คำตอบที่ 1
       ว้าว...ว้าว ......มาแล้ว.....
รอชมอยู่ค่ะ ......

คำตอบที่ 2
       การเตรียมตัว ต้องทำPassport ของรถ เล่มสีม่วง ที่ขนส่งทางบก (การที่จะทำได้รถต้องไม่ติดไฟแนนซ์ครับ เท่าที่ทราบมานะครับ) ค่าใช้จ่ายประมาณ 250 บาท เราจะได้สมุดเล่มม่วงและแผ่นทะเบียนสากล 1คู่ (ใช้เวลาประมาณ 40 วันถึงจะได้ป้ายครับ ส่วนผมเองไปยังไม่ได้ป้ายครับ ถามทางเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าไปได้) Passport ของผู้เดินทาง ใบขับขี่ที่นิยมเรียกกันว่า ใบขับขี่สมาร์ท เห็นว่าสามารถใช้ขับขี่รถได้ใน 11 ประเทศในอาเซี่ยน (เอาใบขับขี่เก่าไปแลก และเพิ่มเงิน 255 บาท รอรับได้เลย (ควรจะหล่อหน่อยนะครับเพราะเขาจะต้องถ่ายรูปติดบัตรใหม่เลยครับ)

การเตรียมรถ จากข้อมูลที่ว่าเป็นทางขึ้นเขาและมีโค้งมาก ผิวการจราจรไม่เรียบ ไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากนัก และอยู่บนเขาตลอดเวลา การตรวจเช็คช่วงล่างเบรคนั้นจำเป็นมากๆครับ การใช้ไฟทั้ง spot และ driving light สำคัญมาก (สำหรับผมมีอยู่หลายช่วงที่ต้องเดินทางกลางคืนในลาวครับ) ในกรณีที่ต้องใช้ถนนเวลากลางคืน น้ำมันเครื่องใก้ลครบกำหนดเปลี่ยนถ่ายก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนไปเลย (Mobil 1 ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเลยตลอดเวลาการเดินทาง)

คำตอบที่ 3
       เริ่มออกเดินทางจาก กทม. เวลาโดยประมาณ 6:00 น. จุดแรกที่แวะทานอาหารเช้าข้าวราดแกง ที่ปั๊มปิโตรนัส (Q8 เก่า) แก่งคอย สระบุรี (จำชื่อร้านไม่ได้ครับ แต่ร้านนี้มักจะใช้เป็นจุดนัดพบของกลุ่มจักรยาน BPMTB) รสชาดอร่อยครับ

คำตอบที่ 4
       สวัสดีครับคุณพลายแก้ว ผมได้ไปเที่ยวหลวงพระบางตามที่ได้บอกไปแล้วนะครับ อิ อิ (คนที่จุดประกายคือ The Bier ไม่ได้ไป)

จากนั้นใช้เส้นทางวิ่งรวดเดียวถึงหนองคาย( ประมาณ 500 กม.) เพื่อทานข้าวเที่ยงที่ร้านแดงแหนมเนือง แต่โชคร้ายที่วันนี้เขาปิดทำความสะอาด เลยไปทานที่ร้าน เส้นใหญ่ ก๊วยเตี๋ยวติดแแอร์(อยู่ใก้ลๆกันครับ) ก๊วยเตี๋ยวรสชาดอร่ย แม่ผมยังติดใจ ก๊วยเตี๋ยวบก อยู่เลยครับ อิ อิ (คงมีซ้ำ)

คำตอบที่ 5
       ทางเข้าตลาดอินโดจีนที่ท่าเสด็จ ใก้ลๆร้านอาหารที่ทานอะครับ

คำตอบที่ 6
       เราออกจากหนองคายประมาณ บ่าย 2 โมง (ซื้อของไปทั้งหวานและคาวไปทานระหว่างทาง เพราะไม่แน่ใจในเส้นทางและระยะทาง แถมเติมน้ำมันใส่ถังพิเศษไปอีก 30 ลิตร) ถึงด่านไทย ประมณเกือบบ่าย 3 โมง ทำเรื่องการเดินทางข้าม ไม่ยากครับมีคนแนะนำ (เจ้าหน้าที่อาจจะดุนิดๆก็ไม่ว่ากันครับ) ต้องกรอกเอกสารที่ ตม. ก่อน เมื่อเสร็จแล้วก็ไปดำเนินการแจ้งการนำรถออกที่ศุลกากร (ใช้เล่มสีม่วงนะครับ) หากจำไม่ผิดตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย ต้องจัดเก็บเอกสารที่ทางศุลกากรออกให้เป็นอย่างดีนะครับ เพราะต้องใช้ตอนขากลับเข้าประเทศ (หากหายละก้อคงจะต้องคุยกันนานหน่อย) เมื่อเสร็จแล้วก็ขับรถข้ามสะพานมิตรภาพเลย (ถึงตรงนี้มันตื่นเต้นบอกไม่ถูกนะจะได้ไปต่างประเทศแล้ว อิ อิ) เมื่อลงสะพานมาก็ต้องเสียค่าเข้าประเทศลาว ประมาณ 10 บาท (หากจำไม่ผิดนะ เพราะจะเสียค่าธรรมเนียมเยอะมากครับ) จากนั้น ทำเรื่องคนเข้าประเทศก่อน ต้องกรอก arrival form เมื่อเสร็จเรื่องคนก็ทำเรื่องรถนำเข้า (ต้องเสียค่าธรรมเนียม น่าจะประมาณ 180 บาท นะครับ) เอกสารที่ทางศุลกากรลาวให้มา(ใบสีเขียวอ่อน) ต้องจัดเก็บให้ดีนะครับ เพราะต้องใช้ขาออกด้วย เจ้าหน้าอาจจะขอเบิ่ง (ภาษาไทยแปลว่าขอตรวจดูของที่นำมาด้วย) เมื่อนำรถเข้าประเทศมาแล้ว ต้องไปซื้อประกันภัย (7 วัน เป็นขั้นต่ำ) ประมาณ 180 บาทครับ เวลาขณะนั้นบ่าย 4 โมงเย็นแล้วละซิ ไปแลกเงินที่ธนาคารพงสะหวัด ที่อยูาใก้ลๆ ประกันภัย อัตราแลกเปลี่ยน 254 กีบ = 1 บาท แลกเผื่อใช้จ่าย 20,000 บาท แลกได้ 5,080,000 กีบ (ตื่นเต้นเงินมากจริงๆ อิ อิ) ใบละ 50,000 กีบ ก็ดูไม่เยอะเท่าไรนักครับ ที่ลาวคิดว่าเขาไม่นิยมใช้บัตรเครดิตกันนะครับ ที่ไหนๆก็ใช้เงินสดกันทั้งนั้น ร้านค้าที่ลาวเขารับเงินไทย (ปกติจะใช้ 240 กีบ = 1 บาท นะครับ) และ US$

เมื่อทุกอย่างเสร็จหาเส้นทางไปยังเวียงจันทร์ (22 กม.) ช่วงนี้ขอแนะนำให้ปรับตัวขับชิดขวาเพราะถนนช่วงนี้ยังเป็น 4 เลนครับ (ขับไม่ยาก) สามารถแซงซ้ายแซงขวาได้ จะมีรถตู้ (ฮุนได) วิ่งกันเยอะมาก คิดว่าน่าจะเป็นรถโดยสารของที่นี่ครับ

ที่ลาวนี่จะไม่ค่อยมีป้ายบอกชื่อถนน ซ้าย/ขวา ไปไหนไม่มีบอกครับ ผมก็หลงเข้าไปในตัวเมืองเวียงจันทร์อย่างไม้ได้ตั้งใจ (เพราะต้องรีบไปวังเวียง กลัวว่าจะมืด โรงแรมก็ไม่ได้จอง) สรุปว่าหลงทางแล้ว แต่ก็ไม่ยากครับเพราะถามได้ตลอดทางครับ (ภาษาที่ใช้ก็คล้ายกันพอเดากันได้) กว่าจะออกจากเวียงฯได้ก็เกือบ 6 โมงแล้วครับ เริ่มมืดแล้ว ถนนเริ่มเปลี่ยนเป็นเลนเดียวแล้ว เส้นแบ่งถนนก็ไม่มีเส้นขอบถนนก็ไม่มี ขับยากเหมือนกันครับ (ผมเคยมีประสบการณ์ขับรถพวงมาลัยซ้ายมาก่อนแล้ว) แถมถนนใช้ความเร็วไม่ได้มาก มีทั้งผู้ใช้เส้นทางหลากหลาย คนเดินถนน (ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนแล้วแต่ไม่กลัวรถกันเลย แปลกที่นี่ไม่มีใครใช้แตรเลยวิ่งกันเงียบ นานๆทีได้ยินแตรรถบรรทุก กว่าจะถึงวังเวียง (ระยะทาง 160 กม.) 3 ชม. ดูแผนที่เมืองวังเวียงที่ติดมาเพื่อไปหาที่พัก Elephant Crossing ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ครับ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือบอกทางมาจนถึง อยู่ตรงข้ามโรงหมอ (โรงพยาบาล) นั่นเอง หลังจากcheck-in ก็อยากไปร้านไผ่คำ ปรากฎว่าร้านปิด เลยต้องไปทานอาหารที่โรงแรมครับ ผู้โดยสารคงจะเพลียจากการเดินทางดูได้จากสีหน้าคุณแม่และน้าผมครับ

คำตอบที่ 7
       สำหรับ ผบทบ และลูก ของผมยังไหวครับ ที่เห็นคือหมูทุบ จากร้านแดงแหนมเนือง กินลองท้องกันมาตลอดทาง เส้นทางที่มามีขึ้นเขาอยู่พอสมควร แถมผมไม่ชินกับสภาพถนน แต่ได้ไฟ spot / driving light ช่วยได้มากครับ ความเร็วที่ใช้อยู่น่าไม่เกิน 80 กม./ชม. ตามทางมีด่านเก็บค่าผ่านทางอยู่ 2 ด่าน (ด่านละ 5,000 กีบ)

คำตอบที่ 8
       อาหารจานแรก(อาจจะสีไม่สวยนักนะครับเพราะไม่ใส่พริกครับ) ลาบหมู รสชาดใช้ได้ครับ

คำตอบที่ 9
       ต้มยำไก่ (เน้นไม่ใส่พริก) ไข่เจียวทรงเครื่อง ครับ

คำตอบที่ 10
       เมื่อคืนเข้ามายังไม่เห็นหน้าตาของโรงแรมเลย เพิ่งจะเห็นก็เช้านี้ละครับ โรงแรมติดอยู่กับแม่น้ำซอง นับว่าเป็นโชคดีของเราที่บังเอิญมีห้องว่าง ให้พวกเราได้พัก ปกติช่วงนี้จะเต็ม ค่าที่พักตกคืนละ US$ 40 มีอาหารเช้าให้ด้วยครับ

คำตอบที่ 11
       ทางเข้าโรงแรม (เป็นโรงแรมที่หลายๆเวปแนะนำครับ) ถือว่าใช้ได้ครับ

คำตอบที่ 12
       พร้อมสำหรับอาหารเช้าแล้วครับ วันนี้มีทัวร์ไทย (Ocean Smile) เข้าครับ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ที่เมืองไทยเลยครับ ดูแต่ละคนแล้วแสดงว่าพร้อมลุยแล้วซินะ

คำตอบที่ 13
       คุณน้าก็พร้อมลุยแล้วเช่นกัน ต้องขอขอบคุณไกด์สาว (จำชื่อไม่ได้ต้องขอโทษด้วยนะครับ) ที่ให้คำแนะนำสำหรับการเดินทางสู่หลวงพระบาง ซึ่งระยะทางประมาณ 300 กม. เป็นเขาโดยตลอด ไม่มีรั้วถนนกัน ไม่มีเส้นแบ่งถนน ไม่มีเส้นขอบถนน ถนนมีขนาดไม่ใหญ่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก

คำตอบที่ 14
       ภูเขาตรงข้ามโรงแรมครับ อาการวันนี้ไม่มีฝนตกแต่อาการค่อนข้างร้อนครับ

คำตอบที่ 15
       วังเวียงหรือกุ่ยหลินเมืองลาว มีหินลักษณะแปลกๆสวยๆเยอะครับ ถ่ายไม่หมด (ผมเองก็เพียงถ่ายรูปเป็นแต่ไม่เก่งเท่าไรนักครับ) วันนี้เราตื่น 6 โมง กิน 7 โมง เดินทาง 8 โมง ครับ เห็นว่าจะต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม.

คำตอบที่ 16
       วังเวียง ผมเห็นมีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวกันมากครับ ในตัวเมืองก็ไม่ใหญ่เท่าไรนัก น่าจะคล้าย อ.ปาย บ้านเรา กิจกรรมที่นี่น่าจะเป็นแนว adventure ซึ่งไม่เหมาะกับคณะของผมนัก เลยขอมุ่งหน้าเข้าหลวงพระบาง The World Heritage ดีกว่า

คำตอบที่ 17
       เรือบริการนักท่องเที่ยว ขึ้นที่หน้าโรงแรมเลยครับ

คำตอบที่ 18
       เรือให้บริการมีหลายลำ

คำตอบที่ 19
       เริ่มออกเดินทางกันแล้วครับ ตอนขามาไม่มีใครอยากจะถ่ายรูปกันเลย มืดและเหนื่อยกันด้วย อยากจะให้ถึงที่พักไวๆ สำหรับวันนี้ทุกคนดูสดชื่นกันทุกคนครับ

คำตอบที่ 20
       ทิวทัศน์สองข้างทางเส้นทางสู่หลวงพระบางครับ

คำตอบที่ 21
       ทิวทัศน์สองข้างทางเส้นทางสู่หลวงพระบางครับ

คำตอบที่ 22
       ทิวทัศน์สองข้างทางเส้นทางสู่หลวงพระบางครับ

คำตอบที่ 23
       ภาพผู้ใช้ถนนร่วมกันกับรถยนต์ ซึ่งมีให้เห็นจนเป็นเรื่องปกติของการใช้ถนน ต้องระวังเพราะเขาจะไม่หลบเราแม้เราจะเตือนด้วยเสียงแตรแล้วก็ตาม

คำตอบที่ 24
       เส้นทางสู่หลวงพระบาง

คำตอบที่ 25
       เส้นทางสู่หลวงพระบาง

คำตอบที่ 26
       เส้นทางกำลังจะขึ้นเขาแล้วครับ

คำตอบที่ 27
       เขารูปทรงแปลกๆครับ

คำตอบที่ 28
       ลืมใส่ภาพครับ

คำตอบที่ 29
       ขึ้นเขามาสักพักจะเจอร้านอาหารนี้อยู่ข้างทาง (คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่สูงที่สุดของช่วงนี้ครับ) บรรยากาสดีมาก ทิวทัศน์สวยงามมาก มีบริการห้องน้ำ( 5 บาท) และที่จอดรถขนาดใหญ่

คำตอบที่ 30
       ทิวทัศน์แบบสุดลูกหูลูกตาเลยครับ สวยงามมากอากาศก็สดชื่นครับ

คำตอบที่ 31
       อีกมุมหนึ่งครับ

คำตอบที่ 32
       ไม่ทราบว่าเป็นต้นอะไรแต่ดูมันก็สวยดีครับ

คำตอบที่ 33
       ภาพเส้นทางที่ขึ้นมาแล้วช่างยาวเสียเหลือเกินครับ

คำตอบที่ 34
       1 ในหลายๆ พันโค้งครับ

คำตอบที่ 35
       ถึงจะมีความโหดของโค้งอยู่แต่ก็ยังคงแฝงด้วยความสวยงามครับ

คำตอบที่ 36
       ภาพภูเขาในภูเขาที่สูงตระหง่านครับ

คำตอบที่ 37
       ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

คำตอบที่ 38
       ขอผมเดี่ยวซักภาพซิครับ

คำตอบที่ 39
       ภาพคู่สักภาพครับ

คำตอบที่ 40
       ขับไปสักพักใหญ่ก็จะพบสามแยกที่เมืองพูถูบ ซึ่งเป็นจุดแยกที่เชื่อมทางหลวงหมายเลขสาย 7 (ไปเวียดนามได้) ซึ่งขากลับจะแวะไปโพนสะหวันครับ

คำตอบที่ 41
       ซ้ายไปหลวงพระบาง (อีก 130 กม.) ส่วนทางขวาไปโพนสะหวัน (อีก 133 กม.)

คำตอบที่ 42
       ตรงนี้มีรถแวะจอดเยอะครับเราก็เลยถือโอกาสพักยืดเส้นยืดสายบ้าง ไม่มีห้องน้ำต้องไปขอร้านค้าเข้าครับเสียคนละ 1,000 กีบ ( 4 บาท) ชุมทางนี้มีของขายเยอะครับ

คำตอบที่ 43
       มีคนแนะนำให้ซื้อพวกส้มไปทนแก้เมารถเพราะจากตรงนี้เป็นต้นไป ทางจะโหดกว่านี้อีกครับ

คำตอบที่ 44
       มีคนแนะนำให้ซื้อพวกส้มไปทานแก้เมารถเพราะจากตรงนี้เป็นต้นไป ทางจะโหดกว่านี้อีกครับ จะมีโค้งมากขึ้นและชันด้วย

คำตอบที่ 45
       ขอน้องแม่ค้าถ่ายรูป น้องเขาพูดไทยชัดมาก ถามว่าไปเรียนที่ไหนมาเขาว่าเรียนจาก ละครทีวีของไทย ครับ

คำตอบที่ 46
       สาระพัดปิ้งๆย่างเลือกได้เลยครับ

คำตอบที่ 47
       ฝั่งตรงข้ามจะขายของใช้เท่าที่ถาม ของที่ขายจะมาจากประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่

คำตอบที่ 48
       และแล้วไวเหมือนโกหกคณะเราก็มาถึงหลวงพระบางแล้วครับ ไม่มีรูปเพราะแต่ละคนมือไม่ว่างต้องหาที่จับเพราะแรงเหวี่ยงของรถขณะเข้าโค้ง เวลาตอนนั้นก็เกือบบ่าย 2 โมงแล้ว ต้องหาที่พักก่อน ตามโพยที่ให้มา เขาแนะนำที่ The Chang Heritage Resort ริมน้ำคาน สวยงามมากและดูดีมากๆครับ (ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง SOMEWHERE IN TIME)แต่หลังจากที่เข้าไปถามราคาที่พักแล้วคืนละ US$ 200 (สำหรับลูกค้า walk-in) ซึ่งคิดว่าแพงเกินไป เห็นป้ายว่างเลยถัดไปอีกเล็กน้อย เลยเข้าไปถามที่ เฮือนพัก แคมคาน ริมน้ำคานเหมือนกันราคาอยู่ที่ US$50 ต่อคืน

คำตอบที่ 49
       ตกลงเราเลือกพักที่นี่ครับ บ้านทั้งหลังทำด้วยไม้ (ไม่ทราบว่าเป็นชนิดใด แต่ละแผ่นนั้นใหญ่เอาเรื่องครับ) สร้างใหม่แต่ทำแบบโบราณครับ (เจ้าของเล่าให้ฟัง) เปิดได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว มีให้บริการประมาณ 6 ห้องนอนเท่านั้น ข้างในทำได้ดีสะอาดและสวยใช้ได้สมราคาครับ มีน้ำร้อน และแอร์ มี wifi ให้ใช้ฟรีด้วยครับ (แต่ไม่มีอาหารเช้าให้)

คำตอบที่ 50
       เมื่อได้ที่พักกันแล้วก็ตกลงว่าจะไปหาอะไรกินกัน มีคนเสนอว่าอยากทานแหนมเนือง ก็เลยต้องถามปรากฏว่าร้านอยู่ตรงข้าม Caltex อร่อยใช้ได้ครับ แต่อารามความหิวทำให้ลืมถ่ายทั้งอาหารและร้านไปเลยครับ

คำตอบที่ 51
       พระธาตุภูษี ที่มองระยะไกลเนื่องจากมากับคณะสว. (สูงวัย อิ อิ) ซึ่งไม่เหมาะที่จะไปทรมาณท่าน ไว้ทริปต่อๆไปค่อยมาเก็บเรื่องรายละเอียดครับ

คำตอบที่ 52
       นั่งรอ(ริมน้ำคาน)ระหว่างกำลังทำความสะอาดของห้องอยู่ครับ เลยถือโอกาสสั่งกาแฟดาว Laos Coffee ถือว่าอร่อยใช้ได้ครับ (ผมว่าผมชอบกาแฟดอยช้างมากกว่าครับ)

คำตอบที่ 53
       หลังจากพักอริยาบทกันพอสมควรแล้วถึงเวลาที่จะออกไปเดินเที่ยวในเมืองกันแล้ว แวะถนนคนเดินก่อน อาหารเย็น

คำตอบที่ 54
       เค็กอร่อยในราคา 7,000 กีบ ระประกันความอร่อยโดย Bon Cafe ครับ (ผมทานเค็กช๊อคโกแล็คครับ)

คำตอบที่ 55
       ภาพอีกมุมของเฮือนพัก

คำตอบที่ 56
       คงจะไม่แปลกที่สามารถพบได้บนถนนคนเดินครับ คนขายให้ชิมแต่ไม่กล้าชิมครับ

คำตอบที่ 57
       บนถนนคนเดิน

คำตอบที่ 58
       ATM ณ หลวงพระบาง

คำตอบที่ 59
       ถึงเวลาอาหารเย็นที่จนท.แนะนำ ร้านทิวทัศน์แคมโขง ส่วนหนึ่งของเฮือนพักลานคำ อาหารค่อนข้างจะช้าหน่อยครับ ดังนั้นควรจะสั่งไปทีเดียวจะดีที่สุด วันที่ไปทานคนมาทานมากหน่อย

คำตอบที่ 60
       เช้าวันที่ 22 ตค. 52 เราตื่นตีห้าครึ่ง เพื่อไปใส่บาตรข้าวเหนียว ตอน 6 โมง สั่งให้โรงแรมจัดหาให้ในราคาแอ็บละ 200 บาท (มีข้าวเหนียวและขนม)

คำตอบที่ 61
       ข้าวเหนียวก็แสนร้อนแต่แรงศรัทธามีมากกว่า ทำให้สามารถทนได้ทุกคน โรงแรมจัดหาเสื่อและผ้าสไบให้พร้อม หากสังเกตุพระท่านจะเดินไวมาก เห็นว่ามีพระมารับบิณฑบาตประมาณเกือบ 200 รูป

คำตอบที่ 62
       พระท่านเดินมาเป็นแถวดูแล้วเป็นระเบียบ

คำตอบที่ 63
       มีผู้คนทั้งชาวหลวงพระบางและนักท่องเที่ยวมาร่วมกันใส่บาตรข้าวเหนียวตลอดถนนสายนี้ครับ

คำตอบที่ 64
       พระยังออกมารับบิณฑบาตเรื่อยๆครับ จนข้าวเหนียวของเราหมดก่อน แม่อดทนไม่ได้บ่นให้ได้ยิน ทราบทีหลังว่าเมื่อยมากเข่าท่านไม่ค่อย

คำตอบที่ 65
       ข้าวเหนียวหมดแล้ว เตรียมตัวจะกลับที่พักเพื่อหาอาหารเช้าทานกัน (ดูแต่ละคนมีความสุขกันดี)

คำตอบที่ 66
       ต้องเป็นรูปนี้ต่างหากครับ

คำตอบที่ 67
       อาหารเช้าที่ร้านกาแฟประชานิยม (ที่หลายๆเวปแนะต้องมากิน)

คำตอบที่ 68
       ปาท่องโก๋ กับ กาแฟ (คล้ายกาแฟไทยโบราณ) อร่อยดีครับ แม่ทานได้เยอะแถมชมด้วย

คำตอบที่ 69
       ปาท่องโก๋ ที่กำลังเตรียมเสริฟลูกค้ารุ่นต่อไป

คำตอบที่ 70
       วัดอยู่หลังที่พักครับ ไม่ทราบชื่อ(ตอนแรกนึกว่าเป็นวัดเชียงทอง แต่ไม่ใช่) สวยดีครับ

คำตอบที่ 71
       ประตูหน้าวัดเชียงทองครับ ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ (หากจำไม่ผิดนะครับ)

คำตอบที่ 72
       วัดนี้เท่าที่ถามมามีอายุประมาณ 400 ปี นี่เป็นอุโบสถที่เก่าแก่ที่สุด

คำตอบที่ 73
       อุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 74
       ประตูพระอุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 75
       หน้าต่างพระอุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 76
       หน้าต่างพระอุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 77
       หน้าต่างพระอุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 78
       หน้าต่างพระอุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 79
       จิตรกรรมฝาผนัง

คำตอบที่ 80
       ด้านนอกพระอุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 81
       ศิลปะของวัด

คำตอบที่ 82
       ภายนอกพระอุโบสถด้านหลังของวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 83
       คิดว่าคงจะเป็นการเล่าเรื่องราวในอตีตให้คนรุ่นหลังๆทราบ

คำตอบที่ 84
       ศิลปะบนหลังคาพระอุโบสถวัดเชียงทอง

คำตอบที่ 85
       มองแบบเต็มๆครับ

คำตอบที่ 86
       ที่เก็บราชรถที่บรรทุกศพของจ้าวชีวิตของลาว เก็บอยู่ที่แห่งนี้

คำตอบที่ 87
       อุโบสถที่ประดิษฐานพระเสี่ยงทาย (หากยกท่านได้คำขอนั้นก็จะสัมฤทธิ์ผล ตามความเชื่อครับ)

คำตอบที่ 88
       บ้านหลังนี้ดูแต่ต่างกับบ้านหลังอื่นๆครับ ตรงที่เป็นทาสีฟ้า สวยแปลกดี

คำตอบที่ 89
       จากนั้นได้เยี่ยมชมพิพิธภัณท์ (เดิมเคยเป็นพระราชวังของจ้าวชีวิตลาว) เสียค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ (หากจำไม่ผิดนะครับ) เป็นที่ประดิษฐาน พระบาง ครับ

คำตอบที่ 90
       พิพิธภัณท์

คำตอบที่ 91
       พิพิธภัณฑ์ ไม่อนุญาติให้นำกล้องเข้าไปถ่ายภาพด้านในครับ เวลาเดินเข้าเราไปจะมีความรู้สึกเย็นสบาย (แม้ว่าข้างนอกจะร้อนก็ตามที)

คำตอบที่ 92
       ที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งกำลังปรับปรุงอยู่

คำตอบที่ 93
       เที่ยงแล้ว จากหนังสือแนะนำว่า ร้านตำหนักลาว เลยแวะไปลองชิมครับ (อยู่บนถนนสายเดียวกันกับพิพิธภัณฑ์)

คำตอบที่ 94
       รถสามารถจอดหน้าโรงแรมสันติ (ตรงข้ามกับร้านอาหารตำหนักลาว)

คำตอบที่ 95
       ดีใจได้เวลากินข้าวแล้ว

คำตอบที่ 96
       ขอสักภาพครับ

คำตอบที่ 97
       จานแรกเป็นใส้อั่ว รสดีมากเลยครับ หากต้องการกินรสเข้มข้นก็เติมน้ำจิ้มเข้าไปก็อร่อยแล้วครับ จานนี้แนะนำครับ

คำตอบที่ 98
       ห่อหมกปลารสเลิศ

คำตอบที่ 99
       ลาบหมู รสคนไทยเลยครับเอาไป 4 ดาวเลยครับ

คำตอบที่ 100
       ส้มตำที่แสนอร่อย รสชาดคนไทยเลย ใส่กะปิด้วย รสสุดยอดมาก

คำตอบที่ 101
       อาหารมื้อนี้คิดเป็นเงิน 325,000 กีบ (1,440 บาท) สำหรับผมคิดว่าแพงนะครับ แต่ถือว่ามาเที่ยวก็ OK

คำตอบที่ 102
       จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวน้ำตกกวางสี ซึ่งห่างจากหลวงพระบางประมาณ 25 กม. เส้นทางลาดยางตลอด เสียค่าเข้าชมคนละ 10,000 กีบ (หากจำไม่ผิดนะครับ) ปกติต้องจอดรถที่จอดรถ (ค่าจอด 5,000 กีบ) แต่เนื่องจากมีท่าน สว. มาด้วยเลยขออนุญาติ จนท. ขึ้นไปจอดข้างบน ซึ่ง จนท. ก็อนุญาติ ขึ้นไปได้ 6-700 เมตร จากนั้นก็ต้องเดินเข้าไปข้างในครับ ตรงนี้เป็นจุดที่สามารถนั่งชมน้ำตกได้

คำตอบที่ 103
       ที่ระลึก ณ.น้ำตกกวางสี

คำตอบที่ 104
       น้ำตกกวางสี

คำตอบที่ 105
       ส่วนหนึ่งของน้ำตกกวางสี

คำตอบที่ 106
       ที่ระลึกกับน้ำตกฯ

คำตอบที่ 107
       น้ำตกกวางสี (ความหมายที่มีคนบอกหมายถึงกวางหนุ่ม) เป็นน้ำตกหินปูน ดูจากสานตาน่าจะสูงประมาณ 60 เมตร นะครับ

คำตอบที่ 108
       ขอซูม ภาพใก้ลๆของน้ำตกชั้นบน

คำตอบที่ 109
       เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกครับ

คำตอบที่ 110
       อีกมุมของน้ำตก หากเทียบขนาดน้ำตกกับ ทีลอซูแล้ว น้ำตกนี้เล็กกว่ามากครับ แต่ความสวยของน้ำตกนี้อยู่ที่กระแสน้ำที่ไหลแรง จนเราสามารถสัมผัสกับละอองน้ำได้ชัดเจน แถมเย็นสบายอีกด้วยครับ (เหมือนเปิดพัดลมไอน้ำอย่างไงอย่างนั้นเลย)

คำตอบที่ 111
       ความแรงของกระแสน้ำตกครับ

คำตอบที่ 112
       ขอผมเดี่ยวสักภาพนะครับ

คำตอบที่ 113
       ขอถ่ายกับแม่ซักภาพเป็นที่ระลึก

คำตอบที่ 114
       วันนี้เห็นต้องลาไปก่อน หากมีโอกาสได้มาหลวงพระบางใหม่แล้วจะกลับมาเยี่ยมอีกนะ

คำตอบที่ 115
       @ น้ำตกกวางสี

คำตอบที่ 116
       ต่อจากนั้นเราก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือ ห่างจากหลวงพระบางไปประมาณ 20 กม. และ 11 กม. (off road ทางเรียบ) เพื่อไปท่าเรือริมโขง เพื่อเข้าไปดูถ้ำติ่ง แต่เห็นเรือแล้วไม่ค่อยเหมาะกับท่าน สว. เลย ก็ตกลงว่าไม่ข้ามไปแล้ว เห็นว่าจะต้องเดินขึ้นบันใดอีกเป็นร้อยขั้น เห็นท่าไม่ไหวแน่ๆ

คำตอบที่ 117
       เด็กเล็กๆที่ขายของ

คำตอบที่ 118
       เดินทางกลับมายังที่พักซักแป็ป ก็ออกไปถนนคนเดินใหม่เพราะของที่จะไปฝากยังไม่ครบ ตอนนี้คิดว่าชำนาญเส้นทางในหลวงพระบางเป็นอย่างดีแล้วครับ (วิ่งวันละหลายๆรอบเมืองหลวงพระบาง จนคนแถวนั้นคิดว่าเป็นรถเม็ล อิ อิ)

คำตอบที่ 119
       ป้ายของ Unesco (อ่านไม่ออกแล้วเพราะกาลเวลา)

คำตอบที่ 120
       ผลไม้ปั่นมุมถนนคนเดิน พร้อมที่จะให้บริการนักท่องเที่ยว มีผลไม้หลากหลายแล้วแต่จะเลือก

คำตอบที่ 121
       วันที่สองที่หลวงพระบาง พรุ่งนี้ก็ต้องออกเดินทางไปแล้ว ยังมีของฝากที่ยังไม่ครบเลยต้องกลับมาถนนคนเดินอีก วันนี้ได้เจอกลุ่มจักรยานท่องเที่ยวทางไกล(เวียงจันทร์-หลวงพระบาง)ของไทย ต้องขอยอมรับว่าใจถึงจริงๆ ขนาดผมขับรถมายังเหนื่อยเลยครับ เขาทั้งนั้น แถมบรรทุกสัมภาระมาเองด้วย นับถือด้วยใจจริงๆ อ้อ ที่หลวงพระบางมีจักรยานให้เช่าในกรณีที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศอย่างใก้ลชิด เห็นนักท่องเที่ยวนิยมใช้ในการท่องเที่ยวเมืองครับ

คำตอบที่ 122
       อาหารเย็นวันนี้พวกเราเลือกที่จะซ้ำกับมื้อกลางวัน ร้านอาหารตำหนักลาว อาหารก็สั่งคล้ายกับเมื่อกลางวัน เพราะว่าอร่อย (สมกับที่หนังสือท่องเที่ยวจัดให้เป็นมือวางอันดับต้นๆ)

คำตอบที่ 123
       วันนี้จะต้องออกเดินทางจากหลวงพระบางแล้ว อาหารเช้าที่ร้านตรงข้ามตลาดดาราครับ

คำตอบที่ 124
       อาหารเช้าวันนี้มีข้าวจี่ (ขนมปังทาเนย ทาน้ำพริกเผา โรยหมูยอเส้น ผักดอง ราดมายองค์เนส) อันนี้ของผมเอง กว่าจะหมดแทบแย่เหมือนกันครับ

คำตอบที่ 125
       ต้มเส้น (ก๊วยเตี๋ยว) ก็มีให้ลองนะครับ

คำตอบที่ 126
       ปั๊ม Shell ที่สี่แยกพูว่าว หลวงพระบาง เต็มถัง ครับ

คำตอบที่ 127
       แล้วเราก็เดินทางจากหลวงพระบางมุ่งหน้าสู่โพนสะหวัน แขวงเชียงของ (ระยะทางประมาณ 260 กม.) เส้นทางซ้ำเส้นทางเดิมถึงพูถูบ

คำตอบที่ 128
       บ้านคนติดกับถนนเลยเรียกได้ว่าเปิดประตูออกมาก็เจอเลย ดังนั้นการขับรถจึงต้องระวังมากหน่อย ครับ

คำตอบที่ 129
       โค้งแบบนี้มีให้เห็นตลอดการเดินทางครับ ต้องระวังทั้งคนเดินถนน สัตว์เลี้ยง รถที่อาจจะวิ่งสวนมา ผู้ใช้รถต้องระมัดระวังมากหน่อยนะครับ

คำตอบที่ 130
       ชาวบ้านตากพริก และ ข้าว อยู่ครับ

คำตอบที่ 131
       บ่อยครั้งที่จะเห็นรถจอด(เกือบครึ่งถนน) รถเสียก็จอดบนถนนเหมือนกัน ไม่มีคำว่าหลบ ดังนั้นต้องระวังรถที่อาจจะสวนมาได้นะครับ

คำตอบที่ 132
       ทางโค้งที่ทำให้ประสาทของคนขับตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เจอเหมือนกันที่กำลังเข้าโค้งแล้วต้องเหยีบเบรคจนตัวโก่งเพราะมีรถกำลังแซงขึ้นมาเล่นซะเต็มถนนเลย ทางโค้งที่นี่จะไม่มีเหล็กกั้นดังนั้นหากพลาดก็สามารถลงไปข้างล่างได้ครับ และโค้งอันตรายมีเยอะเสียด้วยซิ

คำตอบที่ 133
       โค้งอีกแล้วนะครับ

คำตอบที่ 134
       ถึงแล้วครับสามแยกพูถูบ ที่จะเปลี่ยนถนนจาก สาย 13 เป็น 7 สู่ โพนสะหวัน แขวงเชียงของ ซึ่งเป็นจุดหมายของเราในวันนี้ครับ ขับรถที่นี่กะเวลาได้ยากมากๆเพราะไม่สามารถทำเวลาได้เลย ความเร็วเฉลี่ยได้อยู่ประมาณ 50 กม/ชม. (ดังนั้นหากเป็น 100 กม. ต้องเผื่อไว้ 2 ชม.)

คำตอบที่ 135
       เส้นทางช่วงต้นที่จากสามแยกมาก็ไม่ต่างกันกับที่ผ่านๆมาครับ

คำตอบที่ 136
       ทิวทัศน์ข้างทางที่ทำให้เมืองโพนสะหวันเป็นสวิซเซอร์แลนด์ของลาว อุณหภูมิทั่วๆไปจะเย็นกว่าที่อื่นครับ

คำตอบที่ 137
       ภาพเส้นทางข้างหน้าครับ ขับไปถ่ายไปครับ(ต้องทำเวลา)

คำตอบที่ 138
       เส้นทางขึ้นเขาช่วงนี้หากสังเกตุจะไม่มีบ้านคนอยู่มากนัก ถนนใหม่กว่า และกว้างกว่า โค้งบางแห่งจะมีเหล็กกั้นแต่ก็ทุกโค้ง

คำตอบที่ 139
       นานๆทีจะเห็นรถวิ่งสวนมาซักคัน ต่างกันกับถนนสาย 13 ที่มีรถวิ่งมากกว่า

คำตอบที่ 140
       ถ่ายย้อนดูจากที่เราได้ไต่ขึ้นมาแล้วครับ (อุณภูมิข้างนอกประมาณ 24 องศาซี ครับ)

คำตอบที่ 141
       วิวจากที่สูงอีกภาพ

คำตอบที่ 142
       เส้นทางที่คดเคี้ยว คล้ายงูเลื้อยครับ

คำตอบที่ 143
       ยังมีภาพเส้นทางอีกหลายภาพแต่ก็กลัวว่าผู้ชมจะเมาเส้นทางกันเสียก่อน เวลาขณะนั้นก็เลยเที่ยงไปแล้วครับ หิวกันก็ถามปั๊มแถวนั้นว่าอยกทานข้าวปุ้น (ขนมจีน ตามหนังสือแนะนำ) แต่ก็หาไม่เจอความหิวทำให้หาอะไรทานก็ได้ ก็เลยมาเจอร้านนี้ครับ อยู่ตรงข้ามโรงแรมกำลังสร้างใหม่ เลยตลาด 3 ชั้นเล็กน้อยครับ

คำตอบที่ 144
       พวกเราชอบอาหารจานนี้ครับ เรียกว่า จิ้นหมูทอด ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาใส่อะไรแต่อร่อยมากๆ

คำตอบที่ 145
       อาหารที่สั่งมีหลายจานครับแต่ที่ทานแล้วชอบก็มีอยู่สองจานนี้ละครับที่ทานแล้วอยากบอกต่อ มื้อนี้ก็หลายแสนอยู่นะครับ อิ อิ

คำตอบที่ 146
       อ้อ อาหารจานเมื่อกี่นี้เรียกว่า คั่วไก่ (โพนสะหวัน) เมื่ออิ่มกันแล้วก็ถามทางท่ีจะไป ทุ่งไหหิน (มีหลายที่) เราขอใกล้ที่สุด เพราะเราต้องกลับไปนอนที่วังเวียง (ต้องขับรถอีกประมาณ 6 ชม.)

คำตอบที่ 147
       ค่าเข้าชม

คำตอบที่ 148
       ป้ายคำเตือน ให้เดินอยู่ในระหว่างเส้นสีขาวเท่านั้น เพราะออกจากเส้นขาวอาจจะเจอกับกับระเบิดได้

คำตอบที่ 149
       ป้ายคำเตือน

คำตอบที่ 150
       ทุ่งไหหิน หรือ Plain of Jars ซึ่งยังคงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้ บางคนว่ากษัตริย์ลาว สร้างไว้เป็นที่ใส่เหล้า

คำตอบที่ 151
       ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกครับ

คำตอบที่ 152
       ขอเป็นที่ระลึก

คำตอบที่ 153
       ขอผมเดี่ยวบ้างครับ

คำตอบที่ 154
       ทุ่งไหหิน

คำตอบที่ 155
       นางในไหหิน ครับ อิ อิ

คำตอบที่ 156
       ลูกผมแฟน Mancester United ครับ

คำตอบที่ 157
       Spice Your Life

คำตอบที่ 158
       ใช้เวลาไปพอสมควรแล้ว ถึงเวลาต้องเดินทางต่อแล้วครับ (ตอนนี้ บ่าย 4 โมงกว่าแล้ว) จุดหมายหน้าคือ วังเวียง ครับ

คำตอบที่ 159
       เราต้องย้อนกลับทางเดิมครับ ขับยากขึ้นครับโชคดีที่ได้เตรียมตัวมาแล้ว หากไม่มีไฟสปอท์ไลท์ช่วยคงจะลำบากกว่านี้ครับ กว่าจะถึงวังเวียงก็เกือบ 3 ทุ่ม แล้วครับ วิ่งหาโรงแรมกันอยู่พัก Elephant Crossing Hotel เต็มครับ เลยได้มาพักที่นี่ Ban Sabai Bangalow จริงๆก็เต็มครับ แต่ลูกค้า (จอง 2 ห้อง) cancel พอดีเลย เราเลยได้ที่พักสำหรับคืนนี้ พรุ่งนี้เราก็กลับเมืองไทยแล้ว

คำตอบที่ 160
       เมื่อคืนถึงดึกไปหน่อยเลยไม่ทราบบรรยากาศของที่นี่ พอเช้าขึ้นมาเลยได้มีโอกาสสำรวจ สวยเป็นธรรมชาติดีครับ และที่สำคัญไม่แพงมาก (US$40 ต่อ คืน) เมื่อคืนนี้ฝนตกค่อนข้างหนักครับ (23/10/52) อาหารเช้าให้เสริฟที่ห้องครับ (เพราะฝนตก) ไม่อย่างนั้นเราต้องเดินมาทานที่ในภาพครับ ริมแม่น้ำซอง (โรงแรมนี้อยู่ติดกันกับ Elephant Crossing เลยครับ)

คำตอบที่ 161
       อาหารเช้าที่ระเบียง สามารถมองเห็นแม่น้ำได้ครับ

คำตอบที่ 162
       บรรยากาศในโรงแรมครับ

คำตอบที่ 163
       บรรยากาศในโรงแรมครับ

คำตอบที่ 164
       บรรยากาศในโรงแรมครับ

คำตอบที่ 165
       บรรยากาศในโรงแรมครับ สวนบัวในโรงแรม

คำตอบที่ 166
       ออกเดินทางจากวังเวียงไปเวียงจันทร์ หากท่านใดขับรถไปขอให้ระวังช่วงนี้หน่อยนะครับเรื่องความเร็ว ก่อนถึงเวียงจันทร์ โดยประมาณ 25-30 กม. จะมีตำรวจตรวจจับความเร็วโดยเฉพาะความเร็วในเมือง ที่กำหนดไว้ 30 กม/ชม. แต่อนุโลมได้ถึง 50 กม/ชม. แต่การจราจรที่ติดขัดและจำเป็นต้องแซงความเร็วเกินนี้แน่นอน ผมโดนจับที่ความเร็วที่ 72 กม/ชม. เสียค่าปรับและได้ใบเสร็จ ที่ 200 บาทไทย ครับ สบายไปเลย ตรงนี้โดนกันทั่วหน้าครับ ขากลับแวะซื้อกระติบเป็นที่ระลึกครับ อีกนิดก็ถึงเวียงจันทร์แล้วครับ กะว่าทานกลางวันที่นั่น

คำตอบที่ 167
       กระติบแบบนี้ก็สวยครับ

คำตอบที่ 168
       นาข้าวข้างๆร้านครับ

คำตอบที่ 169
       ถึงแล้วครับเวียงจันทร์ หลงไปไหนก็ไม่รู้ ในที่สุดก็เจอประตูชัยจนได้

คำตอบที่ 170
       ว่าจะลงไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ทุกคนกำลังหิวข้าวกันอยู่ ก็เลยขับรถวนรอบหนึ่งแล้วถ่ายรูปแต่ละมุมครับ

คำตอบที่ 171
       ประตูชัย

คำตอบที่ 172
       หนังสือแนะนำร้านนี้ครับ หาตั้งนานกว่าจะเจอครับ คนก็ทานกันเยอะเหมือนกัน เราต้องเอารถไปจอดริมโขง (เสียค่าจอด 5,000 กีบ)

คำตอบที่ 173
       เปาะเปี้ยสด น้ำจิ้มอร่อยใช้ได้ครับ

คำตอบที่ 174
       เส้นคั่วครับ (คล้ายๆเส้นของผัดซีอิ้ว) ราดน้ำปรุงรสและใส่ผักก็กินได้เลยครับ

คำตอบที่ 175
       ต้มเส้นเครื่องในหมู อยากจะทานอยู่เหมือนกันเห็นคนทานเยอะ แต่ติดอยู่ตรงไขมันในเส้นเลือดสูงไปหน่อย ครับ

คำตอบที่ 176
       ทานเสร็จแล้วก็เดินทางไปยังด่านชายแดน (ไปอีก 22 กม.) กว่าจะออกจากเวียงจันทร์ได้ก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่ยากครับถามทางไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็มาถึงด่านชายแดนแล้ว ยังมีเงินกีบเหลืออยู่ ก็ต้องใช้ให้หมดครับ อิ อิ หน้าร้าน ดาวเรือง

คำตอบที่ 177
       วันนี้คนเยอะมากครับ คิดว่าน่าจะเป็นวันเสาร์ คนออกมาซื้อของกัน หลังจากนั้นเราก็เตรียมข้ามแดน ขากลับทำเหมือนขาเข้า ทำเรื่องคนออกก่อน จากนั้นก็นำเอกสารของศุลกากรของลาวไปแสดงเพื่อนำรถออก ไม่ช้าเลยครับ

คำตอบที่ 178
       ขับชิดซ้ายเหมือนบ้านเราแล้วครับ เรากำลังกลับบ้านแล้วครับ

คำตอบที่ 179
       อ้อ ขาออกจากลาวก่อนขึ้นสะพานมิตรภาพ เราต้องเสียค่าผ่านทางอีกนะครับ

คำตอบที่ 180
       ข้ามมาแล้วตรงดิ่งมายังร้านแดงแหนมเนือง เลยเพื่อซื้อของฝาก วันนี้คนแน่นมาก (สงสัยเป็นวันเสาร์ แหง๋ๆ)

คำตอบที่ 181
       เมื่อเสร็จจากการซื้อของฝากแล้ว พวกเราก็เดินทางต่อค้างคืนที่ โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล 1 คืนก่อนกลับ กทม เช้าที่25 ตค. 52 แวะซื้อของฝากอีกเล็กน้อยที่ร้าน เตียฮั่วหยู (เจ้าตำรับขนมตุ้บตั้บ ระดับเชลล์ชวนชิม) และขนมปังจากร้านเอมโอษฐ์ แวะทานสเต็กกลางวันที่ร้านครูต้อ ถึงกทม. ประมาณบ่าย 3 โมงครับ (ช่วงนี้ไม่มีภาพประกอบครับ ต้องขอโทษเป็นอย่างแรง) ท้ายสุดผมขออนุญาติ จบทริป ครับ ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ได้เข้ามาชม ไว้เจอกันใหม่ในโอกาสต่อไป ผมว่าผมจะไปขึ้นเขารับลมหนาวกลางเดือนนี้ ทริปของ The Bier ครับ

คำตอบที่ 182
       ต้องขอประทานโทษอย่างแรงกะว่าจะปิดรายงานทริปด้วยรูปนี้ครับ อิ อิ (สงสัยหิวจนตาลายแน่ๆ)

คำตอบที่ 183
       สวัสดีครับพี่ Jk Bigfoot เป็นทริปที่สุดยอดทริปหนึ่งครับ ตค.2553 ผมขออนุญาตตามรอยนะ หลังจากเปลี่ยนพาหนะคันใหม่เป็น Fortuner ผมได้พาครอบครัวไปเที่ยวเวียงจันทร์ เมื่อ 19 ต.ค.2552 โดยไปกับรถ international bus ผมฝากรถไว้ที่ร้านรับฝากรถใกล้ด่าน ตม.ไทย

คำตอบที่ 184
       สุดยอดครับ เหมือนได้ไปด้วยเลย อยากพาแม่ไปแบบนี้มาหลายปีแล้ว ไม่รู้จะมีโอกาศป่าวน้ำมันแพงเหลือเกิน ต้องเก็บอัดก่อน

คำตอบที่ 185
       สวัสดีครับคุณ ตู่ สุราษฎร์ธานี,

ยินดีที่ได้รู้จักครับ และก็ยินดีอีกเช่นกันครับหากจะใช้เส้นทางและสถานที่ที่ผมได้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับการเดินทางครับ ก่อนเดินทางครั้งนี้ ผมเองก็พยายามหาข้อมูลการเดินทางให้มากที่สุด (ทั้งในเน็ต หนังสือท่องเที่ยวเท่าที่จะหาได้ และผู้ที่เคยไปมาแล้วครับ) หากอยากได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับทริปก็เขียนมาถามได้นะครับ

คำตอบที่ 186
       สวัสดีครับ คุณ ปาฝน,

อยากจะทำก็รีบเลยนะครับที่จะพาแม่เที่ยว เที่ยวไหนก็ได้ที่ทำให้ท่านมีความสุขครับ (ใก้ลหรือไกลไม่ใช่ประเด็น) วันเวลามันจะไม่คอยใคร นะครับ ขอให้สนุกกับการพาคุณแม่เที่ยวนะครับ

คำตอบที่ 187
       เก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม..ทั้งภาพและคำบรรยาย ชอบมากๆเลยครับ

คำตอบที่ 188
       คุณ bank mu,

ขอบคุณครับที่ชม ก็อยากที่จะให้ละเอียดเท่าที่สามารถละครับ (แต่ละเอียดอย่างไรก็ไม่หมด พอเราเดินทางจริงๆแล้วจะพบกับคำถามมากมายอยู่ดีครับ ทริปนี้ผมได้เตรียมการเดินทางใว้ วางเส้นทางใว้แล้ว กำหนดระยะเวลาวิ่ง เมืองที่จะพัก ร้านอาหารที่จะทาน ยังมีหลุด ไม่เป็นไปตามแผนและมีหลงเป็นประจำเลยครับ อิ อิ) เผื่อท่านๆอื่นจะได้ใช้เป็นข้อมูลการเดินทางครับ และก็เป็นบันทึกการเดินทางของผมเองด้วยครับ ผมจะมีทริปขึ้นเขานอนกับดินกินง่ายๆกับธรรมชาติ ประมาณ 20 พย. 52 นี้ครับ (หากไม่มีอะไรเร่งด่วนครับ) แล้วจะกลับมารายงานให้ฟังในโอกาสต่อไปครับ

คำตอบที่ 189
       เป็นทริปที่ดูอบอุ่นจริง ๆ ครับ เห็นรูปแล้วรู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วยครับ ต้องหาโอกาสสักครั้งนึงแล้วละสำหรับครอบครัวผม

คำตอบที่ 190
       เป็นทริปที่ดูอบอุ่นจริง ๆ ครับ เห็นรูปแล้วรู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วยครับ ต้องหาโอกาสสักครั้งนึงแล้วละสำหรับครอบครัวผม

คำตอบที่ 191
       รบกวนครับ พอมีเบอร์โทรที่พักแต่ละที่มั๊ยครับ อยากไปช่วง 25-30 ธค 52 กลัวที่พักเต็มครับ

คำตอบที่ 192
       คุณ nokthai,

ไม่ได้เข้ามาหลายวัน ขอโทษด้วยมี่ตอบช้านะครับ

1) Elephant Crossing Hotel @ Vang Vieng
Phone/Fax ++856-23-511232 email: info@theelephantcrossinghotel.com

2) Riverside Guesthouse (เฮือนพักแคมคาน) @ Luang Prabang
Phone/Fax ++856-71-212-664
Attn. Khun Mali (มะลิ เป็นคนลาวแต่พูดไทยได้ชัดมาก)
email: villariverside@ymail.com

ส่วนที่บ้านสบายบังกาโล หาเบอร์ไม่เจอครับ แต่หาไม่ยากหากหาelephant crossing hotel เจอบ้านสบายบังกาโล อยู่ติดกับและถึงก่อนอยู่ตรงข้ามโรงหมอ(โรงพยาบาล)ครับ

ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ หากจะขับรถไปเองก็ขอให้ใช้ความระมัดระวัง ไม่ประมาท ใจเย็นๆเดี๋ยวก็ถึงแล้ว (ถนนใช้ความเร็วไม่ได้มากครับ ยิ่งขับตามรถบรรทุกแล้วละก้อเบื่อเหมือนกันจะต้องหาจังหวะดีๆแล้วก็แซง)

คำตอบที่ 193
       P' Jk_bigfoot , ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และ การเล่าเรื่องราวดีดี ในทริปนี้ครับ
ผมยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวเลยครับ (ติดไว้ก่อน) เอาไว้หาโอกาสดีดี จะขอคำแนะนำ ด้วยนะครับผม