คำตอบที่ 29
เรื่องต่อมา 55555 ทนเหม็นหน่อยนะครับ โรคนี้เป็นกันมาก ในพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ ที่ยังไม่นิยมใช้สุขา หรือส้วมครับ โรคท้องร่วงครับ
อาการของโรคท้องร่วงเฉียบพลัน อาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มได้แก่
กลุ่มที่ 1 ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ จำนวนมากกว่า 10 ครั้งขึ้นไป และมีการเปลี่ยนแปลงความรู้สึกตัวไปในทางที่เลว ในระยะเวลาอันสั้น สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ เชื้ออหิวาตกโรค เชื้อโรต้าไวรัส
กลุ่มที่ 2 ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือดหรือมูก มักมีอาการปวดเบ่ง ปวดท้องบิด ถ่ายบ่อยครั้ง สาเหตุที่พบคือ เชื้อบิดซาโมเนร่า เชื้อซิฟิร่า อีโคราย
กลุ่มที่ 3 ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำสีเหลือง กลิ่นเหม็นจัด มักพบจากสาเหตุ พยาธิ เชื้อรา และในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดอาหารร่วมด้วย ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือใช้ยาปฏิชีวนะมาเป็นเวลานาน
การรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลัน แก้ไขภาวะขาดน้ำเกลือ โดยการกินสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ทันทีที่เริ่มมีอาการ โดยปริมาณสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ที่กิน ให้กินเท่ากับปริมาณอุจจาระที่ถ่ายออกมา ในแต่ละครั้ง การใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่ หรือ ORS ผสม ORS 1ซองต่อน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ขวดน้ำปลา ประมาณ 750 ซี.ซี. และคนกระทั่งน้ำตาลเกลือแร่ละลายหมด รับประทานครั้งละน้อยๆ บ่อยๆ ให้ทานตามปริมาณอุจจาระที่ถ่ายออกมา ถ้ามีอาเจียนให้หยุดดื่ม รอจนหายอาเจียนจึงเริ่มดื่มได้ใหม่ เพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำตาลเกลือแร่ สารละลายน้ำตาลเกลือแร่ที่ผสม ควรรับประทานให้หมดใน 1 วัน ถ้าไม่หมดให้เททิ้งแล้วผสมใหม่ ถ้าไม่มี ORS จะทำอย่างไร สามารถเตรียมได้เองโดยใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น ครึ่งช้อนชา ผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ขวดน้ำปลา รับประทานภายใน 1 วัน รับประทานยาฆ่าเชื้อ หรือยาแก้อักเสบในกรณี ที่เป็นบิดถ่ายมีมูกหรือเลือดปน หรืออุจจาระมีกลิ่นเหม็นเน่า โดยให้ยาฆ่าเชื้อร่วมกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ ถ้าดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่แล้ว ภายใน 8-12 ชั่วโมง หรือให้การรักษาเองที่บ้านแล้ว อาการไม่ดีขึ้นแต่มีอาการดังต่อไปนี้ คือ มีอาเจียนมากขึ้น ถ่ายมากขึ้น หรือถ่ายเป็นมูกเลือด มีไข้สูง หรือชัก เกิดมีอาการขาดน้ำ เช่น ตาลึกโหล ปัสสาวะน้อย หายใจหอบ หมดสติ ต้องรีบพบแพทย์ทันที เช้อส่วใหย่ที่จะพบบ่อยจะได้แก่ เชื้ือแบคทีเรียเชอปิร่า ไกอาเดีย แคมเบโรแบคเต้อ เป็นต้น แพร่โดยอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อเปื้อนปน ที่พบบ่อยได้แก่ เชื้อบิดชาโมเนร่า เชื้อแบคทีเรียอีโคราย เชื้ออหิวาตกโรค เป็นต้น
ส่วนเรื่องอาหารเป็นพิษ(food poisoning) เกิด จากการรับประทานอาหารที่มีพิษ (enterotoxin) ของเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ ส่วนใหญ่จะมีระยะฝักตัว(incubation period )สั้น คือ ระ ยะเวลาที่รับพิษ หรือ รับเชื้อโรคเข้า ไป จนถึงแสดงอาการท้องร่วง ประมาณ1-4ชั่วโมง และ มักจะต้องมีผู้ป่วยหลายคน ที่ได้รับประทานอาหาร ชนิดเดียวกันแล้ว เกิดอาการ ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน อาจจะเริ่มด้วย ปวดท้อง อาเจียน และ หรือท้องเดิน ส่วนมากมักจะหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง การรักษาส่วนใหญ่รักษาตามสาเหตุ และ ตามอาการ เชื้อบักเตรีที่เป็น สาเหตุของอาหารเป็นพิษ ได้แก่ Clostidium botulinum, Staphylococcus, Clostidium perfringens, Bacillus cereus เป็นต้น นอกจากบักเตรี แล้ว ยังมีสารพิษอื่น ในอาหารอื่น ที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษ ซึ่งจะกล่าวต่อไป ในท้องเดินเฉียบพลัน ที่ไม่ติดเชื้อ
เป็นไงบ้างครับ เอาแค่นี้ก่อนครับ
5555555ฉนั้นขอแนะนำให้ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆหรือค่อยสังเกตุก่อนกินอาหารทุกครั้งว่าเสียแล้วหรือยัง ถ้าเกิดมันเสียแล้ว ขอให้บอกเลยครับ จะได้เปลี่ยนรายการอาหารโดยทันทีครับ เปลี่ยนไปทางMAMAก็ได้ครับ รวดเร็วทันใจดีครับ