจอ

Fortuner 2.7 2wd ที่ออกมารุ่นหลังช่วงก่อนติดแก๊สก็กินน้ำมันกันอยู่ประมาณ 9-10 km/l พอติดแก๊สแล้วการกินแก๊สก็อยู่ที่ 7-8 km/l ลองดูเรทใน Fortuner club ก็ได้เค้าก็กินประมาณ 1.8 บาท นอกเมือง 2.0 บาท ในเมือง บางคันจึงได้ 1.7 บาท น้อยกว่านี้กลัวจะแก๊สบางกันเกินเหตุ
เรื่องที่บอกว่ากินแก๊ส 12-13 km/l เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะราคาแก๊สต่อลิตร 12.8-13.0 บาท กินแก๊ส 12-13 km/l จะเท่ากับว่ากินแก๊สโลล่ะ 1 บาท ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว คนที่ติดแก๊สให้กับรถ Vios Altis ยังกินแก๊สกิโลล่ะ บาทกว่า ๆ เลยครับ ทุกอย่างมันต้องมีเหตุมีผลเชื่อถือได้ มีข้อมูลจริง ตัวเลขกันจริง


เครื่องยนต์เบนซินมันทำมาเพื่อแบบนี้ ใช้งานแบบนี้ การกินน้ำมันก็จะอยู่ในเรทนี้เช่นกัน Fortuner เขาออกแบบมาเพื่อเป็นรถงานหนักอยุ่แล้วต่างประเทศเขาก็เห็นว่าเป็นรถคันนึงใช้สำหรับทางทุรกันดาร เป็นรถ suv 4x4 แต่คนไทยเราคิดว่าเป็นรถหรูไม่ควรเอาไปลุยออฟโรดเลยพากันเลือก Fortuner 2wd กันโน่นไปเลยทั้งที่จริงรถมันแค่ตัดเพลาหน้าออกไปน้ำหนักมันหายไป 200 kg. ไม่เกินนี้ อย่างอื่นเหมือนเดิม ไม่มีทางที่ Fortuner 2.7 จะประหยัดน้ำมันต่างกันมากมาย และจะให้ประหยัดน้ำมันเท่ารถซีดานเป็นไปไม่ได้เพราะเครื่องยนต์คนล่ะแนวทางกัน




ผมให้ดูภาพนี้ รถ Hilux YN65 คานแข็ง 4x4 เครื่องเบนซิน 2200 ซีซี เจ้าของขายไปแล้วเห็นลงขายในเวป Truck 2 hand เป็นรถของหน่วยงานราชการเอาไว้ทำงานในภาพสนาม ประจำการอยู่ในภาคเหนือเขาเอาไว้บรรทุก ใช้งานหนัก ในภาพก็บรรทุกหนักออกจากป่า คือเครื่องยนต์มันออกแบบมาสำหรับปิคอัพแบบนี้มันใช้งานหนักได้อยู่แล้ว
การกินน้ำมันจะอยุ่ที 8-9 km/l รถตัวเปล่า จะประหยัดกว่า 2.7 หน่อยนึง หรือว่าใกล้กัน แต่เรี่ยวแรงจะน้อยกว่า
รถปิคอัพเบนซินไม่ได้แปลว่าบรรทุกไม่ได้ใช้งานหนักไม่ได้ ลุยน้ำไม่ได้ เหมือนที่หลายคนเอามาคิดกัน มันคนล่ะเรื่อง เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเครื่องยนต์กับอัตราทดเกียร์การส่งกำลัง เครื่องยนต์มันถูกออกแบบไว้เฉพาะอยู่แล้วสำหรับการใช้งานแบบนี้ การกินน้ำมันก็จะอยู่ราว ๆ นี้
ถ้าเป็นเครื่องเบนซินสำหรับเก๋ง วีออส อัลติส หรือคัมรี่ ก็ได้จะดูง่าย คัมรี่ 2.4 เครื่องใหญ่แต่การกินน้ำมันอยู่ที่ 12 km/l นอกเมืองที่มันประหยัดได้เพราะรถมันคือรถเก๋ง การสร้างแรงบิดเพื่อใช้งานหนัก ฉุดลากเทรลเลอร์แบบหนักหน่วง รถเก๋งมันทำไม่ได้อยู่แล้ว หรือจะให้ไปลุยน้ำแบบเครื่องเบนซินออฟโรดแท้ ๆ ก็พังแน่นอน ถ้าเราเข้าใจสมการของรถจึงจะเลือกรถได้ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุดสำหรับเรา และเลือกรถให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งาน






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 110.169.226.10 อาทิตย์, 4/11/2555 เวลา : 22:22  IP : 110.169.226.10   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32894

คำตอบที่ 348
       ซื้อรถตู้ก๊าช เอ็นจีวีมือสองต่อเขามา จะดีไหมครับถ้าเอามาจะต้องดูแลรักษาอย่างไร ใครมีเคล็ดลับดีดี ช่วยบอกกันห่อยครับ



ตอบ มันไม่ได้มีอะไรครับ แค่ไปเอาฟองน้ำปั๊มอากาศออกก่อน ส่วนของเหลวเปลี่ยนถ่ายตามระยะ ถ้ารถเข้าศุนย์ตลอดเลขไมล์จริงก็เช็คประวัติกับศูนย์ต่อไปได้เลย ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมแล้ว รถที่เข้าศูนย์ตลอดเลขไมล์จริงค่าใช้จ่ายตอนซื้อมือ 2 จะไม่ค่อยมีอะไรตามมา

ถ้าเป็นรถไม่เข้าศูนย์อาจต้องมาเริ่มใหม่ที่เรา ตรวจสายพานหน้าเครื่อง รอยปริแตก ลูกรอก เช็คน้ำยาฟรีปั๊มพัดลมหม้อน้ำ เช็คระยะห่างหน้าคลัทซ์คอมแอร์ เช็คระบบเบรคการรั่วซึมของกระบอกเบรค ทั้ง 4 ล้อ ตรวจช่วงล่าง ลูกหมาก ยางหุ้มแร๊ก โช๊คอัพ ตรวจและเปลี่ยนชุดหล่อเย็นทั้งหมด ตามปกติชุดหล่อเย็นต้องเปลี่ยนทุกระยะ 1 แสนกว่าโล พวกปั๊มน้ำ ท่อ Pipe 1 ฝาหม้อน้ำ วาล์วน้ำ ท่อยางน้ำบนล่าง คลิปรัดท่อน้ำ แล้วก็สายท่อน้ำไปยังหม้อต้มกับด้านหลังเครื่อง
ส่วนชุดแก๊สก็ไม่ต้องดูอะไรเช็คตามระยะของอาการก็เพียงพอ
by Auto



ขอบคุณครับ
จาก : ekkalak(ekkalak) 7/11/2555 15:42:33 [125.26.25.45]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ekkalak จาก อั้ม 125.26.24.75 อังคาร, 6/11/2555 เวลา : 11:27  IP : 125.26.24.75   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32908

คำตอบที่ 349
       สำหรับช่วงล่างก็โอเคครับยังนิ่งอยู่ ปล่อยพวงมาลัยได้ เป็นร้อยเมตร แต่ตรงฝาสูบนี่หระครับมันจะทนไหม ผมรู้จักกับคนขับรถวินแถวๆบ้าน เขาบอกว่า น่าจะประมาณ 500000กิโลมันจะเริ่มมีอาการเดินไม่นิ่ง เหมือน วาล์วรั่ว แต่ก็ยังใช้ได้ครับ รถวินบางคัน วิ่งเกิน 800000กิโลก็มีแล้วครับ แต่ของผมตอนนี้ใช้อยู่ที่107550 กิโลครับ คิดว่า ปีปีนึงผมคงวิ่งไม่เกิน 100000 กิโลครับ ถ้าเกิดถึงตอนที่ฝาสูบมันพัง ก็คงต้องเปลี่ยนใชไหมครับ และราครมันประมาณเท่าไรครับ อ้อ ของผมรถตู้ ปี 08 น่ะครับ พึ่งเอามาเดือนกว่าๆ เป็นของสำนักงาน ตร.น่ะครับ ไปเลือกดูมา เยอะมาก มีเป็นพันๆคันเลย ราคาคันละ 900000 บาท เอามาวิ่งเด็กนักเรียนแถวๆบ้านไปส่งในเมืองลพบุรีครับ


ตอบ............เพิ่งจะวิ่งมาแค่ 1 แสนโล ยังอีกนานกว่าฝาสูบจะพังครับ ถ้าใช้ถนอม ๆ ก็เกิน 5 แสนโลแน่นอน โดยที่ไม่ต้องยกฝาสูบลงมาซ่อมเลย โดยหมั่นสลับน้ำมันบ้างแล้วอย่าไปตะบี้ตะบันอัดมากเกินไป ถ้ารู้ตัวว่าจะขับเร็วมากก็ให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำมัน แล้วค่อยอัดคันเร่ง ราคาฝาสูบตอนแรกอยู่ที่ 32000 บาท วาล์วไอดีอีกตัวล่ะ 300 กว่าบาท ไอเสียตัวล่ะ 400 กว่า บาทมีคำตอบในกระทู้นี่แหละผมเอามาลงไว้แล้วลองไล่อ่านไป
ข้อมูลถึงวันปัจจุบันถ้าฝาสูบพังควรเปลี่ยนใหม่ของแท้ดีกว่าเอาไปซ่อมที่โรงกลึง เนื่องจากว่าฝาสูบแท้ 2.7 อายุการใช้งานอยู่ราว 5 แสนกิโลเมตร (ถ้าใช้แก๊ส) + - นิดหน่อย ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวถ้าเทียบกับรถรุ่นอื่นและถ้าใช้ถนอมอายุก็ยิ่งยืนยาวนานออกไปอีก
แต่ถ้าไปเอาเข้าโรงกลึงทำฝาสูบใหม่จะมีปัญหาฝาสูบรั่วที่อายุประมาณ 1 แสนโล เนื่องจากคุณภาพเหล็กที่เอามาทำบ่าวาล์วของโรงกลึงเป็นแบบชนิดทั่วไป เหมือนกับเครื่องยนต์เครื่องอื่น ๆ ทำให้ไม่สามารถทนความร้อนกับแรงอัดของเครื่อง 2.7 ได้อายุจะสั้น ไม่คุ้มกับการเปิดฝามาซ่อมครับ เปลี่ยนใหม่ทั้งฝาสูบด้วยวัสดุเดียวจากโรงงานจึงเป็นทางเลือกที่คุ้มกว่า
รถคุณควรไปถอดปั๊มอากาศซะก่อน แล้วใช้งานอีกซัก 2-3 หมื่นกิโลเมตรก็ค่อยไปเปลี่ยนชุดหล่อเย็นทั้งหมด
by Auto



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ekkalak จาก อั้ม 125.26.25.45 พุธ, 7/11/2555 เวลา : 15:39  IP : 125.26.25.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32919

คำตอบที่ 350
       อัตราการกินน้ำมันของรถปิคอัพดีที่สุดในขณะนี้เป็น

1.______ISUZU ALL NEW DMAX รุ่นปี 2012 เครื่อง 3.0 VGS AT 5 speed วิ่ง 90 km/h จะได้ความประหยัด 16.x km/l
2.______TOYOTA HILUX VIGO CHAMP รุ่นปี 2012 เครื่อง 3.0 AT 5 speed วิ่ง 90 km/h จะได้ความประหยัด 16.x km/l

ทั้ง 2 รุ่นจะต่างกันเพียงแค่จุดทศนิยมด้านหลังโดย ISUZU จะประหยัดกว่าเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนอัตราเร่งจะเฉือนกันเพียงเล็กน้อย
อ้างอิงข้อมูลจากคุณองอาจ จรุงศรี นักเลงรถกระบะเป็นผู้ทดสอบ
ซึ่งการขับรถในปัจจุบันได้ถูกฟันธงลงไปแล้วว่าต้องเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 speed จึงจะได้ความประหยัดดังนี้ในการใช้งานจริงบนท้องถนน
ยกเว้นการขับแข่งขันประหยัดน้ำมันเกียร์ธรรมดาจะได้ความประหยัดมากกว่า ถ้าผู้ขับเข้าใจการเปลี่ยนเกียร์

3. _____NISSAN NAVARA 2.5 รุ่น 4x4 174 แรงม้า 5AT speed วิ่ง 90 km/h จะได้ความประหยัด 14-15 km/l
หมายเหตุ NISSAN ทำได้เฉพาะ รุ่น NAVARA 2.5 รุ่น 4x4 4wd 174 แรงม้า 5AT speed

4._____ Ford New ranger 3.2 4wd แย่สุดในกลุ่ม จะอยู่ที่ไม่เกิน 13 km/l นอกจากใช้ Cruise control ที่ 70-80 km/h จึงจะได้เกิน 15 km/l
หมายเหตุ ถ้าเลือก 2.2 เกียร์ธรรมดาความประหยัดจะอยู่ที่ 10.5-11.5 km/l ขับ 90 km/h จึงได้ 13-14 km/l แย่กว่าการใช้ 2.2 AT และ 3.2 AT



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.121.224.50 เสาร์, 17/11/2555 เวลา : 22:20  IP : 124.121.224.50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33086

คำตอบที่ 351
       เรทการกินน้ำมันด้านบนสำหรับรถปิคอัพดีเซลตัว TOP ของแต่ล่ะค่ายในปัจจุบัน ถือว่าค่อนข้างประหยัดมาก ๆ โดยเฉพาะ ISUZU ที่แรงม้ามากกว่าเดิมแต่ประหยัดมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เทียบกับปิคอัพรุ่นเดิมของอีซูซุแล้ว ตัวนี้พอจับมาใส่ ECU ใหม่เครื่องยนต์ใหม่ พ่วงด้วยเกียร์ออโต 5 สปีดเข้าไปความประหยัดเป็นผู้นำคู่แข่งทีเดียว ส่วนคู่แข่งอย่างค่าย TOYOTA ที่เอาวีโก้แชมป์ ปรับ ECU ใหม่แล้วใส่ เกียร์ AT 5 สปีด เข้าไปเพิ่มแรงม้าอีกนิดหน่อยต้องบอกว่าการมาของเกียร์ออโต 5 speed ทำให้ความประหยัดขึ้นมาเทียบคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้ Vigo 4x4 และ Prerunner ต่างก็กินน้ำมันด้วยกันทั้งคู่ ในขณะที่คู่แข่งรายอื่น ๆ ก็ประหยัดมากใกล้เคียงเช่นกันถึงแม้รถจะแรงขึ้น อัตราเร่งดีขึ้นแต่ความประหยัดก็มากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะ Ford Ranger 3.2 ที่กินน้ำมันน้อยทีเดียว ทั้งที่มีสเปกถึง 200 แรงม้า ถ้าขับด้วย cruise control ดีกว่ารถดีเซลคอมมอนเรล รุ่นก่อนหน้านี้อีกหลายรุ่นที่กินน้ำมัน 10-12 km/l แต่แรงม้าได้เพียงแค่ไม่เกิน 140 แรงม้า
รถเบนซิน 2.7 อย่างเรา ๆ ประหยัดสู้ดีเซล เกียร์ออโต 5 speed กลุ่มนี้ไม่ได้แน่นอน ถ้าขับได้แค่ 9 km/l ก็เก่งแล้ว แต่โดยรวมเราก็ประหยัดกว่าเค้าแน่ล่ะ เพราะรถใช้แก๊สยังไงก็ถูกกว่าใช้น้ำมัน อันนี้มันเป็นสัจธรรมของทุกประเทศในโลกนี้


อ้างอิงคำตอบ ----333 ที่ว่ารถกินแก๊สผิดปกติ
มารายงานความประหยัดของผมกันบ้าง Foruner 2.7 4wd หลังจากผมเปลี่ยนมาเติมแก๊สปั๊มเดิมที่ถนนกิ่งแก้วแล้ว ปรากฎว่าความสิ้นเปลืองเฉลี่ยออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก ส่วนใหญ่จะกินแก๊ส 6.3-6.9 km/l วิ่งในเมืองไปทำงานด้วยเส้นทางเดิม การขับแบบเดิม ลองมาหลายถังแล้ว
อย่างวันนี้ตอนเย็นลองเติมแก๊สเต็มถัง ระยะทางที่วิ่งมา 271 km ไปกลับที่ทำงานในเมือง จ่ายไป 500 บาท แก๊สลิตรล่ะ 12.9 บาท สิ้นเปลืองโลล่ะ 1.85 บาทต่อกิโลเมตร หรือคิดเป็น 6.9 km/l เท่านั้น ซึ่งรถ Fortuner 2wd วิ่งก็สิ้นเปลืองประมาณนี้ไม่ได้ต่างกันเลย
ผมไม่ได้ทำการปรับแต่งอะไรหรือจูนแก๊สแต่อย่างใดทั้งสิ้น แค่เปลี่ยนปั๊มแก๊สที่เติมจากปั๊มเปิดใหม่ตรงวัดหลวงพ่อโต บางพลี สมุทรปราการ ที่คาดว่าจะมีปัญหาหลังจากผมเปลี่ยนไปเติมที่นั่นอยู่นานหลายเดือน เห็นว่ามันกินแก๊สผิดปกติ (ซึ่งรถผมจะใช้การเติมเต็มถังตลอด) ก็เปลี่ยนปั๊มกลับมาที่เดิมปั๊มที่กิ่งแก้ว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.112.102 อังคาร, 20/11/2555 เวลา : 20:11  IP : 124.120.112.102   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33096

คำตอบที่ 352
       ความประหยัดของรถ ISUZU INSIDE All new D-max

1 อีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นไฮแลนเดอร์ 4 ประตู เกียร์ออโตเมติก เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ ขับโดย “สุชาติ วรรณวิท” อาชีพเจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง คะแนนอีซูซุอินไซท์ 92 % อัตราการประหยัดน้ำมัน 24.37 กม./ลิตร

2.ตามด้วยรถหมายเลข 3 อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นวี-ครอส 4 ประตู เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ ขับโดย “ถาวร ทองอรุณ” อาชีพรับราชการผลคะแนนอีซูซุอินไซท์ 91 % และอัตราการประหยัดน้ำมัน 23.82 กม./ลิตร

3.ต่อมาเป็นรถหมายเลข 2 อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นไฮแลนเดอร์ 4 ประตู เกียร์ออโตเมติก เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ ขับโดย “ธนัญธร อังเพชร” อาชีพเจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง คะแนนอีซูซุอินไซท์ 91 % อัตราการประหยัดน้ำมัน 23.28 กม./ลิตร

4. และคันสุดท้ายรถหมายเลข 4 อีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นวี-ครอส 2 ประตู เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ ขับโดย “รณกร สุจจิตรจูล” อาชีพเจ้าของกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ มีผลคะแนนอีซูซุอินไซท์ 91 % และอัตราการประหยัดน้ำมัน 23.27 กม./ลิตร

ISUZU เค้ามามุกเดิมด้วยการแข่งขันประหยัดน้ำมันถังเดียวเที่ยวไกลถึงจีน อัตราความประหยัดของรถแต่ละรุ่นของ ISUZU ใกล้เคียงกันมาก เรียกว่าถ้าเอามาใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วระหว่างรุ่น 4x2 4x4 เกียร์ออโต เกียร์ธรรมดา เครื่อ 2.5 3.0 ความประหยัดแทบจะออกมาไม่ต่างกันเลย ประหยัดมากทีเดียว แล้วก็รถถ้าวิ่งนอกเมืองใช้เครื่อง 3.0 ขับสนุกกว่าแต่ประหยัดพอกับเครื่อง 2.5

หมายเหตุ .....ถ้าจะเน้นประหยัดจริง ๆ ถ้าขับ ISUZU ต้องเลือกรุ่น 3.0 VGS เกียร์ออโต 5 speed วิ่งทางไกลประหยัดว่าเครื่อง 2.5 และประหยัดกว่าการใช้รุ่นเกียร์ธรรมดา ทั้งหมดนี้จากข้อมูลของผู้สื่อข่าวยานยนต์ที่ทดสอบรถ ISUZU INSIDE ขับ 3.0 VGS เกียร์ออโต 5 speed ประหยัดกว่า ส่วนข้อมูลในคู่มือภาษาอังกฤษของ ISUZU INSIDE ระบุตัวเลขการประหยัดน้ำมันไว้ รุ่น 3.0 VGS AT จะประหยัดที่สุด มีตัวเลขเคลมความประหยัดมากกว่าการใช้งานรุ่นเกียร์ MT
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000138447>

 แก้ไขเมื่อ : 21/11/2555 9:58:27



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.112.102 อังคาร, 20/11/2555 เวลา : 21:00  IP : 124.120.112.102   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33097

คำตอบที่ 353
       ปล. ผมมีหมายเหตุไว้นิดนึงเรื่องความประหยัดของรถดีเซล
ไม่ใช่ว่าไปเห็นตัวเลขที่เขาขับแข่งประหยัดน้ำมันกันแล้วตัดสินใจไปซื้อรถ ISUZU ออกมาใช้กันน่ะครับ และถ้าคุณซื้อมาแล้วเกิดกินน้ำมันตามสภาพความเป็นจริงแล้วอาจจะรับบไม่ได้ จะมาด่าผมเปล่า ๆ

- สถิติที่เกิดขึ้นคือการขับแข่งขันประหยัดน้ำมัน ซึ่งทุกยี่ห้อคู่แข่งสามารถทำได้ใกล้เคียงกับ ISUZU แต่ไม่มีใครเขาอยากจัดกิจกรรมแบบนี้เพราะว่าลูกค้าที่ซื้อคนด่าตรึม เนื่องจากมันไม่ใช่การขับขี่จริง ตัวเลขการประหยัดน้ำมันจึงไม่ออกมาแบบนี้

- การขับขี่จริงจะได้ประมาณ 15 + - กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าขับด้วยความเร็วคงที่ ในรถดีเซลปี 2012 ขึ้นไป ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ5 speed ในเครื่อง 3.0 vgs

- รถดีเซลปี 2012 มีการเซท ECU ใหม่ และเกียร์ออโตใหม่ 5 speed รวมถึงปรับแต่งเครื่องยนต์บางรายการจึงทำให้ประหยัดขึ้นได้ ด้วยแรงม้าที่เพิ่มขึ้น รถดีเซลคอมมอนเรลรุ่นเก่ากว่าจึงอาจจะทำไม่ได้

- ยังไงการใช้ 2.7 จะประหยัดกว่าอยู่แล้ว เพราะรถใช้แก๊สยังไงก็ประหยัดกว่าน้ำมัน ถ้าดูคำตอบที่ผ่านมาในกระทู้นี้จะเห็นว่ามี เจ้าของโรงงานแห่งนึงใน อ. บางคล้า เขามีรถ Hilux Vigo ISUZU Dmax Nissan Navara เกือบทุกยี่ห้อ ค่าน้ำมันเดือนนึง 2 แสนบาท ความประหยัดใกล้เคียงกันหมดเพราะเอาไปบรรทุกส่งของ ไปออกรถ TATA XENON CNG มาใช้แทนจ่ายค่าแก๊ส 40,000 บาทต่อเดือน เงินเหลือ 160,000 บาท เป็นค่าซ่อมได้สบาย ถึงแม้จะซ่อมแพงกว่ามากกว่าแต่ก็คุ้ม ส่วนปิคอัพดิเซลก็ขายทิ้งหมด
ถ้าจะเอาประหยัดยังไงก็สู้แก๊สไม่ได้

- ก่อนหน้านี้มีสมาชิกเราเคยขายรถ Hilux 2.7 4wd เกียร์ AT ออกไปเพื่อจะซื้อดีเซลรุ่นใหม่กว่า แต่อย่าลืมว่าต้องจ่าย 950,000 บาทขึ้นไปเพื่อได้รถฟิลลิ่งเดิมตัว TOP 4wd ออโต เนื่องจากรถปัจจุบันราคาแพงขึ้นมามาก จ่ายแค่ 8 แสนกว่าจะได้แค่ตัว ยกสูง 4x2 หรือบางคนกลับไปเอาเกียร์ธรรมดา จะได้ฟิลลิ่งไม่เท่าของเดิม ที่เคยขับ Hilux 2.7 4wd AT แล้วจะคิดถึงห้วงเวลาเดิมที่เคยใช้ปิคอัพเบนซิน ( ไม่น่าขายไปเลย )



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พฤหัสบดี, 22/11/2555 เวลา : 08:36  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33106

คำตอบที่ 354
       สำหรับใครถ้าไม่ชอบเข้าศูนย์หลังจากหมดประกันแล้ว 1 แสนกิโลเมตรแล้ว อยากประหยัด
ระยะทั่วไปก็ทำอู่นอกหรือทำเองก็ได้ แต่ทุก 40,000 กิโลเมตร ให้กลับมาเข้าศูนย์อีกครั้งคือ หมดประกันไปแล้วเราก็กลับมาเข้าศูนย์อีกครั้งที่ระยะ 120,000 กิโลเมตร 160,000 กิโลเมตร 200,000 กิโลเมตร 240,000 กิโลเมตร อย่างนี้เป็นต้น เพื่อตรวจเช็คทั่วไปและเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด เปลี่ยนหัวเทียนและอย่างอื่นที่จำเป็น และเปลี่ยนแหวนรองชุดใหญ่ทุกรายการด้วย ค่าเช็คระยะ 1,620 บาท เหมาทุกรายการแล้ว จะถูกกว่าไปทำข้างนอก
ผมเอาเข้าไปทำหิ้วน้ำมันไปเองทุกอย่าง ยกเว้นแหวนรอง กรองน้ำมัน หัวเทียน รวมจ่ายในศูนย์ก็ 2,xxx บาท จะคุ้มค่ากว่าไปทำข้างนอก ถือว่าเป็นการเช็คครั้งใหญ่ไปในตัว

ผมยกตัวอย่างสิ่งที่เคยได้ฟังมาแบบนี้ เพื่อให้เราไม่จำเป็นต้องไปทำอู่ข้างนอก เสมอไป อย่างน้อยทำทุกรายการครั้งใหญ่ ให้ทำในศูนย์ที่หิ้วน้ำมันไปเองได้จะประหยัด ผมยกตัวอย่างเรื่องขำขำ แต่ขำขำไม่ออกให้ดังนี้

1.... ช่างข้างนอกเอาน้ำมันเฟืองหน้าไปไปใส่เฟืองท้าย
2. .....เอาน้ำมันเฟืองท้ายไปใส่เฟืองหน้า
3. ...... Fortuner 4x4 แต่เอาน้ำมันลิมิเต็ด ไปใส่เฟืองท้าย Fortuner 4wd ในไทยต้องใช้น้ำมันเกียร์เบอร์ 90
4. ...... หัวเทียนราคาเปลี่ยนในศูนย์ 60-62 บาท เปลี่ยนข้างนอกโดนค่าหัวเทียน 150 บาท ของ Denso เบอร์เดียวกัน
5...... หัวเทียนช่างข้างนอกให้ใช้ อิริเดียม แต่ของจริงรถใช้แก๊ส 2.7 ต้องใช้สเปกธรรมดา เบอร์ 20 ถ้ารถติด CNG ออกจากโรงงานต้องใช้สเปกเฉพาะ
6. เปลี่ยนทรานเฟอร์สไม่หมด
7.เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ขาด เกิน
8. ใช้น้ำมันผิดเบอร์ ผิดสเปก
9. ซ่อมรถข้างนอกค่าแรงค่าอะไหล่ จ่ายแพงกว่าในศูนย์
10. ดัดแปลงแก้ไขให้เสียหาย แล้วไม่รับผิดชอบ

หลายอย่างเจ้าของรถโทรมาก็ขำน่ะครับเวลาคุยกัน แต่บางรายนี่เจอเข้าไปก็ขำไม่ออกเหมือนกัน
ระยะปกติทำอู่ข้างนอกก้ได้ ถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนกรอง แล้วก็ปรับตั้งเบรคมือให้ตึงไว้ ไม่เกิน 5 กริ๊ก
ถ้าทุก 40,000 กิโลเมตรก็เข้าศูนย์ ทำครั้งใหญ่ไปในศูนย์เพื่อเปลี่ยนแหวนรองทั้งหมดและเช็คระยะไปซักครั้งนึงดีกว่า จะได้รู้ว่ารถเรามีผิดปกติอะไรหรือไม่ น่าจะคุ้มกว่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 23/11/2555 เวลา : 14:14  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33116

คำตอบที่ 355
      
ปีนี้เป็นปีที่ TOYOTA จะผลิตรถในไทยปีล่ะ 800,000 คัน จากจำนวนการผลิตทั้งหมด 2.2 ล้านคันทั้งหมดที่มีการผลิตทุกยี่ห้อในไทย
โดยรถที่ออกจากสายพานการผลิตของ TOYOTA จะเร็วที่สุดในโลก คือ 56 วินาทีจะมีรถออกมา 1 คัน
ส่วนในญี่ปุ่น TOYOTA เป็นอีกปีนึงที่มีการขาดทุนสะสมจำนวนมาก เนื่องจากเดี๋ยวนี้คนญี่ปุ่นซื้อรถน้อยลงมาก เพราะว่าการคมนาคมสะดวกมาก รถยนต์เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น เพราะค่าจอดรถและค่าโสหุ้ยบานเบอะ ที่ญี่ปุ่นแทบจะขายรถในราคาต่ำกำไรต่อหน่วยน้อยมาก ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่ TOYOTA ยังคงยืนยันที่จะคงสภาพโรงงานผลิตในญี่ปุ่นต่อไปแม้ว่าจะขาดทุนก็ตาม โดยกำไรจาก TOYOTA ทั่วโลกจะถูกส่งไปเลี้ยงโรงงาน TOYOTA ในญี่ปุ่นเพื่อคงสภาพโรงงานการจ้างงานต่อเนื่องนับแสนอัตราเอาไว้ การที่ TOYOTA ทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับบริษัทญี่ปุ่นในหลายบริษัทที่ยังคงสภาพเอาไว้แม้จะขาดทุนก็ตาม ยกเว้นทาง ISUZU หลังจากหลาย 10 ปีก่อนหน้านี้พวกเขาขาดทุนอย่างหนักในทั่วโลกยกเว้นในประเทศไทย ISUZU จึงตัดสินใจย้ายโรงงานและหลายส่วนในญี่ปุ่นเพื่อตั้งฐานที่มั่นในประเทศไทยแทน


ผมอยากให้เราพิจารณาในเรื่องนี้ไว้บ้าง ฟังไว้ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมด
ผมทำงานในบริษัทญี่ปุ่นเหล่านี้เช่นกัน ประเทศไทยเรามีการซื้อ รถยนต์ รถจักรยานยนต์จำนวนมาก และสินค้าอื่น ๆ แต่ล่ะปีทุกบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นแทบทุกปี บางคนใช้รถ 4-5 ปีขาย หรือซื้อมาไม่พอใจก็ขายซื้อใหม่ บางทีเป็นการบริโภคที่ฟุ่มเฟือยเกินเหตุ จริงอยู่ว่าหลายคนไม่เดือดร้อนมีฐานะจะเปลี่ยนรถใหม่ได้ทุกปี หรือทุก 4-5 ปี มันเป็นการบริโภคที่ค่อนข้างมหาศาลมากในการใช้ทรัพยากรและพลังงานจากกระบวนการผลิต อีกทั้งกำไรที่ได้หรือเงินที่คุณได้จ่ายไปเพื่อซื้อได้ถูกส่งไปเลี้ยงคนงานในญี่ปุ่นเพื่อคงสภาพการจ้างงานของเขาเอาไว้ และคนญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาให้เราเลี้ยงดูในไทย รถยนต์บ้านเราคันนึงมีราคาแพง ไม่ใช่มีราคาถูกนะครับ TOYOTA ในไทยเองก็มีกำไรต่อหน่วยไม่ใช่น้อย ๆ บริษัทอื่น ๆ ก็เหมือนกัน รถยนต์คงไม่มีราคาถูกลงอย่างแน่นอน กำไรต่อหน่วยเขายังคิดราคาเท่าเดิม ถ้าต้นทุนเพิ่มเค้าก็มาบวกราคากับลูกค้าอีกทีนึง ไม่รับภาระไว้เองหรอก ซึ่งลูกค้าอย่างเรา ๆ ก็สมัครใจซื้อรถเขาอยู่แล้ว รถยนต์คันนึง ๆ มีอายุการใช้งานนานโดยเฉพาะในกลุ่มรถปิคอัพจะคงทนยาวนานกว่าค่าซ่อมแซมจะถูกกว่ารถเก๋ง ผมอยากให้เราเลือกรถดี ๆ มาใช้แล้วก็ใช้งานกันยาว ๆ จนคุ้มค่ามากกว่าจะมาขายรถกันออกไปหรือเปลี่ยนรถกันบ่อย ๆ ในญี่ปุ่นใช้รถน้อยจริงแต่มีคนจำนวนมาก็ใช้รถกันยาวไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อย ในยุโรปคนเขาซื้อปิคอัพบ้านเราไปใช้เขาจะซื้อรุ่น TOP ดีเซล 3.0 หรือเบนซิน V 3.5 4.0 4x4 4 ประตูไปใช้งานเป็นรถเอนกประสงค์ หรือเพื่อบรรทุกของ ลากเรือ ทำกิจกรรรม เขาก็ใช้กันยาวนานมาก ๆ เหมือนกัน ไม่ได้ทิ้งรถกันบ่อย ๆ เพราะรถปิคอัพคันนึงบ้านเค้ามีราคาแพง เขาก็จะซื้อดี ๆ option ครบไปครั้งเดียวเลย แล้วก็ไปติดกันชนลากเทรลเลอร์เพื่อให้ใช้งานได้มากขึ้น ผมก็อยากให้คนบ้านเราเป็นแบบนั้น เวลาคุณซื้อปิคอัพอยากให้เลือกให้ตรงใจเราให้มากที่สุดไปลองขับให้แน่ใจว่าเราชอบรถยี่ห้อนี้แบบนี้จริง ๆ แล้วก็เลือกรถปิคอัพให้เป็นรุ่น 4x4 มาใช้งานแบบในต่างประเทศในยุโรปที่ความนิยมถูกเทไปทางปิคอัพ 4wd เกือบหมด เพราะมันใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพของรถ แม้ว่าเราจะไม่ได้เอาไปลุยท่องเที่ยวในป่าที่ไหนก็ตาม แล้วก็ใช้งานมันไปยาว ๆ ไปเลย จนคุ้มค่า ถึงแม้รถ Hilux 2.7 4x4 จะมีราคาขายต่อที่สูงกว่าก็ตามแต่ผมเองก็ไม่เคยสนับบสนุนให้ขายต่อรถกันไปง่าย ๆ เพราะรถซ่อมแซมถูกไม่จุกจิก หรือกินอะไหล่ เก็บไว้ใช้งานยาว ๆ ให้คุ้มค่าดีกว่า นึกถึงตามหลักแบบพอเพียงซื้อมาใช้แล้วก็ใช้ให้คุ้ม รักษามันให้ดี อย่าฟุ่มเฟือยกันเกินเหตุ ซึ่งนึกถึงกำไรต่อหน่วยที่เราซื้อรถป้ายแดงคันนึง ถูกส่งออกไปนอกประเทศหมดเพื่อเลี้ยงดูคนอื่น ๆ มันน่าเสียดาย เขาตั้งโรงงานในประเทศเรา แต่ก็ขนกำไรกลับหมดเหมือนกัน
รถผม Fortuner 2.7 4x4 ซื้อมามีซ่อมนอกรายการเช็คระยะก็แค่ switch ไฟ 4wd เสียทำให้ไฟโชว์ 4wd ไม่ติดไป 2 ครั้ง เสียค่าอะไหล่ครั้งล่ะ 1250 บาท นอกนั้นก็ไม่เคยซ่อมอะไรที่ผิดปกติ ส่วน Hilux 2.7 AT 4X4 ที่ซื้อมาใช้ที่บ้านกันก็ซื้อมือ 2 ที่วิ่งมาแล้ว 70,000 โล ซื้อมาก็เช็คระยะตามปกติก็ไม่เคยซ่อมอะไรนอกเหนือจากนี้อีก ก็เก็บไว้ใช้กันยาว ๆ เหมือนกัน รถปิคอัพไม่ว่าจะเลือกรุ่นใดมาใช้งานมันค่อนข้างทนไม่ได้เป็นอะไรกันง่าย ๆ
ลองดูครับไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดก็ได้ แต่ผมเห็นเรื่องนี้แล้วมันเสียดายที่หลายคนมาซื้อรถกันเป็นว่าเล่น ให้เขาเอากำไรกันแบบนี้ อยากให้ซื้อมาใช้ตามจำเป็นก็เพียงพอ สามารถใช้ได้ยาวจนคุ้มค่าได้ไม่ต้องเปลี่ยนกันบ่อย ๆ


ปีนี้ TOYOTA โบนัส 8 เดือน + 18,000 บาท ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันซื้อรถ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 23/11/2555 เวลา : 14:54  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33117

คำตอบที่ 356
       อ้างอิงคำตอบ 333 351 หลังจากมีปัญหาเรื่องปั๊มแก๊สโกงมิเตอร์กันเยอะ วันนี้มีข่าวออกมาแล้วดูในลิ้งค์ กลโกงปั๊มแก๊ส.........ตอนนี้ทำกันเยอะ

มิเตอร์จะถูกเซท 0 แต่หลังจากเปิดเติมแก๊ส ก็จะกระโดดเป็น เลข 7-8 บาทขึ้นไป โดยไม่ขยับจาก 1-2-3-4-5 ไปแต่อย่างใด โดยที่เจ้าของรถไม่สังเกตุหรือรู้ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ละคันจะถูกโกงครั้งล่ะ 5 บาทเป็นต้นไป
ปั๊มแก๊สที่โกงนี้คือ อุดมสุขบางนา
http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=57807.msg1403513;topicseen#new


ผมเชื่อว่าปั๊มแก๊สมีแบบนี้อีกหลายปั๊ม มีเป็นจำนวนมากเพราะเค้ามีกลโกงไม่ให้จับได้โดยกรมการค้าภายใน
ผมขอให้เช็คอัตราสิ้นเปลืองกันเอาเอง และหลีกเลี่ยงการเติมแก๊สจากปั๊มที่มีความผิดปกติ เพราะการไปเอาเรื่องปั๊มนั้นยาก ........ หลายคนจับผิดปกติตอนเติมไม่ได้ ให้เช๊คอัตราสิ้นเปลืองแบบผม แล้วก็จะทราบเอง

หมายเหตุตอนนี้ปั๊มที่หลวงพ่อโตวัดบางพลี ผมเลิกเข้าไปเติมแล้ว ว่าจะลองหาปั๊มอื่นที่ไว้ใจได้เป็นทางเลือกปั๊มเพิ่มเติม จะลองเก็บข้อมูลปั๊มอื่นต่อไปอีก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 58.11.147.152 อาทิตย์, 25/11/2555 เวลา : 21:57  IP : 58.11.147.152   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33137

คำตอบที่ 357
      

ผมพยายามาหาข้อมูลอยู่ว่า เพราะอะไรทำไมรถ 4x4 จึงใช้งานได้ดีกว่า สามารถฉุดลากได้ดีกว่า ในที่สุดก็ได้เสปกมาเป็นตัวเลขที่เชื่อถือได้จริง ไม่ต้องคาใจว่าเพราะอะไร เป็นการทดสอบโดยค่ายรถยนต์เอารถมาผูกสลิงไว้แล้วเข้าเครื่องวัดแรงดึง โดยนับจากแรงดึงทีกระทำได้โดยล้อเริ่มฟรี หน่วยแรงดึงเป็น kg. (ไม่ใช่น้ำหนัก)

รถขับ 2wd ที่ใช้เฟืองท้าย Differential ที่เป็นเฟืองท้ายธรรมดาในแบบวิ่งทั่วไป แรงดึง 400 kg.
ถ้ารถคันนั้นเป็น Limited แรงดึงจะเพิ่มเป็น 800 kg. หรือประมาณ 2 เท่าตัวของรถ 2wd ปกติ
ถ้ารถคันนั้นใช้ Diff lock ในการฉุดลาก จะเพิ่มแรงดึงเป็น 2,000 kg.
ถ้ารถคันนั้นสามารถปรับอัตราทดเกียร์ได้จากเดิมเราใช้ 60:40 แต่ปรับเกียร์มาทดรอบ 50:50 ก็จะเพิ่มแรงดึงให้มากขึ้นได้อีกสำหรับงานฉุดลากที่ใช้กำลังสูงของรถ 4wd จะมีเกียร์ HL ปรับอัตราทดเกียร์สำหรับงานหนัก
ถ้ารถคันนั้นเป้น 4wd จะเพิ่มแรงฉุดจากล้อหน้าได้อีก แต่อันนี้ไม่มีตัวเลข

เพราะแบบนี้จึงเป็นข้อสรุปที่หลายคนจะไม่แปลกใจว่าทำไมรถ ปิคอัพ 4wd คันนึงจึงสามารถฉุดลาก วัตถุสิ่งของที่มีน้ำหนักหรือภาระโหลดมากกว่าตัวมันเองได้ ในแบบที่โฆษณาเอาไว้มันจริงหรือไม่ ถ้าเห็นแบบนี้แล้วน่าจะหายสงสัยหรือทราบคำตอบไปแล้วนะครับว่าเพราะอะไร ส่วนรถธรรมดาก็ลากได้หรือรถเก๋งก็ลากได้ แต่การรับภาระโหลดหรือโอเวอร์โหลดจะสู้ปิคอัพ 4wd ไม่ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 58.11.147.152 อาทิตย์, 25/11/2555 เวลา : 23:39  IP : 58.11.147.152   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33138

คำตอบที่ 358
       วันนี้ 8 Dec 2012 ผมเดินทางมา จ.นครพนม

ต่อเนื่องกระทู้ 333 เรื่องกลโกงปั๊มแก๊ส
ทุกท่านอาจมีวิธีสังเกตุง่าย ๆ ด้วยตนเองเกี่ยวกับมิเตอร์แก๊ส เวลาสตาร์ทเปิดแก๊สเข้าถัง
ถ้าเป็นปั๊มที่ถูกต้อง ต้องเริ่มจำนวนเงินจากเลข 1 , 2, 3 บาทเป็นต้นไป อย่างนี้พอเชื่อถือได้


แต่ถ้าปั๊มแก๊สเริ่มจำนวนเงินจาก 5 ,6,7 บาท สตาร์ทจำนวนเงินที่ผิดปกติแบบนี้ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นแบบ คำตอบ 356 ก็อาจเป็นได้ มีการซิกแซกจำนวนเงินตั้งแต่เริ่มสตาร์ท ผิดปกติแน่นอน ปั๊มแก๊สจะได้ขั้นต่ำ 5 บาทต่อคัน วันนึงได้เป็นพันบาทเหมือนกันสำหรับแบบนี้
ผมจับสังเกตุได้แล้วว่าปั๊มดีดีก็ยังมีอยู่มาก แต่ที่ไม่ดีก็มีไม่น้อยเช่นกัน ที่ทำกันแบบนี้


ปั๊มไหนผิดสังเกตุคงต้องเลิกเติมแล้วคนขับรถเส้นทางประจำเค้าก็จะมีปั๊มประจำเหมือนกันที่ไม่โกงแก๊ส เขาก็จะเลือกเติมกันปั๊มนั้น วันหลังจะมาเล่าให้ฟังต่อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 27.55.1.181 เสาร์, 8/12/2555 เวลา : 19:13  IP : 27.55.1.181   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33203

คำตอบที่ 359
       ครั้งนี้มีโอกาสคุยกับญาติภรรยาคนนึง ญาติภรรยาผมที่เคยบอกไว้ในกระทู้ก่อน เขาใช้ Hilux Tiger 3.0 4wd เกียร์ MT รถกินน้ำมันประมาณ 8-11 km/l จากนั้นมาเขาขายรถไปและไปซื้อรถใหม่เป็น ISUZU 2.5 Hilander MT ปี 2007-2008 จากนั้นใช้ไปได้ประมาณ 3 ปี ก็ขายออกไปแล้วไปซื้อ Mitsu Triton 2.5 VG Plus เกียร์ MT ใช้ไปไม่นานไม่น่าเกิน 1 ปี สุดท้ายกขายออกไปอีก ตอนนี้เขาใช้ Hilux Vigo champ 3.0 4wd MT ที่ผมคุยกับเค้านั้น เขาบอกข้อมูลได้น่าทึ่งมากสำหรับตัวเลขความประหยัดน้้ำมัน ผมเรียงลำดับให้จากรถที่ประหยัดสุดจนไปหารถที่กินน้ำมันมากที่สุดที่เขาใช้มาดังนี้

1. Hilux Vigo champ 3.0 4wd MT กินน้ำมันน้อยที่สุด รุ่นปี 2012
2. Mitsu Triton 2.5 VG Plus เกียร์ MT กินน้ำมันน้อยรองลงมา ปี 2011
3.ISUZU 2.5 Hilander MT ปี 2007-2008 กินน้ำมันมากกว่า Triton 2.5 VG Plus
4. Hilux Tiger 4WD รุ่นเครื่อง swirl chamber


แปลกใจไหมครับ ดูแล้วน่างงกับข้อมูลไม่น้อย รถ ISUZU 2.5 commonrail Hilander กินน้ำมันมากกว่า Triton
และ Mitsu Triton 2.5 VG Plus เกียร์ MT ขับ 2wd กินน้ำมันมากกว่า Hilux Vigo champ 4wd ขับเคลื่อน 4 ล้อ
กลายเป็นว่า Hilux Vigo champ 3.0 4wd รุ่นปี 2012 เครื่องใหญ่กว่า อัตราเร่งดีกว่า แต่กินน้ำมันน้อยกว่า ทั้งที่เป็นรถโฟร์วีลแต่ประหยัดกว่าใช้รถ 4x2 ที่เครื่องเล็กกว่า สำหรับตัวเลขความประหยัดนั้นเขาไม่ได้วัดแน่นอนเพียงแค่เป็นการวัดอย่างหยาบ ๆ แบบชาวบ้านทั่วไปคือสมมุติ Triton เติมน้ำมัน 1000 บาท แต่ Champ คันนี้เติมน้ำมัน 9xx บาท จะแตกต่างกันเล็กน้อย


อีกสิ่งนึงที่ผมเคยบอกมา พี่คนนี้อดีตเป็นข้าราชการท้องถิ่นปัจจุบันมาทำอาชีพเกษตรกรเต็มตัวแล้ว สาเหตุที่เปลี่ยนรถ
1. ตังค์เยอะเลยเปลี่ยนจาก Hilux Tiger 4wd รุ่นที่ยังไม่เป็นคอมมอนเรล
2. ISUZU 2.5 Hilander เครื่องเล็กอืดเวลาบรรทุกหนักกับพืชผลการเกษตร รถกินน้ำมัน.......ไม่ได้ประหยัดเลย ข้อนี้จริงแท้ไม่ต่างจาก Tiger คันเก่า เมื่อบรรทุกวิ่งทางขรุขระไม่ชอบเลย แต่ถ้าวิ่งทางเรียบเรื่อย ๆ จะดี
3.Mitsu Triton 2.5 VG Plus สีขาวที่ซื้อมาด้วยความอยากได้ แต่ก็เจ็บปวดที่สุดเหมือนกันเพราะใช้ได้ประมาณ 6เดือน ถึง 1 ปีจำใจขายขาดทุนออกไปแล้ว เพราะเวลาบรรทุกหนักยังไม่น่าประทับใจ แล้วเอาไปวิ่งทางลูกรังเข้าหมู่บ้านกับถนนคอนกรีตในหมู่บ้านจะมีกรวดทรายลูกรังผสมอยู่ ล้อหน้าไถลคุมไม่อยู่ เอาไปลากรถหรือใช้ลากเทรลเลอร์พืชผลการเกษตรไม่ได้เลย ล้อจมประจำ

สุดท้ายเขาขายออกหมดแล้วหันกลับมาซื้อรถ Hilux Vigo champ 3.0 MT 4wd เค้าบอกผมว่าเหมาะที่สุดแล้วเปลี่ยนมา 2 ยี่ห้อ 2 รุ่น ตอนที่เขาขาย Tiger 4wd ออกไปก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ 4wd อีกเพราะเปลืองน้ำมันเปล่า ๆ เลยซื้อ ISUZU มาแต่ไม่ประหยัดอย่างที่คิด และใช้งานไม่ได้เต็มที่ออกแนวรถเก๋งมากกว่า พอซื้อ Triton 2.5 VG 2wd มากลับเอามาใช้งานจริงไม่ได้ สุดท้ายมาลงตัวที่รถ Hilux Vigo champ 3.0 4wd นี่แหละ เขาบอกชาวบ้านต่างจังหวัดใช้ ปิคอัพ TOYOTA 4wd เหมาะสมที่สุดแล้ว เขาบอกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่ารถกินน้ำมันน้อยกว่า รุ่นที่ผ่านมาอีกแน่ะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 27.55.8.90 อังคาร, 11/12/2555 เวลา : 23:42  IP : 27.55.8.90   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33206

คำตอบที่ 360
      
ผมขออนุญาตบังทะเบียนรถไว้หน่อยแต่ให้รู้ว่าเป็นทะเบียนจังหวัดนครพนม

เขาบอกว่าคนต่างจังหวัดใช้รถ ปิคอัพโตโยต้าโฟร์วีลขับเคลื่อน 4 ล้อ นี่เหมาะที่สุดแล้ว หลังจากใช้รถยกสูงขับ 2wd มา2 คัน ใช้งานได้ไม่คุ้มค่าเต็มที่ ผมบอกที่บ้านผมก้มีน่ะครับ Hilux 4wd แต่ของผมเป็นรุ่นเบนซิน รถคันนี้เขาใส่กันชนลากเทรลเลอร์เพิ่มเติมด้วย ไม่ได้ใส่ไว้เท่ห์ ๆ แต่เอาไว้ใช้งานจริงในการทำมาหากินเพื่อลากเทรลเลอร์ บรรทุกเครื่องปั่นไฟและพืชผลการเกษตร รถเขาเดิม ๆ ทั้งคันยางติดรถใช้ของเดิมที่ติดรถมา คือ Bridgestone Dueler HT 840 ดอกยางสึกไปเกือบครึ่งนึงแล้วทั้งที่ใช้งานได้เพียง 20,000 กิโลเมตรเท่านั้น (เป็นยางติดรถที่ห่วยมากอีกรุ่นนึงของ บริดสโตน) ถ้าดอกยางหมดคราวนี้คงไม่ใช้ยี่ห้อนี้อีกแล้วเพราะเขาใช้งานหนักด้วย ส่วนบันไดข้างรถสังเกตุจากรูปด้านบนบันไดข้างยุบไปแล้ว ผมเลยแนะนำว่าให้ไปเปลี่ยนบันได้เหล็กมาใช้แทนบันไดเดิมให้ถอดออก ก็แนะนำให้ไปใส่ยางกันโคลนหน้ารถเพราะวีโก้ตัวที่ขายในไทยไม่มียางกันโคลนมาให้เพราะ option โดนตัดไป ผมให้เขาจด Part no. ไปซื้อจากศูนย์โตโยต้านครพนมที่ออกรถมานั่นแหละเอามาใส่ได้เลย ไม่งั้นโคลนจะฝังเข้าไปในคิ้วล้อ


คนแถวนี้เขาไม่ใช้ปิคอัพเบนซิน Hilux 2.7 เหมือนอย่างเรา ๆ น่ะครับ เพราะว่าปั๊มแก๊ส LPG อยู่ห่างออกไป 70 กิโลเมตร อยู่ที่ท่าแร่ สกลนครโน่นเลย อีกที่นึงอยู่ฝั่งตลาดท่าอุเทน นครพนมซึ่งอยู่คนล่ะโซนกันระหว่างทางถึงบึงกาฬไม่มีปั๊มแก๊สเลย จึงไม่สะดวกสำหรับคนพื้นที่ถ้าจะใช้รถติดแก๊สแต่ถ้าเป็นคนมาจากที่อื่นไม่มีปัญหากับการใช้รถ เดินทางในการเติมแก๊ส






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พฤหัสบดี, 13/12/2555 เวลา : 18:15  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 33221

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 12 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,20 เมษายน 2567 (Online 5816 คน)