จาก e21fnw
อังคารที่ , 27/12/2548
เวลา : 10:30
อ่าน = 1402
61.91.168.112
|
ครั้งเมื่ออดีตประมาณ7-8 ปีก่อน ผมและสหายร่วมเดินทางประมาณ 6 คนเดินทางขึ้นภูกระดึง ด้วยเป็นหน้าเทศกาลปีใหม่อย่างนี้ บนภูไม่ต่างจากตลาดนัดจตุจักร เป็นประสาคนชอบวิเวกอาจจะฝ่ากฎอุทยาน แต่กฎมีเพื่อเว้นบ้างบางกรณี ใกล้ ๆ กับผานกแอ่นมีลำธารน้ำซับสายเล็ก ๆ พอให้ได้น้ำมาหุงหาอาหารและล้างหน้า แล้วเลือกกางเต็นท์ ณ ที่นั้นบ้างแยกย้ายไปหาฟืนมาก่อกองไฟให้คลายหนาวในค่ำคืนนี้ ตอนนี้อาหารเสร็จหมดทุกอย่างแล้ว ต่างไม่รอช้าความอร่อยได้มาเยือนอีกแล้ว มองรอบข้างมืดสลัวพอมีแสงจันทร์ส่องให้เห็นลาง ๆ
ทันใดนั้นก็มีร่างคนห่มผ้าแบบพระแต่สีออกน้ำตาลใหม้ ๆ ดำ ๆ ผมเผ้ายาวรุงรัง ตีนเปล่ามายืนอยู่ข้าง ๆ พวกเรา
" ไม่....ไม่ใช่ผีแน่ ๆ ผีบ้าอะไรมายืนมองคนกินข้าว" พลันนึกในใจ ผมเองกล่าวร้องทักออกว่า
" มาทานข้าวด้วยกันก่อนสิครับท่าน ? "
" อ๋อไม่เป็นไร ทานมาแล้ว " เสียงตอบอย่างเรียบ ๆ
" คืนนี้จะพักกันที่นี่ดีแล้ว ปลอดภัยดี ผมพักอยู่ข้างล่างนี่แหละ " " ขอนั่งด้วยคนสิ" แขกผู้แปลกหน้ากล่าว
"ครับ ว่าจะพักสักคืนพรุ่งนี้จะไปค้างที่อื่นต่อ แล้วท่านพักอยู่ข้างล่างตรงไหนหรือครับ" ผมถาม
"ก็อยู่ใต้หน้าผา เดินเลาะลำธารนี้ไปอยู่ข้างล่าง" แขกผู้แปลกหน้าตอบ
"ท่านพักอยู่กันหลายไหม"
"ก็มีผม และพระธุดงค์อีก 2 รูป"
"เออ..ท่านนี้เป็นพระหรือ...."
"ผมไม่ได้เป็นพระ ผมเป็นโยคี.."
"โยคี...."ทุกคนในกลุ่มทำหน้าตางุนงง ว่ามีด้วยหรือบนภูนี้ พระก็ไม่ใช่ ผมมองไปทางไอ้เหหลิมเพือนมือไวของผม กำขวานในหว่างขาไว้แน่น ส่งสายตามายังผมว่าใช่ที่เราเห็นหรือไม่ ผมชำเลืองมองดูเงาของคนแปลกหน้าว่ามีหรือไม่ แต่ปรากฎว่ามี โอ๊วแล้วไป.... ผมพยักหน้าให้สัญญาณกับไอ้เหลิมว่าใช่คนแน่ ๆ ไม่ใช่ผีสางนางไม้ที่ไหน จากนั้นผมก็แนะนำตัวผมและเพื่อน ๆ ให้รู้จัก
"แล้วท่านชื่ออะไรหรือครับ" ผมกล่าวถาม
"โยคีมิลาเลบะ" ท่านตอบ
จากนั้นก็ได้ไถ่ถามถึงความเป็นมาในชีวิต อันพิสดารที่ไม่สามารถเขียนได้จบ และเรื่องราวอันน่ากลัวแห่งป่าปิดภูกระดึง
"ไอ้เสือนั่นหรือ มีอยู่" "ผมเคยได้ยินคำเล่ามาจากพระธุดงค์ด้วยกันว่า บางรูปเข้าไปดุดงค์แล้วไม่กลับออกมา " ท่านสาธยายความ
"ส่วนผมก็เคยเข้าไปเหมือนกัน ทากหลายเชียว"
"รอยตีนไอ้ลายยังเคยเห็นอยู่ แต่ไม่เคยเจอกันสักครั้ง ไอ้เก้ง กวาง หมูป่า กระต่าย เดินเห็นกันจนชินแล้ว มันก็ไม่เห็นทำอะไรนะ มอง ๆ แล้วต่างคนต่างไป" ท่านว่าอย่างนั้น
หลังจากที่สนทนาความอันยาวยืด ท่านก็ขอตัวกลับไปที่พัก
รุ่งเช้านั้นผมและเพื่อน ๆ ได้เดินลงไปตามหน้าผาเพื่อเยี่ยมเยือนท่านอีกครั้งก่อนจากลา เหลือแต่พระธุดงค์ 1 รูป จึงถามจากท่านแต่พบว่าท่านไม่อยู่เสียแล้วออกไปแต่เช้า จึงพากันขึ้นมายังที่กางเต็นท์ และได้ใส่บาตรพระที่เดินผ่านมายังทางไปผานกแอ่น เป็นการต้อนรับปีใหม่อย่างดี
ส่วนท่านใดเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ มาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ บนภูกวางชอบคุ้ยขยะ เตะเสาเต็นท์ เสียดายรูปถ่ายไม่อยู่ ถุงพลาสติกยังคาปากอยู่เลย จึงอยากให้เพื่อน ๆ ขึ้นไปเท่าไหร่เอาลงมาเท่านั้นไม่ต้องเอาขยะขึ้นไปทิ้งกันเสียมาก
|