คำตอบที่ 1
       ร้านอยู่เลย ซอยจรัญ 53 ไปนิดเดียวครับ ก่อนถึงปั๊มปีโตรนาส

คำตอบที่ 2
       เฮียเจ้าของร้านมาทำเองเลยและให้ความรู้ดีเวลาสอบถามครับ

คำตอบที่ 3
       สำหรับสปอรต์ไรเดอร์นะครับ มีตู้แอร์อยู่2ตู้ ด้านหน้าและด้านหลัง เราเริ่มจากด้านหน้ากันก่อน ก็คือต้องเปิดลิ้นชักด้านคนนั่งด้านซ้าย และทำการทอดน๊อต เพื่อจะดึงเอาตู้แอร์ออกมา ซึ่งตรงนี้ล่ะครับสำหรับคนที่ไม่เคยล้างหรือมีประสบการณ์มาก่อนอย่างผมก็ได้เห็นปัญหาบางอย่าง ซึ่งทุกคนที่ใช้รถรุ่นนี้ต้องเจอแน่ ๆ คือการเอาตู้ออกมาไม่ง่ายอย่างที่คิด

คำตอบที่ 4
       ผมไม่ทราบว่าที่อื่นเขามีวิธีเอาตู้ออกมาล้างอย่างไร แต่เฮียแกบอกว่ามี 2 วิธี วีธีแรกคือไล่ถอดน๊อตคอนโซลออกเพื่อที่ทำการรื้อและยกคอนโซลหน้าออกก่อนที่จะเอาตู้ออกมาได้ ซึ่งวิธีนี้ใช้เวลาเป็นชั่วโมง และอาจทำความเสียหายให้กับแผงลายไม้หน้าปัทม์คอนโซลได้ แต่ถ้าลูกค้าต้องการแบบนี้ก็ทำให้ได้ ส่วนวิธีที่ 2 ประหยัดเวลากว่ามาก และไม่ส่งผลกระทบกับส่วนใดเลย นอกจากจะมีรอยเล็ก ๆ แต่รับรองไม่น่าเกลี่ยดและมองไม่เห็น ซึ่งผมก็เลือกวิธีหลังนี้เหมือนกันครับ เดี๋ยวจะได้ดูรูปกัน

คำตอบที่ 5
       ก่อนจะไปดูภาพที่ว่า เฮียแกฝากบอกว่าสำหรับคนที่ชอบเลี้ยงหมา เลี้ยงแมวในรถ หรือไม่ชอบทำความสะอาดรถ ตู้แอร์จะสกปรกมากกว่าคนอื่นเขา สาเหตุเพราะพัดลมตัวนี้ล่ะครับที่มันจะปั่นเอาฝุ่นและขนหมาขนแมวเข้าไปในตู้แอร์ ซึ๋งเรามองไม่เห็นครับต้องก้มลงไปดูใต้คอนโซลด้านลิ้นชักครับ จะเห็นเจ้าพัดลมดูดอากาศตัวนี้

คำตอบที่ 6
       เมื่อถอดลิ้นชักใต้คอนโซลแล้วก็จะมีหน้าตาแบบนี้ แต่จะเห็นว่าด้านล่างจะมีคานขวางอยู่จึงไม่สามารถที่จะยกตู้แอร์ออกมาได้สะดวก วีธีที่ผมเลือกก็คือการตัดคานตัวที่ว่าออกด้านหนึ่ง ซึ่งทางร้านจะตัดจากทางด้านขวา

คำตอบที่ 7
       ดูกันใกล้ ๆ ครับ

คำตอบที่ 8
       อันนี้รอยตัดครับ เมื่อตัดแล้วทุกอย่างก็ง่าย ตอนแรกผมก็กังวลไม่ยอมให้ตัดเพราะไม่เข้าใจ จะให้รื้อคอนโซลท่าเดียว แต่พอตัดแล้วเมื่อเสร็จทางร้านก็จะมีเพลทเล็กยึดด้านหลังและยึดด้วยน๊อตให้อีกทีดูสวยงาม ที่สำคัยญจากตอนแรกนักส่งงานประมาณบ่ายสามถึงบ่ายสี่โมงเย็น พอใช้วิธีนี้เสร็จยังไม่ 11 โมงเลยครับ ที่สำคัญผมว่ามันเป็นวิธีที่ดีนะครับถ้ารื้อคอนโซลจริงแล้วเกิดปัญหา ผมว่าแค่มีรอยแค่นี้คุ้มกว่าเยอะ และครั้งต่อไปจะล้างตู้อีกก็ง่ายแล้วเรา

คำตอบที่ 9
       นี่ไงครับภาพการเก็บงานที่เรียบร้อยแล้ว ก็ดูไม่น่าเกลี่ยดสักเท่าไหร่

คำตอบที่ 10
       อีกภาพ

คำตอบที่ 11
       พอใส่ลิ้นชักแล้วไม่บอกหรือก้มไปดูก็คงไม่รู้ครับ

คำตอบที่ 12
       มาดูที่ตัวตู้แอร์กันต่อ อันนี้เมื่อยกออกมาแล้วก็ทำการรื้อเอาแผงแอร์ข้างในออกมาทำความสะอาดครับ

คำตอบที่ 13
       ตัวกรอบนอกที่ถอดออกมา ดูด้านในก็สกปรกเหลือ รถคันนี้ไม่เลี้ยงหมา-แมว นะครับ เดี๋ยวภาพต่อไปดูที่แผงแอร์ครับยังขนาดนี้

คำตอบที่ 14
       ทำการล้างซะ

คำตอบที่ 15
       นี่เลยครับ สภาพภายในตลอด 7 ปี ผมว่าของผมยังน้อยนะ เคยเห็นในเวปนี้เป็นรถวีโก้มีคนเอามาลงไว้เห็นเป็นมูกเป็นก้อนเยิ้มเชียว

คำตอบที่ 16
       ส่วนภาพตอนล้างเสร็จแล้วผมไม่ได้ถ่ายมานะครับ พอดีแอบไปกินข้าวซะก่อน แต่สะอาดขาวนวลสวยงานเชียว

คำตอบที่ 17
       มาต่อกันที่ตู้แอร์ด้านหลังกันบ้างครับ ตรงส่วนท้ายนี้ตอนแรกก็คิดว่าคงจะถอดยุ่งยาก แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ยุ่งอย่างที่คิดครับ แค่แงะกระดูกงูกรอบกระจกอ้าออกนิดนึง และเขี่ยกริ๊ปล๊อคทั้ง 3 ตัวที่ยึดแผงคอนโซลข้างตรงซุ้มล้อออก เท่านั้นครับ

คำตอบที่ 18
       ค่อย ๆ แกะครับไม่รีบร้อน ตรงนี้ถ้าทำไม่ดีมีสิทธิตัวผ้าใบหุ้มแผงข้างขาดเป็นรอยแน่ ๆ ตรงนี้ต้องระวังครับ สำคัญทีเดียว

คำตอบที่ 19
       เมื่อถอดออกมาได้แล้ว ก็จะเห็นตู้แอร์ด้านหลังหน้าตาแบบนี้ครับ

คำตอบที่ 20
       อีกรูปครับชัด ๆ

คำตอบที่ 21
       ถอดออกมาแล้วก็ตัวขนาดนี้

คำตอบที่ 22
       จัดการถอดเปลือกออกเอาใส้ในมาล้างซะ

คำตอบที่ 23
       จะเห็นว่าตู้หลังจะไม่ค่อยสกปรกเท่าตู้ด้านหน้า อาจเป็นเพราะว่าพัดลมมันไม่ได้คว่ำหน้าลงพื้นและดูดเอาฝุ่นละออกและเศษผงเข้าไปได้ง่าย

คำตอบที่ 24
       หลังจากล้างเสร็จสรรพก็สะอาดขาวจั๊วเหมือนตู้ด้านหน้าเช่นกัน ผลที่ได้ก็คือลมแรงขึ้นมากและเย็นฉ่ำขึ้นเยอะเลยครับและเสียงวี๊ดแสบหูของสายพานแอร์หมดอายุก็หายไปด้วย และนี่คือบิลค่าใช้จ่ายครับ ปรกติที่ร้านนี้ถ้าล้างตู้ล้างระบบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันคอมแอร์ และน้ำยาแอร์ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1600-1700 แต่ของผมนี่ต้องเปลี่ยนสายพานแอร์และสายพานไดที่หมดอายุด้วย ทั้งหมด 3 เส้น อ้อและสปอรต์ไรเดอร์มันมีตู้ 2 ตู้หน้า-หลัง ค่าล้างก็คูณสองด้วย ทั้งหมดราคาก็จึงตกอยู่ตามบิลครับ..แต่จุ๊ จุ๊ เฮียแกใจดีลดให้ผมอีกนิดหน่อย สงสัยคุยกันถูกคอ
ที่เอามาฝากทั้งหมดนี่ผมเห็นว่ามีโอกาสได้ถ่ายภาพมาให้ดู เผื่อเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ จะถึงคิวล้างตู้แอร์กันบ้างจะได้เป็นข้อมูลตัดสินใจครับ แต่ถ้าผมเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนล่ะก็ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

คำตอบที่ 25
       ขอบคุณมากครับพี่ liquidman ได้ข้อมูลอย่างที่ต้องการเลยครับ ว่างๆผมจะไปทำมั่งครับ (จริงๆเคยทำกับช่างแถวบ้านมาแล้ว แต่มีปัญหาจุกจิกเล็กน้อยครับ เพราะช่างแกทำให้สวิทช์ปรับแรงดันน้ำยาแอร์ผมบิดมาที่ตำแหน่งสุดไม่ได้ ได้แค่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เกินกว่านั้นมันเด้งกลับเหมือนหนังสติ๊กเลยครับ)

คำตอบที่ 26
       ขอขอบคุณครับ ที่ให้ข้อมูลและสาระดีๆ เพื่อเป็นแนวทางในวันหน้าที่จะต้องถอดล้างบ้าง พอดีครับ บ้านของผมอยู่ในซอยจรัญฯ 13 ครับ ไม่ไกลเท่าไร
ชอชอบคุณครับ

คำตอบที่ 27
       รถคุณ liquidmanสะอาดดีครับไม่ค่อยมีฝุ่น ตรงนี้ช่วยยืดอายุแอร์ได้มาก ส่วนบ้านผมเช้าๆจำเป็นต้องทานอาหารในรถ
ทำให้ป้องกันแอร์ตันยากกว่า .... เพิ่งไปล้างตู้แอร์มาเหมือนกันครับ แจ๊คพ็อตตู้แอร์รั่วต้องเปลี่ยนตู้แอร์

คำตอบที่ 28
       อยากจะฝากสักนิดครับ ร้านแอร์บางร้านสามารถถอดตู้แอร์โดยไม่ต้องตัดได้นะครับ
...ผมล้างรอบที่สองก็ไม่ต้องตัดคอนโซล

คำตอบที่ 29
       ขอบคุณครับ............ว่าจะล้างพอดีเลย

คำตอบที่ 30
       ถอดยังงัยครับ รบกวนคุณ nile อธิบายเลยครับจะได้เป็นแนวทางให้คนอื่น ส่วนทางร้านที่ผมทำเขาก็มีแค่สองวิธีอย่างที่บอกครับ คือถอดคอนโซลกับตัดด้านล่างนิดนึง ก็เลยเลือกแบบตัดไม่เสียเวลาดี

คำตอบที่ 31
      
ขอบคุณสำหรับแนวทางครับ คุณ liquidman ...

นานๆ ที เพิ่งเห็น SPRD ที่มี Console หน้า ลายไม้สีดำ เหมือนๆ กะรถผม

คำตอบที่ 32
       สำหรับช่างแอร์ที่มีประสบการณ์เขาเอาตู้แอร์ออกมาง่ายมากครับ หลังจากถอดน็อตยึดตู้แอร์แล้ว
ช่างจะดึงตู้แอร์พร้อมกับโยกราวคอนโซลด้านล่างทั้งซ้ายและขวาค่อยๆขยับเพียงสองถึงสามครั้งก็
สามารถดึงตู้แอร์ออกมาได้แล้วครับ ...

ผมนั่งดูทั้งเมื่อสามปีก่อนที่ล้างตู้แอร์ กับครั้งนี้เห็นช่างเขาดึงออกมาง่ายมากๆ

คำตอบที่ 33
       ขอบคุณนะคับ ไม่ได้ล้างมาตั้งนาน สงสัยถอดออกมาหงายท้องแน่ๆ

คำตอบที่ 34
       ถ้าเป็นผมไม่ล้างครับเปลี่ยนเลยครับ เพราะ ระยะเวลา 7 ปี ถ้าล้างแล้ว อาการคอยรั่วจะตามมาครับเพราะว่าน้ำยาที่ใช้ในการล้างคอย ช่างส่วนใหญ่จะใช้น้ำยาล้างห้องน้ำเป็นตัวกัด ส่วนใหญ่ล้างออกมาจะรั่วนะครับ ผมเจอมาหลายคั่นแล้วนะครับ เพราะถ้าช่างดีจริงๆ จะต้องเวคเทส ก่อนเติมน้ำยานะครับ ค่าน้ำยา 1200 ถ้ารั่วก็จะเสียค่าเติมน้ำยาครับ ถ้าล้างไม่เกิน 1 ครั้งก็รั่วแล้วครับ ( จากรายการที่ท่านให้ดูไม่มีการเปลี่ยน ไดร์เออร์นะครับ เพราะจะเิกิดอาการตันแน่นนอน )

มาเทียบดูกัน

แบบล้าง
1.ค่าน้ำยา 1200
2 ค่าแรงล้าง 400 ( หน้าอย่างเดียว หลังไม่ค่อยเปิดไม่ต้องล้างก็ไก้ครับ )

ใช้งานไม่เกิน 1 ปี ล้างใหม่อีก เสียสองเท่า ทั้งหมด 1800*2=3600

แบบเปลี่ยน
1. คอยเย็นเบิกห้างไม่ต้องล้าง 2400
2.ไดร์เออร์ 500
3.น้ำยา 1200
4.ค่าแรง 400
ใช้งาน 7 ขึ้นปี
ทั้งหมด 4500 บาท ต่างกันแค่ 900 เอง ลองพิจารณาดูนะครับ

ตั้งแต่ผมใช้รถมา 4 ปี หลังจากเปลี่ยน คอยไม่มีอาการน้ำยาหายเลยครับ



 แก้ไขเมื่อ : 21/9/2553 0:25:00

 แก้ไขเมื่อ : 21/9/2553 0:25:27

 แก้ไขเมื่อ : 21/9/2553 0:25:51

 แก้ไขเมื่อ : 21/9/2553 0:26:35

 แก้ไขเมื่อ : 21/9/2553 0:28:16

คำตอบที่ 35
      

ถ้าลมแรงแอร์ไม่ตัน ความเย็นยังปกติอยู่ ก็ทน ๆ ใช้ไปเถอะครับ

D4D ผม (คันเอง) อยากล้างตู้แอร์ให้สะอาด จัดการล้าง จุ่มน้ำอัดลม รั่วตลอด เปลี่ยนมาแล้ว 4 ตู้ครับ.......

^_^

คำตอบที่ 36
       แล้วปกติพี่ๆที่เปลี่ยนตู้มาใหม่จะใช้งานไปนานเท่าไร ถึงจะล้างสักครั้งครับ (ของผมก็เพิ่งเปลี่ยนมาทั้งสองตู้เลยครับ เปลี่ยนมาได้เกือบปีแล้ว) เผื่อถ้าทำแล้ว อายุการใช้งานจะยาวนานขึ้นครับ

คำตอบที่ 37
       ผมก็ล้างมาร้านแถวประชาอุทิศ(ก่อนถึงแยกเหม่งจ๋าย)ก็ไม่ต้องตัดคอนโชลครับ....เห็นช่างขยับไปมาแล้วก็ออก

คำตอบที่ 38
       เหมือนกันครับในเมืองทองร้านพี่บอย สนิทกันก็ไม่ต้องตัดครับ
ค่อยๆขยับมันก็ออกแล้วครับเพิ่งเปลี่ยนตู้เลยครับเพราะเจ้าของเดิม
ใช้มา 11 ปี คงไม่เคยทำอะไรเลย เน่ามากๆครับ