คำตอบที่ 1
      

..... ..ปืนดีที่คนเล่นปืนใฝ่หา...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       งั้นครูหาดใหญ่ขออยู่ในส่วน "คล้าย ๆ ว่าจะรู้ ดูเหมือน ๆ ว่ารู้ หรือไม่ใช่ก็ใกล้เคียง" ประมาณนั้นนะครับ ...ปืนมรดกตกทอดของท่าน TAURUS ผู้โชคดี....ดูจากรูปร่าง ภายนอกแล้ว น่าจะเป็น colt commander 1950 ครับ แต่ท่านผู้มอบเป็นมรดกคงตกแต่งมาบ้าง จากภายนอกก็เห็น ประกับด้าม และไก ครับ ภายในไม่รู้...ต้องรอให้ท้องซะก่อน...ผมถึงจะตรวจละเอียดให้ได้...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       กำเนิดของเจ้า colt model commander 1950 นี้ก็ว่ามตั้งแต่ปี ๑๙๔๘ โน่นแหละครับ นับถึงปัจจุบันก็ ๕๘ ปี พอ ๆ กับอายุท่าน TAURUS น่ะแหละ ช่วงนั้นการผลิตอาวุธปืนมักมีเงื่อนไข ปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับกองทัพ เกี่ยวกับทหาร ประมาณนั้น ไม่เหมือนปัจจบัน การผิตอะไร ต้องคิดถึงความเหลี่ยม ๆ ไว้ก่อน ยิงเหลี่ยมจัด ๆ ยิ่งอยู่นาน ยิ่งดื้อนาน เหมือนที่ปรากฏในบ้านเราทุกวันนี้ อิอิ.....คือ กองทัพอเมกา อยากได้ปืนในชั้นคอมแพ็ค ที่มีขนาดและน้ำหนักน้อยกว่าเดิม แต่ยังสามารถยิงกระสุนขนาดหนัก ๆ ได้เหมือนเดิม เจ้าของผู้ผลิตจากโรงงานต่าง ๆ เลยเดือดร้อนกันเป็นแถว ๆ รวมทั้งพี่โค้ลท์ของเราด้วย

ปัญหาหลัก ๆ ก็เห็นจะเป็นเรื่องน้ำหนัก เพราะพยายามลดขนาดเท่าไหร่ปืนก็ยังหนักอยู่ โค้ลท์เลยพิจารณามองไปที่อลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งถืว่าเป็นเรื่องใหม่มากไปสมัยนั้น แต่ก็ทำออกมาจนได้ นอกจากจะเอาอัลลอยมาทำโครงปืนแล้ว ยังต้องหั่นสไลด์เหล็ก ของเดิมให้สั้นลงด้วย จาก ๗ นิ้ว ๓ หุน ก็หั่นเหลือ ๖ นิ้ว ๕ หุน ลำกล้องก็ต้องได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน คือจาก ๕ นิ้ว ตัดเหลือ ๔ นิ้ว ๒ หุน ... เออ...ว่าไปก็น่าสงสาร...เป็นท่าน TAURUS จะยอมให้ตัด/บั่น/หั่น ให้สั้นลงไหม๊เนี่ย....แต่ก็สมใจครับ เพราะสามารถลดน้ำหนักของ commander ลงมาจาก ๑๙๑๑ เอ๑ ถึงเกือบครึ่ง

ความคาดหวังในการพัฒนาครั้งนี้ก็หวังนิดหน่อยเพียงว่าสามารถเข้าไปประจำการในกองทัพได้ และจะสามารถผลิตเพิ่มได้อีกนิดหน่อยสัก สี่ซ้าห้าแสนกระบอก แต่ผลจากการทดสอบก็ไม่เป็นไปอย่างที่หวังเท่าไหร่ครับ เพราะที่สุดแล้วทางกองทัพก็ยังยืนยันที่จะใช้ เอ็ม ๑๙๑๑ เอ ๑ เช่นเดิม แต่ก็ปลอบใจนิดหน่อยคือ ให้ commander เป็นปืนประจำกายของนายทหารในยุคนั้นครับ

ทางโค้ลท์เองจึงได้ผลิตออกมาขายในเชิงพาณิชย์ในเวลาต่อมา และก็ประสบความสำเร็จ ตามประสายักษ์ใหญ่ครับ ทำไรแล้วก็ดัง เพราะติดตลาดไปเสียแล้ว colt model commander 1950 นี้ ถือเป็นปืนโครงอัลลอยกระบอกแรกครับ ที่ใช้ยิงกระสุนหัวโต ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       จากวันนั้น...จนถึงวันนี้ วันที่ท่าน เทารัส มภรรยาถึง ๔ คน โค้ลท์ ก็ได้ปรับปรุพัฒนา commander ออกมาขายกันอีกหลายตัวครับ เช่น ตัวนี้ ก็เป็น Colt Series 70 Combat Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       Colt Series 70 Combat Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       Nickel Series 70 Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       Nickel Series 70 Combat Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       Satin Nickel Series 70 Combat Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       MkIV Series 80 Combat Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       Gold Cup Commander Blued

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       Gold Cup Commander Stainless Steel

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       M1911 A1 Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       Swenson Customized Series 70 Commander

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       XSE Series Commander อย่าอ่านผิดนะครับ เป็น XSE ไม่ใช่ SEX เดี๋ยวจะไปกันละเรื่อง....

ว่ามาถึงกัณฑ์น้แล้ว ท่าน เทารัส ก็คงจะคลายความกังวล สังสัย และกังขา ลงมาได้ระดับหนึ่ง ... ตถาคตท่านว่า...เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร .... การครอบครองสมบัติ ที่มีค่ามากจนเกินไป อาจเป็นเหตุแห่งทุกข์ อันเนื่องจากโลกนี้ เรายังไม่หลุดพ้นจาก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ข้าน้อย"ครูหาดใหญ่" น่าจะแบ่งเบาทุกข์จากการครอบครอง colt commander 1950 ของท่านเทารัส ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน .... หากไม่คิดยึดมั่น ถือมั่น ในตัวอู ของอู มากจนเกินไป ข้าน้อยขอรับ และยินดีที่จะมีทุกข์ในการครอบครอง colt commander 1950 ต่อจากท่าน .....ซึ่งท่านก็คจะยินดี และไม่คิดที่จะแสวงหา เรียกเอาทรัพย์สินของนอกกาย จากข้าน้อย อันจะเกิดเป็นทุกข์อย่างไม่จบสิ้น จะเป็นวัฏจักรแห่งความทุกข์ ต่อเนื่อง...สืบไปอีกเลย.....เอวัง .... ก็มีด้วยประการละฉะนี้...สา....ธุ.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       อ้อ...ลืมไปครับ แถมอีกนิด...ไปเทียบเอาเองครับ..ตัวไหน...ใช้กระสุนขนาดไหน...ลืมลงให้...ความผิดพลาดครั้งนี้...คงไม่ถือโทษ โกรธเคืองข้าน้อยให้เกิดทุกข์อีกนะท่าน เทารัส ไม่เช่นนั้น...โผล่ไม่พ้นน้ำแน่ ๆ ....

Models

Pre-Series 70 Commander - "LW" prefix, 9mm .38 Super, .45, alloy frame model only, 1950-1976

Series 70 Lightweight Commander - "CLW" prefix, .30 Luger (7.65mm), .38 Super, 9mm, .45, 1970-1983

Series 70 Combat Commander - Steel frame, rare satin nickel variant

Series 80 Lightweight Commander - .45, 1983-1997

Series 80 Combat Commander - .38 Super, 9mm, .45, blue slide and stainless receiver variant with Hogue grips in 1998 only, blued, stainless and satin nickel variants.

Gold Cup Commander - .45, blued and stainless variants

M1991A1 Commander - .45, blued and stainless variants

XSE Series Commander - .45, stainless

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       สาธุ...ประดุจได้ดวงตาเห็นธรรมเลยครับอันประวัติปืนกระบอกนี้เป็นของท่านผู้กล้าท่านหนึ่งซึ่งเป็นคุณลุงของTAURUS ได้นำติดตัวมาพร้อมท่านจากอเมริกาตอนกระโดดร่มลงที่จังหวัดเชียงใหม่สมัยสงครามมหาเอเซียบูรพา แล้วต่อมาได้ยกให้TAURUS เอาไว้ใช้ขว้างไส่โขมยหากมันมาขึ้นบ้าน(เนื่องจากท่านให้ปืนแต่ไม่ให้ลูกปืน...เฮ้อจบกัน) ต่อมาTAURUS เกิดนิมิตรเห็นทีจะไม่ได้การหากจะต้องนำปืนไปขว้างไส่โขมยกลัวมันจะหัวล้างข้างแตกไปอันจะทำให้เป็นกรรมติดตัวไปอีกหลายชาติ จึงไปเดินธุดงค์ตามร้านปืนแถวดิโอสยาม แล้วบอกตาเเป๊ะแถวนั้นว่า "ดูก่อนเรามาแถวนี้ด้วยเหตุผลเพียงประการเดียวคือแถวนี้มีลูกปืนขนาด ๑๑ มิลลิเมตรขายหรือไม่ เอาไอ้ที่มันมีดินปืนน๊ะไม่เอาที่มันไส่เป็นลูกปืนจักรยาน" ปรากฏว่าได้ผลสมความปราถนา อีตาเเป๊ะแกไปคว้าลูกปืนมาให้กล่องหนึ่ง บนกล่องเขียนว่า 45. ACP FULL METAL JACKET 230gr. ยี่ห้อ BULLET MASTER คราวนี้เราก็มาเข้าเรื่องกันเลยเนื่องจากอารัมภบทมาเยอะจนจะหาสาระมิได้อยู่แล้ว คือแบบว่าไอ้ลูกปืนที่ TAURUS ไปบิณฑบาตญาติโยมแถวดิโอสยามมาดังกล่าวข้างต้นนั้นแล้ว เมื่อนำมาใส่ปืนโบราณกระบอกนี้แล้วมันจะยิงออกหรือไม่ครับ
อ้อ...อีกอย่างหนึ่งเห็นพี่ครูหาดใหญ่เล่าแจ้งแถลงไขมาว่าปืนกระบอกนี้น่าจะมีอายุ ๕๘ ปีมาแล้ว แต่..เอ..สงครามมหาเอเซียบูรพามันเกิดมาตั้ง ๖๐ ปีแล้ว เวลามันเหลื่อมกันอยู่นาตอนที่คุณลุงของTAURUS โดดร่มหลบพวกลูกพระอาทิตย์ลงที่เชียงใหม่มันก็น่าจะ ๖๐ ปีมาแล้วน๊ะครับแสดงว่าจะต้องได้ปืนกระบอกนี้มาก่อนจะถูกผลิตหรือครับ...แบบว่างง...อยู่เหมือนกันเอาไว้เมื่อมีโอกาสตอนแดดร่มลมตกคงต้องถามคุณลุงว่าไปเอาปืนกระบอกนี้มาอย่างไรอีกที เเหะ..เเหะ..อีกเรื่องเนื่องจากTAURUS ยังคงต้องวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏอีกหลายชาติถึงแม้จะได้ดวงตาเห็นธรรมจากท่านครูแล้ว แต่ก็ยังคงมีกิเลสอยู่บ้าง...คงต้องชดใช้กรรมด้วยการครอบครองปืนเจ้าปัญหากระบอกนี้ไปอีกนาน...มิเช่นนั้นคุณลุงของTAURUSท่านคงต้องแช่งชักหักกระดูกแถมจะไม่ยกสมบัติอย่างอื่นให้อีกด้วย...เอวัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       อ้อ...มีอีกเรื่องครับท่านครูหาดใหญ่เป็นนักวิทยุสมัครเล่นด้วยหรือครับ ปกติแสตนด์บายช่องความถี่ใดครับผมมีภาระกิจที่จะต้องเดินทางไปสงขลาบ่อยๆ จะได้ทักทายกันครับ...QRU 73 HS7BWO STANDBY

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       เจริญธรรม....ท่านสาธุชนคนหนาด้วยกิเลส....
อันว่าผู้กล้าท่านนี้ ที่นำกระบอกดำเมี่ยม แต่สั้นจู๋ ที่ได้ชื่อ
ตามลำดับญาติท่านเทารัส ว่าเป็นคุณลุงผู้มอบมรดก
อันทรงค่าให้แก่ท่าน ช่างเป็นคนที่น่าเคารพกราบไหว้
บูชายิ่ง ครูหาดใหญ่ผู้ด้อยวาสนา คงต้องออกจาริก
แสวงบุญ ตามหาผู้ได้ชื่อตามลำดับญาติว่าเป็นลุง อีก
หลายชาตินัก ถึงจะพบผู้ใจบุญ มอบสิ่งเหล่านี้ให้บ้าง
ลูกหลานทหารสมัยสงครามโลกแท้ ๆ อย่างข้อน้อย
ยังไม่มีโอกาสได้รับ.....นึกถึงวิบากกรรมที่เกิดแก่ข้าน้อย
ช่างอดสูนัก ไหนเลยจะโชคดีอย่างท่าน เทาวัด.....
อุ่ย....เทารัส


ที่จริงแล้ว .... ท่านไม่น่าต้องเสียเวลา ในการนั่งวิปัสสนา
ใต้ร่มผักชี ออกเดินธุดงค์ไปไกลถึงดิโอ เพื่อขอ
บิณฑบาตรลูกโลหะขนาด ๑๑ มิลลิมตร หรือ .๔๕ เอซีพี
นั่นเลย มันแพงก็แสนแพง เห็นควรเก็บจตุปัจจัยไว้
สำหรับเป็นทุนการศึกษาให้กับ บรรดาลูก ๆ หลาน ๆ
แถวอาชีวะ เทคนิค เทคโน หรือมอต่าง ๆ ดูจะเกิดกุศลนัก
ไหนต้องค่าเทอม ไหนต้องค่าโทรศัพท์ ไหนต้องห้อง
พัก แฟรต หอ ค่าดูแลปรนนิบัติกิ๊ก....ช่างน่าเอ็นดู และสงสาร
นี่ข้าน้อยครูหาดใหญ่ ก็กำพร้าลูกสาว วานเพื่อน ๆ ช่วย
หาเด็ก ๆ ใส ๆ อายุย่างวัย ๑๘ ให้อยู่เหมือนกัน ว่าจะเอามาทำลูก
หาอยู่นาน....หากพันเตเทาวัด อุ่ย เทารัส เจอเด็กที่ว่าที่ไหน
ก็ช่วยแนะนำเส้นทางมาแสวงบุญทางหาดใหญบ้างก็จะดี ด้วยจิตและวิญญาณของความเป็นครู ศิษย์แห่งตถาคต
จะดูแล...เลี้ยงดู...เน้นยำปูเสื่อ ปูฟูกเป็นอย่างดี ไม่ให้ท่านพันเต ต้องเสียชื่อถึงสำนัก


ว่าด้วยกิจเดินธุดงค์ จาริกแสวงบุญ ใช้แค่ด้ามเจ้า commander
ปาหัวนักเลงหัวไม้(หน้าสาม) หรือพวกหนาด้วยกิเลส คุณโจร ๔๕๐
ก็น่าจะเพียงพอ..สำหรับการสั่งสอน ให้ดวงตาเห็นธรรม ไม่เช่นนั้น ....
อีกวิธีก็ขอประทานอนุญาตกราบรบกวนใหคำแนะนำว่า....ใช้วิธี
นั่งเพ่งวิปัสสนา กำหนดลมหายใจ เหนี่ยวไกเข้าเป็น "พุทธ"
สไลด์ไหลเลื่อนกลับเป็น "โธ" ปฏิบัติจนดวงตาเห็นดวงแก้วสวยสดใส
ที่ยอดอกเด็กอาชีวะ แล้วค่อยละเลียดมือ ค่อย ๆ คลำ
ขยำ กำ ดวงแก้วที่ว่า ปาใส่ที่หัวคุณโจร ก็น่าจะดีกว่า
ที่จะเอา commander ออกมาปา....เกรงว่า อุปกรณ์
เครื่องใน ใส้พุง ของอสุภะ commander จะหลุดหล่นหายไป
แล้วจะเป็นเหตุแห่งวิบากกรรม ไม่สามารถไปถึงอรหันต์ได้


ไหน ๆ ได้รับการสละทาน จากท่านแป๊ะมาแล้ว ก็อย่าได้กังขา
เสียเวลลา ให้เป็นวัฏจักรทุกข์อีกเลย จัดการตรวจสอบอุปกรณ์ภายใน ของเจ้าสลิงคาร commander ให้เรียบร้อย
ตรวจสอบถึงความเก่าและอาจจะถูกกัดเกาะด้วยคราบกิเลสสีแดงก็ดี สีเขียวก็ดี สำเหลือก็ดี หรือสีกระดำกระด่างก็ดี
ล้วนแล้วแต่ไม่ดีทิ้งสิ้น จากนั้นก็ลูบไล้ด้วยน้ำพระพุทธมนต์
ยี่ห้อต่าง ๆ ที่ติดมือมาจากการตักบาตรถวายบุญของคุณแป๊ะ
ขจัดขัดเกลาเอาคราบกิเลสในชั้นต่าง ๆ ออกให้เกลี้ยง
ให้จนเห็นเนื้อแท้แห่งธรรม ชโลมลูบด้วย น้ำพระพุทธมนต์
หล่อลื่นอีกที ก่อนที่จะบรรจุโลหะใส่ในช่องแม็กกาซีนซัก ๓ กัณฑ์ แล้วสอดใส่เข้ารูใต้ด้าม ขยับสไลด์ดึงเลื่อนถอดหลัง
ตามจังหวะ ให้คล้ายกับเดินจงกลม หาเสาต้นเขื่อง โอบกอดให้แนบแน่น (นึกถึงตอนกอดเด็กมอเข้าไว้)
เล็งไปยังเป้าหมาย คล้ายตอนนั่งวิปัสสนา กำหนดให้ดวงตาเห็นเป้า
นั่งทับอย่าบนศูนย์ทั้งหน้าหลัง ที่วางขนานกันไป กำหนดลมหายใจ
นึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์ในสากลโลก
ให้ดลบรรดาลให้การทดสอบตบะในครั้งนี้ ผ่านพ้นไปด้วยดี
ขอเพียงให้รอดพ้นจากบาดทะยักในชั้นต้น ที่ได้สัมผัส commander โบราณนี้ ก็น่าจะเพียงพอ จากนั้น...
ก็ค่อยรวบรวมบารมีแห่งธรรม เหนี่ยวแท่งเหล็ก แหลมโค้งภายในโก่ง เข้าหาตัวอย่างช้า ๆ จังหวะนี้สมครอย่างยิ่ง
ที่จะกลั้นลมหายใจ เพื่อเก็บโอกาสอันดี ไว้สูดดมเอากลิ่นธูป อุ่ย...กลิ่นดินดำหลังการเผาไหม็เชิงตะกอนแห่ง
ลูกโลหะสีเหลืองทองอร่าม มันจะช่างเป็นกลิ่นไอแห่ง
สวรรค์ชั้นดาวดึงค์ ก่อนที่จะเดินโภชงค์ ๗ ออกไป
ตรวจสอบตำบลของผลแห่งการวิ่งปะทะ....ของหัวโลหะ
เคลือบแข็ง...ด้วยทองแดงอีกที.....เท่านี้บัญญัติการ
ทดสอบตบะ....ก็จะจบลง.....


เรื่องการโปรดสัตว์ ทางช่องความถี่วิทยุนั้น....ข้าน้อย ครูหาดใหญ่เสมือนหนึ่งว่าไมมีตัวตน...เพราะบำเพ็ญบุญมานาน
...เริ่มถึงขั้นไม่เห็นตัวอู ของอูแล้ว ดังนั้น...หากพันเตได้มีโอกาสมาจาริกแสวงบุญ ทางหาดใหญ่ ก็คงจะ
สามารถคอนแทค สนทนาธรรมกับลูกวัด อุ่ย...คณะกองทัพธรรม ham&gun songkhla ได้ ทางช่องทวนกิเลสสัญญาณ
๑๔๕.๖๗๕ เมเกะเฮิต คอมเพล็ค อุ่ย...ดูเพล็คลบที่ ๖๐๐
เหมือนดังเช่นทั่วราชอาณาจักรเขาใช้กัน สอบถามว่าอยากจะสนทนาธรรม แลกเปลี่ยนประสบการณ์การ
บำเพ็ญบุตรกับครูหาดใหญ่ อาจจะพอมีคนรู้จักข้าน้อยบ้าง


ก่อนจะจากกันไปในวาระนี้ ข้าน้อยครูหาดใหญ่ ก็ขออวยพร
ให้ภาระกิจแห่งท่าน จงเป็นไปด้วยความราบรื่น ตื่นเต้น และหวาดเสียว ทุกเสี้ยววินาที คิว อาร์ ยู ๗๓ ท่านพันเต
โอเทล ซีแอร่า ทู บราโว่ วิสกี้ ออสก้า (ดูฉายาท่านแล้ว
เห็นจะแก่พรรษากว่าข้าน้อยนัก) ไม่แสตนบายแล้ว นี่ก็ย่าง
เข้าสามนาฬิกาแล้ว ข้าน้อยจะขอตัวจำวัดก่อน.......รุ่งวันใหม่
ต้องออกโปรดสัตว์ที่สถานศึกษา และให้คำปรึกษาแก่ศิษย์ ผู้ปกครอง เพื่อนร่วมงานอีก เพราะนัดหมายที่จะแจก รบ. แล้ว ....สาธุ......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ต่อภาค2เลยครับทั้ง2ท่าน แดจังกึมก็จบแล้วเหงาๆอยู่ จองปืนก็ยังไม่ได้ ครับครูหาดใหญ่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       โอว...คุณพระรักษา....ท่าน...เสาเจียงมาย...

ดูจากสำนวนภาษา ก็เห็นอากัปกิริยา ไม่ขอเกรงใจ...
ดูแล้วรู้สึกทานอยู่ในเคราะห์ พระศุกร์เมา พระเสาร์นอน
เมื่อครั้งท่านเกิดหากเวลาตกฟากเป็นกลางคืน แน่แท้ว่าไม่จะต้องมองเห็นดวงตะวัน
เมื่อครั้งยังเยาว์คงยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ให้ทำนายต่อไปได้ว่าหลังท่าน
จูงแขนคู่ชีวิตชักชวนเธอสละนามสกุล เมื่อนั้นท่านจะต้องขาดสิ้นจากชีวิตโสด
ในเช้าที่ผ่านมา ก่อนออกจากบ้านมาทำงาน หากท่านก้าวขาซ้ายออกก่อน
พระท่านว่าขวาท่านย่อมจะอยู่ด้านหลัง หว่างเส้นทางเมื่อมองด้านซ้าย
คงจะไม่เห็นด้านขวา สิ่งเหล่านี้เห็นทีเป็นที่มาแห่งเคราะห์
ให้รีบแก้ไขโดยเร่งด่วน


ค่ำนี้ให้ออกอุบายชักชวนเพื่อนร่วมงาน
แล้วก็สละความตะหนี่ สร้างกุศล ด้วยการบูชาน้ำพระพุทธ
จากร้านค้าหน้าหมู่บ้าน ขอเน้นว่าเอาสีเหลืองอัมพัน หากเป็นกล่องสีทอง
มีแคบสีแดง ก็จะดีที่สุด เพราะถือเป็นสีแห่งมงคล เป็นสีแห่งความเจริญงอกงาม
เป็นสีแห่งการโชติช่วงชัชวาล หากไม่แน่ใจ เพ่งพินิจดูอีกที
ว่าเขียนด้วยอักษร "รีเจนซี่" หรือไม่ หากเป็นดั่งที่วาดหวังแล้ว
ก็เปิดตู้เย็น รบกวนคู่ชีวิตที่หลงผิดมามาตลอด ที่เลือกท่านเป็นคู่ชีวิต
จัดการต้มน้ำใสใส่ข่าอ่อนพอประมาณ ทุบพริกขีหนูสวนสด ๆ
โปรยลงปากหม้อขณะยังร้อน


จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติธรรม
บริกรรมคาถา นั่งปาฐากถา สนทนาธรรมกับเพื่อนร่วมงานที่ชักชวนมาด้วย
ปฏิบัติเช่นนี้ เป็นนิจ แล้วชีวิตจะสดใส ข้อควรระวังก็คือ
หากเริ่มเข้าถึงฌาญ จะเริ่มมีการตัวเบา อาจเริ่มลอย ตาจะเริ่มพล่า
ก่อนปรากฏดงแก้วแววใส ให้รีบหยุด หรือหากหยุดไม่ได้
ออกจากภวังค์ไม่ทัน ก็ให้รีบยึดกุญรถเพื่อนเอาไว้ ไว้อรุณรุ่งของวันใหม่
ค่อยเดินทางออกจาริกแสวงบุญกันต่อ


ส่วนสีกา "แดจังกึม" อุปทายิกาแห่สำนักช่องที่ ๓ ได้ถึงแก่
กาลอาวสาน ก็ให้ถือว่า เป็นวิบากกรรมแต่ปางก่อน หรือหากคิดจะติดตามเธอไป
ก็ให้นั่ง ภาวนา นอนภาวนา ยืนภาวนา ตีลังกาภาวนา
ให้เธอเอ่ยปากชักชวนไปถึงเกาหลี คงไม่นานเกิน ๒ ชาติ
ความปรารถนาแห่งท่านก็จะบรรลุลงได้เอง แต่กระนั้น
เพื่อคลายความทุกข์จากการตัดใจจากสีกาแดจังกึมยังไม่ได้
ก็ให้ท่านรำลึกนึกถึง "แดะจังอึง" แห่ง "ชินคอรับชั่น" เพชรฆาตหน้าเหลี่ยม จ
ากกรุงพาราณสีเชียงใหม่ ให้ดูไปก่อน....ระยะนี้มีเรื่องให้ติดตามกันเป็นระยะ ๆ


ด้านของปืนที่จองไว้....หากหมั่นปฏิบัติ สละความตะหนี่ชักชวนเพื่อนร่วมงาน
มาประกอบกิจแห่งธรรมบ่อย ๆ ไม่นาน....แล้วจะจนไปเอง......
และเมื่อได้ครอบครองปืน สมดังใจใฝ่ถวิลหาเมื่อใด....
เมื่อนั้นแหละท่านก็จะได้เป็นเจ้าของปืนที่จองโดยสมบูรณ์......สา.....ธุ

แสดงความคิดเห็นย่อย