WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เทคนิคการใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับชาวทรูเปอร์
Godzila
จาก
IP:210.203.180.104

พุธที่ , 16/5/2550
เวลา : 11:52

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ว่าจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับเทคการใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หลายหน.. แต่ก็ไม่ค่อยสะดวกเรื่องเวลา ประกอบกับระยะหลังๆมีการอบรมฯคอร์สพิเศษหลายแห่ง น่าที่สมาชิกหลายๆท่านคุ้ยเคย ประกอบกับถ้าลงข้อไม่ละเอียดจริง เดี๋ยวจะเป็นรายการ"เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน"

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลชุดนี้มีไว้ประดับบอร์ดTCTก็เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับสมาชิกบางท่านซึ่งยังไม่เคยผ่านสังเวียนโคลนตลอดจนหนทางทุระกันดารชนิดต้องขยับ 4L เป็นไพ่ใบสุดท้าย

ลองศึกษาดูครับ..





ปกติในรถขับเคลื่อน 4 ล้อยี่ห้ออีซูซุ ทรูเปอร์ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล จะมีประเภทเกียร์ให้เลือก 2 ระบบ คือเกียร์"ธรรมดา"Manaulและเกียร์Automatic เป็นระบบที่นักเล่นรถทั่วไปเรียก"พาร์ทไทม์"Parttime หรือพูดภาษาชาวบ้านขับเคลื่อนสี่ล้อบางเวลานั่น เอง" โดยลักษณะของคอนโทรลเกียร์จะแบ่งออกเป็น 2H 4H 4H ตามแต่ประเภทของการใช้งาน นอกเหนือจากนั้นยังมีคุณลักษณะเสริมเข้ามาสร้างความสะดวกสบาย อาทิ "ชิพ ออน เดอะ ฟรายด์" Shift on the fly การเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนขณะรถยังเคลื่อนที่ ไม่ต้องหยุดสนิทรถเพื่อขยับตำแหน่งเกียร์จากขับ 2 ไป 4


ตำแหน่งรายละเอียดของระบบขับเคลื่อนกับตำแหน่งเกียร์ดังนี้...

2 H : ปกติเมื่อรถขับเคลื่อนบนถนนผิวเรียบ ไม่มีเนินชัน หรือว่าทางหลวงในเมืองทั่วไป ตำแหน่งเกียร์ด้ามเล็ก(อันสั้น)จะคงไว้ที่ 2H ซึ่งหมายถึงระบบขับเคลื่อนของรถกำลังทำหน้าที่เป็นโดยเพลาที่สองล้อหลัง 100 เปอร์เซ็นต์ ดังเช่นรถยนต์ปกติ เหมาะกับความเร็วสูงสุดและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในระดับต่ำ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       4H : สำหรับตำแหน่งเกียร์ด้ามเล็ก เมื่อใดก็ตามที่เปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่ในโหมดของ 4 นั่นก็หมายถึงชุดขับเพลาส่งทั้งส่วนหน้า-และส่วนหลังจะถูกถ่ายกำลังไปสู่ล้อทั้งสี่ด้าน แต่มีอัตราการทดสปีดที่สูงขึ้น พูดง่ายๆการขับเคลื่อนของตำแหน่ง 4H หรือ"โฟร์ไฮ" ท่านสามารถใช้ความเร็วได้สูงพอๆกับการขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสมรรถนะที่สมดุลย์ตลอดจนพื้นผิวที่เหมาะกับตำแหน่งเกียร์ 4H ควรจะเป็นทางดินเปียกแฉะ ลื่น ทางลูกรัง ทางภูเขาที่ไม่ลาดชันเกินไปนัก ขณะเดียวกันการปรับเกียร์ในโหมดนี้ยังสามารถนำมาใช้กับสภาพพื้นผิวทางเรียบในช่วงฝนตกหนัก น้ำเจิ่งนองบนท้องถนนลาดยางธรรมดาๆได้อีกด้วย โดยประสิทธิภาพของการเกาะ ดีกว่าระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ที่มักเกิดอาการอันเดอร์สเตียร์ แต่เมื่อมีข้อดีก็มักจะมีข้อเสีย นั่นก็คืออัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจะสิ้นเปลืองมากตามระดับ


4L : ตำแหน่งเกียร์ในที่นี้หมายถึงการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อที่ค่อนข้างช้าหรือเรียกกันว่า"โฟร์โลว์"โดยมีอัตราการทดสูงกว่าเกียร์ 4Hถึงเกือบสองเท่าตัว คืออัตราทดโลว์อยู่ที่ 2.283 ดังนั้นการใช้ระบบขับเคลื่อนในตำแหน่งนี้ เส้นทางที่เหมาะสมมากสุดควรเป็นเนินเขาขึ้นหรือลงลาดชันมากๆ หรือในเส้นทางทุรกันดาร หินกรวด หลุมบ่อ หล่มใหญ่ ลำห้วย ทางทรายและทางโคลน
ประสิทธิภาพในส่วนนี้ให้แรงฉุดค่อนข้างสูง แต่ไม่สามารถวิ่งได้เร็ว สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก การบังคับเลี้ยวตลอดจนควบคุมพวงมาลัยต้องอาศัยทักษะเพิ่ม ขณะเดียวกันวิธีการใช้โฟร์โลว์นั้นจะต่างกับโฟร์ไฮอย่างสิ้นเชิง โดยจะต้องหยุดรถให้นิ่งสนิทก่อนทุกครั้ง จากนั้นจึงผลักเกียร์หลักไปที่ N แล้วปลดเกียร์สโลว์(ด้ามเล็ก)ไปที่ 4L แล้วจึงดึงเกียร์หลักลงมาที่ตำแหน่ง L เพื่อขับเคลื่อนไปตามภูมิประเทศข้างหน้าต่อไป

SHIFT ON THE FLY : เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าบริษัทผู้ผลิตอย่างอีซูซุมักชู"ความสะดวกสบาย"ในส่วนนี้อย่างค่อนข้างเอิกเกริกเมื่อห้วงหลายปีก่อนตอนเปิดตัวใหม่ๆ โดยเฉพาะความสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์โดยไม่หยุดรถจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อมา 4 ล้อโดยไม่ต้องหยุดรถในย่านความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.โดยโหมดที่ว่านี้จะใช้ได้ก็เพียงตำแหน่งโฟร์ไฮ(4H)เท่านั้น ส่วนโหมดโฟร์โลว์(4L)ต้องมีการหยุดรถให้นิ่งสนิท ถึงจะสามารถผลักไปตำแหน่งที่ต้องการ และตำแหน่งเกียร์เมน(ด้ามใหญ่)ต้องอยู่ที่เกียร์ว่าง(N)เท่านั้น เนื่องจากอัตราทดที่ค่อนข้างต่างกัน "ชิพ ออน เดอะ ฟรายด์"จึงไม่อาจใช้ในส่วนนี้ได้

WINTER : ที่บริเวณคอนโซลหลังตำแหน่งเกียร์จะมีสวิทช์อยู่สองอัน นั่นก็คือ WINTER และ POWER โดยเจ้าสวิทช์ตัวแรกอันได้แก่"วินเทอร์"จะมีความสามารถพิเศษและใช้ก็ต่อเมื่อ ออกตัวรถบนสภาพพื้นผิวถนนที่เป็นเลน โคลน หิมะ เมื่อกดสวิทช์ครั้งใด การขับเคลื่อนล้อทั้งสี่จะมีความสมดุลย์เท่าเทียมกัน แต่ทั้งนี้จะต้องอยู่ในย่านความเร็วที่ไม่เกิน 30 กม./ชม. และหากมีการฝืนเกินกว่าตัวเลขกำหนด ระบบควบคุมจะยกเลิกโดยอัตโนมัติทันที ข้อสำคัญการทำงานในส่วนนี้เกียร์หลักต้องอยู่ในตำแหน่ง D เท่านั้น

POWER : สวิทช์นี้เมื่อกด จะทำหน้าที่สั่งการไปยังระบบ"คิกดาวน์" KICK-DOWN เพื่อเพิ่มสปีดเกียร์ให้รวดเร็วขึ้น รอบเครื่องยนต์สูงขึ้น เหมาะกับการแซง วิ่งบนไหล่เขา ทางลาด ความรู้สึกรอยต่อระหว่างสปีดจะไม่ค่อยนิ่มนวล กินเชื้อเพลิงมาก เมื่อเลิกใช้ให้กดสวิทช์ซ้ำหรือหากหยุดรถ ดับเครื่องยนต์ "เพาเวอร์"โหมดจะถูกยกเลิกในทันที


ตำแหน่งเครื่องหมายการทำงานของระบบ WINTER และ POWER จะมีสัญญาณไฟแสดงบริเวณหน้าปัทม์รถ



ข้อสังเกตุระหว่างที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

- บริเวณหน้าปัทม์จะมีรูปสัญลักษณ์"เพลาขับสี่ล้อ"(รูปเพลาและล้อ)สีเขียวโชว์สว่างตลอดขณะที่เครื่องยนต์ทำงานและตัวรถขับเคลื่อน

- อาการหนักเมื่อสาวพวงมาลัยหรือเลี้ยวในมุมแคบ

- เมื่อเลี้ยววงแคบครั้งใด รถมักมีอาการเหมือนเบรคติด ฝืด ซึ่งเป็นวิสัยปกติของรถที่กำลังขับสี่ล้อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit พุธ, 16/5/2550 เวลา : 11:54  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 120838

คำตอบที่ 2
       เยี่ยมเลยครับ รวมๆไว้ในหน้าเดียวยิ่งดีครับ
ใครมี เทคนิค การขับลงเขายาวๆชันๆ อย่างทางไปสังขะบ้างครับ ผมไป2ครั้งผ้าเบรค มีกลิ้นไหม้ ทุกที ต้องคอยพักตามข้างทางที่เค้าทำไว้ให้ อ้อผม 6วี ออโต้ครับ ใครเคยแบบนี้บ้าง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เอก TCT005 58.9.143.180 พุธ, 16/5/2550 เวลา : 12:28  IP : 58.9.143.180   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 120847

คำตอบที่ 3
       SHIFT-ON-THE-FLY ระบบเปลี่ยนเกียร์จากขับ 2 เป็นขับ 4 แบบโฟร์ไฮ(4H)ในย่านความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. โดยไม่ต้องหยุดรถ





น้าครับผมอยากรู้ว่าตอนที่เข้าเกียร์4H อยู่ๆมันเข้าได้อย่างไรครับ ทั้งๆที่เวลารถวิ่งมันวิ่งอยู่
จาก : man_kx(man_kx) 26/4/2554 1:04:45 [223.204.18.233]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit 58.136.228.114 พฤหัสบดี, 17/5/2550 เวลา : 21:26  IP : 58.136.228.114   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121182

คำตอบที่ 4
       ลักษณะของเกียร์ทรูเปอร์เป็นแบบพาร์ทไทม์ (PART TIME) ตำแหน่งการขับเคลื่อนจึงมีให้เลือกเพียง 3 โหมด
คือ 2H, 4H, 4L





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit 58.136.228.114 พฤหัสบดี, 17/5/2550 เวลา : 21:30  IP : 58.136.228.114   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121183

คำตอบที่ 5
       เมื่อใดก็ตามที่ผลักเกียร์(ด้ามเล็ก)เข้าสู่ตำแหน่งขับเคลื่อนแบบ"โฟร์ไฮ" 4H หรือ "โฟร์โลว์"4L สัญญลักษณ์รูปขับเคลื่อนสี่ล้อแบบนี้จะโชว์ที่หน้าปัทม์เป็นสีเขียวทุกครั้ง และหลังจากปลดกลับมาสู่โหมดขับเคลื่อนสองล้อธรรมดา(2H) สัญญลักษณ์นี้จะหายไป แต่ถ้าไม่ยอมดับ ให้เข้าทำการตรวจเช็คชุดขับเคลื่อนที่เพลาหน้าโดยเร็ว





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit 58.136.228.114 พฤหัสบดี, 17/5/2550 เวลา : 21:35  IP : 58.136.228.114   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121184

คำตอบที่ 6
       ชนิดของ"เกียร์ธรรมดา"(Manaul) กับ"เกียร์ออโต้"(Automatic)ในอีซูซุทรูเปอร์





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit 58.136.228.114 พฤหัสบดี, 17/5/2550 เวลา : 21:39  IP : 58.136.228.114   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121185

คำตอบที่ 7
       มุมลาดด้านหน้าและด้านหลังของทรูเปอร์แบบมาตรฐานเดิม





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit 58.136.228.114 พฤหัสบดี, 17/5/2550 เวลา : 21:41  IP : 58.136.228.114   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121186

คำตอบที่ 8
       มาตรฐานมุมเอียงบนแทรคชั่นเดิม





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit 58.136.228.114 พฤหัสบดี, 17/5/2550 เวลา : 21:43  IP : 58.136.228.114   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121187

คำตอบที่ 9
       ปรับท่านั่งให้สบายในสไตล์ออฟโรด

ท่านั่งที่เหมาะสมในการบังคับพาหนะประเภทขับเคลื่อนสี่ล้อ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการปรับเอนเบาะ วางตำแหน่งโพซิชั่น ส่งผลต่อความสบาย ไม่เมื่อยล้า ยิ่งเป็นพื้นผิวธุระกันดาร ควรวางตำแหน่งท่วงท่าดังนี้...

ช่วงขา
เลื่อนเบาะเพื่อให้เท้าทั้งสองข้างสามารถเหยียบคลัทช์และแป้นเบรคตลอดจนคันเร่ง ระยะไม่สั้นไป ยาวไป โดยใช้วิธีสังเกตุเมื่อเหยียบคลัทช์หรือเบรคแล้ว หัวเข่าจะต้องงอเล็กน้อย อย่ายาวไปจนถึงกับเขย่งเมื่อเหยียบลง ทั้งเข่าซ้ายเข่าขวา ต้องเท่ากัน

ช่วงแขน
เหยียดแขนแล้วเอามือวางบนพวงมาลัยด้านบน โดยอุ้งมือทั้งสองอยู่ในตำแหน่งซ้ายและขวา ข้อศอกไม่งอมากเกินไป หรือไม่ยืดตรงจนเกินไป แล้วปรับท่านั่งพนักพิงตลอดจนมุมเอียงเบาะตามความเหมาะสมของเรือนร่าง

คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ
เซฟตี้เบลท์(SAFETY BELT)หรือเข็มขัดนิรภัยในห้องโดยสารเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับความปลอดภัยเบื้องต้น ต้องถือปฏิบัติทุกครั้งเมื่อรถเคลื่อตัวออกจากจุดเดินทาง รวมทั้งผู้โดยสารในตำแหน่งอื่นๆด้วย

กระจกหน้าต่าง
กระจกหน้าต่างบานข้างไม่ว่าจะด้านซ้ายหรือด้านขวา ให้ถือเสียว่าเปิดปิดตามความเหมาะสม เพราะบางท่านถนัดรับลมดูไลน์สำรวจทาง บางท่านชอบแอร์เย็นๆในรถมากกว่า แต่ข้อควรปฏิบัติในขณะเดินทางด้วยสภาพออฟโรด ไม่ควรหยุดบานกระจกไว้ครึ่งๆกลางๆ เนื่องจากขณะที่รถตกหลุมอาจจะทำให้ข้อศอกหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเหวี่ยงฟาดไปโดนจนเกิดอันตราย นอกจากนั้นข้อเสียในการเปิดกระจกขณะขับผ่านป่าที่มีกิ่งไม้ กิ่งไผ่ หนามแหลมคมอาจหลุดรอดเข้ามาถึงห้องโดยสาร โดยเฉพาะเบาะแถวสองไม่ควรเปิดอ)ย่างเด็ดขาด หรือแม้แต่กรณีรถพลิกตะแคง ผู้ร่วมเดินทางอาจหลุดกระเด็นออกนอกรถ
ต้องระมัดระวังถือเป็นข้อปฏิบัติอย่างเครื่องครัด


ข้อมูลรายละเอียด ทรูเปอร์(เครื่องยนต์เบนซิน)

รุ่น : 6VD1
แบบ V - 6 สูบ 24 วาล์ว เพลาราวลิ้นเดี่ยวเหนือฝาสูบSOHC

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง
หัวฉีดอีเลคทรอนิค แบบมัลติพอยท์ MPFI

ความจุกระบอกสูบ
3,165 ซีซี.

เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบและช่วงชัก
93.4 X 77 มม.

อัตราส่วนกำลังอัด
9.3 / 1

แรงม้าสุงสุด
177/5,200 รอบ/นาที

แรงบิดสุงสุด
26.5/3,750 กก.-เมตร/รอบต่อนาที

ระบบขับเคลื่อน
แบบพาร์ทไทม์ PARTTIME สามารถเลือกขับเคลื่อนได้ทั้งแบบ 2 และ 4 ล้อ พร้อมระบบ SHIFT-ON-THE-FLYที่เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อได้ทันที ในย่านความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.(เฉพาะตำแหน่ง 4H)

ระบบทรานสมิทชั่นส่งกำลัง
เกียร์ธรรมดา
5 เกียร์เดินหน้า เป็นเกียร์ซิงโครเมชพร้อมโอเวอร์ไดรฟ์

เกียร์ออโตเมติค
4 เกียร์เดินหน้า พร้อมโอเวอร์ไดรฟ์

อัตราทด (ธรรมดา/ออโตเมติค)
1 3.767/2.856
2 2.248/1.618
3 1.404/1.000
4 1.000/0.723
5 0.809
ถอยหลัง 3.873/2.000
เกียร์สโลว์ (ช้า/เร็ว) 2.283/1.000

เฟืองท้าย
แบบลิมิเต็ดสลิป
อัตราทด(ต่อ 1) 4.555(41/9)

ระบบกันสะเทือน
หน้า : อิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง,ช็อคอัพซอร์ฟเบอร์แก็ส
หลัง : คอยล์สปริงแบบมัลติลิงค์ยึด 4 จุดพร้อมเหล็กกันโคลง, ช็อคอัพซอร์ฟเบอร์แก็ส

ระบบพวงมาลัย
แบบลูกปืนหมุนวน พร้อมเพาเวอร์ช่วย แกนพวงมาลัยชนิดยุบตัวได้
อัตราทด 15.8 ต่อ 1
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 / เมตร

ระบบห้ามล้อ
ดิสก์เบรคแบบมีครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ แยก 2 วงจรอิสระ ควบคุมด้วยไฮดรอลิคและหม้ลมช่วยพร้อมABS(Anti-Lock Brake System)ชนิด 3 แชลแนล 4 เซ็นเซอร์

มิติและสัดส่วนตัวถัง
ความยาว 4,545 มม.
ความกว้าง 1,745 มม.
ความสูง 1,840 มม.
ฐานล้อ 2,760 มม.
ระยะห่างระหว่างล้อ หน้า/หลัง 1,455/1,460 มม.
ระยะห่างใต้ท้องรถ 215 มม.
น้ำหนักรวม เกียร์ธรรมดา 1,971 กก.
เกียร์ออโตเมติค 1,991 กก.
ขนาดล้อ/ยาง 16X7JJ, 10 Spokes/
245/70R 16
ถังเชื้อเพลิงจุ 85 ลิตร



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit พฤหัสบดี, 17/5/2550 เวลา : 22:18  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121192

คำตอบที่ 10
       เยี่ยม....อีกตามเคยนะคุณมานิตย์ thank
เอาอีก .....เอาอีก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ตี๋ กทม. TCT.031 203.153.173.107 ศุกร์, 18/5/2550 เวลา : 21:36  IP : 203.153.173.107   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121496

คำตอบที่ 11
       ขอบคุณครับ สำหรับการให้ความรู้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Troop 222.123.4.39 เสาร์, 19/5/2550 เวลา : 05:42  IP : 222.123.4.39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121532

คำตอบที่ 12
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก โอ๊ต TCT064 58.9.31.21 เสาร์, 19/5/2550 เวลา : 09:15  IP : 58.9.31.21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121567

คำตอบที่ 13
       เทคนิคเบื้องต้นกับโลกความเป็นจริงที่เราจะต้องเจอบนทางออฟโรด

ทางวิบาก
REGGED ROUTE
อุปสรรคอย่างหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางตามป่าเขาตลอดจนพื้นที่ห่างไกลความเจริญ นั่นก็คือสภาพถนนที่ไม่ได้มาตรฐาน ยากรถประเภทอื่นจะเข้าถึง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคกับนักท่องเที่ยวมือใหม่ซึ่งนานๆทีจะได้มีโอกาสสัมผัสทางวิบากในป่า ซึ่งต้องใช้ทักษะตลอดจนความชำนาญเข้าควบคุมไม่ให้หลุดลงไปในร่องลึกหรือพลิกตะแคงข้างทางเสียก่อน
สำหรับอุปสรรคแรกได้แก่ทางวิบากที่เป็นเนินสูงต่ำสลับโคกดินในส่วนนี้ให้ตั้งมาตรฐานระบบขับเคลื่อนไว้ที่ 4H ดึงตำแหน่งเกียร์หลักไว้ที่ L (ออโตเมติค)ส่วนเกียร์ธรรมดามาอยู่ที่ 1 เช่นกัน จากนั้นก็ใช้วิจารณะมองไปที่สภาพผิวเบื้องหน้าไม่น้อยกว่า 20 เมตร ตามแนวสายตา ควรกำหนดตำแหน่งล้อทั้งสี่ไว้ที่เนินใดบ้าง และมีเนินใดสูงกว่า ควรจะใช้ล้อด้านใดเข้าไปเกยเพื่อไม่ให้ตำแหน่งเนินนั้นเข้าไปขัดคาอยู่ด้านใต้(ควรประเมินระยะเนินกับระยะห่างใต้ท้องรถควบคู่ไปกันด้วย) ซึ่งเนินใดที่ขัดหรือค้างเกยก็ตาม พยายามทำให้รถสัมผัสพื้นอย่างน้อย 3 ล้อขึ้นไป เพื่อที่รถของท่านก็จะสามารถดิ้นต่อไปได้
ขอย้ำนะครับ ถ้าจำเป็นต้องเกยหรือค้างเนินดิน อย่าปล่อยให้แขวนเกิน 2 ล้อ เพราะประสิทธิภาพระบบขับเคลื่อนคุณจะหมดโอกาสทันที





ข้ามร่องลึก
DEEP DITCH ROUTE

ทางลาดชัน
STEEP SLOPE ROUTE

ทางเนินลาดมีหิน
SLOPE ROCKY ROUTE

ทางแคบและขรุขระในป่าทึบ
NARROW RUGGED ROUTE IN FOREST

ขับลุยทราย
SAND CROSSING

ขับฝ่าโคลน
MUD CROSSING

ข้ามสะพานไม้ในลำห้วย
BRIDGE CROSSING

ทางลาดเอียง
SLOPE STABILITY



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Godzila จาก Manit อาทิตย์, 20/5/2550 เวลา : 06:49  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 121703

คำตอบที่ 14
       ข้อมูลชัดเจนมากเลยครับคุณมานิตย์ Trip ต่อไปจะไปใช้ 4L กันที่ไหนดีครับ จะได้เตรียมตัว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Tommy TCT96 203.118.114.231 อาทิตย์, 20/5/2550 เวลา : 23:02  IP : 203.118.114.231   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 122037

คำตอบที่ 15
       ข้อมูล นี้ดีและเป็นประโยชน์มากผมพึ่งอ่านเจอ เลยขอ up ข้อมูลให้คนที่ยังไม่เคยอ่าน ครับ ขอบคุณพี่ manit ผู้ลงข้อมูลกระทู้นี้มากครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก izu371 203.149.16.33 พฤหัสบดี, 1/11/2550 เวลา : 15:04  IP : 203.149.16.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 162308

คำตอบที่ 16
       ผมซื้อรถมายังไม่ค่อยรู้ระบบการทำงานเลย ได้ความรู้มากเลยครับ เยี่ยมๆๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TCT254 203.149.12.234 ศุกร์, 2/11/2550 เวลา : 09:49  IP : 203.149.12.234   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 162521

คำตอบที่ 17
       หากมีเวลาว่างยาวๆจะเข้ามาเขียนต่อครับ.. ค้างหัวข้อไว้แล้วลืมสนิท



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Manit 58.10.189.16 ศุกร์, 2/11/2550 เวลา : 14:14  IP : 58.10.189.16   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 162608

คำตอบที่ 18
       ผมใช้งานเข้าทำงานในป่าประจำ (กาญจนบุรี ) จึงเลือกใช้เกียร์ธรรมดา และเมื่อเวลาต้องเข้าพื้นที่ป่าลาดชัน จะใช้ 4L คู่กับเกียร์ 3 ทำให้ตลอดการเดินทางช่วงนั้นไม่ต้องใช้เบรคกับครัชต์ แค่เลี้ยงคันเร่งอย่างเดียว แต่ความเร็วได้ไม่เกิน 20 กม./ชม. เนินชันแค่ไหน ไม่ว่าขึ้น/ลง สบายมาก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก hart 117.47.61.40 ศุกร์, 2/11/2550 เวลา : 20:47  IP : 117.47.61.40   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 162686

คำตอบที่ 19
       กำลังจะอ่านแต่ง่วงนอน save ไว้อ่านแล้วคับ ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดีๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก wat 124.120.97.5 อังคาร, 20/11/2550 เวลา : 22:52  IP : 124.120.97.5   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 165517

คำตอบที่ 20
       สวัสดีครับ คุณน้า Manit นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในแว็บบอร์ดแห่งนี้ เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการทำงานของระบบ SHI - ON - THE - FLY ว่าเวลามันทำงาน เฟืองมันเข้ากันได้อย่างไร ทั้งๆที่เวลารถวิ่ง แกนเพลาที่อยู่ตรงจุดแว็คคั่มมันหมุนคนละทางกันใช่ใหมครับ(ผมหมายถึงแกนเพลาล้อด้านซ้ายมือที่มีก้ามปูเป็นตัวแยกตัดกันวลาที่เราไม่ได้สั่งให้ระบบขับเคลื่อนไม่ทำงานนะครับ) จะขอบพระคุณมากนะครับถ้าน้าช่วยอธิบายให้แจ่มแจ้งกันไปเลยนะครับ ว่าตอนที่รถวิ่งอยู่แล้วอยู่ๆเราเข้าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเนี้ย มันทำงานกันอย่างไร และมันเข้าได้อย่างไร หวังว่าน้าคงไม่ว่ากันนะครับที่ถามซะยาวเลย ขอขอบคุณนะที่นี้ด้วยนะครับถ้าได้คำตอบแล้วผมจะเข้ามาอ่านดู



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

man_kx จาก man_kx 115.67.231.196 อาทิตย์, 24/4/2554 เวลา : 00:07  IP : 115.67.231.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 227360

คำตอบที่ 21
       ได้ความรู้มากเลยครับขอขอบคุณท่านผู้รู้ทุกท่าน ขอถามเพิ่มเติมนิดนึงครับ ถ้าลงจากเขาลาดชันมากและเป็นลูกรังเราสามารถเข้า 4L และปล่อยรถไหลลงมาเพื่อลดการใช้เบรค (สำหรับเกียร์ Auto) เป็นวิธีการใช้ที่ถูกต้องไหมครับ การใช้4H และ 4L ปกติจะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณเพิ่มขึ้นประมาณกี่ % ครับ



ถ้าลงเขาลาดชันและเป็นทางลูกรัง ปรับเป็น 4L ได้เลยครับ แล้วเปลี่ยนเกียร์ช่วย อาจเป็น L หรือ 2
จาก : chalermsak(chalermsak) 24/4/2554 16:17:49 [58.8.173.136]
ถ้าลงเขาและเป็นลาดยาง ห้ามใช้ 4 ลงมา อันตรายมาก
จาก : chalermsak(chalermsak) 24/4/2554 16:19:12 [58.8.173.136]
การสิ้นเปลืองของ 4L และ 4H บอกลำบากเนื่องจากขึ้นกับสภาพถนน
จาก : chalermsak(chalermsak) 24/4/2554 16:20:42 [58.8.173.136]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

akharina จาก Ton TCT550 124.122.69.51 อาทิตย์, 24/4/2554 เวลา : 03:14  IP : 124.122.69.51   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 227363

คำตอบที่ 22
       แก่นของความรู้คือการนำไปปฎิบัติ ครับ จัดทรีปหน่อย



สนับสนุน ให้จัดทริป พฤษภาคม นี้ ครับบบ
จาก : tct 279(chitchai) 25/4/2554 11:15:44 [110.164.64.51]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pongtct052 จาก PONG Club 100 124.122.50.236 อาทิตย์, 24/4/2554 เวลา : 09:09  IP : 124.122.50.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 227371

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,25 เมษายน 2567 (Online 6112 คน)