คำตอบที่ 91
       ร้านอาจารย์รุ่ง ยังเปิดมั้ยครับ หรือว่าช่วงนี้ปิดครับ ผลกระทบจากน้ำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 92
       แจ้งข่าวดีน่ะครับ

จารย์รุ่งกลับมาเปิดร้านเต็มตัวแล้วนะครับ หมดสัญญากับบริษัทอื่นแล้ว และตอนนี้ก็ได้ปรับปรุงร้านใหม่แล้วเพื่อรองรับลูกค้า
สามารถโทรไปนัดเวลาได้เลย

=================================================================

แจ้งข่าวร้ายนะครับ
เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมหัวไทร บางคล้า ปีนี้ รุนแรงมากกว่าปี 54 อีกนะครับ ท่านที่จะไปหาอาจารย์รุ่งตอนนี้อย่าเพิ่งไปนะครับ เพราะจะขับรถฝ่ากระแสน้ำไปไม่ไหว รอน้ำลดแล้วค่อยไป ก็ได้ อาจารย์กลับมาเปิดร้านเต็มตัวแล้ว พวกเราทุกคนสบายใจได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 93
       เอาภาพสวย ๆ ของ Hilux 2.7 vvti 4x4 ตอนเดียว single cab ฉบับเวอร์ชั่นที่ขายต่างประเทศให้ดูครับ พอดีไปเปิดเจอในยูทูปอีก

รถแบบนี้บ้านเราทาง TOYOTA THAILAND ไม่นำมาขายบ้านเรานะครับ เพราะบ้านเราไม่มีตลาดรองรับ ลูกค้าไม่ซื้อ
http://www.youtube.com/watch?v=ZZ7SEg-eiCI>

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 94
       แจ้งข่าวนะครับ
พอดี 3-4 วันมานี้ได้มีโอกาสพบกับสมาชิกหลายท่าน และมีอยู่ 2-3 ท่านถามถึงว่ามีรถ Fortuner 2.7 Exclusive 4wd fulltime เข้ามาขายในตลาดรถ ประมาณไม่กี่ชั่วโมงและมีคนคว้าไปครองแล้ว ผมตอบให้ดังนี้ว่า
รถ Fortuner 2.7 Exclusive 4wd fulltime คันนั้นมีพี่คนนึงที่ผมรู้จักและมาซื้อของเหลวจากผมไปบ่อย ๆ เป็นคนซื้อรถคันนั้นไป อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เอง พี่ท่านนี้เคยเล่นรถ Jeep Grand cherokee V8 มาก่อนถึงแม้รถจะขับดีมาก แต่ว่า เป็นรถที่ซ่อมบ่อยและจุกจิกมาก ซ่อมแพงมากอู่ซ่อมก็มีน้อย เลยขายไปและหันมาเล่นรถ 2.7 ไม่นานมานี้เอง พอมาเล่นรถ 2.7 แล้ว รถที่เขามีตอนนี้คือ
1. Hilux 2.7 Smartcab AT
2. Fortuner 2.7 2wd เพิ่งซื้อมือ 2 เข้ามา 1 ปี
3. Fortuner 2.7 Exclusive 4wd fulltime เพิ่งซื้อมือ 2 เข้ามา

ถือว่าเป็นแฟนพันธ์แท้รถ 2.7 อีกคนนึงทีเดียว
เมื่อวันอาทิตย์ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผมเอาน้ำมันเครื่องไปส่งที่บ้านพี่เขา ซึ่งกำลังเตรียมตัวเดินทางไปท่องเที่ยวเชียงใหม่ ด้วยรถคันใหม่ของที่บ้าน ผมถามว่า รถ Fortuner 2.7 4wd ฟิลลิ่งขับเป็นไง เขาบอกต่างกันเยอะ เขามีรถ 2.7 อยู่หลายคันจึงเปรียบเทียบกันได้


ฟังอีกที " เขาบอกต่างกันเยอะ "


ตอนนี้คงอยู่ระหว่างเดินทางขับรถท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ ขอให้เดินทางสวัสดิภาพครับ
ไลฟ์สไตล์พี่เขาก็คงเหมือนหลาย ๆ ท่านในนี้ ชอบขี่จักรยานเช่นกัน และก็ชอบขับรถท่องเที่ยวเหมือนกัน เผื่อทุกท่านอาจได้เจอ พบปะสังสรรค์กัน
อีกทั้งพี่เขารับจำนอง ฝากขายบ้านและที่ดิน เผื่อใครอยากใช้บริการ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 95
       Mitsubishi 2.5 4X4 Single cab ตอนเดียวสำหรับการใช้งานหนัก รุ่นนี้ เป็นรถที่ไม่โฆษณาจริง ๆ แต่ก็ขายได้แบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ อยากได้ต้องจองเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์พิเศษอะไร กลุ่มลูกค้าที่ต้องการเอาไปบรรทุกหนักต้องใช้ตัวนี้เท่านั้น โดยเฉพาะคนที่จะเอาไปใช้บรรทุกพืชผลการเกษตร หรือบรรทุกงานหนักพิเศษกว่าใคร สู้งานหนักทนทรหด ต้องรถตอนเดียว 4x4 Chassis สำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวนี้
แต่ยังดีกว่ารุ่นก่อนหน้าของ Mitsu Triton 3.2 เกียร์ออโต Single cab ตอนเดียว ที่ไม่มีการโฆษณาเลย ว่ารถออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักพิเศษกว่ารถทั่วไป ประชานชนและลูกค้าทั่วไปกว่าจะรู้ตัวว่ามีรถแบบนี้ขายด้วย Mitsu thailand ก็ประกาศเลิกให้สั่งจองแล้ว

แบบเดียวกับตอนที่ Hilux 2.7 4AT 4WD ออกมาขายไม่มีการทำตลาดเช่นกัน กว่าคนทั่วไปจะรู้ก็เลิกผลิตแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 96
       ตัวเก่า Mitsu Triton 3.2 4x4 4wd Single cab เกียร์ออโตแบบ 4 speed เพื่อสู้งานหนักโดยเฉพาะ ( เลิกให้สั่งจองไปแล้ว )
จัดเป็นรถที่เซทออกมาได้ดีมาก ๆ แต่ไม่มีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ชาวบ้านลูกค้าทั่วไปจะไปทราบได้อย่างไร ว่าซื้อรถตัวนี้แล้วจะดีกว่ารถรุ่นอื่นอย่างไร แถมออกมาเป็นเกียร์ออโต เถ้าแก่เจ้าของกิจการ ชาวสวนยาง ก็ไม่ทราบว่ามันดีกว่าเกียร์ธรรมดาอย่างไร จึงต้องเลิกทำตลาดไปอย่างน่าเสียดาย

รถตัวนี้เจ้าของคนใดมีไว้ในครอบครอง ไม่มีการปล่อยออกตลาดมือ 2 เลย ขนาดซุ่มดูมาหลายปีแล้ว ยังไม่เห็น จัดเป็นรถเฉพาะที่คนในตลาดซุ่มรอตามหามากที่สุดรุ่นนึง ในเวลานี้ อาจเป็นเพราะราคาไม่มีกล้าเปิด + ตัวรถที่ถือว่าใช้งานได้ดี แบบไม่น่าจะต้องมาปล่อยขาย เพราะมีเอกลักณ์เฉพาะด้าน ไม่เหมือนรถอื่น ๆ ในตลาด ทำให้ไม่จำเป็นต้องปล่อยออกมาเพราะหารุ่นอื่นแทนไม่ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 97
       ตัวของ Mitsu 2.4 เครื่อง 4G54 เบนซิน 128 แรงม้า ตัวนี้ที่สอบถามเพื่อนที่บริษัทเดียวกันหลังจากใช้งานมา 1 แสนกิโลเมตร ค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะที่ศูนย์บริการ ต้องเปลี่ยนอะไหล่ชุดใหญ่ รวมถึงสายพานราวลิ้น มีค่าใช้จ่าย 16,000-18,000 บาท ยังไม่นับรวมปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ฝาหม้อน้ำ ท่อน้ำ ที่ทางลูกค้า Mitsu ส่วนใหญ่ไม่ยอมเปลี่ยนกัน แต่ถ้าคิดราคาเปลี่ยนทั้งหมดคงขนลุกทีเดียว

นับว่าระยะทางการใช้งานที่เท่ากัน การซ่อมบำรุงรถอย่าง Mitsu 2.4 มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า TOYOTA 2.7 มาก
เพราะถ้าเทียบกันแล้ว 2.7 ไม่ต้องเปลี่ยนสายพานราวลิ้น เนื่องจากใช้โซ่ราวลิ้น อีกทั้งอายุการใช้งานปั๊มน้ำวาล์วน้ำจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 แสนกิโลเมตร เวลาเปลี่ยนทั้งหมดยังมีค่าใช้จ่าย ที่ถูกกว่ายี่ห้ออื่นรุ่นอื่นมาก เช่น ปั๊มน้ำ 2150 ท่อน้ำ 1660 วาล์วน้ำ 850 ฝาหม้อน้ำ 280 ท่อยางน้ำ 2xx Clamp รัดท่อ 80 บาท ซึ่งทาง Mitsu thailand เองวางตำแหน่งการซ่อมบำรุงรถยนต์ไว้ผิด เพราะ 2.4 ปิคอัพต้องวางพื้นฐานค่าอะไหล่ ค่าซ่อมให้ถูกตามสภาพตัวรถป้ายแดง การตั้งราคาเพื่อให้สู้กับคู่แข่งได้ แต่จากการใช้งานพบว่าการใช้รถ Mitsu มีค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร สูงกว่า TOYOTA 2.7 มาก ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้ว Mitsu 2.4 มีข้อเด่นกว่าเพียงเรื่องเดียวคือตอนซื้อป้ายแดงราคาถูกกว่า Toyota 2.7 แต่หลังจากนั้นไม่พบข้อเด่นอื่น ๆ ที่เหนือกว่าเลย คนใช้ Mitsu 2.4 ต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามากในระยะทางที่เท่ากัน

ถูกต้องครับ ซื้อตอนป้ายแดงราคาถูกอย่างเดียว จาก : Leo mobile(Leo mobile) 14/11/2556 15:51:26 [101.109.46.43]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 98
       การซ่อมบำรุง 2.7 เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ค่ายเดียวกันของ TOYOTA กลับพบข้อแตกต่างกันคือ
1. ถ้าเป็นดีเซล 3.0 คอมมอนเรล ต้องเปลี่ยนสายพานราวลิ้นหน้า ราคาค่าใช้จ่าย เกือบ 1 หมื่นบาท ในการเช็คระยะ 1.5 แสนกิโลเมตร โดยยังไม่รวมค่าเปลี่ยนชุดหล่อเย็นปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ท่อยางน้ำ
2. ลูกค้าที่ใช้ 3.0 ดีเซล ไม่ยอมเปลี่ยนปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ตามระยะเวลา ที่กำหนด ทั้งที่ การเสื่อมสภาพ เหมือนกันกับเครื่องยนต์เบนซิน หรือมากกว่าเพราะความร้อนเครื่องดีเซลสูงกว่ามาก บ่อยครั้งที่หลายคนพบปัญหาปั๊มน้ำรั่วก่อนอายุ 1.5 แสนกิโลเมตร สำหรับเครื่องดีเซล แต่ที่น่าแปลกคือไม่ยอมเปลี่ยนปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ตามกำหนด เมื่อครบระยะเปลี่ยนสายพานราวลิ้น ถ้ารวมค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชุดนี้เข้าไปด้วย เครื่อง 3.0 จะมีค่าเซอร์วิสที่แพงกว่า เครื่องเบนซิน 20-25 % เพราะปํมน้ำเครื่องดีเซล 2350 บาท แพงกว่าเครื่องเบนซิน ที่ราคา 2150 บาท นอกจากนี้วาล์วน้ำเครื่องดีเซลราคาแพงกว่าเพราะสเปคแตกต่างกันอันเนื่องมาจากรับความร้อนที่สูงกว่า แต่เครื่องดีเซลไม่มีฝาหม้อน้ำต้องเปลี่ยนเพราะเป็นระบบปิด
3. ระยะราว ๆ 1.5 แสนโล + - ขึ้นไป ลูกค้า 3.0 ดีเซลคอมมอนเรล ส่วนใหญ่ต้องมีภาระซ่อมบำรุง หัวฉีดดีเซล SCV VALVE EGR ปั๊มเชื้อเพลิง ถ้าเป็นเบนซิน 2.7 ระยะประมาณนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องซ่อมระบบแก๊ส เปลี่ยนหัวฉีด เปลี่ยนหม้อต้ม ต้องมีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 99
       แนวการตลาดของ Mitsu Thailand ที่วาง MITSU PAJERO SPORT V6 3.0 ทีแรกไว้ผิดพลาด ด้วยการทำรถออกมาเป็นV6 3.0 เบนซิน แต่ให้มาเพียง2wd อีกทั้ง Option ของรถก็ให้มาน้อยมาก ไม่ได้ใส่มาให้แบบสุดสุด ๆ ในระบบขับเคลื่อน 4wd จึงไม่ได้แตกต่างกับ Pajero รุ่นดีเซลอื่น ๆ ที่ขายในตลาดของตัวเองเลย พาลทำให้ลูกค้าหายไปมากแถมยังวางแนวกลุ่มลูกค้าไว้กลุ่มเดียวกันเอง แย่งชิงตลาดกันเอง คือ ทำรถ PPV ให้กลายเป็นรถแนวครอบครัว เป็นรถแนว Family มากกว่าที่จะกลายเป็นรถ SUV แบบฉบับเต็ม ตามชื่อเสียงที่ตนเองทำไว้ในสนามดาการ์แรลลี่ ส่งผลให้การตลาดรถของตัวเองไม่ค่อยขยับ เพราะกลุ่มสไตล์ Family man ทั้งหลายต้องการรถที่นั่งสบายสำหรับครอบครัวเท่านั้น มี Option พอประมาณ แต่ภายในเรียบหรู ไลฟ์สไตล์ กลุ่มเหล่านี้จะซื้อเฉพาะรถป้ายแดงและขายออกในเวลาที่กำหนดของตัวเอง เน้นทำกิจกรรมวันหยุดกับครอบครัว ไม่ได้รวมเป็นกลุ่มในไลฟ์สไตล์คนที่ชอบรถแต่อย่างใด แน่นอนว่ากลุ่มนี้อาจไม่ได้ชอบรถสไตล์ PPV แต่ชอบ MPV มากกว่า และคนที่ชอบรถสไตล์ SUV ระดับหรูจะไม่ลงมาเล่นกับรถกลุ่มตลาดล่างแบบนี้ เพราะ ระบบ 4wd ก็ไม่มีและตัวรถก็ option น้อย เน้นไปเพื่อความบันเทิงในครอบครัวมากกว่า ไม่ตอบโจทย์ลูกค้าเดิม จะผิดแผกกับกลุ่มคนที่รักใน Pajero เดิมในสไตล์แรลลี่ดาการ์
ตอนนี้ Mitsu V6 3.0 promotion ส่วนลดถึง 2 แสนบาทเลยทีเดียว เพื่อดึงยอดขายระบายสต๊อกรถรุ่นนี้ แน่นอนว่าคงฉุดราคามือ 2 คงรุ่นนี้ร่วงลงไปอีก เพราะลูกค้าไม่ต้องการ

ทำไมอ่านเกมส์ออกขนานี้ จาก : toncity(toncity) 24/10/2556 21:13:21 [180.183.60.17] Mitsubishi Thailand เดินเกมผิดไปเองเข้าใจว่าคนซื้อรถเบนซิน PPV หวังแค่ติดแก๊สอย่างเดียว จาก : Auto.(Auto.) 25/10/2556 0:09:46 [124.120.177.87] Mitsuไปวางกลุ่มลูกค้าผิดเองที่เป็นพ่อบ้านใช้งานในครอบครัว ซึ่งตลาดกลุ่มนี้มันไม่มีทางเติบโตไปกว่านี้ จาก : Auto.(Auto.) 25/10/2556 0:14:41 [124.120.177.87] ผมเองยังเสียดายไม่มีขับ4 จาก : paperbird(paperbird) 18/11/2556 11:40:43 [125.24.230.120]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 100
       แจ้งข่าว

น้ำท่วมลดแล้ว ร้าน จารย์รุ่งกลับมาเปิดร้านเต็มตัวแล้วนะครับ หมดสัญญากับบริษัทอื่นแล้ว และตอนนี้ก็ได้ปรับปรุงร้านใหม่แล้วเพื่อรองรับลูกค้า สามารถโทรไปนัดเวลาได้เลย ใครจะไป ติดตั้งแก๊ส ซ่อมแซมแก๊ส ตรวจเช็ค ซ่อมแซมรถยนต์ เครื่องยนต์ ช่วงล่างสามารถนัดเวลาไปทำได้แล้วนะครับ



 แก้ไขเมื่อ : 30/10/2556 0:20:43

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 101
       เมื่อวานคุยกับพี่เดชาอยู่การบินไทย พี่เขาซื้อ รถ 2.7 เป็นคันที่ 2 แล้วคันแรกที่มีเป็น Fortuner 2.7 4x4 ตอนนี้ไปเอา Hilux มาใช้อีกคัน
1.Fortuner 2.7 4x4
2.Hilux 2.7 4x4


************************************************

ปัญหาที่เจอ คล้าย ๆ กัน สำหรับรถเกียร์ธรรมดานี่ก็ไม่ใช่คันแรกหรือครั้งแรก ที่เจอ แต่เริ่มมีมาหลายคันสำหรับเคสแบบนี้
คือการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ธรรมดา ตามปกติรถที่ไม่เข้าศูนย์แต่ไปเปลี่ยนน้ำมันข้างนอกเองนั้น โดยที่ไม่ได้ใช้น้ำมันของโตโยต้า บางคันจะมีอาการเกียร์เข้ายาก ช่วงนึงหรือช่วงเวลาใดช่วงเวลานึง อาการดังกล่าวก็จะหายไป การแก้ไขต้องเปลี่ยนน้ำมันของเดิมทิ้งไป แล้วใช้น้ำมันกียร์ Toyota 75w-90 ตามคู่มือ เท่านั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 102
       ให้ดูนะครับ รถ Hilux 2.7 4x4 ที่ขายที่ดูไบ UAE
มี 2 เวอร์ชั่น เป็นเกียร์ธรรมดากับเกียร์ออโต ราคาต่างกันพอสมควร ไม่รู้หน่วยค่าเงินเป็นอะไร


Toyota Hilux 2.7 Petrol, 4x4, ABS, MT - 22.400$ EX Dubai,
Toyota Hilux 2.7 Petrol, 4x4, ABS, AT - 25.900$ EX Dubai

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 103
       ภายในเวอร์ชั่น Hilux 2.7 4x4 MT

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 104
       ภายในเวอร์ชั่น Hilux 2.7 4x4 AT

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 105
       Hilux ทุกคันที่ส่งต่างประเทศมันต้องมี Swicth AC พร้อมกับแอร์ที่มีระบบ Heater ทำความร้อน

แต่ทำไมในเมืองไทยทุกคัน มันไม่มีเลยว่ะเนี่ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 106
       ภายในตัว Hilux 2.7 4x4 MT โฉม Vigo champ บ้านเรา ตัวส่งนอก ตัวราคาประหยัดที่สุด ด้ามเกียร์ยังกับรถ LN 106 สมัยก่อน
มันยังมี ปุ่ม Swicth AC พร้อมกับแอร์ที่มีระบบ Heater ทำความร้อน


บ้านเรา Option มันหายไปไหมหมดว่ะเนี่ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 107
       Hilux 2.7 4x4 ผลิตในไทยโรงงาน TOYOTA บ้านโพธฺ์ แต่คนไทยไม่ได้ใช้และไม่มีโอกาสได้ซื้อป้ายแดงในอนาคต
เพราะเค้าไม่มีโครงการจะนำมาขายใหม่อย่างแน่นอน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 108
       ดูภาพนี้เพื่อยืนยันอีกที .......................................

ปัจจุบันทางโรงงาน โตโยต้าบ้านโพธิ์ ยังผลิตขาย Fortuner 2.7 AT 4x4 ขายเหมือนเดิม
แต่ในประเทศไทย ไม่มีโอกาสได้ซื้อใช้อย่างแน่นอน แถมเซลขายรถบ้านเราก็ มาหลอกต้มคนดู เครื่องเบนซิน 2.7 ไม่มีแรงเพียงพอจะเอามาใช้งาน 4x4 และโตโยต้าก็ไม่มีผลิตแล้ว แหกตากันทั้งผู้ซื้อผู้ขาย

ลูกค้าคนไทยก็เชื่อว่าไม่มีแล้ว ใช้รถแค่ในเมือง ซื้อ Fortuner เอาขับ 2wd ก็ได้ ตลกไม๊ ราคาแพงกว่ารถปิคอัพไม่มากนัก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 109
       ดูดูชัดชัด Fortuner 2.7 AT 4x4 โฉม Champ ตัวปัจจุบัน ส่งขายต่างประเทศเหมือนเดิม

ที่ไม่มีเหมือนเดิม คือ Fortuner ที่ขายในไทยกลายพันธ์เป็นรุ่น 2.7 AT 2wd option น้อย แต่เน้นไปเบาะหนังปรับไฟฟ้า เครื่องเสียง เนวิเกเตอร์แถมตั้งราคาขายแพงกว่ารุ่นเดิม ๆ อีกเป็นแสนบาท
สมรรถนะรถด้อยลงกว่าเดิม มีที่เดียวในเมืองไทย ที่ลูกค้าคนไทยต้องการแบบนี้ ขอแค่รูปทรงรถยนต์ การใช้งานภายใน และรถราคาแพงเอาไว้อวด เพื่อนฝูง ว่าซื้อรถราคาเป็น ล้านบาท
แต่สมรรถนะ ระบบความปลอดภัย การใช้งานรถไม่เคยสนใจ


หมายเหตุ ลูกค้าคนไทยชอบเหลือเกิน รถต้องเป็นเบาะหนัง มีระบบ GPS เครื่องเสียงอย่างดี ทั้งที่ของเหล่านี้มันติดเพิ่มเองทีหลังได้ราคาถูก
แต่เวอร์ชั่นที่ส่งเมืองนอกในนี้แค่เบาะผ้าและมีของที่จำเป็น จริงๆ ที่มันติดทีหลังไม่ได้หรือยากกว่าหรือแพงกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 110
       Option มีเท่าที่จำเป็นจริง ๆ แต่เน้นไปเรื่อง สมรรถนะความปลอดภัย
มาดู Option ที่จำป็นกันบ้าง ในขณะที่ลูกค้าคนไทยบ้านเราไม่เคยดูหรือให้หความสำคัญกับมันน้อยมาก กว่ารูปทรงของรถ และสีของรถ เป็นเรื่องสำคัญมากกว่า

Specifications ฉบับเวอร์ชั่นต่างประเทศ
Toyota Fortuner 2.7 AT, 4x4, AW, 2 airbags, Rear parking sensors, etc...
NEW TOYOTA FORTUNER 2013 MODEL

•4 SPEED AUTOMATIC TRANSMISSION
•DIMENSIONS (mm): 4705X1840X1795
•ENGINE 2TR-FE, 2.7L, 2694cc, 4 CYLINDERS, 158 HP
•SUSPENSION FRONT SUSPENSION: DOUBLE WISHBONE
•REAR SUSPENSION: 4 LINK WITH LATERAL ROD
•TYRES 265/65R17, 7.5J ALLOY, BRIDGESTONE
•FUEL TANK CAPACITY 80 LITRE
•AUDIO - AM/FM/MP3/CD PLAYER/USB/AUX/BLUETOOTH WITH 6 SPEAKERS
•DUAL AIR CONDITIONER WITH HEATER
•DUAL AIR BAGS
•POWER WINDOWS WITH AUTO DOWN FOR DRIVER
•CENTRAL LOCKING
•KEYLESS ENTRY
•OPTITRON SPEEDOMETER
•TACHOMETER
•INSIDE REARVIEW MIRROR-ELECTROCHROMIC
•FRONT SEAT - SPORTS, SLIDE, RECLINING WITH VERTICAL ADJUSTER FOR DRIVER ONLY
•REAR SEAT - 6/4 TUMBLE SLIDE, 3RD SEAT - SPACE UP 2
•SUN VISOR - DRIVER WITH HOLDER AND PASENGER WITH MIRROR
•4 SPOKE URETHANE + SILVER STEERING WHEEL WITH AUDIO SWITCHES
•POWER STEERING
•MANUAL TILT STEERING COLUMN
•MULTI INFORMATION DISPLAY - CLOCK ONLY
•ILLUMINATED ENTRY SYSTEM
•GLOVE BOX WITH KEY
•CIGARETTE LIGHTER WITH ILLUMINATION
•ASHTRAY
•CUP HOLDERS
•FRONT PERSONAL LAMP
•ANTI THEFT SYSTEM - IMMOBILISER
•FABRIC SEATS
•FLOOR MATS
•ABS
•GREEN LAMINATED WINDSHIELD GLASS
•POWERED COLORED AND RETRACTABLE DOOR MIRRORS WITH INDICATORS
•COLOURED FRONT AND REAR BUMPERS
•FRONT GRILLE - FOR SUV
•CHROME DOOR HANDLES
•PROJECTOR TYPE HALOGEN HEADLAMPS WITH LEVELLING
•FRONT FOG AND DRIVING LAMP
•HIGH MOUNT STOP LAMP
•REAR WINDOW WIPER
•INTERMITTENT WIPER WITH TIME ADJUSTMENT AND MIST
•REAR WINDOW DEFOGGER
•FRONT AND REAR MUDGUARDS
•FRONT AND REAR TOWING HOOKS
•SIDE STEP (WIDE TYPE)
•REAR SPOILER
•MUFFLER CUTTER
•REAR PARKING SENSORS

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 111
       กรรมของคนไทยทำเองแท้ๆแต่ไม่ได้ใช้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 112
       เมื่อวานนี้น้องชายเอารถ Hilux 2.7 4x4 ไปเปลี่ยนผ้าเบรคหน้ามา ค่าใช้จ่าย 1300 บาท
ราคาเปลี่ยนผ้าเบรค อะไหล่ประมาณ 1000-1100 บาท ค่าแรงในการเปลี่ยน 200-300 บาท ทำที่วัดดอนทอง แปดริ้ว ฉะเชิงเทราครับ
ช่างวิ่งไปซื้ออะไหล่เองที่ร้าน ระบุให้ใช้ผ้าเบรค Girling ราคาย่อมเยาว์
ฟิลลิ่งการเบรคบอกว่าเหมือนเดิม ไม่ต้องปรับตัวแต่อย่างใด แต่ยังไม่มีโอกาสลองขับขึ้นเขาลงเขาว่ามีความแตกต่างด้านฟิลลิ่งกับของแท้หรือไม่

******************************************************************

เมื่อวานนี้เขาเปลี่ยนโช๊คหลังมาด้วย เนื่องจากของเดิม MX6 หมดสภาพไปนานแล้ว ยี่ห้อนี้บรรทุกหนักไม่ได้ เปลี่ยนมาใช้ของคายาบ้าแดง KAYABA SUPER RED ราคา 1500 บาท ค่าเปลี่ยนไม่เสีย เขาบอกฟิลลิ่งแข็งมากกกก ยังกับขับรถ 10 ล้อ เห็นทีคู่หน้าจะใช้ คายาบ้าเรดเขาบอกไม่ไหวแน่แข็งมากเกินไปไม่ชอบ ราคาคู่หน้าของ คายาบ้าเรด 1800 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 113
       รถเยอะดันยอดใช้เบนซิน 10 เดือนแรกเพิ่ม 8%-ปั๊ม LPG ยังโตไม่หยุด

**************************************************************************
กรมธุรกิจพลังงานเผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 10 เดือนแรกโตขึ้นทุกกลุ่ม โดยเบนซินเพิ่มขึ้นถึง 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนเหตุจำนวนรถเพิ่ม ดีเซลเพิ่ม 2% คาด ศก.ชะลอ ขณะที่ปั๊ม LPG ต.ค.ขยับเป็น 1,702 แห่ง

นายสมนึก บำรุงสาลี อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 10 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) 56 พบว่ามีการปรับขึ้นจากช่วงเดียวกัน โดยกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 8% เฉลี่ยที่ 22.4 ล้านลิตรต่อวันเนื่องจากปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ดีเซลปรับขึ้น 2% เฉลี่ยที่ 57 ล้านลิตรต่อวัน LPG เพิ่มขึ้น 2% อยู่ที่ 20.2 พันตันต่อเดือน และ NGV เพิ่มขึ้น 11% อยู่ที่ 8.5 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ต.ค. 56 มีทั้งสิ้น 9.4 หมื่นบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 937,608 ล้านบาท ลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ดีเซลโตไม่มากนักเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ที่เหลือในช่วง 2 เดือนจากนี้คาดว่าการใช้ดีเซลจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวพืชบางชนิดโดยเฉพาะอ้อย ข้าว ส่วนเบนซินน่าจะทรงตัว ส่วนปั๊ม LPG ต.ค. 56 พบว่ามีทั้งสิ้น 1,702 แห่งจาก ก.ย.ที่มีอยู่ 1,677 แห่ง แต่หากเทียบกับ ต.ค. 55 เพิ่มขึ้นถึง 500 กว่าแห่งเนื่องจาก LPG ราคาถูก แต่ล่าสุดการขอเปิดปั๊ม LPG ใหม่เริ่มชะลอตัวแล้วเนื่องจากรัฐบาลส่งสัญญาณจะขึ้น LPG ขนส่งปีหน้า” นายสมนึกกล่าว
การนำเข้าแอลพีจีก็คงจะอยู่ประมาณ 1.8 แสนตัน/เดือนจนถึงเดือนมีนาคม
http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000143777

**********************************************************************

ทั้งหมดเป็นผลมาจากนโยบายรถคันแรก โดยเฉพาะอิโคคาร์ทำให้ยอดการใช้เบนซินเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน LPG ทำให้ส่งสัญญาณในการขึ้นราคาอีกครั้งในปีหน้า ทำให้การก่อสร้างปั๊ม LPG ชลอตัวลงนับแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 114
       ร้าน อ.รุ่ง เปิดปกติไหมครับ จะย้ายถังแก๊สลงแทนยางอะไหล่ครับ
ช่วงต้นเดือน ธค

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 115
       เปิดแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 116
       ISUZU ทำขายในประเทศไทยแล้วนะครับ ISUZU Single cab 4x4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับงานบรรทุก จำนวนจำกัดไม่มากนัก เปิดราคา 628,000 บาท ชนกับมิตซูบิชิ ที่ขายอยู่ตอนนี้เพียงเจ้าเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 117
       ท่านใดจะเปลี่ยนท่อ by pass เผื่อเวลาใว้1 วัน ตามคุณ autoแจ้งนะครับ เดี๋ยวเป็นเหมือนผม คนรับนัดหมายบอกใช้เวลา2 ช.ม เราเลยเอารถเข้าช่วงบ่าย พอเอารถเข้าไปช่างแจ้ง ใช้เวลานาน เป็นงานรื้อที่ยาก(จัง)
รับรถพรุ่งนี้เที่ยง ไอยะ พรุ่งนี้เราต้องทำงาน ใช้รถด้วย เสียเวลานัดหมายใหม่ หาวันว่างอีก เฮ้อ..น่าจะเอารถเข้าตั้งแต่เช้า รับเย็น เซ็งเลยตรู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 118
       วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา มีโอกาสนั่งรถเพื่อนคนนึงไปท่องเที่ยวเทสต์รถกันที่จันทบุรี เป็นรถ 2.7 รุ่น 4 ประตู เกียร์ธรรมดา ขับ2wd โฉม champ

เพื่อนผมคนนี้เดิมปัจจุบันใช้รถ ISUZU 2.5 ดีเซลคอมมอนเรล แต่เอารถน้องสาวมา Hilux 2.7 ขับทดสอบ 1 อาทิตย์ แลกกันใช้งาน
ผลการทำแบบนี้ มันช่วยให้เราตัดสินใจซื้อรถคันนึงง่าย มาก คุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไป และเรายังรับสภาพกับรถที่ได้มาอย่างเต็มที่อีกด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 119
       ริวิวการขับขี่ ฟิลลิ่ง

ออกจากทม. ก็ประมาณ 9 โมงกว่า หลังจากนั้นก็ใช้ทางด่วนบูรพาวิถีขับไปออกบ้านบึงชลบุรีแล้วก็ไปหาดเจ้าหลาวจันทบุรี
ความเร็วเดินทาง 140-150 กิโลเมตร / ชั่วโมง เกือบตลอดเส้นทาง บางช่วงขับเลยไปถึง 160 km/hr แต่ต้องลดความเร็วลงมาเนื่องจากเป็นรถ STD. เดิม ๆ ไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น พอแตะความเร็ว 160 ขึ้นไปตัวรถยนต์เหมือนติดปีกเตรียมบิน คือมีอาการ เหิน คือมันไม่ปลอดภัยเพียงพอที่จะขับต่อได้จึงต้องลดความเร็วของรถยนต์ลง
สิ่งที่พบคือ เสียงคำรามของเครื่องยนต์ 2.7 รุ่นนี้ ถ้าเทียบกับเครื่อง 2.7 รุ่นแรก ๆ ของพวกเรา มีความแตกต่างกัน คือรุ่น Champ เสียงเครื่องเงียบกว่าชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแก๊สหรือน้ำมัน จังหวะเร่งแซง หรือแม้กระทั่งผมออกไปยืนฟังนอกตัวรถขณะเดินเบาเสียงเครื่องยนต์ก็จัดว่าเงียบกว่ารุ่นเดิมนิดนึงแบบพอรู้สึกได้ทีเดียว การสั่นสะเทือนน้อยกว่าเครื่องนิ่งกว่ารุ่นเดิมครับ

รอบเครื่องยนต์ขณะเดินเบา อยู่ที่ 800 rpm เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าสเปกเครื่องยนต์มีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน ระหว่างเครื่องยนต์รรุ่นเดิมกับรุ่น Champ เพราะว่าการสวิงไม่มีให้เห็น รอบเครื่องยนต์ขึ้นมาสูงกว่า ในขณะที่รถ 2.7 รุ่นเดิมทุกรุ่นรอบเดินเบาจะอยู่ที่ 600 rpm เพื่อความประหยัดน้ำมัน แต่ Champ รุ่นหลังเซทรอบมาสูงกว่าแต่ได้ความนิ่งของเครื่องยนต์มาแทนที่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 120
       การขับขี่ ฟิลลิ่ง ต่อ

หลังจากที่เราขับขี่กันนั้น สังเกตุได้ชัดในเรื่องการตอบสนองการขับขี่ด้วย เกียร์ธรรมดาของรถรุ่นนี้
เนื่องจากเป็นเกียร์ แมนนวล คือมันตอบสนอง ไม่ทันกับรอบเครื่องยนต์ในการเปลี่ยนเกียร์ หลายจังหวะคนขับคิดช้า ตอบสนองช้ากว่าที่ควรจะเป็นค่อนข้างมาก แต่ที่เราพบได้บ่อยคือการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่สัมพันธ์กัน ประสบการณ์ของผู้ขับขี่เพื่อนของผม ขับเกียร์ธรรมดามาทั้งชีวิต ขึ้นลงใต้หรือภาคตะวันออกด้วยระยะทางที่มากพอตัวกับรถปิคอัพเกียร์ธรรมดาเครื่องดีเซล หลายยี่ห้อ แต่พอมาขับ 2.7 เกียร์ธรรมดาบ้างปรากฎว่าความคิดไม่ทันเครื่องยนต์ การตอบสนองช้ากว่าที่ควรจะเป็น คงเป็นเพราะความคุ้นเคยกับเครื่องดีเซลที่มีมานาน

ตัวเครื่องดีเซลไม่ว่ารุ่นใดถึงแม้แรงบิดจะมาก แต่รอบเครื่องยนต์ยังขึ้นมาช้ากว่าเครื่องเบนซิน คนขับมีเวลาเผื่อความคิดในการขับขี่ แต่พอมาเป็นเครื่องเบนซิน การตอบสนองการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่สัมพันธ์กันนี้เอง บางครั้งจึงรู้สึกอึดอัดกันไปบ้าง ในการขับเกียร์ธรรมดา ที่เราคิดช้ากว่าเครื่องยนต์ที่ทำงานออกไปแล้ว บางครั้งเราคิดเผื่อล่วงหน้าไปแล้ว แต่กลไกตัวเราที่เป็นผู้ขับขี่นี่แหละขยับช้ากว่าความคิด


แต่โดยรวมเพื่อนผมคนนี้ชอบมากกับรถคันนี้ ถ้าเทียบกับขับรถปิคอัพดีเซลเกียร์ธรรมดาเหมือนกัน เพราะอัตราเร่ง การทำความเร็วในการเดินทาง ความแรงของเครื่องยนต์ ความรู้สึกสบายไปกับการเดินทางเขาบอกว่า ดีกว่าใช้ดีเซลของเดิมมาก รู้สึกประทับใจที่จะใช้ปิคอัพเบนซินมากกว่า
ผมถามเขาว่าความแรงของเครื่องยนต์ถ้าเทียบกันกับ 2.5 ดีเซลที่ผ่านมาเป็นยังไง
เขาบอกว่าแรงกว่าดีเซล ISUZU คันเดิมแน่นอน 2.7 ไม่อืดแต่อย่างใด รถพุ่งไปข้างหน้าแบบเงียบ ๆ ขึ้นเร็วกว่าชัดเจนจาก 0- 100 km/h ส่งผลให้ขับสบายไปด้วยยามขับทางไกล ความเงียบของเครื่องยนต์ที่ไม่คุ้นเคยของผุ้ขับขี่ + กับเกียร์ธรรมดา ที่ไม่ค่อยปฏิสัมพันธ์กันเท่าไหร่นัก ทำให้หลายครั้งผู้ขับขี่เอง ลืมเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ 4 ไปเป็นเกียร์ 5 หรือใช้เกียร์ทดรอบได้ช้ากว่าเครื่องยนต์ที่ลงไปแล้ว

ถึงแม้รุ่นเดิมจะเป็นเกียร์ออโตที่ทำการเลี้ยงรอบได้ดีกว่าก็ตามแต่เราพบว่าทาง TOYOTA เซทมาให้ช้านิดนึงเหมือนเกียร์ต้องหยุดคิดประมาณ 1 วินาทีจึงจะไปต่อได้ วึ่งเป็นคุณลักษณะของรถโตโยต้า + คันเร่งไฟฟ้าที่ล้วนเซทแบบนี้เช่นกัน ในขณะทีถ้าเทียบกับเกียร์ธรรมดา การใช้เวลารอในแต่ละเกียร์จะถูก + สะสมเพิ่มขึ้นไป จึงทำให้ผู้ขับขี่อึดอัดไปบ้าง แต่จะได้สนุกตรงที่รู้สึกว่ารอบมันขึ้น แต่ความเร็วมันไม่ค่อยจะไปตอบสนองช้ากว่ารุ่นที่เป็นเกียร์ออโต

แสดงความคิดเห็นย่อย