คำตอบที่ 1
       กระสุน Hydra shok ในขนาด 9 มม. พาราฯ
หัวกระสุนหนัก 124 เกรน ความแรงระดับ +P+
ยิงจากปืนลำกล้อง 4 นิ้ว
ให้ความเร็ว ณ ปากลำกล้องที่ 1,170 ฟุต/วินาที
ให้พลังงาน ณ ปากลำกล้องที่ 375 ฟุต/ปอนด์

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ส่วนกระสุนแบบ Hi-shok Jacket Hollow Point
ในขนาด 9 มม. พาราฯ
หัวกระสุนหนัก 115 เกรน ความแรงระดับ +P+
ยิงจากปืนลำกล้อง 4 นิ้ว เช่นกัน
ให้ความเร็ว ณ ปากลำกล้องที่ 1,300 ฟุต/วินาที
ให้พลังงาน ณ ปากลำกล้องที่ 430 ฟุต/ปอนด์


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ส่วนกระสุนแบบ Glaser (JHP) ในขนาด 9 มม. พาราฯ
หัวกระสุนหนัก 115 เกรน ความแรงระดับ +P เท่านั้น
ยิงจากปืนลำกล้องยาว 4 นิ้ว เท่ากัน
ให้ความเร็ว ณ ปากลำกล้องที่ 1,350 ฟุต/วินาที
ให้พลังงาน ณ ปากลำกล้องถึง 466 ฟุต/ปอนด์


ต้องเรียนสอบถามก่อนว่า
คำว่า "แรง" นั้น หมายถึงอะไรครับ ที่ "แรง"

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ในภาพเป็นการจำลอง...
อำนาจการเปลี่ยนรูปของหัวกระสุน Glaser
เมื่อกระทบต่อแท่งเจลาติน ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ในภาพนี้เป็นของ Hydra shok ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ส่วนคำว่า Hydra shok และ Hi-Shok JHP นั้น
แตกต่างกันอย่างไร...

ผมขออนุญาตเรียนให้ทราบ ว่า...

ก่อนอื่น...เรามองไปที่คำศัพท์ที่ใช้เรียกกระสุนนั้น ๆ ก่อน ครับ
คำว่า Hydra แปลว่า สัตว์ประหลาดในเทพนิยายที่ตัวเป็นงูมีหลายหัว
ส่วนคำว่า Hi มาจากคำว่า High ถ้าเป็นคำคุณศัพท์ เราจะแปลว่า อย่างแรง หรือ อย่างเต็มที่

มาที่...คำว่า shok มาจากคำว่า shock
แปลว่า การกระทบกระแทกอย่างกะทันหัน

__________________________________________


ดังนั้น ถ้าท่านสงสัยว่าหัวกระสุนแบบ Hydra shok แตกต่างกับ Hi-shok อย่างไร

ก่อนอื่นไปดูที่ JHP หรือ Jacket Hollow Point กันครับ

Hydra shok มีแกนแข็ง...ตรงกลาง (ดังภาพในข้างต้น)
ส่วน Hi-shok นั้น เป็นกระสุนหัวรูเฉย ๆ ไม่มีแกนแข็งอยู่ตรง

แกนแข็ง..นี้ มีไว้เพื่ออะไร
มีไว้เพื่อรักษารูปทรงของหัวกระสุนแบบ หัวรู
ที่ทำมาจากวัสดุนิ่ม...ไม่ให้เสียรูปทรงในทันที่ที่หัวกระสุนกระทบกับเป้าหมาย...
โดยผู้ผลิตมีความต้องการให้กระสุน
ทำการทะลุทะลวง...พื้นผิวของเป้าหมายเข้าไปภายในก่อน
จากนั้น...หัวกระสุนถึงจะเสียรูปทรงเดิม...
ด้วยความเร็ว...และจากแรงต้านในพื้นผิวของเป้าหมายเอง


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ที่นี้ เรามาดูกันที่ "จุดเด่น" ของกระสุนขนาด 9 มม. พาราฯ กันก่อน ครับ

จุดเด่นของกระสุน caliber นี้...
มิได้อยู่ที่ว่า "โป้งจอด โป้งทรุด"
แต่อยู่ที่ว่า ในนำหนักเท่ากัน ในปริมาตรที่เท่ากัน
กระสุน 9 มม. พาราฯ สามารถขนไปได้มากกว่า สามารถบรรจุในแม็กกาซีนได้มากกว่า

ดังนั้น...การใช้กระสุน caliber นี้...
ในลักษณะการใช้งานในชีวิตประจำวัน...
ทั้งที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ไม่เสี่ยง...
(พื้นที่นะครับ ที่มีความเสี่ยงภัย มิใช่มีความเสี่ยงในการที่จะต้องใช้งาน ที่จะต้องเผชิญเหตุ ค่อนข้างสูง)



ตามความเห็นของผม
(ของผมคนเดียวนะครับ ท่านคลำเป็นก้อน ๆ ไม่เกี่ยว)

อยู่ที่ผู้ใช้งานสามารถทำการ "ซ้ำ" ได้อย่างรวดเร็ว
มากกว่าที่จะยิงนัดเดียว..
เพราะเราขนกระสุนไปตั้งมากมาย...มากกว่า 10 นัดแหละ
ใช้งานจริง....แค่นัดเดียว...
ดูก็จะเป็นการขี้เหนียวไปหน่อย..นะครับ

แถมที่แน่ ๆ ยังไม่แน่ใจเลยว่า
ไอ้นัดเดียวที่ลั่นออกไปนะ มันถูกเป้าหมายหรือเปล่า

การใช้กระสุนที่มีพลังงานสะสมในหัวกระสุนที่สูง
อย่างกระสุนในขนาด 9 มม. พาราฯ ที่มีหน้าตัดของหัวกระสุนที่ค่อนข้างแคบ นั้น
โดยธรรมชาติแล้ว...กระสุนที่มีหน้าตัดแคบ ย่อมที่จะมีอำนาจทะลุทะลวงสูงกว่าหัวกระสุนที่มีหน้าตัดกว้างกว่าอยู่แล้ว

แถมเมื่อเร่งความเร็วของหัวกระสุนเพิ่มขึ้นไปจากเดิมอีก...
แรงดันในรังเพลิงก็ย่อมสูงขึ้น...กว่าเดิม
รีคอล์ยหรือแรงต้านจากปืนก็ย่อมมีมากกว่าเดิม...
สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทำให้ควบคุมปืนในขณะยิงได้ยากขึ้น
ส่งผลให้ทำการ "ซ้ำ" ได้ยากขึ้น ตามมา...เป็นผลต่อเนื่อง

ยังไม่นับถึง ราคา...
ยังไม่นับถึง ปืนโทรม
ยังไม่นับถึง...การซ้อมยิง อีก...


และถ้าสมมุติว่า...พลังงานในหัวกระสุนหน้าตัดแคบ ๆ ของเราอยู่ที่ 100 ฟุต/ปอนด์
เมื่อกระสุน...กระทบเป้าหมายบาง ๆ
โอกาสที่จะทะลุเป้าหมาย นั้น ก็ย่อมมีสูง
เมื่อหัวกระสุน ทะลุเป้าหมาย...นั้นก็หมายความว่า...
พลังงานยัง..คงมีเหลือ...อยู่ในหัวกระสุนที่ทะลุไป นั่นเอง...


เป้าหมาย...มีหัวกระสุนขนาด .45ACP
อยู่ในตัว 1 นัด
กับเป้าหมายที่มีหัวกระสุนขนาด 9 มม. พาราฯ
อยู่ในตัว 2 นัด

ถ้าเป็นบริเวณเดียวกัน...
ผมว่า ผลไม่แตกต่างกันมากหรอกครับ...

เว้นแต่...ต่อให้กระสุนขนาด .44 แม็กนั่ม
เฉี่ยวติ่งหูไป...ก็เท่านั้น ไม่มีความหมายอะไร...

อย่าลืมนะครับ...
ในเวลาที่ใช้งาน...เราบอกไม่ได้ว่า...
เราจะมีโอกาสใช้งานหรือทำการยิงกระสุนที่มีแรงดันสูง ๆ
ด้วยมือข้างเดียว...หรือมือทั้งสองข้าง
ยังไม่นับว่า เราจะอยู่ท่าไหน ทางไหนอีก

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ความเห็น...ที่ผม post ถ้าจะเรียกว่า...
ไม่สามารถอ้างอิงได้...ก็คงจะไม่ได้...
เพียงแต่การอ้างอิงนั้น นอกจาก spec ของกระสุนแล้ว...
เป็นการอ้างอิงด้วยหลักการง่าย ๆ ที่เราสามารถเรียนรู้ได้เองอยู่แล้ว

ผมต้องขอเรียนตรง ๆ ว่า...
บางครั้ง...เราเพียงแต่คาดไม่ถึง...มากกว่า



การใช้งาน...ในชีวิตประจำวันของอาวุธปืน นั้น
ความง่ายในการที่จะใช้ และความยากในการที่จะใช้
มันแตกต่างกันที่ "การเขียนตัวอักษร" เท่านั้น
แต่จริง ๆ แล้ว...มันมีทั้งยากและง่าย อยู่ในตัวมัน นั่นเอง...
เราทำให้มันง่าย...มันก็ง่าย
เราทำให้มันยาก...มันก็ยาก...




รับรองครับ...ในหนังสือไม่มีแน่ ๆ คริ คริ



จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
จากเรา...ซึมเศร้าฯ ทีม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ส่วนสำหรับคำว่า Hydra shok หรือ Hydra shock นั้น
แตกต่างกันอย่างไร...

คำว่า HYDRA-SHOK นั้น Federal ได้ทำการสงวนลิขสิทธิ์ ® ไว้ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ขอบคุณมาก ๆ ครับ คำที่ว่า "แรง" หมายถึงแรงที่สุดในขนาด 9 มม. แต่ตอนนี้ทราบแล้วครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       อ่านแล้วอ่านอีก ชอบครับสำหรับคำตอบ ราคาเห็นโพสบอกกันอยู่ที่ 120 - 200 บาท ตอนแรกก็คิดจะเอาไว้สักสิบห้านัด(กล๊อก) เจอคำตอบแบบนี้แล้วเปลี่ยนความคิดเลยครับ กะแบบว่าเจอที่เดียวหงายท้องเหมือน .45 ไม่มันก็ไม่ใช่เลย กระสุนขนาดไหนมันมีจุดเด่นของตัวมันเอง ผมขอถามคุณพี่ 51 ที่ครั้ง อยากทราบจุดเด่นของ .22 LR ถ้าผมจะซื้อปืนกระบอกที่สอง กำลังตัดสินใจอยู่ระหว่าง .38 กับ .22 จะเอาแบบพกซ้อน แต่ที่เคยศึกษามาบ้าง(ความรู้อันน้อยนิด) ยังไงลูกโม่ก็เหนือกว่า เพราะรู้สึกว่าใช้กล๊อกอยู่ชักรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเนียน(เอาไว้แต่ในรถ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       คำว่า "แรง" มีความหมายรวมได้หลายลักษณะมากครับ
อาทิ ความรู้สึกของแรงสะบัดของปืนในขณะทำการยิง
ยิงโป้ง....สะดุด ไม่ปืนติด ก็เป้าหมายติด และอื่น ๆ อีกเพียบ

ยังไม่นับว่า...หุ่นบาง ๆ ยิง .357 แล้วบอกว่า "แรง"
หรือหุ่นหนา ๆ ยิง 9 มม. แล้วบอกว่า "ไม่แรง" อีก
หรือแม้แต่...กระสุน caliber เดียวกัน
แต่ลำกล้องสั้นยาวไม่เท่ากัน
ยังมีความรู้สึกว่า "แรง" ไม่เท่ากันเลย...


ลืมมันไปเถิดครับ...
สำหรับคำว่า "แรง" เพราะเรามิได้นำปืนไปไถนาซะหน่อย...คริ คริ
และคำว่า "แรง" ก็มิได้ทำให้เรายิงปืนได้แม่นยำขึ้น...

เหมือนกับนำกล็อค 19 ไปเปรียบกับ...CZ-75 Compact
เทือก ๆ นั้นแหละครับ

ปัญหาโลกแตกครับ...


กระสุนที่มีพลังงานสะสมในหัวกระสุนมากกว่าปกติ
ก็มิได้หมายความว่า จะไถนา ทำสวน ได้มากขนัดกว่ากระสุนชนิดอื่น

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
จากเรา...ซึมเศร้าฯ ทีม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ระหว่าง .38 กับ .22 จะเอาแบบพกซ้อน
---------------------------------------------
ส่วนตัวเลือก .38 ครับอย่างน้อยกระสุนชนวนกลาง
เก็บได้นานน่าเชื่อถื่อว่าชนวนริม อย่าง.22 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       อยากทราบจุดเด่นของ .22 LR
ถ้าผมจะซื้อปืนกระบอกที่สอง
กำลังตัดสินใจอยู่ระหว่าง .38 กับ .22
จะเอาแบบพกซ่อน
แต่ที่เคยศึกษามาบ้าง(ความรู้อันน้อยนิด) ยังไงลูกโม่ก็เหนือกว่า
เพราะรู้สึกว่าใช้กล๊อกอยู่ชักรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเนียน(เอาไว้แต่ในรถ)

__________________________________________


จุดเด่นของกระสุน ขนาด .22 LR
มีเด่น ๆ อยู่อย่างเดียวครับ...คือ กระสุนปกติของ .22 LR มีราคาถูกกว่ากระสุน caliber อื่น
ถ้าจ่ายในราคาที่เท่ากัน...ท่านจะได้รับกระสุน .22 LR
มากนัดกว่า...กระสุน caliber อื่น

และจุดเด่นอีกประการก็คือ...เป็นกระสุนที่มีรีคอล์ยน้อย
เหมาะสำหรับเด็ก ๆ สาว ๆ ในการหัดยิง ครับ
ยิงเป็นร้อยนัด กระเป๋าไม่ฉีก

นี่คือจุดเด่นที่ผมมองเห็นครับ สำหรับกระสุน caliber นี้

______________________________________________




ส่วนในการตัดสินใจ...ระหว่าง .38 Spl และ .22 LR นั้น
ตามความเห็นของผม...ผมเห็นว่า
ถ้าเป็นกรณีปืนพกซ่อน...แหละหรือ back up

.38 Spl จะเอนกประสงค์มากกว่า
เพราะสามารถใช้งานได้ทั้งในลักษณะพกซ่อนและพกหลัก ครับ
รวมถึงราคาของอาวุธปืนใน caliber ทั้ง .38 Spl และ .22 LR
ก็มิได้แตกต่างกันมากมายนัก

_____________________________________________


แต่ที่เคยศึกษามาบ้าง(ความรู้อันน้อยนิด) ยังไงลูกโม่ก็เหนือกว่า


ถ้าท่านเลือกที่ caliber ของกระสุนได้แล้ว...
แบบของปืน revolver หรือ แบบ magazine ตัดไปได้เลยครับ
เพราะปืนใน caliber .38 Spl ในตลาดเมืองไทย
หาแบบ magazine แทบไม่มีเลย...

ไม่มีคำว่าคุ้มค่าหรอกครับ สำหรับอาวุธปืน
เพราะความคุ้มค่าของอาวุธปืน มิได้อยู่ที่ราคา มิได้อยู่ที่อะไรทั้งนั้น
หากอยู่ที่เมื่อเราต้องการใช้งาน อาวุธปืนจะสามารถตอบสนองเราได้ เท่านั้น


______________________________________________

เพราะรู้สึกว่าใช้กล๊อกอยู่ชักรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเนียน
(เอาไว้แต่ในรถ)

กล็อค เป็นปืนที่มีครอบลำเลื่อนค่อนข้างเหลี่ยม...
ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำการขึ้นลำบรรจุกระสุนเข้าในรังเพลิงได้สะดวกขึ้น
ซึ่งแตกต่างจาก CZ ซึ่งมีพื้นที่จับครอบลำเลื่อนน้อยกว่า
(แต่ก็มิได้หมายความว่า CZ สู้กล็อคไม่ได้ และก็มิได้หมายความว่า กล็อคสู้ CZ ไม่ได้นะครับ)

การนำพาแบบพกใน...
ความรู้สึกที่ผู้นำพาได้สัมผัส ก็คือ ครอบลำเลื่อนกับผิวหนัง ภายใต้ขอบกางเกงของตนเอง
เมื่อสัมผัสแล้ว จะมีความรู้สึกว่า อึดอัด...แน่นกว่า CZ
เพราะครอบลำเลื่อนของ CZ บางกว่า กล็อค

แต่จุดที่กล็อคได้เปรียบก็คือ กล็อคไม่มีประกับด้าม
โพลิเมอร์เฟรมของกล็อคไม่เกี่ยวเกาะติดชายเสื้อ...
เฉลี่ยตลอดความหนาของด้ามปืนแล้ว...ด้ามปืนกล็อคมีความหนาน้อยกว่า CZ

การพกพาแบบพกใน...
ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการครับ
มิใช่...มีเพียงซองพกในกับปืนก็นำพาได้โดยสะดวก...


แต่ถ้ามีตัวเลือกเพียง..แค่..
ปืนลูกโม่ .38 Spl Snub Nose และกล็อค 19 แล้ว

กรณีที่มิได้ใส่กระเป๋ากางเกง
ปืนลูกโม่...ย่อมพกพาแบบพกในได้ดีกว่าอยู่แล้ว ครับ
เพราะได้เปรียบทั้งน้ำหนัก ทั้งความสั้นของลำกล้อง
ทั้งระบบลั่นไก
แต่ข้อด้อยของปืนลูกโม่ลำกล้องสั้น...ก็มีอยู่
อาทิ จำนวนกระสุนน้อยกว่า ความแม่นยำน้อยกว่า
การใช้งานในเชิงรุกด้อยกว่า...


ผมขอตอบในปัจจัย...ที่ท่านสอบถามมาเท่านั้นนะครับ
ไม่ขอรวบนำปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย
มิฉะนั้น...การสร้างความเข้าใจ...แก่ผู้สอบถาม จะเกิดขึ้นแบบรวบหัว รวบหาง รวบกลางตลอดตัว ครับ

ไอ้โน่นก็ไม่ดี ไอ้นั่นก็ไม่ได้เรื่อง แบบนี้ดีกว่า แบบนั่นไม่ดี อ่ะครับ


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
จากเรา...ซึมเศร้าฯ ทีม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       เสริมนิดนึง ตะก่อนเที่ยวหามาใช้ ไม่ว่าเป็นไฮดร้า+P +P+ เร 88 เกรน ซิลเวอร์ แบ็คทาลอน (เขียนไม่ถูก)
ไม่รู้ที่ตั้งเยอะ ไปโดนสายสะพายกระเป๋าหนาสุดๆ
แค่สะดุงอย่างเดียว เพิ่งประจักว่า ลูกหัวบอลล์ดีละดี ไม่ค่อยขัดลำ เอาเข้าไว้ก่อน
แล้วค่อยซ้ำ ความเห็นส่วนตัวนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ถูกต้องครับ ปืนออโต้ เน้นการป้อนลูกที่ลื่นไหล ไม่ติดขัด ไว้ก่อน

ติดลูกพิเศษ จำพวก หัวรู ต้องลองยิง ลองป้อนลูกครับ

กระสุนทุกอย่างทุกชนิด ถ้าจะฝากชีวิตไว้ ก็ต้องลองยิงจริง จากปืนที่จะใช้ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       อ่านเจอในหนังสือเรียนวิธีการยิงปืนพกแบบตำรวจด้วยตนเอง เค้าเขียนเปรียบเทียบไว้ระหว่างปืน ออโต้กับลูกโม่ไว้ เห็นข้อเสียเปรียบของออโต้เพียบเลย ถึงว่าพวกที่แก่วิชาเลือกพกลูกโม่อันน้อย ๆ ไว้ติดตัวแทน ยอมรับว่าตอนแรกลำเอียงไปทางออโต้แต่ตอนนี้คงจะเลือกลูกโม่อันน้อย ๆ .38 กำลังดี ไปจับดูแล้ว เอ็ม หกสิบ ที่ร้านอยากได้เลยครับ แต่ยังไม่มีเงิน ขอเก็บเงินก่อน ราคาแพงกว่าปืนพลาสติกอันเก่าอีกขอบอกครับ(เจ็ดหมื่นกว่า)
ตอนแรกที่อ่านดูเห็นเค้าเขียนกันกล๊อก(19)ใช้งานได้หลายอย่างทั้งพกซ่อนทั้งพกแบบเปิดเผยไอ้เราก็ลองพกซ่อนดูพกยังไงมันก็ไม่ซ่อน(ยกเว้นหลอกตัวเอง)นี่แหละครับคือจุดประสงค์ที่ผมต้องหาปืนกระบอกที่สอง แต่ไม่ได้พกติดตัวนะครับจะเอาไว้ในรถเวลาเดินทางไปต่างจังหวัด จะซ่อนตำรวจเท่านั้น กลางคืนขับรถมืด ๆ กลัวเหมือนกัน มีเพื่อนนั่งข้าง ๆ ก็ไม่เหมือนกับมีปืน
ขอถามพวกพี่ ๆ นะครับ มีความรู้สึกอย่างไรตอนไปเดินดูปืนที่หลังวังในครั้งแรก ๆ ของชีวิต ส่วนตัวผมนะครับรู้สึกว่าเราโง่ ขนาดศึกษามาแล้วบ้างก็ยังดูโง่ ๆ เหมือนพวกบ้านนอกเข้ากรุง ถามเล่น ๆ นะครับสนุก ๆ ไม่มีสาระ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ตัวดำของผมของท่านตูรุสตัวขาว
เริ่มมาใช้ติดไปไหนมาไหนแล้วครับตอนนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       อ้าว...ไหง๋...หันมาพกลูกโม่แล้วอ่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       อ้าว...ไหง๋...หันมาพกลูกโม่แล้วอ่ะ

---------------------------------------------
สังขาลไม่ดีครับเริ่มหนักครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       สังขาลไม่ดีครับเริ่มหนักครับ


............................................

สงสัย...โรคไขข้อ..กำเริบ

บอกแล้ว...บั้นเอว..เอาไว้พกปืน..ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่น..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       สวยครับ ชอบทุกกระบอกเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ยิ่งอ่านยิ่งมันส์ครับ
ความรู้เพียบ

คารวะ1จอกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
      

แสดงความคิดเห็นย่อย