คำตอบที่ 71
สวัสดีครับคุณลุงนิดและสมาชิกท่องเที่ยวแคมปิ้งทุกท่าน...
พอดีว่ามีสมาชิกชักชวนให้มารายงานตัวที่กระทู้นี้ก่อน..ก็ถือโอกาสนี้รายงานตัวเลยนะครับ ผมม้าแกลบน้องๆเขาเรียกกันว่าพี่ม้า(จนผมคิดว่าเป็นชื่อตัวเองจริงๆไปแล้ว) ถือกำเนิดเกิดมาดูโลกที่แสนจะสวยงามและยุ่งเหยิงที่เวียงชัยนารายณ์(เชียงราย)
อายุอานามก็ประมาณรุ่นราวคราวเดียวกับท่านลุงนิด แต่อาจดูแก่กว่า"ลุงนิด"นิดหน่อย(นิดเดียวจริงๆ) สถานภาพทางอาชีพตกงานขอตังลูกใช้ อยากมีโอกาสได้เที่ยวไปในเมืองไทยอย่างทุกท่านบ้าง แนะนำบ้างนะครับ..พี่ๆ+น้องๆท่านใดขึ้นเหนือเที่ยวเชียงรายกริ๊งกร๊างบอกกันได้นะครับ 085-7061015 หากเป็นจังหวะที่อยู่เชียงรายจะขอตามไปเที่ยวด้วย..ที่บอกเช่นนี้เหตุเพราะว่า (บางครั้งบางคราวก็อยู่บ้านพักคนชราที่ปากเกร็ด) อย่างเวลานี้ไม่ได้กลับเชียงราย2เดือนแล้วครับ ชอบให้คนไปเที่ยวเชียงรายกันมากๆครับ
เห็นคุณหนุ่ม rhino มีโปรแกรมเที่ยวบ้านเปิ่งเคิ่งและเลตองคุเสียดายผมเข้ามาช้าไป ผมเองอยากไปย้อนอดีตเกือบ30ปีที่แล้วเหมือนกัน เวลานั้นเส้นทางจากแม่จันทะไปเปิ่งเคิ่งยังไม่มี พอไปถึงแม่จันทะต้องวิ่งเข้าไปในพม่า(เขตกระเหรี่ยงปกครอง)แล้วค่อนย้อนกลับเข้ามาเขตไทยที่บ้านเปิ่งเคิ่ง จำได้ว่าแวะเข้าไปทานข้าวที่ฐาน ต.ช.ด.ที่ตั้งฐานอยู่บนดอยเล็กๆหน้าหมู่บ้าน
แล้วก็ขับรถกลับเข้าไปในพม่าอีกครั้ง(เขตกระเหรี่ยงปกครอง)เป้าหมายของเราอยู่ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ระหว่างทางไปนอนค้างหนึ่งคืนให้ยุงกัดที่บ้าน"นายพลส่วยชัย"ซึ่งเป็นรอง"นายพลโบเมียะ"ในสมัยนั้น นายพลส่วยชัยคุมกำลังทางด้านตรงข้ามกาญจนบุรีของเรา เช้าวันต่อมาเดินทางจากบ้านนายพลส่วยชัยเพื่อไปกลับเข้าเมืองไทยที่อ.สังขละ แต่กระเหรี่ยงที่เราจ้างมานำทางตั้งแต่เริ่มออกจากเปิ่งเคิ่งดันจำทางไม่ได้พาหลงขับรถวนเวียนอยู่ในป่าพม่าหลายชั่วโมง จึงสารภาพว่าจำทางไม่ได้ ยุ่งละสิจะทำอย่างไง พอดีไปเจอกระต๊อบกลางป่าดูแล้วน่าจะมีคนอาศัยอยู่ แล้วก็โชคเข้าข้างเรามีชาวไร่ชาวสวนคนหนึ่งอาศัยอยู่ในกระต๊อบจริงๆ ก็เลยต้องไปส่งภาษามือ+ภาษาไทยถามคนในกระต๊อบว่ารู้จักสังขละหรือเปล่า พอเขาผงกหัวว่ารู้จักก็ดึงมือเขาออกจากกระต๊อบแล้วบอกให้เขาช่วยนำทางได้ไหม?โดยจะสมนาคุณให้เขา500บาทตกลงไหม? พอชายในกระต๊อบผงกหัวตกลงก็จูงเขาเดินตรงไปขึ้นรถกับเราทันที
อ้อเรามาด้วยกันทั้งหมด3คัน6ชีวิต จนในที่สุดชายในกระต๊อบก็พาเราดั้นด้นมาถึงสังขละจนได้ เวลานั้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ
ตลอดเส้นทางแท้จริงยังมีรายระเอียดที่เราเจอะเจอบนเส้นทางที่ผ่านมาอีกเยอะแยะมากมาย ถือเป็นประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตผมครั้งหนึ่ง เช่นก่อนเข้าพบท่าน"นายพลส่วยชัย"
พวกเราต้องลงจากรถแล้วเดินออกมายืนอยู่ข้างรถ โดยทหารกระเหรี่ยงเอาปืนจ่อพวกเราทั้งหมด6คน6กระบอกเอาไว้เหมือนกับนักโทษ หากพวกเราตุกติกก็คงลั่นกระสุนทันที แล้วก็ทำการค้นรถของพวกเรา พอเห็นว่าพวกเรามาอย่างมิตรในรถไม่ได้มีอะไรแอบแฝงมา ก็จึงอนุญาตให้เราเข้าพบนายพลส่วยชัยได้ (ทั้งๆที่เราได้มีการประสานงานมาก่อนแล้วว่าจะขอเข้าพบท่านนายพล ก็คงเป็นไปตามมาตรการของทหารป่าขั้นสูงสุด
, ระหว่างทางยังมีเจอฝนตกหนัก เส้นทางบนเขาบางลูกต้องปล่อยรถให้สกีลงเขาแบบชีวิตฝากไว้กับดวงจริงๆ เพราะควบคุมอะไรไม่ได้เลยในขณะนั้น , ต้องขับรถข้ามแม่น้ำสุริยะสายเดียวแต่ต้องข้ามมากกว่า20ครั้ง ,เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ การเดินทางที่ผมเล่ามาชุดนี้ถูกบันทึกเทปไว้
หน้าปกชื่อว่า"เส้นทางนิรนาม" เคยมีวางขายในท้องตลาดเทปทั่วไป ส่วนเลตองคุในสมัยนั้นก็ต้องขับรถเข้าไปในพม่าแล้วถึงย้อนเข้าไปอีกเหมือนกัน ผมเคยไปรอรับเสร็จสมเด็จพระเทพฯเมื่อครั้งทรงเสด็จบ้านเลตองคุในสมัยนั้น มาถึงวันที่ผมโพสข้อความนี้ท่านหนุ่ม rhino คงกลับมาจากอุ้มผางแล้ว สภาพปัจุจบันเปิ่งเคิ่งเป็นอย่างไง? เลตองคุเป็นอย่างไร? เอารูปเอาเรื่องมาเล่าแบ่งปันกันด้วยนะครับ จะรอติดตามชมนะครับ
ต้องบอกถึงทุกๆท่านว่าเส้นทางในพม่าทั้งหมดที่ผมกล่าวมาปัจจุบันไม่น่าจะใช้สัญจรไปมาได้อย่างปลอดภัยเหมือนก่อน เพราะเขตอิทธิพลของกระเหรี่งหรือเขตที่กระเหรี่ยงปกครองอยู่หลายค่ายได้ถูกพม่าตีแตกแล้วยึดเป็นฐานของตัวเองบ้าง ทหารพม่าเข้าประชิดพร้อมเปิดศึกกับกระเหรี่ยงหลายๆด้าน หากการเดินทางต้องไปเจอกับทหารพม่าบนเส้นทางคงไม่ดีและไม่ปลอดภัยแน่
อยู่กับบ้านใหญ่วิคเอนมานานแล้วว่างๆก็ลองเข้าไปเที่ยวบ้านหลังเล็กๆของผมกันได้นะครับ
http://www.thaitripdd.com/
แก้ไขเมื่อ : 27/8/2553 2:51:33
แก้ไขเมื่อ : 27/8/2553 10:12:34
แก้ไขเมื่อ : 27/8/2553 11:20:30
แก้ไขเมื่อ : 27/8/2553 11:22:14