คำตอบที่ 9
พี่แห้งหายดีแล้วนะครับ จารอดูรูปรถพี่แห้งอยู่นะครับ แอบสนใจอีกคนนึงค้าบ ส่วนนี้ฝากบทความ เล็กๆน้อยๆ ให้พี่ๆที่มีเด็กน้อยอยู่ในบ้าน พอดีช่วงนี้เจอ Caseเยอะครับ ไม่ว่ากันนะคร้าบบ
โรคมือเท้าปาก - Hand Foot Mouth Disease
โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่ พบได้มานานแล้วและยังเกิดการระบาดเป็นครั้งคราว มักเกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ โดยเฉพาะเด็กเล็ก อายุระหว่าง 2 สัปดาห์ ถึง 3 ปี ซึ่งจากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่าเป็นช่วงอายุที่เกิดการติดเชื้อ ไวรัสชนิดนี้ได้บ่อยที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่าโรคนี้ไม่เป็นปัญหาใน ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
โดยปกติถือว่าโรคมือ เท้า และปาก (hand, foot and mouth disease) เป็นโรคที่ไม่รุนแรง หรือที่เรียกว่า mild disease ผื่นและตุ่มน้ำใสดังกล่าวสามารถหายได้เองในเวลา 5 - 7 วัน ไม่เกินสองสัปดาห์ แต่ในบางครั้งที่มีการระบาด เชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่รุนแรง เช่น Enterovirus 71 หรือ Coxsackie virus บางชนิด อาจก่อให้เกิดโรคเดียวกันนี้ที่รุนแรงถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเด็ก เสียชีวิตได้
สาเหตุ :
สาเหตุของโรคมือ เท้า และปากเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกว่า coxsackie virus โดยเฉพาะเป็นไวรัสชนิด A5, A10 และ A16 ซึ่งเป็นสายพันธ์ที่พบบ่อยว่าเป็นสาเหตุ ในการระบาดบางครั้งพบว่าสายพันธ์ที่เป็นสาเหตุได้แก่ coxsackie virus type A16, coxsackie virus typeA และ enterovirus type 71 สรุปได้ว่าสาเหตุของโรค HFMD นี้ เกิดจากไวรัส (coxsackie virus) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของ enterovirus นั่นเอง
ไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่กระจายติดต่อถึงกันได้โดยตรงผ่านทางของเหลวต่างๆ ของร่างกาย ที่สำคัญคือการปนเปื้อนมาในอุจจาระของผู้ป่วย fecal-oral transmission ซึ่งถือได้ว่าเป็นการติดต่อที่สำคัญของไวรัสกลุ่ม enterovirus ทั้งหมด (คำว่า entero หมายถึงทางเดินอาหาร, ติดต่อโดยระบบทางเดินอาหาร นั่นเอง) ควรระลึกไว้เสมอว่าเด็กจะได้รับเชื้อไวรัสนี้ จากการที่ได้รับอาหารและ น้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ซึ่งอาจกระจายออกมากับอุจจาระ หรือละอองน้ำมูก น้ำลายของเด็กที่เป็นโรคนี้ และนอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้ทางลมหายใจอีกด้วย
การแพร่กระจายเชื้อ จะเกิดได้ง่ายมากในเด็กๆ เล็กๆ ที่ชอบเล่นคลุกคลีใกล้ชิด กันใน โรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือญาติพี่น้องที่อยู่รวมกันมากๆ
ลักษณะอาการที่สำคัญของโรคติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ (ดังแสดงในรูป)
คือการปรากฎผื่นและตุ่มน้ำใส (rash with blisters) ที่บริเวณปาก ลำคอ ต่อมทอนซิล รวมทั้งที่บริเวณ
มือและเท้า จึงทำให้โรคนี้ได้รับขนานนามว่า โรคมือ-เท้า-และปาก (ไม่ใช่ "เปื่อย" แต่เป็นผื่นที่มีตุ่มน้ำใส)
ซึ่งถ้าจะนึกภาพเพื่อเป็นการเทียบเคียง พอจะกล่าวได้ว่ามีลักษณะคล้ายตุ่มน้ำเมื่อถูกน้ำร้อนลวกนั่นเอง
ลักษณะสำคัญเฉพาะโรคนี้คือ มีแผลตื้นๆ เกิดขึ้นที่บริเวณเยื่อบุช่องปาก ลิ้น เหงือก
และข้างกระพุ้งแก้ม เริ่มเป็นจุดแดงๆ ก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใสและแตกเป็นแผล
ส่วนบริเวณผิวหนังจะเกิดมีผื่นแดงๆ ก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใส โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งจะมี ผื่นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า บางครั้งอาจจะมีผื่นขึ้นที่บริเวณก้นด้วย ผื่นที่ผิวหนัง
นี้จะไม่แตกเป็นแผล (เหมือนในปาก) และไม่มีอาการคันร่วมด้วย
การระวังป้องกัน :
แนวทางการป้องกันโรคมือ เท้า และปาก ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง คือการ หลีกเลี่ยงไม่สัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ (direct contact) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่เกิดการระบาด สำหรับการป้องกันโรคนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยคือ เรื่องของสุขอนามัยของประชาชน กล่าวคือให้ประชาชนมุ่งเน้นที่ความสะอาด ของร่างกาย ล้างมือให้สะอาดภายหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้งและก่อนรับประทานอาหาร ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่าการล้างมือให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ร่วมกัน
เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า ของเล่นเด็ก ล้วนเป็นประโยชน์ในการป้องกันโรคทั้งสิ้น
ในสถานที่ดูแลเด็ก อาทิเช่น สถานเลี้ยงเด็กอ่อน เด็กเล็ก ควรเน้นวิธีกำจัด อุจจาระให้ถูกต้อง ที่ต้องเน้นอีกเรื่องหนึ่งคือการล้างมือให้สะอาด เนื่องจาก ไวรัสพวกนี้แพร่กระจาย โดยการสัมผัสอุจจาระของผู้ป่วยเป็นสำคัญประการหนึ่ง
และประการสุดท้าย เมื่อเด็กมีตุ่มใสขึ้นที่ปาก มือ หรือ เท้า ขอให้นึกถึงโรคนี้ และต้องพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและแยกเด็กป่วยไม่ให้คลุกคลี กับ เด็กอื่นประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ โรคมือ เท้า และปาก ในเด็กจะมีลักษณะเป็นตุ่มใสตามมือ เท้า ปาก มีไข้ การติดเชื้อร้อยละ 99 จะมาจากอุจจาระของเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 10 ขวบ จะติดเชื้อได้ทางเดียวคือทางอุจจาระ ข้อควรระวังคือ เรื่องของสุขวิทยาส่วนบุคคลคือ รับประทานอาหาร และน้ำที่สะอาด ไม่