WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เทคนิคในการตกแต่งภาพ....การใช้งาน Adobe Light Room ในเบื่องต้น
mop
จาก MOP
IP:61.90.14.39

จันทร์ที่ , 28/2/2554
เวลา : 07:15

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       พอดีเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน คุณต้อง/ส้ม เอาโปรแกรม Adobe Light Room มาให้ถึงที่ ตามคำขอของผม/พี่เขียว/คุณสัญญา.........ขอขอบคุณมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ

ตานี้พอได้มาแล้วลงโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว...เปิดมา..หน้าตาแปลก ๆ (เอาไงดีว๊ะตรู) งง ดิครับ

เลยไปถามเพื่อนในพันทิป คุณน้าdji_2000 เลยช่วยอนุเคราะห์ หาลิงค์ความรู้ต่าง ๆ มาแปะให้ไปศึกษา.......ขอขอบคุณมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ

== สำหรับ มือใหม่ Light Room เชิญน้า supermop{แตกประเด็นจาก O10284229}



กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก O10284229

ความหมายค่า แต่ละตัว
http://www.bangkokphotoclub.com/index.php?topic=44.0


การ ใช้ LR การทำ color profile โดย DOFJerk

http://www.cameraeyes.net/index.php?option=com_smf&Itemid=27&topic=606.0

http://www.lenklong.com/

เวปฝรั่ง
http://www.digital-photography-school.com/post-production


video สอนของ เวปฝรั่ง

http://www.whibalhost.com/_Tutorials/Photoshop_LR/08/index.html


download preset ที่แนะนำ เลือกมาใช้แค่นี้เพียงพอแล้วครับ

http://www.presetsheaven.com/2009/02/19/8-epic-lightroom-presets-for-weddings/

http://www.flickr.com/groups/presets/discuss/72157612664073371/

ค่าที่ผมใช้ประจำ
preset portrait: Black 5, Brightness +60 Constrast +25 Clarity -10 Vibrance +20 , tone curve: medum constrast: shadow -10 , Sharpen: Amount 70 , Radius +0.8 detial +25 ,masking 90 Color profile: Adobe standard , Dx2 mode 2

preset General: Black 5, Brightness +60 Constrast +50 Clarity +25 Vibrance +30 , tone curve: medum constrast: shadow -10 , Sharpen: Amount 70 , Radius +0.8 detial +25 ,masking 20 Color profile: Dx2 mode 2 ,Dx2 mode 3

ส่วน WB, EV, Recovery, Fill , Back จูนตามสถานะการณ์ แล้วทำ preset Adhoc แล้วเลือก รูป apply preset ทับไป

preset สามารถ เลือกค่าใดค่าหนึ่ง เป็น Preset ได้ หรือ จะ ทั้งหมดก็ได้ ทำให้สามารถใช้ ทำpreset เฉพาะบางตัว แล้ว apply preset ได้สะดวก


จุดสำคัญ ใช้ preset ให้เป็น จะเร็วขึ้นมากมาย
preset = receipt ใน DPP = picture style (Color profile) + ตั้งค่า contrast brightness + sharpen + clarity+ vibrance+ Sat+ Optimizer (back , fill, shadow , highlight) + Vignett + niose + gain + sat luminance hue 7 สี + auto level + Len correction


แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 12:07:11

แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 12:04:42

จากคุณ : dji_2000

ขอขอบคุณ เจ้าของบทความตามลิงค์ต่าง ๆ ที่แนบมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       การใช้งาน Adobe Light Room ในเบื่องต้น
(อันนี้จะเป็นการอธิบายคำสั่งต่างๆบนโปรแกรม Light Room)
สวัสดีครับ ตอนนี้ Light Room กำลังมาแรง ก็เลย นำการใช้งานในเบื่องต้นมาฝากครับผม

- Short Cut ที่ควรทราบสำหรับการจัดการและนำเสนอภาพ


F - เปลี่ยนมุมมองหน้าจอ
L - ทำให้จอมืดลง เพื่อให้ภาพเด่นขึ้น
Tab - ซ่อน / แสดง อุปกรณ์เครื่องมือด้านข้าง (ไม่มีผลกับอัลบั้มภาพ)
Shift + Tab - ซ่อน / แสดง อุปกรณ์เครื่องมือทั้งหมด
Num 1-5 - ให้ rating เป็นคะแนนกับภาพนั้น ตั้งแต่ 1 – 5 ดาว
R - ครอบภาพ
C - เรียกภาพปัจจุบันที่เลือกอยู่กับภาพที่เลือกก่อนหน้านี้ ขึ้นมาเปรียบเทียบกัน
T - ซ่อนและแสดง Tool Bar

...--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


- โหมด Library (จัดการอัลบั้มภาพ)

Navigator - ใช้สำหรับย่อ / ขยาย ภาพ

Preset - ใช้เรียกค่าการแต่งภาพในโหมด Develop ที่เราบันทึกขึ้นมาใช้กับภาพนั้น

Crop Ratio - ครอบภาพ โดยใช้อัตราส่วนตามที่กำหนด (หากโปรแกรมครอบให้ไม่พอใจ สามารถกด R เพื่อครอบภาพเองได้)

Treatment - เลือกว่าต้องการแสดงเป็นภาพสี หรือขาว-ดำ

WB - ปรับค่า White Balance ของภาพนั้น โดยมี Preset ให้เลือกอยู่แล้ว หรือจะปรับค่า
เองอย่างละเอียด ที่ Temp และ Tint ก็ได้

Exposure - เพิ่มการชดเชยแสงของภาพ

Recovery - ทำให้ส่วนที่เป็น Highlight มืดลง เพื่อ....้รายละเอียดส่วนที่เกิน Highlight กลับมา

Fill Light - ตรงข้ามกับ Recovery ใช้เพิ่มความสว่างให้กับส่วนที่มืด เพื่อดึงรายละเอียดส่วนที่
มืดกลับคืนมา

Black - ใส่สีในส่วนสีโทนมืดของภาพ ให้มืดมากขึ้น

Brightness - เพิ่มความสว่างของภาพ

Contrast - เพิ่มความเปรียบต่างของภาพ (ภาพส่วนดำจะดำมากขึ้น ส่วนขาวจะขาวมากขึ้น)

Vibrance - เพิ่มความสดของสี (คล้าย Saturation)

Auto Tone - ให้โปรแกรมปรับ Option ในส่วน Quick Develop ให้โดยอัตโนมัติ

Reset - คืนค่าเริ่มต้นของภาพนั้น

................................................................................................................



- โหมด Develop (ตกแต่งภาพ)

Histogram
บอก Channel สีรวมถึงขาว-ดำ ว่ามีปริมาณมากน้อย เพียงใดในภาพนั้นๆ ไล่จากด้านซ้าย (ส่วนที่มืดที่สุดไป) จนถึงด้านขวา (ส่วนที่สว่างที่สุด) ใน Histogram แบ่งออกได้เป็น 4 ส่วน หลักๆ ได้แก่

1. Blacks
2. Fill Lights
3. Exposure
4. Highlight

เมื่อเอาเมาส์ไปวางไว้เหนือลูกศรรูปสามเหลี่ยมชี้ขึ้นด้านซ้ายสุด จะบอกถึง พื้นที่ส่วนที่ภาพนั้นไม่มีรายละเอียดเนื่องจาก พื้นที่ในส่วนนั้น มืดเกินกว่าที่กล้องจะเก็บรายละเอียดมาได้ ( ในทางกลับกัน ลูกศรด้านขวาจะบอกถึงพื้นที่ที่ไม่มีรายละเอียด เนื่องจาก พื้นที่นั้นสว่างเกินกว่าที่กล้องจะเก็บรายละเอียดได้ ) นอกจากนี้ เรายังสามารถปรับค่า Exposure, Recovery, Fill light และ Blacks ได้โดย Drag เมาส์ที่ Histogram ได้เลย

..........................................................................................................................

Basic


Treatment = เปลี่ยนภาพเป็นสี หรือ ขาว-ดำ

WBปรับ White Balance สามารถเลือกปรับได้ 3 แบบ

1. เลือกจากPreset ที่กำหนด
2. เลือกจากตัวอย่างสีเทากลางในภาพ โดยคลิกที่หลอดดูดสี แล้วเลือกตัวอย่างสีจากในภาพ ตัวอย่างสีที่เลือก ตามทฤษฎี จะต้องเป็นสีเทากลาง 18 % แต่เราพออนุโลมเลือกสีขาว หรือสีเทาในภาพได้
3. ปรับค่าเองจาก สไลเดอร์ Temp และ Tint

..........................................................................................................................

Tone
ปรับแสงในภาพ โดยสามารถให้โปรแกรมปรับให้เอง (กด Auto) หรือเลือกปรับเองก็ได้

Exposure - เป็นการจำลองการปรับค่ารูรับแสงให้แคบลง (-) หรือกว้าง (+) ขึ้น มีผลทำให้ภาพนั้น สว่างหรือดำยิ่งขึ้น คล้ายการปรับ F-stop ที่หน้ากล้อง (ไม่มีผลกับระยะชัด)

Recovery - เป็นการทำให้ภาพส่วนที่เป็น Highlight มืดลง เพื่อดึงรายละเอียดในพื้นที่ส่วนที่เกินกว่า Highlight กลับคืนมา (ฟังก์ชั่นนี้จะไม่มีผลกับพื้นที่ส่วน Blacks แต่มีผลเล็กน้อยกับ พื้นที่ส่วน Fill Light และ Exposure )

Fill Light - เป็นการเพิ่มความสว่างให้กับภาพในส่วนพื้นที่ black ( คล้ายฟังก์ชั่น D- Light ใน Capture NX ) มีประโยชน์ในกรณีที่ต้องการให้ภาพทั้งภาพมีโทนแสงเท่ากัน เช่น แก้การถ่ายภาพย้อนแสง เป็นต้น

Blacks - คล้ายกับ Highlight แต่จะเป็นการดึงรายละเอียดในพื้นที่ส่วนที่มืดกว่า Blacks กลับคืนมา

Brightness - เป็นการเพิ่มความสว่าง โดยใช้หลักรีดสีให้สว่างขึ้น โดยจะรีดสีไม่เกินกว่าขอบเขต Black และ Highlight ของภาพ ผลหลักๆ กับพื้นที่ส่วนที่เป็น Fill Lights และ Exposure ของภาพ ในกรณีที่ปรับค่า Brightness เพิ่มขึ้น ภาพจะสว่างขึ้น แต่จะออกลักษณะฝ้าๆ เนื่องจากโทนสีในส่วนที่ควรจะเป็นโทนสีดำกลับเป็นสีเทาแทน

Contrast - ปรับความเปรียบต่างของภาพ มักใช้คู่กับ Brightness เพื่อทำให้ภาพส่วนที่เป็นสีเทากลับเป็นสีดำ หากปรับเพิ่มขึ้น สีโทนขาวที่อยู่ทางขวาของเส้นกลาง Histogram จะถูกปรับให้สว่างมากขึ้น และสีโทนดำที่อยู่ทางซ้ายจะถูกปรับให้ดำมากขึ้น ในทางกลับกัน หากปรับ Contrast ลดลง โทนสีทั้ง 2 ด้าน จะปรับลู่เข้าหาเส้นกลาง ส่งผลให้ภาพดูลักษณะเทาๆ ไม่มีความเปรียบต่างของสี

..............................................................................................................................


Colors
โหมดในการควบคุมสี มี 2 ส่วน ได้แก่

Vibrance - เพิ่ม contrast ของสีทั้ง3สี RGB (กรณีภาพอยู่ในโหมด RGB) ให้เข้มขึ้นหรือจืดลง

Saturation - ใช้เร่งสีแต่ละสี (RGB) ให้แต่ละสีขับออกมาได้เด่นขึ้น (กรณีที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ละสีในภาพจะสามารถแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน)

............................................................................................................................


Tone Curve


แกน X แสดงความสว่างของภาพ ไล่จากด้านซ้ายไปด้านขวา คือจากมืดไปสว่าง แกน Y แสดงปริมาณของแสงในแต่ละค่าแกน X ว่ามีมากน้อยเพียงไรในภาพ

พื้นที่ของ Curve จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยแบ่งจาก ตาราง 4x4 ใน Curve ได้แก่
1. Highlights สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ 4 ของแกน x
2. Lights สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ 3 ของแกน x
3. Dark สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ 2 ของแกน x
4. Shadows สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ 1 ของแกน x

เราสามารถปรับขอบเขตของการปรับ Curve ขึ้นลง ได้โดยเลื่อนสไลเดอร์รูปหยดน้ำ 3 หยด ด้านล่าง Curve
ในเบื้องต้นของการปรับ Curve แนะนำให้ใช้ Slider ด้านล่าง แทนที่จะปรับที่ตัว Curve โดยตรง ซึ่งหลักโดยทั่วไป คือ

1. เพิ่ม Lights เพื่อทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาพสว่างขึ้น
2. ลด Highlights เพื่อให้พื้นที่ขาวสุดของภาพ มีรายละเอียดขึ้นเล็กน้อย
3. เพิ่ม Shadows เพื่อให้พื้นที่ดำสุดของภาพ มีรายละเอียดขึ้นเล็กน้อย
4. ลด Dark เล็กน้อย เพื่อคงรายละเอียดส่วนดำของภาพไว้ ไม่ให้ขาวตาม Lights ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ภาพมีความเปรียบต่างของสี

เรายังสามารถปรับค่าความโค้งของ Curve เพื่อให้เกิด Contrast มากขึ้นหรือน้อยลงได้ที่ Point Curve ได้แก่
1. Linear
2. Medium Contrast
3. Strong Contrast
* ในแต่ละภาพ สามารถปรับแก้ได้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภาพต้นฉบับและวัตถุประสงค์ของการนำเสนอภาพไม่จำเป็นต้องทำตาม 4 ขั้นตอนข้างต้นเสมอไป ใช้หลักให้สายตามองเห็นว่าสวยก็พอ

...............................................................................................

HSL / Color / Grayscale


HSL (Hue, Saturation and Luminance)

Hue = เปลี่ยน Channel สีของภาพ มีให้เลือกเปลี่ยน 8 สี มีจุดประสงค์เพื่อให้สีนั้นๆ ของภาพเปลี่ยนไป เช่น ต้องการเปลี่ยนหญ้าที่ถ่ายมาเหลือง ให้เขียวขึ้น ก็เลือกไปที่ Yellow แล้วปรับค่าไปทางขวาให้เขียวขึ้น

Saturation = ใช้เร่งสีในแต่ละ Channal สี มีให้เลือก 8 สี เช่น ต้องการให้ท้องฟ้าที่ถ่ายมาดูสีสดขึ้น ก็เลือกไปที่ Blue แล้วปรับสไลเดอร์ไปทางขวามือ

Luminance = ปรับความสว่างของสี สามารถเลือกปรับได้ 8 สี เช่น ต้องการปรับให้ผิวนางแบบดู ขาวขึ้น ก็เลือกไปที่ Orange แล้วปรับสไลเดอร์ไปทางขวามือ

............................................................................................................................

Color
เหมือนกับ HSL ทุกอย่าง เพียงแต่เปลี่ยนหน้าตาการใช้งานฟังก์ชั่นให้แตกต่างกันเพื่อความสะดวก

............................................................................................................................................

Grayscale
ใช้สำหรับ Convert ภาพจากสีเป็นขาว-ดำ โดยสามารถเข้าไปปรับในแต่ละโทนสีได้
............................................................................................................................................


Split Toning


เครื่องมือช่วยปรับสีส่วนที่เป็น Highlight และ Shadow ของภาพ ซึ่งแทนที่ภาพในส่วนนั้นจะแสดงออกมาเป็นสีขาว ( Highlight ) หรือ ดำ (Shadow) เครื่องมือตัวนี้จะช่วยใส่สีสันเข้าไปในส่วนที่ไม่มีรายละเอียดของภาพ (Highlight และ Shadow) โดยเลือกที่ Hue เพื่อเลือกสีที่จะใส่เข้าไป และเลือก Saturation เพื่อปรับความเข้มของสีที่ใส่เข้าไป ( หากใส่มากเกินไป จะมีผลกระทบกับรายละเอียดหลักของภาพ

เราสามารถเลือกปรับว่าจะให้ Highlight และ Shadow ที่ปรับมีผลกับภาพมากน้อยเพียงใดได้ที่ สไลเดอร์ Balance โดยที่ -100 มีผลกับ Shadows อย่างมาก และ + 100 มีผลกับ Highlight อย่างมาก


Detail

Sharpening - ใช้เพิ่มความคมชัดของภาพ

Noise Reduction - ใช้ลด Noise ที่เกิดขึ้นในภาพ โดยมี 2 แบบ คือ Luminance และ Color

1.) Luminance คือ Noise ที่เกิดจาก grain ของภาพ มีลักษณะเป็นจุดๆ มักจะเกิดกับภาพที่ขยายเกินกว่าต้นฉบับที่ถ่ายมา หรือภาพที่ถ่ายโดยใช้ ISO สูง การลด Noise ตรงนี้จะทำให้ความคมชัดของภาพหายไป

2.) Color คือ Noise ที่มีลักษณะเป็นจุดสีเด่นขึ้นในภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดงและน้ำเงิน มักเกิดเวลาปรับภาพให้คมขึ้นมากๆ การลด Noise ตรงนี้ บางครั้งจะทำให้สีของภาพเพี๊ยนไป
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากhttp://aunsmiles.multiply.com/journal/item/1



ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากYopong Mercenary และ http://www.bangkokphotoclub.com/index.php?topic=44.0



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก MOP 61.90.14.39 จันทร์, 28/2/2554 เวลา : 07:58  IP : 61.90.14.39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 2133

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,25 เมษายน 2567 (Online 6739 คน)