WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เกร็ดความรู้รถใช้แก๊ส 2.7 vvti หรือรถยี่ห้ออื่นภาค 2 เนื่องจากกระทู้เดิมเต็มรับภาระโหลดมาก
Auto.
จาก Auto
IP:171.96.53.209

อาทิตย์ที่ , 10/3/2556
เวลา : 20:49

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เกร็ดความรู้รถใช้แก๊ส 2.7 vvti หรือรถยี่ห้ออื่นภาค 2 เนื่องจากกระทู้เดิมเต็มรับภาระโหลดมาก หลายคนเปิดไม่ได้ หรือเปิดช้ามาก เพราะโหลดของกระทู้มาก บางทีคนอื่นดูรูปไม่เห็นสำหรับคอมพิวเตอร์บางท่านที่ เนตเต่า ช้าเหลือเกิน


ตอนนี้เลยต้องตั้งกระทู้ใหม่เพื่อลดภาระกระทู้เดิมลง อย่างไรก็ดีการเริ่มอ่านกระทู้นี้ควรอ่านกระทู้เดิมให้หมดลงเสียก่อน แล้วค่อยมาอ่านกระทู้นี้่ต่อไป กระทู้เดิมได้รวบรวมความรู้ไว้มากแล้ว และควรอ่านกระทู้อื่น ๆ ไปด้วย เพราะความรู้มีอยู่ทุกกระทู้ในเวป TOYOTA 2.7 แห่งนี้
http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/Question.asp?ID=1960



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

คำตอบที่ 211
       สืบเนื่องจากกระทู้ก่อนนำรถไปไปเข้าศูนย์บริการ TOYOTA เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หลังจากอู่นอกส่วนใหญ่คิดราคาค่าแรงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างเดียวแพงขึ้นจาก 100 เป็น 200 บาท ผมเลยตัดสินใจนำรถกลับเข้าศูนย์ทั้งหมด ครั้งนี้มาเช็คระยะ 190,000 กิโลเมตร หิ้วน้ำมันเครื่อง + ไส้กรอง + แหวนรองไปเอง เสียค่าใช้จ่าย 267 บาท พร้อมการแจ้งซ่อมรายการจากศูนย์โตโยต้าเพิ่มเติม
เข้าศูนย์มีเช็คฟรี 24 รายการช่างแจ้งว่าแร๊กเริ่มมีซีลรั่วซึม ส่วนเครื่องยนต์ก็มีอาการน้ำมันเครื่องรั่วของประเก็นฝาครอบวาล์วอันเป็นอาการปกติของประเก็นรุ่นนี้ แต่ว่าช่วงนั้นศูนย์อะไหล่บ้านโพธิ์ของโตโยต้าไม่มีอะไหล่ประเก็นฝาครอบวาล์วเลย จึงเลื่อนมาเปลี่ยนช่วงนี้

ก็เสียค่าแรง 250 บาท ค่าแรงและค่าอะไหล่รายการนี้รู้สึกว่าเท่าเดิม
Part no ดูตามนี้เลย ถ้าหักเรื่องค่าแรงตั้งศูนย์ 600 + vat 7% ออกไปก็ยังเหลือซ่อมรายการการนี้ประมาณ 800 กว่าบาทครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto จันทร์, 2/2/2558 เวลา : 08:41  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41195

คำตอบที่ 212
       เมื่อคืนเติมแก๊สเจอรถวีโก้ 2.7 ตอนเดียวมาเติมแก๊สด้วย
สภาพการบรรทุกไม่ต่างจากรถ 10 ล้อเลยครับ บรรทุกเยอะมากไม่รู้ทำช่วงล่างยังไง และเหล็กยื่นออกมาด้านนอกและด้านหลัง แบบนี้ตำรวจจับแน่

แต่สภาพการบรรทุกเห้นแล้วต้องยอมรับเลยว่าหนักมากจริง ๆ ปริมาณไม่ต่างจากขนขึ้นรถ 10 ล้อเลย






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto จันทร์, 2/2/2558 เวลา : 09:05  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41202

คำตอบที่ 213
       อีกภาพนึงพอดีไม่ชัด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto จันทร์, 2/2/2558 เวลา : 09:05  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41203

คำตอบที่ 214
       อู่นอกหรือปั๊ม ส่วนใหญ่คิดราคาค่าแรงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างเดียวแพงขึ้นจาก 100 เป็น 200 บาท บางทีชาร์จน้ำมันเครื่องอีกถ้าไม่หิ้วไปเองผมเลยเอารถนำรถกลับเข้าศูนย์ทั้งหมด ครั้งนี้มาเช็คระยะ 190,000 กิโลเมตร
หิ้วน้ำมันเครื่องเอง + ไส้กรอง + แหวนรอง เสียค่าใช้จ่าย 267 บาท พร้อมการแจ้งซ่อมรายการจากศูนย์โตโยต้าเพิ่มเติม
บริการล้างรถดูดฝุ่นฟรี Car spa บิลไม่ได้เอามาลงให้ดู
ถ้าจะดูบิลก็ดูตามคำตอบ 205 ก้ได้เหมือนกัน เพราะอันนั้นผมเอา วีออสแฟนไปเข้าศูนย์ที่เดียวกัน เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หิ้วไปเองเสียแต่ค่าแรงอย่างเดียว แต่ได้บริการล้างรถเช็คระยะฟรีหมดทุกรายการ

ดีกว่าไปเปลี่ยนนำมันเครื่องเองข้างนอกแล้วครับ เดี๋ยวนี้ศูนย์บริการโตโยต้าถูกบังคับเปิดสาขากันมากมาย การแข่งขันของดีลเลอร์สูงมาก ศูนย์จะอยู่ได้ด้วยการบริการก็ส่วนนึงไม่งั้นขายรถอย่างเดียวก็ลำบาก ขนาดศูนย์โตโยต้ามหานครก่อนหน้านี้ไม่เคยลด 15% มาก่อนตอนนี้ยังมาลดราคาแข่งกับเจ้าอื่นที่อยู่ใกล้กันเลยครับ แน่นอนว่าอู่ซ่อมภายนอกค่าแรงก็แทบสู้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้อู่นอกหลายอู่ค่าแรงแพงขึ้นมาก + หลายอู่ฟันค่าอะไหล่ด้วย ทำให้การซ่อมนั้นได้ของเทียบ + ราคาเท่ากับจ่ายแพงอกับเข้าศูนย์หรือทำได้ไม่ครบทุกรายการเหมือนศูนย์บริการ
แต่อันนี้เป็นที่โตโยต้าเจ้าเดียวนะครับที่สามารถแข่งขันได้ในระดับนี้ ศูนย์บริการยี่ห้ออื่นยังไม่สามารถแข่งขันกับอู่นอกได้ในด้านราคาเพราะชั่วโมงแรงงานเขาแพงและทางเลือกมีน้อยกว่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 2/2/2558 เวลา : 10:26  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41205

คำตอบที่ 215
       เมื่อวานเข้าไปที่อู่อนันต์ ซอยปรีดีพนมยงค์ มีเรื่องน่าสนใจอยู่หลายอย่าง ที่อู่เขารับซ่อมรถ Pajero GDI 3.5 V6 มาคันนึง เขารับซ่อมรถคันนี้ซ่อมเปลี่ยนลูกสูบเปลี่ยนแหวน คือโอเวอร์ฮอลเครื่องนั่นแหละ ซ่อมช่วงล่างทำอีกหลายอย่าง รวมถึงติดแก๊สระบบดูดด้วย ติดแก๊สวางถังไม่เสียพื้นที่ เนื่องจากรุ่นนี้เป็นระบบ DI ฉีดตรงสำหรับเบนซิน อู่เขาติดแก๊สระบบหัวฉีดไม่ได้ วางระบบหัวฉีดแล้วเครื่องรวนมาก อู่ที่ติดระบบ DI ได้มีไม่กี่อู่ ที่น่าประหลาดใจก็คือเขาทำทั้งหมดในรถคันนี้ 1 แสนกว่าบาท (ถือว่าถูกมากสำหรับค่าซ่อมในรถระดับนี้ ) ปกติใครก็รู้ว่ารถรุ่นนี้เป็นรถที่อะไหล่แพงมากที่สุด ซ่อมแพงมากเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเป็นรถยี่ห้อ Mitsu และเป็น SUV รถนำเข้าญี่ปุ่น ทาง Mitsu ตั้งราคาอะไหล่ไว้อย่างแพงมาก ซ่อมทำใหม่ทั้งคันราคานี้ถูกทีเดียวสำหรับรุ่นนี้ ปกติรถแบบนี้ระบบ 4wd ไม่ได้เสียแต่ที่เสียจะเป็นช่วงล่างบุชต่าง ๆ เครื่องยนต์ไม่รู้เป็นอะไรมาจึงได้นำมาโอเวอร์ฮอล ปกติราคารถรุ่นนี้ตกมากกว่าคู่แข่งเยอะ ปัจจุบันเหลือขายมือ 2 ไม่เกิน 5 แสนบาท เพราะสาเหตุที่กล่าวมารวมถึงหาอู่รับซ่อมยากพอตัว ถ้าไม่เจออู่ที่ซ่อมรู้อาการก็ลำบาก ถ้าอู่ทั่วไปโดนฟันค่าแรงค่าอะไหล่มหาโหดเลย เห็นแล้วเกิดความรู้สึกอยากได้รุ่นนี้ขึ้นมาทันที แต่ก็ต้องตัดใจเพราะปัญหาเรื่องอู่ซ่อมรถแบบนี้ ถ้าไม่เจออู่ดี ๆ ที่ซ่อมราคาถูกแบบนี้คงไม่สะดวกเวลาใช้งาน
ในรถรุ่นนี้มีเครื่องยนต์ แบ่งได้ 4 รุ่นย่อยที่นำเข้ามาในไทย
1. V6 3.5 GDI เบนซิน ราคาขายตอนนั้นประมาณ 2.8 ล้านบาท
2. V6 3.0 เบนซินแบบธรรมดา ราคาขายตอนนั้นประมาณ 2.5 ล้านบาท
3. 2.8 ดีเซล แบบธรรมดา ราคาขายตอนนั้นประมาณ 2.8 ล้านบาท
4. 3.2 DID ดีเซล แบบคอมมอนเรล ราคาขายตอนนั้นประมาณ 3.2-3.5 ล้านบาท
หมายเหตุถ้าเป็นรถปาเจโร่รุ่นดีเซล อู่ซ่อมในเมืองไทยไม่มีใครซ่อมปั๊มดีเซลได้ เพราะไม่เหมือนกับรถที่ใช้ในไทยและไม่มีอะไหล่ซ่อม ต้องเปลี่ยนปั๊มอย่างเดียวที่ราคาประมาณ 1.3 แสนบาท ตามคำตอบก่อนหน้าที่เคยเอามาลงให้ เนื่องจากเวปเพื่อนบ้านคนเล่นปาเจโร่รุ่นนี้เขาเจอปัญหามาแล้ว อู่ดังๆ ในไทยซ่อมไม่ได้เลย
************************************************
ผมคุยกับช่างที่อู่อนันต์ เขาจะซื้อรถ Hilux 2.7 4x4 AT ราคาประมาณ 4 แสนบาท ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมเห็นช่างซ่อมรถหลายคนพยายามจะซื้อรถรุ่นนี้มาใช้งาน ( เน้นคำว่าใช้งานน่ะภายในอู่ครับ ) ผมก็ถามเขาว่าจะซื้อมาทำไม ปกติก็วิ่งอะไหล่อยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ บางทีอะไหล่เล็กน้อยก็เอาฮอนด้า เวฟไปขี่ ผมยังเคยยืมมอไซด์คันนั้นไปซื้อของกินที่ 7-11 เลย คือคนเป็นช่างเขาจะซื้อรถที่มันซ่อมง่ายไม่จุกจิก เอามาใช้งานแบบทนทานกันยาว ๆ มีภาระซ่อมน้อยและอะไหล่ถูก คือเอาเวลาไปซ่อมรถลูกค้ามากกว่าจะมาซ่อมแต่งรถตัวเอง รถแบบนี้จึงเป็นที่มาว่าทำไมช่างซ่อมรถเองก็ยังเลือกมาใช้ เพราะช่างซ่อมรถเขารู้และความรู้เขามีพอในการซื้อรถมือ 2 ผมถามเขาอีกว่าไม่รอซื้อรถ Hilux เบนซินที่จะออกมาตัวใหม่เหรอ เขาส่ายหน้า เขาบอกจะเอารุ่นเกียร์ออโต ขับ 4 ล้อ (ขนาดเป็นช่างแท้แท้ ยังไม่ซื้อรถปิคอัพเกียร์ธรรมดาใช้เลย )
ผมก็ว่ามันก็แปลก ขนาดรถที่คนทั่วไปใช้ทั่วไป เป็นรถปิคอัพส่วนบุคคล ก็ซื้อ 2wd ใช้มั่ง หรือบางคนเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็ซื้อเกียร์ธรรมดาใช้มั่ง แต่คนเป็นช่างกลับซื้อรถแบบนี้ทั้งที่ไม่ได้วิ่งไปไหนเลย ปกติวันวันก็ซ่อมแต่รถ ซอยที่เขาอยู่ก็แคบมาก ขับรถจะเข้าอู่ก็แทบจะชนประตูรั้วอยู่แล้ว เพราะรถใหญ่โลกเรานี้ก็กลับด้านกันจริง ๆ ผมแนะนำคนทั่วไปที่ชอบเอารถไปขี่เที่ยว ให้ซื้อ 2.7 4x4 แต่บ้านเราก็นิยมไปซื้อ 4x2 เกียร์ธรรมดายกสูงมาใช้ซะยังง้น แต่คนเป็นช่างซื้อรถ 2.7 4x4 มาใช้ซื้อของในซอย 5555 รถติดจะตายห่าในซอยปรีดี 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงอู่ แถมซอยก็แคบ เรื่องแลก ๆ ก็มีในโลกเราจริง ๆ เหรียญมี 2 ด้านเสมอ

ผมบอกเลยว่า 2.7 4x4 มันไม่ใช่รถที่ซ่อมยากอะไร คนที่เป็นช่าง ๆ หลายคนยังอยากที่จะเล่นเพราะเป็นรถที่พื้นฐานซ่อมง่ายอะไหล่ถูก ไม่จุกจิกเลย และมีอะไหล่ในตลาดอีกเยอะมาก มันจึงเป็นพื้นฐานของคนเล่นรถที่คิดจะเล่นรถแบบนี้ หรือคนเป็นช่างจะรู้หรือมองออก (แต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้) ที่จริงการจูนแก๊สในรถแบบนี้ไม่ได้จูนยากแต่อย่างใด แต่เพราะอู่ติดแก๊สรุ่นใหม่ ๆ ขาดประสบการณ์ เนื่องจากรถ 2.7 4x4 หยุดขายในไทยไปตั้งแต่ปี 2008 และจำนวนรถในตลาดมีน้อย อู่ติดแก๊สส่วนใหญ่ไม่เคยเจอและไม่เคยเจอฟังกชั่นการใช้งานแบบเรา ๆ คือนำไปวิ่งออฟโรดด้วย ขึ้นเขาลงห้วย กันจริงๆ หรือไปฉุดลากเทรลเลอร์ด้วย อู่ส่วนใหญ่จะเจอแค่รัในเมืองหรือวิ่งทางเรียบทั่วไปไม่สามารถหาค่าการใช้งานที่ถูกต้องได้ทำให้ไม่มีฝีมือการทำรถ อู่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจพารามิเตอร์การจูนแก๊สรถ 4x4 แบบนี้ต่างจากรถ 2wd อย่างไรหรือต่างจากรถบ้านอื่น ๆ อย่างไร บางคนจึงทำการจูนแก๊สไว้หนาเผื่อนั่นเอง แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เพราะมันไม่ได้ทำให้ดีขึ้นแต่อย่างใด เหมือนกับคนที่ติด TAP ให้ผมก่อนนี้เขาคิดว่ารถบรรทุกหนัก จะจูนไฟให้แก่ในรอบสูงเพื่อชดเชยการบรรทุกหนัก ด้วยการให้องศาการจุดระเบิดช่วง 4000 rpm ที่ 4 องศาขึ้นไป ปรากฎว่ามันใช้ไมได้อีกอยู่ดี ไม่มีประโยชน์แถมไฟโชว์อีกต่างหาก เครื่องเขกกระจายต้องลดไฟลงมาแล้วเก็บค่าที่เหมาะสมกันใหม่ ของพวกนี้อยู่ที่ประสบการณ์ของช่างมากกว่า
เหมือนกับตอนติดแก๊สครั้งที่ 2 ตอนบ้านผมซื้อ Hilux Vigo 2.7 4x4 มา แล้วเอาไปติดแก๊สที่ระยอง อุ่ ST Auto gas ที่อยู่ในเมืองระยองเป็นอู่ดังซะด้วย เจ้าของร้านแก๊สคนนี้จูนแก๊สรถไม่เป็นนะครับ เพียงแต่ไม่บอกเราที่เป็นลูกค้าเท่านั้นเอง ตอนหลังผมรู้เลยไม่ไปอีก ก็โมโหจนถึงวันนี้ และไม่เคยแนะนำใครไปติดแก๊สแถวระยองอีกเลย เพราะสาเหตุที่เคยเจอมา






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto พฤหัสบดี, 12/3/2558 เวลา : 10:55  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41419

คำตอบที่ 216
       วันอาทิตย์จะกลับมารายงานผล ค่าซ่อมเปลี่ยนวาล์วน้ำ พอดีจะเอา Fortuner ไปเปลี่ยนวาล์วน้ำที่ศูนย์โตโยต้า
ใครครบรอบเปลี่ยนก็เปลี่ยนซะนะครับ ช่างบอกอะไหล่ไม่ใช่รอให้เสียแล้วเปลี่ยน แต่ต้องเปลี่ยนก่อนที่จะเสีย เรารู้ว่าต้องเปลี่ยนอะไรมันจะง่ายขึ้นในการดูแลรถ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พฤหัสบดี, 12/3/2558 เวลา : 11:05  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41420

คำตอบที่ 217
       ตามที่เคยไปใช้บริการ ST Auto มาเหมือนกัน อู่นี้ถนัดของ ER มากกว่าครับ ยี้ห้ออื่นไปไม่เป็น และก็จะจูนแบบพื้น ๆ แบบรถในเมือง ขับทั่วไป ซึ่งหลังจากผมเอาเข้าไปจูนกลับมามาผมต้องมาปรับแต่งอีกบานเหมือนกัน กว่าจะเข้าที่ตามลักษณะที่ผมขับขี่
***************************************

คุณต้นไผ่อยุ่อยุธยาหรือสุพรรณไม่ใช่เหรอครับ ไปทำที่ระยองร้านนี้เหมือนกันหรือ
ร้านนี้เขาทำหลายยี่ห้อไม่เฉพาะ ER สมัยดัง ๆ ที่คนติดแก๊ส รถติดแก๊สที่นี่เยอะวันนึง 4-5 คัน แต่เรื่องจูนแก๊สนี่ไม่เป็นเอาเลย เพราะดูจากสภาพตอนเอามาเปิดที่อู่อาจารย์รุ่งแล้ว ไม่ไหว จริง ๆ -ขนาดวิ่งไปแก้ครั้งที่ 2 แล้วนะ แสดงว่าไม่มีความรู้ในเรื่องการจูนแก๊สใดใดทั้งสิ้น ส่งรถด้วย Auto tune เฉย ๆ ให้รถวิ่งได้ ถ้าเป็นรถวิ่งทั่วไปไม่มีทางรู้ เลยว่าจูนแก๊สแบบนี้มา
by Auto



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tonpai753 จาก ต้นไผ่ 202.29.212.9 พฤหัสบดี, 12/3/2558 เวลา : 11:19  IP : 202.29.212.9   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41421

คำตอบที่ 218
       อยู่สุพรรณครับ วีออส ผมติด NGV โดยใช้ชุดแก็สของ ER ซึ่งตอนนั้นอู่ที่สุพรรณ ติดตั้งให้แต่ไม่สามารถเอายางอะไหล่เข้าเก็บที่เดิมได้ และทางอู่ก็ไม่สามารถทำให้ได้ ตอนนั้นมี ST Autogas ที่เป็นอู่ในเครือ ER ที่เดียวที่ทำให้ วีออสติด NGV ถัง 100 ลิตร สามรถเก็บยางอะไหล่ไว้ที่เดิมได้ ประกอบกับ อู่ที่สุพรรณตอนนั้นไม่รู้จักว่า TAP คืออะไร ก็มี ST Auto นี่แหละที่รับติด และอู่ที่สุพรรณก็จูนแก็สไว้กินมาก งานติดตั้งก็ไม่เรียบร้อย จึงได้ลงทุนขับรถไปทำถึงระยอง เพราะระยะทางใช้แก็ส ขาละถังเอง ( 200 บาท) แต่หลังจากทำมาแล้ว ก็เก็บยางอะไหล่ได้ ปรับจูน แก็สได้ประหยัดกว่าเดิม เก็บงานต่าง ๆ ให้ ตอนจูนผมเป็นคนขับเอง แล้วก็ คอยดูความหนาบางผ่าน OBD Scan ผ่านหน้าจอมือถือของผม เป็นระยะ เพื่อป้องกันช่างหมก แต่หลังจากนั้น พอขับไปสักเดือน 2 เดือนผมก็ซื้อสายจูนมาจูนเองอีกอยู่ดี เพราะมันยังมีบางช่วงที่ไม่ถูกใจผม

อู่นี้รับติดแก็สหลายยี้ห้อก็จริง แต่หลัง ๆ จะเน้นไปทาง ER เป็นหลัก รถติดแก็สยี้ห้ออื่นเข้าไป เมื่อมีอะไรเสียก็เอาอะไหล่ของ ER มาใส่ให้ ซึ่งค่ายนี้ราคาแพงอยู่แล้วด้วย เมื่อเทียบกับค่ายอื่น หลัง ๆ ผมก็ไม่ค่อยแนะนำใครให้เอารถเข้าไปแล้วเหมือนกัน ช่วงที่รถติดแก็สบูม ๆ อู่นี้ สามารถรับติดตั้งแก็สได้ถึงวันละ 20 คัน ล่าสุดพึ่งลงทุนทำศูนย์บริการครบวงจรแก็ส-น้ำมัน กับ ER ไป แต่พอทำเสร็จปุ๊บ ก็โดนพิษ ราคาน้ำมันถูกเล่นงานซะเงียบกริบเลย ตอนนี้เห็นทาง facebook เหลือมีรถเข้าติดตั้งวันละ คัน 2 คันได้มั้ง

ตอนที่เจ้า 2.7 ผมออกตัวสะดุด ยังบอกว่าว่ารถผมวาล์ยัน ทั้ง ๆ ที่ไมล์ พึ่งจะ แสนเจ็ด ดีนะผมไม่เชื่อ เข้ามาหาข้อมูลในบ้านนี้ดูก่อน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tonpai753 จาก ต้นไผ่ 202.29.212.9 พฤหัสบดี, 12/3/2558 เวลา : 14:29  IP : 202.29.212.9   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41423

คำตอบที่ 219
       หลังจากเข้าไปเปลี่ยนวาล์วน้ำเนื่องจากสาเหตุตอนเอารถไปติด TAP แล้วต่อ OBD ผลเจอว่าเครื่องยนต์เราร้อนขึ้นนิดนึงประมาณ 90 องศา แล้วลงช้ากว่าจะลงมาที่ 87 องศา กินเวลานานกว่ารถของนายทะเบียนเวปที่ไปติด TAP ด้วยกัน จึงเป็นที่มาว่าวาล์วน้ำเรื่มเสื่อมอายุสมควรรีบเปลี่ยน

ไปเปลี่ยนที่ศูนย์โตโยต้ามหานคร คร่าวก็มี
1. ค่าแรง 400 บาท
2.ค่าวาล์วน้ำ 830 บาท
3.โอริง 100 บาท
4.ประเก็น 170 บาท
ลดแค่ 10% พนักงานรับรถบอกเป็นนโยบายใหม่ผู้บริหารมาใหม่อีก จากเดิม 15%
รวมจ่ายไป 1487.30 บาท

น้ำยาหม้อน้ำของผมหิ้วไปเองเพราะขายเอง แกลลอนล่ะ 350 บาท






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 16/3/2558 เวลา : 11:07  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41429

คำตอบที่ 220
       มาอัพเดทข่าวคราวความเคลื่อนไหวยานยนต์ในบ้านเรานะครับ

สืบเนื่องจากบ้านเรากำลังจะเข้าสู่การเก็บภาษีบ้านและที่ดิน รวมถึงการเก็บภาษีรถยนต์ในอัตราใหม่ ทำให้รถที่ปล่อยมลพิษเยอะจะเสียภาษีหน้าโรงงานสำหรับการขายเป็นรถใหม่เพิ่มขึ้นด้วย โดยที่มีปัญหามากที่สุดคือเครื่องยนต์เบนซินและเป็นเครื่องยนต์ N/A standard ทั้งหลายโดยเฉพาะเครื่องเบนซินที่มีขนาดใหญ่ก็จะมีมลพิษมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มที่เสียภาษีมากขึ้นจะทำให้ราคารถยนต์สูงขึ้นจนไม่อาจแข่งขันได้
ทางแก้ไขที่บริษัทรถยนต์ที่กำลังจะต้องทำ ก็จะเป็นแนวทางเดียวกับที่ทำในเครื่องดีเซลตั้งแต่ปี 97 เป็นต้นมา คือต้องจับยัดเทอร์โบลงไป ส่งผลให้เกิดการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลมาเรื่อย ๆ เพื่อให้รับกับตลาดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น แนวทางที่เครื่องเบนซินจะใช้นั้นก็เป็นแนวทางเดียวกันคือจะใส่เทอร์โบกับรถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินแทบทุกรุ่น รวมถึงรถบ้าน ๆ รถจ่ายตลาดที่เราใช้กัน อย่างVios Altis City Civic ก็จะมีเทอร์โบ ในยุคหน้าปี 2560 เป็นต้นไปเราจะเห็นรถเบนซินส่วนใหญ่จะมีเทอร์โบจากโรงงานแทบทุกคัน
ผลดีที่ได้กับรถเบนซินจะแตกต่างกับรถดีเซล คือ
1. อัตราเร่งมาไวกว่าเครื่องดีเซล ขับสนุกกว่าสำหรับรถเบนซินที่มีเทอร์โบ
2. ปลายไหลกว่าดีเซล เพราะธรรมชาติดีเซลรอบจะอั้นไว้ตามคุณสมบัติเครื่องยนต์
3.เครื่องยนต์มีสมรรถนะดีขึ้น ประมาณว่าเครื่องที่ลงกับซีวิค ขนาดแค่ 1.5 -1.8 จะได้สมรรถนะเท่ากับเครื่อง 2.5 ลิตรไปแล้ว
4.อนาคตเครื่องยนต์เบนซินจะมีขนาดเล็กลง แทบทุกโมเดล เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องทำเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่อีก
5. ภาษีรถยนต์จะถูกลง ตามขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กลง
6. การกินน้ำมันใกล้เคียงของเดิม แต่ได้อัตราเร่งเพิ่มขึ้น ขับสนุกขึ้น
7. ยุคหน้าตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป มันจะไม่ใช่ยุคของครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลในบ้านเราเฟื่องฟูอีกต่อไปแล้ว ถ้ารัฐบาลคุมราคาน้ำมันให้ดีเซลแพงกว่าน้ำมัน E20 แนวโน้มการใช้รถดีเซล ไม่ว่าจะเป็นปิคอัพดีเซล กับเก๋งดีเซลที่บ้านเราเฟื่องฟูมาพักนึง จะค่อย ๆ ลดความนิยมลงไป เครื่องเบนซินเทอร์โบจะเข้ามาแทนที่มากขึ้น คนทั่วไปจะชอบการขับขี่แบบนี้มากกว่าเพราะมีรถให้เลือกหลากหลายว่าเน้นแบบ STD แบบเพิ่มสมรรถนะหรือแบบโมดิฟาย ได้ง่ายขึ้น
7.กล่องแต่ง สำนักแต่งจะเพิ่มมากขึ้น

ข้อเสียที่ตามมา
1. ราคารถยนต์จะแพงขึ้นเพราะการเพิ่มเทอร์โบจากโรงงานหมายถึงการเพิ่มชิ้นส่วนอื่น ๆ ต้นทุนจะเพิ่มประมาณ 1 แสนบาท
2.ค่าซ่อมบำรุงของเบนซินต้องเพิ่มขึ้นใกล้เคียงเครื่องดีเซลคอมมมอนเรล
3. การปรับเปลี่ยนมาใช้แก๊สจะทำได้ยากขึ้น ความทนทานน้อยลงสำหรับบางรุ่น

โดย Honda จะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ขยับก่อนใคร คาดว่าเครื่องเบนซินเทอร์โบยุคใหม่นี้น่าจะมาลงกับ Honda Civic ก่อนเป็นรุ่นแรก บริษัทรถยนต์อื่น ๆ ก็จะมีการปรับตัวตามมา



คงได้เห็นกระบะบ้าพลังตามรถบ้าน 1.2 ก็คราวนี้แหละ
จาก : Aod SRT(Aod SRT) 18/3/2558 9:27:33 [110.164.170.1]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 อังคาร, 17/3/2558 เวลา : 19:20  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41432

คำตอบที่ 221
       เมื่อวานกลับไปเยี่ยมบ้านมาแป๊บนึง แวะเข้าไปคุยกับอู่อาจารยรุ่งมาด้วย

1 ตอนนี้เดือนที่แล้วมีลูกค้ามาติดแก๊ส 2 คัน เดือนนี้ไม่มีมาติดแก๊สเลย มีแต่ลูกค้าเก่าแวะมาซ่อมแก๊ส ก็เป็นไปตามกลไกตลาดนะครับสภาพตลาดตอนนี้อู่แก๊สทั่วไปไม่มีลูกค้าใหม่ติดแก๊สอยู่แล้ว แต่อู่อจารย์รุ่งเขาไม่ใช่อู่ติดแก๊สอย่างเดียวคือเขาเป็นอู่ซ่อมรถอยู่แล้วไม่เดือดร้อนอะไรมีงานซ่อมรถเยอะอยู่ดี เพียงแตต่ไม่มีลูกค้ามาติดแก๊สใหม่เท่านั้น เพราะซ่อมถูกและทำได้จบมีอะไหล่ครบเกือบหมดทุกรุ่น อาจารย์รุ่งคุยให้ฟังว่าเพิ่งซื้อ Chevrolet Cruze รุ่นดังที่ออกสื่อมา 4 แสนบาท แก้ปัญหาด้วยการใส่ Oil gear เพิ่มเติมแล้วปัญหาเกียร์ของรุ่นนี้จบเลย แน่นนว่าเค้าเป็นช่างลองวิชาได้อ่ะนะ


2 มียี่ห้อแก๊สยี่ห้อนึงของอิตาลีมาให้อาจารย์รุ่งทำตลาดให้ แต่ว่าราคาน้ำมันแบบนี้คนเลิกติดแก๊สแล้วล่ะเพราะไม่มีลูกค้าอีก ยี่ห้อนั้นเอ่ยชื่อทุกคนคงทราบดีแต่ว่าผมปิดไว้กก็แล้วกัน

3 ผมถามจารย์รุ่งเรื่องกล่อง E85 จารย์รุ่งบอกว่าเค้าไม่เคยติดให้กับลูกค้าเลย แต่เอามาติดกับรถตัวเองและรถพวกเพื่อนฝูงก่อนเพื่อทดลองปรากกฎว่าแก้ปัญหาไม่ได้เลยไม่มีการติดไปให้ลูกค้ากลัวปัญหาที่จะตามมา เป็นรถคัมรี่ แลนเซอร์ ครูซ ปัจจุบันถอดออกหมดแล้วหลังจากติดไปได้ 5 เดือน จารย์รุ่งบอกว่าพวกปั๊มติ๊ก สายน้ำมันไม่พังนะครับเพราะรถใช้น้ำมันอย่างเดียวไม่ได้ใช้แก๊ส แต่สาเหตุที่ถอดออกเพราะแบบนี้
3.1 คือรถตอนเช้าช่วงเครื่องเย็นมากจะสตาร์ทยาวกว่ารถที่รองรับ E85 มาจากโรงงานไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน ปัญหานี้แก้ไม่ได้
3.2 ติดช่วงแรกดีไม่เป็นอะไรแต่พอได้ประมาณ 5 เดือน เครื่องเริ่มรวน ไม่พังนะครับแต่เหมือนว่ากล่อง ECU รถกับกล่องที่ติดเข้าไปใหม่มันไม่เสถียร จึงถอดกล่อง E85 ไปอาการดังกล่าวก็หายไปเลย ด้วยราคาน้ำมันขนาดนี้ใช้ E85 ไปก็ไม่คุ้มค่าสึกหรอที่มากกว่าใช้น้ำมันปกติ

4.คุยเรื่องยี่ห้อแก๊สจารย์รุ่งยังสนับสนุนให้ใช้กีส ยี่ห้อ AC อยู่ดีเพราะบอกว่า ส่วนใหญ่คล้าย ๆ กันหมด แต่ที่มันจบปัญหาแก้ปัญหาง่ายสุดสำหรับช่างคือ AC มันจะได้ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจแบบแก้ยาก ต้องถอดรื้อทิ้งกันใหม่

5. ใครจะไปหาอาจารย์รุ่งซ่อมระบบแก๊สก็ไปได้เลยนะครับเดี๋ยวนี้รถไม่เยอะเหมือนก่อน แต่มมีวันหยุดเยอะขึ้นก่อนไปก็โทรเช็ควันหยุดกันให้ดีก่อน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.205.165 อาทิตย์, 19/4/2558 เวลา : 10:15  IP : 124.120.205.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41698

คำตอบที่ 222
       มีคำถามจากเวป Headlighmag ที่ผมไปเล่นอยู่ด้วย ผมเห้นมันน่าตอบดีในนี้
จาก ipro
รบกวนสอบถามเกี่ยวกับเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลของรถกระบะที่ขายในประเทศครับ

1. ถ้าเปรียบเทียบเทคโนโลยีในปัจจุบัน ระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกับดีเซลตัวไหนเทคโนโลยีสูงกว่ากัน มีข้อดีข้อด้อยอย่างไร
Ans by Jimmy เทคโนโลยีพอกัน
2. ความทนทาน การบำรุงรักษา การซ่อมบำรุง ตัวไหนทำได้ง่ายกว่า
Ans by Jimmy เครื่องเบนซินทำได้ง่ายกว่า เมื่อถึงเวลาซ่อม
3. ทำไมในประเทศกระบะเบนซินถึงมีความนิยมน้อยกว่าดีเซล แต่ที่เห็นบนเทรลเลอร์ส่งออกส่วนใหญ่จะเห็นเป็นเครื่องเบนซิน
Ans by Jimmy เพราะการตลาดในบ้านเราตั้งแต่ยุคปี 1970 เป็นไปทางดีเซล เมืองนอกใช้กระบะคือใช้งานทั่วไป แต่บ้านเราต้องการแรงบิดในรอบต่ำกว่าจึงใช้ดีเซล (อุปมาเหมือนกะบะส่งของตลาดไทบรรทุก 2-4 ตัน ใช้เครื่องเล็กนิดเดียว คือ 2.5-3.0 ดีเซล)




ผมเสริมให้นิดนึงตรงที่ กระบะเบนซินให้แรงบิดสูงได้เหมือนกันแต่ว่าการทำให้เบนซินมีเรี่ยวแรงมากกว่าดีเซล จะต้องใช้เครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าดีเซลครับเป็นข้อเสียเปรียบของเบนซิน จึงเป็นที่มาว่าเครื่องใหญ่กินน้ำมันมาก มลพิษเยอะขึ้นมันเกินความจำเป็นในโลกปัจจุบันแล้ว อย่างเช่นปิคอัพที่ขนาดใหญ่อย่าง FORD F150 TOYOTA Tundra ขนาดมันใหญ่เกินไปสำหรับประเทศอื่น ๆ นอกจากอเมริกาเหนือ อีกทั้งเครื่องยนต์เบนซินก็จริงแต่มันเป็นขนาดใหญ่คือ V8 5700 เรี่ยวแรงพละกำลังมากจริงแต่ไม่เป็นที่นิยมนอกทวีปอเมริกาเหนือ
ใน Hilux Vigo เองก็มีเครื่องยนต์เบนซินที่ใหญ่ให้พละกำลังมากกว่าดีเซล 3.0 คือใช้ 1GR-FE 4.0 ลิตร ให้แรงบิดมากกว่า 345 NM แรงม้ามากกว่า 250 แรงม้า แต่ว่าเครื่องยนต์เบนซินที่ใหญ่ขนาดแบบนี้นิยมเฉพาะโซนออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และก็แอฟริกาใต้ ถ้าเป็นโซนอื่น ๆ ก็ไม่นิยมใช้ บ้านเราเองก็ไม่ใช้และมีกฎหมายควบคุมเรื่องขนาดเครื่องยนต์ จะหันมาใช้เครื่องเบนซิน 2.7 ที่ขนาดเล็กกว่าหรือเบนซิน 2.0 ที่ขนาดเล็กไปเลย แต่ในทวีปอเมริกาเหนือเครื่อง 1GR-FE 4.0 ลิตรก็ถือว่าเล็กไปทำตลาดไม่ได้อีก เพราะคนอเมริกันเองก็ไม่ชอบเครื่องเล็กขนาดนี้ ต่ำกว่า 5500 ซีซีก็ขายลำบากมันเล็กเกินไปสำหรับทวีปอเมริกาเหนือ
ถามว่าจะให้เครื่องเบนซินบรรทุกได้ดีพละกำลังดีกว่าดีเซลทำได้หมด แต่ข้อจำกัดมันคือขนาดเครื่องยนต์ที่ต้องใหญ่กว่าดีเซล ในขณะที่ดีเซลทำให้ขนาดเล็กกว่าด้วยพละกำลังเท่าเดิมทำได้ง่ายกว่า สามารถสร้างแรงบิดด้วยรอบที่ต่ำกว่าในขณะที่เครื่องยนต์เล็กกว่าได้ อย่าง ISUZU จะทำดีเซลขนาด 2.0 2.2 มาลงในปิคอัพออลนิวดีแม๊กแล้ว อีกทั้งคุณสมบัติเครื่องดีเซลถ้าขนาดพอกับเบนซินการใช้พลังงานจะน้อยกว่าเบนซินอย่างน้อย 20% เพราะฉะนั้นเป็นที่มาว่าประเทศไทยนิยมเครื่องดีเซลในปิคอัพนอกเหนือจากการตลาดและราคาน้ำมันทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.205.165 อาทิตย์, 19/4/2558 เวลา : 11:06  IP : 124.120.205.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41699

คำตอบที่ 223
      
ส่วนค่าใช้จ่ายค่าซ่อมอะไรต่าง ๆ นั้น
1. ความจุกจิก มันวัดกันยากนะบางคันจุกจิกบางคันไม่เป็นเพราะการใช้งานของคนหลากหลายมาก เอาเป็นว่าพอพอกันก็แล้วกันครับ ถ้ารถใช้งานทุกวัน บำรุงรักษาถูกต้องเหมือนกัน ผมว่ามันพอกันทั้งเบนซินและดีเซล (ในรถปิคอัพ) แต่นอกเหนือจากนี้มันก็มีอย่างอื่นเข้ามาอีกอาจทำให้รถรุ่นนั้นจุกจิกต่างกันไปได้
2. ซ่อมง่ายซ่อมยาก ดีเซลสมัยนี้ซ่อมยากกว่าดีเซลสมัยก่อนจริงครับและซ่อมยากกว่าเบนซินปิคอัพสมัยนี้จริงครับ
ถ้าสมการนี้ดีเซลซ่อมง่ายราคาถูกไม่จุกจิก ประหยัดน้ำมัน ขับสนุก เสียงเงียบได้ฟิลลิ่ง ในโลกนี้ต้องเลิกขายปิคอัพเบนซินทุกประเทศแล้วครับ
แต่เพราะของจริงมันไม่ใช่แบบนั้นนะสิครับ มันจึงต้องมีดำกับขาว หรือสีเทาเหรียญสองด้าน เพราะไม่มีใครทำเครื่องดีเซลได้ดีขนาดนั้น หรือทำปิคอัพเบนซินได้ดีขนาดนั้นจนตอบโจทย์คนทุกคนไปได้
3. เมื่อถึงเวลาซ่อมปิคอัพดีเซลจะต้องซ่อมแพงกว่าเบนซิน ให้ดูราคาเครื่องยนต์ออกจากโรงงาน รวมถึงราคาอะไหล่ตอนซ่อมก็พบคำตอบได้ดีแล้วครับ ไม่ต้องเถียงตัวเองว่าดีเซลซ่อมถูกกว่านั่นมันคำพูดของคนโบราณกาล หรือเอาง่าย ๆ ราคาเครื่องยนต์ในเซียงกงบางนา
เครื่องดีเซลคอมมอนเรล ราคาประมาณ 1.5-1.8 แสนบาทตอนนี้
ในขณะที่เบนซิน 2.7 ราคา 80,000-90,000 บาท
ตอนออกป้ายแดงราคาเครื่องยนต์ก็ต่างกันเป็นแสนบาทอยู่แล้ว ราคาอะไหล่ที่แพงกว่าเบนซิน ภาระการซ่อมมันก็แพงตามเงาของมันนั่นแหละ ไม่เห็นแปลกตรงไหน เมื่อถึงเวลาซ่อมดเซลต้องซ่อมแพงกว่าอยู่แล้ว ถ้าซ่อมถูกกว่านี่สิแปลก

4. การเลือกใช้งานเลือกเบนซินหรือดีเซลดี
คำถามนี่จะโลกแตกเปล่า ๆ ไม่ใช่เพราะผมบอกว่าเบนซินดี เลยใช้เบนซิน คือเอาเป็นว่าต่างมีดีทั้งคู่ บรรทุกได้เหมือนกันทั้งคู่ ผมใช้ Fortuner 2.7 4x4 เป็นหลัก บรรทุกของเข้าร้านมินิมาร์ทวันนึงหลายร้อยกิโล บรรทุกหนักมากทุกวันพอกับปิคอัพคันนึง วิ่งใช้งานทั่วไปหรือรวมไปถึงวิ่งใช้งานออฟโรดเข้าป่า ไปมาทั่วล่าสุดไปถึงด่านป่าไม้จะแกมาแล้ว ในขณะที่ดีเซลคันอื่นๆ อีกจำนวนมากหลาย ๆ คันยังไม่มีโอกาสแม้จะได้ไป คือบทพิสูจน์ว่ามันวิ่งใช้งานได้ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่ แต่การที่คนจะเลือกแบบไหนนั้นมันสารพัดเหตุผลของตัวเอง

4.1 อย่างตอนนี้น้ำมันดีเซลมีราคาถูกไม่เกิน 26 บาท คนใช้งานปิคอัพดีเซลส่วนใหญ่ยิ้มได้สบายกับราคาน้ำมัน บางคนจึงนิยมใช้ดีเซลไม่ต้องไปติดแก๊สแต่อย่างใดได้รถที่แรงบิดดีขึ้นเพราะรถหลังปี 2012 เป็นต้นมาเครื่องดีเซลเป็น VN Turbo แล้วมักจะแรงกว่าเบนซิน 2.7
4.2 หรืออย่างคนใช้ปิคอัพเบนซินยังใช้ต่อไป เพราะราคาแก๊สยังไงก็ถูกกว่าน้ำมัน คือบทสรุปถึงแม้ไม่ประหยัดเท่าเดิม แต่ก็ไม่แพงกว่าใช้ดีเซลจึงยังใช้เบนซินต่อไป
4.3 หรือคนใช้ปิคอัพดีเซลเปลี่ยนมาเก๋งเล็กแบบอิโคคาร์ที่ประหยัดน้ำมันเติม E20 ได้เพราะยุคนี้ราคาน้ำมันไม่ต่างกันมากแล้ว เบนซินในเก๋งเล้กก็ทำได้ 14-15 km/l ไม่จำเป็นต้อง.ซื้อปิคอัพดีเซลมาใช้งานแบบนี้เป็นต้น



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.205.165 อาทิตย์, 19/4/2558 เวลา : 11:29  IP : 124.120.205.165   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41700

คำตอบที่ 224
       รถใครมีปัญหาเครื่องสดุดบ้างเดินเบาไม่เรียบบ้าง ถ้าเจอว่าน้ำมันเครื่องซึมที่ฝาวาล์วแล้วยังไม่ได้ซ่อมให้ลองเปลี่ยนซีลฝาวาล์วและซีลปลั๊กหัวเทียนก่อนนะครับ เพราะว่าเจอเคสที่ว่าน้ำมันเครื่องซึมเข้าไปที่ซีลปลั๊กหัวเทียนทำให้คอยจุดระเบิดทำงานไม่เต็มที่บางทีเราไปเปลี่ยนคอยล์จุดระเบิดแล้วอาการหายไปทั้งที่จริงสาเหตุมาจากน้ำมันเครื่องซึมเข้าไปนั่นเอง ซีลปลั๊กหัวเทียนสำหรับรถรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นไดเรกคอยล์จุดประสงค์เพื่อเป็นตัวกันน้ำมันกันน้ำหรือกันฝุ่น เมื่อก่อนจะมีคำกล่าวว่ารถเบนซินลุยน้ำไม่ได้เจอน้ำแล้วดับเพราะว่า น้ำมันเข้าไปในจานจ่ายทำให้ไฟไม่กระโดด ต่อมาเครื่องยนต์ก็ถูกแก้ปัญหาด้วยการทำเป็นไดเร๊กคอยล์เพื่อให้การจุดระเบิดราบเรียบดีขึ้น ยืดอายุการใช้งานหัวเทียนและใส่ซีลปลั๊กหัวเทียนเข้าไปเพื่อให้เครื่องเบนซินทนทานต่การลุยน้ำมากขึ้นนั่นเอง แต่คนเก่า ๆ บางคนไม่เข้าใจก็ยังคิดว่าเบนซินลุยน้ำแล้วดับที่จริงถ้าน้ำไม่เข้าไปกรองอากาศตอนนี้เบนซินแบบ 2.7 ลุยน้ำไปก็ไม่มีทางดับแล้วครับ
อีกเรื่องนึงถ้าใครมีระยะทางการใช้งานเยอะ เกิน 2 แสนโลไป แล้วพบปัญหาเครื่องสั่นอยากจะลองเปลี่ยนยางแท่นเครื่องซ้ายขวาดูก็ได้ ราคาไม่แพงนัก ภายนอกยางจะดูไม่ขาดนะครับแต่มันยุบตัวลงทำให้เครื่องสั่นนิดหน่อยได้
part no.
L 12306--0c012 530 บาท
R 12305--0C011 530 บาท







ผมเปลี่ยนคอล์ยไปแล้ว 4 ตัวเลย ยางปลายคอล์ยแตกลายงา
จาก : tonpai753(tonpai753) 4/5/2558 21:04:28 [180.180.203.253]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.204.46 ศุกร์, 1/5/2558 เวลา : 11:10  IP : 124.120.204.46   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41788

คำตอบที่ 225
       มีเรื่องน่าสนใจเคสนึง

รถ 2.7 ของเพื่อนสมาชิกเรามีอาการจอดแล้วดับสตาร์ทบางทีต้องลากยาวหลาย ๆ ครั้งจึงติด แต่ถ้าติดเครื่องแล้วจะไม่เป็นอะไรปกติ แต่ถ้าวิ่งมาจอดดับเครื่องแล้วจะสตาร์ทใหม่ก็จะมีอาการดังกล่าวแม้จะจอดไม่นานก็ตาม ผมนึกสาเหตุไม่ออกเหมือนกันว่าเพราะอะไร พอดีเขามีรถ 2.7 ในการครอบครอง 2 คัน เลยให้เขาลองไล่เปลี่ยนสลับคอยล์จุดระเบิดดู แต่เขาไม่ได้ทำตอนหลังโทรมาอัพเดทข้อมูลดังนี้

ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมาเขาเอารถไปล้างห้องเครื่องยนต์ แต่ตรงนี้เขาไมได้บอกผมก่อนในคราวนั้น หลังจากนั้นพบความผิดปกติคือในห้องเครื่องเกิดสนิมสีขาวขึ้นตามหัวน๊อและก็เหล็กในห้องเครื่องยนต์โดนกัดขาวเป็นจุด ขี้เกลือขึ้น เขาเลยเอา Sonax ไล่ฉีดปลั๊กเซนเซอร์ใหม่ทุกตัวปรากฎว่าอาการดังกล่าวหายไป แต่เราไม่ทราบว่าเซนเซอร์ตัวไหนที่เกิดปัญหาผมเลยบอกว่าถ้าเจอเหตุการณืสตาร์ทไม่ค่อยติดอีกในคราวหน้าลองฉีดไล่เซนเซอร์ทีละตัว จะได้ถอดมาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเซนเซอร์ตัวนั้น
เรื่องนี้ผมก็ไม่เคยพบมาก่อนในชีวิตเพิ่งได้ยินครั้งแรกนี้แหละ ปกติหลังจากออกทรปใหญ่ในการเข้าป่ามาถ้าห้องเครื่องสกปรกมากจนไม่ไหวผมจะเข้าร้านให้ล้างห้องเครื่องยนต์และก็ไม่เคยมีปัยหาแต่อย่างใดปรกติคาร์แคร์ทุกแห่งเขาจะระวังมากอยู่แล้วและเขาก็น่าจะเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ดีพอควร แต่ก็ไม่เคยเจอคาร์แคร์ที่ไหนล้างเครื่องยนต์แล้วสนิมแดกหมดแบบนี้เหมือนกัน เอาน้ำยาล้างห้องน้ำมาล้างหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะสภาพมันน่าจะเป็นกรดกัดสิ่งสกปรกมากกว่า ไม่รู้ว่าคาร์แคร์ที่สมาชิกท่านนี้ไปล้างห้องเครื่องยนต์เอาน้ำยาแบบไหนมาล้าง มันกัดทุกอย่างจนพรุนไปหมด น้ำยาที่เข้าไปในซีลยางหรือปลั๊กเซนเซอร์จะกัดเทอร์มินอลในเซนเซอร์ทำให้ไฟเดินไม่สะดวก ก็ถือเป็นเคสน่าสนใจอีกเคสนึงที่เราไม่ค่อยเคยเจอกันนักบอกเล่าเป็นประสบการณ์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 6/5/2558 เวลา : 10:07  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41795

คำตอบที่ 226
      
มาดูคนเขาพูดถึงเครื่องดีเซลบ้างว่าเขาคิดอย่างไร
ผมแกล้งถามไปในนั้นซึ่งคำตอบที่เขาตอบกันออกมา คือสิ่งที่ผมเคยพยายามพูดมาตลอดเกียวกับเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน
ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบแบบนี้จะดีกว่าสมัยเมื่อ 5-10 ปีก่อนอย่างมากที่คนในเวป Fortuner หรือ Vigo club ตอบกันออกมา FW Mail ที่ตอบโดยแค่ฟังเขาเล่ามาแต่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลยอะไร หรือกูรูยานยนต์บางท่านตอบแต่ไม่เคลียร์ให้ละเอียดว่าข้อดีข้อเสียคืออะไร
มีท่านนึงในนี้เขาใช้ Benz CDI ดีเซลซ่อมจนไม่ไหวจะซ่อมล่ะ จอดทิ้ง รถยุโรปดีเซลถึงแม้จะเป็นเบนซ์อะไหล่ในเซียงกงอย่าเรียกหายากเลย เรียกว่าหาไม่ได้ดีกว่าเพราะในเซียงกงรถยุโรปส่วนใหญ่จะมีแต่อะไหล่เบนซิน ถ้าคนใช้ดีเซลรถยุโรปเก่าแล้วมักขายทิ้งเมื่อจะต้องซ่อม เบนซินเขาก็ขายเหมือนกันล่ะ แต่ว่าตอนซ่อมพอเป็นรถเก่าแล้วดีเซลมันไม่ค่อยน่าซ่อมเท่านั้นเอง
ดีเซลที่ซ่อมแล้วยังราคาชาวบ้านจับต้องไหวคือพอจ่ายเงินซ่อมได้คือ ดีเซลในปิคอัพเพราะจำนวนรถบ้านเราปิคอัพเยอะ เลยน่าพิสมัยในการซ่อมแต่ก็ทำใจหน่อยว่าแพงไม่ถูกหรอก ถ้าจะให้ซ่อมถูกต้องดีเซลยุคเก่าก่อนเป็นคอมมอนเรล

********************************************
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,44231.0.html

กระทู้: 11


Re: ช่วยให้ข้อมูลและคำแนะนำE220 cdi w211ทีครับ
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2015, 05:24:55 » อ้างถึง

--------------------------------------------------------------------------------

อ้างจาก: Auto ที่ พฤษภาคม 05, 2015, 01:38:59
อ้างจาก: DTAC56 ที่ พฤษภาคม 04, 2015, 22:18:22
W211 ไม่แนะนำครับ โดยเฉพาะ CDi
ปัญหาเยอะ เคยใช้มาแล้ว ครับ
ซ่อมแพงมากครับ

อ้าว ไหนมีคนเคยบอกผมว่าดีเซล ถูกไม่จุกจิก ทนทานค่าซ่อมถูกไงครับ


ใช่ครับ ถ้าเป็น กระบะ
แต่ที่ใช้มา ทั้ง แคปติวา และ W211 ไม่ทนครับ ยิ่งใช้นาน เสียงเครื่องยิ่งดังมาก และจุกจิกกว่า
W211 ไม่ซ่อมแล้วครับ ซ่อมไปเยอะแล้ว ตอนนี้จอดไว้เฉยๆ เลย
สรุปตอนนี้รถที่ีใช้อยู่ เครื่องเบนซิน ยังดีทุกคัน เลขไมล์เยอะกว่าดีเซลด้วย
เห็นหลายคน อยากได้เก๋งดีเซล แต่ผมเฉยๆ เพราะใช้มาแล้ว ไม่ประทับใจครับ
****************************************************************



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 6/5/2558 เวลา : 10:09  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41797

คำตอบที่ 227
       มีอีกเคสนึงฝากไว้ให้คิด
มีคนพูดถึงเรื่องการตัดปั๊มติ๊กสำหรับรถติดแก๊ส ถ้าตราบใดที่ยังมีการติดแก๊ส เรื่องนี้ก็จะต้องพูดถึง
ขนาดบางอู่เดาส่ง ๆ ให้ความรู้กันมาว่า การติดแก๊สไม่ควรตัดปั๊มติ๊กเพราะน้ำมันเบนซินจะไปหล่อเลี้ยงท่อยางน้ำมันทำให้ไม่กรอบแตกเสียหาย ถ้าอายุท่อยางน้ำมันมากขึ้นหมายถึงรถเก่าแล้วควรเปลี่ยนท่อยางน้ำมันเบนซิน เค้าก็เดากันไปตามเรื่องตามราวคือเดามั่วไปเรื่อยคาดการณ์กันไปเอง ลูกค้าทั่วไปก็เชื่อกันด้วยนะ ไม่ได้บอกว่าผิดหรือถูกเพราะต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง

ผมยกตัวอย่างเคสง่าย ๆ ให้ฟังอีกเคสนึง
เป็นรถแฟนผมเอง อย่างที่รู้คือ แฟนผมเป็นพยาบาลเรื่องที่จะติดแก๊สในรถนั้นแน่นอนว่าไม่ชอบแน่เพราะคนทั่วไปจะกลัว คำถามมันจะตามมาโน่นนี่นั่น ผู้ชายหลายคนมักจะกล่อมแฟนตัวเองสารพัดเหตุผลจะติดแก๊สหรือไม่ติดจะซื้อรถรุ่นนั้นหรือรุ่นนี้ดี คือพยายามหาเหตุผลแต่ข้อดีมาอ้าง ด้วยการอาศัยความรู้ทางเนตบ้าง จากคนที่เขียนรู้จริงไม่จริงบ้าง
แต่ผมไม่เลยก่อนติดแก๊สผมจะห้ามแฟนผมก่อนเรื่องติดแก๊ส บอกกว่ารถวีออสไม่ได้กินน้ำมันมากมายติดแก๊สไปจะไม่ค่อยคุ้มน่ะ อนาคตจะต้องมีซ่อมบำรุงบ้างทำฝาสูบบ้างรถมันไม่ทนเหมือน 2.7 ที่ผมใช้อยู่ เมื่อทำความเข้าใจกันดีแล้วเธอบอกว่าจะติดแก๊สนั้นก็คือตกลงติดแก๊ส นะ
เมื่อติดแก๊สอย่างที่รู้กัน หรือบางท่านไม่เคยรู้ คือคนบางอาชีพหรือคนอีกหลาย ๆ คนเขาไม่ดูแลรถ นึกออกไหมถือกุญแจมาสตาร์ทรถอย่างเดียว แฟนผมเขาก็ไม่ดูแลรถเช่นกันถึงเวลาครบกำหนดก็เอาเข้าเช็คระยะที่ศูนย์โตโยต้า ถ้าเอารถไปทำเองอู่นอกก็โดนฟันหัวแบะเพราะผู้หญิงเขาไม่รู้เรื่องรถคือเขาใช้อย่างเดียวเพราะฉะนั้นการไปเพิ่มภาระด้วยการติดแก๊สแน่นอนว่าถ้าเจอคนที่ไม่ดูแลรถเข้าไปจะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้น มันก็ต้องทำการตัดปัญหาเสียก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าให้มาใช้แก๊สปัญหาตามหลังมันต้องมีมาแน่ ๆ ซึ่งจะได้ไม่คุ้มเสีย
รถที่แฟนผมใช้ก็เป็นรถ TOYOTA Vios แฟนผมที่เป็นพยาบาลก็ใช้อยู่ และเพื่อนเธอหลายคนก็ใช้รุ่นนี้อายุรถก็จะ 10 ปีแล้ว รถไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ถือกุญแจมาสตร์ทติดทุกครั้งใช้งานได้ไม่งอแง ไม่ต้องกังวลว่าจะมีไฟโชว์แต่อย่างใด ขนาดเข้าศูนย์ทุก 1 หมื่นโลโดยที่ไม่เคยเปิดกระโปรงมาดูอะไรเลย รถก็ไม่มีอะไรจุกจิกที่งอแงให้ต้องมาซ่อม ทำให้สบายใจเวลาจะใช้งาน พยาบาลเข้าเวรออกเวรดึก ไม่มีเวลาหรือเสียเวลาไปดูแลรถแต่อย่างใดพวกนี้เขาต้องการรถที่พื้นฐานง่าย ๆ แบบนี้คือแทบไม่มีการต้องซ่อมแต่อย่างใด และเมื่อถึงเวลาซ่อมก็ซ่อมไม่แพงใช้เวลาไม่นานเข้าศูนย์ไปเช็คระยะซ่อมก็จบ ไม่ใช่ต้องเสียเวลาไปหาอู่นอกที่เก่งเฉพาะทางในการซ่อมรถเพราะเขาไม่รู้จักใครที่จะไปเสียเวลาไปลองผิดลองถูกให้ถูกฟันหัวแบะ มีรถแค่พอใช้งานจากจุดนึงไปจุดนึงก็พอแล้ว เรื่องรถแฟนผมเองก็ไม่อยากได้รถที่มันจุกจิกแบบรถยุโรปที่ไฟโชว์มากมายสารพัดน่าเบื่อ คือนกลุ่มนี้เขาต้องการรถที่ใช้งานได้ทนทานแทบไม่มีปัยหาเลย เข้าศูนย์ไปก็โอเคพอแค่ตรงนั้นแล้วมีช่างคอยดูแลให้ ไม่ใช่ไปหารถที่ซ่อมยากเข้าศูนย์แต่ละทีโดน 7-8 พันขึ้นไปเหมือนรถฟอร์ดแบบนี้ หรือช่างห่วยต้องคอยร้องเรียน call center กันตอลอดแบบนี้เขาไม่ต้องการเช่นกัน
เรื่องการติดแก๊สแน่นอนว่าถ้ามันต้องเสียเวลาหาอู่เฉพาะด้านหรือเสียเวลามาซ่อมบำรุงคนทั่วไปเองก็ไม่อยากทำ ตอนนที่ผมติดแก๊สให้แฟนกับรถคันนี้นั้นผมไปติดที่อู่อาจารย์รุ่งที่บางคล้าผมก็เลือกยี่ห้อแก๊ส AC ที่มีพื้นฐานง่าย ๆ ผมก็ตัดปั๊มติ๊กเลย และตั้งรอบเปลี่ยนน้ำมันไว้ไม่นานนักแค่ 700 rpmความร้อนแค่ 45 องศา เนื่องจากเป็นรถเล็กการตัดต่อระหว่างน้ำมันกับแก๊สไม่มีสดุดผมลองหลายครั้งแล้วเนียนกว่า 2.7 ที่ตัดปั๊มติ๊กด้วยกัน ตั้งแต่นำรถไปติดแก๊สมาแฟนผมใช้งานรถบางทีออกจากบ้านตอนเที่ยงคืนไปเข้าเวรหรือกลับมาบ้านตอนเช้า ๆ หลังจากออกจากเวรมา บางทีก็อยู่ในสภาพง่วงนอนมั่งอยากกลับมานอนมากกว่า แฟนผมเองปล่อยน้ำมันเบนซินแห้งคาถังไปเลยก็มีคือสภาพไฟโชว์น้ำมันติดค้างแล้วค่อยหาเวลาไปเติม หรือบางทีก็ใช้จนแก๊สหมดก็วิ่งน้ำมันที่เหลืออยู่ไปทั้งแบบนั้นถ้ามีเวลาเหลือพอในการเข้าเวรครั้งต่อไป จึงไปเติมแก๊สและเธอจะไม่เติมแก๊สมากนัก จะเติมแค่ 200-300 บาท เพราะเธอจะบอกว่ารู้สึกรถมันหนักไปก็ไม่อยากเติมมาก การใช้งานระว่างแก๊สน้ำมันก็ไม่รู้สึกอะไร เธอเสียเวลามาเปิดฝากระโปรงรถนับครั้งได้ เรียกว่าไม่ใส่ใจเลยดีกว่า
เพราะฉะนั้นการที่อู่แก๊สบางอู่จะบอกว่ารถติดแก๊สไม่ควรตัดปั๊มติ๊ก ควรเติมน้ำมันอย่างน้อย 1/4 ถังเสมอ และรถเก่าแล้วให้เปลี่ยนสายน้ำมันเพื่อป้องกันท่อน้ำมันแตกจากการใช้แก๊สโซฮอลหรือการหลุดหลวมจากที่ปั๊มติ๊กทำงานตลอดเวลาหรือการติดแก๊ส มันก็ไม่ผิดสำหรับหลักการนี้
แต่หลักการนี้มันใช้กับแฟนผมไม่ได้หรือนำไปใช้กับคนบางคนไม่ได้ เพราะแฟนผมเขาไม่ดูแลรถ จะให้มาเปลี่ยนสายน้ำมันหลังจากรถเก่ามันก็ไม่เข้าเรื่อง เพราะรถยนต์ที่จริงไม่มีการซ่อมบำรุงเรื่องท่อน้ำมันหรือมีโปรแกรมให้ตรวจเช็คท่อน้ำมันเบนซินเพราะรถมันไม่มีปัญหา ยกเว้นคนน่ะจะไปทำให้มันเกิดปัญหาซึ่งไม่ใช่ผมแน่นอนที่จะไปทำให้มันเป็นปัญหาที่ต้องไปเสียเงินเสียเวลามานั่งเปลี่ยนท่อยางน้ำมันเบนซินตามที่เขาบอก
หรือในกรณีปั๊มติ๊กที่รถส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาปั๊มติ๊กเสียถ้าคนไม่ดูแลรถและเติมน้ำมันทิ้งไว้ 1/4 ของถังเสมอ ปั๊มอาจจะเสียทำให้ต้องเสียเงินซ่อมแพงเพราะปั๊มติ๊กของแท้ต้องมีราคา 8500 บาทขึ้นไป ของเทียบพอซ่อมแล้วสตาร์ทติดยากตามมา มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมอีกที่จะต้องไปซ่อมหลังจากมันเสีย เพราะรถทั่วไปที่ไม่ติดแก๊สจะไม่มีโอกาสปั๊มติ๊กเสียหายเลยในคู่มือรถก็ไม่บอกให้ตรวจเช็คปั๊มติ๊กตามระยะเวลาเหมือนเช็คระยะซะที่ไหนเพราะของพวกนี้มันแทบไม่มีการเสียหรือเสียยากมากหรือเติมน้ำมัน 1/4 ของถังถ้าคุณไม่ไปติดแก๊สมันก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะฉะนั้นถ้าใครติดแก๊สแล้วมันก็ต้องหัดประยุกต์ไม่ใช่คิดอะไรที่มันทื่อ ๆ ตรง ๆ บอกว่าไม่มีการตัดปั๊มติ๊กแล้วไปเดาเหตุผลมาอ้าง ถ้าเราจะประยุกต์คือตัดปั๊มติ๊กก่อนที่มันจะมีปัญหาหรือสร้างปัญหาให้กับเรา อย่างแฟนผมนี้วิ่งจนน้ำมันแห้งถังไฟโชว์รูปถังน้ำมันติดค้าง พอมีเวลาออกจากเวรจึงไปเติมไม่ใช่เติมทันที เพราะฉะนั้นถ้าไม่ตัดปั๊มติ๊กแต่แรก ยังไงก็พังครับสำหรับคนกลุ่มนี้ที่เขาไม่ดูแลมัน คุณจะไปบังคับเขาเติมน้ำมันหรือทำโน่นทำนี่เขาไม่ทำกันหรอก หรือทำช่วงแรก ๆ นาน ๆ ไปก็ลืมอีก พอลืมก็พัง ครั้งเดียวก็พังได้แล้ว ซึ่งคุณจะปวดหัวเรื่องซ่อมตามมาอีกจนได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 6/5/2558 เวลา : 17:03  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41798

คำตอบที่ 228
       รถติดกาซควรตัดการทำงานปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อความปลอดภัย

ถ้าไม่ตัดการทำงานปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง
เมื่อท่อส่งน้ำมันรั่วในขณะใช้กาซ เครื่องยนต์จะไม่ดับ ทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงยังทำงานส่งจ่ายน้ำมันอยู่ตลอดเวลาซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ได้
แต่ถ้าท่อส่งน้ำมันรั่วในขณะใช้น้ำมัน เครื่องยนต์จะดับ เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงานปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ

ซึ่งการตัดการทำงานปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง มีผลทำให้เวลาสลับเชื้อเพลิงจากกาซมาเป็นน้ำมัน เครื่องยนต์จะสะดุดนิดหน่อย เพราะต้องรอให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงสร้างแรงดันก่อน แต่สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ยอมรับได้ เพื่อความปลอดภัย อีกทั้งการสลับเชื้อเพลิง
จากกาซมาเป็นน้ำมันก็ไม่ได้ทำบ่อยๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

SR5-33 จาก SR5-33 1.46.226.136 พฤหัสบดี, 7/5/2558 เวลา : 09:31  IP : 1.46.226.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41800

คำตอบที่ 229
       http://www.innovaclub.net/SMF-Board/index.php?PHPSESSID=am7bv969b6bmfkrobv5dkh3lr6&topic=28555.msg385252;topicseen#new
อินโนว่าวิ่ง 1 ล้านกิโลเมตร

ใน 2.7 ที่เห็นก็มีปิคอัพวิ่งไป 7 แสนกว่ากิโลเมตรเมือนกัน
เมื่อก่อนผมบอกว่ารถ 2.7 วิ่งได้เกิน 1 ล้านกิโลเมตร คนไม่ค่อยเชื่อ ปัจจุบันก็ยังมีคนไม่เชื่ออยู่ดีนั่นแหละ 555
แต่รถผมยังห่างไกลมาก ยังไม่ถึง 2 แสนโลเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 29/5/2558 เวลา : 13:50  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41900

คำตอบที่ 230
       คือตอนนี้กำลังจะออก 2.7 4 ประตู เกียร์ธรรมดา มาติดแก๊ส เพราะได้ลด 150000 ตอนนี้ถ้าติดแก๊สจะคุ้มไหมครับ คุณ Auto



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kunsup จาก kunsup 182.52.209.84 อาทิตย์, 7/6/2558 เวลา : 09:11  IP : 182.52.209.84   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41945

คำตอบที่ 231
       ให้เทียบราคากับป้ายแดงดีเซลที่คุณจะซื้อครับ เพราะค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร รถแกีส 2.7 ตอนนี้ไม่ได้ประหยัดกว่าดีเซล 2.5 มากมายเท่าไหร่
ถ้าราคาดีเซลซื้อป้ายแดงพอกัน น่าซื้อไปทางดีเซล 2.5 ดีกว่า ภาษีป้ายวงกลมก็ถูกกว่าด้วย
ยกเว้นว่าคุณไปเทียบกับ 3.0 อันนั้นดีเซลจะเสียเปรียบเรื่องค่าใช้จ่าย

เมื่อก่อนเบนซิน 2.7 ได้เปรียบหลายด้าน
คือ ได้เปรียบราคาแก๊ส Option รถมากกว่าดีเซล ได้เกียร์ออโต บางรุ่นได้ 4x4 ราคาตอนซื้อก็ถูกกกว่าดีเซล

ตอนนี้ความได้เปรียบหายไปเยอะ รถไม่มี option น่าสนใจเท่าไหร่ ราคาไม่ถูก แก๊สแพงขึ้น ได้เกียร์ธรรมดา



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.197.13 จันทร์, 8/6/2558 เวลา : 01:02  IP : 124.120.197.13   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41950

คำตอบที่ 232
       แล้วถ้าต้องการแค่เครื่อง 2.7 เพราะวิ่งทางไกลบ่อย ต้องการเครื่องใหญ่นิดหนี่ง (ตอนนี้ใช้วีออสสงสารรถ) และต้องการความทนทาน และใช้รถเกิน 8 ปีพอได้ไหมครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kunsup จาก kunsup 182.52.211.12 จันทร์, 8/6/2558 เวลา : 21:41  IP : 182.52.211.12   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41956

คำตอบที่ 233
       ถ้าแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ลองเฉลี่ยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้ดี และก็ราคาตอนซื้อรถป้ายแดงเทียบกัน ถ้าวิ่งทางไกลบ่อยก็คุ้มค่า เพราะราคาค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรถูกกว่า คือ 2.7 เกียร์ธรรมดารุ่นนี้วิ่งตัวเปล่าอยู่ที่ 1.8 บาท / กม ถ้าใช้ระยะยาวมาก วิ่งกันเกิน 4-5 แสนโล 8 ปีแบบบนี้เห็นผลแน่นอนครับ ค่าซ่อมรถถูกกว่าวีออส ( แต่ค่าแก๊สต่อกิโลเมตรจะแพงกว่าวีออส)



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.122.117.117 อังคาร, 9/6/2558 เวลา : 00:31  IP : 124.122.117.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41957

คำตอบที่ 234
       ปัจจุบันผมมีเวลาเขียนกระทู้น้อยลง ที่จริงมีเรื่องจะขียนมากแต่เวลาเขียนน้อยบางทีคิดคิดก็ลืมไปเรื่องราวไม่ปะติดปะต่อ เนื่องจากส่วนใหญ่จะว่างเข้าเนตก็ประมาณหลังเที่ยงคืนไปแล้วของทุกวัน





รถพลังงานทางเลือก CNG LPG E20 E85 Hybird จากโรงงาน
1. ในบ้านเรากลุ่มรถพลังงานทางเลือกที่จะออกมาจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ในอนาคตรถกลุ่มนี้จะน้อยลงไม่ได้เติบโตกันอย่างที่คนไทยบ้านเราหลาย ๆ คนคิด โดยเฉพาะกลุ่มรถ CNG LPG Hybird จากโรงงาน หรือแม้กระทั่งรถที่เป็นกลุ่มพลังงานทางเลือกเอทานอลอย่างเช่น E10 E20 E85 ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่จะไปได้ถึง E20 แต่อนาคตรถที่ใช้ E85 จากโรงงานจะค่อย ๆ น้อยลง

สาเหตุทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

1.1 กลุ่มรถ CNG LPG จากโรงงานถึงแม้ในบ้านเราจะมีรถหลายรุ่นที่ใช้ CNG ติดตั้งมาจากโรงงานโดยตรงอย่างเช่น Corolla Altis CNG เป็นรถที่มีความประหยัดสูงและมีความปลอดภัยมากก็ตาม แต่เอาเข้าจริงยอดขายของรถในกลุ่มนี้กลับไม่ได้มากมายอย่างที่คิด นี่ขนาดเป็นยี่ห้อ TOYOTA นะครับ ถ้าลองไปคู่แข่งขันกันในตลาดที่ไม่ได้แปะตราโตโยต้ายิ่งแล้วใหญ่ ยอดขายไม่ได้วิ่งไปด้วยเลย ความนิยมในตัวลูกค้าจะเป็นตัวบ่งบอกอนาคตของผลิตภัณท์ นั่นคือคำตอบ
1.2 ลูกค้าส่วนใหญ่มีทางเลือกในการใช้รถยนต์มากขึ้น เดี๋ยวนี้ลูกค้าสามารถเลือกรถที่มีขนาดเล็กลง ราคาถูกลง ประหยัดน้ำมันขึ้นมากโดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกรถที่มีขนาดใหญ่กว่าที่ติดตั้ง CNG มาจากโรงงาน
1.3 ราคารถ CNG ที่ติดตั้งมาจากโรงงานส่วนมากเป็นรถ B Segment ขึ้นไป และราคารถกลุ่มนี้จะมีราคาสูงกว่ารถ STD ค่อนข้างมาก อย่าง Corolla Altis CNG ราคาเริ่มต้นในรุ่น E AT นั้นสูงถึง 854,000 บาท ตลาดกลุ่มนี้จึงน้อยตามไปด้วย
1.4 ข้อด้อยของรถยนต์ที่มีระบบก๊าซ คือเสียพื้นที่ท้ายรถในการติดตั้งถังแก๊สไป และอุปกรณ์มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก ทำให้รถมีน้ำหนักด้านท้ายมากขึ้น
1.5 ถ้าเป็นรถขนาดเล็กกว่ารองลงมาอย่างเช่น Vios City การติดตั้งเชื้อเพลิง CNG จะทำได้แต่ต้องเสียพื้นที่ไปมากกว่ารถใหญ่อย่าง C segment และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากทำให้ลูกค้าไม่นิยม
1.6 มีจุดซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น เสียค่าบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นเฉพาะในส่วนอุปกรณ์แก๊ส ที่มีการติดตั้งเพิ่มเติม
1.7 ราคาน้ำมันกลับสู่ความจริงไม่ได้มีการอุ้มราคาแก๊สเหมือนก่อน ในขณะที่ราคาแก๊สเพิ่มขึ้นไม่เกิดแรงจูงใจในการใช้พลังงานทางเลือก
1.8 รถไม่ได้มีการส่งขายไปทั่วโลกหรือ common กันเพราะต่างประเทศก็ไม่ได้นิยมใช้ก๊าซ CNG เป็นพลังงานในรถยนต์
1.9 บริษัทรถยนต์ไม่มีการพัฒนารถยนต์ใช้ก๊าซ เพราะไม่ใช่ปัจจัยยั่งยืนในการใช้พลังงานทั่วโลก
1.10 รถใช้ก๊าซจะเหมาะกับประเทศที่ส่งเสริมรถยนต์ใช้ก๊าซ พลังงานราคาน้ำมันแพงแต่ก๊าซราคาถูก และมีการขนส่งก๊าซที่ดีด้วยต้นทุนราคาถูก แต่ถ้าระบบขนส่งก๊าซมีต้นทุนสูงแบบประเทศไทยไมได้ใช้การขนส่งก๊าซทางท่อส่งไปตามปั๊มแหล่งต่าง ๆ ต้นทุนค่าขนส่งก๊าซแพงเมื่อนำมา + กับราคาหน้าปั๊มจึงไม่จูงใจให้เปลี่ยนมาใช้ก๊าซ
อนาคตรถกลุ่มนี้จะค่อย ๆ น้อยลงหรือโมเดลหน้าอาจจะไม่มีการผลิตอีก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 19/6/2558 เวลา : 15:36  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41988

คำตอบที่ 235
       2. รถพลังงาน E10 E20 E85 ที่จริงรถรุ่นใหม่ ๆ ก็สามารถรองรับพลังงานทางเลือก E10 E20ได้อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดทางเทคนิคมากนัก แต่การขยับไปพลังงานเอทานอลที่สูงกว่านี้คือ E85- E100 เป็นเรื่องที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดด้านเทคนิคพอสมควร
2.1 ถึงแม้การใช้รถที่เป็นพลังงานทางเลือก E85 จะไม่ต้องเสียพื้นที่ในการติดตั้งถังก๊าซเหมือนรถ CNG แต่เนื่องจากรายละเอียดที่ต้องปรับเปลี่ยนมีมากกว่ารถ STD
2.2 รถไม่ได้มีการส่งขายไปทั่วโลกหรือ common กันเพราะต่างประเทศก็ไม่ได้นิยมใช้ E85 เป็นพลังงานในรถยนต์
2.3 บริษัทรถยนต์ไม่มีการพัฒนารถยนต์ใช้พลังงานเอทานอล เพราะไม่ใช่ปัจจัยยั่งยืนในการใช้พลังงานทั่วโลก
2.4 รถใช้พลังงานเอทานอลจะมันไม่ได้ประหยัดจริงเมื่อเทียบกับพลังงานชนิดอื่น ทำให้ทั่วโลกไม่นิยมใช้
2.5 รถใช้พลังงานเอทานอลจะเหมาะกับประเทศที่ส่งเสริมภาคการเกษตร พลังงานราคาน้ำมันแพงแต่เอทานอลราคาถูกและต้องเป็นประเทศที่มีพื้นที่การเกษตรจำนวนมากเพียงพอในการปลูกพืชพลังงานทดแทน ซึ่งประเทศไทยแทบไม่มีปัจจัยดังกล่าวเลย ยกเว้นภาครัฐที่พยายามช่วยอุ้มชูเอทานอลไว้ด้วยการลดภาษีและชดเชยราคา


3. รถกลุ่ม Hybrid
3.1 ปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่าในประเทศไทยรถไฮบริดจะไม่เติบโตไปกว่านี้อีกแล้ว แต่จะยังคงมีอยู่ต่อไป
3.2 รถไฮบริดไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ด้วยยอดจำหน่ายที่ไม่สอดคล้องกับ TARGET แต่ต้น รถอย่างโตโยต้าพรีอุสได้หยุดสายการผลิตในประเทศไทยไปแล้ว
3.3 รถไฮบริดรุ่นอื่น ๆ ของทางโตโยต้าก็แทบจะพับโครงการไปเกือบทั้งหมด นี่ขนาดเป็นยีห้อโตโยต้าถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการรถยนต์บ้านเราและมีดีลเลอร์ที่เป็นตัวแทนทั่วประเทศกว่า 200 แห่ง รองรับการซ่อมรถไฮบริดยังเอาตัวรอดจากตรงนี้ไม่ได้ ยี่ห้ออื่นแทบไม่ต้องพูดถึงในประเทศไทย
3.4 ในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกก็ไม่ได้นิยมรถไฮบริดอีกต่อไป มันไม่ได้ตอบโจทย์ของรถแบบ Mass production คือรถไฮบริดจะยังคงมีอยู่ แต่ไม่ใช่รถแสตนดาร์ดทั่วไประดับล่างที่คนทั่วไปพร้อมจะซื้อ
3.5 รถไฮบริดมีราคาแพง ชิ้นส่วนการซ่อมบำรุงก็มีราคาแพงกว่ารถทั่วไป และรถยนต์มีการจำกัดอายุการใช้งานที่แน่นอน ความนิยมรถประเภทนี้จึงลดลงไปเรื่อย ๆ
3.6 ถ้าไม่ได้วิ่งในเมือง ความประหยัดเชื้อเพลิงไม่ได้แตกต่างกันมากนัก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 19/6/2558 เวลา : 15:36  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41989

คำตอบที่ 236
       4. ในรถเก๋งดีเซล

4.1 Mazda 2 คือตัวอย่างที่พยายามจะลองตลาดใหม่ ๆ เพราะกลุ่มคนที่เลือกรถมาสด้าถูกวิจัยออกมาแล้วว่าเป็นตลาดของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษา ชอบนวัตกรรมเทคโนโลยี เลือกในสิ่งที่คุ้มค่าทันสมัย แต่น่าเสียดายที่ตลาดกลุ่มนี้ไม่ได้กว้างหรือมีจำนวนมากนัก
4.2 ในประเทศไทยไม่มีเก๋งดีเซลขนาดเล็กมานานมากและคงจะไม่มีต่อไปอีกนานเมื่อค่ายรถยนต์อื่นพิจารณาจากยอดจำหน่าย รถเก๋งดีเซลขนาดเล็กราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ไม่ได้ตอบโจทย์ของทั้งผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยและลูกค้าในไทย
4.3 เมื่อพิจารณาจากรถ Mazda 2 ดีเซล มีโอกาสเป็นไปได้ว่าในอนาคตโมเดลหน้า มาสด้าไม่กล้าส่งเก๋งดีเซลทำตลาดในไทยอีกเป็นแน่ รวมถึงค่ายรถยนต์อื่น ๆ ที่พิจารณามาแล้วก่อนหน้านี้
4.4 รถเก๋งดีเซลจะเหมาะกับตลาดในยุโรปมากกว่าในภูมิภาคอื่นทั่วโลก
4.5 ราคารถเก๋งดีเซลที่แพงขึ้นจากรุ่นเบนซิน 130,000 บาท แม้จะได้อานิสงค์ของรถ Ecocar เฟส 2 ทำให้ Mazda 2 กดราคาได้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วก็ตาม แต่นั่นก็ยังเป็นข้อเปรียบเทียบในการซื้อเพราะต่างกันมากในรุ่นเดียวกัน เมื่อราคารถตัว Top สูงพอกับรถ C segment
4.6 ถ้าคิดเอาเรื่องเงินหรือความคุ้มค่ามาพิจารณาในการเลือกรถ ยังไงก็เสียเปรียบเพราะรถเก๋งดีเซลแพงกว่า 1.3 แสนบาท
4.7 รถรุ่นก่อน ๆ อย่าง Ford Focus ดีเซล TDCI ยังเป็นบทเรียนอยู่จนวันนี้ที่ค่าซ่อมรถเมื่อถึงระยะเวลา 1 แสนกว่าโลแพงเอาการถ้าไม่เสียก็ดีไป แต่ถ้าเสียขึ้นมา และอะไหล่รอ 8-9 เดือน ต้องรอสั่งอะไหล่จากยุโรปเพราะเครื่องดีเซลในเก๋งมีทำตลาดเฉพาะในยุโรปเท่านั้น ทำให้ลูกค้าเข็ดขยาดในการซื้อเก๋งดีเซลไปพอสมควร
4.8 อะไหล่ในเซียงกงถ้าเป็นรถเก๋งมักจะไม่มีอะไหล่ของเก๋งดีเซล เพราะเซียงกงบ้านเราตัดเอารถมาจากญี่ปุ่น ทำให้รถเก๋งดีเซลเมื่อเก่าแล้วจะหาอะไหล่ทดแทนในการซ่อมยากพอสมควรเพราะไม่แพร่หลายในเซียงกงรวมถึงร้านอะไหล่ทั่วไป
4.9 รถเก๋งดีเซลจะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่จะเป็นตลาดกลุ่มระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงในรถยุโรปที่มีราคาแพงอยู่แล้ว แต่ตลาดล่าง ๆ ในกลุ่มรถเก๋งจะเป็นเครื่องเบนซินเหมือนเดิม




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 19/6/2558 เวลา : 16:51  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41990

คำตอบที่ 237
      

5.รถใช้พลังงานไฟฟ้า Fuel cell ที่ต้องมีการชาร์จไฟ
5.1 ในบ้านเราหรือที่อื่น ๆ มีคนกลุ่มนึงเรียกร้องอยากได้ แต่เอาเข้าจริงจะมีคนกลุ่มที่มีศักยภาพในการซื้อรถพลังงานไฟฟ้าซักกี่คน
5.2 ในบ้านเราหรือที่อื่น ๆ ไม่มีปัจจัยพื้นฐานในการรองรับเรื่องดังกล่าวเลย ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จไฟหรือสถานีชาร์จไฟ
5.3 บ้านเราไม่มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหรือโรงกลั่นน้ำมันมาหลายปีแล้ว ไปทำประชามติให้สร้างที่ไหนโดนประท้วงขับไล่หมด ประชาชนไม่เอาโรงไฟฟ้า
5.4 ประเทศเราการใช้พลังงานไฟฟ้าก็แทบจะไม่เพียงพออยู่แล้ว เราไม่มีมาตรการรองรับการเปลี่ยนเชื้อเพลิงของรถให้หันมาใช้พลังงานไฟฟ้า
5.5 รถไฮบริดบ้านเราหรือที่อื่น ๆ ทั่วโลกก็ค่อย ๆ หมดความนิยมลงไป รถพลังงานไฟฟ้าก็เช่นกันด้วยปัจจัยที่ด้อยกว่ารถไฮบริดมากไม่มีทางได้เกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้
5.6 รถพลังงานไฟฟ้า ปัจจัยหลักอยู่ที่ Fuel cell แบตเตอรี่ที่มีราคาแพงและต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด 2 ปี ทำให้รถไฟฟ้ามีค่าบำรุงรักษาทีสูงมากไม่คุ้มค่าถ้าเทียบกับการใช้พลังงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน
5.7 รถไฟฟ้ามีการจำกัดอายุรถในการใช้งานที่ชัดเจน ว่าต้องทิ้งเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด
5.8การวิ่งต่อระยะทางการใช้งานในการชาร์จไฟ 1 ครั้ง เทียบกับการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในต่อน้ำมัน 1 ถังไม่ได้
5.9 ปัจจัยข้อด้อยดังกล่าว ทำให้รถที่ใช้ไฟฟ้าไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วโลก

สรุปสุดท้ายโลกกำลังกลับมาหาพลังงานน้ำมันจากปิโตรเลียมที่เป็นการถาวรและยั่งยืนมากกว่าในปัจจุบันยังเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด หลังจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีการค้นพบแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ ๆ จากชั้นหิน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 19/6/2558 เวลา : 16:51  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41991

คำตอบที่ 238
       มีเรื่องน่าสนใจอีกเคสนึงไว้ให้เป็นความรู้

พอดีเพื่อนสมาชิกท่านนึงมาซื้อ coolant ไปเปลี่ยนถ่ายของเหลวและเปลี่ยนชุดหล่อเย็นปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ฝาหม้อน้ำ ท่อบายพาสเพราะรถวิ่งมาประมาณ 150,000 กิโลเมตร หลังจากเปลี่ยนชุดหล่อเย็นแล้วพบอาการปัญหาบางประการคือ อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นต่ำกว่าเดิมมาก ช่างที่เปลี่ยนบอกว่าอาจเป็นเพราะน้ำยา coolant ที่เปลี่ยนเข้าไปใหม่ อาจทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์เปลี่ยนไป เค้าก็เลยโทรมาถามผมเพื่อถามหาความแน่ใจ ผมเลยบอกว่ามั่วครับ ช่างนะมั่วมโนภาพคิดไปเองแล้ว
ผมลองมาไล่สาเหตุต่อว่าก่อนหน้านี้ได้เคยทำอะไรกับรถมาหรือเปล่า เค้าก็บอกว่าเปล่าหลังจากเปลี่ยนชุดหล่อเย็นเข้าไปก็เจออาการปัญหาดังกล่าว ผมเลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นแล้วล่ะ ก็เกี่ยวกับเรื่องนี้การเปลี่ยนชุดหล่อเย็นนั่นแหละแต่จะเป็นอะไรนั้นผมก็ตอบไม่ได้
ทีนี้บังเอิญไปเจอสาเหตุจากการไล่ถามมาก่อนการวางสาย โทรศัพท์ ว่าอะไหล่ที่ซื้อมาเปลี่ยนเป็นของแท้หรือเปล่า เค้าก็บอกว่าของแท้นะเพราะเป็นคนซื้ออะไหล่มาให้ช่างเปลี่ยนเอง ผมเลยได้โอกาสไล่ถามไปต่อว่าของแท้ที่ว่าน่ะซื้อที่ไหน เค้าบอกว่าซื้อมาจากร้านอะไหล่ขนาดใหญ่แห่งนึงที่เชื่อถือได้ ผมขอกไม่บอกแล้วกัน ผมเลยถึงบางอ้อทันที คืออะไหล่ที่เปลี่ยนไม่ใช่ของแท้


วิธีการแก้ไขผมเลยแนะนำให้ไปซื้อวาล์วน้ำใหม่ที่ศูนย์ TOYOTA มาเปลี่ยนใหม่อีกรอบนึง ย้ำน่ะครับว่าซื้อที่ศูนย์โตโยต้าไม่ใช่ร้านอะไหล่ หลังจากนั้นเขากลับไปหาช่างคนเดิม เพื่อเปลี่ยนเฉพาะวาล์วน้ำใหม่อีกรอบนึง ผลหลังจากเปลี่ยนอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นกลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม แต่จะเย็นกว่าเดิมก่อนเปลี่ยนชุดหล่อเย็น 1-2 องศาเนื่องจากวาล์วน้ำของเดิม 1.5 แสนกิโลเมตรเริ่มหมดอายุวาล์วน้ำจะค่อย ๆ เปิดช้าลงถ้าเปลี่ยนใหม่ อุณหภูมิเครื่องก็จะลดลงป้องกันการสึกหรอ เค้าก็เลยโทรมารายงานผลอาการดังกล่าวหายไปแล้ว ก็ถึงบางอ้อกันหมด ช่างที่เปลี่ยนอะไหล่ก็เอาของมาเทียบดูกล่องกระดาษภายนอกเหมือนกันทุกประการ อะไหล่วาล์วน้ำเหมือนกันเกือบแยกไม่ออก แทบจะเหมือนกันเลยแต่มีความแตกต่างเล็กน้อยต้องตั้งใจสังเกตุจริง ๆ คือสรุปตอนนี้เคสนี้เจ้าของถือเป็นบทเรียนกันไปต่อไปไม่กล้าซื้ออะไหล่จากร้านอะไหล่แล้วเข้าศูนย์ซื้อดีกว่า ซึ่งผมเคยแนะนำกันไปแล้วว่าให้ซื้อของแท้ในศูนย์ ไม่ควรซื้อจากร้านอะไหล่ภายนอก เพราะลูกค้าหลายคนบอกผมว่าอะไหล่แท้ แต่แท้ของเขาคือซื้อจากร้านอะไหล่ มันไม่ใช่ของแท้




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 22/6/2558 เวลา : 13:35  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41998

คำตอบที่ 239
      
ที่ผมยกตัวอย่างเรื่องดังกล่าวมาจะบอกให้พวกเราให้ทราบว่าปัจจุบันอะไล่ภายนอกตามร้านอะไหล่ส่วนมากเป็นอะไหล่ทดแทน หรืออะไหล่เทียม แต่กล่องบรรจุเป็นของแท้เราไม่สามารถดูสภาพภายนอกแล้วบอกว่าเป็นของแท้หรือของเทียม ยากจะดูออกเพราะเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ทำงานด้านนี้หรือคลุกคลีอะไหล่ อะไหล่เทียบหรืออะไหล่ทดแทน หรืออะไหล่เทียมสามารถใช้งานได้ครับแต่ได้เป็นบางเคสไม่ใช่ทุกเคส แต่ปัญหาที่ผมจะยกตัวอย่างคือ คุณไปซื้ออะไหล่ที่ร้านอะไหล่คือซื้อของแท้ จ่ายเงินกันด้วยราคาของแท้ แต่ของที่ได้คืออะไหล่เทียบ หรืออะไหล่ทดแทน ด้วยการจ่ายเงินราคาสูงเพื่อซื้ออะไหล่แท้
อะไหล่เหล่านี้มันก็ระบาดมานานแล้ว ไม่ว่ากรองอากาศ กรองน้ำมันเครื่อง หรืออะไหล่อื่น ๆ มีเยอะและระบาดไปทั่วนั่นแหละ คือถามว่าทางร้านรู้ไหมบางร้านอาจรู้หรือไม่รู้ก็ได้เพราะบางทีก็ดูยากมาก กล่องกระดาษภายนอกน่ะแท้แน่นอนแต่อะไหล่ข้างในยากที่จะตอบได้ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไหล่ตัวนั้น
ยกตัวอย่างมีสมาชิกหลายคนไปซื้อกรองอากาศจากร้านอะไหล่ราคา 550 บาท บอกว่าเป็นของแท้ หรือไม่บางทีก้ซื้อเท่าราคาของแท้เลย 800 กว่าบาท ก็มี แต่อะไหล่ตรงนี้โดยมากไม่ใช่ของแท้ จากที่เจอมา ถ้าจะเอาแน่นอนที่สุดควรซื้อจากศูนย์บริการโตโยต้าครับ ถ้าไม่ซื้อกับผมในหน้ากระทู้ซื้อขายของเหลวผมก็แนะนำทุกท่านไปซื้อที่ศูนย์ TOYOTA เป็นหลัก
คือบางอย่างของเทียมใช้ได้ไหม คือตอบว่าได้ครับ แต่โดยมากไม่คุ้มครับ แต่ที่ไม่น่าซื้อก็เพราะว่าท่านไปจ่ายเงินด้วยราคาที่แพงแต่ท่านได้ของเทียมแหกตามาน่ะแล้วเข้าใจว่าเป็นของแท้นั่นแหละ ถ้าท่านรับได้ก็ไม่มีปัญหา จะจ่ายเงินแพงด้วยราคาอะไหล่เทียมก็แล้วแต่ท่าน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 22/6/2558 เวลา : 13:36  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41999

คำตอบที่ 240
       คุณ Auto ครับ ผมพึ่งเป็นสมาชิกใหม่ พึ่งได้รถฟอร์จูนเนอร์ 2.7 vvti 4wd สีดำ ปี 2005 เลขไมล์ที่ 180000 กม.เศษๆ LPG หัวฉีด
ที่ตัดสินใจซื้อรุ่นนี้ เนื่องจากติดตามอ่านข้อมูลของคุณออโต้ และสมาชิกท่านอื่น ๆ อยู่พักนึงครับ ได้ข้อมูลดีๆมากมาย
ขอฝากรถคันนี้ในชุมชน ด้วยนะครับ ผมชื่อ มังกร

ขอบคุณล่วงหน้าครับ



ยินดีต้อนรับ สู่บ้านอันอบอุ่นครับ
จาก : BeerSurat(BeerSurat) 10/7/2558 17:21:39 [58.11.116.84]
ขอบคุณมากครับ ดีใจที่ได้ร่วมทางครับ
จาก : sibmuen(sibmuen) 11/7/2558 10:26:38 [58.9.196.138]
ขอบคุณมากครับ ดีใจที่ได้ร่วมทางครับ
จาก : sibmuen(sibmuen) 11/7/2558 10:34:07 [58.9.196.138]
ยินดีด้วยนะครับ ขอให้ใช้รถอย่างมีความสุข ท่องเที่ยวทั่วไทย
จาก : Auto.(Auto.) 11/7/2558 14:21:38 [124.120.74.192]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sibmuen จาก Dragon71 58.9.196.138 ศุกร์, 10/7/2558 เวลา : 14:45  IP : 58.9.196.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 42093

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,29 มีนาคม 2567 (Online 2294 คน)