คำตอบที่ 1
       ขอเริ่มคนแรกเลยนะครับ ตำรวจดี ดี มีก็เยอะ....แต่ตำรวจไม่ดีก็มีเยอะ..อ้าวยังงัย......

คำตอบที่ 2
       ณ ที่ด่าน เก็บเงิน ใน กทม

โดนจับ ไฟหน้าขาดไปข้างนึง เป็นไฟต่ำ ไฟสูงใช้ได้

ก. ตำรวจที่ดี บอกว่า คุณไฟหน้าขาดนะ ขับระวังหน่อยนะครับ ค่อยๆไปนะครับ ( แสดงว่า นายตำรวจนายนี้ เตือนด้วยความปราถนาดี ว่าเราไม่ตั่งใจกระทำผิด โดยบังเอิญ จึงกล่าวขอบคุณด้วยความที่ได้เจอตำรวจดีๆ )

ข. ตำรวจที่ไม่ดีหละ บอกว่า คุณไฟรถคุณไม่ติดนะ เอาใบขับขี่มา ผมยืนให้ แล้วบอกว่า พี่ครับผมขอโทด มันขาดไปเมื่อไรไม่รู้ กลางคืนแล้ว จะเปลี่ยนก็ไม่ทัน เราต้องเดินทางช่วงนี้ด้วย /// ตำรวจบอกว่างันก็เสียค่าปรับนะ หรือว่าจะลงจากรถ มาเคาะให้มันติด เดียวคุณก็คงเสียเวลามาเอาใบขับขี่ที่นี่เองนะ หรือว่าจะชำระค่าปรับเลย เลือกเอา ( เอาสิ เราไม่ใช่อาชญากรซะด้วย แค่ไฟหน้าขาดไม่รู้ตัว รถก็ต้องใช้ มีรถคันเดียวไม่รวย ต้องหารถคันอื่นมาเปลี่ยนถ้ารู้ว่าไฟว่ามันขาด อืมๆๆ หาทางเลือก ที่ดีที่สุด พูดแบบนี้มีความหมาย 2 แบบ คือ 1. จดใบสั่งมา 2. เอาเงินใส่ในมือ นึกถึง ในหลวง เอาไว้ๆๆๆ แต่ก็ได้ทางเลือกที่ดี ให้ใบสี แดงๆ ไป2ใบ ถ้าไม่อยากเสียเวลา มาเอาใบขับขี่ที่โรงพัก +ค่าปรับ)

คุณว่าผม โดน ข้อไหน ก. หรือ ข.

 แก้ไขเมื่อ : 13/11/2552 23:06:16

คำตอบที่ 3
       ผมเดินทางทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 150โล เจอบ่อย มีเรื่องเล่าแยะมาก กับตำรวจ แต่เอาเป็นว่า อยากฟัง เพื่อนๆ เล่าให้ฟังกันบ้างครับ

คำตอบที่ 4
       สำหรับผม ผมสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง คาใจเหลือเกิน เรื่องก็คือ "ยึดใบขับขี่" ครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมขับรถไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยครับ อันที่จริงปกติผมคาดตลอดครับ เพราะผมก็กลัวไม่ปลอดภัยเหมือนกัน เวลาไม่ได้คาดเข็มขัดมันรู้สึกเหมือนไม่มีใครมาจับเราไว้ แต่วันเกิดเหตุผมเอาเข็มขัดออกเพราะจะเอื้อมไปเอาเศษตังค์ตรงเกะด้านฝั่งคนนั่งข้าง จะเอามาจ่ายค่าผ่านทาง แต่พอจ่ายค่าผ่านทางเสร็จ ในขณะที่ผมยังไม่ทันได้คาดเข็มขัดกลับตามเดิม คุณตำรวจก็ดักข้างหน้าพอดี และก็บอกให้ผมจอดรถ ขอดูใบขับขี่ และก็เขียนใบสั่งทันที โดยไม่พูดอะไรสักคำ ผมพยายามอธิบายทุกอย่าง แต่คุณตำรวจก็บอกเพียงสั้น ๆ ว่า "ก็เห็นคุณไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหนิครับ" แต่ผมก็นึกในใจว่า ไม่เป็นไร ถูกปรับ 400 บาท ก็ช่างมันเถอะ แต่ผมไม่เข้าใจอยู่เรื่องนึงว่าทำไมต้องยึดใบขับขี่ของผมไปด้วย เรื่องนี้ผมถามคุณตำรวจแล้ว แต่คุณตำรวจก็ตอบผมมาสั้น ๆ ว่า "เป็นระเบียบ ต้องยึดอยู่แล้วครับ" ซึ่งการตอบคำถามของคุณตำรวจแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกแคลงใจเป็นอย่างมาก ผมจึงถามต่อไปว่า
1.ผมถาม : ตามกฎหมายใบขับขี่ถือเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งของผมไม่ใช่เหรอครับ คุณตำรวจจะยึดไปได้ไง
2.คุณตำรวจตอบ : ยึดได้สิทำไมจะยึดไม่ได้ เพราะเป็นระเบียบของทางตำรวจอ่ะ
3.ผมถาม : ระหว่างกฎหมายกับระเบียบ อันไหนใหญ่กว่ากันครับ
4.คุณตำรวจตอบ : ไม่รู้ล่ะเพราะเป็นระเบียบ ยังไงผมก็ต้องยึด
5.ผมถาม : เอาอย่างนี้นะครับ ถ้าหากคุณตำรวจยึดใบขับขี่ของผมไป ถ้าสมมติว่าผมโดนจับที่ด่านข้างหน้าอีก ผมจะเอาใบขับขี่ที่ไหนให้เขายึดล่ะครับ
6.คุณตำรวจตอบ : ถ้าโดนจับด่านข้างหน้าอีก ก็ไม่ต้องยึดใบขับขี่ แค่เขียนใบสั่งก็พอ
7.ผมถาม : แล้วในเมื่อด่านข้างหน้าเขาไม่ได้ยึดใบขับขี่ แล้วคุณตำรวจจะยึดไปทำไมล่ะ ในเมื่อผมก็ทำผิดเหมือนกัน และตอนสุดท้ายผมก็ต้องเสียค่าปรับเหมือนกัน ถ้าผมไม่เสียภายในกำหนด ผมก็ต้องเสียเงินเพิ่มอีก และหากเรื่อยไปจนไปถึงตอนต่อทะเบียนรถ ทางขนส่งเขาก็ไม่ต่อทะเบียนให้ผมอยู่ดี จนกว่าผมจะเสียค่าปรับพร้อมกับเงินเพิ่มผมถึงจะต่อทะเบียนได้ แล้วอย่างนี้ทำไมคุณตำรวจต้องทำให้เป็นภาระของผม หรือคนอื่น ๆ ให้ต้องไปเสียค่าปรับและขอรับใบขับขี่ตอนหลังด้วยล่ะครับ บางคนเขาไปไกลนะครับ ไปหลายวันด้วย กว่าจะกลับมาเอาใบขับขี่ได้ทันก็ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายหลายบาท.....ฯลฯ
8.คุณตำรวจตอบ : ถ้าคุณไม่สะดวก และไม่อยากให้ยึดใบขับขี่ คุณจะเสียค่าปรับที่นี่เลยไหมล่ะ.......
ทีนี้พอเข้าใจไหมครับว่าคุณตำรวจเขาต้องการอะไร ผมไม่แคร์หรอกครับ แค่เงิน 400 บาท เป็นรายได้ของประเทศ (หรือเป็นของใครก็ไม่รู้) ยังไงผมก็เสียค่าปรับให้ได้อยู่แล้ว และตอนสุดท้ายผมก็บอกกับคุณตำรวจว่า "ไม่เป็นไร ผมไปจ่ายที่ ส.น.เองก็ได้"
จากเหตุการณ์ดังกล่าว กฎหมายหรือระเบียบของทางราชการเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ในการเรียก รับ ผลประโยชน์จากประชาชนได้อย่างมากมาย และจากการกระทำความผิดดังกล่าวของผม อย่างเก่งก็เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 400 บาท และก็ยึดใบขับขี่ และก็ให้ผมไปรับใบขับขี่พร้อมเสียค่าปรับที่ ส.น.เอาเอง (ระเบียบ หรือกฎหมายสร้างเงื่อนไขให้ดูลำบาก) ดังนี้ หากพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทุจริต จะเรียกรับเงินแค่ 200 บาท เรื่องก็จบ ไม่ต้องยึดใบขับขี่ ไม่ต้องเสียค่าปรับ 400 ผมอยากถามเพื่อน ๆ ที่อ่านกระทู้ของผมนี้ว่า ประชาชนจะเลือกอันไหน (ในกรณีที่เร่งรีบ จำเป็น)

คำตอบที่ 5
       เรื่องต่อไป จากคำตอบที่4 เรื่องเข็มขัดนิรภัย เหตุการณ์ เหมือนๆกัน คือเราเอาเข็มขัดออก ระหว่างจ่ายเงินบนทางด่วนและมอร์เตอร์เวร์ โดนจับครับพี่น้อง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ข้อหาไม่คาดเข็มขัด โอ้แม่เจ้า ผมเพิ่งจะเอาออก ตะกี้นี้ครับพี่ตำรวจ จะเอาตังไปจ่ายค่าผ่านทาง ???? ทำเป็นไม่ฟัง //// เอาใบขับขี่มาครับ ผมเห็นคุณไม่ได้คาด !!!!!!!!!!!! 555 เอาหละสิ จะเอายังไงหละ สังเกตุสิว่าถ้าโดนตั่งข้อหาแหละ ไม่สามารถจะโต้ตอบ หรือหาหลักฐานมายืนยันได้ ว่าม่ะ ก็มี 2 ข้อ ให้พี่ๆ น้องๆ เลือกกันอีกแหละ

ก. ตำรวจดีๆ หรอ จะบอกว่า คาดเข็มขัดซะครับ เกิดอุบัติเหตุจะช่วยคุณได้ แล้วไปซะ ( นี่แหละ เค้าเรียกว่าช่วยเหลือ ประชาชน ช่วย แนะนำ ป้องกัน เตือน ว่ากล่าวให้เราได้ดี เพราะ จับแบบคดีไม่อุตอาจมาก แค่เข็มขัด ด้วยเหตุผลที่ดีๆ )
ข. ตำรวจ ในคราบโจร 5555 ไม่ต้องต่อลองมี2แบบเลีอกเอา 1.จะจ่ายที่โรงพัก+เอาใบขับขี่ไปด้วย หรือ 2.จะจ่ายที่นี่หละ ( ผมนั่งคิดนะ โดน บ่อยๆจนชิน อืม!!!! คดีใหญ่ๆ คงจะเสร็จระดับหัวหน้าได้แยะ ชั้นผู้น้อยคง ค่อยๆตอดแบบทีละนิๆ แบบนี้ไปเลยๆ ) อนิจัง.....

เพื่อนว่าผมโดน ข้อไหน?

คำตอบที่ 6
       ทำผิด แล้ว ไม่ยอมรับผิด.....ประเทศชาติ ถึงไม่เจริญ

คำตอบที่ 7
       ประเทศชาติไม่เจริญ เพราะมี.......บางคน ทำตัวเยี่ยงโจร ไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เป็นตัวอย่างไม่ดีต่อสังคมชาติ

คำตอบที่ 8
       ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิดก็อย่ายอม อย่าจ่าย
แต่ถ้ารู้ตัวว่าผิด ก็ให้ออกใบสั่งมา แค่นั้นเองครับ

เรื่องไฟหน้าขาด ผู้ขับขี่มีหน้าที่ตรวจเช็ครถก่อนนำออกมาวิ่งบนถนนหลวงครับ
เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถบนถนนหลวงซึ่งมี พรบ.จราจรทางบกควบคุม
แต่ถ้าต้องการให้เค้าบอกกล่าวแล้วปล่อย คุยดีๆไม่หัวหมอ ผมว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่

เรื่องเข็มขัดนิรภัยเวลาจ่ายตังด่านทางด่วนไม่ต้องปลดก็ได้ครับ
เพราะผมไม่เห็นใครต้องปลดเพื่อหยิบตังเลยนะ

ใบขับขี่หรือเอกสารแสดงตัวตนเค้ามีอำนาจตรวจยึดอยู่แล้วครับ
ไม่ต้องไปเถียงให้ไปเถอะ พอเสียค่าปรับก็ได้คืนครับ

กรณีโดนใบสั่งมา แล้วทำผิดอีกจะมีการยึดใบสั่งใบแรกแล้วออกใบสั่งใหม่เรียกว่าใบสั่งซ้อน
แต่ปัจจุบันมักจะไม่ออกซ้อน เพราะเป็นการอลุ่มอล่วย หากไม่ทำผิดร้ายแรงจริงๆ

คำตอบที่ 9
       ตอบ คห.8
1. ผมขอถามคุณว่า หากวันนึงตอนกลางคืนคุณขับรถอยู่ดี ๆ แล้วเกิดหลอดไฟขาดกระทันหัน คุณเองก็ไม่รู้ว่าขาดตอนไหน หาร้านเปลี่ยนก็ไม่เจอ ต่อมาคุณเจอด่านตรวจ แล้วตำรวจปรับคุณ 400 บาท คุณจะทำอย่างไร
ก. จ่ายไปเลย (โดยให้ตำรวจยึดใบขับขี่ และก็ยอมไปเสียค่าปรับที่ ส.น. โดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว)
ข. อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น และขอให้ตำรวจอลุ้มอล่วยให้ (เพราะสุดวิสัยจริง ๆ)
คำตอบ : ผมไม่รู้ว่าคุณตอบข้อไหน แต่ผมตอบได้เลยว่า คนเราซึ่งเป็นวิญญูชน ก็ต้องตอบข้อ ข. กันทั้งนั้น เพราะคนเรามักอยากจะอธิบายในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจทำเสมอ(ไม่ปรักปรำตัวเอง) แม้ว่าในที่สุดจะต้องถูกปรับ ก็ต้องให้สมน้ำสมเนื้อ หรือให้มีเหตุมีผลกันหน่อย ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดสักคำยอมเสียค่าปรับ อันนี้แหล่ะถึงเรียกว่าแปลกคน (คนมีเงินจ่ายค่าปรับก็จบไป แต่ถ้าเป็นชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำล่ะ คิดเผื่อเขาไว้ก็ดีเหมือนกัน อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง)
2. เรื่องคาดเข็มขัดนั้น จริงอยู่บางคนเขาไม่ถอด(ก็แค่บางคน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน) แต่พอดีว่าผมติดพุง เลยต้องถอดเพื่อหยิบเอาเงินในเกะด้านซ้ายสุดของรถ(เพราะมันลำบาก ผิดด้วยเหรอ) แต่ก็เอาเถอะ ที่ผมกล่าวมาข้างต้น ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมจะไม่จ่ายค่าปรับ หรือว่าผมไม่ผิดนะ ผมยอมรับผิดและก็ยอมจ่ายทุกอย่าง แต่ผมแค่คาใจกับระเบียบของตำรวจที่ต้องยึดใบขับขี่ และพฤติกรรมเรียกรับสินบน เท่านั้น (แค่สงสัย ผิดด้วยเหรอ ประชาชนจะยอมก้มหน้าก้มตาให้ตำรวจยึดใบขับขี่ และเรียกรับสินบน โดยอ้างเอาระเบียบ และความยุ่งยากในการเสียค่าปรับมาเป็นเครื่องต่อรอง โดยที่ประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียภาษีและตอนสุดท้ายเงินภาษีก็คือเงินเดือนของพวกเขา จะไม่ยอมแสดงความคิดเห็น หรือโต้ะแย้งเลยอย่างนั้นเหรอ)
3. และที่คุณว่า อำนาจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการยึดใบขับขี่นั้น ระบุไว้ในกฎหมายอะไร มาตราอะไร และถ้ามีกฎหมายให้อำนาจอย่างนั้นจริง มันขัดกับกฎหมายอาญา(ป.อาญา) หรือเปล่า แล้วอันไหนมันใหญ่กว่ากัน (กฎหมายอื่นยังขัดกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ แล้วระเบียบจะขัดกับกฎหมายได้อย่างไรกัน) คุณเคยสงสัยบ้างไหม และถ้าสงสัยคุณจะไม่คิดที่จะถามเลยบ้างเหรอครับ
4. ผมจะบอกให้ฟังนะ ที่ทุกคนกล่าวมาทั้งหมดนี้ ผมเข้าใจว่าทุกคนรู้สึกอย่างไรในการทำงานของคุณตำรวจ ซึ่งบางทีก็มีเหตุมีผล แต่ก็มีบางทีที่ไม่มีเหตุผล อย่างเช่นการยึดใบขับขี่ หากจะพิจารณาดูให้ดี ผมว่าก็ไม่ควร เพราะมันไม่สะดวกกับประชาชน และไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะบางคนเขามีธุระไปไหนไกล ๆ หลายวัน และมาเสียค่าปรับไม่ทันบ้าง ฯลฯ บ้าง และที่สำคัญที่สุดก็กลับมาที่เรื่องความสะดวกนี่แหล่ะ มันเป็นช่องว่างให้ประชาชนหลายคนต้องยอมเสียเงินสินบนเพื่อแลกกับการที่ต้องมาเสียค่าปรับที่ ส.น. เอง (สะดวกกว่าและถูกกว่าไหมล่ะ) นี่แหล่ะผมจึงแสดงความคิดเห็นไว้ว่า ระเบียบหรืออำนาจตามกฎหมายใด ๆ ก็ตาม สร้างเงื่อนไขให้ยุ่งยากไม่สะดวก จึงเป็นช่องว่างให้คุณตำรวจบางคน แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบใส่ตัวเอง และตอนสุดท้ายก็เป็นปัญหา และหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข มันก็จะเกิดเป็นระบบธรรมเนียมขึ้นจนยากที่จะแก้ไขในอนาตค อันที่จริงตามกฎหมายเราก็มีทางออกอย่างอื่นอยู่แล้ว(เช่น ไม่รับต่อทะเบียนรถ ฯลฯ) ไม่เห็นจำเป็นจะต้องยึดใบขับขี่เลย....ว่าไหมครับ...

คำตอบที่ 10
       คนที่ถูกตำรวจขอใบขับขี่ โดยมีข้อหาว่า ขับรถความเร็ว 95 กม/ชม คูณจะมีความรู้สึกอย่างไร

คำตอบที่ 11
       คุณเดี่ยวผมขอโทษจริงๆที่เสนอความเห็นไป
ผมคิดว่าเป็นความเห็นจากมุมมองอื่นที่คุณอาจจะรับฟังบ้าง
แต่แล้วผมก็คิดผิด

คำตอบที่ 12
       ผมก็ไม่สิว่าตำรวจไทยดีหรือไม่ดี
1.ถนนกาญจนาตัดใหม่ลงบางนา เจอ 1 ด่านหาเงินตลอดทั้งกลาวันและกลางคือไม่มีวันหยุด
2.ถนนพรราม 2 ตั้งแต่บางประแก้วยันมหาชัย 4 ด่าน 4 ส.น หาเงินกันทุกสน เรียกทุกด่าน คงไม่ต้องบอกนะว่ารถอะไร
3.ถนนบางบอน-ตลิ่งชัน-อยุธยา 5 ด่าน 5 ส.น เรียกทุกส.น แถมด้วยจราจรกลางอีกตรวจควันดำ
ที่กล่าวมาแค่เบาๆ นะครับ เพราะว่าใช้เส้นทางนี้ประจำ ไม่รวมถนนอื่นอีก สรุปแล้วว่าเขาเรียกว่าดีหรือไม่ดรับ จับได้ทุกวัน
แต่บทสรุปของผมนะผมว่า ขออนุญาติกระทู้บนนะครับ ผมขับรถไม่มีไฟหน้า ตำรวจก็ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะ ว่าถ้ามองไม่เห็นคนขับสิลำบากไม่ใช่ตำรวจ ลำบ่าก เพราะว่าคนขับมองไม่เห็นใช่ไหมครับ

คำตอบที่ 13
       เรื่องต่อไป ต่อจากคำตอบที่12 เรื่องด่านเก็บตังบนทางด่วน 555 ตำรวจไม่มีไรทำ จับรถผิดระเบียบ (รถผิดระเบียบจับง่ายมาก รถสวมทะเบียนปลอมวิ่งๆอยู่ตามท้องถนน ไม่เคยโดนจับ )

สังเกตุสิว่าเวลาโดนจับรถผิดระเบียบจะมีอะไรบ้างที่เราชอบเอามาใส่ แปะโน้นแปะนี่ เสริมนั้นนี่หน่อย นั้นแหละทั้งนั้นเลยที่ผิดระเบียบกฎระเบียบของกฎหมาย จราจร และ กฎหมายทางขนส่ง พอเราถอยรถป้ายแดงออกจากห้าง ผิดแหละครับ ห้ามวิ้งบนท้องถนน บนทางด่วนในเวลาที่กำหนดนะ จะโดนจับ แล้วพอได้ป้ายดำ เอาหละทีนี้แต่งสะนิด เปลี่ยนยางล้อแม๊กซะ ( ตามหลักกฎหมายเมืองไทย จริงๆแล้วผิดกฎหมายเหมือนกันนะครับ ข้อหาดัดแปลงรถ )

ผมก็เคยโดนจับแบบข้อหาแบบนี้บนทางด่วน จอดรถเจรจากับเจ้าหน้าที่ แค่เรื่องสปอร์ตไลท์ ไว้หน้ารถ1ดวง แต่ไม่ได้ใส่หน้ากากไว้ 555 เอาไงดี พอดีๆๆๆ รถ สส วิ่งผ่านมาพอดี มีสปอร์ตไลท์ เหมือนกัน 2ดวงเลยด้วยครับพี่ตำรวจ ....ผมชี้ให้ตำรวจดู !!!! ในใจคิดว่ารอดแน่ๆแหละเรา 555 !!!! พี่เค้า ตอบผมว่า นั้นมันรถขบวน เขามีไว้ได้ กฎหมายอนุญาติ แต่คุณรถโดยสารทั้วไป .......โอ้แม่เจ้า+++ผมเงียบเลย ผมเรียนมาน้อยไม่รู้ข้อกฎหมาย หรือแต่พอเดาทางได้ว่า คงเล่นเราแหละหมดทางออก เอาละ มี2ข้ออีกแหละครับ ก. หรือ ข.

แต่กลับมาดูเน็ต เหมือนเสียรู้มัน รถ สส ติดสปอร์ตไลท์ ได้หรือป่าวครับพี่น้อง

คำตอบที่ 14
       ผมก็โดนประจำ เรียกแล้ว เค้าขอค่าตรวจค้น ผมถามว่าตรวจค้นต้องเสียตังด้วยหรอ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรผิดกฏหมาย เค้าตอบ
ว่ามันเป็นธรรมเนียม เรียกแล้วต้องเก็บครับ พอดีผมวิ่งรถมาคนเดียว ไม่มีใครช่วยพูด ก็ต้องจ่ายให้ไปครับ
ใครเคยโดนอย่างผมบ้างครับ

 แก้ไขเมื่อ : 11/3/2553 21:00:28

 แก้ไขเมื่อ : 11/3/2553 21:01:32

คำตอบที่ 15
       โดน รื้อค้น เป็น ประจำ หลังออก จาก ป่า..(แบบเวลาไปเดินป่า) กลับมา เจอด่าน ..พร้อมคำถามที่ว่า ได้ สัตว์ ไร มามั้ง. รื้อ รือ้ รือ้ ค้น ค้น... ไม่เจออะไร เอา..ข้อหา ดัดแปลง สภาพ รถ ไป 1 กระทง... เซ็งงงงงง อย่า ได้ ให้ พูด..

คำตอบที่ 16
       คำตอบที่ 15
โดน รื้อค้น เป็น ประจำ หลังออก จาก ป่า..(แบบเวลาไปเดินป่า) กลับมา เจอด่าน ..พร้อมคำถามที่ว่า ได้ สัตว์ ไร มามั้ง. รื้อ รือ้ รือ้ ค้น ค้น... ไม่เจออะไร เอา..ข้อหา ดัดแปลง สภาพ รถ ไป 1 กระทง... เซ็งงงงงง อย่า ได้ ให้ พูด..

คุณพังพลายครับ ผมเดินป่าก็บ่อยนะครับไปมาก็หลายที่แต่ยังไม่เคยเจอ เลยครับ ด่านแบบที่คุณพังพลายเจอเนี้ย ปกติเวลาไปก็ไม่เจอ กลับก็ไม่เจอ ......อยากทราบครับว่า คุณพังพลายไปตรงจุดไหนครับ เผื่อผมจะได้ระวังตัวบ้างครับ จะได้ไม่เสียรู้พวกที่ชอบ รื้อๆๆๆๆๆๆๆๆและก็ค้นๆๆๆๆๆๆๆๆ ม่ายช่ายอะไรหรอกครับ อ้ายพวกที่มานชอบขอรื้อขอค้นเนี้ย ถ้าเป็นผม ถ้าไม่มีหมายค้นมารื้อมาค้นของผมไม่ได้ง่ายๆนะครับ ผมละไม่ชอบจริงๆเลย แต่ถ้าให้ผมรื้อเองค้นเองให้ดูนั้นไม่มีปัญหาครับ ยินยอมด้วยความยินดี

แต่จะมารื้อมาค้นแบบขอค้นหมดสิทย์ครับผมไม่ยอมง่ายๆครับรึว่าถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องมีผู้บังคับบัญชาหรือนายตำหรวจติดดาวร่วมอยู่ด้วยครับ

คำตอบที่ 17
       เจอแต่ไถ และ เลว ไม่เคยเจอ ตร ดี

คำตอบที่ 18
       ท่าน พรานผึ้ง...สน.ปากพลี..เลย ค่ะ..คณะท่าน เค้าเข็มงวด จริงๆ ๆ แบบ..คงดูหน้า..นู๋ นู๋ แล้ว คงไม่มีทาง สู้ เลยจัดมาให้..1 กะทง..ก่อน