คำตอบที่ 1
       รูปนี้ โน ps เลยครับ
เต็มที่เลยครับ
ถ้าพี่เพื่อนๆๆ อยากถามอะไรกลับ ฝากข้อความไว้ได้เลยนะครับ

คำตอบที่ 2
       แหม....เปิดมาเจอพอดี....เห็นเว้นระยะนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่โพสต์ต่อคงมีภาพเดียวใช่มะพี่....

-------------------------------------------------------------

ผมมองว่าภาพนี้ พระเอกของภาพ เจ้ารถไถ ถูกแย่งซีนไปนิด ด้วย ไฮไลท์เจิดจ้าของดวงอาทิตย์และส่วนของท้องฟ้าที่มีมากไปนิด...ผมแอบสกรอภาพบนจอด้วยการเลื่อนลงมาไม่ให้เห็นแสงขาวๆของดวงอาทิตย์แล้วมองภาพใหม่ รู้เลยว่าภาพกระชับมากกว่าเดิมและสายตาจะพุ่งตรงไปที่รถไถ พระเอกของภาพทันที ฉากหลังที่มีแนวเขาและหมอกขาวโดดเด่นซับพอร์ทพระเอกของภาพให้งามขึ้นมาและดึงดูดสายตามากกว่าเดิม....อันนี้จากความรู้สึกส่วนตัวจริงๆเลยพี่นัน.....

คำตอบที่ 3
       ขอเลยล่ะกัน...
ผมไม่ชอบตรงต้นมะพร้าวนะครับ มาแบบว่าขาดยอดไปหน่อย
มันเลยดูสะดุดสายตาแทนที่จะมองทะลุไปถึงทิวเขาด้านหลัง....
และยังมาแย่งสายตาไปจากรถไถด้านขวา
ถ้าจะเอาต้นมะพร้าวด้วยน่าจะถอยหลังอีกสักนิด..หรือถ้าไม่มีก็ตัดออกไปเลยครับ
ส่วนโทนสีสวย...เก็บรายละเอียดส่วนมืดและสว่างได้ดีครับ
ภาพแบบนี้..แสงแบบนี้ ผมไม่เคยเจอสักที่
เคยคิดๆว่าเจอจะถ่ายยังไง...ได้เห็นภาพนี้....คิดออกเลยครับ
เป็นผมจะนั่งลงถ่ายแบบฝุ่นฟุ้งๆผ่านแสงทองๆ...น่าจะสวยนะครับ
ด้วยความเคารพ...อีกหนึ่งความคิดครับผม

คำตอบที่ 4
       ด้วยความเคารพนะครับพี่

ผมไม่ชอบต้นไม้ที่อยู่กลางภาพ รู้สึกว่ามันบังวิวเขาไปเต็มๆเลย ทำให้ภาพดูตันๆ อึดอัดนิดหน่อย (เลยขออนุญาติลบมาให้ดู หากทำออกมาได้ไม่ดีต้องขออภัยด้วยนะครับ) ผมว่าหากเอาออกไปมันจะดูโปร่งสบายตา ไม่แย่งความสนใจไป แถมรถไถ่จะเด่นขึ้นมาสร้างเรื่องราวให้กับภาพได้ครับ อีกนิดก็ต้นมะพร้าวหากเก็บมาได้เต็มยอดก็น่าจะดีมิใช่น้อยครับ ส่วนภาพผมขออนุญาติปรับส่วน Shadow ขึ้นมาหน่อยนะครับ (ด้วยความชอบส่วนตัว) แต่ที่พี่ถ่ายมาก็งามแล้่วละครับ โทนภาพอารมณ์แบบนี้ เป็นเอกลักษณ์ของพี่เลย

ต้องขออภัยด้วยนะครับ หากล่วงเกินนำภาพของพี่มาแก้ไขครับ แค่อยากให้เห็นว่าถ้าในมุมมองผม อยากได้แบบไหน จะได้ชัดเจนขึ้นครับ

คำตอบที่ 5
       เรื่องแรกต้องคุยกันเรื่องนี้ก่อนครับ

"2 ไม่แก้ตัว เช่น ถ่ายรูปบนเรือ เลยเอียง หรือ ฝนตกเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ อะไรทำนองนี้ ครับ"

จากเรื่องดังกล่าว อย่าเรียกว่าเป็นการแก้ตัวเลยครับ เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่า....เพราะว่าคนวิจารณ์ภาพก็มิได้อยู่ในสถานะคนถ่ายภาพ เลยอาจจะไม่รู้ว่า มันมีบางเรื่อง บางมุม เป็นเหตุการณ์บังคับน่ะครับ...การที่ได้อธิบายเล่าสู่กันฟัง อย่ามองว่าเป็นเรื่อง "แก้ตัว" เลยครับ...ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมอง และแนวคิด น่ะดีอยู่แล้ว


อีกเรื่องนึงคือเรื่อง No PS นี่อีกเรื่องนึงครับ ...ลองให้คำจำกัดความว่า No PS คืออะไร ให้หน่อยครับ...เพราะส่วนตัวอย่างผมเนี่ยย่อภาพด้วย PS ตลอด + Crop + ปรับ Auto Contrast + USM แบบนี้เรียกว่า No PS รึเปล่า

หรือว่า หมายความว่า การตัดแต่งภาพ ลบบางส่วนที่เกิน ฯลฯ...นี่เรียกว่า PS

ความเห็นส่วนตัวผมน่ะครับ (คนอื่นเป็นไงไม่รู้)....อย่าไปสนใจเลยครับ ใครจะใช้ PS ทำอะไร มันก็อยู่ที่จินตนาการของแต่ละคน ....ทำแล้วสวย หรือไม่ ก็แนะนำ วิจารณ์เชิงเทคนิคกันไปดีกว่าครับ

ที่สำคัญ ค่อย ๆ คัดภาพส่งมาให้วิจารณ์ทีละภาพ ก็พอครับ ถ้าส่งมาทั้งทริปหลาย ๆ หน้านี่ไม่ไหวเหมือนกัน

เอาแค่นี้ก่อน.....นึกออกแล้วมาเพิ่มเติมใหม่

คำตอบที่ 6
       เพราะงานศิลปไม่มีถูกผิด ไม่มีข้อจำกัดตายตัว..
แค่ อ้่างอิงเอาจากความรู้สึก.. และ ความรู้ในเชิงปรัชญาที่มีบ้างน้อยนิด..
ซึ่ง คนทั่ว ๆ ไป สามารถใช้ ความรู้ สึกเข้าตัดสินได้...แค่นั้นครับ..

ที่ดัสพูด อาจเพียงแค่ เคย คุยๆ กันบ้าง..ว่า ผมมีแนวคิดอย่างไร เวลาดูภาพ..อ่านภาพ ว่า ภาพ เหล่านั้น ที่เราดู ๆ มีความหมายอย่างไรบ้าง..อาจแค่ พื้นๆ..ไม่ได้บอกอะไรกับเราไปมากกว่ารูป ลักษณะภายนอก..
หรือ มีความหมายในเชิงลึก.. ผู้ดู เกิดอารมณ์ ร่วม เกิดความรู้สึกร้อน หนาว รู้สึกหิว..
จน ถึง ความหมายในเชิงที่ไม่รู้จบ..

มีคุณวิเศษในภาพ ดูแล้วคิดตาม.. คิดต่อไปได้มากกว่าที่ในภาพมี.. เกิดจินตนาการในสมองเป็นต้น..

โดยการมอง ได้แก่..
1. surface meaning
2. Deep meaning
3.Beyond meaning

ซึ่งนำไปสู่การพิจารณ์ความหมายในเชิง สัญญะ ในภาพ เป็นต้น

เพราะฉะนั้น..ในการมองภาพ.. วิเคราห์ภาพ.. เราเองดูภาพ แล้วคิดได้มากกว่า
แสงสวย วัดแสงพอดี โฟกัสชัด..มันก็แค่นั้น..

แต่เรามองไปถึง ว่า มันนำเราไปได้ถึงแค่ไหน.. ความรู้สึก อารมณ์ หรือ ความสมบูรณ์
ไม่ต้องถ่ายภาพเก่ง แค่ คิดตาม อ่านภาพเป็นก็วิจารณ์กันได้แล้ว..

ประสบการในการถ่ายภาพ ..ความสามารถในการควบคุมกล้อง ของเหล่านี้ เป็น SKILL ไม่ว่าใคร ๆ ก็ตามกันพอได้ครับ..แต่.... จินตนาการ....ความคิด ทั้งการถ่าย ..การมอง และ อ่านสิ่งที่เราดู เราเห็น.. สิ่งเหล่านี้ ช่วยเราให้คิด ได้มากกว่า ที่ เราดู และเราเป็นครับ.. ไม่ฝึกคิดวันนี้ จะฝึกวันไหนครับ..

อ่านภาพ อ่านโลก อ่านชีวิต.. มันดีกับคุณ ๆ ทั้งนั้น แหละครับ
พูดมากไป เหมือนสอนจรเข้ว่ายน้ำ

สรุป
มาหัด วิเคราะห์ภาพกันเถอะ..


จำเค้าเอามาแบ่งปัน แนวทาง และวิธีคิดครับ....เครดิต www.pixpro.net

คำตอบที่ 7
       ตอบเรื่อง โน ps ครับ

ตามความคิดผมนะ

การใช้โปรแกรม ทุกโปรแกรม ถ้าทำแล้วสวย ทำเถอะครับ ผมก็ชอบทำครับ

แต่อย่าทำจนเกินจริงเน้อ

แต่บางคน เห็นรูปสวย ทันที เลยเค้าจะต้องบอกว่า แต่งมา อิๆๆ

บางทีเราก็ น้อยใจเหมือนกันเน้อ แหมอยากให้มาเห็น หลังกล้องจัง

ไม่มีอารายครับพี่ เพียงแต่ อยากให้ คนคอมเม๊น สบายใจ ผมเลยเอาภาพออริจินัล มาให้เม๊นเลย

คำตอบที่ 8
       อย่าไปใส่ใจเลยครับคุณนัน...จะ PS รึว่า No PS (ผมยังไม่รู้คำจัดกัดความที่เป็นสากลซักที)

ผมถือว่า Photo Shop คือ เครื่องมือเสริมสร้าง ปรับแต่ง แก้ไข เพิ่มเติม ให้ภาพเป็นไปตามใจ หรือว่าจินตนาการของเราน่ะครับ

สมัยก่อนใช้กล้องฟิล์ม นี่ก็ต้องผ่านกระบวนการปรับแต่งสีมาจากร้านล้างอัดรูปแล้ว...โปรฯ บางท่านถึงเล่นไสลด์กัน เพราะอยากเห็นผลงานจริง ๆ ...แต่ถ้าเอาไปทำงานพิมพ์ก็ผ่านกระบวนการแยกสี ก็มีโอกาสปรับแต่งอีกแล้วครับ (สามารถสั่งเพิ่ม-ลดได้อยู่ดี)

ลองอ่านดูครับ....เผื่อจะได้มุมมองและแนวคิดใหม่ ๆ

http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O9617013/O9617013.html

ส่วนตัวผมชอบน๊ะครับ...แนะนำกันด้วยเหตุ ด้วยผล แบบพี่ ๆ น้อง ๆ อย่างนี้ ....เริ่ด

คำตอบที่ 9
      
ภาพนี่ดูเผินๆ ก็สวยงาม แต่ถ้าให้ดูนานๆ ในสายตาพี่ การพรีเซ็นต์ให้ใครกันแน่ จะดวงอาทิตย์ จะต้นมะพร้าว
จะรถแทรคเตอร์ หรือจะ ทิวเขากับหมอกบางๆ ดูๆ น่าจะดวงอาทิตย์กับบรรยากาศ ยามนั้น ที่ภาพนี้ย้งสวยไม่ถึง
ขั้นเป็นเพราะต้นไม้ที่มันทึม 3 จุดซ้ายขวากับตรงกลางที่น้องเคนเสกออกไป ดูเบาขึ้น ....น้องนันคงอยาก
ให้รถแทรคเตอร์เป็นจุดเด่นหรือเสริมเรื่องก็เหลือที่จะเดามันถูกต้นไม้พวกนั้นแย่งดูดกลืนไปหมด....
ถ้าเป็นภาพในลักษณะนี้ตามจินตนาการพี่ ก็น่าจะเป็นทุ่งกว้าง แล้วเจ้าแทรคเตอร์กำลังฝุ่นฟุ้งในการไถทำงาน
ยามเย็นให้เห็นริมไลน์แสงพระอาทิตย์ เช้าหรือเย็นอย่างในภาพ ส่วนต้นไม้หรือส่วนประกอบก็อย่าไป
โดดเด่นไปกว่าเจ้าแทรคเตอร์ ภาพก็จะได้บรรยากาศเล่าเรื่องได้แรงกว่าภาพของน้อง.....

ภาพหนึ่งภาพที่ประสบผลสำเร็จไม่ใช่แค่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีกดชัตเตอร์ ...ไม่ว่าจาก National Geographic
หรือศิลปินอื่นๆ บางคนไปที่เดิมนับสิบนับเดือนถึงเป็นปี กว่าจะได้ภาพที่สวยออกมาโชว์ระดับโลก เพราะฉะนั้น
มันต้องใช้เวลา และดวงผสมกันไป อย่าท้อใจไปเลยนะน้องรัก.....เราสังเกตุภาพที่มันสวยจริง พอเรามองปุ๊บ
สวย นั่งมองมันนานๆ ยิ่งสวยหนักเข้าไปใหญ่ ....และก็อีกนั่นแหละความสวยมันวัดกันยากก็แล้วแต่คนเสพอีก

สำหรับจะ no ps หรือจะ ps อย่าไปเป็นสาระ ...สำหรับพี่ output ออกไปให้คนเสพดีที่สุดเท่าที่จะดีได้อย่าได้
แคสื่อ...55555 เราโกหกตัวเองไม่ได้หรอก เราจะทำหรือไม่ทำ เราจะเอียง หรือเราครอป ทำไปเถอะ มันเหมือนตอน
ยุคดิจิตอลเข้ามาใหม่ๆ บรรดาโปรทั้งหลายก็เถียงไม่เอาอย่างเดียว จะเอาฟิล์ม แล้วเป็นอย่างไรไม่กี่ปีเอง
เรื่องนี้เงียบไปใช้กล้องดิจิตอลกันให้ครึกถมไป...เหมือนพวกหูทองทั้งหลาย ตอนแผ่นซีดีเข้ามาใหม่ๆ โอ้ยคม
แข็งเสียงบาดหู แล้วเป็นไงปัจจุบันยุคดิจิตอล เล่นไปกันไป 16 บิทไปถึง 64 บิทสารพัด ...วกกลับมา
เหมือน การแต่งภาพ ก็โปรแกรมเค้าพัฒนามาไม่รู้กี่ร้อยล้าน เพื่อรับกับโลกยุคปัจจุบัน ยุคแรกก็เถียงกัน
แทบเป็นแทบตายว่าเองไม่แน่จริงไม่เก่งจริงใช้โปรแกรม ปัจจุบันก็ใช้กันให้เกลื่อนเมือง....สำหรับพี่
ไม่สนใจใครจะใช้ไม่ใช้ ไม่ได้เป็นสาระ ขอปลายทางออกมาดีสวยงาม แนว impress (เหมือนธรรมชาติ)
หรือจะ Abstract(นามธรรม) หรือจะแฟนตาซี โอ้ยอีกสารพัด งานศิลป ....

ใช่เลยลุงครับกว่าเค้าจะได้รูปรอกันเป็นปีเลย จาก : ปู่เฟืองจำปีคนเดิม(ปู่เฟืองจำปีคนเดิม) 27/9/2553 17:27:22 [210.213.59.56] ขอบคุณครับพี่ นี่ละความรู้ จุดประกายให้ ทั้งผม และ คนที่เข้ามาอ่าน จาก : นัน(นัน) 28/9/2553 8:51:45 [203.146.122.1]

จาก ปู่เฟืองจำปี  210.213.59.56  จันทร์, 27/9/2553 เวลา : 16:25