ลูกคือ กระจกของพ่อแม่ พ่อแม่ เป็นอย่างไร ลูกก็เป็นเช่นนั้น
babymom
จาก babymom
112.142.85.142
พฤหัสบดีที่ , 15/10/2552
เวลา : 12:05

อ่านแล้ว = 1559 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       วันนี้อยู่บ้าน อารมณ์ดี เอาเรื่องนี้มาฝากค่ะ ^^

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Blog MNSHANG คุณแม่คนเก่งค่ะ

นกเห็นด้วยกับบทความนี้ พืสูจน์มาหลายอย่างแล้ว เรื่องกระจกเงาของเราเอง ^^ ลูกชายแสดงนิสัยบางอย่างที่ แม่ เลย แบบนี้เลย คือแม่ทำเอง55555555 เห็นลูกแล้วอึ้ง get กับทฤษฎีนี้เลยค่ะ

ลองอ่านแล้วทบทวนตัวเองดูนะค่ะ ว่าเคยเจอแบบนี้อะเป่า ^^


http://community.momypedia.com/community/blog/my_blog_detail.aspx?bgrid=3621&blgid=1120

 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ
คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       เล่าเรืองปลุกมหัจฉริยภาพลูกหลาน


จะเห็นว่า คนแรกที่มีความสำคัญในการปลุกมหัจฉริยะภาพที่มีอยู่ในตัวของเด็กทุกคน คือ แม่ และพ่อ ในหนังสือ Magical Parent , Magical Child ได้บอกไว้ชัดเจนว่า

ลูกคือ กระจกของพ่อแม่ พ่อแม่ เป็นอย่างไร ลูกก็เป็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม อันนี้ไม่ได้ หมายความว่า พ่อแม่ที่ไม่ฉลาด ลูกก็หมดหวังที่จะเป็นคนฉลาด แต่หมายความว่า เมื่อพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นเช่นไร พ่อแม่ต้องแก้ไข และเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนค่ะ

อยากให้ลูกรักกีฬา แต่พ่อแม่ไม่เล่นกีฬา กลัวออกกลางแจ้ง ลูกก็จะไม่สนใจเหมือนกัน อยากให้ลูกรักการอ่าน แต่พ่อแม่ ไม่ชอบอ่านหนังสือ ก็ยากที่ลูกจะทำตาม อยากให้ลูกมีวินัย นอนเช้า เป็นเวลา แต่พ่อแม่กลับไม่มีวินัย ทำอะไรไม่เป็นเวร่ำ เวลา ก็ยากที่จะจัดการให้ลูกมีวินัยได้ หลายๆเรื่องที่กล่าวมา ไม่ใช่เป็นในลักษณะว่า เราเล่นดนตรีไม่เป็น ทำให้ลูกไม่สามารถเล่นดนตรีได้ อันนี้คนละเรื่องกัน แต่หมายถึง พ่อแม่ มีอุปนิสัยอย่างไร ก็จะทำให้ลูกเป็นเช่นนั้น เด็กมองพ่อแม่ เป็นแบบอย่าง โดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ

ในประเด็นนนี้ ขยายผลมาถึงประเด็นที่ว่า หากพ่อแม่มีความเชื่อเช่นไร ลูกก็จะเชื่อเช่นนั้น อย่างที่ดิฉันเคยเล่าไว้ในกระทู้ที่แล้ว เรื่องของเทคนิคการเรียนเก่ง ว่า หากพ่อแม่ ไม่มั่นใจว่าลูกจะมีความสามารถที่จะสอบแข่งขันได้ กลัวลูกรู้ไม่พอ ลูกก็จะรู้สึกไม่มั่นใจเช่นกัน สุดท้าย พ่อแม่ลูกก็เลยจูงมือกันไปโรงเรียนกวดวิชา เพื่อเสริมความเชื่อมั่น

หากพ่อแม่มีความเชื่อมั่น ว่าเด็กทุกๆคนรวมทั้งลูกของเรา มีอัจฉริยภาพมาแต่กำเนิด เราสามารถเพิ่มศักยภาพ สามารถปั้นลูกได้ ด้วยตัวของเราเอง ก็จะทำให้เรา ลงมือ กระทำ และเมื่อลงมือ กระทำ ก็ย่อมเกิดผล จะตรงใจอย่างที่เราหวังหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ย่อมเกิดผลบางอย่างที่เหนือการคาดคิดกับลูกๆของเรา เขาเรียกว่า มี Miracle เกิดสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับเขาแน่นอน

ในหนังสือ Magicle Parent, Magicle Child ได้พูดเรื่องหนึ่งไว้น่าสนใจ คือ ลูก คือ กระจกของพ่อแม่ ดังนั้น การที่พ่อแม่จะฝึกฝนลูกนั้น จะต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับลูก ไม่ได้แยกฉัน ไม่ได้แยกเธอ เหมือนกับเต้นรำไปพร้อมกับลูก สองเท้าก้าวไปตามท่วงทำนองเพลง ที่คล้องจอง และสอดประสานกัน ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องคาดหวัง ปรับตัวไปตามสถานการณ์ และการพัฒนาของลูก เหมือนอยู่ในภวังค์ in the zone เมื่ออ่านตอนนี้ ดิฉันระลึกได้ถึง

สิ่งที่ดิฉันได้รับจากการเรียน ในหลักสูตรของ Landmark Forum คือ Excellent in the Zone ตอนแรกก็ไม่เข้าใจนะคะ ว่า in the Zone คืออะไร แต่เมื่อเรียนแล้วก็เข้าใจ ได้ กล่าวคือ ตอนที่นักกีฬาอยู่ เช่นอยู่ในสระว่ายน้ำในขณะที่แข่งขัน หรือ อยู่ในสนามบาสเก็ตบอล มีเสียงเชียร์มากมาย มีผู้เล่นวิ่งขวักไขว่ ซึ่งทำให้เสียสมาธิได้ แต่นักกีฬายอดเยี่ยม ขณะที่เขาอยู่ในสนามการแข่งขันนั้น เขาเห็นเพียงตัวเขา และลูกบอลเท่านั้น เขาไม่ได้ยินเสียงอื่น เขาไม่เห็นใคร เขาไม่ได้คิดว่า เขาจะต้องเด่น ต้องดังแน่นอน หากชนะ หรือ แพ้ ในสมองของเขา เห็นเพียงลูกบอล ที่วิ่งไปทิศทางนั้น ทิศทางนี้ และเขาก็ตอยสนองกับลูกบอล เลี้ยงลูก จับลูก โยนลูกบอลไป สู่เป้าหมาย

ในหนังสือเล่มนี้ ก็บอกไว้เช่นกัน ว่า การที่เราในฐานะพ่อแม่ จะฝึกฝนลูกเพื่อให้เขามีศักยภาพสูงสุดนั้น ต้องเดินไปพร้อมกับลูก ลูกคือลูกบอลที่เราต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเขา เราไปทิศทางเดียวกับลูกบอล เราตอบสนองกับลูกบอล เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรา ไม่ต้องตั้งเป้า คาดหวังอะไรไว้ก่อน แค่เล่นไปกับลูก ดูลูกว่าเขามีการตอบสนอง เปลี่ยนแปลงไปเช่นไร และทำตามสัญชาตญาณของเราเอง ที่จะนำลูกบอลสู่เป้าหมาย เรื่องนี้มีนัยสำคัญบางประการ กล่าวคือ เด็กแต่ละวัย มีพัฒนาการที่แตกต่างกัน ในวัยก่อนหนึ่งปี เด็กก็จะมีความพร้อมทางร่างกายในระดับต่างๆ ซึ่งการฝึฝนเด็กในแต่ละวัย ก็ต้องเหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กด้วย และให้เหมาะกับพื้นนิสัยของลูกเช่นกัน พ่อแม่บางคนจะตั้งธงไว้ก่อน เปรียบเทียบลูกกับเด็กข้างบ้าน กับเด็กคนอื่นๆ และตั้งเป้าว่า ฉันต้องฝึกลูกให้ได้แบบนั้นบ้าง ซึ่ง ไม่ Work เพราะเด็กแต่ละคนเป็นปัจเจกบุคคล จึงไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัวในการฝึกฝนเด็ก นอกจากต้องคอยสังเกต และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับลูก ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

babymom จาก babymom 112.142.85.142 พฤหัสบดี, 15/10/2552 เวลา : 12:07   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 14

คำตอบที่ 2
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

31012515 จาก 31012515 58.10.3.208 พุธ, 21/10/2552 เวลา : 18:00   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 31

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  





Program Date : 3 Jan 2011 (icon update2)
หน้าแรก (Home) | LOGIN | LOGOUT | เกี่ยวกับเรา =>>> Truehits.net    วันเสาร์,18 พฤษภาคม 2567
สอบถามข้อมูลกิจกรรมเพิ่มเติม ได้ที่ Email:: act50th@weekendhobby.com หรือ TEL:081-6419681 (9:00-16:00 น.)