จักรยานถูก แพง ต่างกันตรงไหน
 (18/10/2552)

       ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า มุมนี้สำหรับมือใหม่จริงๆ เพราะผู้เขียนเองก็ใหม่เหมือนกัน แต่เขียนโดยประสบการณ์ที่ได้ ขี่จักรยานมา 2 ปี ก็พอจะแนะนำเรื่องต่างๆ สำหรับนักปั่นจักรยานมือใหม่ ที่ต้องการออกกำลังกายในวันหยุด เรื่องบางเรื่องอาจจะไม่ครบ หรือบางเรื่องอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

     มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ จักรยาน ถูกกับแพงๆ นั้น มันต่างกันตรงไหน ทำไมจักรยานมันถึงราคาเป็นแสนได้ ???

เริ่มที่น้ำหนักของจักรยาน
     ครับ น้ำหนักนี่แหละที่สำคัญที่สุด ใครมีจักรยานที่เอาไว้ปั่นไปจ่ายตลาด ลองไปยกจักรยานด้วยมือเดียวดูสิครับ ว่ามันหนักสักแค่ไหน ลองคิดดูว่า กีฬาเสือภูเขานี้ เราต้องแบกเอาน้ำหนัก ขนาด 15-20 กก. ขึ้นเขาไปพร้อมกับตัวเรา ที่ก็หนักอยู่แล้ว เรียกได้ว่า พอเอาไปขี่ขึ้นเขากันจริงๆ ก็แทบแย่เลยครับ จักรยานที่มีขายในท้องตลาดทั่วๆ ไปสำหรับเสือผู้เขานั้น ราคา 1-2 หมื่นต้นๆ น้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 13-14 กก. ครับ ซึ่งก็หนักพอสมควร แต่หากราคาต่ำกว่าหมื่น น้ำหนักก็จะมากกว่านี้ครับ บางคนซื้อจักรยานในราคา หมื่นกว่าบาท ก็บอกว่าแพงแล้ว แพงมากเลยด้วย แต่พอซื้อมาแล้วเอาไปขี่ขึ้นเขาบ่อยๆ ก็จะเริ่มมองเห็นว่า จักรยานที่ตัวเองซื้อมานั้น ถูกไปหน่อย หลายคนจึงหันมาลดน้ำหนักจักรยานของตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์ อิอิอิ เหมือนผม อ้อ จักรยานราคาสูงๆนั้น น้ำหนักราวๆ 9.5-10.5 กก. ครับ

มาที่เรื่องของวัสดุ
     อย่างที่บอกครับ จักรยานหมื่นกว่าบาท จะให้เบาเท่ากับจักรยาน ราคา 6-7 หมื่นหรือระดับราคาสูงกว่านี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ เราก็จัดแจงเปลี่ยนอุปกรณ์ ของเราที่หนักๆ ออกแล้วหาอันเบาๆมาใส่กันครับ แต่ไอ้ที่เบาๆนั้น นับไปเลยครับว่า ลดน้ำหนักไปขีดนึง เงินเราจะหายไปพันนึงเหมือนกัน สาเหตุที่มันแพงก็เพราะว่าวัสดุที่เค๊าเอามาใช้ทำชิ้นส่วนที่เบาๆครับ เช่น ไททาเนี่ยม แมกนีเซี่ยม คาร์บอน หรือโลหะผสมอื่นๆ ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนโช๊คจักรยาน ซึ่งติดรถเรามา ราคาก็ประมาณ 2-3 พันบาท เป็นโช๊คสปริง หรืออาจจะมีน้ำมันเข้ามาช่วย ซึ่งน้ำหนักมันก็พอสมควรทีเดียว เช่น Judy XC น้ำหนักอยู่ราวๆ 2.1 กก. (ปีใหม่ๆอาจจะเบากว่านี้) ราคาอยู่ประมาณ 4,000-6,000 บาท แต่หากเราเปลี่ยนเป็นรุ่นที่สูงขึ้นเช่น SID SL ซึ่งน้ำหนักอยู่ที่ 1.3 กก. ซึ่เบากว่า 8 ขีด แต่ราคาก็ต่างกันที่ 16,000 บาท เลยทีเดียว นับไปก็ขีดละพันละกัน ง่ายดี อ้อ ส่วนใหญ่ที่นิยมกัน ก็คือ คาร์บอนครับ เพราะเบาและให้ตัวได้มากกว่า แต่ราคาก็ขยับตามสูงไปด้วยครับ โช๊ค SID Race คาร์บอนนั้น ราคาอยู่ที่ 23,000 เลยทีเดียวครับ

ประสิทธิภาพ
     อันนี้คงไม่ต้องบอกนะครับ ว่ามันจะแพงตรงไหน แต่มีเยอะไปที่ของที่มีคุณภาพดีๆ แต่วัสดุไม่ดี น้ำหนักก็มาก ขายแพงก็ไม่มีใครซื้อครับ ดังนั้นหากออกแบบอุปกรณ์ที่ต้องใช้วัสดุดีๆ ประสิทธิภาพมันก็จะดีตามไปด้วยครับ เช่น เกียร์ รุ่น Top สุดของ ชิมาโน่ XTR นั้น วันสุที่ใช้ทำก็จะดีกว่าเกียร์ในระดับต่ำลงมา ความแข็งแรงก็มากขึ้นตามลำดับ การออกแบบก็ปรานีต รวมถึงการขึ้นรูปวัสดุที่แข็งแรง และเบานี้ก็ต้องทำอย่างปราณีตเช่นเดียวกัน ราคาของเกียร์ชิมาโน่ XTR ทั้งชุด 10 ชิ้นก็อยู่ราวๆ 4-5 หมื่นบาทครับ นี่เฉพาะเกียร์อย่างเดียว นะครับ

 

ครับ ผมก็ขอจบบทความแรกเพียงเท่านี้ครับ หวังว่ามือใหม่ทั้งหลายคงเข้าใจมากขึ้นนะครับ ว่าทำไมจักรยานมันราคาไม่เท่ากัน มันต่างกันตรงไหน ถึงได้แพงนักหนา ผู้เขียนเองก็ซื้อจักรยานมาราคา หมื่นต้นๆเท่านั้นเอง แต่ปัจจุบัน เหลือแต่ตัวถังเท่านั้นเองที่ ยังเป็นของเดิมอยู่ อะไหล่ที่ติดรถมา ถูกเปลี่ยนไปจนหมดแล้ว น้ำหนักรถลงมา 3 กก. เงินก็หมดไป โลละหมื่นเช่นกัน มือใหม่ก่อนซื้อ ตัดสินใจดีๆนะครับ ถ้าคิดจะขี่นานๆ ก็เพิ่มเงินอีกนิด อุปกรณ์จะได้ดีมากกว่าเดิม เพราะหากซื้อถูกๆ แล้วไปเปลี่ยนทีหลัง ของเก่าติดรถจะขายไม่ได้ราคาครับ

TREK UTC
9 เมย. 45


หน้าแรก | สมัครสมาชิก | LOGIN | LOGOUT | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับลิขสิทธิ์เครื่องหมาย WeekendHobby | ข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้เว็บ | ติดต่อโฆษณา | ตลาดนัดซื้อขาย
แจ้งปัญหา ขอคำปรึกษาการใช้ website หรือติดต่อประสานงานกิจกรรมทุก Hobby :::>>>Email:::>>> webmaster@WeekendHobby.Com หรือ ติดต่อเรา(Contact Us)
Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,19 มีนาคม 2567 (Online 2345 คน)