คำตอบที่ 1
       ก็เพราะภาครัฐเข้ามาดูแลน่ะซิครับ ปืนมันถึงได้แพงหูดับตับไหม้แบบนี้ เป็นนโยบายชัดเจนที่รัฐพยายามจะควบคุม"ปริมาณ"ของอาวุธปืนในมือประชาชน ไม่ใช่ควบคุม"ราคา"ซื้อขายนี่ครับ
เหมือนควบคุมบุหรี่ไงล่ะครับ จะห้ามคนไม่ให้สูบบุหรี่มันก็เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน(ในการฆ่าตัวตาย)ตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ก็ใช้วิธีขึ้นภาษีบุหรี่ให้แพงๆเข้าไว้คนจะได้สูบน้อยลง แต่ถ้ายังอยากสูบเข้าไปอีก รัฐก็ได้เงินภาษีมากขึ้น ยิงทีเดียวได้นกสองตัวเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เลิกจำกัดโควต้าปืนรับรองครับว่าถูกโคตร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       อย่าซื้อครับ....เมื่อปืนมีมากไม่มีคนซื้อราคาก็ต้องลดเอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       คนสูบบุหรี่ ตามหลักการแล้ว ควร งดให้ได้รับการรับสิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ ประกันสังคม ในโรคที่คุณเป็นเนื่องจากบุหรี่

คนที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินปริมาณที่กำหนด ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ก็ควรงดใช้สิทธิพวกนี้เช่นกัน สำหรับการรักษา
(ในกรณีที่คนเมาเป็นฝ่ายผิด หรือ เมาแล้วพลาดเอง)

ส่วนปืน การจะได้ปืนมาครอบครอง ควรมีการสอบทั้งทฤษฎีและปฎิบัติ รวมถึง จิตวิทยาต่างๆด้วย
ก่อนที่จะให้อนุญาติให้ซื้อปืนไปครอบครอง
ไม่ใช่ว่ามีเงินก็ซื้อได้
เหตุผลคือไว้ป้องกันตัว แต่มีกันเป็นโหล ฟังแล้วไม่เข้าท่า
คนคนเดียวไม่ควรให้ครอบครองเกิน 2 กระบอก
สั้น 1 ยาว 1

บางท่านก็อ้างอีกว่า มีสวนมีไร่หลายแห่ง ต้องเอาไว้เฝ้าแต่ละแห่ง
แบบนี้ก็ต้องเพิ่มโทษการพกพา นำพา อาวุธ ปืนออกนอกเคหะสถาน เอาแบบโทษหนักๆ

ไม่ใช่ว่าเคลื่อนย้ายไม่ได้ แต่ถ้าจะทำต้องขออนุญาติก่อน
มีเอกสารจากทางราชการ เอาไปซ่อม เอาไปขาย อะไรก็ว่าไป

อ้าว นอกเรื่องซะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ถ้ามี พกพา และทำปืนได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และload กระสุนได้เอง ราคาถูกแน่ๆครับ กฎหมายปัจจุบันมันห่วยแตก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ราคาปืนไม่มีการควบคุมหรอกครับร้ายปืนตั้งเอาเองตามใจชอบ/ราคาถูกหรือแพงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ผมว่าเรื่องการมีปืนไว้ในครอบครองกันเป็นสิบๆกระบอกมันก็มีเหตุมีผลในตัวของมันเองนะครับ การจำกัดให้ประชาชนทุกคนมีปืนได้ไม่เกินสองกระบอกมันกลับดูเป็นเหตุผลที่ตื้นเขินเกินไปซะด้วยซ้ำ การจะมีปืนได้หรือไม่ได้ มีไว้กี่กระบอกมันต้องดูที่"คุณสมบัติของคน"นะครับ ไม่ใช่ดูที่"ปริมาณของปืน"
คนที่มี"คุณสมบัติครบถ้วน" ก็ควรให้สิทธิเค้าในการครอบครองปืนได้ตามความต้องการและความสามารถของคนๆนั้น ก็เหมือนกับการมีรถยนต์นั่นแหละครับ ถ้าขับเป็นมีกำลังทรัพย์พอเพียง มีสถานที่จอดพอ จะมีซักสี่สิบ-ห้าสิบคันมันก็คงไม่หนักหัวชาวบ้าน เพราะยังไงๆ เค้าก็ขับออกมาได้ทีละคันเดียว ปืนมีกี่สิบกระบอก เอามาใช้ก็ได้ทีละกระบอกนี่ครับ ไม่ได้ขนออกมาใช้ทีละสิบกระบอกซะเมื่อไหร่
แต่ถ้ามีแล้วทำผิดกฎหมายก็ต้องริบหรือห้ามมีอาวุธในครอบครองไปเลย แบบนี้ถึงจะถูกต้องนะครับ ไม่ใช่เอะอะก็ห้ามไว้ก่อน
แต่ไอ้ที่ไม่ห้าม แถมให้ใช้ตามอำนาจ หน้าที่ โดยไม่ได้อบรมให้มีจิตสำนึกเพียงพอนี่น่ากลัวกว่าเยอะนะครับ
สรุปว่า"ปืน"เป็นแค่เครื่องมือชนิดหนึ่งเท่านั้น จะควบคุมต้องควบคุมที่คุณสมบัติของคนครับ ไม่ใช่ควบคุมที่ปริมาณปืน
ถ้าจะว่าไป รถยนต์ทั้งหลายที่วิ่งบนท้องถนนนี่เป็นอุปกรณ์ที่คร่าชีวิตคนต่อปีมากกว่าปืนหลายสิบเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าเทศกาล แต่ไม่ว่าใครก็ไม่เห็นจะกลัวรถยนต์เหมือนกลัวปืนเลยนะครับแถมไม่เคยจำกัดปริมาณรถว่าใครจะมีในครอบครองได้ไม่เกินกี่คัน คนที่ขับรถแต่ละคน ก็มีคุณสมบัติที่ขาดๆเกินๆ มีทั้งเด็กวัยรุ่นขับซิ่ง/เมา สาวๆที่ชอบแต่งหน้า-คุยโทรศัพท์ระหว่างขับรถ คนที่ไม่ยอมขับเลนซ้ายทั้งๆที่วิ่งแค่40-50 กิโล/ชม.เพราะกลัวเสียศักดิ์ศรี หนุ่มห้าวที่ไม่เคยยอมให้ใครขับแซงได้ฯลฯ ไม่มีใครเคยจำกัดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนเพราะเหตุนี้บ้างเลย จริงไหมครับ? เพราะมันไม่ได้ผิดที่ปริมาณรถ แต่มันผิดที่คุณสมบัติของคนขับมากกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ถ้าหากคุณสมบัติท่านสมีเฒ่าไม่ครบ ท่านก็ต้องแบ่งปืนมาให้ผมแล้วละครับ ก็ท่านมีหลายอยู่...ผมขอมีดเป็นของแถมด้วยเลยนะครับ เห็นด้วยครับท่านสมีเฒ่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ผมเข้าใจเรื่อง คนดีๆที่ครอบครองเยอะๆคงไม่มีปัญหา

เรื่องการนำมาใช้ผิดกฎหมาย

คนที่มีครอบครองเยอะ ส่วนหนึ่ง ก็เป็นพวกรักปืน สะสมปืน

ผมไม่เคยว่าคนพวกนี้ไม่ดี

แต่ผมกำลังบอกว่า กฎหมายไทยมันไม่ดี

บอกแล้วไงครับว่า มันขัดแย้ง หลายจุดหลายด้าน

คนที่มีคุณสมบัติครบ ในความหมายปัจจุบันคือ คนมีเงิน
(คงไม่มีใครกล้าปฎิเสธ)

คุณสมบัติครบ ยังรวมไปถึงการยัดเงิน จนท ด้วย
(อันนี้ก็คงปฎิเสธกันยาก)

ย้ำอีกครั้ง ผมไม่ได้บอกว่า คนเหล่านี้ไม่ดี

แต่ถ้าจุดเริ่มไม่ดี โอกาสที่จะทำไม่ดีก็มีสูง


คุณว่า คนที่ขับรถบนท้องถนนทุกวันนี้ มีกี่ % ที่ทำตามกฎจราจร มีกี่คนที่เข้าใจกฎหมายจราจรอย่างถ่องแท้

สอบใบขับขี่บ้านเมืองเรา มันง่ายซะยิ่งกว่าอะไร

กากบาท 20 ข้อ ขับรถวนๆในสนาม ก็เสร็จแล้ว ทำผิดก็ยัดเงิน

คุณภาพที่มีคืออะไรครับ ผลลัพธ์ที่ได้คือ มีรถขับเพื่อให้เกิดปัญหาจราจร

ข้อสอบปฎิบัตของใบขับขี่มอเตอร์ไซด์บ้านเรา ยังมีการให้คนที่จะเลี้ยวซ้ายหรือขวาต้องยื่นมือออกมาโบกขึ้นๆลงๆ

คิดดูสิครับ มันขัดแย้งกับความเป็นจริงแค่ไหน

จะเลี้ยวก็เปิดไฟเลี้ยวสิครับ ผมก็ งง กับระบบราชการไทยอยู่ไม่น้อย


คนไทย เบื่อหาบเล่ แผงลอย ถนนหนทางสกปรก

แต่จะมีสักกี่คนที่คิดว่า ถ้าไม่ซื้อของไอ้คนพวกเห็นแก่ตัวเหล่านี้

ช่วยกันคนละไม้ละมือ หยุดซื้อ หยุดมักง่ายตามพวกมัน มันก็คงไม่มาทำผิดกฎหมาย โดยการเบียดบัง ทางเท้าคนที่เสียภาษี

ยิ่งซื้อ ก็เหมือนยิ่งส่งเสริมให้คนทำผิดกฎหมาย

หลายเรื่องหลายอย่างคงต้องช่วยกันหาทางแก้ไข

มีปืนมากแล้ว เหลือใช้แล้ว ก็หยุดซื้อ เปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีได้ซื้อหาบ้าง
(แค่ 1 idea ครับ ไม่ได้ว่าหรือไปรบกวนสิทธิใคร)

ความต้องการลดลง ราคาก็ลดตาม

เรื่องปั่นราคา มีทุกวงการ ใครบ้างค้าขายไม่อยากเอากำไร

ยิ่งมีเรื่องโควต้าเข้ามาเกี่ยวข้อง

เราแก้จุดนี้ไม่ได้ ก็แก้กันจุดอื่น

สรุป เห็นใจคนดีๆที่อยากมีไว้กระบอกแรก แต่ต้องแย่งกับคนที่มีไว้ครอบครองเหลือใช้แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       อา......พระเจ้า..จอร์จ ประเทืองปัญญาแท้แล้ว เป็นการใช้เหตุผลมาหักล้างกันอย่างผู้เจริญแล้ว ไม่ใช่เถียงกันแบบข้างๆคูๆ ช่วยกันแสดงความคิดเห็น แบ่งปันความรู้ ช่วยกันหาข้อสรุป แบบนี้วงการปืนบ้านเราพัฒนาแน่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       อา......พระเจ้า..จอร์จ ประเทืองปัญญาแท้แล้ว เป็นการใช้เหตุผลมาหักล้างกันอย่างผู้เจริญแล้ว ไม่ใช่เถียงกันแบบข้างๆคูๆ ช่วยกันแสดงความคิดเห็น แบ่งปันความรู้ ช่วยกันหาข้อสรุป แบบนี้วงการปืนบ้านเราพัฒนาแน่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       โถ..พ่อคุณ พูดมาตั้งนานที่แท้กลัวพวกผมไปแย่งซื้อปืน เลยทำให้ปืนแพง?????
คุณคิดว่าจะมีคนแบบที่เงินเหลือใช้แล้วนิยมชมชอบปืนมากมายในเมืองไทยนักหรือครับ ถึงทำให้ปืนมีราคาแพงเพราะพวกนี้ คิดผิดคิดใหม่ได้นา
คนประเภทคลั่งปืนแถมมีเงินเหลือใช้ในประเทศไทยนี่ ผมว่ามีไม่เกิน 0.1 % ของจำนวนประชากรในประเทศเรา แถมพวกนี้ถ้าจะซื้อก็ไม่ซื้อปืนธรรมดาๆที่ชาวบ้านเค้าซื้อหากัน มันต้องสั่งซื้อไอ้ประเภทแปลกๆ แพงๆ ลูกหายากๆมันถึงจะเท่ห์ คนพวกนี้ไม่ผลกระทบกับราคาปืนธรรมดาๆในท้องตลาดขณะนี้หรอกครับ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นปืนมันต้องแพงแบบไม่สมเหตุสมผลมาตั้งนานแล้ว เนื่องจากคนเหล่านี้เป็นลูกค้าประจำของร้านปืน ซื้อกันมานมนานแล้ว ไม่ใช่เค้าเพิ่งจะมาซื้อปืนเอาตอนนี้ซะเมื่อไหร่กันล่ะ
ในความเป็นจริง ที่แห่กันจอง แห่กันซื้อจนปืนขาดตลาดและมีราคาแพงอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นพวกที่ไม่เคยมีปืนเป็นของตัวเองเลยซักกระบอกแบบพวกคุณซะมากกว่า แห่กันมาก็เพราะสถานะการณ์ภาคใต้เป็นเหตุ เลยมีการเปิดโครงการปืนสวัสดิการกันเป็นทิวแถว
ถ้าเคยติดตามสถานะการณ์ของร้านค้าปืนเมื่อสองปีก่อน ตอนทางการห้ามประชาชนมีปืนเกินคนละสองกระบอก ร้านค้าปืนตอนนั้นหันไปขายบะหมี่กับผัดไทยกันเป็นแถว เพราะลูกค้าประจำอย่างพวกผมขออนุญาติซื้อปืนไม่ได้ ปืนแทบขายไม่ออกในแต่ละเดือนทั้งๆที่ราคาไม่ขยับขึ้นเลย
แต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่เปิดโอกาสให้คนไม่เคยมีปืนได้สั่งซื้อปืนได้ง่ายๆ มีทั้งเงินให้กู้ มีทั้งให้ผ่อน ปืนขายเกลี้ยงหมดร้านต้องสั่งจองล่วงหน้า ทั้งครู ทั้งข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการกรมการปกครอง ประชาชนแถบจังหวัดภาคใต้ มีมือใหม่อยากได้ปืนเป็นแสนๆคน พวกมือเก่าแบบผมผมได้แต่นั่งดูตาปริบๆไม่มีโอกาสจะเข้าไปรับสิทธิประโยชน์ซื้อปืนแบบพวกมือใหม่กะเค้าหรอกครับ
กระบอกสุดท้ายนี่ก็ไปขอโอนมาจากญาติพี่น้อง ไม่ได้ไปแย่งซื้อเอาจากใคร กว่าจะได้รับใบทะเบียนมาก็ปาเข้าไป 7 เดือน แบบนี้ยังจะมากล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุให้ปืนแพงอีกหรือไง..พ่อคุณ พวกคุณนั่นแหละตัวดี ทำเอาพวกผมป่นปี้ไปด้วย...ฮึ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ขอคารวะท่านสมีเฒ่า...และโหวตให้หนึ่งเสียง...เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       เออ......อืมห์

ผมยังไม่ได้พูดบอกว่า กลัวคนรวยแย่งซื้อปืนนะครับ

และผมไม่ได้หมายความอย่างที่คุณเข้าใจ

คือ ผมไปว่าพวกคุณแย่งซื้อปืน

ลองไปอ่าน ดีๆครับ ไม่ต้องร้อนตัว

แล้วใช้คำพูดเชิงกระแนะกระแหน หรือ เสียดสี

ไปอ่านดูดีๆครับ ผมบอกว่าผิดที่ระบบ

ผมบอกแล้วว่าการที่คนมีเยอะแล้วซื้ออีก มันก็แค่ส่วนหนึ่ง
ของระบบ ที่ไม่ดี ที่รัฐไม่แก้ไข

ในเมื่อกฎหมายมันให้คุณทำได้ ก็ทำไปเถอะครับ สิทธิของคุณ

ซึ่งถ้าในระบบมันไม่มีทางแก้ไข เราๆท่านๆที่มีปืนอยู่แล้ว ก็แค่หยุดซื้อ เพื่อให้ ความต้องการมันลดลงบ้าง
ให้โอกาสคนที่ต้องการไว้ใช้ป้องกันตัวจริงๆ

จะมากจะน้อย ผมไม่รู้ ไม่สนใจ ขอแค่เป็นจุดเริ่มต้นก็พอ

ราคามันจะลงไม่ลงไม่รู้ หรือว่ามันไม่อาจทำให้ราคาลดลง แต่ถ้าเราหยุด เราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ช่วยแก้ไขได้ส่วนหนึ่ง

เหมือน ตัวอย่าง หาบเล่แผงลอย ถ้าท่านสอนลูกสอนหลานไม่ให้ซื้อ ต่อไปมันก็ไม่มี แต่เราๆท่านๆเคยสอนลูกหลานกันหรือเปล่า

เห็นพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยมักง่าย ก็ง่ายตาม ขายง่ายก็ซื้อกันง่าย

แล้วเรื่องปืนเรื่องอะไร คุณจะบ้าจะคลั่ง มันก็เรื่องของคุณ

ก็บอกแล้ว ไม่มีใครห้ามได้ ในเมื่อกฎหมายมันเป็นแบบนั้น

กากบาท 20 ข้อ ขับรถวนๆในสนาม ได้ใบขับขี่

ออกมาขับไร้มารยาท ทำผิดกฎจราจรกันเยอะแยะ เจอจับก็ยัดเงิน

คุณจะทำมันก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ

กฎหมายพวกนี้ มันกฎหมายเทคนิค(คงเข้าใจเรื่องกฎหมายเทคนิคนะครับ)

ที่ว่ามา คงเข้าใจความหมายผมนะครับ

(โทษทีนะครับ บางคำใช้คำรุนแรงนิดหน่อย พอดีอ่านข้อความเชิงเสียดสีแล้วไม่ค่อยสบายใจ 555 เลยมีกลับไปบ้าง)

ไม่ซีเรียสกันนะครับ แสดงความคิดเห็น พัฒนาสมอง


**ผมไม่ได้ดูถูกอาชีพพ่อค้าแม่ค้า หาบเล่แผงลอยนะครับ
เขาก็ทำอาชีพที่สุจริต แค่ ผิดกฎเกณฑ์บางอย่างเท่านั้นเอง
เดี๋ยวจะเข้ามาอ่านแล้วจะตีความ เข้าใจผิดกันอีก
บ้านผมก็เริ่มจากอาชีพค้าขายในตลาดสดเหมือนกัน
ผมก็แค่ยกตัวอย่างในเรื่องที่รัฐไม่สามารถแก้ไขได้
แต่เราๆท่านๆแก้ไขได้ด้วยตัวเราเอง
ยกตัวอย่างเรื่องนี้เห็นภาพชัดดี**

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       เรื่องปืนนี่ นานาจิตตังครับ ใครไม่ชอบก็อย่าไปสนใจเขาเลยครับ เราชอบของเรานิ น้าสมีเฒ่าแบ่งลูกซองกระบอกดิ ไอ้ปีกผีเสื้อกระบอกบนน่ะ ผมเล่นปืนมา 20 ปี เห็นกระบอกนี้เป็นกระบอกที่ 2 เอง อยากได้ อยากได้ นะพี่แหยมขา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ถ้าคิดว่าเป็นการกระแนะกระแหนก็ต้องขอโทษด้วยล่ะครับ แต่อ่านแล้วจะให้คิดเป็นอย่างอื่นมันก็คงจะลำบากนะครับ ไอ้ประโยคที่ว่า "เห็นใจคนดีๆที่อยากมีปืนกระบอกแรก แต่ต้องแย่งกับคนที่มีไว้ครอบครองเหลือใช้แล้ว" พูดยังกับว่าคนที่มีปืนมากกว่า 2 กระบอกเป็นคนไม่ดีไปซะอย่างงั้น แต่เอาเป็นว่าผมเข้าใจผิดและขอโทษด้วยก็แล้วกัน
แต่เรื่องที่ว่าระบบหรือกฎหมายมันผิดหลักการที่ปล่อยให้คนซื้อได้ซื้อเอาโดยไม่จำกัดจำนวนนั่นน่ะ แถมยังเอาเปรียบเทียบกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่างการขายของตามทางเท้า หรือการขับรถผิดกฎจราจร มันก็คงไม่น่าจะเป็นการยกตัวอย่างที่ถูกต้องนักนะครับ ถึงผมจะไม่มีความรู้ด้านกฎหมายมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายเทคนิก เทคโน อย่างที่คุณว่ามา (ความจริงผมว่า ทั่นนายกฯพูดถึง ปัญหาทางเทคนิกในข้อกฎหมายมากกว่านะ ม่ายช่าย ปัญหาทางกฎหมายเทคนิก?)
การมีปืนมากกว่าสองกระบอก ผมยืนยันว่าผู้ที่ร่างกฎหมายก็เห็นว่ามันไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่เหมือนกับตัวอย่างที่คุณยกมา เพราะนั่นมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ถูกละเลยไม่กวดขัดจับกุมตามกฎหมาย และการมีปืนมากกว่าสองกระบอกก็ไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้นเป็นคนไม่ดี และคนไม่มีปืนหรือมีปืนแค่สองกระบอก จะเป็นคนดีกว่าคนมีปืนมาก จริงไหมครับ
คือคุณอาจจะมีวัตถุประสงค์ในการซื้อปืนเพื่อป้องกันทรัพย์สินหรือป้องกันตัวอย่างเดียว แต่คนที่เค้ามีปืนหลายๆกระบอก ก็เพื่อสนองวัตถุประสงค์หลายหลากซึ่งปืนแต่ละกระบอกมันไม่สามารถครอบคลุมได้หมดในกระบอกเดียวหรอกครับ เช่นการกีฬาแต่ละประเภทก็ต้องใช้ปืนที่เหมาะสมกับกติกาเหล่านั้น คนที่เป็นนักกีฬาแบบผมอาจต้องแข่งขันหลายประเภท ยกตัวอย่าง
แข่งขันปืนลมมีทั้ง ปืนสั้น-ปืนยาว ปืนอัดแก๊ส ปืนสปริง ปืนถังลม ปืนปั๊มลม
แข่งขันปืนสั้นชนวนกลาง มีทั้งปืนลูกโม่ ปืนเซ-มิออโต ขนาดคาลิเบอร์ .32 .38 .38ซุปเปอร์ .45
ปืนยาวขนาด .22 มีทั้งแบบลูกเลื่อน/เซมิออโต/ ปั๊มแอคชั่น/คานเหวี่ยง/แบบติดกล้องจุดแดงได้เพื่อยิงเร็วแบบรณยุทธ หรือติดกล้องขยายเพื่อยิงแบบพาดแท่น หรือห้ามติดกล้องให้ใช้ศูนย์เปิดอย่างเดียวฯลฯ
ปืนยิงเป้าบิน มีทั้งแฝดซ้อน แฝดขนาด เซมิออโต เดี่ยว
ที่ยกตัวอย่างมานี่เฉพาะเพื่อการกีฬาเท่านั้นนะครับ และนักกีฬาแต่ละคนไม่ใช่มีอุปกรณ์กีฬาคนละชิ้นสองชิ้นซะเมื่อไหร่ ดูอย่างนักเทนนิส/นักแบดมินตัน ยังมีไม้คนละ7-8 อัน นักฟุตบอลมีรองเท้าสตั๊ดคนละสี่-ห้าคู่ และทุกคนก็ใฝ่หาอุปกรณ์ใหม่ๆ เทคโนโลยี่ที่ทันสมัยดีๆ มาเสริมอยู่ตลอดเวลาล่ะครับ ใครจะไปทนใช้ของเก่าแก่ซ้ำซาก เทคโนโลยี่ล้าสมัย ถ้าแบบนั้นก็แพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้วล่ะครับ
ปืนที่ใช้ป้องกันตัวก็เหมือนกัน กระบอกเดียวมันก็ใช้ได้เฉพาะกิจ เฉพาะเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมบางอย่างเท่านั้น ถ้าจะพกซ่อนก็ต้องกระบอกเล็กๆ แบนๆ แต่ยิงในระยะไกลๆไม่ค่อยแม่นยำ ถ้าเอากระบอกใหญ่ๆแม่นยำก็พกยากไม่คล่องตัว จะเอาปืนลูกโม่ก็ดีเพราะขัดข้องน้อยยิงลูกแรงๆได้และไม่ค่อยเลือกลูก แต่บรรจุกระสุนได้น้อย จะเอาปืนเซมิ-ออโต บรรจุกระสุนได้ทีเดียว15-46 นัดก็ต้องเลือกกระสุนที่ขัดลำยาก และแม่นสู้ลูกโม่ไม่ได้ถ้าไม่แต่ง ปืนยาวจะเอาลูกกรดเฝ้าบ้านดี ล่าสัตว์เล็กๆก็ได้ หรือจะเอาลูกซองยาวหนักแน่นดีแต่ยิงได้ไม่บ่อยและ ลูกแพงกว่า หรือจะเอาแบบหักลำหรือปั๊ม หรือ เซมิออโต เลือกไม่ถูกเพราะดีคนละอย่าง ถ้ามีปัญญามีได้มันก็ต้องเอาให้ครบทุกสถานะการณ์ที่เราอาจต้องเจอล่ะครับ คือใช้อุปกรณ์ให้มันถูกกับสถานะการณ์มันก็ดีกว่าต้องทู่ซี้ใช้ของเท่าที่มีไปเพราะถูกบังคับให้มีเท่านี้
ดูตัวอย่างทหารหน่วยรบซิครับ มีทั้งปืนไรเฟิลซุ่มยิงระยะไกล ไรเฟิลจู่โจม ปืนกลเบา ปืนกลหนัก จรวดพาดยิง ระเบิดมือ ปืนลูกซอง ปืนครก ปืนใหญ่ จรวดขีปนาวุธ รถถัง เครื่องบิน เรือรบ เรือดำน้ำ มีกันเข้าไปเพราะอาวุธแต่ละชนิดมันก็มีขีดจำกัดในการสนองตอบวัตถุประสงค์ทั้งนั้น ไม่มีอาวุธใดๆที่จะครบเครื่องในตัวของมันเองหรอกครับ
ปืนมันก็เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งครับ อย่ามองว่ามันเป็นอาวุธเพียงอย่างเดียว เหมือนรถไงครับ มันมีทั้งรถจักรยานปั่น จักรยานยนต์ สกู๊ตเตอร์ รถปิคอัฟ รถโฟว์วีลล์ รถจี๊พ รถตู้ รถสปอร์ต รถเก๋งซีดานสี่ประตู รถบรรทุกหกล้อ-สิบล้อ รถบัส ถ้ามีกฎหมายบังคับให้คนมีรถได้ไม่เกินสองคัน แถมห้ามใช้นอกวัตถุประสงค์ตามที่ขออย่างปืนล่ะก็คงปวดหัวตายเลย เช่น ถ้ามีรถปิคอัฟเพื่อใช้บรรทุกของ ห้ามเอามาใช้ขับไปเที่ยว/ทำธุระ ห้ามใช้บรรทุกคน ถ้ามีรถเก๋งก็ห้ามเอามาบรรทุกของที่ซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ตในห้างอะไรแบบนี้ คงเป็นกฎหมายบ้องตื้นนะครับ
แต่ปืนตอนนี้ต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในใบทะเบียน ป.4 เช่น ใช้เพื่อการกีฬาเท่านั้น ถ้าคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านคุณจะใช้ปืนกระบอกนั้นยิงคนร้ายไม่ได้ ถือว่าทำผิดวัตถุประสงค์ที่ขออนุญาต คุณต้องเลือกหยิบปืนที่ใบอนุญาตระบุว่าให้มีไว้เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินเอามายิงคนร้ายเท่านั้นครับ เป็นไง กฎหมายเทคนิกเจ๋งจริงๆนะ ว่ามะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       ว่าแต่ท่านสมีเฒ่ามีคนรับมรดกยังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       จะมีปืนมาก ปืนน้อย คนล่ะกี่กระบอก เวลายิงจริงๆ 2 มืออย่างมากก็ไม่เกินจำนวนมือเราหรอกครับ ไม่ว่าจะลูกซองปั๊มหรือลูกเลื่อน นึกภาพแล้วคงทุลักทุเลน่าดู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       การที่มีปืนหลายกระบอกขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ บางกระบอกเข้าสนามได้อย่างเดียว เพื่อแข่งขันบางกระบอกพกพาเพื่อการทำงานในชีวิตประจำวัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างครับโดยเฉพาะ เงินไม่ขอเถียงครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       พอจะหามาได้ ก็ลอง .

เรื่องราคา ลึก ๆ คงมีอะไรกัน

ป. 4 ออกที่ไหน....?

แสดงความคิดเห็นย่อย