คำตอบที่ 1
       1. เมื่อรักจะแกะ ก็ต้องรู้วิธี(งัด)แงะ
โบราณเขาว่าจะเป็นขโมยต้องดู้ต้นทาง (โบราณแป๊ะที่ไหนบอกตรูฟระเนี่ย) ว่าแล้วสิ่งแรกที่กระผมทำก่อนแกะรอกทุกครั้งเพื่อความมั่นใจ ก็คือไปหาเอา Diagram ของรอกที่ต้องการแกะใครซื้อรอกใหม่มักจะมีติดมากับกล่องครับเก็บไว้ให้ดีเชียวมีผลอย่างมากกับราคาตอนขายต่อ และเอาไว้จับผิดพวกฟรั่ง หรือญี่ปุ่นทำเกิน ต้อนที่ประกอบรอกกลับอ่ะครับ ถ้าใครม่ะมีก็ให้ Search เอาตามเวปนั่นแหละครับ หรือถ้าขี้เกียจก็มาดูตามลิ้งนี้เลยครับ มี Diagram ของรอกเยอะดี
http://www.mikesreelrepair.com/schematics/
ส่วนผมวันนี้จะเอากิ๊กใหม่ คือรอก Daiwa Team Advantage (TD-A 153HSTL) มาทำสีครับ หา Diagram ได้มาจาก Link ข้างบนเพราะตอนซื้อมามีแต่รอกอย่างเดียวครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       2. ลูกคุณนายช่างถอด (ประกอบช้าแต่แกะๆ ถอดๆ ล่ะไวเชียว)
ก่อนจะได้ลูก(บ้า)ก็ต้องถอด(รอก)ซะก่อน ว่าแล้วก็ถอดด้วยความรวดเร็วจนถ่ายรูปม่ะทัน ตามแบบฉบับลูกคุณนายช่างถอด ชักปืนช้า แกะรอกไว อะ อิ อิ อิ (แหะๆ แบบว่าลืมถ่ายอ่ะกว่าจะรู้ตัวอีกทีมันก็เป็นชิ้นๆ แว้วอ่ะ เอาไว้แก้ตัวตอนใส่กลับให้เหมือนเดิมละกัน)
เอาละที่นี้ก็มาดูชิ้นส่วนต่างๆ ที่คิดว่าจะทำสี และสามารถทำสีได้ดีกว่า (คงไม่มีใครทะลึ่งจะไปทำสีเฟือง เกียร์ ลูกปืนหลอกนะครับ) ของผมที่จะนำมาทำสีก็มี ที่จับ (Knob), แขนหมุน (Handle), ที่ปรับเบรค, ฝาปิดข้ายซ้าย, ฝาปิดด้านขวา, และตัวเฟรมรอกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       รูป ที่จับ กับแขนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ฝาปิดทั้งด้านซ้าย และขวา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ตัวเฟรมรอกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       และ หึ หึ หึ ใครใจไม่กล้าเปิดผ่านไปไวไวเลยครับ ไส้รอก ครับ ไส้รอก กระจายเต็มกล่อง หวาดเสียวดีจริงๆ เสียวว่างานนี้จามีญี่ปุ่งทำเกินอีกอ่ะเปล่าเนี่ย อิ อิ อิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       3. หายใจลึกๆ สามทีทำใจก่อนเจ๊ง ฮะ ฮะ ฮ่า
เอี้ยด!!!!..........!! เบรคไว้ก่อนจะไปต่อ ขอบอกไว้ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนนี้ครับ ใครที่ไม่สามารถทำใจให้รับได้ ขอให้หยุดไว้ที่ตรงนี้เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้จะทำให้รอกของคุณไม่เหมือนเดิมตลอดกาลครับ สิ่งที่จะต้องทำใจนะครับ
1. รอกที่คุณรักจะถูกส่งเข้าขั้นตอนกระทำชำเราอย่างโหดเหี้ยม
2. จากนี้ไปรอกคุณจะไม่มีทางกลับเป็นสีเหมือนเดิมตลอดกาล
3. โลโก้ ยี่ห้อ รุ่นต่างๆ จะถูกลบไป แต่จะถูกเก็บไว้ในใจคุณตลอดกาล (ว่าเจ็บใจวุ้ย ไม่น่าหลงคารมมันทำสีรอกเลยตรู)
4. น้ำหนักของรอกย่อมมีการเปลี่ยนแปลง โดยส่วนมากจะเพิ่มมากขึ้น มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการโบ๊ะสีของคุณ (รอกผมเคยน้ำหนักน้อยลงหลังทำสีเหมือนกัน เพราะตอนประกอบดันลืมใส่เฟือง ฮา ฮา ฮา)
5. เลิกหวังว่าจะขายต่อไปเลย ขายไม่ออกหรือราคาตกแน่ๆ เพราะการทำสีจะเป็นการบอกอย่าชัดเจนว่ารอกตัวมีราคี โดนปู้ยี่ปู้ยำมาเรียบร้อยแล้ว อย่างน้อยก็จากการทำสี
เอาล่ะครับถ้าคิดว่าคุณทำใจได้ก็เริ่มกันเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       4. เริ่มขั้นตอนโทรมานรอก
รอกก็เหมือนกันผู้หญิงนั้นแหละครับ ยิ่งใช้ไปนานๆ ยิ่งมีริ้วรอย การทำสีใหม่อย่างแรกก็ต้องทำการลบริ้วรอยครับ เริ่มจากการขัดผิว ริ้วรอย จุดด่างดำ ตีนกา ตีนกู ตีนใครฟระมาถีบตูดตู ออกให้หมด นอกจากนี้การขัดสีเดิมออกจะทำให้สีใหม่สามารถติดรอกได้ดีกว่าเพราะปรกติสีเดิมที่มาจากโรงงานจะมีการเคลือบสีไว้ทำให้เวลาพ่นสีใหม่ สีที่พ่นเข้าไปจะหลุดลอกได้ง่าย และรอยจากการขัดจะทำให้เป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวในการยึดติดของสีใหม่อีกด้วย การขัดผมจะขัดด้วยกระดาษทรายน้ำเบอร์หยาบก่อนครับ (หยาบมากหยาบน้อยขึ้นอยู่กับความขี้เกียจ ขี้เกียจมากก็หยาบมาก ขี้เกียจน้อยก็หยาบน้อย แต่หยามโลนก็ตัวใครตัวมันครับ) จากนี้ก็ตามด้วยกระดาษทรายน้ำเบอร์ละเอียด (อันนี้ขึ้นอยู่กับความขยันครับ ขยันมากก็ละเอียดมา ขยันน้อยก็ละเอียดน้อย)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       รูปเฟรมที่ขัดแล้วครับด้วยความขี้เกียจมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       รูปฝาปิดด้านซ้ายด้วยความขี้เกียจ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       รูปฝาปิดด้านขวาด้วยความขยัน (แหะๆ แบบว่ายิ่งขัดยิ่งเนียน เลยอามือลูบเพลินไปเลย แควนไม่อยู่กลัดมันจิงเว่ยตู)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       รูปมือหมุน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       รูปที่ปรับแดรก กับกระจังหน้ารอกที่ลืมไปตอนแรกว่ามันจะต้องเป็นสีเดียวกับเฟรมรอก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       รูปที่จับ (Knob) ข้อควรระวังในกรณี Knob ที่เป็นยางการขัดด้วยความขี้เกียจจะทำให้ยางเป็นขุย และพอพ่นสีแล้วจะเหมือนขนหมาเป็นสังคตัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       5. อุดรูมันซะเราไม่ชอบของฝืด
หลายคนที่เคยทำสีรอกมาแล้วคงจะรู้ว่าหลังทำรีแพร์ส่วนต่างๆ บางส่วนมันรู้สึกฝืดชมัด บางส่วนใส่(น๊อต)แทบไม่ลง ถ้าเป็นสาวก็ดีแต่นี่เป็นรอก มันจะต้องลื่น เอาแบบว่าดีแล้วหัวทิ่มบ่อไปเลยยิ่งดี เพราะฉะนั้นจุดสัมผัสต่างๆ ที่เกี่ยวกับการบิดหมุนอย่าไปยุ่งกับมันเลยดีกว่า ผมเลยเอากระดาษกาวมาปิดไว้ไม่ให้โดนเวลาพ่นสีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ฝาปิดซ้ายปิดในส่วนปุ่มปรับหน่วง และช่อมมือหมุน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       มือหมุนปิดในส่วนแกน Knob และส่วนที่ใส่ฝาปิดน๊อต

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ฝาปิดด้านขวาปิดในส่วนของการปรับหน่วงแม่เหล็ก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       และส่วนด้านในเพราะเวลาพ่นสีอาจมีสีกระซ็นเข้าไปโดนได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       สตาร์แดรกปิดในส่วนรูมือหมุนทั้งด้านบน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       และด้านล่าง มีผลอย่างมากในกรณีที่เป็นสตาร์ แดรก แบบมีคริกเสียง ความหนาของสีจะทำให้เสียงไม่ดังเหมือนเดิม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       เฟรมจะปิดในส่วนที่สัมผัสกับสปูล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       รูแกนสปูล และแกนสปริงยก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       6. แต่งองค์ทรงเครื่องให้เป็นลิเก
หลังจากที่ขัด ปะ อุด เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนที่วาดหวังไว้ ครับพ่นสี ว่าแล้วก็พ่นเลยครับ พ่นเข้าไป อยากได้สีอารายก็พ่อนเข้าไป เอาให้ลิเกอายไปเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       แต่เดี๋ยวก่อน!!!!! ผมมีเทคกะนิคการพ่นสีเล็กน้อยมาฝาก อันนี้จำมาจากพี่ชายที่เคยทำพวกโมเดลรถต่างๆ ว่าการพ่นสีที่ดี จะต้องมีเทคนิก และฤกษ์งามยามดี จะทำให้สีติดทน ติดนาน และติดเนียน เขาว่ามาว่า
1. ฤกษ์งามยามดี จะต้องเป็นวันที่มีแดดดี อากาศร้อนแห้ง เพราะการที่สีจะแห้งได้ดี โดยปรกติสีจะประกอบด้วยส่วนเนื้อสี และสารละลายประเภททินเนอร์ การที่สีจะแห้งได้ดี และเนียนนั้นจะต้องให้ทินเนอร์ละเหยออกไปให้หมดสีถึงจะแห้งดี ติดทน ดังนั้นถ้าเป็นวันที่มีอากาศชื้น หรือไม่ร้อนจะทำให้ทินเนอร์ละเหยได้ช้า และอาจเกิดเป็นฟองอากาศด้านในเพราะสีที่ผิวนอกแห้งก่อนทำให้ทินเนอร์ด้านในละเหยออกไม่ได้ ผมก็คือจะทำให้สีบวม และไม่ติดกับผิววัสดุ (อืม.... วิชาการจริงๆ พี่ตรู)
2. เทคนิคการพ่นสีควรจะพ่นกลางแจ้ง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว และไม่ควรจะพ่นใกล้พื้นผิววัสดุ ควรห่างออกมาอย่างน้อย 1 ฟุต (ประมาณด้วยฟุตไม้บรรทัดนะคร้าบ ไม่ใช่ฟุตท่าน กระผมเคยลองกวนประสาทท่านพี่มาแล้ว เลยโดนไป 1 ฟุตงามๆ ที่ตูด)
3. การพ่นสีควรจะใจเย็นๆ พ่นหลายๆ ครั้ง โดยพ่นบางๆ ก่อน เพื่อให้สีด้านในได้มีโอกาสแห้งก่อนที่จะพ่นสีชั้นที่สองทับ ไม่ต้องกลัวว่าจะปกปิดร่องรอยไม่ได้ ถ้าพ่นไปสัก 10 ชั้นเดี๋ยวรอยมันก็หายไปเองแหละ (ใครจะบ้าพ่นตั้ง 10 ชั้นฟระ พี่ตรูมันพูดประชดนี่หว่า)
4. ในกรณีที่เป็นสีประเภทเมทัลลิก เหมือนสีรถมอไซต์ส่วนใหญ่จะมีการพ่นสีรองพื้นที่เป็นสีเงินก่อน ก็ควรจะรอให้สีรองพื้นแห้งดีซะก่อนที่จะพ่นสีจริง เพราะไม่งั้นทินเนอร์จากสีจริงจะละลายสีรองพื้นให้ลอยขึ้นมาเป็นด่างเป็นดวง
5. ควรเปลี่ยนกระดาษหนังสือพิมพ์ที่รองพื้นให้บ่อยๆ หรือเปลี่ยนด้านทุกครั้งได้ยิ่งดี อย่าเสียดาย อย่าขี้เกียจเพราะถ้าไม่เปลี่ยนสี ที่กระเด็นออกมาด้านนอกะติดกับวัสดุที่พ่นสี หรือเมื่อกับอีกด้านจะทำให้สีติดเอากระดาษขึ้นมา โดนแบบนี้แหะ แหะ ขัดและพ่นสีใหม่ครับท่าน และไม่สนุกแน่การขัดสีที่พึ่งจะแห้งมันหนืดได้ใจแลยเชียวละ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       คิดว่าคงจะมีหลักๆ เพียงเท่านี้ครับ ที่เหลือยังนึกไม่ออก ให้เป็นการบ้านเอาไว้ทำสีกันหลายๆ เที่ยวแล้วกันจะได้ชำนาน อิ อิ อิ
ผมพ่นสีเทาเมทัลสโตนที่มือหมุน หน้ากระจังรอก และเฟรมครับ ระหว่างพ่นเอาแต่ละชิ้นไว้ห่างกันนะครับ จะได้พ่นได้ทั่วถึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       ส่วนฝาปิดผมตั่งใจจะทำสีแดงเมทัลลิก ดั่งนั้นต้องพ่นสีรองพื้นก่อนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       สีรองพื้นที่แห้งแล้วครับ ทิ้งไว้กลางแดดประมาณ 30 นาที (ถ้าเป็นที่ร่มคงประมาณ 1 ชั่งโมง) เนียน ครับ เนียน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
      

แสดงความคิดเห็นย่อย