คำตอบที่ 1
       พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯช่วงเย็นๆของวันที่ 30 ธันวาคม ’51 โดยจุดหมายแรกของเราคือ “ อช.ขุนสถาน ” ..ครั้งนี้ผมตัดสินใจใช้เส้นทางวงแหวน วิ่งไปสุพรรณบุรี เพื่อหนีปัญหาการจราจรบนเส้นวิภาวดีฯ จากนั้นวิ่งเข้าชัยนาท นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพ่ร ผ่าน อ.ร้องกวาง ถึงบ้านห้วยแก๊ตแล้วเลี้ยวขวา ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1216 ไปอีกประมาณ 25 กิโลเมตรก็จะถึง อช.ขุนสถาน ..ซึ่งเรามาถึงในช่วงเช้ามืดของวันที่ 31 ธันวามคม ( ที่มาช้าไม่ใช่เพราะรถติดนะครับ..ก็สาวๆเล่นแวะกินหนมแทบจะทุกเมืองที่ผ่านเลย ) ..แต่พวกเราก็ยังไม่สามารถขึ้นไปบนลานกางเต้นท์ได้ทันที เนื่องจากทางขึ้นที่เหลืออีกเพียง 300 เมตร นั้นชันและลื่นมากๆ พี่ๆเจ้าหน้าที่แนะนำให้จอดรถทิ้งไว้ข้างล่างแล้วค่อยกลับมาเอาในช่วงสายๆ เพื่อรอให้แดดส่องพื้นถนนให้แห้งซะก่อน..หันไปหันมาก็มีเพื่อนๆที่ขึ้นไปไม่ไหวจอดอยู่เป็นเพื่อนกันอีกนับสิบคัน

คำตอบที่ 2
       ผมชวนชัยขึ้นไปหาที่กางเต้นท์โดยปล่อยให้ 2 สาวนอนเฝ้ารถไปก่อนเพราะดูท่าแล้วลากยังไงก็คงไม่ตื่น..แต่พอขึ้นไปก็ต้องตะลึง..เพราะลมแรงมากครับ หนาวแบบไม่ทันได้ตั้งตัวกันเลย..แถมที่กางเต้นท์..เต็มอีกตะหาก !!! คงจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ารอให้คนอื่นเค้าย้ายออกแล้วหล่ะ..ก็เลยนั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นไปก่อนดีกว่า..เช้านี้หมอกมีไม่มาก เนื่องจากลมพัดกระจายไปซะส่วนใหญ่..แต่ก็มีให้พอได้ชื่นใจกับการที่ขับรถมาทั้งคืนนะครับ

คำตอบที่ 3
       สายแล้ว..ลมก็ยังพัดพาเอาไอหมอกขึ้นมาตามแนวผาอย่างต่อเนื่อง..

คำตอบที่ 4
       นักท่องเที่ยวเริ่มเก็บเต้นท์ย้ายที่พักแรมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเรามีโอกาสหาทำเลดีๆที่จะเซ้งต่อที่กางเต้นท์ของชาวบ้านเค้าได้แล้วหล่ะ..ตอนแรกผมว่าจะยึดทำเลสวยหน้าจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย..แต่ดูจากลมเมื่อเช้าแล้ว หนีไปกางด้านหลังที่เป็นจุดพระอาทิตย์ตกดีกว่าครับ..จะมีเนินดินบังลมให้ซึ่งน่าจะดีกว่า..

คำตอบที่ 5
       วิวจากลานจอดรถด้านบนสุดของ อช.ขุนสถาน ...ถ้ามีทะเลหมอกเป็น back ground คงจะสวยน่าดู...

คำตอบที่ 6
       บ่ายโมงกว่าๆ..พวกเราออกมาเยี่ยมหน่วยจัดการต้นน้ำขุนสถาน..ห่างจากตัวอุทยานไปแค่ 2-3 กิโลเมตร.. ที่นี่มีต้นซากุระ...ถึงจะไม่มากมายเท่าขุนแม่ยะ แต่ก็ช่วยให้วันนั้นมีเรื่องดีๆเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องในทริปของพวกเรา...

คำตอบที่ 7
       .....

คำตอบที่ 8
       ที่หน่วยจัดการต้นน้ำขุนสถาน.มีที่สำหรับกางเต้นท์ด้วยนะครับแต่นักท่องเที่ยวที่มาพักค่อนข้างจะเน้นไปทางฉิ่งฉับ..และใช้เครื่องเสียงทำลายความสงบได้ดีเลยทีเดียว..

คำตอบที่ 9
       ชมพูกันทั้งต้นเลยครับ...

คำตอบที่ 10
       อีกรูป..

คำตอบที่ 11
       ใกล้อีกนิดนะครับ..

คำตอบที่ 12
       เก็บรูปหมู่กันซะหน่อย...ดูนาฬิกาเกือบ 4 โมงแล้ว คงต้องรีบกลับเพราะพี่เจ้าหน้าที่เตือนไว้ว่า ถ้าจะขึ้นกลับมาที่จุดกางเต้นท์ต้องกลับมาก่อน 4 โมงเย็น..ไม่อย่างงั้นทางขึ้นจะแฉะอีกครั้งเนื่องจากไอน้ำที่ดินคายออกมาแล้วจะทำให้ถนนลื่นจนขับรถขึ้นไปข้างบนไม่ได้..ต้องเดินขึ้นไปหรือใช้รถ 4WD เท่านั้น...แต่หลังปีใหม่ทางอุทยานจะเทคอนกรีตในส่วนทางที่ชันประมาณ 300 เมตร ก็น่าจะทำให้ปัญหานี้หมดไปนะครับ

คำตอบที่ 13
       บรรยากาศยามเย็นหน้าเต้นท์พวกเรา..ด้านทิศตะวันตกครับ..เย็นนั้นพวกเราทำอาหารกินกันแบบง่ายๆ..ไม่ได้หุงข้าวแบบเช็ดน้ำซะนานดีนะที่ไม่ไหม้..555 ที่นี่ดาวเยอะและชัดมากๆครับ..ใครที่ชอบดูดาวคงจะชอบ..แต่ลมก็แรงมากๆ..อุณหภูมิแค่ 14 องศา แต่ไอ้เจ้าลมนี่ซิ..เล่นซะหนาวสะใจกันไปเลย..ชัยบอกอย่างงี้มันไม่ใช่ขุนสถานแล้วว่ะ..มันเป็น “ขุนสะท้าน” ..สี่ทุ่มกว่าผมก็มุดเข้าเต้นท์เพราะทนแรงลมไม่ไหว ประกอบกับขับรถมาทั้งคืนแล้วยังตะลอนต่ออีกทั้งวันยังไม่ได้นอนเลย..จึงทำให้การหลับเพื่อหนีเสียงดังโวยวายจากเพื่อนๆผู้รักธรรมชาติ แต่ดันไม่รักความสงบ เป็นไปได้โดยง่าย..คืนนั้นผมเลยนอนข้ามปีไปเลย..ได้ยินเสียงร้องเพลง เสียงเคาท์ดาวน์และเสียงเจ้าหน้าที่ขอให้ลดการใช้เสียง..แว่วๆมาในฝัน สลับกับเสียงพลึบพลับๆ..ของเต้นท์ที่ถูกลมพัดพะเยิบพะยาบเป็นระยะๆ..ไอ้พวกข้างนอกมันยังทนแหกปากร้องเพลงอยู่ได้ยังไงกันฟะ..หนาวจะตายชัก ?!! ..ผมละเมอเอาเองในฝัน..

คำตอบที่ 14
       เช้าวันแรกของปี’52...ผมตื่นมาดูแสงแรกแห่งปีแล้วก็เป็นไปอย่างที่คิด..ไม่มีทะเลหมอกครับ..เพราะลมพัดกระจุยกระจายทั้งคืนซะขนาดนั้น..เลยไปจุดเตาทำอาหารดีกว่า กาแฟอุ่นๆ กับขนมปังและไส้กรอกร้อนๆ ช่วยให้เพิ่มความสุขกับการอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นได้อย่างน่าประหลาด..เรารอจนสายๆให้คนทะยอยลงไปก่อนแล้วค่อยไปถ่ายรูปกันบริเวณรอบๆอุทยานฯ..รูปแรกก็ขอป้ายก่อนเลยละกันนะ.. อ้อ..ผมลืมไป..สวัสดีปีใหม่ครับ..

คำตอบที่ 15
       สองสาวกับจุดชมวิว..ทิศตะวันออก..ครับ..ตะวัน..น่ะ..มันออกไปนานแล้ว..นี่มันจวนจะ 10 โมงแล้ว..ยังโอ้เอ้อยู่แถวนี้อีก..ไม่ได้ฤกษ์เดินทางกันซักที..

คำตอบที่ 16
       บนเนินด้านหลังเป็นบ้านพักของอุทยานมีด้วยกัน 3-4 หลัง.. ถ้าสนใจก็ติดต่อจอง ที่พักของ อช.ขุนสถานได้ที่เบอร์โทร. 054-701-121 , 054-731-585 , 054-731-688 และ 087-173-9549 นะครับ

คำตอบที่ 17
       สาวๆกับวิวทางทิศเหนือ...ขุนสถานเป็นยอดเขาที่สูงเด่นกว่าใครๆในบริเวณนี้ ทำให้สามารถชมวิวได้กว้างไกลและรอบตัว เรียกว่ากวาดได้ทั่วทั้ง 360 องศา...เห็นทิวเขามากมายสลับซับซ้อนออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา..บนเนินเขาด้านล่างส่วนใหญ่จะเป็นไร่กระหล่ำปลีและแปลงข้าวโพดของชาวบ้าน...ในอดีตที่นี่คงเป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์เป็นอย่างมาก..คิดๆแล้วก็น่าเสียดายนะครับที่ต้องมากลายเป็นเนินเขาโกร๋นๆ

คำตอบที่ 18
       สบายๆครับ..เดินชมวิวกันเรื่อยเปื่อย...

คำตอบที่ 19
       เกือบ 11 โมงแล้วครับ..แต่อากาศก็ยังเย็นเอาเรื่องอยู่โดยเฉพาะลมที่พัดเพิ่มความหนาวให้พวกเราได้สะดุ้งเล่นกันเป็นช่วงๆ..พอดีเดินมาเจออานิสงของเพื่อนชาวแคมป์เค้าทิ้งไว้ให้..ก็เลยขอไออุ่นกันซะหน่อย

คำตอบที่ 20
       อีกซักรูป..แต่เปลี่ยนไปดูวิวอีกด้านละกันเนอะ..รูปนี้ยิ้มวัดใจนะครับ กล้องก็ตั้งเวลาเอาไว้สัญญาณไฟกระพริบถี่ๆใกล้จะถ่ายแล้ว..ไอ้เจ้าลมดันพัดขี้เฒ่าฟุ้งขึ้นมาเพียบ..เอาไงกันดีหว่า..เก๊กท่าถ่ายต่อไปรึว่าวิ่งหนีออกมาก่อนดี..และแล้วมติก็เป็นเอกฉันท์โดยไม่ต้องยกมือโหวต..

คำตอบที่ 21
       ลานจอดรถด้านบนสุด..วันนี้ฟ้าสวยครับ..เสียดายผมไม่มี C-PL ไม่งั้นคงได้ฟ้าที่เข้มกว่านี้แน่..

คำตอบที่ 22
       เดินสูงขึ้นมาอีกนิด..

คำตอบที่ 23
       สองสาวนั่งชมวิวกันอ้อยอิ่งก่อนจะออกเดินทางกันต่อ.. ไปดอยเสมอดาว

คำตอบที่ 24
       คนหายหมดแล้ว..เก็บภาพเนินบ้านพักกับลาน ฮ. มาฝากกันอีกภาพครับ..ฟ้าเป็นฟ้าจริงๆ

คำตอบที่ 25
       พวกผมยังคงใช้เส้นทางหลวงสาย 1216 ผ่าน อ.นาน้อย แล้วตรงไปยัง อช.ศรีน่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ ดอยเสมอดาว ” ..ความจริงตามแผนแล้วจะต้องไปกินมื้อกลางวันกันที่ บ้านปากนาย..เป็นหมู่บ้านประมงน้ำจืด ติดเขื่อนสิริกิตต์ น่าจะมีเมนูปลาอร่อยๆให้ได้ชิมกัน..แต่ต้องแยกขวาเข้าไปจากตัว อ.นาน้อยอีกประมาณ 44 กิโลเมตร ซึ่งพวกเรา ใช้เวลากันบนขุนสถานมากไปหน่อย ทำให้มีเวลาไม่พอ..แต่ก็ไม่เป็นไรครับ สบายๆดีกว่าเพราะถ้าต้องรีบร้อนแบบทัวร์ยุโรปชนิด 3 วัน 7 ประเทศก็คงไม่เรียกว่ามาพักผ่อนกันแล้วหล่ะครับ..

ก่อนถึงดอยเสมอดาวมีทางแยกเข้าไปทางขวามือ...ก็จะพบกับ “ เสาดินนาน้อย ” เห็นว่าเป็นทางผ่านก็เลยแวะเข้าไปดูซะหน่อย..ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ มีอะไรกันหว่า..ยังกับมาเที่ยวบ่อลูกรังเก่า

คำตอบที่ 26
       แต่พอแดดออกเท่านั้นหล่ะครับ..มันก็มีสีสันและความสวยงามของแสงและเงาขึ้นมาทันที..

คำตอบที่ 27
       เค้าบอกว่า..ไอ้แผ่นๆด้านบนสุดเป็นระดับพื้นดินเดิม..แล้วชั้นดินชั้นหินรอบๆเกิดการทรุดตัวเพราะถูกชะล้างด้วยน้ำฝน หรือกัดเซาะด้วยลม..นานวันเข้าก็กลายเป็นเสาดินอย่างที่เห็นครับ...

อื่ม..มมม ..น่าสนใจดีครับ..แต่แถวบ้านผมเค้าเอาแบ็คโฮล์ดจ้วงเอา ..ไม่ต้องรอนานหลายๆปีด้วย..555 ( ล้อเล่นนะครับ.... “ คุณค่ากับมูลค่ามันเป็นคนละเรื่องกัน ”.. ครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงบอกผมเอาไว้...อย่างงั้น !!! )

คำตอบที่ 28
       เก็บรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย..ถ้ามีแดดแล้วมันก็ดูสวยแปลกตาดีครับ

คำตอบที่ 29
       รูปนี้ลงให้เจ๊เสื้อชมพูโดยเฉพาะเลยนะครับ..ท่าเจ๊แกเหลือกินเลย..ไม่รู้ว่าเจ๊แกเล่น web นี้ด้วยรึป่าว..ยังไงก็ขอถือวิสาสะ Post ไปก่อนละกันครับ.. หุหุหุ

คำตอบที่ 30
       กว่าจะไปถึงดอยเสมอดาว..ก็เป็นช่วงเย็นพอสมควร ปรากฎว่ารถติดครับ..รถติดบนดอย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าพื้นที่บนนั้นเหลือน้อยมากจนปล่อยรถขึ้นไปเพื่อขนของได้เพียง 5-6 คันเท่านั้น..แล้วต้องนำรถลงมาจอดที่ลานข้างล่าง..ผมเลยส่งชัยกับสองสาวรีบหิ้วเต้นท์ขึ้นไปหาทำเลเอาไว้ก่อนแล้วค่อยเอารถขึ้นไปส่งของที่เหลือให้ภายหลัง...พอดีหันมาดู “ พี่สีหมอก ”..รถคู่ใจผมจอดอยู่โดยมีทิวเขาเป็นฉากหลัง..สวยดีเลยขอซะรูปนะครับ

คำตอบที่ 31
       อีกเกือบครึ่งชั่วโมง..รถผมก็ได้คิวขึ้นไปข้างบนจนได้ แต่ที่กางเต็มหมดแล้ว..ชัย อุ๋ม และนุ้ย ยังอุ้มเต้นท์กันเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย..เวรกรรมหล่ะงานนี้จะนอนที่ไหนกันดีหว่า ?!!..มันเต็มจริงๆครับ พื้นเอียงๆยังกางกันเลย...และแล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เราเข้าไปกางเต้นท์ในศาลาทิศตะวันตก..เป็นมุมหลบผู้คนผ่านเนินเล็กๆมีศาลาตรงสุดทางเดิน..ต้องถือว่าเราโชคดีมากครับ..ที่เจ้าหน้าที่อนุญาติให้กางในศาลาได้.. ศาลาทรงกลมมีระเบียงยื่นไปนอกศาลาเหนือหน้าผาเล็กๆ..พวกเรากางเต้นท์ 2 หลังก็เต็มศาลาพอดี..ระเบียงชมวิวเลยกลายเป็นเหมือนเทอเรสส่วนตัวไปโดยปริยาย...เราอาศัยพื้นที่ระเบียงเป็นที่ทำและทานอาหารเย็นในวันนั้น...แล้วอยู่ๆพระอาทิตย์ที่หลบอยู่ในเมฆมาตลอดช่วงเย็นก็โผล่ออกมา...เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาชม..แต่ก็ได้เห็นวิวสวยๆแบบไม่ได้ตั้งใจครับ

คำตอบที่ 32
       อีกซักพักแสงอาทิตย์ก็ส่องมากระทบแนวสันเนินและทุ่งข้าวโพดสวยมากครับ..ผมหยุดมือจากการทำอาหารแล้วคว้ากล้องมาถ่ายแทบไม่ทัน...แต่ตอนนี้พวกเรากำลังเจอแรงกดดันทางสายตาอย่าหนัก..จากศาลาที่ไม่มีใครสนใจ..คราวนี้มีแต่คนเดินถือกล้องมาถ่ายรูปแต่เข้าไม่ได้เพราะมีไอ้บ้า 4 ตัว ดันเอาเต้นท์มากางยึดหัวหาดไปซะแล้ว..วันนั้นเรามีความสุขกับการชมพระอาทิตย์ตก กินอาหารอร่อยๆจากฝีมือเราเอง แล้วพอมืดก็ได้ชมดาวเต็มท้องฟ้า และหากมองไปทางขวามือด้านล่างก็จะได้เห็นแสงไฟจากตัว อ.นาน้อย ให้ได้ชมกัน...แต่ถ้าจะไปห้องน้ำรึไปล้างจานพวกเราต้องรีบเดินก้มหน้างุดๆ อย่างอายๆและรู้สึกผิดที่ทำตัวเหมือนคนเอาเปรียบสังคม..พี่เจ้าหน้าที่คนที่ให้เราเอาเต้นท์เข้ามากางในศาลาไปอยู่ที่ไหนหว่า..มาช่วยหน่อยเร๊ว..ววว ?!!

คำตอบที่ 33
       เช้าวันใหม่..ลมพัดหมอกกระเจิงไปหมด เป็นอีกวันที่พวกเราอดเห็นทะเลหมอก..ที่จริงผมเองค่อนข้างหวังเอาไว้กับทะเลหมอกที่นี่ค่อนข้างมากเพราะมีแม่น้ำน่านซึ่งให้ความชื้นอย่างพอเพียง..คิดว่ายังไงก็ได้เห็น..ไม่นึกว่าลมที่นี่จะจัด เมื่อเป็นอย่างงี้ก็ไม่ต้องรีบ..พวกเรากลับไปทำอาหารเช้ากินกันแล้วค่อยกลับขึ้นไปถ่ายรูป..เพราะไม่มีทะเลหมอกจะเช้ารึสายก็แทบไม่ต่างกัน..เฮ้อ..เศร้า..คราวหน้ามาใหม่..เอากลางหน้าฝนเลย..ให้มันรู้กันไป

คำตอบที่ 34
       อุณหภูมิวันนี้ครับ..แค่ 15 องศา สบายๆเพราะที่นี่ถึงมีลมก็ไม่ดุและรุนแรงเหมือนขุนสถาน

คำตอบที่ 35
       ภาพลำน้ำน่าน..ที่ไหลลัดเลาะไปตามหุบเขา ภายในพื้นที่ อช.ศรีน่าน จากจุดชมวิวดอยเสมอดาว..

คำตอบที่ 36
       ข้างหลังเป็น..ผาหัวสิงห์ สามารถเดินขึ้นไปชมวิวจากด้านบนได้ครับ..

คำตอบที่ 37
       เก็บรูปกับลำน้ำน่านซักรูป..

คำตอบที่ 38
       แล้วก็เก็บป้ายไว้เป็นที่ระลึก..ก่อนเดินทางขึ้นเชียงรายไปภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง

คำตอบที่ 39
       ระหว่างการเดินทาง...ก่อนจะถึงตัวเมืองน่านเราผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง ส่วนมากนิยมปลูกบ้านด้วยไม้..แต่ต้องมาสะดุดลงที่บ้านหลังนี้ครับ

คำตอบที่ 40
       เห็นเสาบ้านแล้วตกใจ..ต้องรีบย่องเข้าไปถ่ายเก็บเอาไว้เลยครับ..สมัยก่อนไม้ขนาดนี้คงหาได้ทั่วไป ในยุคนั้นคงไม่มีใครมาคิดมั้งครับว่าในวันนี้ลูกหลานจะต้องมาช่วยกันปลูกป่า...

คำตอบที่ 41
       แวะทานอาหารกลางวันที่ตัวเมืองน่าน..แล้วเยี่ยมพิพิธภัณท์จังหวัด..แต่เค้าห้ามถ่ายรูป งั้นถ่ายมันด้านหน้าก็ได้..แนวต้นไม้สวยดี..เอาซักรูปละกันเนอะ..

คำตอบที่ 42
       จากนั้นข้ามถนนมาที่ “ วัดภูมินทร์ ” ..หนึ่งใน Unseen in Thailand ...

คำตอบที่ 43
       วัดนี้มีความเด่นตรงที่ด้านในของโบสถ์มีเสาหลักขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางพระอุโบสถ และมีองค์พระประทานขนาดใหญ่นั่งล้อมรอบเสาทั้ง 4 ทิศ จึงมีพระประทานถึง 4 องค์ด้วยกัน ส่วนผนังด้านในมีภาพวาดโบราณวาดไว้โดยรอบ..ดูแล้วอายุน่าจะหลายร้อยปีนะครับ

คำตอบที่ 44
       เส้นทางจากตัวเมืองน่าน ท่าวังผา สองแคว เชียงคำ ภูซาง แล้วก็จะเป็นภูชี้ฟ้า..เป็นเส้นทางที่แคบ คดเคี้ยวและลัดเลาะไปตามไหล่เขา..ยากกว่าที่คิดครับ..ผมว่ายากกว่าแม่ฮ่องสอนซะด้วยซ้ำ ..เกือบ 2 ทุ่มแล้วเราพึ่งมาถึง อ.เชียงคำ ...คืนนี้เลยตัดสินใจหาที่พักที่เชียงคำดีกว่า แล้วค่อยออกเดินทางตอนเช้ามืดกันต่อ..ซึ่งก็เป็นโอกาสให้พวกเราได้ชาร์ทแบตมือถือและแบตกล้องถ่ายรูปกันให้เต็มที่..แผนที่ข้างล่างเป็นเส้นทางจากเชียงคำไปภูชี้ฟ้า จริงๆแล้วมีจุดที่น่าแวะอีกที่คือ อช.น้ำตกภูซาง เป็น Unseen ด้วยนะครับ..เพราะเป็นน้ำตกอุ่นที่เดียวในประเทศไทย..แต่เวลาพวกเราไม่อำนวยครับ..ผ่านประมาณตี 4 ไม่รู้จะลงไปดูอะไรครับ..

คำตอบที่ 45
       เช้ามืดของวันใหม่พวกเราตื่นตั้งแต่ตีสาม ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็แวะร้าน 7-11 ตุนเสบียงมื้อเช้าแล้วก็ออกเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงตีนภูชี้ฟ้าก็ราวๆตี 5 ..เริ่มมีรถรับส่งนักท่องเที่ยววิ่งกันขวักไขว่..เจ้าหน้าที่โบกให้ผมจอดรถไว้ข้างล่างและให้ใช้บริการรถสองแถวในพื้นที่ ขึ้นไปข้างบนเสียค่าบริการคนละ 20 บาท..จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีกนิดหน่อยก็ไปถึงยอดภู..แต่ก็เล่นเอาเหงื่อซึมๆเลยนะครับ บนนั้นมีลมอ่อนๆแต่ไม่หนาวเท่าไหร่อาจเป็นเพราะจำนวนคนที่หนาแน่น..ถ้านึกไม่ออกว่าแน่นแค่ไหนก็ลองนึกถึงฝูงนกเพนกวินเวลามันยืนอยู่ด้วยกันแน่นๆเป็นฝูงๆตามขั้วโลกเหนือซิครับ..อารมณ์นั้นเลย..หลังจากรอมานานแสงแรกก็ตกกระทบบนพื้นผิวทะเลหมอก..ได้เห็นทะเลหมอกเต็มๆตาซะที..วันนี้ไม่แห้วแล้วครับ

คำตอบที่ 46
       อีกซักรูป..

คำตอบที่ 47
       สงบและสวยงาม..คุ้มค่าที่ได้มาครับ

คำตอบที่ 48
       ลองดูบรรยากาศบนยอดภูชี้ฟ้านะครับ..เหมือนจะมีตลาดนัดกันเลย..คนแน่นมากๆ แต่ก็อุ่นดีครับ..เป็นฝูงนกเพนกวินที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว..555

คำตอบที่ 49
       คราวนี้ดูคนที่ขึ้นมาไม่ได้มั่งนะครับ..เป็นแถวยาวลงไปถึงข้างล่างเลย..คนเยอะมากๆ (โชคดีที่ขึ้นมาแต่เช้ามืด )

คำตอบที่ 50
       และแล้วก็ถึงเวลาที่พวกสาวๆเค้ารอกันมานาน..ถ่ายรูป..จ้า..ถ่ายรูป...

คำตอบที่ 51
       สามทหารเสือ..

คำตอบที่ 52
       รูปคู่ซะหน่อยละกัน...

คำตอบที่ 53
       เค้าบอกว่าภูชี้ฟ้า..ต้องทำท่าแบบนี้ !!!

คำตอบที่ 54
       อีกหนึ่งมุมนิยมครับ..

คำตอบที่ 55
       อีกรูป..

คำตอบที่ 56
       แล้วก็อีกรูป..

คำตอบที่ 57
       ขาลงเดินๆอยู่เจอพี่คนนี้เข้าครับ...เท่ห์มากๆ พี่แกยืนอยู่บนชะง่อนผา เด่นเป็นสง่าเหมือนแพะภูเขาหนุ่มกำลังเก๊กท่าอวดสาวๆ..อะไรประมาณนั้น..แล้วก็เล่นเพลงพื้นเมืองของแกโชว์นักท่องเที่ยว..ไม่รู้ว่าไอ้ที่แกเป่าๆอยู่มันเรียกว่าอะไรแต่ผมเรียกของผมเองว่า.. “ แคนดอย ” ละกัน..

คำตอบที่ 58
       พี่แกมีกระปุกให้หยอดตังค์ด้วย..ผมเลยสมทบทุนสนับสนุนศิลปินชาวเขาไปยี่สิบ..เท่านั้นหล่ะครับ..สาวอุ๋มก็รีบปีนขึ้นไปใช้สิทธิ์ถ่ายรูปร่วมกับพี่แพะภูเขาในทันที

คำตอบที่ 59
       สายพอสมควรเราตัดสินใจเข้าไปผาตั้ง..ซึ่งต้องวิ่งรถเข้าไปอีกเกือบๆ 30 กิโลเมตร..เพื่อไปกินอาหารจีนยูนานที่นั่น แต่กว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานเลยครับ..เพราะมัวแต่แวะถ่ายรูปกับเจ้ากระหล่ำปลี พวกนี้..แต่พออยู่กันเป็นไร่แล้วมันก็ดูน่ารักดีนะครับ

คำตอบที่ 60
       ดอกอะไรไม่รู้..รู้แต่สวยดีเป็นผักกินได้ทั้งใบและดอก..เห็นชาวบ้านนิยมปลูกกันข้างๆแปลงกระหล่ำปลี..สีเหลืองสดใสเชียว..

คำตอบที่ 61
       สาวๆขอแบบฮาๆบ้าง...อยากโดดก็เอาครับจัดให้..ดูแล้วน่าจะหนุกดีเหมือนกัน

คำตอบที่ 62
       ว่าแล้วก็ขอลองมั่ง..เกิดมายังไม่เคยโดดถ่ายรูป เห็นแต่พวกวัยรุ่นชอบทำกัน..วันนี้ลองดูซะทีละกันเนอะ..เอ๊า..1..2..3...โดด !!!

หุหุหุ..ขอบอกว่าฮาดีครับ..แต่คราวหน้าคราวหลังต้องดีไซน์ท่าโดดก่อน..ไม่งั้นมันจะออกมาเป็นเขียดภูเขาอย่างผม..เห็นแล้วกลุ้ม..

คำตอบที่ 63
       “ซาลังเฮโย ”..โลละ 3 บาท

คำตอบที่ 64
       วันนี้ไม่มีแครอทนะครับ..มีแต่กระหล่ำ..เอาซักโลมั้ยพี่ ?!!

คำตอบที่ 65
       กับโค้งถนนสวยๆซักรูปนะครับ..

คำตอบที่ 66
       ในที่สุดก็มาถึง..ร้านอาหารจีนยูนาน..ร้านที่เรากินเป็นร้านเล็กๆแบบชาวบ้านๆตั้งอยู่ริมหน้าผาชื่อ.. “ ร้านผาสุข ” อยู่ก่อนถึงผาตั้งประมาณ 2 กิโลเมตร

เมนูแนะนำวันนี้ได้แก่ ขาหมู-หมั่นโถว ผัดเห็ดหอมสด หมูผาสุข แล้วก็อีกจานที่ยังไม่มาคือไส้กรอกยูนานครับ

คำตอบที่ 67
       อร่อยจริงๆครับ..สุดยอดทุกจาน..ปกติเรากินแต่อาหารจีนในเมืองจะจืดๆเลี่ยนๆ..มาเจออาหารจีนยูนานซิครับ..อย่างหมูผาสุข ไส้กรอกยูนาน..ที่นี่รสจัด เข้มข้น สุดยอด..ใส่เครื่องปรุงถึงใจจริงๆ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยครับ..ขาหมูก็อร่อย โดยเฉพาะหมั่นโถว..นุ่มและอมหวานนิดๆอร่อยกำลังดี ...ผมว่าอร่อยกว่าที่เคยกินที่บ้านรักไทยมากๆ..ถือเป็นร้านแนะนำประจำทริปเลยละกัน..

คำตอบที่ 68
       จากนั้นขึ้นไปเที่ยว..ผาบ่อง..แต่อุดหนุนชาวเขาซะหน่อยเลยนั่งม้าขึ้นไป..เสียวใช้ได้เลยครับ..

แนะนำให้เดินไปจะสบายใจกว่า..ผมเกร็งจนเมื่อยขาเมื่อยหลังไปหมด..ม้าตัวที่ผมนั่งมันไม่ยอมเดินตรงกลางๆทางครับ..ชอบไปเดินริมๆขอบทางที่เป็นเหวแถมยังเซไปเซมา..อะไรฟะมีตั้ง 4 ขา..เดินดีๆก็ไม่ได้..เฮ้อ..ออออ..ลุ้นจนเหนื่อย !!!

คำตอบที่ 69
       แต่ดูเหมือนสองสาวจะชอบใจกันใหญ่..

คำตอบที่ 70
       งั้นก็เก็บรูปไว้เป็นที่ระลึกละกัน...

คำตอบที่ 71
       อ้าว..ไอ้ชัยก็ยังยิ้มร่าอยู่เลย..รึว่ามีผมกลัวอยู่คนเดียว.. ?!!

คำตอบที่ 72
       ก่อนลงแวะถ่ายรูปในงานพื้นบ้านเหมือนกึ่งๆงานศิลปวัฒนธรรม..สาวนุ้ยไปเจอเจ้าฟักทองยักษ์ลูกนี้เข้า..เห็นเขียนชื่อว่าพันธ์.. “ บิ๊ก มูน ” อื่ม..ตั้งชื่อพันธ์ได้เห็นภาพเลย..แต่ดูแล้วเหมือนๆที่เค้าเอาไปแกะสลักหน้ากากฮาโลวีนเลยครับ

คำตอบที่ 73
       ขับออกมาจากผาตั้ง...เจอต้นซากุระกับโค้งถนนสวยๆเลยแวะถ่ายรูปกันซะหน่อย..

คำตอบที่ 74
       เย็นนี้ผมตั้งใจว่าจะเข้าไปนอนที่ อช.ลำน้ำกก บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม อยู่ใกล้ๆตัวเมืองเชียงราย..

แต่ระหว่างทางเรา คงต้องเก็บภาพสวยๆกับดอกทิวลิปสีสดๆที่.. “เกษตรที่สูงผาหม่น ”ซะก่อน..เอารูปสองสาวก่อนละกันครับ

คำตอบที่ 75
       คราวนี้ขอผมแจมมั่ง..

คำตอบที่ 76
       แล้วก็ให้ชัยไปแจมกะสาวๆ..ดอกทิวลิปสีสดใสได้ใจจริงๆครับ

คำตอบที่ 77
       จากที่ตั้งใจไว้ว่าจะพักที่ อช.ลำน้ำกก..ห้วยหมากเลี่ยม ปรากฎว่าพี่ๆทหารไม่รู้มาจากไหนเพียบเลยครับ...เหมาพื้นที่ไปซะหมด ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนย้อนกลับมาอีก 1 กม.ที่บ่อน้ำร้อนผาเสริฐ..มีที่บริการอาบน้ำแร่ ตรงข้ามกันกับบ่อน้ำร้อนผาเสริฐเป็นที่เอกชนติดลำน้ำกกเหมือนกันครับ..เค้าคิดค่ากางเต้นท์หลังละ 100 บาท..ก็โอเคนะครับ..เลยได้ที่กางเต้นท์ใกล้ที่แช่น้ำร้อนเข้าไปอีก..แค่เดินข้ามถนนก็ถึงเลย

คำตอบที่ 78
       จากที่คิดว่าเข้าเมืองแล้วเราไม่ได้อยู่บนดอย..อากาศไม่น่าจะหนาว..ผมคิดผิดครับ..ความชื้นริมแม่น้ำกกเล่นเอาหมอกคลุมเต็มไปทั่วทั้งบริเวณในช่วงเช้าและหนาวเอาเรื่องเลยหล่ะ..แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนึง

คำตอบที่ 79
       อย่างงี้ต้องกาแฟอุ่นๆครับ..

คำตอบที่ 80
       แต่ดูเหมือนกาแฟอย่างเดียวคงจะอุ่นไม่พอแล้วมั้งครับ..

เพราะชัยกับนุ้ยกำลังต้มน้ำกันอยู่ตั้งครึ่งค่อนหม้อ..จากเมนูเดิมที่คุยกันไว้มันไม่ต้องใช้น้ำขนาดนี้นี่นา..?!!

คำตอบที่ 81
       แล้วเราก็เดาเมนูลับของชัยกับนุ้ยได้ไม่ยาก..มาม่านี่เอง..ดีเหมือนกันไม่ได้กินนานมากแล้ว..นึกถึงสมัยเรียนตอนอยู่หอพักนึกอะไรไม่ออกก็มาม่า..

คำตอบที่ 82
       หลังจากนั้นพวกเราก็เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม.. “ บ่อน้ำร้อนผาเสริฐ ”..มีแบบห้องส่วนตัวกับแบบสระรวม

..พวกเราเลือกลงแช่แบบสระรวมเสียค่าบริการคนละ 30 บาท..ลักษณะเหมือนสระว่ายน้ำขนาดย่อมแต่มีหลังคาเป็นสแลนคล้ายผ้ามุ้งพลาสติคโปร่งแสงช่วยลดความรุนแรงของแสงแดดได้พอสมควร...

เวลาไปจ่ายค่าบริการต้องระวังนะครับ..ไม่รู้ใครมึนกันแน่เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าคนละ 30 บาทแต่ถ้ามา 3 คนจะเหมาจ่ายเป็นกลุ่มก็ได้นะ..รวม 3 คน 100 บาท..ผมก็เลยต้องยอมจ่ายเป็นรายบุคคลละกันครับ..สงสัยจะแพงกว่านิดหน่อย.. 555

คำตอบที่ 83
       บ่อน้ำร้อนหลักก่อนที่จะนำมาผสมน้ำให้เราอาบ..อุณหภูมิ 87 องศาครับ..

คำตอบที่ 84
       ก้มลงไปดู..เดือดปุดๆ

คำตอบที่ 85
       ใกล้เที่ยงของวันนั้นพวกเราเข้าไปหาอะไรกินกันในเมือง..ตั้งใจว่าจะไปหาอาหารพื้นเมืองกินกันซะหน่อย..แล้วก็ได้ร้านแนะนำเป็นข้าวซอยและขนมจีนน้ำเงี้ยวใกล้ๆกับหอนาฬิกา..รู้สึกจะชื่อ “ ร้านพอใจ ”..มั้งครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจ..แต่คนกินกันเยอะมากๆ..สงสัยจะถูกปากคนแถวนั้น...???

แล้วเราก็ไปจองตั๋วรถที่ท่ารถทัวร์กัน..เพราะสองสาวในแก๊งค์เราจะต้องกลับไปทำงานให้ทันพรุ่งนี้เช้า..ส่วนผมกับชัยจะอยู่เที่ยวดอยช้างและดอยวาวีกันต่ออีกซัก 2 วัน..โชคดีที่ได้ตั๋วเสริมรถออกทุ่มนึงเราเลยพอมีเวลาเที่ยวในตัวเมืองเชียงรายอีกนิดหน่อย..งั้นก็เริ่มจาก.. “ วัดร่องขุ่น ” เลยละกัน

คำตอบที่ 86
       ก่อนเข้าสู่ตัวอุโบสถต้องข้ามสะพานเล็กๆ..ซึ่งมีการจำลองนรกไว้เบื้องล่างเสมือนบอกเป็นนัยๆว่าบุญที่เราทำจะนำพาให้เราพ้นจากนรกภูมิ ..

และหน้าพระอุโบสถยังมีเทพคอยกันไม่ให้สัตว์นรกหรือสิ่งชั่วร้ายเข้ามากล้ำกรายภายในพุทธสถานได้ ..ดูท่าทางท่านดุเดือดได้ใจทั้งคู่เลยครับ

คำตอบที่ 87
       ภาพนรก..ให้อารมณ์ทุกข์ทรมานและโหยหวนโดยไม่ต้องมีเสียงหรือสำเนียงใดๆดังออกมาให้ได้ยิน..แต่ก็สามารถรับรู้ได้จากอาการที่สื่อผ่านทางงานปั้นเบื้องหน้า...ทำดีกันไว้ให้มากๆนะครับ..

คำตอบที่ 88
       สมัยที่ผมบวช..หลวงปู่ของผมท่านบอกว่าใครทำกรรมชั่วมันก็ต้องรับผลกรรมนั้น..แน่นอนครับเราๆท่านๆคงเคยได้ยินกันมามาก

แต่ที่ท่านบอกต่ออีกก็คือคนที่บวชเป็นพระห่มผ้าเหลืองแต่ทำผิดศีลผิดธรรมแล้วหล่ะก็กรรมหนักกว่าคนธรรมดาหลายสิบหลายร้อยเท่า...

ผมก็ภาวนาให้หลวงพี่ หลวงพ่อ ทั้งหลายขอให้ท่านตั้งอยู่ในพระธรรม และพระวินัย ไม่เห็นแก่ลาภสักการะยุ่งแต่เรื่องของพุทธพิธี..รึมัวแต่ปลุกเสกของขลังกันจนลืมเรื่องหลักของการปฎิบัติธรรมเพื่อเข้าสู่ทางที่เจริญโดยแท้ จะได้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไห้วได้อย่างสนิทใจ และช่วยให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่องต่อไปอีกนานเท่านาน..

เราจะได้ไม่ต้องพบเจอข่าวคาวๆบนหน้าหนังสือพิมพ์ที่อ่านแล้วทำให้ต้องเศร้าใจ..อีกอย่างคือพ่อแม่ที่อยากให้ลูกบวชถ้าบวชแล้วเข้าไปทำตัวไม่ดีผิดในเรื่องร้ายแรงไม่เหมาะสม..พ่อแม่อาจจะไม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์อย่างที่คิดที่หวังไว้..ดีไม่ดีอาจจะถูกฉุดลงนรกอีกตะหาก..ถ้าเลี้ยงมาไม่ดี ก็อย่าเอามายัดเยียดให้พระพุทธศาสนาต้องมัวหมองเพราะคนเลวๆกันเลยนะครับ...

แล้วที่หนักสุด..ไอ้พวกพระปลอมที่โกนหัวแล้วเอาผ้าเหลืองมาหากิน..ก็เชิญเลยนะครับ..เลือกเอาเลยว่าอยากจะยืนชูบาตรอยู่ตรงมุมไหนของรูป..

คำตอบที่ 89
       ช่วงบ่ายๆวันนี้แดดร้อนมากๆ..เล่นเอาแสบผิวไปตามๆกัน อาจเพราะอากาศไม่ค่อยหนาวแสงแดดเลยกลายเป็นส่วนเกินในทันที

พวกเราเลยแวะหาห้องพักเพื่อให้สองสาวไอ้อาบน้ำก่อนที่จะขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ และผมกับชัยก็จะได้ใช้เป็นที่พักในคืนนี้ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวดอยช้าง ดอยวาวี ในวันรุ่งขึ้น...

หลังอาบน้ำยังพอมีเวลาเราเลยแวะเข้าไปเที่ยวงานเชียงรายดอกไม้งามซะหน่อย..งานจัดที่สวนสาธารณะ..ชื่อว่า.. “ หาดเชียงราย ” ..ติดริมน้ำกกครับ

คำตอบที่ 90
       เสาดอกไม้..บริเวณหน้างาน

คำตอบที่ 91
       ที่นี่มีดอกไม้สวยๆเยอะมาก..แต่ Hi light ของงานก็คงเป็นดอกลิลลี่ และดอกทิวลิป ...ผมเคยเห็นดอกลิลลี่สีขาวอย่างเดียว..พึ่งรู้ว่ามันมีสีอื่นๆด้วย..กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกลิลลี่ช่วงสร้างความสดชื่นได้อย่างดี หลังจากถูกแดดเผาจากช่วงบ่าย..( รึเข้าไปในเขตวัดมา..เลยรู้สึกร้อนๆ..555 )

คำตอบที่ 92
       ดอกไม้สีสดๆมากมายภายในงาน..แต่ถ้าใครไม่สะดวกขึ้นมาถึงเชียงราย..ดอกไม้ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดก็สามารถชมได้ในช่วงฤดูหนาวประมาณต้นๆเดือนธันวาคมของทุกปีที่สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯนะครับ..

คำตอบที่ 93
       กับแปลงผักประดับครับ..ผมว่าน่าปลูกนะเพราะไม้ใบน่าจะดูแลได้ง่ายกว่าไม้ดอก..ว่าแต่..กินได้มั้ยหว่า ?!!

คำตอบที่ 94
       ดอกทิวลิปที่นี่มีสีม่วงด้วยครับ..แต่เราไม่ค่อยได้ถ่ายภาพซักเท่าไหร่เนื่องจากเต็มอิ่มกับทิวลิป บนดอยผาหม่นมามากแล้ว..และแสงอาทิตย์ก็เริ่มจะหมดแล้วด้วย

คำตอบที่ 95
       นุ้ยขอเก็บภาพน้องๆที่เป็นฝ่ายต้อนรับในงานกับชุดสไตล์ล้านนาซักรูป..อื่ม..มมม..เข้มอยู่คนเดียวเลยนะนุ้ย..

จากนั้นพวกเราก็รีบไปหาข้าวกินก่อนที่จะส่งสองสาวที่ท่ารถ..คืนนั้นผมกับชัยเป็นหนุ่มเมืองกันครับ..เดินเที่ยวเชียงรายไนท์พลาซ่า..กินโรตีร้อนๆ..กินบัวลอยอุ่นๆ..ดึกๆไอ้ชัยหิวอีก..ขับรถไปโต้รุ่งห้าแยกพ่อขุน..กินมื้อดึกอีกที..กว่าจะเข้านอนได้..พุงกาง !!!

คำตอบที่ 96
       โอ้ย..นั่ง Post เพลิน..เที่ยงคืนแล้วเหรอครับ..งั้นเดี๋ยวมาโพสท์ต่อนะ ขอแอบไปกินหนมก่อน..ชักหิวละ..

คำตอบที่ 97
       ครับ..มาต่อกันเลยดีกว่า..

คำตอบที่ 98
       เช้าวันนี้ตื่นมาผมไม่ต้องจุดเตาต้มกาแฟ..เพราะที่พักมีอาหารเช้าให้ 2 ที่..ก็พอดีเลย ขอบอกว่าถูกมากครับ..ที่สำคัญห้องก็ดูดี เพราะไม่ใช่เป็นตึกๆแต่ทำเป็นหลังเล็กๆชั้นเดียวคล้ายๆรีสอร์ท นอนแล้วรู้สึกดี..ไม่เหมือนบางที่ที่สร้างมาหน้าตาออกแบบมาเพื่อกามกิจโดยเฉพาะ..แค่เดินเฉี่ยวๆก็เสียวติดโรคแล้วครับ..

ที่นี่สะอาดใช้ได้เลย ในห้องมีเตียงเดี่ยว 2 เตียง พร้อม ทีวี ตู้เย็นและน้ำอุ่น..ราคาคืนละ 350 บาท..ผมงง..มันคุ้มลงทุนกันเหรอเนี่ย ?!! ...

ถ้าใครผ่านมาเชียงรายผมแนะนำเลยนะครับ..ชื่อ..โรงแรมมณีอินน์ เป็นเหมือนห้องพักแบบบังกะโลซะมากกว่าอยู่ทางไปสวนสาธารณะหาดเชียงราย ผมขอนามบัตรเค้ามาด้วย เบอร์โทร 053-756-666 ครับ..

หลังอาหารเช้าเราเดินทางไปดอยช้างไปทาง อ.แม่สรวย..( อ่านว่า “ แม่-สวย ” ) ก่อนถึงตัวอำเภอ 1-2 กิโลเมตร จะมีสามแยกชื่อ.. “ แยกตีนดอย ” ให้เลี้ยวขวาครับ

คำตอบที่ 99
       จากนั้นก็ใช้แผนที่ย่อยอันนี้นะครับ..วิ่งไปตามเส้นสีแดง..ขอย้ำว่าตามเส้นสีแดง..พี่เจ้าของแผนที่เค้าเขียนเตือนมาในแผนที่แล้วแต่ผมไม่ได้อ่าน..ดูแต่รูปแล้วเลือกเส้นสั้นๆคิดว่าจะได้ถึงเร็วๆ..
ผมไปเส้นสีเหลือง..เห็นมันใกล้ดี..ช่วงล่างเกือบพังครับ..ถนนลูกรังน่ะไม่ว่ากัน แต่นี่เป็นหินก้อนใหญ่ๆ กระโดกกระเดกเต็มไปหมด..แล้วไปโผล่ที่โรงกาแฟดอยช้าง..ผมว่าเส้นนี้เอาไว้ให้ชาว Off road เค้าลุยดีกว่าครับ..พวกขับสองเก็บช่วงล่างไว้เที่ยวที่อื่นๆดีกว่า..สภาพถนนแย่กว่าทางขึ้นพะเนินทุ่งอีก..
อ้อมไปเส้นสีแดงเถอะครับ..ผมใช้ตอนขากลับ..คอนกรีตเรียบๆ..ถึงทางจะแคบไปนิดแต่ก็วิ่งสบายๆ..ทำเวลาได้ดีกว่ากันเยอะเลยครับ

คำตอบที่ 100
       แต่ยังไงผมก็หลงครับ..ขนาดหลงผิดเลือกเส้นทางแย่ๆแล้ว..ยังหลงทางอีกตะหาก..ดันเข้ามาที่เขื่อนซึ่งจริงๆตามเส้นสีเหลืองพอเลี้ยวขวาจากแยกตีนดอยแล้ว..เจอแยกต้องไปทางขวาเพื่อขึ้นดอยช้าง..ผมเห็นในแผนที่มีเขื่อนเลยเลี้ยวซ้ายเข้ามาซะเลย..ไหนๆก็หลงมาแล้ว..ถ่ายรูปกันดีกว่า..

" เขื่อนแม่สรวย "..ครับผม

คำตอบที่ 101
       วิวอีกด้านของสะพาน..คลองส่งน้ำจากเขื่อนแม่สรวย..ได้มุมโค้งๆของสายน้ำเป็นเส้นนำสายตา..เอาน่า..ไม่ใช่โปร..ได้แค่นี่ก็ดีละ..ผมอมยิ้มแล้วบอกกับตัวเองเล่นๆก่อนกดชัตเตอร์..

คำตอบที่ 102
       งัดขาตั้งกล้องขึ้นมาถ่ายดีกว่า..เหลือกันอยู่แค่ 2 คน เก็บรูปไว้ซะหน่อย..

คำตอบที่ 103
       หลังจากกระโดก กระเดก กระเด้ง กระดอน กันมาพักใหญ่ๆ..เราก็มาถึงโรงงานผลิตกาแฟดอยช้าง...ออฟฟิศตกแต่งไว้น่ารักครับ..แต่บ่ายโมงกว่าแล้วหิวมากๆ..ไม่มีอารมณ์เก็บภาพแล้ว..วิ่งไปสั่งอาหารมากินกันก่อนจากนั้นก็ตามด้วยกาแฟร้อนกันอีกคนละแก้ว..เฮ่อ..ค่อยยังชั่ว

คำตอบที่ 104
       หน้าลานตากกาแฟ...ผมแหงนมอง..ธงชาติผืนใหญ่สีสด กับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส..และเสาธงที่ทำจากไม้ซุงดิบๆทั้งต้น..นานมากแล้วที่ไม่ได้ตั้งใจแหงนมองดูธงชาติไทยอย่างตั้งใจขนาดนี้..เห็นแล้วนึกถึงสมัยที่ยังเป็นเด็กนักเรียนครับ...แล้วคุณหล่ะครับ..ได้ยืนเคารพธงชาติอย่างตั้งใจจริงๆครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ? ..

คำตอบที่ 105
       จากกาแฟดอยช้างไปอีกนิดดียวเราก็มาถึง..โครงการเกษตรที่สูงดอยช้าง ( วาวี )..เดี๋ยวนี้เค้ามีชื่อเรียกยากๆอย่างเป็นทางการว่า..“ ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย (วาวี) ”

..แต่ดันมาตั้งอยู่บนดอยช้าง..เล่นเอาคนสับสนไปตามๆกัน..ใครจะมาเที่ยวก็สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ (053) 605-941 , 605-955 ที่นี่มีซากุระสีขาวด้วยนะครับ...แต่มันเหี่ยวซะแล้ว..ผมคงมาช้าไปหน่อย..ถ่ายมาฝากเพื่อนๆซักรูปละกันนะ

คำตอบที่ 106
       ส่วนดอกสีชมพูที่นี่เพียบเลยครับ...ส่วนตัวแล้วผมชอบซากุระสีชมพูมากกว่า เพราะมันตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี

คำตอบที่ 107
       บางต้นดอกก็ยังสดใสอยู่นะครับ..แต่บางต้นก็เหลือดอกอยู่น้อยมาก..ผมสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าก่อนปีใหม่..ที่นี่มีพายุฝนซึ่งตกหนักมากๆจนทำให้ดอกซากุระที่มีอยู่ร่วงไปกว่า 60 % …น่าเสียดายจริงๆ..เพราะดูจากจำนวนแล้ว..ถ้าออกดอกเต็มต้นที่นี่ไม่แพ้ขุนแม่ยะเลยทีเดียว...

คำตอบที่ 108
       หลังจากสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่แล้วผมขอตัวขึ้นไปกางเต้นท์ที่จุดกางเต้นท์ด้านบนสุด..ที่เรียกกันว่า.. “ ลานโดมแดง ” ..และนี่เป็นวิวจากหน้าเต้นท์ของเราครับ

คำตอบที่ 109
       อีกรูปละกัน..

คำตอบที่ 110
       ช่วงบ่ายวันนั้น..ชัยอาการไม่ค่อยดี เหมือนอาหารเป็นพิษแต่ท้องไม่เสีย..อาเจียรเป็นระยะๆ..วันนั้นเราเลยไปไหนไกลๆไม่ได้ เพราะกลัวว่าอาการจะหนัก..เลยขับรถไปดูแค่จุดชมวิวพระธาตุ..ซึ่งห่างจากที่กางเต้นท์เพียง 2 กิโลเมตร..ทางส่วนใหญ่เป็นลูกรังแต่ทางดี..เรียบตลอด ข้างทางจากลานโดมแดงไปจุดชมวิวพระธาตุ..ปลูกต้นเมมเปิ้ลไว้เป็นแนวไปตลอดทาง..นี่ถ้ามาช่วงใบเมมเปิ้ลแดงทั้งต้นหล่ะก็คงจะสวยน่าดูเลยนะครับ..

คำตอบที่ 111
       วิวข้างทาง..

คำตอบที่ 112
       แล้วก็วิวอีกรูป..ที่ผ่านมา..หากมีโอกาสได้ถ่ายรูปก็มักจะเป็นภาพบุคคลซะส่วนใหญ่..ตามความปรารถนาของเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ร่วมทริปด้วยกัน..เพราะต่างก็อยากจะมีรูปไว้เป็นที่ระลึก..จนผมลืมไปแล้วว่าผมเริ่มต้นถ่ายรูปเพราะชอบวิวทิวทัศน์..วันนี้เป็นอีกวันที่ผมมีโอกาสได้ต่อเติมความตั้งใจเดิมๆ..รู้สึกสงบ..สบาย..และเป็นสุขอย่างประหลาด

..คงเพราะไม่ต้องกังวลเวลากดชัตเตอร์ว่าภาพถ่ายที่ออกมาจะดีพอรึป่าว..รูปที่ออกมาตัวแบบเค้าจะพอใจมั้ย..เพราะบางภาพมันอาจเป็นเพียงโอกาสเดียวในการเก็บความทรงจำของเค้าเหล่านั้นจึงต้องดีที่สุดเท่าที่จะทำได้..

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ซึ่งไม่ต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกของใครๆ..เป็นการผ่อนคลายอย่างแท้จริงสำหรับผม....แต่ก็คงจะเป็นสุขกว่านี้ถ้าไม่มีเสียง..โอ๊ก..กก..อ๊าก..กก ของเพื่อนผมดังมาจากข้างๆ พี่สีหมอก..รถของผมเป็นระยะๆ...ชัย..ตกลงไม่สบายรึแพ้ท้องกันแน่วะ ?!

คำตอบที่ 113
       ช่วงเย็นๆ..มีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาเฝ้าลานโดมแดงเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว..ซึ่งก็มีแค่พวกผม..มันเป็นอัตราส่วนที่น่าทึ่งมากสำหรับการดูแลความปลอดภัยของที่นี่..นักท่องเที่ยว 2 คน ต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 คน ..สุดยอดครับ..555

เนื่องจากผมยังไม่ได้จ่ายค่าบริการการใช้พื้นที่กางเต้นท์เลยต้องลงไปสำนักงานข้างล่างตรงต้นซากุระดอกสีขาวๆที่สอบถามข้อมูลเมื่อช่วงบ่าย..หันกลับมาแล้วเจอดงซากุระทั้งดง..นี่ถ้าไม่โดนพายุฝนจนดอกร่วงไปซะก่อนหล่ะก็..ผมคงกดชัตเตอร์จนถ่านหมดไปเป็นชุดแน่ๆ..ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่ละกันนะ..ซากุระ..ดอยช้าง

คำตอบที่ 114
       ภาพพระอาทิตย์ตกดิน..จากจุดกางเต้นท์โดมแดง

คำตอบที่ 115
       อีกรูปก่อนไปเตรียมอาหารเย็น..ชัยยังคงอาเจียรอยู่บ้าง แต่ไม่มีไข้และไม่มีอาการท้องเสีย..ก็โอเคอยู่..ดูเหมือนเกลือแร่และยาที่ติดมาจะช่วยอะไรได้ไม่มาก..เย็นนั้นเลยต้องกินอาหารเย็นคนเดียว..ชัยบอกยิ่งกินยิ่งแย่..อ้วกจนเหนื่อย !!!

คำตอบที่ 116
       ตื่นเช้ามาติดเตาทำอาหาร..เช้านี้ดูเหมือนอาการเพื่อนผมมันจะดีขึ้นแล้ว..ผมทำข้าวต้มเป็นอาหารอ่อนๆเผื่อว่ามันยังไม่หายดี เดี๋ยวจะเดี้ยงไปซะก่อน..ระหว่างต้มน้ำผมเดินเล่นมาเจอเมมเปิ้ล..ใบยังมีสีแดงอยู่นิดๆเลยเก็บมาฝากครับ

คำตอบที่ 117
       หลังอาหารเช้า..มั่นใจได้เลยว่ามันหายดีแห๋งๆ..ล่อข้าวต้มไปตั้งสามชาม..ผมว่าชัยมันคงกินชดเชยมื้อเมื่อคืนกับของเมื่อวานที่ออกมา...หลังอาบน้ำอาบท่าเก็บของแล้วออกทัวร์กันตามจุดชมวิวต่างๆบนดอยช้าง..ก่อนอื่นก็ขอแนวเมมเปิ้ลข้างทางไปจุดชมวิวพระธาตุก่อนละกัน..ยังมีสีแดงๆอยู่บ้าง..

คำตอบที่ 118
       ไอหมอกกับทิวไม้บนดอยช้าง..

คำตอบที่ 119
       เมมเปิ้ล..

คำตอบที่ 120
       เมมเปิ้ล..

คำตอบที่ 121
       แล้วก็เมมเปิ้ล..

คำตอบที่ 122
       เกือบเที่ยงแล้วหมอกยังคงฟุ้งอยู่ริมหน้าผา..อากาศเย็นสบายมากๆ..

คำตอบที่ 123
       บนจุดชมวิวพระธาตุ...ข้างบนมีพระพุทธรูปและด้านหลังองค์พระเป็นพระเจดีย์องค์เล็กๆ..พวกเราไม่ได้เตรียมอะไรมา...แต่พอดีมีน้ำดื่มที่ยังไม่ได้เปิดขวด..เลยถือโอกาสถวายน้ำพระพุทธบนนั้นเลยครับ

คำตอบที่ 124
       จากนั้นก็ลงมาที่พุทธอุทยาน..ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์..และเป็นสำนักสงฆ์ มีพระจำวัดอยู่ที่นี่ด้วย..ผมก็เจอเจ้าป้ายนี้อยู่ใกล้ๆกับบ่อน้ำเลย..มีทั้งตัวหนังสือว่า.. “ อย่าเสียงดัง ” แล้วถ้าใครอ่านหนังสือไม่ออกก็มีสัญลักษณ์รูปคนจุ๊ๆปากให้อีก..

..แต่ดันมีกลุ่มเจ๊ 5-6 คนที่อยู่ถัดไปแค่ 2 ก้าว กำลังแหกปากโหวกเหวกยกกระบวยตักน้ำจากบ่อน้ำแล้วอธิฐานดังลั่นว่า..ขอให้ลูกร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา ค้าขายคล่องๆ มีโชคมีลาภ ถูกหวย..ฯลฯ อาราย..ยยยของเค้ากันเนี่ย ??? ..#@!$ นอกจากอ่านหนังสือไม่ออกแล้วยังตาบอดอีกเหรอ ?!!...มันเป็นกันซะอย่างงี้ซิน่า..คนไทย

คำตอบที่ 125
      

คำตอบที่ 126
       เรารอจนแก๊งค์ของเจ๊โหวกเหวกแกขอหงขอหวยเสร็จ แล้วก็ตักน้ำจากบ่อกลับไปฝากลูกฝากหลานที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..ก็ถึงคิวพวกผมเก็บภาพมั่งแล้วหล่ะ..ถ่ายมาแค่รูปเดียว..ดันเบลออีกตะหาก...

“ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ” เป็นบ่อน้ำ 1 ใน 9 แห่งที่สำนักราชวังใช้ในการประกอบพิธีพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาพิเษกครับ

คำตอบที่ 127
       รายละเอียด..ที่มา และตำนาน..ของบ่อน้ำ..

คำตอบที่ 128
       ติดกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์..มีสระน้ำใสและนิ่ง เห็นแล้วชวนให้สงบเย็นสมกับชื่อที่เป็นอุทยานของพุทธศาสนา..นิ่งจนสะท้อนเป็นกระจกเงาได้เลย..

คำตอบที่ 129
       อีกรูป..

คำตอบที่ 130
       อีกรูป..

คำตอบที่ 131
       และก็อีกรูป..

คำตอบที่ 132
       จากนั้นผมก็ไปจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนดอยช้าง..จริงๆตามแผนต้องมาถ่ายรูปกันเมื่อวานตอนเย็นๆแต่ชัยมันเดี้ยงซะก่อนเลยมาถ่ายเอาวันนี้....ไม่มีดวงอาทิตย์มาตกให้เห็นก็ได้ไม่เป็นไร..แดดใสๆก็สวยดีครับ

คำตอบที่ 133
       ทิวเขา..กับแสงสวยๆ..สงสัยว่าจบทริปนี้คงต้องเริ่มหยอดกระปุกหา DSLR จริงๆมาซักตัวละ..เพราะมีหลายอย่างที่เจ้า S6500 ซึ่งเป็น DSLR-Like ของผมทำไม่ได้..และคุณภาพของรูปก็ต่างกันอยู่มาก..หาเรื่องเสียตังค์อีกละ..

คำตอบที่ 134
       ลองแนวตั้งมั่งดีกว่า..

คำตอบที่ 135
       รูปคนซะหน่อย..ด้านล่างเป็นชุมชนหมู่บ้านดอยช้าง..ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขา..แต่ไม่รู้ว่าเป็นเผ่าอะไรนะครับ..

คำตอบที่ 136
       ต้นไม้กับท้องฟ้าใสๆ..ข้างๆศาลาชมวิว..

คำตอบที่ 137
       ไอ้ชัย..รูปนี้ขอแบบไม่ยกนิ้วโป้งเหอะว่ะ..ยกมาหลายรูปแล้ว...555

เคยเป็นมั้ยครับ..เวลาดูรูปแล้วรู้สึกเหมือนเป็นผู้ด้อยปัญญาในด้านการโพสท์ท่าซะจริงๆ..ไม่ยกนิ้วโป้ง..ก็ชูสองนิ้ว..ไม่งั้นก็ล้วงกระเป๋า..รึไม่ก็กอดอก..หมดละในชีวิตผมมีท่าถ่ายรูปอยู่แค่นี้จริงๆ ..

คำตอบที่ 138
       เย็นพอสมควรพวกเราคงต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯกันแล้ว..เสียดายที่มีเวลาไม่พอสำหรับไปดอยวาวี..ขาลงจากดอย..ผมใช้เส้นทางสายสีแดงตามแผนที่เป็นทางคอนกรีตแคบๆแต่ก็ดีกว่าเส้นสีเหลืองตอนขาขึ้นมาอย่างมาก..ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านดอยช้างเห็นเค้าเอาข้าวโพดมาแขวนไว้เข้าใจว่าตากแห้งไว้สำหรับเป็นเมล็ดพันธ์..แสงและเงาได้บรรยากาศของวิถีชีวิตชาวบ้านดี..ก็เลยจอดรถถ่ายรูปไว้ซักหน่อย..

คำตอบที่ 139
       ขับมาได้อีกไม่ไกล..ก็เจอ “ ดอกพวงแสด ”..เลื้อยเต็มผนังรั้วบ้านใกล้ๆทางแยกเข้าโรงเรียนดอยช้าง..ที่กรุงเทพฯไม่เคยเห็นใครปลูกเลยครับ..รึว่ามันขึ้นแต่ที่อากาศเย็นๆ

คำตอบที่ 140
       ขออีกรูปนะ..เฮ้อ..อออ ..ไอ้ดอกนี่มันถ่ายยังไงให้สวยดีหว่า..?!!

คำตอบที่ 141
       รูปสุดท้ายแล้วครับ..กับดอกหญ้าข้างทางก่อนถึงเขื่อนแม่สรวย..สูงสุดคืนสู่สามัญ..ถ่ายดอกซากุระ ดอกลิลลี่ ดอกทิวลิป..มันก็ไม่ได้สวยงามไปกว่าดอกหญ้าข้างทางในเวลาที่แสงเป็นใจและโอกาสอำนวยเลยนะครับ..

ทุกสิ่งมีแง่มุมที่สวยงามในแบบของมัน..จริงๆแล้วอยู่ที่เราเองมากกว่า..ว่าจะมองเห็นมันรึป่าว..สวัสดีปีใหม่..และขอให้มีความสุขกันทุกๆท่านครับ...

คำตอบที่ 142
       รบกวนสอบถามหน่อยครับ..เวลาเราลดขนาดรูปโดยใช้ Image size แล้วถาพมันเบลอๆ..เหมือนไม่ชัดเลยครับ..มีวิธีแก้ไขรึป่าวครับ..อย่างเรื่องสีที่จางลงเพราะคุณภาพของภาพมันต่ำลงผมเข้าใจและรับได้..แต่เบลอๆมัวๆ..นี่แก้กันยังไงครับ

คำตอบที่ 143
       ชอบรูปสุดท้ายมากสุดเลยอ่ะ!!

คำตอบที่ 144
       สุดยอดครับ เหมือนได้ไปเที่ยวเลย

คำตอบที่ 145
       ภาพสวย บรรยายได้เยี่ยมเหมือนกับได้สัมผัสด้วยตัวเองเลยครับ คุณ Mr.Trekker

คำตอบที่ 146
       สวยครับเยี่ยม
บรรยายได้สุดยอด เหมือนได้ไปเบิ่งด้วยตัวเองเลยครับ

คำตอบที่ 147
       สวยมาก ขอบคุณคะเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยคะ

คำตอบที่ 148
       บรรยากาศสวยมากเลยครับคุณMr.Trekker ปลายปีขอย้อนรอยบ้างนะครับ...

คำตอบที่ 149
       เป็นการเดินทางที่สัมผัสธรรมชาติที่หลากหลายมากเลย นะขอรับ


ถือว่าเยี่ยมสุดยอด นะขอรับ

คำตอบที่ 150
       สวยมาก ๆ เพื่อน
ทีอย่างนี้ไม่ชวนกรู ไปด้วย
ไอ้....เพื่อนรัก...
กิ๊ก

คำตอบที่ 151
       สนุกดี
รอทริปต่อไป

คำตอบที่ 152
       สุดยอดเลยค่ะคุณ Mr.Trekker รูปสวยมากๆแถมบรรยายได้ดีจริงๆ อ่านแล้วเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในทริปด้วยเลย ทริปหน้ารบกวนเที่ยวเผื่ออีกนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่อุตส่าห์นำมาแบ่งปันให้ได้ชมกัน

คำตอบที่ 153
       น่าไปเที่ยวมากครับ Mr.Trekker

ขอบคุณสำหรับรีวิวครั้งนี้นะครับ

คำตอบที่ 154
       จัดโปรแกรมได้ดี สุดยอดมาก เพิ่งรู้ว่าน่านบ้านผมเองน่าเที่ยวขนาดนี้

คำตอบที่ 155
       ชอบนางแบบเสื้อสีชมพูจริงๆ เลยคร๊าบ

คำตอบที่ 156
       เพลิดเพลินมากครับ ทั้งภาพถ่ายและคำบรรยาย

คำตอบที่ 157
       ภาพสวย บรรยากาศดีครับ

คำตอบที่ 158
      

คำตอบที่ 159
       เห้นแล้ว อยากไปเที่ยวมั่งจัง
ชอบมุมกล้องและคำบรรยายาย อ่านแล้วเหมือนว่าเพลินดี

คำตอบที่ 160
       เมื่อไหร่จะลงทริปสวนผึ้งให้ได้ยลกันบ้าง รออยู่

คำตอบที่ 161
       สวยครับ

คำตอบที่ 162
       ขอบคุณมากๆ สำหรับการพาเที่ยวผ่านภาพถ่ายและคำบรรยาย สนุกจริงๆค่ะ เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยจริงๆ สวยค่า ทั้งรูปและ บรรยากาศ

คำตอบที่ 163
       สวยมากๆเลย ขอบคุณมากสำหรับรูปและเรื่องราวที่นำมาแบ่งปัน สุดยอดจริงๆ

ไปเที่ยวไหนก็นำมาแบ่งปันอีกนะครับ เยี่ยมมากๆรอติดตามทริปต่อไป

คำตอบที่ 164
       โห แอบหนีไปเที่ยวที่สวยๆ แบบนี้ ไม่ชวนกันบ้างเลยนะ Mr.Trekker มิน่าเราชวนไปเที่ยวปีใหม่ด้วยไม่ยอมไป
เรารู้น้า ว่าทริปนี้มีอารายดี
เนอะๆ ตาอ้วนเนอะ เขาไม่ไปกะเราก็ไม่เป็นไร

ยัยอ้วน!!

คำตอบที่ 165
       สวยมากค่ะ

คำตอบที่ 166
       มีทริปใหม่ชวนกันอีกนะ หนุกมากๆเลย
บรรยายภาพทำให้อยากไปอีกจังเลย...

คำตอบที่ 167
       ภาพสวยค่ะ อ่านกี่ทีก็สนุก ได้บรรยากาศเหมือนไปด้วยจริงๆ เสาร์-อาทิตย์นี้ขอตามรอยคุณ Mr.Trekker ไปเที่ยวน่านมั่งดีกว่าพอดีบ้านแฟนอยู่ที่นั่น ถ้าได้ภาพสวยๆจะเอามาแจมในกระทู้ด้วยคนนะคะ

คำตอบที่ 168
       ขอบคุณมากครับสำหรับคำติชมจากเพื่อนๆทุกๆท่าน..

คุณยัยอ้วนกับคุณตาอ้วน..จากคำตอบที่ 164 นี่อ่านแล้วคุ้นๆนะ.. ... 555 ไม่มีอะไรหรอก ก็ก่อนปีใหม่ผมพึ่งไปสวนผึ้งมาไม่ถึง 2 อาทิตย์จะให้ไปอีกก็คงจะไม่ไหว..ขอเว้นช่วงซะหน่อยดีกว่า..เลยหนีขึ้นเหนือจนเกิดเป็นทริปในกระทู้นี้หล่ะครับ..

คุณแม่ของน้อง Data&Deer ตามมาชมในเวปนี้ด้วย..วันเสาร์นี้จะแวะไปเยี่ยมตี๋นะครับ..ไม่ได้ไปนานละ..ไว้เจอกันวันเสาร์ครับ

คุณทิพย์..ยินดีเลยครับ ถ้าข้อมูลผมเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆก็เชิญเอาไปใช้ได้เลย..อย่าลืมเก็บรูปมาฝากด้วยนะครับ จะรอชมครับ..

คำตอบที่ 169
       ภาพสวยมากครับ..แต่ช่วงปีใหม่คนเยอะมากเลยนะครับต้องทำใจ..ผมไปก่อนปีใหม่..คนน้อยหน่อย..สบายตาดีนะ..แบ่งปันกันชมครับ http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota/Question.asp?ID=20806

คำตอบที่ 170
      

แผนการเดินทาง เส้นทางท่องเที่ยว ยอดเยี่ยมมาก ติดตามอย่างเพลิดเพลิน

หนาวหน้า คงตามเส้นทางของท่านได้บ้าง ตามเวลาจะเอื้ออำนวย ขอบคุณที่นำมาแบ่งกัน

คำตอบที่ 171
       ขอบคุณ..คุณ nuyrider ที่นำกระทู้กับเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาให้ชมนะครับ เส้นทางหลวงหมายเลข 105 ผมเองก็กะว่าจะไปปีหน้าอยู่เหมือนกัน แต่คงไม่เล่นวงใหญ่เหมือนของคุณ nuyrider เพราะขับรถทริปละ 3 พันกว่าโล..คงจะเหนื่อยเกินไปสำหรับผมน่ะครับ .. ผมกะว่าคงเข้าทางตากแล้ววิ่งเลาะตามเส้นชายแดนไทย-พม่า ผ่านแม่สอด ท่าสองยาง แม่ลาน้อย ขุมยวม ขึ้นไปแม่ฮ่องสอน แล้วก็เข้าเส้นทางมาตราฐานวกกลับมาเชียงใหม่แล้วก็กลับกรุงเทพฯ แค่นี้ก็คงได้เที่ยวพอชุ่มปอดแล้วหล่ะครับ..ระยะทางที่คุณ nuyrider ไปมาต้องถือว่าขับรถได้อึดมากๆ..แค่อ่านตามยังเหนื่อยเลยครับ 555..เมื่อคืนผมตามอ่านมาค่อนคืนแล้วยังไม่จบเลย..โพสท์ละเอียดมากครับ..วันนี้วันที่ 23/1/52 เวลา 11:57 น. คุณหนุ่ยโพสท์มา 1142 คำตอบจำนวน 39 หน้า ..ผมก็ไม่แน่ใจว่าจบรึยังแต่ผมคงต้องขออนุญาติอ่านแบบเขย่งก้าวกระโดดแล้วหล่ะครับ ก็มันเยอะจริงๆ..กระทู้ผมโพสท์ไป 5 หน้าเพื่อนมันยังโทรมาด่าเลย..ว่ามึงว่างมากนักเหรอไง(วะ)...?!! ..นี่คุณหนุ่ยโดนเพื่อนๆโทรมาแซวบ้างรึยังครับเนี่ย..555 ( ผมล้อเล่นนะครับ.. )

คำตอบที่ 172
      
หวัดดีครับ..คุณ bonny ..ยินดีเลยครับ..ปกติผมชอบแอบย่องเข้าไปดูกระทู้ของคุณ bonny ..มีกระทู้ดีๆที่เพื่อนๆเข้าไปร่วมกันแชร์ข้อมูลกันเพียบ..

สำหรับกระทู้นี้จริงๆแล้ว..ผมตั้งใจว่าจะเขียนให้ตัวเองเป็นที่ระลึกในการท่องเที่ยวซะมากกว่า..ดีกว่าปล่อยให้มันเลือนหายไปตามกาลเวลา..ก็เลยถือโอกาสเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆท่านอื่นๆได้ติชมกันไปด้วยในตัว..ข้อมูลทริปนี้ส่วนใหญ่ก็ได้มาจากพี่ๆเพื่อนๆใน web นี้หล่ะครับ พอโพสท์เสร็จก็เหมือนว่าทำหน้าที่เสร็จแล้วนะ..จบละ..จนวันก่อนได้มีโอกาสไปอ่านกระทู้..ที่ใช้ชื่อของคุณ bonny แต่เป็นน้องผู้หญิงคนหนึ่ง..ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นลูกสาวคุณ bonny นะครับ..เขียนเอาไว้ประมาณว่า.." กระทู้ของเรา เราก็ต้องรับผิดชอบ "...โอ้..แม่เจ้า..ดีใจนะครับ..ผมเองไม่ได้เห็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีสามัญสำนึกของการรับผิดชอบมานานมากแล้วครับ..ทำเอาผมต้องกลับมาเปิดดูกระทู้ที่ผมเขียนเอาไว้ เผื่อว่ามีใครเค้าต้องการสอบถามข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก..ครับ..ผมเองก็ต้องรับผิดชอบ..ฝากขอบใจน้องเค้าด้วยนะครับ..ที่เตือนสติผู้ใหญ่ได้อีกคนนึง..

คำตอบที่ 173
       บรรยากาศดีมาก ขอชมคนถ่ายภาพและคนประกอบภาพ รวมถึงคำบรรยายธรรมชาติจริง ๆ อยากไปอย่างนี้บ้างแต่ไม่มีโอกาส ขอให้มีโอกาสเที่ยวอย่างนี้มาก ๆ นะคะ และอย่าลืมมา post ให้ดูอีกนะ ขอบคุณค่ะ

คำตอบที่ 174
       ดีค่ะ สวยงามดีค่ะ ว่างๆๆก้ออยากจะถือโอกาสไปเที่ยวดูบ้างจังเลยค่ะ แต่ยังหาโอกาสไมได้เลยอิอิ

คำตอบที่ 175
       สวยงามค่ะ

คำตอบที่ 176
       รูปสวยมากครับ เป็นทริปที่ดีมากๆ

คำตอบที่ 177
       โห อิจจา เจรงๆ

คำตอบที่ 178
       รูปสวยจังค่ะ....เอาไว้จะตามรอยนะคะ

คำตอบที่ 179
       สวยมากๆคุณ Mr.Treker บรรยายได้เห็นภาพเลยค่ะ ชอบที่เขียนเอาไว้มากเลย มีโอกาสก็เอาเรื่องราวดีๆมาฝากกันอีกนะค่ะ จะรอชมค่ะ

คำตอบที่ 180
       คุณ Mr.Treker ค่ะ ..ขออนุญาติเก็บรูปสวยๆไปไว้เป็นของตัวเองหน่อยนะ ท่าทางคุณ Mr.Treker น่าจะใจดี คงไม่ว่าอะไรหรอกเนอะ

คำตอบที่ 181
       ยินดีเลยครับคุณตาล..ทั้งภาพและข้อมูลถ้าเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆได้ก็ยินดีครับ เพราะตั้งใจนำมาแบ่งปันกันอยู่แล้ว..

คำตอบที่ 182
       สวยครับ บรรยายดีมากๆ

คำตอบที่ 183
       สวัสดีค่ะ Mr.Treker จะช้าไปมั๊ยที่เข้ามาแจมด้วย เพราะเพิ่งหัดเข้ามาที่ web นี้ จะบอกว่าเมื่อปีใหม่น้องก็ไปที่น่านมา เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 51 -3 ม.ค. 52 อากาศยังไม่หนาวมากเท่าไหร่ ไปแค่ไม่กี่ที่เองค่ะ ก็มีอช.ศรีน่าน กับ อช.ดอยภูคา แล้วก็ไปไหว้พระที่วัดพระธาตุแช่แห้งค่ะ

คำตอบที่ 184
       สวัสดีค่ะ Mr.Treker เป็นทริปที่ดูคุ้มค่าจริงๆเลยนะค่ะ

คำตอบที่ 185
       ชอบๆ สวยมากๆค่ะ

คำตอบที่ 186
       ดอกไม้สวยอ่ะ

อยากปายมั่ง

เหอๆๆ



อิจฉาๆ ได้ไปเที่ยวเยอะเรย

คำตอบที่ 187
       ชอบมากคร๊าบ สุดยอดจริงๆ

คำตอบที่ 188
       เชิญเลย(น่าน)ครับ

คำตอบที่ 189
       ลืมบอกครับ
ยอดภูสันครับ บ้าน ไร่กาแฟสันเจริญครับ

คำตอบที่ 190
      

คำตอบที่ 191
       ภาพสวย ๆ ๆ ๆ ทั้งนั้นและเป็นอาหารตาก่อนปีใหม่ครับ