คำตอบที่ 280
เก็บเอาข้อมูลเก่าๆมาโม้ต่อ นะครับ
ผมขอนำภาพนี้มาเปิดทริปนี้นะครับ โดยผมกุ๊ก kookyz กาญจนบุรีและพี่วิโรจน์ viroj นนทบุรีโดยเริ่มต้นจากร้านอาหารหมอชู หนองพังตรุ ได้ไปออกทริปนี้2คนและกลุ่มรถโฟร์วิลอีก7-8คันที่เข้าไปนอนพักค้างคืนที่โป่งใหญ่แม่น้ำเลาะ โดยผมกับพี่วิโรจน์ออกทริปรถเอ็นดูโร่ต่อจากโป่งใหญ่แม่น้ำเลาะเพียง2คัน เดินทางไปกลางป่าที่ไม่มีคนเคยผ่านมา10กว่าปี ในป่าถ้าเราเดินทางเข้าไป ถ้าเราสังเกตุดีจะเห็นความผิดปกติของสภาพแวดล้อมของป่าทุกครั้ง ซึ่งผมเป็นประเภทช่างสังเกตุและขี้สงสัยมาก จึงได้เห็นความผิดปกติของป่าที่ยอดเขาสูงแห่งหนึ่งที่มีทางตัดผ่าน โดยพี่วิโรจน์ขอจอดรถหยุดพักดื่มน้ำ บนยอดเขานั้น ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยว่าผมจะเล่าอะไรให้ฟังกันอีก จะเป็นเรื่องลี้ลับหรือภูตผีปีศาจอีกหรือไง ก็ผมชอบเล่าแบบเหมือนโกหกประจำ แต่งานนี้พี่วิโรจน์จะช่างสังเกตุหรือรู้หรือไม่ ผมไม่ได้สอบถาม เพียงเก็บไว้ในใจ ที่มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อจะให้ทราบถึงความผิดปกตินี้เผื่อจะมีใครช่างสังเกตุแบบผมบ้าง เข้าเรื่องเลยนะครับ ก็มีการถ่ายภาพกันระหว่างผมกับพี่วิโรจน์ เดี๋ยวจะลงภาพให้ดูกันในหน้าเนื้อเรื่อง บนยอดเขานั้นจะมีการปักป้ายของ ปตท.และป่าไม้ แต่มีภาพหนึ่งที่เก่ามากๆ ร่องรอยถุกติดตั้งมานานผ่านแดดผ่านฝนมาหลายปีและผ่านไฟป่ามาหลายครั้ง แต่ยังคงสภาพดี แต่เก่าด้วยอายุการติดตั้งคือ "ภาพพระเจ้าอยู่หัว"ที่ทรงงานมีเหงื่อหยดที่ปลายจมูก(ขอใช้คำพูดแบบชาวบ้านนะครับไม่ทราบราชาศัพท์) ตั้งเด่นสง่า ไม่เคยโดนไฟไหม้ ผมยังถ่ายรูปพี่วิโรจน์ยืนข้างๆไว้ด้วย และถ่ายภาพพี่วิโรจน์ยืนข้างๆป้ายของ ปตท.และป่าไม้ ที่มีสภาพบิดเบี้ยวเพาะถูกช้างกระทืบ ฉีก และไฟไหม้อีกหลายแผ่นป้าย ผมจะทยอยลงภาพให้ดูกันนะครับ ผมเลยเก็บความสงสัยไว้ในใจว่าช้างป่ากับไฟป่า นี่ก็แสนรู้ ไม่ทำลายภาพ"พระเจ้าอยู่หัวของเราชาวไทย" ผมจึงขอพูดแค่นี้ในบทนำของทริปนี้ว่า "เราเคยทำอะไรให้พระเจ้าอยู่หัวบ้าง แต่ช้างป่ากับไฟป่าที่ห้วยแห้ง คอยปกป้องภาพของพระองค์ตลอด" ครับ
ก็จะขอคุยเรื่องที่มาของทริปนี้ จากที่ผมได้รู้จักกับพี่วิโรจน์ viroj นนทบุรีกับพี่เผือก ninja zx13 นนทบุรี ในเว็ป dirttrackthai.com ก็ติดต่อกันจนมาออกทริปขับรถเอ็นดูโร่ที่กองผสมพันธ์สัตว์ กาญจนบุรี ก็ติดต่อกันเรื่อยมา พี่วิโรจน์ก็บอกกับผมว่าเล่นรถเอ็นดูโร่ xr250มาก็หลายคันและออกทริปต่างๆมาก็มากพอสมควร แต่ยังไม่เคยออกทริปไหนที่ไม่เคยตามรอยรถใครเลย ก็มาออกทริปที่กาญจนบุรีมีที่ขับรถเอ็นดูโร่มากมายเช่นที่เหมืองเต่าดำ เขาสลักพระ ทุ่งใหญ่นเรศวร ฯลฯ มีที่ขับขี่อีกมากมาย อยากจะเก็บความประทับใจไว้ซักครั้งว่าออกทริปขี่รถเอ็นดูโร่ที่ไม่เคยตามรอยรถใครซักครั้ง ผมก็มาคิดดูว่าแล้วจะมีที่ไหนละที่ไม่มีใครใช้ทาง ผมเลยเก็บความในใจนี้ไว้แล้วเริ่มค้นหา หาข้อมูลต่างๆจากผู้รู้ต่างๆหลายท่าน แล้วเดินทางไปสำรวจหาข้อมูลต่างๆไว้ ท่านผู้อ่านคงแปลกใจว่าผมทำไปทำไมให้ลำบาก ผมทำไปด้วยใจ ไม่มีค่าจ้างใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ประทับใจในมิตรภาพที่พี่วิโรจน์,พี่เผือก มอบให้ผม โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เพียงรู้จักกันในเน็ตก็กล้ามาออกทริปกับพวกผม โดยที่ไม่คิดถึงฐานะเงินทอง ซึ่งในปัจจุบันนี้หาคนอย่างนี้น้อยมาก ผมจึงมุ่งมั่นเสาะหาเส้นทางตลอดมาเกือบครึ่งปีได้ครับ จนมาเจอที่แม่น้ำน้อย-โป่งใหญ่แม่น้ำเลาะแล้วเดินทางต่อไปที่แม่น้ำน้อยเขารวก ทองผาภูมิ ซื่งเส้นทางนี้ถูกปิดตายมาหลายปี ครับ
ก็มาพูดถึงเส้นทางนี้ก่อนนะครับว่าความเป็นมาอย่างไร เส้นทางนี้เดิมเป็นทางที่พวกทำไม้ของ ออป.ใช้ชักลากไม้ออกมา มีหลายบริษัทที่เข้าไปทำไม้ ถามว่านานไหม ผมตอบได้ว่านานมาก ก่อนที่ประเทศไทยจะปิดป่า ยกเลิกการทำสัมปทานป่าไม้ประมาณ20กว่าปีที่ผ่านมา เส้นทางนี้เริ่มต้นที่โรงเรียน ตชด.แม่น้ำน้อยอยู่แถวๆแก่งประลอม มาทางเข้ากุยละว้า-ห้วย1-4โป่งใหญ่แม่น้ำเลาะ-โป่งตะแบก-ห้วยแห้ง-เขารวก-เขาเลียงผาแล้วก็มีห้วยแยกไปห้วยเขย่งแปลง4-ขึ้น5ชั้น-ปิเต็ง-เขาแดนชายแดนพม่า อีกทางห้วยที่แยกจากเขาเลียงผา-ห้วยแห้ง-เหมืองเดวิด-หลุมดักช้าง-โป่งตาลือ-เขาแดนชายแดนพม่า มีทางตัดไปเหมืองเต่าดำ แต่ปัจจุบันเส้นทางถูกตัดขาดไปแล้ว พูดมาถึงทางช่วงนี้ต้องข้ามแดนไปฝั่งพม่าด้วย ที่ตรงข้ามโป่งตาลือ-เหมืองเตาดำในไทยก็ หลักช้างเผือก-แม่น้ำอำมะลา ที่มีพะเนียดดักคล้องช้างโบราณที่ใหญ่มาก สร้างจากเสาไม้แกนราวร้อยกว่าต้น ที่อายุหลายร้อยปี ขอบอกกล่าวให้ทราบนะครับว่า ชายแดนช่วงนี้ทั้งไทย-พม่ามีช้างป่ามากที่สุดในเอเชีย เมื่อพูดถึงตอนนี้ก็ต้องกล่าวถึงว่าเป็นเส้นทางโบราณที่ติดต่อกันระหว่างไทย-พม่าด้วย จะมีการแลกเปลียนค้าขายสินค้าต่างๆวัวควายของเมืองกำบ๊อกติดเมืองทวายของพม่ากับห้วยเขย่งห้าชั้นออกทองผาภูมิและห้วยเขย่งห้าชั้นออกไทรโยค ซึ่งปีประมาณ2534ผมมีโอกาสไปเป็นลูกจ้างทำไม้ในพม่าที่หลักช้างเผือกได้เจอหอกโบราณตินรถแทร็คเตอร์ดันดินทำทางตามลำธารขึ้เขาแดน ผมเก็บไปมอบให้สถาบันราชภัฎกาญจนบุรีด้วย เป็นหอกที่เป็นเหล็ก อยู่นานมากจนกลายเป็นหิน ดูจากสายตาที่เห็นนะครับ ก็เล่ามาพอเรียกน้ำย่อยนะครับ
เมื่อมาเยือนถึงพื้นที่นี้ก็ต้องขออนุญาติกล่าวถึงเจ้าถิ่นที่อยู่แถวนี้มานาน เป็นใครไม่ได้ ก็พี่ใหญ่ของเราชาวรถเอ็นดูโร่-รถโฟร์วิล ของกาญจนบุรี เขาคนนั้นคือ พี่เจี๊ยบ xr-man วังโพธิ์ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี ที่ต้นตระกูลท่านเป็นผู้บุกเบิกการทำไม้ในกาญจนบุรีหลังสงครามโลกครั้งที่2 ก็นานมากแล้ว ขอเอ่ยถึงชื่อเตี่ยของท่านชื่อเสี่ยกิจ แห่งปางไม้สันติ และมีอาที่เป็นน้องสาวของเตี่ย คนนี้ชื่อเสียงโด่งดังมาก คล้ายสุเทพ เทือกสุบรรณ-เสธ.สนั่น ขจรประศาสตร์ คือเป็นคนชักชวนคนดังๆมาร่วมหุ้นทำไม้ในกาญจนบุรี ท่านชื่อ ซ้อแดงหรือคนในวงการไม้เรียกว่า ป้าแดง คนสมัยนั้นรู้จักดี ทั้งทำไม้และทำเหมืองแร่ นะครับ ในสมัยนั้นวังโพธิ์เจริญรุ่งเรืองมาก มีทั้งโรงแรม สถานบันเทิงมากมาย มีรถไฟมาสุดสายที่วังโพธิ์ พูดอย่างนี้คงจะสงสัยว่าทำไมรถไฟไม่ไปสุดปลายทางที่เท่าเสา ไทรโยคน้อย ในสมัยโบราณจะไปทองผาภูมิ-สังจละบุรี ต้องเดินทางไปทางเรือเท่านั้น มาตัดทางก็จะสร้างเขื่อนเขาแหลมประมาณปี2513-14ได้ ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ ก็สร้างทางมาตันที่เขาสามชั้น ซึ่งสมัยนั้นเป็นป่าทึบมากมีฐานที่มั่นใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์หรือ ผกค. ต้องสู้รบกันหลายปีจนถูกไทยตีแตก แล้วไปตั้งฐานที่มั่นที่ป่าหมาก ปิล๊อก ทองผาภูมิ เจอไทยร่วมมือกับกองกำลังมอญเก่าเข้าตีแตกจนสูญพันธ์ไปตั้งแต่บัดนั้น แล้ววกกลับมาที่ท่าเสา ไทรโยคน้อย หลังจากตีฐาน ผกค.แตกก็ตัดทางไปที่ท่าเสา ไทรโยคน้อย ก็ไปเจอฐานที่มั่นกองกำลังมอญเก่าตั้งอยู่ที่นั่นมานมนาน โดยไทยไม่รู้ ตั้งเป็นเมืองหลวงต่อสู้กับพม่า แต่ไม่ได้รบกับไทย มีการเปิดการเจรจา กองทัพมอญเก่ายอมถอนกำลังไปที่พญาตองซู เจดีย์สามองค์ เขาว่ากันว่าคนเป็นหมื่นนะครับ ก็เล่าเอาแบบย่อๆนะครับ
ก็มาเข้าเรื่องทริปรถเอ็นดูโร่ พอดีพรรคพวกรถโฟร์วิลจะเข้าไปเที่ยวแม่น้ำน้อย-โป่งใหญ่แม่น้ำเลาะในวันที่18มีนาฯที่ผ่านมา ผมจึงเห็นโอกาสอาศัยเขาออกทริปรถเอ็นดูโร่จึงติดต่อไปยังพี่วิโรจน์-พี่เผือก พี่วิโรจน์ว่างไปได้ แต่พี่เผือกไม่ว่าง แล้วติดต่อเพื่อนๆกลุ่มรถโฟร์วิลเพื่อเป็นรถเสบียง ได้มือใหม่หัดขับคันที่พลิกคว่ำมาหนึ่งคัน เขาลงทุนไปติดวินหน้ามาสดๆเลยนะครับ แล้วติดต่อไปยังพี่แห้ง พี่เจี๊ยบ กลุ่มไบซัน กลุ่มพี่เทพ-โพธิ์ม่วงพันธ์ กลุ่มสามพราน-วงเวียนใหญ่ กลุ่มแก่งหลวง กลุ่มไทรโยค กลุ่มห้วยเขย่ง ทองผาภูมิ มาร่วมออกทริป แต่ไม่มีใครว่าง มีภารกิจทั้งหมด ผมจึงออกลุยกับพี่วิโรจน์เพียง2คันเท่านั้น แล้วผมจะเล่าเป็นช่วงๆในห้องต่อไป เชิญติดตามได้ครับ
แก้ไขเมื่อ : 28/3/2554 12:49:05
