เสาร์,27 เมษายน 2567
 
[ Home ]

                          
+ รายงานทริป

+ รูปหน้า 1
+ รูปหน้า 2
+ รูปหน้า 3
+ รูปหน้า 4

+ แผนที่เส้นทาง GPS


รายงานทริป บ้านพุระกำ จ.ราชบุรี  7-8 เมย.  44 { Counter No. 7348 Truehits.net }


                ความแน่นอนบนความไม่แน่นอนนั้นหายาก แต่มิตรภาพนั้นสิหาได้ง่าย ทริปนี้คงสื่อความหมายได้เป็นอย่างดี อ่านแล้วอย่าพึ่งงง.! กันนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น ติดตามต่อไปเลยละกันนะ 

                เราเริ่มต้นพบกัน ทั้งหมด 5 คัน ที่ปั้มเอสโซ่ บนถนนเพชรเกษม เวลา 8.30 - 9 โมงเช้า โดยมีคุณทศ (Jeep 2.5L) พร้อมลูกชายตัวน้อย มาก่อนเป็นคันแรก ตามมาด้วยคุณธเนศ พร้อมภรรยาและลูกชาย ลูกสาว (KIA), เสือเข้ม (VITERA) มีนายหนอน, คุณกุ้ง เป็นผู้ติดตาม และ นายบี (CARIVBIAN)มี หมึกแดง( แต่ตอนหลังจะถูกเปลี่ยนชื่อ) เป็นเนฯ , คุณนพ,คุณเจี๊ยบ (JEEP 4L) และนินจาเต่า (JEEP 4L) พร้อมภรรยา ตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน งานนี้เรียกว่ามีสมาชิกใหม ่ใจถึงมา ร่วมทริปกับเราถึง 4 คันคือ คุณธเนศ คุณทศ คุณ WAR และนินจาเต่า ทำให้พวกหน้าเดิม ๆ รู้สึก กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ขบวนออกจากปั้มเวลาประมาณ 9 โมงเช้ามุ่งหน้าสู่ราชบุรี เพื่อจะไปสมทบกับโกกุย (Jeep 4L) บริเวณฟาร์มโคนมหนองโพ ราชบุรี คราวนี้พี่แกพาลูกชาย 2 คนมาลุยด้วย แวะทานอาหารเช้า กันเล็กน้อยแล้วรีบบึ่งขบวนไปหาคุณ WAR (KIA) เพราะนัดกันไว้ 10.30 น. ที่สวนผึ้ง เวลาประมาณ 11.00 น. ก็ถึงที่สวนผึ้ง เจอคุณ WAR ยืนยิ้มเผล่ต้อนรับเราอยู่ คนที่ไม่เคยเจอมาก่อนอาจเข้าใจผิด ว่าเป็นเจ้าของปั้มได้เลยนะ ดีนะที่พี่เค้าไม่พาลูกๆ มาด้วยไม่งั้นจะกลายเป็นทริปวันเด็กไปเลย ( ทริปนี้มีเด็กทั้งหมด 5 คน วัยไล่เลี่ยกัน) แวะปั้มทำความรู้จักแนะนำตัวกันแล้วต่างก็เติมน้ำมันเต็มทุกคันเพราะไม่มีใครทราบทางที่แน่นอน ว่าจะสภาพจะเป็นอย่างไร เดินทางตามเส้นทางที่จะไป บ้านพุระกำ และซื้อเสบียงอาหารกลางวัน ที่ร้านอาหารครัวกะเหรี่ยง แล้วเริ่มออกลุยกันทันที

                 ขบวนนำโดยนายบี มีหมึกแดงเป็นเนฯ เส้นทางช่วงแรกเป็นทางราดยางอย่างดี บรรยากาศสองข้างทาง เป็นหมู่บ้านทั่วไป ผ่านหุบเขาบ้าง เดินทางไปเรื่อย ๆ จะเจอทางแยกไปบ้านภคโวทัย ให้ไปตามทางนี้ เส้นทางยังคงเป็นถนนราดยางอย่างดีเช่นเคย ขับรถตามกันไปเรื่อยๆ ก็วิทยุคุยกันไปเรื่อยๆ ถึงสมรรถนะของจี๊ป ที่กระจกหน้ามักแตกง่าย โดยของคุณนพเปลี่ยนไปแล้ว 3 บาน นายหนอน 2 บาน วิจารณ์กันว่า จะเป็นเพราะการออกแบบกระจกที่จะตั้งชันกว่าของรถแบบอื่น ๆ เดินทางกันมาซักพัก ก็ถึงแยกไปแก่งส้มแมวด้านซ้าย แต่พวกเราตกลงว่าจะไป บ้านพุระกำกันก่อนจึงเลยไป ขับไปซักพัก ก็เจอต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนอยู่ รถต้องขับเบี่ยงเลนส์ขวาเพื่อหลบต้นไม้ มีคนเชียร์ให้โกกุยวินซ์ต้นไม้ลงข้างทางแต่โกกุย….เงียบ เราเดินทางไป ได้ไม่ไกลนักก็ถึงทาง แยกเข้าบ้านพุระกำ เส้นทางเป็นลูกรังอัดแน่น ทางสบายๆสอบถามคนทำทางแถบนั้นเขาบอกว่า ทางอย่างนี้ตลอดถึง พุระกำเลยพี่สบาย ๆ ตอนนี้เสียงของหมึกแดงเริ่มออกเศร้าๆ เสือเข้มเริ่มบนบานให้ฝนตก แต่เราก็ยังมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ถือว่าฝึกทักษะการขับรถฝ่าด่านฝุ่น ซึ่งเยอะมากจริง ๆ ตลบไปหมด แต่ช่วงผ่านหมู่บ้านต้องชะลอความเร็ว (ไม่อย่างนั้นชาวบ้านเขาจะเดือดร้อน) นายหมึกแดงบอกว่าให้ไปเลย 0.5 ดาวสำหรับเส้นทางนี้ (ถูกใจนินจาเต่าจริงๆ) ซักพักเราก็ได้ข้ามห้วยแรก ความลึกไม่ถึงครึ่งล้อ สร้างความชุ่มชื่นหัวใจ แก่ผู้ร่วมเดินทางมาได้เล็กน้อยแล้วมุ่งหน้ากันต่อไป เส้นทางมีโค้งหักศอกประมาณ 2-3 โค้ง มีทางลงเขาขึ้นเขาบ้าง (เตี้ยๆ) ไม่ยากนัก ในที่สุดก็เดินทางมาถึงบ้านพุระกำ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 2-3 นายประจำการอยู่ เพราะเลยจากหมู่บ้านนี้ออกไปไม่ไกลนักก็จะเป็นเขตแดนพม่า ทันทีที่จอดรถ นินจาเต่าโอดครวญว่าไฟหน้าร้าว แถมกระจกยังมีรอย ผลคงมาจากขับรถชิดคันหน้ามากไปเลยได้ก้อนหินตามทางเป็นของแถม จากจุดนี้ได้คำแนะนำ จากเจ้าหน้าที่มาว่าเส้นทางที่เราเดินทางมานั้นเป็นเส้นทางใหม่พึ่งทำขึ้นจึงไม่ลำบาก หากต้องการเส้นทาง ออฟโรดให้ไปอีกทางหนึ่ง พวกเราจึงเคลื่อนขบวนกลับทางที่เจ้าหน้าที่แนะนำ อ้อ! งานนี้นายหนอนโชคดีได้สมุนไพรไทย "ม้ากระทืบโรง" จากเจ้าหน้าที่ตชด. มา 1 ก้าน ใหญ่ยาว ยังหนุ่มยังแน่นไม่รู้ว่าจะไปดองให้ใครกิน? เส้นทางกลับ สภาพทางต่างกันลิบลับจากขามาโดยสิ้นเชิง มองแทบไม่เห็นทางเหมือนทางจักรยานสองล้อมากกว่า ต้นหญ้า ต้นไผ่ เต็มสองข้างไปหมด งานนี้ได้ขัดสมุนไพรกันถ้วนหน้า พวกเราเริ่มคึกคักกันมากขึ้น แต่มีอยู่หนึ่งคนที่เงียบไป นั้นก็คือนินจาเต่า ผ่านไปไม่นานก็มีทางข้ามห้วย ทางขรุขระมากขึ้น ลัดเลาะไป ตามสวนป่าของชาวบ้าน ทางด้านหน้าเป็นดงไม้ทึบซึ่งนินจาเต่า ไม่ยอมผ่านเพราะกลัว จะติดหลังคาต้องตัดกิ่งไม้ด้านบนออกไป เพื่อให้ลอดผ่านออกไปได้ คนที่มีสัมภาระขนมาบนหลังคา ก็ต้องดูไลน์หลบต้นไม้กันพอสมควร โดยเฉพาะโกกุยที่ติดจักรยานลูก ๆ มาบนหลังคาด้วย งานนี้นายหนอนถ่ายวีดีโอ จากหลังคารถนายบี ทุ่มเทสุดชีวิตหวิดโดนกิ่งไม้เสยหัว เส้นทางคดเคี้ยว วนไปมา มีทางชันให้ลองกำลังบ้างเล็กน้อย แล้วก็ทะลุออกทางเดิมที่เราได้เข้ามา หลายคนบ่นพึมพำเสียดายระยะทางสั้นไปหน่อย แต่บางคนถอนหายใจโล่งอก …ใช่ไหมนินจาเต่า (ขาออกมายังเอาต้นไม้ติดมาปลูกอีกต่างหาก) เอช่วงขับลุยนี่คุณทศเงียบๆ ไปนะ สะอื้นในอกอยู่หรือปล่าวเอ่ย..  ขากลับสภาพเส้นทางแบบเดิม ๆ การบนบานของเสือเข้มไร้ผล พวกเราแวะไปทานข้าวที่แก่งส้มแมว กันส่วนนายบีและ หมึกแดงขอแว่บไปเอาแว่นตาที่ลืมไว้ที่ร้านครัวกะเหรี่ยง เวลาขณะนั้นประมาณ 13.30 น. คุยปรึกษากันว่าจะไปไหนดีก็เลยตกลงกันว่าไปที่เขากระโจน แต่เมื่อนายบีและหมึกแดงกลับมา จากร้านครัวกะเหรี่ยงบอกว่า พบเจ้าหน้าที่ตชด.เขาบอกว่าเขากระโจมปิดไม่ให้เข้า ความสับสนจึงเกิดขึ้น โดยเราไปดูทำเลกันที่น้ำตกบริเวณใกล้เคียง ว่าพอจะกางเตนท์ได้ไหม แต่ก็ไม่มีที่ถูกใจ ถึงตอนนี้สมาชิกเริ่มเวียนหัวกลัวไม่มีที่นอน คนที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือคุณธเนศ เพราะไม่มีวิทยุสื่อสาร แต่ก็ยังอึดขับตามขบวน วนกันไปวนกันมาประมาณ 3 เที่ยวได้ไม่บ่นซักกะคำ (เดี๋ยวทริปหน้าไปกันอีกจะแก้ตัวใหม่นะพี่นะ) ในที่สุดเสียงส่วนใหญ่ก็ลงความเห็นว่าจะลองไปที่เขากระโจม หากเข้าไม่ได้ค่อยออกมาหาที่พักกันข้างนอก เราจึงกลับรถอีกครั้งเพื่อ มุ่งหน้า ไปยังจุดหมาย ที่น้ำตกผาแดง เขากระโจม ช่วงนี้ใจแต่ละคนตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กลัวว่าไปแล้วเขาจะไม่ให้เข้า แต่เอาไงเอากัน ไปลองดูก่อนดีกว่าไม่ได้ไปเลย เส้นทางไปเขากระโจมจะอยู่ จากทาง แยกซ้ายออกจากขาออก แล้วตรงไปเลยทางเข้าที่จะไปน้ำตกเก้าโจน เส้นทาง บางช่วงขาดต้องขับข้ามห้วยกันเล็กน้อย ตรงไปจะเจอป้ายเข้าน้ำตกผาแดงให้เลี้ยวซ้าย ผ่านเมรุเผาศพเข้าไป เส้นทางเปลี่ยนจากลูกรังอัดแน่นฝุ่นสีแดง เป็นลูกรังธรรมดา เป็นทางขึ้นเขาชันต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เราเดินทางขึ้นเขาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ความร้อน ของรถจี๊ป ที่ร่วมขบวนไปด้วย 4 คันก็ความร้อนพุ่งขึ้นมาเรื่อย ๆ บางคันต้องใช้วิธีปิดแอร์ช่วย ในขณะที่คันอื่นๆ ไม่มีปัญหา

                   เส้นทางบางช่วงเป็นทางสันเขาเป็นเหวลึกทั้งสองข้างน่าหวาดเสียวแต่วิวสวยน่าดู วัดความสูงจาก ระดับน้ำทะเลประมาณ 700 กว่าเมตร ถ้ามาหน้าฝนหรือหน้าหนาวคงสนุกกว่านี้แน่ เจ้าหน้าที่ตชด. ที่จุดตรวจ เขากระโจมได้ความว่าน้ำตกผาแดงอยู่ด้านหน้านี้เอง จอดรถด้านซ้ายเดี๋ยวเดียวก็ถึง ด้วยความดีใจ เสือเข้ม (ผู้นำขบวน) ขับตะลุยไปทันที แต่ยังไม่พบป้ายทางบอกทางเข้าน้ำตกซักกะที เลยขับตะลุยตรงไปเรื่อย ๆ เลยไปประมาณ 500 เมตรได้ รถคุณทศตอนนี้ความร้อนขึ้นสูงมากและเริ่มสตาร์ทไม่ติดแล้ว พวกเราเลยหยุดขบวน ไปแก้ไขรถคุณทศกัน สันนิษฐานว่าไส้กรองอากาศอาจจะตันได้ เนื่องจากออกอาการแบบนี้กับจี๊ปทุกคัน รถคุณนพ , โกกุย , นินจาเต่า ก็เป็นเหมือนกัน คงเป็นเพราะเจอฝุ่นลูกรังเป็นเวลานาน ลองแก้ไขดับเครื่องกันดูซักพัก แล้วให้คันหลังสุด คือนินจาเต่าขับกลับไป ถามเจ้าหน้าที่อีก ทีว่าทางเข้าน้ำตกอยู่ที่ไหนกันแน่ ไม่นานนักก็มีเสียงวิทยุตอบกลับมาว่า ให้กลับมายังจุด ที่เราพบเจ้าหน้าที่ครั้งแรก น้ำตกอยู่ด้านขวามือเลยจากจุดนั้นไปเพียง 200 เมตรเท่านั้น ส่วนเส้นทางที่เราขับกัน ไปนั้นเป็นทางไปพม่าซึ่งเป็นหมู่บ้านกอดอาร์มี่ กับกระเหรี่ยงเคเอ็นยู ฟังแค่นี้ก็เสียวแล้ว รถคุณทศเริ่มอาการดีขึ้น พวกเราพากันเคลื่อนขบวนกลับไปยังจุดตรวจเขากระโจม (เสือเข้มนำขบวนดุ่ย ๆ เกือบไปแล้วไหมหล่ะ) ถึงที่พวกเราหาทำเลเหมาะ ๆ กางเตนท์ ทำกับข้าวกับปลากินกัน เด็ก ๆ ก็จับกลุ่มวิ่งกันเจี้ยวจ้าว ดูจะมีความสุข สนุกันมากที่สุด กางเตนท์เสร็จ อาหารเย็นเริ่มลำเลียงกันเข้ามา มีหมูทอด ลูกชิ้นทอด (แม่บ้านคุณธเนศ) แหนมดอนเมือง กับน้ำตาลสดเพชรบุรี จากคุณ WAR (หอมอร่อยจริง ๆ) หมูกะทะ จิ้มจุ่มทะเลสูตรเสือเข้ม พร้อมน้ำจิ้มจากภรรยา ทานข้าวเย็นกันไป คุยกันไปอย่างถูกคอ เด็ก ๆ ก็คุยกันถูกคอ ไม่ยอมหลับนอนวิ่งกันคึก ๆ แถมแอบวิ่งเล่นซ่อนหาแถวเต้นท์นินจาเต่า ที่กำลังนอนอยู่อีกต่างหาก (งานนี้นินจาเต่าสะบักสะบอม) เสียดายที่ไม่มีมือกีตาร์ไปด้วย แต่กลับดีกว่าที่ได้ยินเสียง คุยของแต่ละคนแทนเสียงเพลงมีเจ้าหน้าที่ตชด. มาร่วมวงคุยกับเราด้วยแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นประสบการณ์ หลากหลายแง่มุม พร้อมมุขฮาของโกกุยเป็นระยะ ถึงขนาดโดนแซว ว่าอยู่คณะโน้ตเชิญยิ้มหรือปล่าวเนี่ย เห็นไหมหล่ะ… ว่าแค่มาได้เจอกันคุยกันกับกลุ่มคนที่รู้ใจ และได้มิตรภาพที่ดีแค่นี้ก็คุ้มแล้วนะสมาชิก (เลิกสะอื้นกับเส้นทางซะเถอะเสือเข้ม,นายบี) เอ…แต่ได้ยินเสียงแว่ว ๆ จากเต้นท์คุณทศคุยกับลูกชายตัวน้อยว่า "เสียดายที่แม่ไม่ได้มาด้วยนะ" เป็นประโยคที่เพราะและดีที่สุดในทริปนี้เลยจริงไหมนายหนอน ตั้งวงคุยกัน นานพอสมควรประมาณตี 2 ถึงได้ฤกษ์หลับนอน  คราวนี้โกกุยไม่ได้หลบไปนอนก่อนแฮะ เอาไว้คอย ดูทริปหน้าละกันว่าจะสลบ ก่อนหรือปล่าว เช้ารุ่งขึ้นประมาณ 6 โมงคุณWAR ต้องรีบออกไปแต่เช้าเพื่อไปบ้านบ้องตี้น้อย แล้วเลยไปรับภรรยาและลูก นับถือน้ำใจแกจริง ๆ ที่มาร่วมทริปกับเรา หวังว่าคงได้เจอ กันอีกที่ทริปบ้านเต่าดำนะครับ ทานอาหารเช้ากันเสร็จ ก็เก็บเตนท์ ขึ้นรถว่าจะไปธารน้ำร้อน กับน้ำตกเก้าโจนให้เด็ก ๆ ได้เล่นน้ำกัน ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องความช่วยเหลือจากนายบี "รถจมน้ำแล้ว" เกิดจากนายบี พร้อมเนฯ อาหลง(หมึกแดงเปลี่ยนชื่อ) ไปกลับรถที่ห้วยใกล้ ๆ ที่พัก แต่กลับรถ แล้วจมทรายสภาพรถล้อด้านหลังจมลึกลงไปในน้ำพร้อมส่วนท้ายของรถ ส่วนด้านหน้าเชิดขึ้น ดูเหมือนว่าน้ำจะไม่เข้าเครื่อง เพราะมีหัวงูกับหางงู แต่ด้านท้ายจุดเติมน้ำมันด้านหลังจม งานนี้วินซ์โกกุยได้ใช้งานอีกแล้ว ขณะที่โกกุยกำลังวินซ์อยู่นั้นรอยยุบจากการลุยที่ไบเทค ก็ถูกดึงกลับมาอยู่ในสภาพเดิม สร้างความประหลาดใจและดีใจให้โกกุยเล็กน้อย แต่ปัญหายังไม่หมดไป เพราะ "รถสตาร์ทไม่ติด" คราวนี้นายบีเริ่มหน้าซีด เครียดทันตาเห็น แหย่อย่างไรก็ไม่ยิ้ม (เริ่มเข้าใจความรู้สึกนายหนอน) พี่ทศ คุณธเนศ และสมาชิกช่วยกัน เข็นรถ นายบีไปไว้ที่ร่มเพื่อทำการไล่น้ำ อุปกรณ์ที่ใช้ช่วยก็คงเป็น "หลอดกาแฟ" เหมือนเดิม มีประโยชน์จริง ๆ แต่คราวนี้นายบีดูดแทน แต่ดูดไม่ขึ้นเพราะมีน้ำขังอยู่ในคาบิวเรเตอร์ เพียงเล็กน้อย จึงต้องถอด ออกมาเทน้ำทิ้งๆไป แต่ต้องไปไล่น้ำออกจากถังน้ำมันแทน โดยนายบีได้ไป ถอดน็อต ใต้ถังน้ำมันเพื่อเอาน้ำออก และมาไล่น้ำจากทางปั้มติ๊กด้านหน้า ผ่านสายยาง เข้าขวด พลาสติก จะเห็นน้ำกับน้ำมันแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ใช้การสตาร์ทไล่ทั้งน้ำและน้ำมันออก ทำอยู่หลายครั้ง นแบตหมดต้องนำเรถเสือเข้ม มาพ่วงแบตต่อ จนในที่สุดก็ไล่น้ำออก ไปจนเกือบหมดจึงลอง สตาร์ทดูอีกครั้ง เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มเหมือนเสียงสวรรค์ นายบีเริ่มมีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้า (หน้าเริ่มมีสีเลือด) เด็ก ๆ ร้องเฮดีใจ จะได้ไปเล่นน้ำตกซะทีนะ (พวกผู้ใหญ่ทำอะไรก็ไม่รู้ชอบเล่นน้ำห้วย) พวกเราก็ถึงเวลาเคลื่อนขบวน ออกเพื่อเดินทางไป ที่น้ำตกห้วยเก้าโจน เด็ก ๆ ก็เล่นน้ำกันผู้ใหญ่ก็กินข้าวกลางวันริมน้ำตก ไก่ย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียว เสือเข้ม นายบี นายหนอน หมึกแดงไปสำรวจน้ำตกชั้นที่ 9 แต่ไปได้แค่ชั้น 2 ก็เดินกลับ พร้อมเสียงบ่นอุบอิบจากเสือเข้มว่าร้อนจริง ๆ (ข้ออ้างมั้งไม่ไหวก็บอกเถอะ) เรานัดออกจากน้ำตกเก้าโจนตอนบ่าย 2 โมงครึ่ง ต่างคนก็แยกย้ายกันกลับกรุงเทพฯ ก่อนจากเด็ก ๆ คุยกันว่า "เมื่อไหร่เราจะมีโอกาสเจอกันอีกนะ" คำถามนี้ต้องถามพ่อกับแม่แล้วหล่ะจ้ะ ว่าเราจะมีโอกาสเจอกันอีกไหมนะ ว่าแต่ว่าทริปหน้าจะไปไหนกันดีหล่ะท่านสมาชิก แต่แบบ 0.5 ดาวไม่เอาแล้วนะอาหลง (หมึกแดงเปลี่ยนชื่อ).

 


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster