คำตอบที่ 33
**จากร้านแก๊สตอนนี้ก็เวลา 4 โมงเย็นกว่า ๆ แล้วครับ คงต้องรีบไปต่อแล้วครับ เดี๋ยวไปถึงปางอุ๋งค่ำเกินไป เห็นได้ข่าวมาว่า ทางแคบ และโค้งหักศอก ๆ เหมือนกันครับ
**ผมขับรถตามทางเลี่ยงเมือง และมาบรรจบกับทางเดิมที่วิ่งมาจาก อ.ปางมะผ้า ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำเมย (ที่เค้าจัดงานลอยกระทง) มาประมาณ 10 กิโลเมตร ก็ถึงทางเข้าไปปางอุ๋งแล้วครับ
**พูดถึงเส้นทางเข้าไปปางอุ๋งมีอยู่สองเส้นทางครับ เส้นทางแรกคือ เส้นทางตรงข้าง ๆ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ครับ จะมีป้ายสีฟ้า ๆ บอกชัดเจนเลยครับว่า พระตำหนักปางตอง (ปางอุ๋ง) , บ้านรวมไท , บ้านรักไท มีหลายป้ายเลยครับ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งที่เป็นเส้นทางที่ผมมานี้ เป็นเส้นทางที่ใกล้ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนกว่าครับ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางลัดเลาะไปตามหมู่บ้านครับ ผ่านทุ่งนา ป่า เขา ไปเรื่อย ๆ จะขับผ่านภูโคลนครับ(เสียดายไม่ได้แวะครับ กลัวไปไม่ทันครับผม) แล้วทั้งสองเส้นทางทั้งทางที่เข้ามาจาก อ.ช.ถ้ำปลา ฯ และทางที่ผมไปนี้ก็จะมาบรรจบกันตรงกลางหมู่บ้านแห่งหนึ่งครับ แล้วจากนั้นเราก็จะขับขึ้นเขา โค้งหักศอก ๆ ไปเรื่อย ๆ ผ่านน้ำตกผาเสื่อ ผ่านพระตำหนักปางตอง ไปตามเส้นทาง หมู่บ้านรวมไท,หมู่บ้านรักไท ขับขึ้นเขา ลงเขา ไปเรื่อย ๆ ก็จะถึงทางแยกที่ไปหมู่บ้านรวมไทครับ ซึ่งตรงทางแยกนี้เองจะมีป้ายใหญ่เบ้อเริ่มเลยครับ บอกว่า เลี้ยวซ้ายไปปางอุ๋ง ตรงไปหมู่บ้านรักไท ครับ ว่าแล้วผมก็ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามเส้นทาง ลัดเลาะไปตามหมู่บ้านชาวเขา ซึ่งเป็นทางแคบมาก ๆ ครับ รถยนต์เกือบวิ่งส่วนทางกันไม่ได้ ต้องขับอย่างระมัดระวังเลยครับ ผ่านมาได้สักพักหนึ่งในหมู่บ้านชาวเขานี้เอง ก็จะมีจุดตรวจครับ ตรงจุดนี้เค้าจะตรวจใบอนุญาตที่เราไปขอจากศูนย์ศิลปาชีพ หากไม่มีใบอนุญาตเค้าก็จะไม่ให้เข้าเลยครับ
**หลังจากผ่านจุดตรวจมาแล้ว เส้นทางก็จะบังคับเราให้ขับไปตามเส้นทางท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าป่าครับ ด้านซ้ายเต็มไปด้วยป่าสน ส่วนด้านขวามือเป็นป่าและหุบเหวครับ ต้องระมัดระวังมาก ๆ ระหว่างทางเราก็จะขับผ่านทุ่งนา ไร่กะหล่ำปลี มาเรื่อย ๆ จนมาถึงทางเข้าหมู่บ้านรวมไทครับ
ตรงบริเวณทางเข้าหมู่บ้านรวมไทนี้ก็จะมีจุดตรวจอีกหนึ่งจุดครับ ซึ่งจุดนี้ก็จะตรวจใบอนุญาตเหมือนกันครับ เสร็จแล้วเค้าก็จะบอกให้เราเอารถไปจอดที่ลานวัดท้ายหมู่บ้าน แล้วไปกางเต้นท์ตรงบริเวณข้าง ๆ สันอ่างเก็บน้ำปางอุ๋งครับ
**จากจุดตรวจเข้ามาในหมู่บ้านรวมไทในวันนี้ ดูคึกคักเป็นพิเศษครับ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงลอยกระทง ภายในหมู่บ้านทั้งสองข้างทางที่ผมขับรถผ่านล้วนแต่เป็นโฮมสเตย์ บ้านพัก ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ทั้งนั้นเลยครับ แต่ก็เป็นระยะทางสั้น ๆ ประมาณ 150 เมตรครับ
**ผมขับรถมาตามทางเรื่อย ๆ จนเลยวัด(ที่จอดรถ) ขึ้นมาตรงบริเวณข้างสันอ่างเก็บน้ำ ณ ที่ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่บริการจัดแจงสถานที่กางเต้นท์ให้เราครับ แต่พอดีผมบังเอิญไปเห็นมีคนกางเต้นท์ตรงมุมไกล ๆ เข้าไปอีก ผมจึงได้ถามเจ้าหน้าที่ และผมก็ได้รู้ ณ ตอนนั้นเลยครับว่า ภายในบริเวณอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง เค้ามีการจัดแบ่งการดูแลออกเป็นสองส่วนครับ คือ ส่วนแรกเป็นส่วนของศูนย์ศิลปาชีพ(จะดูแลลานกางเต้นตรงบริเวณใกล้ ๆ สันอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง) และส่วนที่สองเป็นส่วนของอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ(จะดูแลบ้านพัก-ลานกางเต้นท์ด้านใน เลยเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร) ซึ่งในส่วนของการขออนุญาตเข้าพักนั้น ผมขอแยกดังนี้นะครับ
1. หากเราต้องการกางเต้นท์ในส่วนพื้นที่ดูแลของศูนย์ศิลปาชีพ เราต้องไปขออนุญาตที่ศูนย์ศิลปาชีพที่แม่ฮ่องสอนเท่านั้นครับ
2. หากเราต้องการกางเต้นท์ในส่วนพื้นที่ดูแลของของอุทยาน ฯ เราสามารถทำได้สองแบบครับ คือ
2.1 ขออนุญาต ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ (ที่ทำการอยู่ข้างทางก่อนถึงปากทางเข้าปางอุ๋ง)ซึ่งตรงที่ทำการอุทยานนี้ เค้าจะให้บัตรเรามา(เป็นบัตรเคลือบ) แล้วให้เราเอาไปโชว์ตรงจุดตรวจที่หมู่บ้านชาวเขา และหมู่บ้านรวมไท ครับ (เป็นบัตรผ่านจุดตรวจ) จากนั้นเมื่อเราขับรถมาตามทางผ่านหมู่บ้านรวมไท เลยสันอ่างเก็บน้ำเข้าไปด้านในอีก เราก็จะเจอจุดตรวจของอุทยานอีกหนึ่งจุด ซึ่งตรงนี้เราจะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมของอุทยานแบบเหมาจ่ายเป็นรายเต้นท์ คือ เต้นท์ละ 30 บาท ครับ
2.2 ท่านใดที่ไปขออนุญาตจากศูนย์ศิลปาชีพมาแล้ว ก็อย่างเสียใจครับ ใช้ได้เหมือนกันครับ (คือใช้เป็นเพียงบัตรผ่านจุดตรวจเข้ามาในปางอุ๋งได้) แล้วพอขับรถมาถึงตรงจุดตรวจของอุทยานที่ปางอุ๋ง ก็ชำระเงินค่าธรรมเนียมอีกเต้นท์ละ 30 บาท ก็เขาพักกางเต้นท์ในส่วนของอุทยานได้แล้วครับ