คำตอบที่ 1
       เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯกันตั้งแต่เช้าโดยใช้เส้นทางสาย ธนบุรี-ปากท่อ เพื่อแวะซื้ออาหารทะเลสดๆจากตลาดมหาชัย และยังคงใช้เส้นทางเดิมวิ่งผ่าน แม่กลอง จนกระทั่งถึงสามแยกวังมะนาว จากจุดนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปเพชรบุรีนะครับ แต่พวกเราต้องชิดขวาตรงขึ้นสะพานข้ามแยกวังมะนาวแล้ววนตามทางมาลงถนนเพชรเกษม ขับตรงมาทางราชบุรีอีกไม่ไกลพอเลยเขาแก่นจันทร์ก็จะเจอแยกที่มีโอ่งมังกรใบโตๆตั้งอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3208 ซึ่งจะผ่าน อ.ชัฎป่าหวาย และสิ้นสุดลงที่ อ.สวนผึ้ง จุดหมายปลายทางของพวกเราในทริปนี้

คำตอบที่ 2
       ที่พักคืนแรกของพวกเราเป็นโฮมสเตย์เล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงข้ามทางขึ้นเขากระโจม..ชื่อว่า “ เขากระโจมโฮมสเตย์ ” ผมจองบ้านพักไว้หลังหนึ่งสำหรับ..“ เหนือ ”..เจ้าหลานชายวัย 2 ขวบคนเดียวของพวกเรา ส่วนพวกเราที่เหลือก็กางเต้นท์กันอีก 2 หลัง ราคาบ้านพักที่นี่หลังละ 800 บาทครับ ส่วนค่ากางเต้นท์ถ้าเอามาเองเค้าคิดหลังละ 100 บาท..ห้องน้ำสำหรับกางเต้นท์มีน้ำอุ่นไว้บริการด้วยนะครับ..แต่ห้องน้ำในบ้านพักไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น..
ใครสนใจจะมาพักที่นี่ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจาก พี่ชัยโรจน์และพี่แหม่ม เจ้าของโฮมสเตย์ได้ที่เบอร์ 089-206-1235 และ 081-135-2299 ..อ้อ..ที่นี่มีบริการรถ 4WD พาขึ้นไปเที่ยวชมทะเลหมอกยามเช้าบนยอดเขากระโจมด้วยครับ แต่ต้องตื่นประมาณตี 5 นะ..สู้มั้ย ?!!

คำตอบที่ 3
       โอ้ย..เมื่อกี้ตกรูปไปครับ..ตามเอามาให้ใหม่

คำตอบที่ 4
       พอไปถึงก็ช่วยกันขนเสบียงกันลงก่อนเลย สำหรับพวกเราแล้ว..เรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ..ทริปนี้มี กุ้ง 5 โล..หมู 2 โล..ปลาสำลี 2 ตัว..ไส้กรอก ฯลฯ ถูกอัดแน่นด้วยน้ำแข็งอยู่ในตู้เย็นเคลื่อนที่ของพวกเราทั้ง 3 ตู้ เตรียมพร้อมที่จะแปรสภาพเป็นอาหารเย็นในคืนนี้

คำตอบที่ 5
       จากนั้นก็มาช่วยกันกางเต้นท์ที่ลานเล็กๆติดกับระเบียงไม้ริมธารน้ำ..ทริปนี้เป็นทริปเปิดซิงเต้นท์ใหม่ของชัย เลยมีคนมาให้กำลังใจกันเยอะหน่อย..ประมาณว่าเป็นเหมือนมางานขึ้นบ้านใหม่น่ะครับ ในรูป..จะเห็นกรรมกร 2 กับกรรมการตรวจงานอีก 3 ครับ.. 555

คำตอบที่ 6
       แต่พอกางเสร็จ..จุ๊บกับใหญ่ก็มายึดเต้นท์ไปเรียบร้อย..ขอบใจนะเพื่อน !!!

คำตอบที่ 7
       วิวทางด้านซ้ายมือจากระเบียง..ตอนนั้นประมาณ 10 โมงกว่าแล้ว..แต่ยังคงมีไอหมอกลอยให้เห็นกันอยู่นิดๆหน่อยๆ..พอให้ได้ลุ้นที่จะพบกับทะเลหมอกบนยอดเขากระโจมกันในช่วงเช้าๆได้บ้าง

คำตอบที่ 8
       สองสาวในทริปนี้ครับ..เราถ่ายรูปเล่นกันอีกพักใหญ่ จากนั้นก็สั่งอาหารกลางวันมาทานกัน..ก่อนที่จะออกไปเยี่ยมเยียนรีสอร์ทน่ารักๆที่มีอยู่มากมายในบริเวณนี้...

คำตอบที่ 9
       พวกเราแวะมาที่ The Scenery ..รีสอร์ทชื่อดังในแถบนี้ ทุ่งหญ้าขนาดพอเหมาะด้านหน้าใช้สำหรับจำลองฟาร์มแกะขนาดย่อม เป็นอีกหนึ่งจุดขายของที่นี่..

คำตอบที่ 10
       เอาเข้าไป..รูปไม่มาอีกแล้วครับ..ไม่เป็นไร..ส่งใหม่แล้วกันเนอะ..

คำตอบที่ 11
       จากรูปข้างบน..หากสงสัยว่าผมถ่ายรูปอะไร..ก็ถ่ายพวกเพื่อนๆทั้งก๊วนมันนี่หล่ะครับ..ดูเอาละกัน..ทริปนี้กล้องเยอะมากๆ..ต่างยี่ห้อ..ต่างรุ่น..รูปที่ได้มาก็ต่างโทนสี ดูรูปกระทู้นี้แล้วทำใจหน่อยนะครับ..เพราะเอารูปมาจากกล้องของเพื่อนทุกๆคน..ไอ้ผมมันก็เซียน photoshop ซะด้วยซิ..ปรับยังไงสีมันก็ไม่ยอมเป็นโทนเดียวกันซะที..ก็เลยช่างมันละ..ดูกันไปตามเวรตามกรรมละกันนะครับ ..

คำตอบที่ 12
       เษมและครอบครัวครับ..

คำตอบที่ 13
       มุมนี้กลายเป็นมุมมหาชนไปแล้ว..และแทบจะกลายเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของ The Scenery ไปเลย ในความรู้สึกของผม..

คำตอบที่ 14
       บรรยากาศอย่างงี้..ขอรูปคู่ซะหน่อยละกันนะครับ..

คำตอบที่ 15
       ตามด้วยรูปหมู่กันอีกซักรูป..

คำตอบที่ 16
       เจ้าเหนือ..ดูจะกลัวๆกล้าๆ..กับเจ้าแกะน้อย 2 ตัว..อยากเล่นก็อยาก..แต่กลัวก็กลัว..เอาไงดีหว่า?!!

คำตอบที่ 17
       แต่พอจับไปนั่งกับเจ้าแกะตัวน้อยเท่านั้นหล่ะครับ..ร้องหาพ่อตามระเบียบ..555

คำตอบที่ 18
       เด็กชายเหนือหนีไปอ้อนพ่อเรียบร้อยแล้ว..เจ้าแกะน้อยก็เลยเสร็จเด็กหญิงอุ๋ม..คงจะตั้งท่ารอมานานแล้วหล่ะ แต่ไม่กล้าแย่งหลาน..!!!

คำตอบที่ 19
       ที่ The scenery แบ่งโซนสำหรับแขกที่มาพักให้มีความเป็นส่วนตัวได้ดีมาก..โซนด้านหน้าทั้งหมดเปิดโอกาสให้ใครๆมาเที่ยวมาถ่ายรูปก็ได้ครับ..ไม่ว่ากัน..เรียกว่ายินดีต้อนรับเต็มที่..แต่โซนด้านใน( หลังเจ้าแกะน้อย 2 ตัวนั้น )..จะเป็น Privacy Zone ไม่อนุญาติให้ซี้ซั้วเดินนะครับ..ถ้าไม่ใช่ลูกค้าที่พักแล้วจะเข้าไปชม..ทางรีสอร์ทเค้ามีรถกอล์ฟพาชมให้ครับ..แต่ห้ามเดินไปเองโดยเด็ดขาด เพื่อความสงบและเป็นระเบียบ จะได้ไม่รบกวนลูกค้าของรีสอร์ท..รูปที่เห็นเป็นฝูงน้องแกะ ซึ่งเป็นตัวสร้างบรรยากาศให้กับที่นี่ได้เป็นอย่างดี..ถึงแม้ว่าช่วงที่เราไปน้องแกะจะมอมแมมไปซะหน่อยก็ตาม..ใครอยากถ่ายรูปกับเจ้าแกะพวกนี้ต้องมาประมาณ 5 โมงเย็นครับ..เค้าจะต้อนฝูงแกะออกไปที่ลานด้านนอก..

คำตอบที่ 20
       บ้านพักออกแบบให้เป็นสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยน..?!! ..ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่าเป็นยังไง..บอกมาไงผมก็เออๆออๆไปยังงั้น..ก็คงอย่างที่เห็นๆกันในภาพมั้งครับ..555

คำตอบที่ 21
       นี่เป็นบ้านพักหลังเล็กสำหรับพัก 2 คน ที่น้องพนักงานพาพวกเรามาชมกันครับ..

คำตอบที่ 22
       มาดูห้องน้ำของเค้าซะก่อน..เก๋ไก๋ได้ใจเลย ..

คำตอบที่ 23
       พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นและดูทีวี..ใครที่มาพักด้วยกันก็ต้องคิดให้ดีๆก่อนนะครับ เพราะผนังห้องน้ำกับพื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดกันโดยออกแบบผนังให้โปร่งใส..ใช่ครับ..โปร่งใสไม่ใช่แค่โปร่งแสงนะครับ..เค้าใช้แค่กระจกใสๆเป็นตัวกั้น..ถ้าไม่ใช่คู่สามีภรรยามาพักด้วยกันแล้ว..ผมว่า..เดี๋ยวก็คงจะได้เป็นหล่ะครับ..ไม่น่ารอด ?!!

คำตอบที่ 24
       ที่นอน..เรียบง่ายดูสบายๆครับ..น่านอนเชียว

คำตอบที่ 25
       ห้องนอนออกแบบให้สามารถชื่นชมธรรมชาติได้จากตัวห้อง..โดยผนังทั้งด้านเป็นกระจกใสทั้งแถบ ทำให้สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้จากบนเตียงนอนกันเลยทีเดียว

คำตอบที่ 26
       ด้านบนของตัวบ้านเป็นดาดฟ้ากว้าง..ใช้วัสดุธรรมชาติมาตกแต่งหลังคาเพื่อให้ร่มเงาและลดความแข็งกระด้างของผนังปูนให้ดูสบายๆขึ้นอีกหน่อย..มีเตียงขนาดพอเหมาะให้นอนเล่นและสามารถลากออกไปนอกชายคาเพื่อนอนชมดาวได้ยามค่ำคืน..และมีโต๊ะเล็กๆพร้อมเตาย่างบาบีคิวสำหรับมื้อเย็นอีกด้วย..

คำตอบที่ 27
       พวกเรากลับออกมาที่ลานด้านนอก..เพื่อเก็บภาพกันอีกพักหนึ่ง อาคารที่กำลังสร้างอยู่ด้านหลังเป็นร้านอาหารของทางรีสอร์ทที่ตั้งใจว่าจะเอาไว้รับรองแขกขาจรอย่างพวกเรา..ก็ไอ้พวกที่ชมฟรีแต่ไม่ยอมพักนี่หล่ะครับ..555

คำตอบที่ 28
       สามคนนี้ไปไหนไปกันครับ..เรื่องเที่ยวขอให้บอก..สู้ตาย !!!

คำตอบที่ 29
       เวสป้าสีเขียวตองอ่อนคันนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานตกแต่งที่นี่นะครับ..พอมาอยู่ในที่บรรยากาศอย่างงี้ดู Classic ขึ้นมาเชียว..ไม่เห็นเหมือนตอนที่บรรทุกผ้าอยู่แถวพาหุรัดเลยเนอะ..

คำตอบที่ 30
       ครอบครัวเวสป้าซักรูปนึง..

คำตอบที่ 31
       นี่.. “ ไอ้จุ๊บ ” เพื่อนผมอีกคนนึงครับ..จุ๊บมักจะชอบเป็นตากล้องเองซะมากกว่า..สนุกกับการถ่ายนู่นถ่ายนี่ไปเรื่อยเปื่อยและไม่นิยมเป็นนายแบบให้ใครๆซะด้วย..แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ไอ้จุ๊บมันเข้ากล้อง..ผมรับรองได้เลยว่า..รูปที่ได้..มักจะไม่ธรรมดาครับ !!!

คำตอบที่ 32
       ช่วงบ่ายพวกเรามุ่งหน้าสู่..“ บ้านไร่ไทรงาม ”.. เพื่อร่วมกิจกรรมยอดฮิตอีกอันหนึ่งของ อ.สวนผึ้ง นั่นคือ..ล่องแก่งห่วงยาง..แต่คนค่อนข้างเยอะน่ะครับเลยต้องรอคิวกันซักหน่อย ระหว่างรอก็เลยถือโอกาสเก็บภาพบรรยากาศในไร่ของคุณลุงกับคุณป้ามาให้ชมกัน..

ตอนถ่ายจำได้ว่าบอกจุ๊บกับชัยไปว่าให้ทำตัวดูเป็นธรรมชาติๆนะ..ไหงมันได้ออกมาเป็นแบบนี้หว่า..อย่าไปสนใจนายแบบของผมเลยครับ..ดูบรรยากาศโดยรวมกันดีกว่า ลักษณะเป็นบ้านสวนทั่วไป..ก็ร่มเย็นดีครับ..แต่ส่วนตัวแล้วผมว่าไม่น่าเหมาะที่จะพักซักเท่าไหร่เพราะผมชอบวิวโล่งๆโปร่งๆซะมากกว่า..

แต่หากท่านใดสนใจจะมาพักที่บ้านไร่ไทรงามหรือสนใจสอบถามกิจกรรมล่องแก่ง ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-383-0864 , 089-063-3674 และ 089-145-1791 นะครับ..

คำตอบที่ 33
       หลังจากรออยู่พักนึง..ก็ถึงคิวของพวกเรา แต่ต้องขึ้นรถไปต้นน้ำเพื่อล่องแก่งลงมา งานนี้เษมเสียสละเป็นซามูไรพ่อลูกอ่อนดูเจ้าเหนืออยู่ที่ไร่..โดยส่งน้องแอนมาเล่นน้ำกะพวกเราแทน..ไอ้น้องเสื้อฟ้าๆที่นั่งห้อยอยู่ท้ายรถนั่นเป็นคุณไกด์ของพวกผมนะครับ..เห็นตัวแค่นี้อย่าได้ดูถูกไป..ไม่มีไอ้หนูนี่มีหวังแย่แน่ๆ..?!!

คำตอบที่ 34
       รูปนี้เษมถ่ายให้จากฝั่งตอนเล่นเสร็จ สายน้ำดูลึกและกว้างพอสมควร..แต่ในความเป็นจริงแล้วตลอดระยะเวลาการล่องแก่งห่วงยาง..แม่น้ำภาชีในช่วงที่พวกเราไปล่องนั้นตื้นเขินและเต็มไปด้วยแก่งหิน อีกทั้งแม่น้ำก็บีบตัวแคบทำให้กระแสน้ำไหลค่อนข้างเร็วและเต็มไปด้วยอุปสรรคเพิ่มความสนุกให้กับการล่องแก่งเป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ บวกกับห่วงยางซึ่งไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ดีเหมือนอย่างการล่องแก่งด้วยเรือคยัค..ยิ่งทำให้การล่องแก่งสนุกตื่นเต้นขึ้นไปอีก..

แต่การล่องแก่งที่นี่ก็ปลอดภัยนะครับ อย่างเวลาพุ่งไปชนโขดหินจังๆ ห่วงยางก็เสมือนเป็นกันชนให้เราไปด้วยในตัว แต่ก็มีคว่ำกันเหมือนกันครับ..จริงๆผมว่าก็คว่ำมันทุกคนนั่นหล่ะ..สงสารไอ้น้องที่เป็นไกด์ให้พวกเรา..ตัวนิดเดียว..วิ่งเก็บห่วงยางตาเหลือก..เก็บได้แล้วยังอุตส่าห์ลากทวนน้ำเอามาให้อีก..บางคนก็หลุดไลน์ไปค้างกองหิน..ก็เดือดร้อนไอ้น้องคนนี้วิ่งไปดันให้หลุดจะได้ล่องต่อไปได้..สุดยอดคุณไกด์เยาวชนเลย แต่พวกพี่ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะ ขึ้นฝั่งได้มัวแต่โม้กันเพลิน..ลืมติ๊ป !!!

คำตอบที่ 35
       เจ้าเหนือ..รีบเข้าไปอ้อนแม่เชียว..กลัวน้ำก็กลัว..อยากอ้อนก็อยากอ้อน..เด็กหนอเด็ก..นอนขดตัวเกร็งเป็นลูกลิงเลย..

คำตอบที่ 36
       กลุ่มพวกเรามากันเกือบครบแล้วครับ..กลุ่มอื่นที่ล่องมาพร้อมพวกเราก็มากันครบหมดแล้ว..ยังเหลือไอ้ชัย..ที่เห็นอยู่ริบๆทางด้านบนฝั่งขวามือของรูป..เพื่อนผมคนนี้มีทักษะทางกีฬาดีเลิศ...ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า..ชัยต้องให้ไอ้น้องที่เป็นไกด์ช่วยวิ่งเก็บห่วงยางไปซักกี่สิบครั้ง..

คำตอบที่ 37
       และแล้วก็มากันครบจนได้..เก็บรูปหมู่กันซะหน่อยนึง..ถ้ามีโอกาสลองมาเล่นนะครับ มันสนุกกว่าที่เห็นจริงๆ ผมล่องแก่งหินเพลิงมาก็หลายครั้ง..ล่องแก่งสามชั้นที่นครนายกเกือบทุกปี แต่นั่นก็มันส์แบบสปอร์ตน่ะครับ ถ้าอยากสนุกแบบขำๆต้องที่นี่เลย..ห่วงยางที่ใช้ล่องจะมีไม้แผ่นหนาๆรองกันกระแทกด้านใต้ห่วงยางให้ด้วย..อย่าคิดประหยัดหิ้วห่วงยางมาล่องเองเชียวนะครับ.. กระดูกก้นกบแตกได้ง่ายๆเพราะแก่งหินใต้น้ำที่นี่เยอะมากทีเดียว ขนาดมีแผ่นไม้รองเอาไว้เวลากระแทกกับหินใต้น้ำแต่ละที..เสียงดังฟังชัดกันเลยทีเดียว !!!

เย็นวันนั้นพวกเรากลับไปทำอาหารกินกันอย่างเอร็ดอร่อย..คงเป็นเพราะหิวจัดจากการล่องแก่งกันจนหมดแรง..กุ้งเผา หมูปิ้ง ปลาย่าง ฯลฯ ..ซัดกันเต็มเหนี่ยวครับ อ้อ..ต้องขอขอบคุณพี่ชัยโรจน์เจ้าของโฮมสเตย์ที่ช่วยหาใบตองมาห่อปลาสำลีให้ด้วย เพราะพวกเราดันลืมเอาฟรอยด์มา..ปรากฎว่าอร่อยกว่าที่เคยใช้ฟรอยด์อีกครับ เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยในก้นครัวเลยทีเดียว..ช่วงอาหารเย็นไม่มีรูปให้ดูนะครับ..มือไม่ว่าง เพราะต้องเปิดศึกชิงกุ้งเผากะไอ้จุ๊บ..แต่ก็ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ..

คำตอบที่ 38
       เช้าวันใหม่..ตามแผนแล้ววันนี้ต้องขึ้นไปดูทะเลหมอกบนยอดเขากระโจมแต่พี่ที่โฮมสเตย์แนะนำว่าถ้าไม่รีบกลับกรุงเทพให้ขึ้นพรุ่งนี้เช้าดีกว่า เพราะวันนี้คนเยอะ ก็ดีเหมือนกันครับ..จะได้ไม่วุ่นวายด้วย ผมเลยรับบทพ่อครัวจำเป็น..ต้มน้ำสำหรับชงกาแฟ ทอดไข่ดาว ลวกไส้กรอก ปิ้งขนมปัง เป็นเสบียงยามเช้าของพวกเราทุกคน

คำตอบที่ 39
       ลูกค้ารายแรกของเช้านี้ครับ..เวลากินเนี่ยหน้าตาดูมีความสุขจริงๆเลยนะ

คำตอบที่ 40
       เจ้าเหนือตื่นแล้ว..เช้านี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ คงจะเริ่มคุ้นหน้ากับบรรดาลุงๆแล้ว เลยไม่ค่อยจะโยเยซักเท่าไหร่ คนอื่นๆก็เริ่มทะยอยกันมาที่โต๊ะอาหาร..แล้วก็..กิน..กิน..กิน !!!

คำตอบที่ 41
       เจ้าเหนือกินโชว์..จริงๆแล้วผมเองก็ไม่ค่อยจะแน่ใจว่าที่เหลือบตามองเนี่ย..เพราะอยากอวดว่าหนูกินเก่งนะ..รึว่าเพราะระแวงกลัวผมจะแย่งกินก็ไม่รู้ซิครับ

คำตอบที่ 42
       เช็คดูในลังโฟม.. หมูหมักที่แพ็คมาจากบ้านยังเหลืออีกตั้ง 3 ถุง..แต่ไม่มีปัญหาเพราะฟรีซแข็งเอาไว้ก่อนจะเดินทาง แล้วยังมีน้ำแข็งช่วยให้ความเย็นตลอด เก็บได้อีกทั้งวัน..ส่วนกุ้งสดยังเหลืออยู่บ้างแต่ไม่ควรจะเก็บถึงเย็นนี้ เลยจับมาทำเป็นข้าวต้มกุ้งซะให้หมด..กินมื้อเช้ากันอีกรอบละกันนะเพื่อนๆ ดีกว่าปล่อยให้กุ้งมันเน่า..เสียดายครับ

คำตอบที่ 43
       สายแล้ว..วันนี้พวกเราต้องย้ายที่พักไปที่.. “ บัววัฒนา รีสอร์ท ” เป็นรีสอร์ทที่อยู่ใกล้กับธารน้ำร้อนบ่อคลึง..จะได้แช่น้ำอุ่นๆกัน..กำลังช่วยกันเก็บของขึ้นรถ แต่เจ้าอาหารเช้าทั้งไส้กรอก ไข่ดาว .. ทั้งข้าวต้มกุ้ง เล่นเอาพวกเราต้องเปลี่ยนเต้นท์มาเป็นเสื่ออยู่พักนึง..ก่อนที่จะได้ฤกษ์ออกเดินทางกันต่อ..

คำตอบที่ 44
       หลังจากย้ายสัมภาระไปเก็บที่.. บัววัฒนา รีสอร์ท และกางเต้นท์สำหรับสมาชิกที่เหลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เริ่มออกตะลอนกันเลย เพราะวันนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวในสวนผึ้งให้ไปเก็บอีกหลายที่..และที่แรกที่จะไปในวันนี้คือ..“ แก่งส้มแมว ” เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำภาชีที่เราล่องแก่งห่วงยางกันเมื่อวานนี้ แต่ที่แปลกคือที่นี่มีฝูงนกยูงเป็นพนักงานต้อนรับนักท่องเที่ยวครับ..ปกติแล้วนกยูงเป็นสัตว์ที่เชื่องยากมาก..แต่สำหรับที่นี่..มันเดินกันเป็นไก่แจ้กันไปเลย

คำตอบที่ 45
       น้องแอนกำลังพยายามจับเจ้าเหนือมาถ่ายรูปคู่กับเจ้านกยูง..ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าเหนือมันจะสนใจไอ้เจ้าสัตว์ปีกสีสวยสดตัวนี้มั้ย..แต่ผมบอกได้เลยว่าถ้าส่งไก่ย่างให้หลานผมคนนี้หล่ะก็..มันคว้าไปนานแล้ว..ว่าแต่ไอ้เจ้านกยูงตัวนี้มันก็อ้วนใช้ได้เนอะ..

คำตอบที่ 46
       แก่งส้มแมว..น้ำค่อนข้างแรงครับ แต่โซนบนๆด้านหลังแก่งก็สามารถลงเล่นน้ำได้..

คำตอบที่ 47
       ไม่มีใครเล่นน้ำด้วย..นั่งเอาเท้าแช่ก็ยังดี..

คำตอบที่ 48
       ออกจากแก่งส้มแมวช่วงบ่ายๆ..พวกเราวิ่งลึกเข้าไปตามทาง มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านชายแดนที่เรียกได้เต็มปากกันเลยว่าบ้านเล็กในป่าใหญ่ .. “ พุระกำ ”..หมู่บ้านสุดชายแดนหมู่สุดท้ายที่ติดพรมแดนไทยกับพม่า พุระกำเป็นหมู่บ้านเล็กๆเงียบสงบซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ผู้คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม และแน่นอนว่าแม่น้ำภาชี..สายน้ำสายเล็กๆสายนี้ก็ยังคงเป็นพระเอกของคนในหมู่บ้านนี้อีกเช่นกัน..ทางการได้เข้ามาทำฝายน้ำล้นไว้ใกล้ๆกับแปลงเกษตรของชาวบ้าน เพื่อกักน้ำเอาไว้ใช้ประโยชน์กับพืชไร่ พวกเราขับรถข้ามฝายและมาหยุดลงตรงอีกฝั่งนึงของแม่น้ำ..

คำตอบที่ 49
       มีซุ้มดอกเห็ดเล็กๆ..ไว้ข้างทางเดินสำหรับให้นั่งพักด้วย..

คำตอบที่ 50
       ใกล้ๆกันมีเพิงไม้ไผ่มุงด้วยหญ้าคาริมธารน้ำร่มรื่นดี เลยแอบยึดมาเป็นที่มั่นชั่วคราวก่อนละกัน..

คำตอบที่ 51
       จุ๊บ..ขอเดี่ยวซักรูป..ถ่ายบนฝายน้ำล้นครับ ด้านหลังที่เห็นดอกไม้สีเหลืองๆสะท้อนเงาน้ำอยู่นั่นไม่ได้ปลูกไว้แค่ความสวยงามนะครับ..ผมเองก็จำไม่ได้ว่ามันชื่ออะไร แต่ถ้าเราขับรถไปทางเพชรบุรี ผ่าน อ.เขาย้อย หรือ อ.หนองหญ้าปล้อง ในช่วงหน้าแล้งก่อนที่จะมีการปลูกข้าวก็จะเห็นเจ้าดอกสีเหลืองๆนี่โชว์สีสดใสเหลืองไปทั่วท้องทุ่งนาก่อนที่จะถูกไถกลบเพื่อทำเป็นปุ๋ยพืชสดต่อไป

คำตอบที่ 52
       ชัยก็ขอเป็นนายแบบกะเค้ามั่ง..

คำตอบที่ 53
       น้องแอนกับบรรยากาศอีกด้านหนึ่งของฝายทดน้ำ ด้านหลังเป็นแม่น้ำภาชี..ลำน้ำสายเล็กๆ..เล็กจนผมเองแทบจะไม่อยากเรียกมันว่าแม่น้ำ...แต่ด้วยคุณสมบัติเด่นที่พื้นน้ำด้านล่างเป็นหินและกรวดมากกว่าที่จะเป็นดินปนทรายเหมือนแม่น้ำทั่วๆไป..ทำให้สายน้ำสายนี้ใสและเย็นเป็นน้ำตกประกอบกับต้นไม้น้อยใหญ่ที่ชูกิ่งก้านคอยบดบังแสงจากดวงอาทิตย์..สร้างความร่มเย็นและสดชื่นได้เป็นอย่างดีแก่ผู้มาเยือน..

คำตอบที่ 54
       เษมอุ้มเจ้าเหนือมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก..รูปอาจจะออก Rate-R ไปนิดไม่ว่ากันนะครับ..555

คำตอบที่ 55
       รูปครอบครัวซักรูป..นะครับ

คำตอบที่ 56
       ปกติเจ้าเหนือกลัวน้ำมากๆ..ไม่รู้ทำไมวันนั้นดูจะคึกเป็นพิเศษเดินลุยน้ำเล่นใหญ่เลย..แต่ก็คึกได้ไม่นานเพราะผมทำกร่อยซะก่อน..ก็ตอนนั้นเห็นว่ามันไม่กลัวน้ำแล้วจะมานั่งสาดน้ำเล่นกันมันก็จะธรรมดาไปซักหน่อย ไหนๆล้อรถก็เปื้อนๆอยู่พอดี..ผมลงทุนเดินไปสตาร์ทรถวิ่งกลับมาที่ฝายตรงที่เษมกะเหนือนั่งอยู่..แล้วก็...บรื่น..นนนน !!!

..เป็นไปตามแผน..ล้อรถกดน้ำกระจายเป็นอุโมงค์น้ำคร่อมเษมกับเหนือไปอย่างสวยงามเหมือนนักโต้คลื่นรอดเกลียวคลื่นยังไงยังงั้น..ถือเป็นอุโมงค์น้ำที่สวยงามและ Perfect มากๆ..แต่ผมดันลืมคิดไปว่าไอ้เจ้าเหนือมันพึ่ง 2 ขวบ..นอกจากจะไม่สนุก ไม่หัวเราะเอิ๊กๆออกมาแล้ว มันยังร้องไห้โฮลั่นป่า..และวันนั้นทั้งวันมันก็ไม่กลับมาลงเล่นน้ำอีกเลย..โทษทีว่ะเษมกูนึกว่ามันจะชอบ !!!

คำตอบที่ 57
       บ่ายแก่ๆของวันนั้น..ผม เษม และใหญ่มีโอกาสได้เล่นน้ำกัน เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กๆอีกครั้ง.. แอนกะน้องอุ๋มดูแลเจ้าเหนืออยู่บนเพิงพักริมน้ำ..ส่วนจุ๊บกับชัยทำหน้าที่เป็นปาปารัสซี่คอยเก็บภาพให้พวกเราเป็นระยะๆ..

คำตอบที่ 58
       การได้มานั่งแช่น้ำเย็นๆกับเพื่อนๆที่นี่ถือเป็นเรื่องดีอีกเรื่องหนึ่งในทริปนี้..พุระกำ..มีบรรยากาศที่สวยงาม..สงบ..สดชื่น และมีความเป็นส่วนตัวอย่างมากเพราะไม่ค่อยจะมีใครเข้ามากันซักเท่าไหร่ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการได้มาสัมผัสธรรมชาติและหลีกหนีความวุ่นวายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว..

คำตอบที่ 59
       ชัยทำหน้าที่ตากล้องอย่างต่อเนื่องและลุยน้ำเอารูปมาอวดพวกเราเป็นระยะๆ..

คำตอบที่ 60
       ผมเจอห่วงยางอันหนึ่งใกล้ๆกับเพิงริมน้ำจึงถือวิสาสะแอบจิ๊กมาเล่นน้ำด้วย..ใหญ่เกิดติดใจอยากล่องแก่งห่วงยางขึ้นมาอีก แต่ความแรงของน้ำที่นี่ไม่เชียวเหมือนบริเวณที่เราล่องกันเมื่อวานและระดับน้ำก็ตื้นกว่ากันมาก ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นหล่ะครับ..เกยตื้นมันทุกระยะเมตรถึงเมตรครึ่ง คุณไกด์อย่างผมตามไปดันจนเหนื่อเลย..ขำก็ขำ เหนื่อยก็เหนื่อย..ไอ้ใหญ่..ทำไมมึงอ้วนอย่างงี้วะ ?!! ..555

คำตอบที่ 61
       ชัย..ลงมาเก็บภาพหลักฐานการเกยตื้นของใหญ่..โดยมีจุ๊บเป็นปาปารัสซี่แอบถ่ายซ้อนอีกช็อทนึง ..เกือบ 5 โมงแล้ว เราคงต้องรีบกลับออกไปก่อนที่จะมืดเพราะตั้งใจว่าจะแวะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิว..“ ห้วยคอกหมู ” กันอีกด้วย..

คำตอบที่ 62
       พวกเราขับรถกลับออกมาตามทางไปธารน้ำร้อนบ่อคลึง..เลยแก่งส้มแมวออกมาอีกไม่ไกลนัก ทางซ้ายมือจะมีทางแยกลูกรังขึ้นเขาไปซักพักก็จะถึง..“ จุดชมวิวห้วยคอกหมู ” เป็นฐานปฎิบัติการของพวกพี่ๆ ตชด. แต่ต้องกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างไม่ตั้งใจ..พวกเราไปถึงก็เย็นมากแล้ว แสงก็เหลือไม่มากซักเท่าไหร่ ต่างคนต่างก็คว้ากล้องออกมาเก็บภาพเอาไว้..

คำตอบที่ 63
       รีบเก็บรูปให้เษมกับน้องแอนก่อนดีกว่า..เพราะเหนือเริ่มงองแงหนักขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ต้องนั่งรถผมออกมาจากพุระกำ..คงจะจำได้ว่าไอ้รถคันนี้แหละที่สาดน้ำใส่หนู..เต็มๆเลย !!!

คำตอบที่ 64
       รูปหมู่กันซักรูปเนอะ..

คำตอบที่ 65
       รูปวิวกันนิดนึงนะครับ..เสียดายที่แสงหมดเร็วไปหน่อย แถมยังมีเมฆมาบังอีก แต่ทิวเขาจากมุมนี้ก็โอเคครับ..เพียงแต่ส่วนตัวแล้วผมว่าห้วยคอกหมูดูวิวได้แค่ช่องเดียวไม่สามารถดูวิวได้ทั่วทั้ง 360 องศา หรืออย่างน้อย 180 องศาก็ยังดี..รูปนี้เป็นวิวที่ซูมเอาครับ..เพราะต้องมองผ่านช่องที่จำกัด ถ้าหันกล้องไปทางซ้ายรึหันไปทางขวาอีกหน่อยก็จะเจอต้นไม้บังวิวเต็มๆเลย..เป็นมุมบังคับน่ะครับ..แต่ก็เอาเหอะ..ดีกว่าไม่มีให้ดู..

คำตอบที่ 66
       จุ๊บกับการสาธิตภาพเหตุการณ์การหลบหนีเข้าเมือง...?!!

คำตอบที่ 67
       เย็นวันนั้นหลังจากกินอาหารเย็นกันเรียบร้อยแล้ว คุณป๊อป..ซึ่งผมเข้าใจเอาเองว่าเป็นเจ้าของบัววัฒนาฯ รีสอร์ท..ได้พาพวกเราเข้าไปแช่น้ำร้อน ภายในธารน้ำร้อนบ่อคลึง..ครับ..พวกเราเข้าไปแช่กันตอนกลางคืน ประมาณทุ่มกว่าๆ..แต่จ่ายตังค์นะครับ..ไม่ได้แอบเข้าไปเฉยๆ เพียงแต่ว่า คุณป๊อปสามารถคุยให้พวกเราเข้าไปใช้บริการได้หลังเวลาทำการ..

อยากบอกว่าสุดยอดครับ..ได้บรรยากาศมากๆ ทางบ่อจุดเทียนให้พวกเรารอบแนวขอบบ่อ อากาศหนาวๆ ได้มานอนแช่น้ำอุ่นๆภายใต้แสงเทียน และเห็นไอหมอก ลอยอ้อยอิ่งเหนือผิวน้ำ ที่ไม่น่าเชื่อคือมีหิ่งห้อยให้พวกเราได้ดูกันอีกด้วย..เพราะเราเลือกแช่กันที่บ่อกลางแจ้งซึ่งให้บรรยากาศธรรมชาติมากกว่า..เสียอย่างเดียว..ดันมาแช่กับผู้ชายยกแก๊ง...เซ็งเป็ด..

คำตอบที่ 68
       เช้าวันใหม่ผมและเพื่อนๆตื่นกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อรีบขับรถไปที่เขากระโจมโฮมสเตย์..ที่พักคืนแรกของพวกเรา เพราะนัดให้พี่แหม่มกับพี่ชัยโรจน์ช่วยติดต่อรถ 4WD สำหรับขึ้นเขากระโจมเอาไว้ให้.. ประมาณตี 5 ครึ่ง รถที่มารับพวกเราก็ทำหน้าที่ไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆช่วงแรกๆเป็นทางธรรมดา..ผมก็คิดว่าอย่างงี้จะจ้างทำไมว๊า..รถเราก็ไปได้..วิ่งไปได้ซักพัก..สุดทางแล้วก็กลายเป็นพื้นผิวดาวอังคาร ทั้งชันและลื่น แถมมีบางช่วงต้องลุยน้ำชนิดที่รถยกสูงเปลี่ยนล้อไซด์ 30 มาแล้วน้ำยังท่วมเลยขอบประตู..ทางถูกน้ำเซาะเป็นร่องลึกมากๆ ถ้าเป็นรถผมเกิดล้อตกร่องหล่ะก็อาจห้อยต่องแต่งเหมือนถูกแขวนอยู่บนเนินดินก็เป็นได้..แต่ไม่ได้เก็บภาพมาให้ดูกันนะครับ พอดีมันมืดแล้วก็ลุ้นกันจนลืมตัว..รู้สึกตัวอีกทีก็ขึ้นมาถึงยอดเขากระโจมแล้ว..พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดีเลย..สวยครับ

คำตอบที่ 69
       อุ๋มกับแสงสวยๆของพระอาทิตย์ยามเช้า..ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะไม่ได้เห็นทะเลหมอก..เพราะลมค่อนข้างแรง..แต่ความสวยงามของเทือกเขาที่เราได้เห็นก็ให้เรามากเกินกว่าที่คิดไว้มากแล้วครับ..แทบไม่น่าเชื่อว่าใกล้ๆกรุงเทพฯจะมีที่สวยๆอย่างงี้ ปกติถ้าอยากเห็นวิวแบบนี้ในความคิดผมคงจะต้องขึ้นเหนือสถานเดียว !!!

คำตอบที่ 70
       ดวงอาทิตย์เริ่มจะทอแสงแล้ว..

คำตอบที่ 71
       พวกเราก็กดกันเพลินเลยครับ..ผมพึ่งเห็นเทคนิคการใช้ขาตั้งกล้องแบบใหม่จากโปรเษม..สุดยอด..ดดด

คำตอบที่ 72
       ข้างบนลมแรงจริงๆครับ..ขนาดวันนี้อุณหภูมิไม่ค่อยต่ำซักเท่าไหร่ เจอลมอย่างเดียวเล่นเอาน้ำมูกไหลเลย..พอดีรถที่พวกเราเหมาขึ้นมามีบริการแถมขนมปังปิ้งกับกาแฟร้อนๆเอาขึ้นไปต้มกันบนยอดเขาให้ทานด้วย..อากาศเย็นๆกับกาแฟอุ่นๆเข้ากันเสมอหล่ะครับ..อ้อ..ผมลืมบอกไปว่าราคารถที่เหมาขึ้นมาราคา 1500 บาท ราคานี้รวมกาแฟและขนมปังไว้แล้ว ขึ้นไปได้ครั้งละ 8-10 คน..ถ้าสนใจลองโทรถามพี่ชัยโรจน์และพี่แหม่ม เจ้าของ..เขากระโจม โฮมสเตย์ดูนะครับ..เบอร์โทรผมให้ไว้แล้วอยู่ด้านบนครับ

คำตอบที่ 73
       เก็บรูปหมู่ตรงลาน ฮ. ซักหน่อย ..ช่วงปลายฝนต้นหนาว..ลาน ฮ. ถือเป็นทำเลทองที่แย่งกันจับจองเลยครับ..เพราะนอกจากจะหนีปัญหาเปียกแฉะแล้วยังช่วยในการหนีทากที่มีอยู่มากมายในช่วงฤดูฝนได้เป็นอย่างดี..

คำตอบที่ 74
       แล้วก็เก็บป้ายภาคบังคับอีกซักรูป..ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เค้าถึงจะทำป้ายที่เขียนว่า..“ เขากระโจม ”..ซักที ?!!

คำตอบที่ 75
       ระหว่างทางกลับจากเขากระโจม พวกเราจอดรถเพื่อแวะชม.. “ น้ำตกผาแดง ” เป็นน้ำตกขนาดย่อมๆ ต้องเดินเท้าเข้าไปจากทางหลักอีกประมาณ 200 เมตร..

คำตอบที่ 76
       เนื่องจากไม่อยากเสี่ยงเอาเจ้าเหนือมาโต้ลมหนาวๆบนยอดเขากระโจมยามเช้า..น้องแอนเลยต้องอยู่เฝ้าเจ้าเหนือที่รีสอร์ทไปด้วย..ทำให้เช้านี้เษมกลับเป็นหนุ่มโสดอีกครั้ง..ดูได้จากรอยยิ้มนะครับ..สดชื่นเชียว..หุหุหุ

คำตอบที่ 77
       ....

คำตอบที่ 78
       ช่วงนั้นน้ำค่อนข้างน้อย ทำให้เรามีลานหินไว้ให้นั่งเล่นกันได้ แต่ถ้าเป็นช่วงฝน..คงจะไม่มีที่ให้พวกเราแน่ๆ

คำตอบที่ 79
       “ น้ำตกผาแดง ” สมชื่อเลย ..เพราะเป็นสายน้ำที่ทิ้งตัวลงมาจากหน้าผา ซึ่งหินผาบริเวณนั้นมีสีแดงๆอย่างที่เห็นในรูปน่ะครับ..

คำตอบที่ 80
       ชัยและใหญ่..ที่ยิ้มๆกันอยู่นั่นยิ้มสู้นะครับ..รูปนี้ถ่ายขณะเดินกลับขึ้นมาจากน้ำตกผาแดง..ไอ้ตอนลงก็เพลินกันจนลืนนึกไปว่าทางมันชันเอาเรื่อง พอตอนกลับนี่ซิ..เล่นเอาหอบแฮกๆไปตามๆกัน..ขำก็ขำ..อนาถใจตัวเองก็อนาถ..สมัยก่อนพวกเราเดินเที่ยวป่ากันเป็นวันๆ ข้ามเขากันเป็นลูกๆ..แต่ตอนนี้ระยะทางกลับจากน้ำตกมาที่รถแค่สองร้อยกว่าเมตรเท่านั้นเองครับ..แต่เล่นซะหอบกันทั่วหน้า..?!!

คำตอบที่ 81
       กลับจากน้ำตก..พวกเราก็รีบคว้าเสื้อผ้าไปแช่น้ำอุ่นที่..ธารน้ำร้อนบ่อคลึงกันอีกครั้ง คราวนี้ลองดูบรรยากาศตอนกลางวันกันบ้าง..เรายังคงเลือกบ่อกลางแจ้งเหมือนเมื่อคืน..สภาพทั่วไปสร้างได้น่ารักดีครับ..มีการปลูกไม้ตระกูลเบิร์ดไว้รอบๆบ่อ พื้นบ่อประดับด้วยหินธรรมชาติก้อนโตๆจากธารน้ำ..จำลองบรรยากาศธรรมชาติจริงๆมาไว้ได้ดีทีเดียวครับ

คำตอบที่ 82
       เจ้าเหนือคงจะลืมเรื่องเมื่อวานไปแล้ว..เลยกล้ากลับลงมาแช่น้ำอีกครั้ง..

คำตอบที่ 83
       ขอรูปหมู่กันซะหน่อย..

คำตอบที่ 84
       อีกรูปละกันนะ..

คำตอบที่ 85
       ชัยแอบย่อยมาถ่ายรูปเดี่ยวกะจะหล่ออยู่คนเดียว..?!! แต่ยากหน่อยนะ..มีเพื่อนๆอย่างพวกผม..

คำตอบที่ 86
       รูปสุดท้ายของทริปนี้แล้ว..เอาเจ้าตูบที่รีสอร์ทมาฝากละกัน..มันคอยต้อนรับพวกเราตลอดเวลา..ตอนกลางคืนที่เราไปแช่น้ำอุ่น ไอ้เจ้าตัวนี้ก็ยังวิ่งเป็นรถนำขบวนพาเราไปธารน้ำร้อนทั้งขาไปและขากลับ..ผมว่าหน้ามันดูบื้อๆดีครับ..555

พวกเราแช่น้ำอุ่นกันซักพักก่อนกลับไปทานอาหารกลางวันกันที่บัววัฒนาฯ รีสอร์ท..แล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯกันในช่วงบ่ายๆของวันนั้น..นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้มาสัมผัสกับสวนผึ้ง..อำเภอเล็กๆที่เต็มไปด้วยเส่นห์ของธรรมชาติที่สงบและสวยงาม อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมอีกมากมายให้ได้เล่นได้ทำกันไม่รู้เบื่อ..ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนคงจะได้กลับมาเยือนเจ้าอำเภอเล็กๆแห่งนี้ ในอีกไม่นานนัก..กับ “ สวนผึ้ง ”..ราชบุรี

( ลืมไปนิดนึงครับ..ท่านใดที่อยากเข้าไปแช่น้ำในธารน้ำร้อนบ่อคลึง..เวลากลางคืนรึต้องการบ้านพักใกล้ๆธารน้ำร้อน ก็สามารถติดต่อ คุณป๊อป..จากบัววัฒนาฯ รีสอร์ท ได้ที่เบอร์ 085-700-0575 , 085-446-6322 ครับ )

...โชคดีนะครับ

คำตอบที่ 87
       ภาพคมทุกรูปเลยครับ

คำตอบที่ 88
       สวยเยี่ยม
แต่ไอ้จุ๊บนี้มันไปปีนอะไรกันอยู่นั่นน่ะ

คำตอบที่ 89
       อิจฉา ตาร้าย โกรธพี่หนึ่งไม่ได้ไปดำน้ำ อิอิ

คำตอบที่ 90
      
กิ๊ก..ถ้าหมายถึงรูปจากคำตอบที่ 66 ..หล่ะก็..นั่นจุ๊บมันอุตส่าห์เสี่ยงตายเลยนะ ที่กำลังปีนอยู่นั่นเป็นหลุมบังเกอร์ของพี่ๆ ตชด.เค้า..แต่ที่ว่ามันเสี่ยงตายเพราะบังเกอร์ที่มันปีนอยู่ตั้งอยู่บนหน้าผา..พูดง่ายๆคือด้านหลังมันเป็นเหว !!! ..ซึ่งด้านล่างเป็นฝั่งพม่า..

น้องเกิร์ล..ดีแล้วหล่ะครับที่ไม่ได้ไปกะพี่ ทริปหมู่เกาะสุรินทร์ที่ผ่านมาเจอฝนตลอกเลยครับ..เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันเลย แต่ปะการังโอเคนะ..สวยดี แต่ทริปนี้อยู่ในน้ำมันเกือบ 3 วันเต็ม..ดำเช้ายันเย็นกันไปเลย..ใครที่ชอบดำน้ำคงจะหายอยากกันไปอีกนาน..ไว้ทริปหน้าพี่ว่าจะไปตะรุเตาแล้วจะชวนนะครับ..

คำตอบที่ 91
       โอ้วว บรรยายได้ละเอียด

เหมือนได้ไปเที่ยวเองเลยครับ ^_^

คำตอบที่ 92
       รูปสวยดีนะคะ ไว้หนาวหน้าจะไปย้อนรอยบ้างนะคะ....

คำตอบที่ 93
       สวยดีนะพี่อุ๋ม (สถานที่เที่ยวนะ ไม่ใช่รูปตัวเองนะจะ) อิจฉาอะ อยากไปบ้างนะ อยากไปบ้าง

คำตอบที่ 94
       ดูน่าสนุกจังเลยค่ะ ^______^

คำตอบที่ 95
      

คำตอบที่ 96
       เนแล้วอยากไปเที่ยวจัง ขอบคุณกับภาพสวยๆครับ...

คำตอบที่ 97
       เห็นว่าทริปหน้าจะชวนไปตะรุเตา เราขอสนับสนุน
และจะขอร่วมเดินทางในทริปนี้ด้วยคน
แต่ต้องบอกล่วงหน้าหน่อยนะ จะได้จัด schedule ได้ทัน

คำตอบที่ 98
       สวยงาม อบอุ่นดีจริงๆครับ

คำตอบที่ 99
       เที่ยวกับคนรู้ใจ .... ที่ไหนก็มีความสุขใช่ไม๊คะ ...
ชอบค่ะ ....

คำตอบที่ 100
      

คำตอบที่ 101
       รบกวนถามคุณMr.Treker ว่าไปกันวันที่เท่าไหรครับ
เป็นข้อมูล ว่าจะไปตอนเดือนพฤษภาคม อากาศเป็นอยางไรบ้าง
ร้อนมากไหม ขอคุณครับ

คำตอบที่ 102
       คุณมณครับ..เรื่องสภาพอากาศนี่..ผมเองก็ไม่แน่ใจนะครับเพราะพวกผมไปกันช่วง พ.ย. ก่อนปีใหม่อีก.. แต่เห็นคนอื่นๆที่เคยไปบอกว่าสวนผึ้งสามารถเที่ยวได้ทั้งปี..ถ้ายังไงลองสอบถามข้อมูลจากเจ้าของรีสอร์ทรึโฮม สเตย์ จากเบอร์ที่ผมให้ไว้ในกระทู้ข้างต้นซักหน่อยก็ดีนะครับ..ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวครับ..

คำตอบที่ 103
       ขอคุณครับ

คำตอบที่ 104
       Mr.Treker ครับ...........
ค่าเช่ารถ 4 X 4 ขึ้นเขากระโจม เขาคิดเป็นคนหรือเป็นคัน และหนึ่งคันใส่ไปได้กี่คน กำลังขอเรียนแบบทริปของคุณ Treker........ขอบคุณครับ.

คำตอบที่ 105
       ถึง..ลุงนิดใจดีครับ..ค่าเช่ารถที่ผมเช่าราคา 1500 บาท เป็นราคาเหมาคันนะครับ..ไปได้ประมาณ 8 คน มีแถมกาแฟและขนมปังให้ทานข้างบนยอดเขากระโจมอีกด้วยครับ..

ถ้าสนใจลองติดต่อ..เขากระโจม โฮมสเตย์ ..ดูนะครับ
เบอร์ติดต่อและรายละเอียดอื่นๆมีอยู่ในกระทู้ที่ผมเขียนเอาไว้ทั้งหมดแล้วครับ..ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะครับ..

คำตอบที่ 106
       เธญเธขเธฒเธเน„เธ›เธˆเธฑเธ‡เธ„เธฃเธฑเธš.......เธšเธฃเธฃเธขเธฒเธเธฒเธจเธ”เธตเธˆเธฑเธ‡เน€เธซเน‡เธ™เนเธฅเน‰เธงเธญเธขเธฒเธเน„เธ›

คำตอบที่ 107
       เป็นทริปที่น่าสนุกมากๆเลยค่ะ

คำตอบที่ 108
       เขากระโจมน่าไปพิชิตจังเลยครับ...ภาพสวย ๆ ทั้งนั้นเลยครับ

คำตอบที่ 109
       ถ้าขึ้นไปเที่ยวเขากระโจมช่วงนี้น่าจะได้เห็นทะเลหมอกนะคะ แต่ไม่ทราบว่าฝนตกๆอย่างงี้รถที่ให้บริการพานักท่องเที่ยวขึ้นไปข้างบนจะขึ้นไปได้มั้ย อันตรายมากรึเปล่าคะ

คำตอบที่ 110
       ภาพสวยมาก ๆ

คำตอบที่ 111
       พึ่งไปมาเมื่อต้นเดือนสิงหา ไปนอนที่แก่งส้มแมว(กางเต้นท์ที่สวนป่าสิริกิตต์) ลำธารน้ำเยอะ ไม่ขุ่นแดงน่าแช่มากครับ ไปกางในศาลาอยู่คันเดียว ติดห้องน้ำสะดวกแยกชาย/หญิงครับ เสียค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาท เดินทางสะดวกรถเก๋งก้อไปได้ครับ

คำตอบที่ 112
      

คำตอบที่ 113
       089-145-1791 แน่ใจว่าเป็นเบอร์นี้อ่ะ โทรไปไม่ใช่บ้านไร่ไทรงามน่ะ เบอร์ผิดไหม

คำตอบที่ 114
       สุขสันต์หรรษา ครอบครัวฮาเฮ น่ารักมากๆ ครับผม

คำตอบที่ 115
       สุขสันต์หรรษา ครอบครัวฮาเฮ น่ารักมากๆ ครับผม

คำตอบที่ 116
       ภาพสวย สนุกดีคับ มีโอกาศจาไปเที่ยวให้ถึงคับ เคยไปมาแต่มะถึงอิอิ

สนใจบ้านพักที่มีกระจกมากๆ พากิ๊กไปเที่ยวนี่แล่มเลยคับ

คำตอบที่ 117
       รูปสวยดีครับ เที่ยว เขากระโจมก็สวยดีครับ มีโอกาสไปเที่ยวที่ไหนแจ้งให้ทราบบ้างนะครับมีโอกาสจะได้ขอแจมเป็นเพื่อนเที่ยวด้วย รวมกันเราอยู่ แยกกันไว้เจอกันใหม่ครับ