คำตอบที่ 1
       พอฝนมาคนเที่ยวป่าก็เริ่มเบิกบาน ความชุ่มฉ่ำ+เขียวขจีเริ่มปรากฏ แก่งน้ำที่แห้งขอดเริ่มมีน้ำกรากแดง เรื่องทากเป็นตัวบอกความสมบูรณ์ของสัตว์ป่า เฉกเช่นนกเงือกที่บ่งบอกความสมบูรณ์ของผืนป่า ผมใช้วิธีธรรมชาติในการป้องกันทากครับใช้ได้ผลดีพอสมควร ไม่ทำลายสิ่งแวะล้อมนั่นก็คือ คุณลองหาน้ำมันมะกอกมาแช่ทิ้งไว้กับยาเส้น(ยาสูบ)จากทิ้งไว้จนน้ำเริ่มสีเข้ม ๆ แล้วเอามาใส่เครื่องปั่นกรองเอาแต่น้ำมันใช้สำลีกรองนะครับ แล้วบรรจุใส่หลอดฉีดน้ำหอม ใช้ฉีดทับไปบนถุงกันทากติดทนนานดีพอควรครับ และหากคุณสนใจจะนำเสนอผลงานของคุณลองแวะไปเยี่ยมผมที่ http://www.outdooreasy.com สิครับ ยินดีจะเผยแพร่ให้คำแนะนำครับ

คำตอบที่ 2
       ปูนสีเสียดสีขาวผสมยาเส้นกาตาแป๊ะ ไส่น้ำขย๊ำฯฯฯฯฯฯ เลือกทาตามใจชอบ อย่าให้ข้นไปนะ มันจะติดรองเท้าผ้าใบ อย่าปล่อยให้แห้งจะซักยาก

คำตอบที่ 3
       เสปรย์กันยุง ยี้ห้อ OFF น่าจะช่วยได้ครับ (หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเกตชั้นนำทั่วไป)....ใช้ประจำยังไม่เคยโดนเกาะครับ

คำตอบที่ 4
       ใส่ถุงเท้ากันทากซีครับ ซื้อที่ไหนรายละเอียดอยากทราบก็ถามคุณกิงก่าขาลีบได้เลย คร๊าบ

คำตอบที่ 5
       นอนอยู่บ้านครับ ป้องกันได้ 100 %

คำตอบที่ 6
       ส่วนมาก จะ ถลก ขากางเกง ขึันสูงๆ จะได้มอง ชัดๆ เจอก็เด็ด ทิ้ง เลย ครับ เคยใสาถูงกัน ถาก มันไต่ขึ้นไปกัด ซอก คอเลยครับ

คำตอบที่ 7
       Thanks for 1 &2

คำตอบที่ 8
       ของผมใช้น้ำสบู่กับยาฉุน เพื่อนผมมันเลียนแบบ ผมบอกสูตรแค่นี้ลืมอธิบายต่อปรากฏว่าทริปนั้น เจ้าคนนี้โดนซะเลือดแดงเถือก(ป่าต้นแม่น้ำเพชร) ถามไปถามมาเพื่อนเอาใส่กลักฟิล์มถ่ายรูปแล้วผูกเอวไว้...มันนึกว่าเหมือนตะกรุด(เรื่องจริงครับ) ยังเอามาอำกันไม่เลิกเลย ตั้งเกือบจะยี่สิบปีมาแล้ว เดี๋ยวนี้เขานิยมใช้เสปรกันทาก ผมว่าได้ผลที่สุดคือเดินนำหน้า เดินให้เร็วเมื่อผ่านพื้นที่ต้องสงสัย สำรวจตัวเองทันทีหลังผ่านคิลลิ่งโซนครับ ข้อเสียของทา หรือฉีดทิ้งไว้คือ เวลาข้ามน้ำมันจะหายหมด ถ้าลืมๆเผลอแป้บเดียวเสียเลือดครับ อีกอย่างทากมันเกาะแล้วจะไต่ไปยังจุดที่ไม่มียากันครับ สูงแค่ไหนก็ขึ้นครับ ผมเคยเจอสูงสุดที่สะโพกครับ

คำตอบที่ 9
       ลืมบอกไปถ้าโดนกัดตัวไม่อยู่เห็นแต่แผลกับเลือด ต้องห้ามเลือดก่อนซึ่งยากมากเพราะน้ำลายของทากจะมีสารที่ต่อต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือดแต่ถ้าทิ้งไว้ก็จะหยุดเอง(นานหน่อย) ส่วนใหญ่ใช้ทิชชู่แปะไว้ช่วยได้มาก ครับ เลือดออกไม่เท่าไหร่ ตอนที่ออกมาจากป่าแล้ว นี่เกากันเป็นเดือนครับ มันจะคัน ยิ่งเกายิ่งมัน

คำตอบที่ 10
       เคยเด็ดทากให้เพื่อนที่ภูกระดึงครับ !
ขนาดไปหน้าหนาวน่ะครับ แต่บริเวณที่เดินผ่านมันชื้น
ผมใช้ยาเส้นขย่ำน้ำโปะบริเวณที่มันเกาะซักพักค่อยดึงออก แล้วโปะยาเส้นไว้ที่เดิมซักพักเลือดจะหยุดไหล

สาเหตุเพราะน้ำลายของทาก หรือปลิงจะมีฤทธิ์เป็นกรด ส่วนยาเส้นมีฤทธิ์เป็นด่าง แก้กันได้

อ๋อความจริงไม่จำเป็นต้องยาเส้นหรอกครับ ขี้เถ้าก็ได้ ผมเคยเจอะปลิงควายเกาะแต่ไม่มียาเส้น เลยใช้ข้าเถ้าแทน

คำตอบที่ 11
       เราใช้ดึงมันออกมาเลยเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะทาอะไร มันก็เกาะอยู่ดีอ่ะ ไม่เห็นกันได้ซักที อิอิ แต่รับประกันความคัน สุดๆเลย เท้าอุบาทว์ไปเลย เป็นเดือนกว่าจะหาย อิอิ

คำตอบที่ 12
       ปูนกินหมาก(ปูนแดง)+ยาเส้น(ยาฉุน)+น้ำมะนาว ผสมคลุกเคล้าให้ทั่วห่อให้เป็นลูกกลม ๆ ด้วยผ้าขาวบางใช้ยางรัดไว้ เวลาเดินทางให้นำมาแตะน้ำพอชุ่ม ๆ พกอาไว้ เวลาทากเกาะให้เอาไปแตะที่ตัวทากรับรองทากร่วงลงมาตัวหงิกงอเลย ใช้มาหลายป่าแล้วได้ผลดี

คำตอบที่ 13
       นอนอยู่บ้านกันทากดูดเลือดได้ร้อยเปอร์เซนต์
แต่อาจไม่สนุก

คำตอบที่ 14
       ถ้าโดนกัดแล้วไม่ควรดึง จะทำให้แผลกว้างขึ้น ควรทำให้ทากปล่อยก่อน โดยเอายาฉีดที่ตัวมัน หรือพก ก.ย.15(แบบขวด) พอเจอก็หยดใส่ มันจะปล่อยทันทีครับ

คำตอบที่ 15
       เดินนำหน้าครับ
ผมเป็นหัวหน้าทีมแผนกแหวกหญ้า
คนตามมาข้างหลังโดนทากดูดเป็นแถว

คำตอบที่ 16
       ยาฉุน(ยาเส้น ยาสูบ ที่ใช้มวนบุหรี่ใบตอง) ยี่ห้ออะไรก็ได้ ของกะเหรี่ยง พะม่า มอญ แขก ได้ทั้งนั้น ซื้อติดตัวไว้ เมื่อเดินป่า พอรู้จะเข้าดงทาก ก้เอาออกมาใส่ฝามือ ถมน้ำลายใส่ยาฉุน ขยี้ ขยำ เขย่า ทำยังไงก็ได้ให้มันเละๆ หรือ มีน้ำออกมา แล้วเอาน้ำนั่นแหละทา ทา ทา..ตามแขนขา ทา ให้ทั่วยิ่งดี ตามซอกที่ลับ โดยเฉพาะ คุณสุภาพสตรี ระวัง มันชอบไต่ขึ้นไปดูดเลือดในที่ ที่ ไม่ควรจะขึ้น..ถ้าจะใช้ปูนขาว หรือปูนแดง (ปูนกินหมากน่ะครับ ) ก็ดี แต่กลัวจะร้อนผิวหนัง ไม่ทันได้ถูกทากเกาะหรอก เดี่ยวก็ได้วิ่งโดดลงน้ำไผปหาปลิงแทน สมัยเด็กๆผมชอบเที่ยวป่าทางภาคใต้ ฝนชุกทั้งปี ทากโคตรเยอะมหาศาล ยาเส้น 5 บาท ใช้ได้ทั้วเดือน..

คำตอบที่ 17
       วิธีกันไม่ให้โดนกัด ผมไม่รู้ครับ แต่เวลาโดนกัด ผมเอายาหม่องแต้ม มันก็ปล่อยเลยครับ เลือกซึมๆตามออกมาอีกหน่อยเท่านั้นเอง

คำตอบที่ 18
       เคยคุยกับเจ้าหน้าที่ ที่เขาใหญ่ ให้ความเห็นว่าทากตัวเล็ก ๆ กัดไม่มีพิษภัยอะไร แถมถ้ายอมให้มันดูดเลือดจนอิ่ม ก่อนที่มันจะดีดตัวออกจากแผล จะหลั่งสารชนิดนึงเขาไปในตัวเรา ประมาณว่ามีสรรพคุณ ช่วยลดความเครียดและอารมณ์ดีด้วย จะลองมั๊ยละครับ

คำตอบที่ 19
       เคยดึงทากออก ในขณะที่มันดูด เลือดไหลไม่หยุด นาน มาก
แล้วแผลก็นานหาย แล้วคันมากๆ

ครั้งสุดท้ายโดนที่ ทุ่งกระมัง ไม่รู้ตัว เห็นตอนมันฝากรอยเลือดที่ถุงเท้า มีรอยเล็กๆ ไม่คันไม่เจ็บ เลือดไม่ไหล
ให้เพื่อนลองให้มันดูดจนอิ่ม แล้วปล่อยให้มันหลุดเอง เลือดไม่ไหลเหมือนดึงออก
มันคงหลั่งสารบางอย่างมาปิดแผลทำให้ไม่คันและเลือดก็หยุดโดยไม่ต้องทำอะไร

คำตอบที่ 20
       ผมอาวน้ำมันมวยหรือน้ำมันโรเบริท์ ทาตั้งแต่ต้นขาไปเลย แล้วทีเท้าตามด้วยยาหม่อง เข้าป่าไม่เห็นมันเกาะเลย ยุงก็มันยากกัดที่ขา แต่มันมากัดที่หน้าแทน

คำตอบที่ 21
       เคยใช้ถุงกันทาก มันไต่ มันมุดซะ(ถุงรั่วนิดเดียว)

มันเข้าไปกันในเท้า ขนาดใส่ถุงเท้ากีฬาซึ่งหนามาก

ถอดรองเท้าออกมา เลือดท่วมเลย หึหึ

ไม่รู้สึกสักนิด

โดนกัดไปหลายแผล่

อีกวัน ใส่ขาสั้นเดินซะเลย ประชดมัน ไม่กลัวโดนกัดแล้ว

ทีนี้ ดันไม่ยอมมาเกาะให้ฆ่าเล่น

เวลามันเกาะ เอาเกลือโรยใส่ตัวมัน

เกลือดูดความชื้นในตัวมันออกมา มันจะปล่อยและตาย

ส่วนวิธีป้องกันก็ลองใช้วิธีข้างบนดูนะครับ

ไล่ตั้งแต่ ยาวิทยาศาสตร์ หาซื้อง่ายๆ ใช้ง่ายๆ

คำตอบที่ 22
       น้ำมันมวยหรือยาหม่อง ก็ได้ครับแก้เมื่อยได้ด้วย พอเวลาทากดีดตัวมาถูกผิวหนังหรือเสื้อผ้าของเราตรงส่วนที่โดนน้ำมันมวยหรือยาหม่อง มันจะแสบผิว..ดีดตัวกลับทันทีเลยครับ เพราะผิวพวกทากนั้นบอบบางมากๆครับ....แต่ถ้าป้องกันไม่ทันแล้วถูกกัด..ให้เด็ดทากออกแล้วใช้ยาเส้นโป่ะที่แผลไว้ไม่นานเลือดก็จะหยุดไหลครับ...เพราะในยาเส้นมีสารเคมีที่มีฤทธิ์ในการห้ามเลือดอยู่ครับ...ฝนนี้เที่ยวให้สนุกกันทุกๆคนเลยนะครับ

คำตอบที่ 23
       น้ำมันมวย ดีที่สุดจากที่เคยลองมา แต่มันเย็น......ชะมัด
เสปยร์ก็ดีเช่นกัน แต่หมดเร็วราคาค่อนข้างสูง
หรือลองเอามะนาวผ่าเป็นซีกแล้วลองไปป้ายที่ตัวทากรับรองดิ้น...ปลายฝนต้นหนาวเที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ

คำตอบที่ 24
       หาสาระมาบ้างนะ ฮิ ฮิ ฮิ

คำตอบที่ 25
       ถุงกันทากมีขายร้านเดินป่าหลังกระทรวง,ร้านสื่อเดินทางมาบุญครองชั้น3ก็มีครับ

คำตอบที่ 26
       ทากเป็นสัญลักษณ์ของป่าดิบ ถ้ามีทากแสดงว่าป่ายังอุดมสมบูรณื มีสัตว์ป่ามาก เพราะทากต้องอาศัยเลือดจากสัตว์อื่น
ทากจะตอบสนองต่อความร้อนและแสงอย่างมาก นั่นคือเมื่อมีเงาพาดผ่านหรือมีควมร้อนออกมาจากตัวเหยื่อทากก็จะรู้ทันที
ทากจะใช้เวลาประมาณ 1 นาที ในการเจาะผิวหนังเพื่อดูดเลือด แต่ใช้เวลามากกว่า 30 นาทีในการดูดเลือดให้อิ่ม เป็นการกินแบบครั้งเดียวอิ่มไม่มีมื้อสอง
ขณะที่ดูดเลือดมันจะกรองเอาแต่เลือด ส่วนน้ำจะถูกขับออกทางผิวหนังของมัน ทำให้มันดูดเลือดได้มากกว่าที่เราคิด ขณะที่ดูดเช่นเดียวกันมันจะปล่อยสารชื่อว่าฮีมิดีน(haemadin) ออกมาบริเวณปากแผล มีคุณสมบัติในการทำให้เลือดไม่แข็งตัวและกระตุ้นให้เส้นเลือดของเหยื่อขยายตัว เลือดจึงไหลออกจากปากแผลเป็นเวลานาน ประมาณ 10 นาทีเลือดจึงหยุดไหล
เมื่อทากกินอิ่มแล้วก็จะหลบอยู่ใต้ใบไม้ บางตัวสามารถอยู่ได้มากกว่า 6 เดือน
เล็กๆน้อย แบบวิชาการเพื่อความรู้ครับ จากข้อมูลงานวิจัยเรื่องทาก

คำตอบที่ 27
       น้ำมันพรายครับ Work สุด
... ล้อเล่น...
ผมยอมให้กัดครับ เขาบอกว่าจะได้เปลี่ยน
เลือดใหม่บ้าง โดยไขกระดูกจะสร้างเม็ดเลือด
มาเพิ่ม...
... แต่มันก็ดูดไม่เยอะหรอกครับ....
สบายใจได้... ปลิงก็เช่นกัน

คำตอบที่ 28
       ใช้ผงชูรส โรยแผลหยุดเลือดแบบที่คอมมิวนิสต์สมัยก่อนทำกัน

คำตอบที่ 29
       ดีนะ

คำตอบที่ 30
       เดินป่าอย่าเดินตามหลังคนอื่นให้มาก เพราะคุณจะเป็นเป้าหมายสำคัญที่มันได้กลิ่น หากโดนกัดแล้วให้ใช้เกลือป่นโรยบนตัวของมัน มันก็จะปล่อย การจับตัวมันดึงออกมาโดยตรงหรือการใช้ของมีคมขูดตัวมันออก ไม่ใช่แค่สารที่มันหลั่งออกมาเท่านั้นที่มันจะตกค้าง แต่เขี้ยวของมันจะฝังอยู่ที่บาดแผลด้วย ซึ่งถ้าความสะอาดไม่พอบางรายจะมีการอักเสบบริเวณแผลในเวลาต่อมา การป้องกันทากตามความเห็นที่ผ่านมาก็ใช้ได้ทุกวิที แต่ไม่ใช่ทุกที่ทุกจังหวัด แต่คุณควรทำใจไว้ก่อน ถ้ารักการเดินป่าจะหลีกเลี่ยงพวกนี้ก็เป็นการยาก สิ่งที่น่ากลัวกว่าทากเราน่าจะให้ความสำคัญมากกว่า แต่สำหรับทากตัวผมเองก็ชอบที่จะดึงมันออกเช่นกันมาเวลามันกัด ใช้น้ำมันรอนสัน(ไว้เติมไฟแช็ค)ที่ผมชอบพกติดตัวฉีดใส่ตัวทากแล้วจุดด้วยไฟแช็ค สะใจกว่า แต่ก็แปลกที่มันได้กลิ่นการเผาแล้วก็ไม่ค่อยเห็นตัวต่อไปอยากเข้ามาใกล้

คำตอบที่ 31
       ทำใจครับ ถ้าอยากสนุกกับผื่นป่าก็อย่ากังวนเรื่องทากถือซะว่าเป็นการถ่ายเลือด

คำตอบที่ 32
       ใช้การระมัระวัง ถ้าเห็นตัวให้ใช้น้ำส้มสายชูหยดใส่ที่ตัวทากได้เลย

คำตอบที่ 33
       ใช้ยาทากันยุงก็ป้องกันได้ ( เคยใช้ที่ สวนยาง ชายแดนใต้ )