WeekendHobby.com


อุทธาหรณ์ ของการเที่ยวสองคน (จากเรื่องจริง บนเกาะกุฎี) - คุณโป้ง

จาก หนูขาว (คัดลอกมาจากคุณ นู๋โป้ง)
จันทร์ที่ , 7/6/2547
เวลา : 13:39

อ่าน = 1724
199.64.0.252
       ขออนุญาตินำมาบอกกล่าวกันครับ
จาก www.trekkingthai.com
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกาะขึ้นบนเกาะกุฎี เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมานี่เอง ผมคิดอยู่นานว่าจะเขียนมันดีหรือเปล่า
ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะเขียน อย่างน้อยก็เผื่อจะเป็นอุทธาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ และคนที่คิดว่าจะไปเที่ยวที่นี่ ต้องขออภัยถ้าหากมันจะยาวไปนิด
- - - - - - - -- - - - - - - -- - - - - - - -- - - - - - - -

เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมและแฟนจะไปเที่ยวเกาะกุฎี โดยตัดสินใจจะนอนค้างโดยการกางเต็นท์เป็นเวลาสองคืน
โดยไปวันธรรมดา (ไป 13 พ.ค. กลับ 15 พ.ค.) ในตอนที่คิดจะไป ก็ไม่ได้ติดใจเรื่องความปลอดภัยเท่าไหร่นัก
อาจเป็นเพราะผมมีความประสบการณ์ดีๆ กับการไปเที่ยวคนน้อยๆ แบบนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเดินป่า เที่ยวทะเล

อย่างที่หลายๆ คนรู้กัน อากาศช่วงที่ผ่านมาจนถึงช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ตอนไปถึงเรือสปีดโบ๊ตของร้านที่ติดต่อไว้
เค้าบอกไม่มีปัญหา สามารถออกเรือได้ ผมก็ไม่คิดไรมาก เตรียมข้าวของ เต็นท์ อาหารสด ขึ้นเรือ
เรือใช้เวลาแค่ราวๆ 15 นาที ก็ถึงเกาะ ถ้าใครเคยไปคงรู้ว่าเกาะนี้อยู่ไม่ไกลจากเสม็ดเท่าไหร่

พอไปถึงเกาะพบนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเกาะช่วงกลางวันจะเป็นลักษณะซื้อทัวร์มาเที่ยว เย็นๆ ก็เดินทางกลับ
น้องที่ช่วยขนสัมภาระให้ผมพาผมไปพบผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตอนแรกผมเข้าใจว่าเค้าเป็น จนท. ของหน่วยพิทักษ์อุทยานซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกุฎี ผู้หญิงคนนี้บอกกับ ผมเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ผมต้องเสีย (ค่าเหยียบเกาะ 20 บาท, ค่ากางเต็นท์คิดเป็นคืนๆ, ค่าน้ำจืด 500 บาท) ผมเอ๊ะใจเล็กน้อยที่เค้ายังบอกอีกว่า "เต็นท์เดี๋ยวค่อยกางนะน้อง ตอนนี้แขกอยู่เต็ม กางแล้วมันน่าเกลียด" ผมเพิ่งเคยเจอเหมือนกัน ไปถึงแล้วห้ามกางเต็นท์ ทั้งที่ผมก็เป็นนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับ "แขก" ที่ผู้หญิงคนนั้นกล่าวถึง แต่นั่นแหล่ะคับ ถ้ามันเป็นกฎเกณฑ์ของที่นี่ ผมก็ยินดีทำตาม...
พอเริ่มเย็นๆ ผมพบกับผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ตอนนี้เค้าคงเมาพอสมควรแหล่ะ เพราะขนาดยืนกัน*งๆ ยังได้กลิ่นเหล้าคุ้ง เนื่องจากอากาศไม่ค่อยดีนัก ฝนตกยังกะพายุเข้า เค้าจึงให้ผมกางเต็นท์บนอาคารที่เป็นร้านค้าสวัสดิการ จริงๆ แล้วมันไม่เหมือนร้านค้าสวัสดิการเลย เพราะแทบไม่มีของขาย เหมือนอาคารร้างมากกว่า
ผู้หญิงคนนี้เริ่มบ่นว่า อากาศแย่แบบนี้ จนท.ต่างหนีกลับฝั่งกันหมด ผมจึงถามว่าแล้วเหลือ จนท.กี่คนหล่ะพี่ เค้าบอกกับผมว่าเหลือสองคน คือ เค้า และ จนท.
ผู้ชายอีกคน สิ่งที่เค้าพูดยิ่งทำให้ผมเชื่อว่าเค้าเป็น จนท. บนเกาะ

ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกกับ จนท. ผู้ชายคนนั้นอย่างแรง แทบไม่มองหน้ากันเลย เจอกันมีแต่ทะเลาะ ด่าทอกัน แล้วฝ่ายผู้หญิงดูเหมือนจะของตังค์ ขอ ส่วนแบ่งอะไรสักอย่าง ผมได้แต่ดูพฤติกรรมนี้อย่าง*งๆ เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องราวๆ อะไรสักเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าถึงความไม่ชอบมาพากล เช่น ตอนผู้หญิงคนนั้น เจอกับคนขับเรือที่นำนักท่องเที่ยวขึ้นมาบนเกาะ ผู้หญิงคนนี้บอกกับคนขับเรือว่าแขกยังไม่ได้จ่ายค่าเหยียบเกาะเลยนะ คนขับเรือซึ่งพูดแบบไม่ค่อยอยากต่อล้อ ต่อเถียงด้วยก็ตอบไปว่า "แขกของเจ๊... หน่ะ" จำชื่อไม่ได้แล้วว่าเจ๊ชื่ออะไร แต่คงเป็นเจ้าของกิจการท่องเที่ยว ผู้หญิงคนนี้ก็บอกสวนกลับไปว่า "งั้นก็ ไม่เป็นไร แต่ฝากบอกเจ๊... ด้วยนะ ไข่หน่ะหมดแล้ว ตังค์ก็หมดด้วย" ฝ่ายคนขับเรือก็เดินหนีไปแบบไม่อยากจะเจรจา ผมรู้สึกว่าเกาะนี้มีเรื่องผล ประโยชน์อยู่เยอะทีเดียว แล้วปัญหาการทะเลาะนั้นก็อาจจะเกิดจากการแบ่งที่ไม่ลงตัวก็ได้

พอเริ่มมืด นักท่องเที่ยวกลับกันหมดแล้ว เหลือคนเพียง 4 คนบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ ผมเริ่มมั่นใจแล้วว่าเค้าสองคนนั้นเป็นผัวเมียกัน เพราะได้ยินในช่วงที่เค้า ทะเลาะกันนี่เอง แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทะเลาะกันรุนแรงเช่นนี้ แล้วบรรยากาศดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ เพราะต่างฝ่ายต่างก็เมา เค้าสองคนอาศัยอยู่คนละอาคาร (ถัดไปด้านหลัง) ที่ผมกับแฟนอยู่ แต่เสียงทะเลาะนั้นได้ยิน แทบจะตลอดเวลา สลับกับเสียงขวดแก้วแตกหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งพอเดาได้ว่าเป็นผลพวงจากการทะเลาะนั่นเอง

ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันไม่น่าพักซะแล้ว หลังจัดการมื้อเย็นเสร็จ ผมปรึกษาหารือกับแฟนว่าเรากลับพรุ่งนี้ดีกว่า อยู่กันบนเกาะ 4 คน โดย 2 คนเมาและเอาแต่ทะเลาะ อาละวาดกันแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะแก่การพักผ่อนเท่าไหร่ ผมเลยใช้โทรศัพท์มือถือ โทรไปหาร้านที่ผมเช่าเรือมาเพื่อจะขอเปลี่ยนเวลากลับ แต่ ...ไม่สามารถติดต่อได้ คงเป็นเพราะพายุฝนที่เพิ่งผ่านไป ทำให้สายโทรศัพท์เสีย

เวลาประมาณสองทุ่ม ผมกางเต็นท์บนอาคารร้านค้าสวัสดิการ ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่ เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวแล้วเอามีดเก็บไว้ใน เต็นท์ด้วย ถ้ามากันเป็นกลุ่มผมก็ไม่รู้สึกกลัวเท่าไหร่ แต่นี่ผมรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยมาก โดยเฉพาะห่วงแฟนผม

เราเข้ากันไปในเต็นท์ แต่ยังไม่ได้หลับ เพราะอากาศค่อนข้างอบอ้าว ผมกับแฟนนั่งคุยกันในเต็นท์ไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีของการมาเที่ยวครั้งนี้
ผมยังคงได้ยินเสียงของผัวเมียคู่นั้นทะเลาะกัน เสียงแก้วแตกยังคงมาเป็นระยะๆ ขณะนั้นอาคารยังเปิดไฟที่ได้มาจากเครื่องปั่นไฟอยู่

และแล้ว... เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เสียงปืนนัดแรก ดังก้องไปทั้งเกาะ ผมซึ่งนั่งอยู่ในเต็นท์รู้สึกวูปไปทั้งตัว เหตุการณ์ตอนนั้นมันสับสนมาก ผม ตัดสินใจ เปิดเต็นท์ออก หยิบไฟฉายและโทรศัพท์ติดมือมา ออกมานอกเต็นท์เห็นไม่มีใคร ผมจึงกระซิบเรียกแฟนให้ตามออกมา เราสองคนรีบเดินไปที่หาด หน้าเกาะซึ่งอยู่ในความมืด ความคิดตอนนั้นคือ หนีไปอยู่ที่มืดก่อน แล้วพยายามโทรหาคนมาช่วย อย่างน้อยการอยู่ในที่มืดก็ช่วยให้เราเห็นความเคลื่อนไหวได้ ชัดเจนกว่า ถ้าใครสักคนจะทำอะไรสักอย่างเราคงเห็นกันก่อน และแย่สุดก็โดดลงน้ำหนีเอาตัวรอด...

ผมพยายามโทรหาญาติซึ่งอาศัยอยู่ในตัวอ. เมือง บอกเค้าถึงสถานการณ์ตอนนี้ แล้วก็เรื่องเสียงปืน ขณะโทรอยู่นั้น เสียงปืนนัดที่สองก็ดังขึ้นอีก
ตอนนั้นสับสนไปหมด ไม่รู้มันเรื่องอะไร แต่ที่แน่ๆ ผมไม่มั่นใจนัก ว่าเราจะรอดจากเกาะนี้ไปได้หรือเปล่า อีกทั้งอากาศที่เลวร้ายแบบนี้ ฝนยังตกปรอยๆ มืดก็มืด ไม่รู้เรือจะยอมมารับหรือเปล่า
เสียงปืนดังขึ้นทั้งหมดสามนัด น้าผมบอกว่าให้อยู่ให้เงียบที่สุด เค้าจะขับรถจากอ. เมืองมาที่บ้านเพก่อน เพราะรู้จักกับตำรวจที่นี่ แล้วค่อยหาเรือมาช่วย
ผมย้ำกับน้าผมว่าอย่าพยายามติดต่อกับจนท. บนเกาะ ผมไม่อยากให้เค้ารู้ว่าเราติดต่อใครบนฝั่ง และพยายามจะหนีกลับ เพราะกลัวความปลอดภัยของเราสองคน

เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง มันคงเป็นหนึ่งชั่วโมงที่ยาวนานที่สุดที่ผมเคยรู้สึก น้าผมติดต่อกลับมาว่าตอนนี้ได้เรือแล้ว กำลังออกเดินทางมา แล้วก็มีตำรวจมาด้วยหนึ่งนาย ตอนนั้นผมใจชื้นขึ้นมาบ้าง จะอย่างไรเสียก็คงไม่เกิน 20 นาทีเรือคงจะมาถึง แล้วถ้าเกิดไรขึ้น ตอนนี้ไปลอยคอ รอเรือมารับก็ยังไหว
เวลาหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานั้น ผมเห็นเงาคนเดินไปมาบนอาคาร ที่เราพักสามสี่ครั้ง โดยเป็นเงาของจนท. ผู้ชาย ซึ่งทำให้เราเครียดมากทีเดียว เพราะไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร ที่แน่ๆ เรามากันแค่ 2 คนแบบนี้ ผมไม่เข้าไปถามดีกว่า

พอเรือมาถึง ผมให้แฟนขึ้นไปรอบนเรือก่อน แล้วผมกับเด็กที่มากับเรือจะขึ้นไปเอาสัมภาระบนอาคาร ซึ่งตอนหลังน้าผมและตำรวจก็ตามมาสมทบบนอาคาร สิ่งแรกที่เมื่อไปถึงบนอาคาร
ผัวเมียคู่นี้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว พร้อมกับปืนลูกซองหนึ่งกระบอกวางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ กับจนท. ผู้ชาย คนที่เป็นเมียพยายามถามว่าเกิดไรขึ้น ทำไมมีเรือมา ผมก็ได้แต่ตอบแบบเลี่ยงๆ ไปว่า
อากาศไม่ดี ขอกลับก่อนดีกว่า (จริงๆ แล้ว เกรงๆ ปืนกระบอกนั้นซึ่งวางอยู่ใกล้กับเค้ามากกว่า เลยไม่อยากพูดไรมาก) แล้วผมก็ถามถึงค่าใช้จ่ายว่าผมจะจ่ายค่าน้ำ ค่าเหยียบเกาะ ค่ากางเต็นท์
ให้เลยก่อนก่อนละกัน ทางเค้าก็รีบบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น รู้สึกเหมือนคนสองคนนี้จะร้อนตัวมาก โดยเฉพาะผู้หญิง พอตำรวจกะน้าผมขึ้นมา เค้ารีบบอกเลยว่าเป็นผัวเมียกัน
แล้วผมกะแฟนที่รีบกลับคงเป็นเพราะเสียงปืน ทั้งที่จริงๆ ไม่มีใครถามถึงเลย แต่ดูเหมือนเค้าจะรีบพูดมากก่อนเอง เค้าพยายามแก้ตัวว่าการยิงปืนนี้เป็นการยิงขู่โจรซึ่งจะมาปล้น (ทั้งที่ผมไม่เห็นว่าที่นี่จะมีของมีค่าอะไรมากมาย นอกจากแก็สหนึ่งถัง) เค้าบอกอีกว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อวานก็ยิง วันก่อนก็ยิง (สงสัยเหมือนกันว่าถ้ามันเป็นเรื่องปกติ ก็ไม่ใช่จะบอกกันล่วงหน้าไม่ได้) เค้ายังแก้ตัวอีกว่าไปยิงที่ท้ายเกาะขู่โจร (ซึ่งจริงๆ แล้ว เสียงที่ผมได้ยินมันไม่ใช่เลย ไม่ใช่จากทางด้านนั้น, อีกอย่างจนท. อยู่แค่คนเดียว ต่อให้เกาะมันไม่ใหญ่มาก จะไปเฝ้าถูกด้านเลยหรือ ยังกะนัดกันเลย สองทุ่ม โจรจะมาจากด้านนี้ มันช่างไม่สมเหตุสมผลเลย เค้าน่าจะเฝ้ารักษาความปลอดภัยที่สำนักงานมากกว่า จะไปเดินเฝ้าแถวท้ายเกาะ เพราะเรือสามารถเทียบได้ตั้งหลายด้าน อีกอย่าง ท้ายเกาะเป็นด้านคลื่นลมปะทะ ดูไม่มีเหตุผลเท่าไหร่)

ยังมีพิรุธอีกหลายอย่างแต่ถึงตอนนี้ผมไม่อยากจะไปต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้ว ขากลับมาเสียค่าเรือแพงกว่าขาไปราว 5 เท่า เพราะคนละเจ้ากัน แต่เท่าไหร่ก็ไม่เสียดายแล้ว ตอนนั้นคิดว่าอย่างไรคงอยู่บนเกาะต่อไม่ไหว กลับถึงฝั่งผมก็ไปเครียร์ค่าเรือกับร้านที่เอาเรือไปส่งผม ทางเค้าก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นผมกลับมาแบบกระทันหัน แล้วก็ขอโทษเป็นการใหญ่ที่ไม่รู้เลยไม่ได้ไปรับ สำหรับเรื่องบนเกาะไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เค้าก็พอเข้าใจเรื่องดี เพราะเค้าบอกว่าเรื่องมันเกิดหลายครั้งแล้ว เค้าพอจะเดาได้ คนขับเรือยังเล่าอีกว่า มันเพิ่งมาเริ่มแย่เมื่อไม่นานมานี้เอง ซึ่งเค้าก็แนะนำให้ผมเขียนหนังสือร้องเรียนไปให้ทางอุทยานเพื่อให้เค้าแก้ไข อย่างน้อยปล่อยไว้ก็เป็นการทำลายการท่องเที่ยว ...
เรื่องก็มีประมาณนี้แหล่ะคับ ขออภัยที่ยาวไปหน่อย แต่อยากให้เข้าใจว่าเรื่องราวขณะนั้นเป็นอย่างไร ก่อนไปเที่ยวผมได้หาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร

ผมอาจประมาทไปก็ได้ที่ไปกันแค่สองคน หรือในแง่ตรงกันข้าม ผมอาจตื่นตูมไปกับแค่เสียงปืน....


เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       บรรยากาศ สยองเหมือนกับหนังเรื่อง i still know what you did last summer เลย
อ่านแล้วผมคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่ขอไปเที่ยวพักแรมบนเกาะนี้ ขอบคุณคุณหนูข่วที่เอาข้อมูลมาฝากครับ



จาก super_m  203.144.146.98  อังคาร, 8/6/2547 เวลา : 10:27   


คำตอบที่ 2
       ขอบคุณมากค่ะที่กรุณานำมาเล่าต่อๆกันฟัง มีประโยชน์มากทีเดียวสำหรับคนชอบท่องเที่ยวแบบคนน้อยๆ เพราะเรากับสามีก็ชอบไปกันสองคนและยังไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้เลย (ไม่เจอน่ะดีแล้วเนอะ) จะจำไว้เป็นอุทธาหรณ์และต้องรอบคอบมากยิ่งขึ้น...นับเป็นภัย จริงๆ ดีใจด้วยนะคะที่คุณสองคนปลอดภัย



ต้อมคนสวย จาก ต้อมคนสวย  202.176.150.144  ศุกร์, 11/6/2547 เวลา : 20:46   


คำตอบที่ 3
       สยองเลย เรียบเรียงดีจริงๆ
ไปไหน สงสัยต้องเกาะเป็นกลุ่มๆแล้ว



จาก แป๊ะหล่อ  169.210.8.50  อาทิตย์, 11/7/2547 เวลา : 17:20   


คำตอบที่ 4
       อูยยยส์ อ่านแล้ว ขนลุก... น่ากลัวจัง
น่าจะเป็น แง่คิดให้ตั้งสติ เวลาไปเที่ยว(ไปกันน้อยๆ คน) ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะอาจมีเหตุการณ์ ไม่คาดฝัน เกิดขึ้นได้เสอ

ขอบคุณ นะครับ ที่นำมาเล่า สู่กัน ฟัง



จาก ฉาย  128.88.255.122  ศุกร์, 16/7/2547 เวลา : 10:55   


คำตอบที่ 5
       อูยยยส์ อ่านแล้ว ขนลุก... น่ากลัวจัง
น่าจะเป็น แง่คิดให้ตั้งสติ เวลาไปเที่ยว(ไปกันน้อยๆ คน) ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะอาจมีเหตุการณ์ ไม่คาดฝัน เกิดขึ้นได้เสอ

ขอบคุณ นะครับ ที่นำมาเล่า สู่กัน ฟัง



จาก ฉาย  128.88.255.122  ศุกร์, 16/7/2547 เวลา : 10:55   


คำตอบที่ 6
       นี่แหละที่บอกว่า ผีไม่กลัว กลัวคนมากกว่า เจ้าหน้าอุทยานเข้ามาแก้ไขหรือยังครับ



จาก เอวัง  203.156.90.108  ศุกร์, 13/8/2547 เวลา : 19:15   


คำตอบที่ 7
       น่าจะพาพรรคพวกย้อนกับไปสังคยนากันหน่อยครับ แย่มากมากเลย



จาก ฝาดำ  202.183.162.249  เสาร์, 21/8/2547 เวลา : 22:01   


คำตอบที่ 8
       หัวหน้าอุทยาน ฯ ไม่ออกมาชี้แจงหน่อยหรือครับว่าเกิดขึ้นได้ยังไงในเขตของอุทยาน ฯ ทำให้คนที่กำลังคิดจะไปเที่ยว ไม่กล้าไป



จาก นักท่องเที่ยว  202.250.232.254  พุธ, 1/9/2547 เวลา : 07:39   


คำตอบที่ 9
       unseen ของแท้เลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล ไปไหนจะได้ระวังไว้ครับ



จาก andaman  203.156.15.243  พุธ, 1/9/2547 เวลา : 10:58   


คำตอบที่ 10
       ก่อนไปเที่ยวต้องไปยืม m16จากทหาร มาก่อนแล้วครับ จะได้ปลอดภัยกัน



จาก อัศ  203.209.121.233  ศุกร์, 3/9/2547 เวลา : 02:06   


คำตอบที่ 11
       น่ากลัวครับ หนีแทบไม่ทัน ขอบคุณที่มาเปิดเผยความจริงครับ



จาก x  202.129.44.198  ศุกร์, 17/9/2547 เวลา : 17:15   


คำตอบที่ 12
       โห...ไม่นึกว่าจะเลวร้ายขนาดนี้เลยนะครับ ผมเคยไปพักมาสองครั้ง ครั้งแรกช่วงสงกรานต์เมื่อสองปีที่แล้วก็ดีนะครับ แต่พอไปครั้งที่สองไม่ใช่ช่วงเทศกาลใหญ่อะไร..รู้สึกไม่ดีเอามากๆเลยครับ ทุกอย่างเป็นเงินไปหมดเลยครับ ตอนนั้นจนท.ที่ดูแลอยู่ชื่อกรครับ แรกๆก็นึกว่าจะดีครับแต่พออยู่ๆไปหางก็เริ่มออกครับ ช่างเถอะครับมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าที่คุณเจอหรอกครับ โชคดีจริงๆครับที่คุณมีสติตัดสินใจได้ดีมากครับ....



จาก จิ้งจกทะเล  210.86.162.145  อาทิตย์, 26/9/2547 เวลา : 10:31   


คำตอบที่ 13
       ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลต่างๆ นับว่ามีประโยชน์มาก แก่คนอื่นๆ จะได้ระมัดระวังกันไว้ครับ.....



จาก LS44  202.57.159.9  ศุกร์, 8/10/2547 เวลา : 22:44   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 7:37:20

Error processing SSI file