คำตอบที่ 20
ประสบการณ์จริง เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 21:30 น. ณ.ร้านอาหารแป๊ะฮก (รังสิตคลอง 2)
เวลาประมาณ 21:30 น. ได้รับแจ้งจากทางร้านอาหารว่า เจ้าของรถยนต์ TOYOTA Tiger D4D
ทะเบียน ปฉ 3363 กรุงเทพฯ ให้ไปที่รถของท่าน ในใจคิด รถโดนชน ระหว่างที่เดินไปก็ได้รับทราบจาก
เจ้าของร้านว่า "รถถูกงัด และได้แจ้งตำรวจแล้ว" ในขณะนั้นคิดว่าของในรถคงหายไปหมดแล้ว
(TVบังแดด, CD ALPINE
.) พอถึงรถสิ่งแรกที่พบ ประตูด้านขวาถูกงัดบริเวณมือจับเสียหาย
ประตูเปิดได้ทั้ง 2 ด้าน รีบสำรวจภายในพบมีการรื้อของกระจัดกระจาย แต่ของทุกอย่างอยู่ครบ
จึงสรุปในใจได้ทันทีว่า มันเป็นโจรขโมยรถ ไม่ใช่พวกขี้ยางัดแงะ / จากนั้นเริ่มตรวจสอบรถต่อ. ทดลองRemote
กันขโมยใช้การไม่ได้ กุญแจไขได้แต่ START ไม่ได้ ; เปิดไฟฉุกเฉินไม่ได้ (ฟิวส์ขาด) เปิดไฟเลี้ยวไม่ได้
(ฟิวส์ขาด) มีสุภาพบุรุษ(มีกลิ่นแอลกอฮอลเล็กน้อย)ประสงค์ดีเข้ามาช่วยเช็ค ฟิวส์ขาดไปครึ่งโหล ,
ตำรวจมาดูสอบสวนเบื้องต้นก็บอกให้ไปแจ้งความที่โรงพักในตลาดรังสิต(แต่ไม่ได้ไป), สรุปสุดท้าย น้าชูนำขบวน,
ภูษิตชักลากพร้อมไฟหมุนบนหลังคา, เสรีปิดท้ายขบวน เอารถไปเก็บที่ บ้านป๋าคลองห้า
จากคำบอกเล่าของเด็กโบกรถประจำร้าน ; ในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุประมาณ 5 ~ 10 นาที ได้เดินสำรวจ
รอบ ๆ ลานจอดรถ และเมื่อเดินกับมา พบรถยนต์นั่ง CEFIRO สีบรอนช์ (เงิน, ทอง)ทะเบียน ศง 2156 กรุงเทพฯ
(ซึ่งคาดว่าใช้ทะเบียนปลอม) จอดอยู่ด้านข้างติดเครื่องเปิดประตู พักหนึ่งเห็นผิดสังเกตุคือ ไม่ยอมลง จึงใช้ไฟ
ส่องดูที่รถทั้ง 2 คัน พบคนมากกว่า 1 คน (จำหน้าได้ 1 คน) คนทั้งหมดรีบขึ้นรถ - ปิดประตูและขับออกไป
อย่างเร็ว (ไปทางคลองหลวง) ได้จดทะเบียนรถและเข้าไปดูรถปิคอัพ และปิดประตูไว้ , ไปแจ้งเจ้าของร้าน
จากการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด พอจะสรุปได้ วิธีการและการโจรกรรม ได้ประมาณ 5 ขั้นตอน
โดย 2 ขั้นตอนแรก ประสบผลสำเร็จ ; อีก 3 ขั้นตอนยังไม่ได้ทำ ซึ่งถ้ามีเวลาอีก 5 ~ 10 นาที อาจจะสำเร็จ