WeekendHobby.com


พาเที่ยวเชียงใหม่ 5 วัน
okienokie
จาก Note
พุธที่ , 8/9/2553
เวลา : 14:52

อ่าน = 1131
203.146.226.98
       เรื่องนี้โน้ตเขียนไว้ใน ifotosmile.com เมื่อต้นปีค่ะ ก่อนเข้ามา weekendhobby เอามาให้ชาว weekendhobby อ่านกันนะคะ

หนูโน้ตจะพาทุกท่านติดตามภาพถ่ายไปทัวร์เชียงใหม่กันค่ะ มีเวลาแค่ 5 วัน บางคนอาจจะนึกไม่ออกว่าอยากทำอะไรบ้าง ทริปนี้เป็นแบบสบายๆ .....555 ว่าไปนั่นเหมือนหัวหน้าทัวร์ยังไงก็ไม่รู้เนอะ...



 แก้ไขเมื่อ : 8/9/2553 14:54:33




เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ที่จริงไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ หลังจากฟาดฟันกับตานะมาเป็นปี ก็เลยพักเหนื่อยกันบ้าง ก็เราสองคนจองตั๋วเครื่องบินกันล่วงหน้าตั้งแต่ มิถุนายน 2552 ของสายการบิน แอร์เอเชีย ว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน 2 ทริป
ทริปแรกคือ ไปกลับเชียงใหม่
ทริปที่สองคือ ไปกลับอุบลราชธานี

เหตุด้วยว่าตานะไม่เคยนั่งเครื่องบิน เลยอยากให้นั่งไปเที่ยวด้วยกัน อะไรที่ไม่เคยทำก็อยากให้ทำด้วยกัน ก็เลยก่อเกิดความคิดอยากไปด้วยเครื่องบินซะงั้น จังหวะเหมาะ คือมีโปรโมชั่นตั๋ว ในราคาถูก...จะถูกยังไงก็อ่านต่อไปเรื่อยๆ นะจ๊ะ

"ว่าไงจะไปด้วยกันมั้ย?" นี่เป็นคำถามขอความแน่ใจก่อนจองตั๋วจากหนูโน้ต
"ก็แล้วแต่ดิ" ตานะตอบมาแบบนี้...ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าอีตาเนี่ยจะเอายังไงแน่...
"เฮ้ย...เอาไงเนี่ย ไม่งั้นจะจองแล้วนะ เนี่ยเปิดหน้าจอคอมรออยู่ แค่คลิ๊กมันก็ไปแล้วนะ"....โน้ต
"ตามใจดิ" ...ตานะตอบ...และแล้วก็คำเดิมๆ แบบไม่ตัดสินใจอะไรอีกแระ ถือเป็นอันว่าตกลงละกัน...

ว่าแล้วหนูโน้ตก็กดทำการจองตั๋วผ่านหน้าจอ...ด้วยราคาไปกลับรวมเบ็ดเสร็จแล้วตกคนละ 800 กว่าบาท อันนี้รวมอะไรบ้าง ก็ค่าภาษีน้ำมัน ค่าภาษีสนามบิน ค่าน้ำหนักสำภาระ ที่เผื่อไว้ว่ามีของโหลดไม่เกิน 15 กิโล.. แล้วก็อาหารบนเครื่อง... รวมสองคนก็ 1600 นิดๆ... อันนี้คือราคา สำหรับไปกลับ กรุงเทพ -เชียงใหม่- กรุงเทพ

ส่วนถ้าไปอุบลอยากบอกว่าถูกกว่านั้นอีก (ราคาอยู่ที่คนละ สามร้อย) แต่ไม่รู้ทริปนี้จะได้ไปรึป่าว...

หลังจากเรื่องตั๋วเสร็จที่เรียบร้อย หลังจากนั้นก็มีทะเลาะกันประปลาย จนถึง บานปลาย... ทำเอาเกือบจะไม่ได้ไป.. สุดท้ายตอนมกรา โน้ตก็โทรไปอีก

โน้ต..."ตานะ...สรุปไปปะ"
ตานะ..."ไม่ไปแระ..." พอได้ยินคำตอบแบบนี้ก็ถึงขั้นจ๋อยเลยทีเดียว แต่ในใจก็อยากไปแหละ.. งั้นถามใหม่..
โน้ต..."ตานะ...ไม่ไปจริงเหรอ อยากไปหลายที่เลยนะ โน้ตอยากให้นะลองนั่งเครื่องบินจริงๆ "
ตานะ..."ไม่รู้...แล้วค่อยว่ากัน"....เออ...คงเริ่มเปลี่ยนใจแระ

วันถัดๆ มา...
โน้ต..."ตานะ..ที่พักจองไว้เรียบร้อยแล้ว ไปที่นี่...ที่นี่..แล้วก็ที่นี่นะ..." บอกรายละเอียดให้ดูน่าสนใจขึ้น...
ตานะ ... "อืม..."
โน้ต..."งั้นเจอกันที่อนุสาวรีย์นะ" นัดเหมือนจะไปหมอชิตเลยแฮะ แล้วไมต้องนัดอนุสาวรีย์ด้วยหว่า...
ตานะ..."อืม"

คืนก่อนไป...
โน้ต..."นะเตรียมเลนส์อะไรบ้าง..จัดกระเป๋ารึยัง..."
ตานะ..."จัดอยู่ เตรียมแระเลนส์อ่ะ..."
โน้ต..."งั้นโทรปลุกด้วยนะ เพราะโน้ตกินยาแก้ปวดหัวไป คงหลับยาวกลัวตื่นไม่ทัน ออกจากสุพรรณฯ แล้วโทรบอกด้วยแล้วกัน"
ตานะ..."อืม" (ตานะเดี๋ยวนี้เป็นใบ้แล้ว...อืมอย่างเดียว คาดเดาอาการยากมาก เดี่ยวดีดี๋ด๋า เดี๋ยวหมดอายุซะงั้น)

เช้าวันเดินทาง...
ตานะ..."โน้ตตื่นยัง ใกล้ถึงกรุงเทพฯแล้วนะ"
โน้ต..."อืมมมม ตื่นนนนแระ ขอยี่สิบนาทีเดี๋ยวเจอกัน"

ว่าแล้วรีบลุกอย่างว่องไว... ไปถึงอนุสาวรีย์ในทันใด...แล้วก็จากอนุสาวรีย์ ขึ้นรถต่อไปยังสุวรรณภูมิ

เนื่องจากทำการ check in ตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บแล้ว ทุกกระบวนการเลยเร็วขึ้นค่ะ ยกเว้นต่อคิวรอเอา baggage โหลดเนี่ยแหละ..มันดูชุลมุนเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีปัญหาอันใด

และแล้วก็พาตานะ เดินสำรวจแอร์พอร์ต เพราะเรามีเวลาเหลือเฟือ ระหว่างรอตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าๆ
รู้สึกเส้นทางในแอร์พอร์ตจะยาวนานซักหน่อย.. เพราะตานะแวะห้องน้ำถึง 3 เที่ยว...

Boarding time เรียกขึ้นเครื่องแระ... งวดนี้ไม่รู้ด้วยเหตุอันใดโดนไปนั่งท้ายเครื่อง แต่ก็ดี ได้เห็นปีกเครื่องบินตลอดเวลา...

แต่ที่ต้องงงระหว่างบนเครื่องคือ... สายการบินนี้เด็กไม่มีที่นั่งอ่ะ...ใช้อาศัยนั่งตักเอาเหมือนนั่งรถทัวร์เลย...รู้สึก ไม่ safety เลยอ่ะ... เป็นครั้งที่สองที่นั่งสายการบินในประเทศ อันแรกอ่ะการบินไทย...แต่แอร์เอเชียครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก และเพิ่งสังเกตเห็นความง่ายกับราคาถูกก็ตรงนี้อ่ะ...ซึ่งเรื่องอาหารหรืออะไรก็พอว่า แต่เรื่องเอาเด็กนั่งตัก หรือนั่งอยู่ระหว่างซอกขาตลอดการเดินทาง มันดูขัดความรู้สึกมากมาย...ก็ได้แต่ชี้ให้ตานะดูแล้วบอกว่า อันนี้ถ้าบินนานาชาติไม่ได้นะคะ...

พอถึงสนามบินเชียงใหม่ .... สาวน้อยน่ารักก็มารับ...

จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก น้องจิต...จิตมารับแล้วพาไปกินร้านอาหารหลัง มช. ใกล้ๆ กับสนามบิน...อาหารอร่อยโดยเฉพาะเมนูปลาทอด ซึ่งตอนแรกตานะก็ไม่ขอลองเพราะไม่ชอบ แต่สุดท้ายความกรอบของปลามันเรียก ก็เลยลองชิมดู ... หมดไปอีกหนึ่งมื้อ..น้องจิต เลยพาไปส่งที่ท่ารถสองแถวใน ม. ให้เรานั่งต่อไปหาที่พัก...

ตอนแรกว่าจะจองค่ะ แต่คิดว่าไปวันธรรมดา เลยเสี่ยงเอาดีกว่า มีเวลาไปเลือกที่พัก แต่สุดท้ายกลับไปตายรัง... ไปนอนบ้านหน้าสถานีดีกว่า... ก็ไปหาเช่ารถมอเตอร์ไซด์ ให้ตานะขี่ แบกเป้และสัมภาระ โน้ตซ้อนก็แบกเหมือนกัน ลากกันไปเอากุญแจบ้านที่โรงเรียนดารา...ที่น้าของโน้ตสอนอยู่ แล้วก็กลับไปเก็บของที่บ้าน

จากนั้นเวลาเหลือก่อนพระอาทิตย์ตกอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็ขอใช้เวลาให้คุ้มค่าโดยการกี่ มอเตอร์ไซด์ราคารายวันตกอยู่ที่วันละ 200 บาท ขึ้นดอยสุเทพ ไปเที่ยวพระธาตุ






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 14:55   


คำตอบที่ 2
       พระธาตุยังเข้าเฝือกอยู่เลย...





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 14:56   


คำตอบที่ 3
       พอมาถึงบนพระธาตุก็ตัวใครตัวมันค่ะ หามุมกันเอาเอง แล้วสักพักค่อยมาเดินตามกันใหม่...
มาหยุดอยู่ตรงมุมตะเกียงน้ำมัน...(ไม่รู้เรียกถูกอ่ะป่าว) นักท่องเที่ยวก็มายืนไหว้กัน แล้วก็ตักน้ำมันเติมเชื้อตามตะเกียงวันเกิด ไอ้เราก็ยืนถ่ายเปลวไฟอยู่ตรงนั้นแหละ ตานะมาก็ถ่ายด้วย และแล้ว...

โน้ต..."นะ เค้าให้ตักน้ำมันตามวันเกิดแหนะ ไปตักดิ เดี๋ยวถ่ายให้"
ตานะ..."อืม..ไหนอ่ะ"
โน้ต.."นั่นช้อนตักอยู่นั่น" "โน่นไงตะเกียงวันอาทิตย์"
ตานะ..."แล้วโน้ตเกิดวันไหนอ่ะ.."
โน้ต..."วันศุกร์..."
สักพักตานะก็ยืนไหว้พระ..อธิษฐานเผื่อทั้งสองวันเลย...เพราะรู้ว่าโน้ตศาสนาคริสต์คงได้แต่ยืนดูเฉยๆ
โน้ต..."ทำเผื่อแม่เธอด้วยนะ รู้สึกน่าจะเกิดวันพุธอ่ะ" ที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะแม่เค้าไม่ใช่แม่เรา..แต่จำได้ว่าพูดถึงสีเขียวกับชอบของสีเขียวอะไรเนี่ยแหละ ตรงกับวันเกิดหรืออะไรซักอย่าง...ก็เลยคาดว่าใช่..
ตานะ.."พุธมันมีกลางวัน กับกลางคืน อันไหนหล่ะ"
โน้ต.."เออ ไม่รู้...ของฉันมันก็พุธเหมือนกันอ่ะ ใส่ไปเถอะ"



โน้ต..."ไปเถอะ เดี๋ยวฟ้ามืดไม่ทันดูพระอาทิตย์ตก..."
ว่าแล้วก็ลงจากพระธาตุมุ่งหน้าไปจุดชมพระอาทิตย์...






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 14:57   


คำตอบที่ 4
       โน้ต..."นะ...มันหนาวอ่ะ..ขี่ช้าๆ หน่อยดิ"
ตานะ..."ก็หนาวอ่ะดิ...น้ำมูกไหลแล้วเนี่ย"

คือว่าไม่เจียมค่ะ ขี่มอเตอร์ไซด์ขึ้นดอยกัน ลืมหยิบเสื้อกันหนาว ทั้งๆ ที่ถามอากาศน้าๆ และน้องๆ กันไว้แล้ว ทุกคนบอกเช้ากับกลางคืนมันหนาวนะช่วงนี้...ก็ลืมซะอีก

อากาศอยู่ที่ประมาณ 13 องศาได้ค่ะ...และแล้วก็ไปยืนสั่นอยู่บนดอยรอชมพระอาทิตย์ตกกัน...
พอดีทีมงานกองถ่ายเรื่องบุญชู 10 ไปเตรียมงานอยู่เนินด้านบนจุดชมวิวของเราไปอีกหน่อย เลยมีเพื่อนยืนชมพระอาทิตย์ไม่เหงาเลยทีเดียว...






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 14:58   


คำตอบที่ 5
       "หนาวแระ....กลับยัง ชักไม่ไหวแล้วนะ"...โน้ต
ตานะ..."แล้วไปไหนต่อ..."
โน้ต..."พาไปดูดาวบนดิน แล้วก็กินข้าวต้ม"
ตานะ..."อืม"

ระหว่างเดินไปที่มอเตอร์ไซด์

"เฮ้ยๆ แป๊ปนะ... เจอมุมสวยแระ ขอถ่ายหน่อยแล้วกัน" ...โน้ตเองดันหันไปเห็นต้นไม้กับแสงสุดท้ายพอดี เลยหยิบกล้องมาถ่าย จากนั้นก็กดกันไปอีกพักนึง กระโดดกันคนละตุ๊บสองตุ๊บ...

แล้วก็ขี่รถลงดอยมาถึงกลางทาง เป็นจุดชมดาวบนดิน...เห็นไฟของเมืองเชียงใหม่ระยิบระยับ
มีรถมาจอดจีบกันเป็นคู่ๆ บ้างก็มานั่งดื่มเบียร์เอาบรรยากาศ

และแล้วโน้ตก็พานะไปร้านข้าวต้มหน้าสถานีรถไฟ ใกล้ๆบ้านนั่นแหละค่ะ
ข้าวต้มชามละ 2 บาท กับ 10-20 บาท ทานกันไปหลายอยู่ นะทานข้าวต้มไป 3 ชาม กับอีกเพียบ รวมแล้ว สองคน 100 พอดีเลย...






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:13   


คำตอบที่ 6
       หลังจากทานข้าวต้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็กลับบ้านนอนพักผ่อนค่ะ เป็นอันจบไปอีกหนึ่งวัน...
เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนออกเดินทางก็ถามตานะว่า
"นะ...จะเอายังไง ไปอ่างขางเนี่ย..จะเหมารถแดงในเมือง หรือว่าจะนั่งรถที่ขนส่งแล้วไปต่อ หรือว่าจะเอารถที่บ้าน หรือนายจะอาจหาญขี่รถเครื่องไป"

เหตุที่พูดถึงรถเครื่อง เนื่องด้วยน้องจิตสุดสวยบอกว่าเคยเอารถเครื่องขึ้นอ่างขาง ใช้เวลา 5 ชั่วโมง... เราก็คำนวนในหัวแล้ว เออ เอาหล่ะ ลองบ้าบิ่นดูดีมั้ย...แต่กว่าจะถึงขาคงกางแน่ๆ ... แม้กระนั้นตานะก็ยังมีความคิดอยากเอารถเครื่องไป แต่ท่าทางร่างกายไม่ค่อยจะสู้ดี...อาการหวัดเริ่มถามถึง จากการขี่รถเครื่องรับลมหนาวที่ดอยสุเทพเมื่อคืนวาน...

สรุปสุดท้าย คือ เอารถเครื่องไปคืน...(ตายหล่ะหว่า...จำร้านไม่ได้...ร้านเช่ามากมายบนถนนเรียบคู)
ทำไงดี ร้านรถเครื่องจำไม่ได้...ตานะไม่รู้ทางอีกต่างหาก โน้ตก็ขับรถเก๋งที่ยืมน้าไว้ นำทาง รถเครื่องที่ตานะขี่ตามมาติดๆ วนจนเจอร้านนั่นแหละ

หลังจากคืนรถเครื่องแล้ว ก็ขึ้นรถเก๋งคันเก่า วิ่งมุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง ทั้งที่ในหัวไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไง..จำได้แต่ว่า ขึ้นทางฝางตอนเด็กๆ ทางมันชันมาก แต่เปิดข้อมูลในเว็บก่อนไป มันมีทางขึ้นอีกทาง...น่าจะดีกว่า..ก็สุ่มไปกันนั่นแหละค่ะ ตานะไม่รู้หรอกว่าหนูโน้ตมั่วเก่งเป็นที่หนึ่งเรื่องทางเนี่ย... พอขึ้นรถได้พี่แกก็เอนกายสบายไปแระ ไอ้เราก็ทำท่ามั่นใจไปงั้น แต่ถนนเนี่ยไม่รู้เลย...

จากตัวเมืองวิ่งเส้น แม่ริม 107 ผ่าน อ.แม่ริม อ.แม่แตง เข้าสู่ อ.เชียงดาว... ระยะทางประมาณ 120 กว่าโลได้.. พอเข้าเชียงดาว เจ้าป้ายสีน้ำเงินเขียนว่า ถ้ำเชียงดาว มันก็หล่ามาเตะสายตา...เลยหันไปถามคนข้างๆ ว่า

"นะ...ไปปะ ถ้ำเชียงดาวอ่ะ"
ตานะ...."อืม มีไรให้ดู..."
โน้ต..."ก็ถ้ำอ่ะ เราก็ไม่เคยเที่ยวถ้ำซักครั้งเลย มันก็มืดๆ มีหินงอกหินย้อย แต่ที่นี่เค้าว่าสวยเลยนะ ลองมั้ย"
ตานะ..."อืม ก็แล้วแต่"

เอาอีกแระ...มามุขก็แล้วแต่อีกแระ โน้ตก็เลยต้องตัดสินใจตามเคย สรุปคือ แวะเที่ยว...พอเข้าไปได้ซักพัก วิวภูเขามันกินใจตานะเหลือเกิน จนโน้ตรู้สึกได้...เลยจอดข้างทางให้ตานะไปเก็บภาพพาโนมาฝาก...ถ่ายได้ซักพักก็เข้าไปที่ถ้ำค่ะ

ก่อนเข้าถ้ำทางวัดเลี้ยงปลาตัวโตๆ ไว้มากมาย น้ำก็เป็นน้ำที่ซึมมาจากในถ้ำนั่นแหละค่ะ... ทางวัดคิดค่าเข้าไปเดินในถ้ำ คนละ 10 บาท

พอเข้าไปในถ้ำ ถ้าดูแค่ด้านหน้า หรือส่วนของถ้ำพระนอน ก็ไม่ต้องเสียเพิ่มแล้ว แต่ถ้าจะเข้าไปลึกๆ ต้องใช้ตะเกียงน้ำทาง กับผู้นำทาง ซึ่งมันเป็นทางวนซ้าย ไปทะลุกับถ้ำพระนอนได้... ค่าตะเกียงก็อยู่ที่ 100 บาท ส่วนค่าคนนำทางก็ต่างหากไป...แล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้

โชคดีวันนี้ เราบังเอิญเจอคุณลุงสัน เป็นไกด์อาสามานานแล้ว ลุงอายุ 66 ปี ลูกสาวทำงานกรุงเทพ ส่วนลุงแกก็มานั่งอาสาเป็นไกด์นำทางในถ้ำแห่งนี้ทุกวันค่ะ...วันนึงลุงก็เดินได้ประมาณรอบนึงนั่นแหละ พอได้เงินค่ากับข้าวอยู่บ้าง... แต่ลุงเค้าเก่งนะ พยายามพูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา นักท่องเที่ยวฝรั่งเดินผ่าน ลุงแกก็จะทักเป็นภาษาง่ายๆ

"hellooo" "how r u?" "enjoy?" "where u from?"

ลุงบอกว่า ก็เรียนรู้จากฝรั่งที่พูดไทยได้ เค้ามีมาตามหมู่บ้านมาสอนเหมือนกัน คำไหนแกอยากพูดก็เขียนเป็นภาษาไทย ถามฝรั่งให้เค้าแปลให้ แล้วลุงเค้าก็จำเอา... ลุงบอกจะพูดได้ไม่ได้เนี่ย ต้องอาศัยอย่างเดียว ใจกล้าหน้าด้านเข้าไว้...





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:15   


คำตอบที่ 7
       เส้นทาง 700 กว่าเมตร..(จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้) ที่เดินมืดๆ นั่น... ถ่ายภาพยากมากๆ เพราะไม่เคยเที่ยวถ้ำมาก่อน แล้วอีกอย่าง โน้ตกลัวความมืดวังเวงแบบนี้ด้วย ก็เดินจับชายเสื้อลุงไปตลอด แล้วก็หันไปบอกตานะให้เดินตามเร็วๆ ไม่ก็ "ลุงๆ หยุดก่อนรอตานะด้วย" แล้วลุงก็พามุดจากถ้ำนึงไปโผล่อีกช่องถ้ำนึง ซึ่งมันเป็น 3 ถ้ำต่อกันตลอดเชื่อมด้วยช่องเล็กๆ ต้องย่อตัวมุดสุดๆ คลานจนกางเกงเลอะไปหมด ลุงบอก "ช่องนี้ ถ้าคนไม่มีบุญมุดไปก็หัวโขก แต่ถ้ามีบุญหัวก็ไม่โขก" สองคนกับตานะ ก็ระวังกันใหญ่ ใครอยากหัวโขกบ้างหล่ะ...

ภาพส่วนใหญ่ก็อย่างเคยค่ะ รอชมจากตานะเอานะ ช่วงนี้ตาเนี่ยเป็นหวัด คงอีกพักใหญ่...แต่เอามาลงแน่ๆ...





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:16   


คำตอบที่ 8
       เส้นทางเดิน เป็นทางมืดมากๆ มีแค่ตะเกียงที่ลุงถือให้เท่านั้น เพราะฉะนั้น ผู้ติดตามจึงกำหนดให้ไม่เกิน 5 คนเท่านั้น เพราะไม่งั้นคงดูแลกันไม่ทั่วถึง แสงไฟคงไม่พอ ในถ้ำมีหินรูปต่างๆ มากมาย ลุงสันเล่าเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกัน ผสมกับมุขมากมาย...อย่างเช่น ส่องไฟไป บอกว่า มองไปทางนั้นสิ นั่นเรียกว่า ช่องรันตู... ไอ้เราก็กำลังงง เพราะที่เดินผ่านมาก ลุงบอกตลอดว่า จมูกเทวดา หินรูปช้าง ไข่ดาวเทวดา มันก็อิงๆ อยู่กับสัตว์กับเทวดามาตลอด แล้วไอ้ "ช่องรันตู" ชื่อมันแปลก ทำไมมันถึงตั้งอย่างนั้น

พอลุงมาเฉลย...ก็ช่องรูตันไง เท่านั้นแหละ เสียงตานะก็หัวเราะลั่นว่าไอ้โน้ตปล่อยไก่ไปซะแระ...






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:16   


คำตอบที่ 9
       ออกมาจากถ้ำเชียงดาว ก็เลยชวนลุงสันกินข้าว เพราะงบเราน้อย รู้สึกว่าให้ค่านำทางลุงได้พอสมควร แต่ลุงน่ารักมากมาย ก็เลยชวนลุงทานข้าวด้วยกัน กับข้าวหน้าวัดอร่อยแบบชาวบ้านๆ ทานได้..ราคาไม่แพงค่ะ...

จากนั้นเวลาก็ล่วงเลย เริ่มเดินทางออกจากตัวเมือง 10 โมงกว่า มาถึงถ้ำเชียงดาว ประมาณ เที่ยงครึ่ง ถ่ายรูป เดินถ้ำอีก กินข้าว ออกมาก็เกือบ 3 โมง ก็ต้องรีบแระ ไม่งั้นขึ้นเขามืดๆ อันตราย...

วิ่งเลย อ.เชียงดาว ไปอีกหน่อย ก็จะมีป้ายบอกว่า "ไปอ่างขาง" ก็ใช้เส้นทางนี้ได้เลยค่ะ เส้นทางนี้ดูจะไกลซักหน่อย แต่เมื่อเทียบแล้วก็ระยะทางพอกัน แต่ช่วงขึ้นเขาจะกว้างซักหน่อย ใช้เวลามากหน่อย แต่ทางไม่ชันอย่างที่คิด แล้ววิวก็มีให้ดูไปตลอด...


เส้นผ่านเมืองงาย ไป บ.อรุโณทัย บ.ผาแดง แล้วดอยอ่างขาง






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:17   


คำตอบที่ 10
       ผ่านบ้านอรุโนทัย ตอนที่โรงเรียนเลิกพอดี...เด็กเยอะมากๆ





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:18   


คำตอบที่ 11
       ตอนที่ขึ้นเนี่ย...ยังพอเห็นดอกพญาเสือโคร่งอยู่บ้างค่ะ...บางคนบอกว่าทางไชยปราการเพิ่งออกดอกก็มี... แต่เราก็ไม่ได้ผ่านตรงนั้น พอดีไปจอดพักเหนื่อยดื่มชาที่ โรงเตี๋ยมถ้ำงอบ... ก็พอมีให้ถ่ายบ้างไม่กี่ต้น... แต่เป็นแนวคงไม่เห็นแระหล่ะ





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:19   


คำตอบที่ 12
       จุดชมวิวบ้านผาแดง





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:20   


คำตอบที่ 13
       จากจุดชมวิว ก็อีกประมาณ 20 กิโล ก็ถึงที่พักแระ... คืนที่ไปเนี่ย ไปพักที่บ้านพักสุวรรณภูมิค่ะ ไม่ใช่ช่วงนักท่องเที่ยวเยอะ ก็เสียประมาณคืนละ 600 บาท ป้าเจ้าของที่พักน่ารักมากๆ อัธยาศัยดีเป็นที่หนึ่ง ใจดีคอยแนะนำเราตลอดเลย
ป้าบอกว่า..."คืนนี้ก็รีบนอนซะ แล้วก็ตื่นตีห้าครึ่งก็ยังทันพระอาทิตย์"

เราก็เลยออกไปเดินชิมชา เดินวนซักรอบสองรอบ แล้วก็กลับมานอนพัก...
ก่อนนอนก็เดินเก็บบรรยากาศรีสอร์ตที่พักข้างเคียงมาฝากด้วยค่ะ...โดยความรู้สึกแล้วก็ยังประทับใจ บ้านพักสุวรรณภูมิเนี่ยแหละ

ขนของขึ้นห้องพักเสร็จเรียบร้อย ตอนจะไขกุญแจเข้าห้องพัก โน้ตดันทำแก้วชากระเบื้องที่ตานะซื้อหลุดมือแตก เลยต้องวิ่งไปซื้อมาใหม่ บรรจงเลือกอย่างดี ไม่งั้นหน้าพี่แกจะงอนเป็นตูดหมึกเลย.. ก็วิ่งไปซื้อมาเสร็จเรียบร้อย แวะจะไปเอาของที่รถ ปรากฎว่ามีหนุ่มน้อยคนนึงมายืนอยู่ข้างหลังมืดๆ

"พี่ๆ พรุ่งนี้พี่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นรึป่าว? " เสียงหนุ่มน้อยพูดสำเนียงกึ่งๆ ไม่ชัดแบบชาวเขานั่นแหละ แต่ทำเราตกใจเล็กน้อย...
"อืม...ยังไม่รู้เลยอ่ะ..." แอบระแวงเล็กน้อย "จะเอาอะไรเหรอ" "จะขอติดรถไปด้วยเหรอ"
ก็ใครจะไปรู้มายืนเดี่ยวอยู่ข้างหลังจะเอาอะไร ถามตรงๆ อ่ะดีสุดแล้ว...วินาทีนั้นกำลังขนของด้วย...

"พี่จะไปรึป่าวหล่ะ?"...เด็กถาม
โน้ต.."พี่ยังไม่รู้จะตื่นไหวรึป่าวเลย คงไปมั้ง"
เด็ก.."ผมเป็นไกด์ให้เอามั้ย?"
เฮ้อ....แล้วไป...ไมไม่บอกกันแต่แรกเนี่ย...
โน้ต... "งั้นพี่บอกไว้ที่ป้าได้ปะ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยอ่ะ บ้านเราอยู่ไกลมั้ยหล่ะ มีเบอร์รึป่าว ถ้าไปจะได้เรียกได้ไง"
เด็ก..."ครับๆ " แล้วเด็กก็รับคำ เดินย้อนกลับบ้านไปเหมือนว่าเราตอบตกลงแล้วก็เดินดีใจไป..

โน้ตก็มองตามค่ะว่าเค้าจะเดินไปบอกที่ป้าเจ้าของไว้รึป่าว ว่าเราอาจจะเรียกนะ...ที่ไหนได้ เจ้าน้องเดินเลยไปเฉย...โน้ตก็เลยต้องวิ่งไปที่ป้าแล้วบอกว่า.."ป้าๆ ป้าฮู้จักก่อ...น้องเปิ้นจะมาเป็นไกด์ฮื้อ..."
ป้าตอบ.."ฮู้...น้องชื่อใจกลาง.."
โน้ต.."อ้าวป้า...แล้วถ้าหนูฮ้องเรียก กึ๊ดกันเท่าใด"
ป้าตอบ..."แล้วแต่จะฮื้อ"

โน้ตก็เลยตะโกนเรียกชื่อน้องใจกลาง แล้วบอกว่า "ใจกลาง งั้นพรุ่งนี้มาแล้วกันเน้อ...ตีห้าครึ่งโอเคมั้ย?"
ป้าก็บอกเสริมไปว่า "หกโมงก็ได้ ใจกลางมาเองใช่ก่อ?"
ใจกลางตอบ..."ครับๆ "

เท่านี้เป็นอันเสร็จ...และแล้วก็เข้านอนรอฟ้าเช้าในวันถัดไป..





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:21   


คำตอบที่ 14
       เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง โน้ตกับนะก็ตั้งนาฬิกาปลุกกันไว้ตั้งแต่ตีห้า แต่กว่าจะขยับตัวตื่นกันจริงๆ โน่น 5.45 รีบจัดการธุระในห้องน้ำให้เสร็จแล้วก็ลงมารอน้องใจกลาง เกือบ 6 โมงพอดี น้องใจกลางก็มาถึงหน้าที่พัก

ตานะกำลังยืนผิงไฟเตาน้ำขิงที่ป้าเจ้าของตื่นมาต้มแต่เช้า... พร้อมกำลังเล่นไอควันที่พุ่งออกจากปากด้วยอากาศหนาว...แล้วก็จามชิ๊วๆ

"มันกี่องศากันเนี่ย..." โน้ตกับนะพูดบ่นพร้อมกัน
ใจกลาง.."เดี๋ยวไปดูให้ครับพี่"
ป้า.."ใจกลางดูตรงนี้ก็ได้ หน้าห้องเนี่ยมีที่วัดอุณหภูมิ"
ใจกลาง..."ไม่ได้ครับ ของผมตรงนั้นตรงกว่าครับ แน่นอนเที่ยงตรง"
สรุปใจกลางวิ่งออกไปหน้าโรงแรม ปีนดูเสาร์วัดอุณหภูมิ แต่ลุงขับรถตู้ที่มารอนักท่องเที่ยวไวกว่า...
" 8 องศา" ...ลุงบอก
ใจกลางวิ่งกลับมาหอบเล็กน้อย..."13 องศาครับ"

"อ้าวแล้วอันไหนตรงกว่ากันเนี่ย...?" โน้ตเลยถามกลับไป...พร้อมเสียงหัวเราะทั้งจากป้า โน้ต แล้วก็ตานะ...
"สรุปเอา 8 แล้วกันหนาวดี..."

"แล้วใจกลางทานอะไรมารึยังครับ...." โน้ตถามก่อนที่เราจะขึ้นรถไปกัน...
"ทานแล้วครับ..โอวัลตินที่บ้าน" ...ใจกลางตอบ
"แล้วใครมาส่งอ่ะ" ...
"พี่สาวมาส่งครับ"...
"ไปงั้นขึ้นรถ...แต่ใจกลางบอกทางด้วยนะ"
"ครับๆ"

ขับรถจากที่พักขึ้นไปจนถึงแยกต้องเลี้ยวซ้าย แต่ข้างหน้ามีรถกระบะขับชะลออยู่ขวางหน้า..น้องใจกลางเลยพูดขึ้นมา...
"พี่แซงไปเลย...พวกนี้คือพวกไม่รู้ทาง เดี๋ยวเรานำไปเขาก็ตามมา แสดงว่าไม่มีไกด์"
"อืม" ว่าแล้วโน้ตก็ขับรถแซงขึ้นไป...ไอ้เก๋งของเราก็แรงน้อยเหลือหลาย แต่ก็ยังพอมีแรงแซงได้อีก...ใจกลางก็บอกทางไปจนถึงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น

"พี่จอดตรงนี้ได้เลยครับ เดี๋ยวเราทานเช้าตรงนี้ แล้วดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงนั้น แต่ถ้าพี่ไม่ชอบคนเยอะ ผมจะพาเดินไปอีกที่นึง ไม่มีคน แต่ต้องรอให้แสงมากกว่านี้หน่อย"...ใจกลางบอก
"อืม...จ้า..ตานะ เธอจะกินอะไร"
"หมั่นโถ...." ตานะตอบ...เนื่องด้วยพี่ๆ พูดถึงหมั่นโถกันมาหลายครั้งในบอร์ด ทำให้คราวนี้ตานะกินแต่หมั่นโถค่ะ...ประหยัดงบหนูโน้ตไปเยอะ...
"โน้ตๆ จ่ายตังค์ให้ด้วยดิ เอาข้าวต้มกับโอวัลตินสองชุดอ่ะ" ตานะบอก
"นะจะกินเหรอ"...โน้ตถาม..
"ป่าว เห็นมีเณร เลยจะตักบาตรเช้าด้วยเลย"....
"อืม...ได้สิ" ว่าแล้วโน้ตก็หยิบกระเป๋าตังค์จ่าย ถือไว้สองกระเป๋าตังค์ทั้งของตัวเองและของตานะ...






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:22   


คำตอบที่ 15
       ถึงเวลาสัมภาษณ์น้องใจกลางระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้น....บทสนทนาระหว่างโน้ตกับน้องใจกลางก็เริ่มขึ้น ในขณะที่ตานะยืนถ่ายภาพอยู่ใกล้ๆ

"ใจกลางมาเป็นไกด์ได้ไง?"...
"สมัครครับ ผมเป็นตั้งแต่ ป.2 แล้วครับ"
"แล้วตอนนี้ชั้นอะไรแล้วหล่ะ?"
"ป.6 ครับ"
"ใครจะสมัครก็ได้งั้นเหรอ?"
"ป่าวครับ ทั้งหมู่บ้านมีเด็กเป็นมัคคุเทศก์อย่างผม 15 คนครับ ต้องสมัครแล้วเจ้าหน้าที่โครงการจะเป็นคนคัดเลือก"
"งั้นแสดงว่าเจ้าหน้าที่เค้าก็สอนเราด้วยสิ ว่าต้องพาไปตรงไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง"
"ครับ"
"แล้วเราเดินหาลูกค้าเองอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ?"
"ครับก็ช่วยๆ กัน...เดินตามที่พักแรม พอได้เราก็วิ่งกลับไปที่รวมตัวกับเพื่อนๆ แล้วก็บอกว่าได้มากี่คน แล้วก็ดูว่าคิวตรงใครบ้าง..ต้องช่วยกันหาให้ครบ 15 คนในทีมครับ"
"แล้วมีมั้ย เพื่อนขี้เกียจหาอ่ะ ปล่อยเราหาคนเดียว"
"มีครับ แต่ก็ผลัดกันขี้เกียจบ้าง ก็จะเล่นกันมากกว่า แต่ก็ได้ครบอ่ะครับ"
"แล้วมานำตอนเช้าอย่างนี้ ไปโรงเรียนรึป่าว?"
"ไปครับ แต่จะมีสิทธิพิเศษ เข้าสายได้ ปกติจะเข้า 7 โมง แต่ถ้าเป็นมัคคุเทศก์ ก็จะเข้า 9 โมงได้ครับ"
"อืม...แล้วหมู่บ้านอื่นมีมัคคุเทศก์อย่างนี้มั้ย?"
"มีครับ"
"แล้วไปโรงเรียนกินข้าวที่โรงเรียนหรือเอาอาหารไปกินเอง"
"ก็มีคนเอาข้าวไปกินที่โรงเรียนนะ แต่ถ้าไม่มีก็มีคูปอง ต้องไปแลกคูปองก่อน แล้วถึงไปแลกข้าวได้...แต่ของผมขี่จักรยานกลับบ้าน บ้านห่างจากโรงเรียน 1 กิโล เลยกลับไปกินที่บ้านครับ"
"อ้าว แล้วทันเหรอ เค้าให้พักกลางวันนานแค่ไหน"
"ทันครับ พัก 30 นาที ไปแป๊ปเดียวกลับมาก็ทัน"
"แล้วแม่ให้ตังค์ค่าขนมวันเท่าไหร่"
"วันละห้าบาทครับ"
"พี่เห็นในรายการเมื่อเดือนก่อน เค้าขึ้นมาเที่ยวที่นี่กับบ้านนอแล ก็เลยเก็บข้อมูลมา แล้วเราได้ร่วมกับเค้าปะ"
"อ้อ...มีครับ เค้าก็มีจ้างให้ร้องเพลง เชิดสิงโตพื้นบ้านอ่ะ...ได้มา 500 พวกผมก็ทำแล้ว.."
ใจกลางพูดพร้อมทำท่าเชิดสิงโตให้ดู...
"อ้าวแสดงว่าไม่ต้องเทศกาลงานประเพณีหมู่บ้านเราก็ทำด้วยเหรอ..."
"ครับ"
"แล้วเจ้าหน้าที่สอนอะไรบ้าง..."
"เจ้าหน้าที่เค้าก็มีพาผมลงไปที่เชียงใหม่เหมือนกัน ได้เที่ยวได้อบรมมัคคุเทศก์ด้วย..."
"เมื่อวานพี่ขึ้นมากี่โมงครับ"
"ก็วิ่งมาเรื่อยๆ นะ มาถึงก็เย็นแล้ว ทำไมเหรอ"
"ผมว่าผมเห็นรถพี่ จอดถ่ายรูปอยู่ริมทาง พอดีพ่อชวนผมลงไปซื้อของไหว้ตรุษจีน"
"อ้าวเหรอ...แล้วตรุษจีนที่นี่เค้าทำไรกันบ้างหล่ะ"
"ก็ตอนกลางคืน เราก็จะไปร้องเพลงตามบ้านครับ บ้านไหนปิดประตูปิดไฟก็ไม่ต้องร้อง แต่บ้านไหนเปิดไฟ เราก็ไปยืนร้องหน้าบ้าน เจ้าของบ้านก็จะหยิบอังเปาให้"
"เป็นมัคคุเทศก์ ถ่ายรูปเป็นรึป่าว...?"
"ไม่เป็นครับ แต่ก็ชอบดูเค้าถ่ายครับ กล้องพี่แพงมั้ยอ่ะ"
"อ้อ พี่คนนั้นเค้าให้มาอ่ะ" ว่าแล้วโน้ตก็ชี้ไปที่ตานะ..."เค้าถ่ายเก่งนะ ให้เค้าสอนได้""เอ้าลองถ่ายของพี่ดูมั้ยหล่ะ ไม่ยากหรอก" ว่าแล้วโน้ตก็ยื่นกล้องให้น้องใจกลางกดไปหนึ่งภาพ..."แค่กดหน่ะลองดู"
ใจกลางยิ้มด้วยความสนุก เหมือนอยากจับกล้องมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาส...






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:28   


คำตอบที่ 16
       "เดี๋ยวผมพาพี่ไปดูทะเลหมอกครับ...พระอาทิตย์วันนี้กว่าจะขึ้นคงประมาณ 7 โมงนั่นแหละ"
"ขึ้นช้าขนาดนั้นเลยเหรอ...อืมไปสิ..ไกลมั้ยอ่ะ"
"ไม่ไกลครับ..."

ว่าแล้วก็ชวนตานะรวบขาตั้งกล้อง เดินทางไปดูทะเลหมอกดีกว่า...เพราะไปช้าอีกหน่อยก็ไม่เห็นแระ..

ปรากฎว่าเป็นที่จอดริมทาง มีทะเลหมอกน้อยมาก อาจเพราะมาช้าไป หรือเพราะอากาศไม่หนาวพอ...เป็นจุดเล็กๆ ที่คนอาจเลยไป แต่วิวก็สวยไม่แพ้ตรงอื่นเลย...

"ตานะ...จะย้อนกลับไปดูพระอาทิตย์ขึ้นมั้ย?"
"ไม่ย้อนแระ เพราะติดสายไฟ...มุมยังไม่โดนใจอ่ะ คนอีกด้วย..ไม่น่ามีสายไฟเท่านั้นแหละ"
"อืม...งั้นไปบ้านนอแลต่อเลยนะ..."
ก่อนถึงบ้านนอแล...ก็หันไปถามใจกลางว่า หมู่บ้านนี้เผาอะไร...ใจกลางบอกว่า บ้านนอแลเนี่ย ชาวเขาเผ่า ปากะหล่อง... (จำมาถูกมั้ยเนี่ย...ฮ่าๆๆๆ) อยู่ติดชายแดนพม่าเลย...

พอไปถึงก็ 7 โมงพอดี... เลยได้ภาพนี้มา..





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:33   


คำตอบที่ 17
       จากฐานบ้านนอแล...เราจะมองเห็นฝั่งพม่า และฐานฝั่งพม่าถึง 3 จุด น้องใจกลางเล่าและให้ข้อมูลไว้...

เนินเขาทางขวาไกลหน่อยนั่นเป็นฐานของทหารพม่า... รูปรู้สึกน้าอีธานจะถ่ายไว้..แล้วเดี๋ยวตานะจะมาลงอีกครั้งค่ะ...ส่วนอีกสองฐานที่เห็นจะเป็นของ หว้าแดง...

ซึ่งวันดีคืนดี สองกลุ่มนี้ก็ยิงกัน ยิงไปยิงมา มันก็หันมาโดนทางบ้านเรา ทหารไทยก็เลยต้องยิงตอบกลับ เพราะบางทีมันก็หลงมาโดนชาวบ้านเรา... น้องใจกลางบอกว่า เมื่อเดือนก่อนก็มียิงกัน...ระหว่างที่เล่าให้โน้ตฟังอยู่นั้น ตานะก็กางขาตั้งกล้องตั้งเลนส์ถ่ายอย่างเมามันส์...ส่องไปฝั่งพม่า

ใจกลางพูดว่า..."กล้องพี่อ่ะ เหมือนตั้งปืนเลยเน้อ ระวังมันหันมายิงหล่ะ"

เท่านั้นแหละค่ะ ตานะก็รีบถ่ายรีบแบกขาตั้งกล้องมายืนหลังบังเกอร์... โน้ตก็นึกตามที่น้องพูดอ่ะนะ เออ ดูไกลๆ ไม่รู้มันก็เหมือนจริงๆ นั่นแหละ แล้วนี่ไม่ใช่น่าท่องเที่ยวด้วย ยืนอยู่คนเดียว หว้าแดงคงนึกว่าเราส่องกล้องหรือปืนอยู่จริงๆ...ดีนะเป็นตอนเช้า...

แล้วใจกลางก็ชี้ไปอีกยอดนึงไกลลิบลับ บอกว่า ยอดนั้นมีธง เป็นของหว้าเหมือนกัน แต่อันนี้ส่องดูได้...
ตานะเลยยิงภาพซูมไป เห็นมีฐานอยู่ 3 หลัง.. บนยอดเขา...เอาภาพให้ใจกลางดู จากที่เห็นแค่ธง กล้องทำให้น้องเห็นฐานด้วย...เพิ่มความสนใจกันไปอีก

"โน้ตหยิบตังค์ให้หน่อยดิ"...ตานะอีกแระ...
"เท่าไหร่"
" 20 บาท"
"จ้า..." ว่าแล้วก็หยิบตังค์ให้ ตานะเอาไปซื้อหัวมัน ถวายพระ... แล้วก็ซื้อมาแบ่งกันกินด้วย...
"พี่ๆ หัวมันต้องไหม้ๆ ถึงจะอร่อย"...ใจกลางบอกตานะ
"เหรอๆ " ตานะก็หยิบตามที่น้องบอก แล้วก็จัดการซะ...
"อืม อร่อยจริงด้วย...ร้อนๆ เลย"

สามคนนั่งกินหัวมันเผากันไป..เป็นที่เอร็ดอร่อย
จากนั้นตานะก็ไปถ่ายรูปต่อ...โน้ตกับใจกลางก็ยืนรออยู่แถวรถ...สักพักใจกลางมีคำถามที่โน้ตตอบไม่ได้เกิดขึ้น..

"พี่เป็นแฟนกันรึป่าว?"....
อ้าวว่าแล้วไง...ถามอย่างงี้ตอบยังไงหล่ะ...สถานการณ์ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลย...
"ถามพี่ไม่ได้แระ ใจกลางต้องไปถามพี่นะโน่น" โยนไปก่อนให้พ้นตัวตอบไม่ถูก

สักพักตานะเดินมา...
"พี่ๆ มีแฟนกี่คน..." ใจกลางถาม...
ตานะถึงกันตัวม้วน...อึ้งกับคำถามของน้อง...วินาทีนั้นโน้ตเกือบจะขำแล้ว...ช่างตรงประเด็นเหลือเกิน...
"หลายคน..." ตานะตอบ...แล้วก็รีบเดินหนี...
ใจกลางตะโกนตามไป "มีหลายคนงั้นก็หาเผื่อผมด้วย".... แล้วน้องก็อมยิ้ม

แล้วน้องก็หันมาคุยเรื่องอื่น ถามเรื่องทำไมโน้ตไม่ไหว้พระตักบาตรเช้า เลยได้รู้ว่าโน้ตนับถืออีกศาสนา ก็เลยคุยกันเรื่องศาสนาไปอีก... บอกว่ามีเพื่อนเป็นคริสต์ แล้วก็อิสลาม โน้ตก็เลยบอกว่าดีแล้วรู้จักหลายๆ ศาสนา ทุกศาสนาก็เหมือนกันนั่นแหละ


หลังจากที่พาทัวร์บ้านนอแลแล้ว ก็กลับมาพาไปสวนสตอร์เบอร์รี่เล็กๆ ที่ชาวบ้านปลูก ใจกลางวิ่งไปเด็ดมาให้ชิมสดๆ หวานอร่อยดี แต่สงสัยตานะได้อันเปรี้ยวไป...

จากนั้นก็แยกย้ายโบกมือกันไป....ใจกลางบอกว่าถ้ายังไงเดี๋ยวไปดูหมูพันปีที่บ้าน ถ้ามีจะเอามาฝากให้ทาน...ในฐานะที่คงติดใจกันมากมาย..

แล้วนี่ก็ภาพมัคคุเทศก์น้อยของโน้ตในคราวนี้ค่ะ...





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:34   


คำตอบที่ 18
       หลังจากนั้นเราก็เข้าไปชมความงามในโครงการหลวงเกษตรดอยอ่างขางกัน
ค่าเข้าคนละ 50 บาท มีให้ชมหลายจุดวนเป็นวงกลม... แนะนำร้านอาหารสโมสรด้านบนของโครงการ อาหารอร่อยใช้ได้ราคาพอสมควรค่ะ...มีหลายเมนูให้ลอง...แต่ที่โน้ตไปทานก็มี
ไก่อุ๊บ...ตามแบบชาวดอยอ่างขาง คือเอาไก่ไปหมักกับเครื่องสมุนไพรพวกขมิ้น แล้วผัดออกมา คล้ายๆ หมกไก่ หรือฮังเลไก่อ่ะ อร่อยดี...






okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:35   


คำตอบที่ 19
       เราออกจากโครงการกับไปที่พัก ซึ่งป้าก็ใจดีอีกนั่นแหละ ให้เราคืนห้องช้าได้...ตอนแรกเห็นว่าใกล้เย็นแระจะนอนต่ออีกซักคืน แต่สุดท้ายก็กลับบ้านค่ะ ออกจากอ่างขาง เวลา 3 โมงได้ ลงมาเลยถามตานะว่า จะแวะดูพระอาทิตย์ตกกันมั้ย...มีสองที่ที่แนะนำ คือ เขื่อนแม่งัด กับทางไปปายอ่ะมันจะมีเนินแรกตรงปากทาง ตรงนั้นดูพระอาทิตย์ตกสวยมากๆ ตานะก็ตอบเหมือนเคยคือตามใจ เพราะคงไม่รู้ว่าอันไหนจะดีกว่ากันด้วยแหละ

โน้ตเลยพาไปในที่ๆ เรายังไม่เคยไปเห็น นั่นคือเขื่อนแม่งัด...จากแยก 107 อ.แม่แตง เข้าไปเขื่อนแม่งัดอีก 10 กิโลเมตร..เส้นทางเป็นทุ่งนาสองข้างทาง...ล้อมรอบด้วยขุนเขาทุกด้าน...เพราะฉะนั้นถ้าจอดถ่ายข้างทางก็จะได้วิวทุ่งนากับฉากหลังเป็นขุนเขา...

ตานะถึงกับขอให้จอดถ่าย ลืมว่าตัวเองปวดหัวเป็นหวัดไปเลย...

แสงอาทิตย์เริ่มลดตัวลง โน้ตก็กลัวว่าจะไม่ทัน แต่ตานะถึงขั้นเจอวิวทุ่งนาจนไม่อยากไปไหนซะแระ...แล้วจะถึงเขื่อนมั้ยเนี่ย...สุดท้ายไม่ลงตัวค่ะ ตานะขอถ่ายอยู่ริมทุ่งนา ปล่อยโน้ตขับต่อไปที่วิวเขื่อนเอง...


เมื่อไปถึงเขื่อนเห็นวิวแล้วก็ต้องรีบย้อนกลับไปรับตานะที่ทุ่งนา ซึ่งย้อนกลับไปห่างอีก กิโลเดียว...
"ถ้าไม่ขึ้นรถมา นายจะเสียใจ"

และแล้วก็ถึงเขื่อนค่ะ ภาพวิวพระอาทิตย์ตกสวยหลังเขื่อนมันสวยมาก แต่เราอาจถ่ายได้ไม่เหมือนที่เห็นค่ะ





okienokie จาก Note  203.146.226.98  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 15:38   


คำตอบที่ 20
       โน๊ดเอาวิวมายั่วให้อยากไปอีกแล้วนะ อยากไป อยากไป



noobanlaem จาก ปลาไส้ตัน  58.9.107.187  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 17:14   


คำตอบที่ 21
      
จบแล้วเหรอ น่าจะยังนิ๊.... อ่านแล้วก็ยังอ่านอีกนะซิบอกให้ .... เวลาไปเที่ยวอยากบันทึกบ้างจังเลย
แต่ก็ไม่คิดจะทำ .... แล้วมาต่ออีกนะจ๊ะ



ปู่เฟืองจำปีคนเดิม จาก ปู่เฟืองจำปี  210.213.59.56  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 18:02   


คำตอบที่ 22
       โอย!อยากพิมพ์เล่าเรื่องเก่งๆแบบนี้บ้าง ชวนติดตามมากเลยครับ
มีเวลาก็แวะไปเที่ยวบ้านหลังน้อยๆของผมบ้างนะครับ เผื่อนึกสนุกจะได้เอาอะไรไปแปะไว้บ้าง ? 19?

http://www.thaitripdd.com/



ม้าแกลบ จาก ม้าแกลบ  115.87.37.65  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 20:14   


คำตอบที่ 23
       น่าอ่านๆ



ยิ้มแป้น จาก ยิ้มแป้น  182.52.202.88  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 20:58   


คำตอบที่ 24
       วันที่ 4 ของการเดินทางแล้วค่ะ...รู้สึกว่าเวลามันช่างรวดเร็วเหลือเกิน วันหยุดไมมันน้อยจัง...

วันนี้อยู่ในเมืองสบายๆ ไม่ไปไหนไกล เรียกว่าเป็นวันพักผ่อน เพราะเห็นอาการหวัดของนะ แล้วก็งดเดินทางหนึ่งวัน ออกจากบ้านพาตานะไปนวดผ่อนคลาย...ด้วยแผนโบราณระดับ อบต. หนองป่าครั่ง ที่บริการดี สะอาด แล้วก็ราคาสบายกระเป๋าค่ะ....

นวดเช้าหน่อยก็เปิดพัดลม...อยู่ที่ราคา 60 บาทต่อชั่วโมง พอสายๆ ต้องเปิดแอร์ ค่านวดจะเพิ่มขึ้นเป็น 90 บาท
แล้วยังมี ซาวน่า สปา เท่าที่ดูก็ราคาไม่แพงมากค่ะ

ต้องเปลี่ยนผ้านุ่ง แต่ถ้าใส่กางเกงเลมาก็ไม่ต้อง... มีคนนวดตั้งแต่อายุ สามสิบกว่าๆ ไปจนถึง แปดสิบปี... แต่น้ำหนักมือกับประสบการณ์อย่าบอกใคร...สบายๆ ออกมาเลยค่ะ...

โน้ตอ่ะเจอเข้าไปหลายจุด ป้าก็แก้ให้หลายเส้นอยู่ทีเดียว

หลังจากนั้นก็ไปหาของทานกิ๊บเก๋ราคาถูกหน้า มช. ปกติชอบทานที่ร้านโบ๊ตค่ะ
ถ้าชุดอาหารเช้า ไข่ดาว แฮม ขนมปัง นมหรือกาแฟ ก็อยู่ที่จานละ 45 บาท
ข้าวผัดก็จานละ 25 บาท ราคาก็ประมาณเนี่ยแหละ...เป็นร้านที่เปิดมานานแระตั้งแต่ยังเด็กๆ และก็ยังคงให้บริการอยู่ค่ะ...

จากนั้นก็นัดกับน้องเกื้อเจอกัน พอดีแม่น้องเกื้อเข้าโรงพยาบาล ก็เลยไปรับเกื้อที่หน้าโรงพยาบาล แต่ไม่รู้จะไปนั่งคุยกันที่ไหน เจ้าเกื้อเลยโทรถามตาเอก ถึงร้านมองบลัง ว่าอะไรอร่อย...ไอ้เราก็แปลกใจ คนเชียงใหม่โทรถามคนกรุงเทพฯ แหม...ตาเอกเนี่ยรู้เยอะจริงๆ...

ก็เลยไปนั่งเสวนากันเป็นชั่วโมงที่ร้านขนม มองบลัง เส้นนิมมานฯ... กิ๊บเก๋กันไป...

อันนี้แอบเอาภาพจากที่อื่นมาประกอบว่าขนมน่าทานหลายอย่าง เพราะวันนี้ไม่ได้พกกล้องไปไหนมากมาย อยากเบาๆ ตัวค่ะ...





okienokie จาก Note  58.8.249.96  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 21:00   


คำตอบที่ 25
       วันที่ 5 วันสุดท้ายของการเดินทาง....

วันนี้ตื่นเช้าค่ะ..เก็บข้าวของลงกระเป๋า แต่กว่าจะออกบ้านตั้ง 11 โมง เพราะรอไปส่งน้องสาวที่โรงเรียนซะก่อน โรงเรียนมีงานจบ ม.3 กับ ม.6 แต่มีช่อดอกไม้ขายเต็มหน้าโรงเรียน อย่างกับเด็กจบปริญญาเลย อาจเพราะใกล้ช่วงวาเลนไทน์ก็เป็นได้ พอไปตลาดรถก็ติด แถมลืมไปด้วยว่าวันตรุษจีน วันพระนี่หว่า ไส้อั่วก็เลยอดเลย... แถมคนเยอะอีกต่างหาก จากนั้นเวลาก็ยังพอมีเหลือ เพราะขึ้นเครื่องกลับตอน 2 ทุ่มค่ะ...ต้องไปแอร์พอร์ตก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง โน้ตกับนะก็ยังพอมีเวลาพากันไปผจญภัยได้อีกหน่อย...

"ไปปะนะ"...
"ไปก็ไปดิ"...

ว่าแล้วสองคนก็ขับรถไป อ.แม่วาง วิ่งไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกว่าขี่ช้างล่องแพ...แม่วิน..
เราก็ไปจอดรถกินข้าว เล่นน้ำกันอยู่ตรงนั้นค่ะ จะชวนตานะล่องแพ ตานะก็ไม่สบาย ทุกทีเวลาแขกบ้านแขกเมืองของนู๋โน้ตมาก็จะพามาเล่นที่นี่แหละ ยิ่งหลายๆ คนยิ่งสนุกเพราะล่องแพหลายๆ ลำต่อกัน แซงกันไปมา จอดแพกระโดดเล่นน้ำบ้าง แบบไม่ขอมีคนถ่อจะถ่อเอง...ยึดแพเจ้าของร้านหายไปครึ่งวันได้...ไม่เหมือนที่อื่น...จึงมักจะพาเพื่อนและหมู่คณะมาเสมอ...งวดนี้พาตานะมาดูที่ที่โน้ตชอบไป...ก็รู้สึกว่าคงถูกใจเค้าพอสมควร...
แต่ยังไม่หมดแค่นี้...ตอนนี้ให้พักทานข้าว กับเอาขาแหย่น้ำไปก่อน






okienokie จาก Note  58.8.249.96  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 21:03   


คำตอบที่ 26
      





okienokie จาก Note  58.8.249.96  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 21:05   


คำตอบที่ 27
       ช้างที่ได้ขี่โชคดีมากๆ ค่ะ เป็นช้างแม่ลูกอ่อน ตัวแม่ไปซื้อมาจากตะเข็บชายแดนไทยพม่า แถวจังหวัดตาก ส่วนตัวลูกตอนคลอดนั้นไปคลอดที่ศูนย์ช้างลำปาง ตอนคลอดมาเกือบตายค่ะ แม่มันไม่ทันระวังเหยี่ยบลูกมัน...เล่นต้องดูแลกันอยู่นาน ตอนนี้ลูกช้างอายุสี่เดือนแล้ว มาอยู่ที่แม่วินเนี่ยก็เดินพานักท่องเที่ยวชมไพรอย่างเดียว ก็ไม่ต้องไปลากซุงแล้ว

เห็นเด็กควานถือขอเกี่ยว...แต่ก็ไม่ได้ใช้นะ ตอนแรกนึกว่าจะทรมานมัน ป่าวเลย คุยกันภาษาชาวเขากับช้าง มันก็รู้เรื่องแระ ถ้าเจอบางเชือกก็มีซนทั้งควานและตัวช้างนั่นแหละ...สนุกดี






okienokie จาก Note  58.8.249.96  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 21:12   


คำตอบที่ 28
       และแล้วก็กลับถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัย
ที่เหลือทิ้งไว้เป็นภาพให้ดูแล้วกันนะคะ





okienokie จาก Note  58.8.249.96  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 21:14   


คำตอบที่ 29
       ถ่ายที่ มช ค่ะ เหมือนปางอุ๋งเลย

 แก้ไขเมื่อ : 8/9/2553 21:19:42





okienokie จาก Note  58.8.249.96  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 21:17   


คำตอบที่ 30
      





okienokie จาก Note  58.8.249.96  พุธ, 8/9/2553 เวลา : 21:20   


คำตอบที่ 31
       ใบสุดท้ายฟ้าสวย...



ปู่เฟืองจำปีคนเดิม จาก ปู่เฟืองจำปี  210.213.59.188  ศุกร์, 10/9/2553 เวลา : 07:02   


คำตอบที่ 32
       ""ลูกช้าง น่ารั๊ก มั๊ก ๆๆ ๆ ""



bjaiting จาก พังพลาย  202.94.100.195  ศุกร์, 10/9/2553 เวลา : 08:28   


คำตอบที่ 33
       มาชมอีกรอบจร้า



ยิ้มแป้น จาก ยิ้มแป้น  182.52.205.223  ศุกร์, 10/9/2553 เวลา : 10:27   


คำตอบที่ 34
      
เล่าเรื่องเก่งจัง น่าติดตาม ชอบนะ



pumy จาก ปูมี้  58.11.19.165  ศุกร์, 10/9/2553 เวลา : 11:58   


คำตอบที่ 35
       มาตั้งแต่ตีสี่เลยครับ............สวยๆๆๆๆๆๆๆ



tik DJ จาก Tik Santana  124.120.0.173  อังคาร, 14/9/2553 เวลา : 04:08   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 8:02:15

Error processing SSI file