จาก 7/11
อาทิตย์ที่ , 23/11/2551
เวลา : 08:24
อ่าน = 5292
58.64.55.24
|
เริ่มเข้าหน้าหนาวอากาศดีเย็นสบาย หลายๆท่านเริ่มมองหาสถานที่สำหรับกางเต้นท์แคมปิ้งกัน เห็นว่ามีหลายคนสนใจที่จะไปที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า จ.สระบุรี เพราะใกล้และเดินทางสะดวก พอดีผมเพิ่งไปพักที่นี่มาเป็นครั้งแรก จึงขอนำประสบการณ์อีกมุึมนึงมาเล่าให้ฟังครับ
ปกติที่ๆผมชอบไปพักแรมแบบกางเต้นท์จะอยู่ไกล,ลึกและเป็นธรรมชาติมาก พอดีช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้เด็กๆเรียกร้องอยากไปเที่ยวกางเต้นท์กันอีก อย่างกระทันหันผมก็เลยเลือกสถานที่ใกล้ง่ายและสะดวกอย่างหน่วยเจ็ดคตฯ เราจึงออกเดินทางไปตั้งแต่เย็นวันศุกร์เพื่อหลีกเลี่ยงวันหยุดที่จะมีคนไปกันเยอะมาก
วันนั้นไปถึงตอนหกโมงเย็น สภาพสถานที่ก็เป็นอย่างที่ทุกท่านทราบครับ เรียบร้อย,สะอาด,สะดวกสบาย มีคนกางเต้นท์อยู่ก่อนเพียง 3-4 กลุ่ม จึงเลือกสถานที่ได้ตามสบาย ผมก็เลยเลือกบริเวณกางเต้นท์ริมอ่างเก็บน้ำใกล้ที่จอดรถ เงียบสงบ มีไฟแสงสว่าง ลานหญ้ากว้างๆ ลมพัดเบาๆตลอดเวลา แถมตอนเดินไปดูทำเล มีกระต่ายกระโดดไปมาออกมาต้อนรับด้วย เด็กๆตื่นเต้นกัีนมาก
มืดแล้ว พอกางเต้นท์เสร็จก็กินข้าว เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเรื่อยๆทีละ 1-2 กลุ่ม ผมดีใจว่ามีคนคิดเหมือนเราเหมือนกันที่เลือกมาเย็นวันศุกร์เพื่อเลี่ยงความแออัดในวันหยุด มีบางกลุ่มที่มากันหลายคันเพื่อสังสรรค์กินเหล้าร้องเพลงก็แยกไปอยู่ไกลสุด บางกลุ่มมาเป็นกลุ่มเพื่อนฝูงครอบครัวใหญ่เป็นรถตู้ก็ดูเหมือนมีความเกรงใจผู้อื่น แยกออกไปกางเต้นท์ในส่วนที่ห่างออกไป พอสองทุ่มทางสำนักงานก็ประกาศผ่านลำโพงถึงกฏระเบียบการใช้สถานที่ ข้อห้ามต่างๆห้ามทำอาหารห้ามส่งเสียงดังหลังสามทุ่มเพื่อรักษาบรรยากาศธรรมชาติ ผมก็รู้สึกดีต่อการให้ความสำคัญต่อการเข้ามาพักผ่อนอย่างใกล้ชิดธรรมชาติ
พอสามทุ่มผ่านไป มีเสียงประกาศอีกครั้ง แต่ก็ยังมีเสียงดีดกีต้าร์ร้องเพลงกันเหมือนเดิม เสียงพูดคุยโทรศัพท์ เสียงรถวิ่งเข้าวิ่งออก เสียงคนตั้งวงกินอาหารกินเหล้าพูดคุยกันต่อไป จนกระทั่งถึงเที่ยงคืนทุกอย่างก็ยังเป็นเหมือนเดิม สำหรับกลุ่มผมโชคดีที่เด็กๆนอนหลับได้ยกเว้นผู้ใหญ่ที่ตื่นเพราะเสียงดัง คนที่กินเหล้าเริ่มเสียงดังขึ้นเพราะความเมา ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลความเรียบร้อยใดๆเลย ผมเชื่อว่าคนอื่นที่ต้องการมาพักผ่อนที่ต้องการความเงียบสงบก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ไม่สามารถออกไปตักเตือนเองได้ เพราะที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ๆก็ทำแบบนี้กันอยู่ทั้งหมดทุกกลุ่ม ผมเองก็นอนไม่หลับ นอนฟังเสียงไปคิดไปคิดมาว่าเราเลือกสถานที่ผิดเอง หรือเราไม่เข้าใจไม่สามารถทำตัวกลมกลืนยอมรับกับพฤติกรรมคนส่วนมากที่ต้องการมาที่นี่ได้ จนกระทั่งตีหนึ่ง อาหารเริ่มหมด เหล้าเริ่มหมด คนที่กำลังพูดคุยส่งเสียงดังเริ่มหมดแรง เสียงเริ่มเงียบลงไปทีละคนทีละกลุ่ม ผมคิดว่าคงจะได้พักผ่อนกันเสียที (แต่ปรากฏว่ายังมีเสียงเพลงกีต้าร์ดังเป็นระยะๆจนถึงตีสี่)
พอประมาณตีสอง ลมจากอ่างเก็บน้ำที่ััพัดมาเบาๆเมื่อตอนหัวค่ำจนถึงเที่ยงคืนเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมนึกกลับไปถึงที่เคยมีคนที่เคยมาที่นี่มาก่อนเล่าไว้และ คำพูดของแม่ค้าตอนที่ซื้ออาหารว่าที่นี่ลมพัดแรงพอสมควรแต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าเป็นเฉพาะบางฤดูและตอนแรกก็ไม่เห็นมีอะไรลมพัดเือื่อยๆเย็นสบายดี ปรากฏว่าพอหลังเที่ยงคืนแล้วลมที่นี่พัดมาเป็นช่วงๆลูกละประมาณ 1-2 นาทีแรงขึ้นๆเรื่อยจนเต้นท์เอียงลู่ไปมาอย่างแรง จนกระทั่งประมาณตีสามเต็นท์ก็ผมก็ยกลอยขึ้นเพราะชายเต็นท์ด้านหนึ่งที่ตอกสมอบกไว้ขาด สมอบกด้านอื่นงอพับทุกด้าน ผมจึงต้องปลุกทุกคนในเต็นท์ให้ตื่นเพื่อช่วยกันย้ายเต็นท์ไปหลบลมในมุมอื่นหลังต้นไม้ใหญ่ ลมที่นี่มาแรงมากเป็นลูกๆเสียงเหมือนรถยนต์วิ่งผ่านด้วยความเร็ว ยิ่งดึกยิ่งแรงและเสียงดังขึ้นเรื่อยๆกลายเป็นเหมือนเสียงรถบรรทุกคันใหญ่ๆวิ่งผ่านอย่างเร็วๆ คงเป็นลักษณะของลมจากเทือกเขาป่าเขาใหญ่ที่พัดผ่านที่โล่งกว้างอย่างอ่างเก็บน้ำ
ผมหลับไปด้วยความอ่อนเพลียประมาณเกือบตีสี่แต่ก็ยังหลับๆตื่นๆตามเสียงและความแรงของลม จนกระทั่งสว่างคนกลุ่มอื่นๆเริ่มออกมาจากเต็นท์แล้วก็พูดคุยกันส่งเสียงดัง ผมก็เลยหลับต่อไปไม่ได้อีกแต่ก็ไม่ได้ลุกออกมาจากเต็นท์ยังนอนต่อไปเพราะความอ่อนเพลีย และลมยังพัดอยู่แรงมากไม่รู้จะออกมาันั่งตากลมทำไม ต่อไปได้ประมาณสักเจ็ดโมงเช้าลมก็ัััพัดแรงมากจนเสาโครงเต้นท์หักเต้นท์ล่มพับลงมา ผมก็รีบลุึกออกมารีบเก็บของปรึกษากันว่าโปรแกรมเที่ยวต่อไปที่วางไว้คงไม่สามารถไปต่อได้แล้วเพราะผมเพลียและง่วงมาก โชคดีที่อยู่ไม่ไกลจากกทม.มากก็เลยตัดสินใจเดินทางกลับ
เลยมาเล่าประสบการณ์อีกด้านหนึ่งของการไปแคมปิ้งกางเต็นท์ที่สถานที่ยอดนิยมสะดวกสบายอย่างเจ็ดคตให้ฟังกันครับ ปกติผมก็ชอบจะไปนอนกางเต็นท์อยู่แล้วแต่มักจะเลือกสถานที่ๆเงียบสงบเป็นธรรมชาติที่ห่างไกลมี คนไม่มากซึ่งก็มักจะเป็นสถานที่ที่ลึกๆใช้เวลาเดินทางมากเส้นทางยากลำบากและเป็นเส้นทางออฟโรดส่วนใหญ่แม้จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย อีกด้านหนึ่งก็คงเป็นที่ๆกลั่นกรองให้เฉพาะคนที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะที่ๆผ่านมาก็มีความสุึขสนุกดียังไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ และครั้งต่อๆไปก็คงกลับไปเป็นแคมปิ่งแบบออฟโรดเหมือนเดิมแล้วละครับ
|