คำตอบที่ 1
       ลูกยางช่วงล่างทุกตัวถ้าเสื่อมทำให้เกิดเสียงต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบู๊ช, ลูกหมาก ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ออกแบบให้ลดเสียงและให้เกิดความสมดุลในขณะขับขี่

ถ้าตรวจสอบแล้วมันเสื่อมสภาพแล้วเปลี่ยน ขอบอกว่าขับแล้วรู้สึกได้ทันทีว่าคล้ายรถใหม่

ถ้างบพร้อม โล๊ะชุด แล้วตั้งศูนย์ ขับสบายขึ้นเยอะเลย (บางชิ้นสามารถใช้ของเทียบได้ จะได้ประหยัดงบ และขอยืนยันว่าไม่จำเป็นจะต้องใช้ยูริเทน)

และอย่าลืมดูแลจาระบีตามจุดเชื่อมที่สามารถอัดได้ก็จะสมบูรณ์แบบ (เช่นเพลากลาง บู๊ชปีกนก)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณครับคุณprawit_niti ตอนนี้ตัดสินใจเปลี่ยนบูชปีกนกและยางช่วงล่างทั้งหมด ลูกหมากเปลี่ยนมาแล้ว ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ตอนนี้รถอยู่ที่ศูนย์แล้วครับตัดสินใจเปลี่ยน บูชปีกนกบน,บูชปีกนกล่าง,ยางกันโคลงหน้าและหลัง,ลูกหมากกันโครงหลัง,ยางแท่นเก๋งทั้งหมด อยากสอบถามพี่ตี๋และผู้รู้ว่าต่อไปเป็นเรื่องของเครื่อง ตอนนี้ผมสั่งอะไหล่มารอแล้วคือปั้มน้ำ,สายพานไทม์มิ่ง,ลูกลอกเล็ก,ลูกลอกใหญ่,ซีลคอหน้า อยากทราบว่าไหนๆก็รื้อขนาดนี้แล้วต้องเปลี่ยนอะไรอีกเช่น กระทู้พี่ตี๋ให้เปลี่ยนทั้งกระเดื้อง+ลูกไฮโดรลิคทั้งชุดเลย ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ถ้าเปลี่ยนปั้มน้ำ,สายพานไทม์มิ่ง,ลูกรอกเล็ก,ลูกรอกใหญ่,ซีลคอหน้า แล้ว
อย่าลืมเปลี่ยน..ตัวดันสายพานด้วยครับ

ส่วนกระเดื้อง และลูกไฮโดรลิคกดวาวล์ หากเสียงดัง ให้หาซื้อหัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่เป็นนาโน หรือซุปเปอร์นาโนยิ่งดี
เติมหลังเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แล้ววิ่งที่ระบบน้ำม้นเบนซินยาวๆสัก 80 ลิตร( 1 ถัง) เงียบฉี่เลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       พี่ตี๋ครับ
หากวิ่งน้ำมันซัก 1 ถัง 80 ลิตร ลิตรละ 35.34 = 2827 บาท.....
สงสัยเครื่องจะเงียบ แต่คนเติมจะไม่มีอ่ะไรกินนะสิครับ

ปล.ยังไงถ้ารื้อเครื่องมาแล้ว เปลี่ยนท่อน้ำหลังเครื่องกับท่อน้ำมัน ท่อยางให้หมดด้วยนะครับ
จะได้ไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงอีกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณทุกคนที่ให้คำตอบครับแล้วจะรีบไปดำเนินการ ผลสรุปสุดท้ายจะมาเล่าให้ฟังครับถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       เสร็จช่วงล่างต้องถามพี่ป๋องกับพี่ไก่ต่อเรื่องช่วงบน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ลืมอีกเรื่องครับ ในความคิดผมดัชนีชี้วัดอายุชิ้นส่วนต่างๆของรถทรูเปอร์น่าจะเป็นรถของพี่มานิตย์ใช่ไหมครับเพราะรถพี่ท่านวิ่งเยอะจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       วันนี้เปลี่ยนเรียบร้อย รายงานผลครับเสียงการเข้ามาในตัวรถเงียบขึ้นมาก นอกจากเสียงที่ล๊อคประตูทั้ง 4 บาน มันยังดังอยู่ และได้เปลี่ยนตัวฟรีปั้มเลย(กัดฟัน) (ที่ตัดสินใจเปลี่ยนเพราะเคยไปเปลี่ยนน้ำมันฟรีปั้มที่ศูนย์ 2 ครั้ง ยังหนึดเหมือนเดิม ) และเปลี่ยนอ๊อกซิเจนเซนต์เซอร์ ผลผลเสียงเงียบดีมาก(พัดลม)ไม่เหมือนเสียงคล้ายเครื่องบินไอพ่น เวลาขับผ่านในหมู่บ้านคนเหลียวมองตรึม มันดังจริงๆ เครื่องเร่งดีขึ้นเยอะเห็นได้ชัด ตอนนี้รอโช๊คกับคอนสปริงของโอลแมน ตามที่พี่ตี๋แนะนำ ทางร้านบอกของเมืองไทยหมดต้องรองวดหน้า หากเปลี่ยนเสร็จจะรายงานผลความคืบหน้าต่อไปครับ จริงๆไม่ได้โม้ ตอนนี้ช่วงรออะไหล่ก็ขัดๆถูๆทั้งคัน แข่งกับพี่มานิตย์ซะหน่อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       พัดลม free pump ซื้อของใหม่หรือเซียงกง ราคาเท่าไหร่ครับ

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       รบกวนสอบถามเบอร์หรือรุ่นของทอร์ชั่นบาร์,คอยปริงและโช๊ค ของโอแมน จากพี่ๆ ที่ใช้กับทรูเปอร์ด้วยครับ เพราะร้านเขาสั่งของให้ กลัวไม่ตรงรุ่น ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       คต.10 ของใหม่ครับ 6,000 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ใบพัดลมกับฟรีปั๊มเดิมที่ใช้อยู่... ถ้าไม่บุบสลายถึงขั้น แหว่ง ฉีก ขาด

แค่ถอดออกมาล้างแล้วเติมซิลลิโคนเหลวชนิดของแท้ ตามสัดส่วนที่พอเหมาะ
เสียงรอบเวลา ตัด หมุน ตามรอบเครื่องจะเงียบลงครับ
แต่ต้องระวังเบอร์ซิลลิโคนและก็สัดส่วนที่เติมเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อใช้ไปสักพัก ให้ตรวจทานแรงหนืดขณะที่เครื่องยนต์ยังไม่ได้ติดหรือสตาร์ท ด้วยการใช้มือเปล่าๆดันหรือเหวี่ยงใบพัดไปตามแรง.. ถ้าใบพัดสามารถเคลื่อนต้านแรงหนืดตามไปได้เล็กน้อย... "กำลังดี" แต่ถ้าดันหรือเหวี่ยงไปแล้วหยุดตึ่บ คาที่!! ซิลลิโคนที่เติมมาก หนืดเกินไป! ส่วนอาการดันแล้วฝืดมาก ไม่อยากจะหมุนตามแรงมือ เป็นเพราะเติมน้ำยาฟรีปั๊มไม่ได้มาตรฐานที่มีอยู่ตามร้านทั่วไป

ให้ถอดออกมาล้างใหม่จนเกลี้ยง แล้วเติมสัดส่วนที่น้อยลง"""

ปล. ของแท้อีซูซุออกจะแพง บางท่านใช้ของโตโยต้าที่ถูกกว่า คือ เบอร์ 1000

ส่วนกรรมวิธีลองอ่านตามนี้ครับเกิดใครอยาก D I Y ด้วยตัวเอง เป็นเครดิตจาก http://www.fordheartmania.net>

Gigolo Broken Heart:
ขั้นตอนการถอด ประกอบ PMชุดพัดลมฟรีปั๊ม

ใช้ ประแจเบอร์ 12 คลายน๊อต 4 ตัวที่ยึด แกนพัดลม กับ พูลเลย์(มู่เล่ย์)ปั๊มน้ำออก ระวังน๊อตจะหล่นหาย ด้วย แล้วจัดการ ยกชุดพัดลม ออกมาทำข้างนอก

ใช้ประแจเบอร์ 10 ถอดน๊อตยึดใบพัดลมออกจากชุดฟรีปั๊ม

หลัง จากถอดใบพัดลมออกมาแล้ว ใช้มือ(นิ้ว) กดตรงปลายแผ่นเหล็กแล้วเลื่อนออกไปด้านข้าง แผ่นเหล็กจะหลุดออกมา แล้วจะเห็นเดือยทองเหลือง ตัวเล็กๆ อยู่ตรงกลาง ดึงออกมาได้เลย เก็บไว้ให้ดี ระวังจะหล่นหาย

ผมคว่ำหน้าชุดฟรีปั๊มไว้นานพอสมควร แต่ไม่มีน้ำยาซิลิโคนเดิมไหลออกมาเลย แสดงว่าน้ำยาซิลิโคน คงจะแห้งเกือบหมดแล้ว

จัดการ เติมน้ำมันซิลิโคนโดยใช้ กระบอกเข็มฉีดยาฉีดน้ำยาเข้าไป จนหมดหลอด แต่จากข้อมูลบางคนบอกว่าต้องใช้ถึง 40 cc (40ml) ... แต่น้ำยา 1 หลอด บรรจุแค่ 18 cc (18 ml) ดังนั้นคงต้องใช้ถึง 2 หลอด ... ตอนนี้ผมใส่เพียงหลอดเดียวดูก่อน ถ้าไม่เป็นผล คงต้องเติมเพิ่ม ... เติมเสร็จ ก้อ หมุนๆๆๆๆๆๆ แกนให้น้ำยาที่อยู่ข้างในกระจายตัว มองไม่เห็นหรอกนะ แล้วก้อเป็นการตรวจสอบด้วยว่า มันหนืดขึ้นหรือไม่

หลัง จากเติมน้ำมันซิลิโคน แล้ว เช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วใส่เดือยทองเหลืองโดยเสียบกลับเข้าที่เดิม และใส่แผ่นล๊อคกลับเข้าที่เดิม แล้วใส่ใบพัดยึดให้แน่น ประกอบกลับเข้าที่เดิม

...Tips...

เวลาขันน๊อตยึดแกนชุด พัดลม เข้ากับ พูลเลย์ปั๊มน้ำ ... จะต้องขันให้เข้าพร้อมๆกันทุกๆด้าน ค่อยๆ ขันเข้าไปทีละน้อยๆ ดูจนหน้าแปลนสัมผัสแน่นกับตัวพูลเลย์แนบสนิท แล้วขันน๊อตยึดให้แน่น ... ถ้าสายพานปั๊มน้ำตึงมากๆ อาจจะทำให้ตัวพูลเลย์ปั๊มน้ำเกิดการเยื้องศูนย์ ก็ต้องคลายสายพานให้หย่อนเสียก่อน ... โดย

ใช้ประแจเบอร์ 14 คลายน๊อตยึดไดนาโม (ไดชาร์ท) ให้พอหลวมๆ ทั้งด้านบนและด้านล่าง(ไม่ต้องถอดน๊อตออกมานะพี่น้องงงงงง) แล้วใช้ประแจเบอร์ 12 คลายน๊อตที่ปรับตั้งความตึงของสายพาน ให้สายพานหย่อน เพื่อที่จะทำให้พูลเลย์สายพานหลวม แล้วจะใส่ชุดพัดลมได้ง่ายขึ้น

หลัง จากที่ขันชุดพัดลมเข้ากับแกนปั๊มน้ำ จนแน่นแล้ว ค่อยมาจัดการปรับความตึงของสายพานไดชาร์ทใหม่ให้ตึง แล้วขันน๊อตล๊อคไดชาร์ท ให้แน่นทั้ง 2 ตำแหน่ง

Gigolo Broken Heart:
หลังจากประกอบชุดพัดลมฟรีปั๊มเข้าที่เดิมเสร็จเรียบร้อย

ก็ จัดการใส่หม้อน้ำเข้าที่เดิม ... ตอนใส่หม้อน้ำเข้าที่เดิม ดูที่ใต้หม้อน้ำด้วยจะมีแกน(เดือย) ที่อยู่ด้านล่างของหม้อน้ำ เสียบให้เข้าล๊อกกับคานใต้หม้อน้ำ ... จากนั้น ใส่แผ่นยึดหม้อน้ำกับคานด้านบนขันให้แน่น ... เสียบท่อน้ำทั้งด้านล่าง ด้านบน และรัดเข็มขัดรัดท่อน้ำให้เรียบร้อย ... อย่าลืม ใส่น๊อตถ่ายน้ำ ที่ถอดออกตอนถ่ายน้ำออกด้วนนะพี่น้องงงงง ... ไม่งั้นเติมน้ำเท่าไหร่ก็ไม่เต็มซะที

เสร็จแล้ว ผสมน้ำยาหม้อน้ำ กับ น้ำสะอาด (บางคนใช้น้ำดื่มผสม บางคนก้ใช้น้ำประปา ผสม) ... ใช้น้ำประมาณ 4-5 ลิตร ... แต่ผมใช้น้ำ แค่ 4 + น้ำยาอีก 1 ลิตร ...

เติม น้ำเข้าหม้อน้ำจนเต็ม โดยยังไม่ต้องปิดฝาหม้อน้ำ ... แล้วสตาร์ทเครื่องเดินเบาไว้ น้ำจะค่อยๆลดหายไป ค่อยๆเติมน้ำลงไปเรื่อยๆ จนเต็ม ... แล้วปิดฝาหม้อน้ำ ติดเครื่องเดินเบาไว้ให้ถึงอุณหภูมิทำงานตามปกติ

...Tips...

ขณะ ที่รอให้อุณหภูมิขึ้นตามปกติ หาขวดน้ำใสๆ ใส้น้ำยาที่เหลือไว้ แล้วเอาท่อยางที่ระบายน้ำไปถังพักน้ำ เสียบไว้ที่ขวดน้ำแทนก่อน ... หลังจากที่เข็มความร้อนขึ้นตามปกติแล้ว ดับเครื่องทิ้งไว้สักครู่ ... ถ้าน้ำในระบบยังขาดอยู่ หม้อน้ำจะดูดน้ำเข้าไปเอง ... อย่าลืม ระหว่างที่เครื่องยังเดินเบาอยู่ ก้มดูตามใต้ท้องรถ และ ในห้องเครื่อง เพื่อตรวจเช็คด้วยว่า มีน้ำรั่วหรือ หยดตามจุดข้อต่อต่างๆหรือไม่ ถ้ามีก็จัดการซะ ให้เรียบร้อย ... ถ้าหม้อน้ำไม่ดูดน้ำที่ใส่ไว้ในขวดแล้ว ก็เติมน้ำใส่ในกระป๋องพักน้ำให้ได้ระดับ แล้วปิดฝาถังพักให้เรียบร้อย ... และอย่าลืมดูระดับน้ำในหม้อน้ำ และถังพักบ่อยๆหน่อยแล้วกัน

Gigolo Broken Heart:
สรุปค่าใช้จ่าย

1. หม้อน้ำ ... ได้รับอนุเคราะห์ จาก น้าสุรต๊อก @ FUC ... FREE of charge ! ! !
2. เปลียนน๊อตถ่ายน้ำใหม่ 1 ตัว= 20 บาท
3. น้ำมันซิลิโคน เติมฟรีปั๊มของ TOYOTA เบอร์ 10000 1 หลอด = 120 บาท
4. น้ำยาเติมหม้อน้ำ 1 ลิตร = 350 บาท
5. ฝาหม้อน้ำ HONDA ขนาด 1.1 บาร์ 1 อัน = 120 บาท

6. ค่าแรง ผบ.สส. บอกว่า ... ไม่จ่าย :D :D :D

รวมแล้ว 600 กว่าบาท ... ทำเองได้ไม่ยากเลย แต่ต้องมีเวลาหน่อย

หมายเหตุ : เครดิตรูปภาพจาก"ร้อยทาง" http://www.100ways.in.th>

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ขอบคุณมากสำหรับคุณ TCT 261 และ คุณมานิต ที่ให้ความรู้ที่ดีและเป็นประโยชน์มาก ๆ ครับ

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ช่วงนี้รอโชค กับสปริง เลยนำรถไปติดอุปกรณ์เตือนความร้อน โดยมีเหตุผลคือ
1.เคยขับรถเก๋งเข้ากรุงเทพ ถึงกรุงเทพความร้อนขี้นเกือบสุด ตกใจอะไรหว่ารถเพิ่งซื้อมาใหม่ไม่ถึงปี รีบจอดรถดู ปรากฎที่ครีบหม้อน้ำ มีน้ำพุ่งออกมาขนาดเท่ารูเข็ม เชื่อว่าน่าจะเป็นเศษหินที่เราวิ่งตามรถบรรทุก กระเด็นใส่
2.ครั้งที่ 2 ขับรถกลับจากกรุงเทพขึ้นเหนือ เจอรถกะบะ ขี้เมานั่งเต็มหลังรถโยนขวดเบียร์ใส่ คิดว่าไม่เป็นไร ขับรถไปซักพักแอร์ไม่เย็น ถึงจังหวัดแพร่ เข้าร้านแอร์ อุแม่เจ้า ขวดเบียร์มันเสียบทะลุเข้าไปทิ่มแผงแอร์ และคาอยู่ (มันแม่นจริงๆ)
วันนี้เลยติดอุปกรณ์เตือนความร้อนซะ เดือดร้อนพี่ตี๋นิดหน่อย ในคู่มือให้ติดตัวจับความร้อนที่ท่อน้ำร้อน ไม่รู่ว่าท่อน้ำบันหรือท่อน้ำล่างแน่ที่ระบายน้ำร้อนออกจากเครื่อง พี่ตี๋บอกท่อที่ติดกับวาว์ลน้ำ (ขอบคุณครับ) เมื่อแกะท่อน้ำล่างออก ปรากฎว่าตัวท่อด้านล่างบวมแสดงว่าจะหมดอายุขัย เครื่องเตือนความร้อนนี่ดีจริงๆ ยังไม่ทันติดตั้ง มันเตือนซะแล้ว ตรวจเอกสารการเปลี่ยนท่อที่ศูนย์เมื่อ 4/8/2004 รวม 5 ปี ผมจเปิดฝากระโปรงรถทุกวันแต่ไม่เห็น เพราะว่ามันอยู่ข้างล่าง ท่อน้ำบนไม่เป็นไร ท่อน้ำล่างส่วนบนไม่เป็นไร ดับมาบวมตรงจุดล่างที่มองไม่ค่อยเห็น สมาชิกระมัดระวังหน่อยนะครับ นี่ขนาดผมมุดตรวจใต้ท้องรถ อาทิตย์ละครั้ง ยังมองไม่เห็น ตอนนี้ติดตั้งเสร็จแล้วมีความอุ่นใจขึ้นเยอะในการขับรถ
วันนี้เสร็จจากการติดตั้ง ก็มาหาวิธีทำให้เสียงกลอนประตูที่มันดังให้หาย เลยได้ความคิดเอาขวดน้ำพลาสติก (ที่ใสๆ)มาตัดให้ได้ขนาด 1 คูณ 1.5 ซม. (ความหนาของขวดน้ำประมาณ 22 ไมคอน) เสียบเข้าไปในช่องกลอนประตู เมื่อเสียบเข้าไปครึ่งซม.ใช้กาวตราช้างทาบางๆ กับพลาสติคที่เหลืออีกครึ่งเซนต์ที่ยังไม่ได้กดลงไป เมื่อทาเสร็จก็กดลงไปให้มิดของพลาสติกใส มันจะเสมอกับกรอบกลอนพอดี เมื่อกาวแห้งมันก็ยึดดึดกับขอบกลอนประตู เป็นเหมือนแผ่นซิมบางๆ มองไม่เห็นเพราะมันใส ที่จริงตัวกรอบกลอนประตูมันมีเงื่ยงโผล่ออกมา 4 มุม ให้กลอนไม่สั่นและดัง แต่เราใช้ไปนานๆ เงี่ยงมันสึก มันก็เลยสั่นได้และดัง เมื่อทำเสร็จลองเอารถออกไปวิ่งดู ผลปรากฎดังนี้
1.เสียงกลอนประตูเงียบกริบ (เออ ลืมบอกไปอย่าใช้พลาสติกหนา เพราะกลอนมันจะขึ้นลงไม่ได้)
2.เปลี่ยน ฟรีปั้มกับอ็อกซิเจนฯ รถเสียงเงียบมาก การเปลี่ยนเกียร์นิ่มขึ้น อัตราเร่งดีขึ้นจนสังเกตุได้ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือเสียงไฮโดรลิควาว์ล ในตอนเช้าที่สตาร์ทเครื่องมันจะดังประมาณ 2 นาที แต่เดี๋ยวนี้ไม่ดังเลย แต่...........เมื่อขับรถจะเข้าบ้านตอนเบาเครื่องไหงเครื่องมันดับหว่า พระเอกตายตอนจบเสียแล้ว ขับรถเข้าบ้านสตาร์ทจอดนิ่งๆในโหมดแกส เครื่องวูบวาบนิดหน่อย(รอบเครื่อง) ทุกอย่างที่ชาวบ้านเค้าเปลี่ยนเค้าทำก็ทำมาหมดแล้ว คงเหลือแค่การขับไปให้ช่างเค้าจูนใหม่ ใช่รึปล่าวครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       วันนี้ตัดสินใจสั่ง สายหัวเทียนของแท้ แทนของเดิม เฮอร์ริเคน สั่งอ๊อกซิเจนเซนเซอร์ของแท้ จะลองเปลี่ยนทั้ง 2 ว่าอาการรอบสะดุดและเบาดับของแกสมันจะหายหรือไม่ แล้วจะรายงานครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       เปลี่ยนอีกรอบแล้วครับ สายหัวเทียนกับอ๊อกซิเจนเซนต์เซอร์แท้ อาการวูบของแกสตอนเร่งเครื่องแรงและเบายังดับอยู่ครับ วันนี้เลยใช้เวลาทั้งวันถอดปีกผีเสื้อออกมาล้างทำความสะอาด (สกปรกจริงๆ) ประกอบเสร็จอาการยังเหมือนเดิมครับท่าน จำเลยน่าจะเหลืออย่างเดียวจูนแกสแน่ๆ อาทิตย์หน้าต้องเอาเข้าอู่ให้จูนใหม่แล้ว แกสผมเมื่อก่อนติดออโทนิคแล้วมีปัญหา รอบสวิงตอนเดินเบาเหมือนกันร้านเค้าเลยเปลี่ยนใหม่ให้เป็นโทมาเซตโต หม้อต้มเขียนติดว่า E8 หัวฉีดเป็นราง ใครพอมีความรู้เรื่องตัวนี้มั่งครับ ขอคำชี้แนะ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ใจเย็นๆๆค่อยๆๆดู โช้ค สปริง มาแล้ว ของอีนกแก่ ราคาพิเศษ ด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       น่าโกรธ บริษัทจริงๆ สั่งแล้ว มัดจำแล้ว ติดแล้ว เมื่อวานนี้เอง แพงกว่าตั้งเยอะ ลองวิ่งดู สุดยอด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       วันนี้มีเหตุการณ์ใหม่มาเล่าให้ฟังครับยาวหน่อยดังนี้
1.เมื่อก่อนเปิดไฟเลี้ยวเข็มวัดโวล์ทกระดิก
2.ติดหัวฉีดออโทนิค กล่องสมองพัง
3.คอยด์จุดระเบิดเปลี่ยนได้ 50000 กิโลเมตร พัง
4.ระบบไฟในรถรวน
5.ติดหัวฉีดอีกโทมาเซตโต้ รอบไม่นิ่งเป็นบางครั้ง
6.งงกับทุกเหตุการณ์
7.ติดเครื่องเตือนความร้อนและวัดโวล์ทมิเตอร์
8.ปรากฏสิ่งที่เห็นคือตัวเลขโวล์ทของเครื่องวัดสวิงไปมา 12.0 - 14.1 แต่เข็มวัดโวล์ทของรถไม่มีอาการ
9.ไปจูนแกสยังงัยก็ไม่หายรอบเดินเบาวูบวาบ
10.วันนี้ขับรถระยะทางไกล เครื่องวัดโวล์ทที่ติดส่งสัญญานเตือน ว่าการชาร์ตไฟสูงเกิน
11.พรุ่งนี้ต้องไปตรวจไดชาร์ตเสียแล้ว และน่าจะเป็นจำเลยคนเดียวของระบบรถทั้งหมด
12.เสร็จแล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       วันนี้ไปตรวจเชคไดชาร์ต ปกติ สิ่งที่พบคือขั้วแบตหลวม ช่างบอกว่าเมื่อขั้วแบตหลวมทำให้การชาร์ตไฟมีปัญหา เพราะว่าขั้วเดี๋ยวสัมผัสเดี๋ยวไม่สัมผัส

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       ตรวจเชคทุกอย่างยังมีปัญหารอบ วูบวาบ เป็นตอนเร่งเครื่องแรงๆแล้วถอนคันเร่งทันที (แกส) จะลองเปลี่ยนวาล์วควบคุมรอบเดินเบาอีกตัวว่าจะหายรึปล่าว ทั้งๆที่วาล์วตัวนี้เพิ่งเปลี่ยนมาได้ในระยะ 50,000 กม. ที่คิดว่ายังเป็นตัวนี้ เพราะคอยด์จุดระเบิดยังพังเลยทั้งๆที่เปลี่ยนมาในระยะ 50,000 กม.เหมือนกัน ผลประการใดจะแจ้งต่อไปครับ เหนื่อยจริงๆกระทู้นี้ไม่รู้เมื่อไหร่จะจบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       เอาใจช่วยครับ เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       "ยังมีปัญหารอบ วูบวาบ เป็นตอนเร่งเครื่องแรงๆแล้วถอนคันเร่งทันที (แก๊ส)"
1.ลองให้ช่างเช็คตัวดันสายพานไทมมิ่งว่าตายหรือไม่
2.ตั้งมาร์คสายพานไทมมิ่งไม่ตรงหรือเปล่าครับ
ขอข้อมูลเพิ่มอีกหน่อย วันนี้โทร.หาไม่ติดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       สายพานไทม์มิ่งเปลี่ยนเมื่อระยะ 90,000 กม.ที่ผ่านมาที่ศูนย์ ตอนนี้สั่งตัวควบคุมรอบเดินเบาแล้วครับ หากไม่ได้เรื่องอีก ต้องเข้าศูนย์อีกรอบ เปลี่ยนเชค ตามที่พี่ตี๋แนะนำ ขอบคุณพี่ทุกคนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       หายแล้วครับ มอเตอร์ควบคุมรอบเดินเบานี่เอง วิเคราะห์ แล้วสาเหตุทั้งหมด น่าจะมาจาก ตั้งแต่ติดตั้งแกสหัวฉีดยี่ห้อ ออ....ตอนแรกก็ดี ต่อมาวิ่งได้ซัก 20,000 กม. อาการที่สังเกตุมาตลอดคือ
1. มีวิ่งแล้วสะดุด เป็นบางครั้ง เอาไปจูน อาการปกติ
2. สะดุดอีก จูนอีก หายปกติ
3. ระบบไฟสังเกตุ ได้คือ ครั้งแรกไฟในเก๋งดับ ต่อมานาฬิกา พอดับเครื่องซัก ครึ่งชั่วโมง มันเซตค่าเป็น 1.00 น.
4. ไฟประตูดับ
5. ตอนนี้อาการของการใช้แกสเริ่มหนัก รอบเดินเบา วิ่ง หยุด สะดุดตลอด
6. เข้าร้านติดแกส ช่างบอก ออ.....เสีย
7.เปลี่ยนเป็น โทมา.... อาการทุกอย่างหายหมด แต่วิ่งได้ประมาณ 2,000 กม. คอยด์จุดระเบิด รอบเดินเบา เจ๊ง (คงรวนมาตั้งแต่ใช้ออ....)
8.วิเคราะห์แล้วน่าเชื่อว่า กล่องสมอง ออ....มันต้องไปรวนกับระบบอะไรในรถซักอย่าง ระบบไฟจึงเพี้ยน และทำให้คอยด์ วาวล์ควบคุมรอบเดินเบา พังตาม
9.ตอนนี้เปลี่ยนยี่ห้อโท... ใช้อีกซักระยะ ดูซิว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคนครับที่ช่วยให้และเสริมความรู้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       เมื่อวานมีท่านสมาชิคโทรมาถามเรื่องเสียงดังของกลอนประตูและยางแท่นเก๋ง ขอตอบดังนี้ครับ
1. เสียงดังของกลอนประตู ผมลองเปิดแผงประตูออก หลังจากยัดพลาสติคใสที่กลอนประตู แล้ว ปรากฎพบว่าที่ด้านในของประตูด้านบน ที่ติดกับกลอนประตู จะมีฟองนำชิ้นเล็กอยู่ 1 ชิ้น สีดำ ติดกาวแปะไว้กับตัวประตู ฟองนำตัวนี้ใช้ดันกลอนประตูไม่ให้มันแกว่ง หรื้อดิ้นได้เวลาเกิดแรงกระเทือนของตัวรถ ทำให้กลอนประตูสั่นกระทบเกิดเสียงน่ารำคาญ ฟองนำเป็นฟองนำแบบล้างรถ ลักษณะเปื่อยยุ่ยจนเป็นผง จัดการเปลี่ยนใหม่ซะ เสียงจะเงียบสนิท แต่ต้องระมัดระวังในการถอดแผงประตู เดี๋ยวกิ๊บล็อค หักหรือล้า เสียงกลอนประตูหายแต่จะมีเสียงแผงประตูมาแทน (กิ๊บล็อคมีขายทั่วไปเอาไปเทียบขนาดหากว่าหักหรือล้า)
1.ราคายางรองแท่นเก๋ง ทั้งหมดของศูนย์ 4,740 บาทครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย